ความคิดเห็นที่ 1 นักเตะไทย เท่าที่เห็นเซ็นเป็นเรื่องเป็นราวตอนนี้ ชัยณรงค์ ทาทอง, ณภัทร ธำรงศุภกร, ศิวกร จักขุประสาท (ผมตกหล่นใครไปป่าว?) 3ท่าน.....ย้ายออกแน่ๆแล้ว ปิยะชาติ, เอกภูมิ..... เข้าแน่แล้ว3....ย้ายแน่แล้ว2.......แล้ว????? จากคุณ : Skywalker ฮัฒจรรย์ฝั่งตรงข้าม เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 12:00:44

ความคิดเห็นที่ 2 ผมว่ามีส่วนครับ คือยังไงทีมก็ต้องการนักเตะเก่งๆอยู่แล้ว แต่ที่ต่างกันคือ บาเยิร์นนั้นดึงนักเตะตัวสำคัญของทีมลุ้นแชมป์ด้วยกันโดนตรงเลย เช่นบัลลัค จากเลเวอร์ ปิซาโร่จากเบรเมน อัลตินทอปจากชาลเก้ ส่วนเมืองทองก็อาจจะอยากดึงนักเตะคนสำคัญของทีมลุ้นแชมป์เช่นกัน แต่เขาไม่ขาย เช่นกรณีของเอ็มกับเหมี่ยว แต่ชลไม่ขาย ส่วนนักเตะจากบุรีรัมย์ไม่ค่อยสนเท่าไหร่ หลักๆคือดึงตัวเก่งของทีมรองๆมาหน่อยหรือทีมกลางๆมากกว่า รวมถึงดาวรุ่งที่มีแววด้วย ยิ่งปีนี้ต้องเล่นถ้วยเอเชีย ทีมต้องใหญ่ขึ้นมาก ก็ยิ่งต้องซื้อ ผมเลยมองว่าเป็นเรื่องปกติ อีกอย่าง ลีกเรามันไม่ใช่แบบยุโรปที่ดึงตัวชาติอื่นที่ฝีเท้าใกล้เคียงกันมาได้ไม่ยากนัก เพราะเราติดโควต้าเอเชียด้วย ถึงต้องใช้นักเตะไทยเป็นหลัก และการซื้อขายก็เป็นไปตามระเบียบ อยู่ในความยินยอมทั้งสองฝ่าย เลยมองว่าไม่ใช่เรื่องแปลกหรือผิดอะไรครับ จากคุณ : A E Y A U D D A เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 12:03:39

ความคิดเห็นที่ 3 คิดว่าไม่เหมือนเสียทีเดียวครับ ของบาเยิร์น ต้องเรียกว่า "ตัดกำลัง" ของแท้ เพราะกล้าทำถึงขนาดไปดึงนักเตะจากทีมที่มีศักยภาพเป็นคู่แข่งในลีกตัวเองในเวลานั้นได้เลย อย่างบัลลัค (เลเวอร์คูเซ่น) ฟริงค์ (เบรเมน) หรือล่าสุดก็อย่างนอยเออร์ (ชาลเก้) แต่เมืองทองเท่าที่เห็นก็ยังไม่ถึงขนาดว่าไปดึงนักเตะตัวหลักจากคู่แข่งโดยตรงอย่างชลบุรีหรือบุรีรัมย์ได้ซักเท่าไหร่ ส่วนมากก็ได้มาจากทีมระดับกลาง ๆ มากกว่า ผิดถูกอย่างไรก็ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วย จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 12:08:20

