 |
ประโยคที่ว่า "คุณจะไม่มีวันเดินเดียวดาย" มันแวบเข้ามาในความรู้สึกของผมจริงๆ นะครับเมื่อผมอยู่หน้าแอนฟิลด์...ก่อนที่จะเข้าไปชมเกมผมได้แวะซื้อเสื้อที่หน้าสนามเล็กน้อย เป็นของฝากเพื่อนๆ ชาวหงส์แดง ได้เวลาเข้าสนามผมก็ได้รับประทานอาหารในที่ๆ จัดเตรียมไว้ให้ แล้วที่น่าตื่นเต้นมากๆ คือจุดที่ผมนั่งนั้น อยู่ข้างๆ กับจุดนึงของกล้องที่ใช้ถ่ายทอดสด!! โอ้ววววว!! อยากจะจับกล้องบิดมาหาหน้าตัวเองจริงๆ 555...
แอนฟิลด์เป็นสนามที่ไม่ได้ใหญ่มากนะครับในความรู้สึกของผม ความจุของแอนฟิลด์คือประมาณ 45,000 กว่าๆ ที่นั่ง ผมคาดการณ์ไว้ว่าแมตช์นี้คนน่าจะเต็มความจุแต่ช่วงเวลาที่ผมเข้าไปนั้นเป็นช่วงเวลาก่อนแข่งเกือบๆ ชั่วโมงจึงยังไม่ค่อยเห็นคนมากนัก ผมจึงได้ซึมซับบรรยากาศในสนามได้อย่างเต็มที่
แต่เมื่อก่อนเกมจะเริ่มขึ้นไม่ถึง 10 นาที เชื่อมั้ยครับว่า คนเต็มทุกที่นั่งจริงๆ จัดเต็มพร้อมเสียงเพลง ป้ายผ้าที่ยิ่งใหญ่และอลังการพอสมควร...ต้องบอกก่อนนะครับ ผมไม่ได้ไม่ชอบลิเวอร์พูล หรือรู้สึกว่าถ้าผมรักแมนฯ ยูฯ แล้วลิเวอร์พูลต้องเป็นสโมสรที่จะต้องเขม่นกันเสมอไป ลิเวอร์พูลเป็น 1 ในสโมสรที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ของอังกฤษผมเลยไม่แปลกใจเลยว่า ความรู้สึกที่น่าขนลุกเวลาที่เห็นและได้ยินเหล่าสาวกเดอะ ค็อปร้องเพลงไปพร้อมกัน มันช่างดูมีพลังและน่าจะสร้างความหึกเหิมให้นักเตะของตัวเองได้เป็นอย่างดี...
ตำแหน่งที่ผมนั่งค่อนข้างที่จะเห็นรูปเกมได้ถนัดตาและเห็นหัวล้านๆ (เป็นส่วนใหญ่) ของกองเชียร์ที่นั่งอยู่ด้านล่างของผมได้อย่างชัดเจน 555 ซึ่งบ่งบอกอายุของแฟนคลับได้เป็นอย่างดี...ในขณะที่นักเตะลงมาวอร์มนั้น คนที่ผมมองหาคนแรกคือ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ครับ แต่!! สิ่งที่ผมเห็นอย่างแรกเลยคือ ฟัน!! ฟันครับ ฟันของ หลุยส์ ซัวเรซอยากจะบอกว่าเหยินจริงๆ อะ!! 555 แล้วผมก็เห็นเจอร์ราร์ดครับเป็นนักเตะที่โดดเด่นและและดูมีความเป็นผู้นำของทีมอย่างแท้จริง เท่มากๆ
ส่วนตัวจี๊ดๆ เลยก็คือ สเตอร์ลิง ตัวเล็กมากๆครับ แต่ก็คล่องมากๆ เหมือนกัน ทำให้ผมรู้สึกว่าร่างกายของนักฟุตบอลชาวเอเชียอย่างเราไม่ได้เป็นอุปสรรคอีกต่อไปเพียงแค่คุณต้องดูแลตัวเองให้ดีและเสริมสร้างกล้ามเนื้ออย่างถูกวิธีครับ...