ความคิดเห็นที่ 4 มันเป็น demand - supply มีผู้ซื้อ (เมืองทอง) เพราะมีผู้ขาย (นักเตะอยากย้าย) ซึ่งข้อนี้ ผมมองว่าทีมใหญ่ๆทั้งหลายในแต่ะลีกก็พยายามทำ เพียงแต่พลังอำนาจการเงินไม่เท่ากัน ยกตัวอย่าง.. 1) บาเยิร์นกว้านซื้อได้ แต่ทีมใหญ่ทีมอื่นในเยอรมันไม่มีนโยบายนั้น // ดอร์ทมุนด์เน้นปั้น .. ชางเก้เน้นดูดตัวนอกลีก .. เลเวอร์เน้นดูดนักเตะดาวรุ่ง ผล.... บาเยิร์นซ้ออยู่ทีมเดียว 2) บาร์ซ่ากว้านซื้อนักเตะสเปนเด่นๆ (บีย่า อัลบา) แต่มาดริดก็กว้านซื้อเหมือนกัน ทำให้ผลออกมาดู balance คือลีกนี้ไมมีมหาอำนาจเจ้าเดียวแบบเยอรมัน 3) แมน ยู ซื้อ ฟานเปอร์ซี่ // แมน ซิตี้ ซื้อ นาสรี // ลิเวอร์พูล ซื้อแครอล เมื่อปีก่อน .. นี่เป็นการตัดกำลังทีมเล็กเหมือนกันใช่ไหม เผอิญว่าอังกฤษมีทีมที่ทำแบบนี้ได้หลายทีม เลยไม่ดุเป็นบาเยิร์นโมเดล มาถึงไทยลีก แน่นอนว่าเมืองทองพยายามทำ แต่ที่น่าสนใจคือ ชลบุรี บุรีรัมย์ เทโร หรือ BG ที่เป็นทีมใหญ่เหมือนกัน ใช้นโยบายการซื้อแบบไหน ชลบุรี เน้นปั้นเด็ก บุรีรัมย์ ก็เน้นดูดนักเตะจากทีมเล็กๆนะ แต่อาจจะไม่โฉ่งฉ่างมากเหมือนเมืองทอง เทโร ปั้นเด็ก + รับนักเตะแก่ๆเข้ามา BG เดี๋ยวนี้นิยมซื้อนักเตะเกรด B มากกว่า เกรด A ที่มีแต่ชื่อแต่หมดสภาพ ดังนั้น ประเด็นคือ ไม่ใช่ว่าเมืองทอง พยายามซื้อเพื่อตัดกำลังคู่แข่งหรือเปล่า แต่ประเด็นทีน่าสนใจ คือ คู่แข่งทีมใหญ่ทีมๆอื่นๆ จะลงมาแย่งซื้อกับเมืองทองหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ที่ดูคือ ไม่มีครับ เมืองทองเป็นทีมเดียวที่กล้าทุ่มเงิน ฉีกสัญญานักเตะระดับชาติ รวมทั้งเรื่องเงินเดือนด้วย ก็ได้แต่หวังว่าทีมใหญ่ทีมอื่น จะลงมาบู๊ในตลาดซื้อขายบ้างในเร็ววันนี้ จากคุณ : Ahura เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 12:12:08

ความคิดเห็นที่ 5 อยากให้ซื้อ อัมรี่ มา ชอบฮี่ๆๆ ชอบตอนแกยิงเข้า แกจะทำหน้าตกใจ เหมือนจะร้องไห้ ฮี่ๆๆ จากคุณ : เทพบุตรกีต้าร์ลีด เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 12:28:31

ความคิดเห็นที่ 6 คิดว่ามันเหมือนกับการทำธุรกิจ ในเมื่อเค้ามองเห็นลู่ทางการเจริญเติบโตทางธุรกิจการกีฬา จึงมีการลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับการลงทุนขยายโรงงาน เสียเงินลงทุนสร้างโรงงานเพื่อที่ต่อมาจะได้มีกำลังการผลิตป้อนตลาดที่กำลังเจริญเติบโต ซึ่งจะได้ผลกำไรคุ้มค่าแก่การลงทุนในช่วงแรก   การซื้อนักเตะเข้าทีมเพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับทัวนาเมนต์ต่างๆที่ทีมต้องเข้าแข่งขันมากกว่าและสำคัญกว่าปีก่อนๆ หากประสบความสำเร็จเข้ารอบลึกๆหรือเป็นแชมป์ลีก ย่อมนำมาซึ่งชื่อเสียและเงินสนับสนุนจากสปอนเซอร์  อย่างไรก็ตามผมคิดว่าปีหน้าอาจจะยังเร็วไปสำหรับความสำเร็จในระดับนานาชาติ  แต่ก็เป็นการดีที่เค้าเตรียม,สร้างทีม ตั้งแต่วันนี้เพื่อความสำเร็จในระยะยาวครับ จากคุณ : abyss_x เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 12:48:49

ความคิดเห็นที่ 7 ของเมืองทอง ตัวผมเองไม่ค่อยสันทัดเท่าไหรนัก แต่ผมว่าแนวทางคล้าย ๆกันครับ แต่ถ้าเสือใต้ ผมเป็นคนที่ติดตามบอลบุนเดสมาพอสมควรแนวทางเป็นอย่างที่ท่านว่าจริง ๆครับ ผมเชียร์ แวรเดอร์ เบรเมน ซึ่งเป็นทีมที่ลุ้นแชมป์กับเสือใต้ และนักเตะที่โดนเสือโต้สอยไปก็คือเฟืองสำคัญของทีมทั้งนั้นเลยไล่ตั้งแต่  อันเดรีส แฮร์โซก มาริโอ บาสเลอร์ เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ ทอร์สเท่น ฟริงค์ ทิม โบรอฟสกี้  มิโรสลาฟ โคลเซ่  วาเลเรียง อิสมเอล   และก็ยังสอยของทีมอื่น ๆ อีกมากมายที่เป็นคู่แข่งแย่งแชมป์กันซึ่งก็เหมือนเป็นการตัดกำลังคู่แข่งไปในตัวนั่นล่ะครับ ^^  แต่สำหรับเมืองทองเท่าที่ผมจำได้รู้สึกน่าจะเป็นฤดูกาลก่อนหน้านี้ 1 ฤดูกาลนั่นล่ะครับ ที่รู้สึกว่าซื้อตัวแบบหว่านไปหมดเลย  ตามนี้ครับ ... จากคุณ : ผมเด็กหงส์ (Pop-Ple) เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 13:22:08

ความคิดเห็นที่ 8 คคห.1 ผมมองภาพรวมแบบกว้างๆ ไม่ได้พูดถึงสถานการณ์เฉพาะปีนี้ อ่านดีๆครับ จากคุณ : yassemo เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 13:44:26

ความคิดเห็นที่ 9 บาเยิร์นเป็นทีมที่มีนโยบายอย่างที่ว่าจริงครับ แต่พักหลังเริ่มจะน้อยลงบ้างแล้ว (อาจเพราะทีมอื่นๆทำทีมขึ้นมาแย่งแชมป์ได้ดีขึ้น บ่อยขึ้น ทางเลือกของนักเตะจึงมีมากขึ้นตาม) อย่างฮุมเมลก็ยังปฏิเสธกลับถิ่นเก่า หรือแม้แต่ระดับกุนซืออย่างคล็อปป์ก็ออกมาปฏิเสธงานนี้ ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อนเรียบร้อยโรงเรียนมิวนิคไปแล้วแหงๆ แต่ก็ใช่ว่าลีกอื่นจะไม่ยึดนโยบายนี้ไปใช้นะ ตอนนี้ที่ชัดที่สุดผมว่าเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ไล่เก็บกำลังหลักบ้างรองบ้างจากทีมร่วมลีกมาเป็นกระบุง เตเวซ (แมนฯยูฯ), เลสค็อตต์, ร็อดเวลล์ (เอฟเวอร์ตัน) นาสรี่, กลิชี่, โคโล ตูเร่ (อาร์เซน่อล) มิลเนอร์, แบร์รี่ (แอสตัน วิลล่า) ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติที่ทีมเงินหนาจะทำกัน เสริมกำลังตัวเองพร้อมตัดกำลังคู่แข่งด้วยเงินก้อนเดียว จากคุณ : DujZ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 13:46:54