เกมก็ดำเนินไปเรื่อยๆ นักเตะที่ผมรู้สึกว่าเล่นได้ดีที่สุดของลิเวอร์พูล คือยังคงเป็นเจอร์ราร์ดอยู่ดี ทั้งการคุมจังหวะเกม เปลี่ยนเกมเร็ว จากสั้นเป็นยาว จากเร็วเป็นช้าทุกอย่างคือเจอร์ราร์ดทั้งหมด แทบจะหาข้อผิดพลาดไม่ได้เลยจริงๆ ส่วนฟูแล่มคู่แข่งนั้นแทบจะตั้งตัวไม่ได้เลยครับคนที่ผมจับตามองของฝั่งทีมเยือนนั่นก็คือ ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ อดีตกองหน้าจอมเทคนิคและขี้เกียจวิ่งของแมนฯ ยูฯ ทีมรักของผมเองครับ เบอร์บาตอฟที่ผมได้ดูในวันนั้น ก็ยังคงเป็นกองหน้าที่ดูนุ่มนวลและวิ่งเฉพาะในจังหวะที่จำเป็นเท่านั้นจริงๆ ครับ และที่สำคัญทุกครั้งที่พี่ตอฟได้บอลนั้น ก็จะมีเสียงโห่จากแฟนลิเวอร์พูลตลอดเวลาตั้งแต่ต้นจนจบ!!...ทุกๆ ครั้งที่ชาวเดอะ ค็อป โห่ ผมก็โห่ เดอะค็อปหิ้วผมก็หิ้ว เดอะ ค็อปเฮผมก็เฮด้วย 555 ถึงแม้บางครั้งจะไม่ค่อยรู้ก็ตามว่าเค้าทำแบบนั้นทำไม
...เกมนี้จบลงด้วยชัยชนะของลิเวอร์พูลซึ่งกดทีมเยือนอย่างฟูแล่มไปถึง 4-0 ก็ต้องขอขอบคุณ สเคอร์เทล,สตีวี่ จี, ดาวนิ่ง และ พี่เหยินซัวเรซ ด้วยนะครับ ที่ทำให้แมตช์นี้ซึ่งช่วยกันยิงทำให้ผมได้ดูถึง 4 ประตูเลยทีเดียว...
การที่ผมได้เข้าไปดูฟุตบอลในแมตช์นี้ได้ ผมก็ต้องขอขอบคุณพี่ๆ ที่สยามสปอร์ตใจดีหลายๆ ท่านที่ให้เกียรตินักแสดงที่บ้าๆ ฟุตบอลอย่างผมคนนึง ได้สัมผัสเกมฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ครับ
เสน่ห์ของลิเวอร์พูลในความรู้สึกของผมคือตำนานและความสำเร็จของสโมสร และความสามัคคีของเหล่าเดอะ ค็อป นี่แหละครับ ที่ทำให้ผมรู้สึกว่าทีมฟุตบอลทีมนี้ไม่ว่าฟอร์มจะดีหรือจะแย่ก็ตาม "คุณจะไม่มีวันเดียวดาย" จริงๆ และเหล่าเดอะ ค็อปที่อยู่ในสนามก็ได้แสดงพลังบางอย่างออกมาในแบบที่ทีมอื่นไม่มี แล้วผมก็สัมผัสได้ในขณะที่ผมอยู่ตรงนั้น...จากใจผมอยากจะบอกเหล่าเดอะค็อป ทุกคนว่า นี่แหละคือเหตุผลที่คุณไม่ควรหยุดรักหงส์
...รักคนอ่านนะครับ
credit : www.siamsport.co.th คอลัมน์ : เกรทสกอร์ โดย.. เกรท วรินทร
จากคุณ |
:
เลขาลิขิต
|
เขียนเมื่อ |
:
28 ธ.ค. 55 14:54:33
|
|
|
|
 |