ความคิดเห็นที่ 10 เห็นด้วยกับความคิดเห็นที่ 4 เมืองทองไม่ได้ซื้อนักเตะใหญ่จริงๆด้วย ส่วนมากจะเป็นนักเตะเด่นๆของทีมรองๆ+ดาวรุ่งเจ๋งๆเอาไปปั่นต่อ ที่เคยมีข่าวว่าเมืองทองจะซื้อนักเตะทีมใหญ่ๆตัดกำลังก็ีมีของชลบุรี เ้จ้าบาส เจ้าเหมี่ยว และสุทธินันท์ แต่ฉลามชลไม่ขาย แต่กับบุรีรัมย์แทบจะไม่เคยยุ่งเกี่ยวต่อกันเลย นอกจากเคสบุรีรัมย์มาเอาเจ้าโน้ต จักรพันธ์ แก้วพรมไปจากเมืองทองแค่นั้นเอง ต่อครับ จากคุณ : yassemo เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 13:59:29

ความคิดเห็นที่ 11 สำหรับผมนะ เรื่องธรรมดาของวงการฟุตบอล ปลาใหญ่กินปลาเล็กครับ ลีกต่างประเทศมีให้เห็นเยอะแยะไป ไม่ใช่บาร์เยิร์นทีมเดียวหรอก ตัวที่ซื้อไป เอาไปแล้วได้ใช้ ได้ลง ผมโอเคนะ แต่ประเภทซื้อตัวหลักทีมอื่นไป แล้วเอาไปดอง อันนี้จะเคืองมาก (เช่นในเคสของ อานนท์ สังสะน้อย เป็นต้น) จากคุณ : Mesia_82 เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 14:27:00

ความคิดเห็นที่ 12 ชัยณรงค์ ทาทอง  ตัวหลักบิ๊กเเบง ณภัทร ธำรงศุภกร   ตัวหลักปลาทู ศิวกร จักขุประสาท   ตัวหลักคลองเตย สราวุธ  ตัวหลักจุฬา   พวกนี้  เมืองทอง ตามเก็บมาได้หมดในฤดูกาลนี้     จริงๆ ฤดูกาลนี้  เมืองทองยังไม่ได้บิ๊กเนมมาเลย   สังเกตุดูเก็บเอาเเต่ทีมหนีตกชั้นทั้งนั้น  เเละก็จากลีกล่าง ที่มีข่าว  เเต่มาไม่ได้  หรือไม่ให้มาก็มี อภิภู    ตัวหลัก พลังเอ็ม บาส  เหมี่ยว  สุทธินันท์  ตัวหลักพลังชล ปกเกล้า  ตัวหลักพลังอินทรี เมืองทอง  มีข่าวจะซื้อนักเตะเกือบทุกทีมละครับ ตัวไหนดี  ตัวไหนเด่น    เมืองทองจ้องตลอด ทีมมีตังค์  ทำตามกฎ  ซื้อมาขายไป  ให้ยืม  นั้งตูดด้านบ้างตามธรรมเนียม เเต่ทีมที่ไม่มีข่าวกับเมืองทองเลย หรือเมืองทองไม่กล้าแหย่รังแตน   คือ  บุรีรัมย์   ไม่รู้ว่ากลัวอะไรนักหนา    ^^" แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 55 14:28:56 จากคุณ : นินจามังกร เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 14:27:49

ความคิดเห็นที่ 13 เคสพี่ดำหรือแม้แต่คัฟฟ้าผมมองว่านักเตะปรับตัวให้เข้ากับระบบของทีมไม่ได้้มากกว่านะครับ อย่างอานนท์ก็รู้อยู่แล้วว่าถ้ามาต้องแข่งกับมุ้ยยืนหน้าเดี่ยว น้อยมากทีาจะเล่นหน้าคู่ด้วยกัน มักเป็นการแก้เกมมากกว่า และฟอร์มของเจ้าตัวตอนลงตัวจริงก็ไม่ได้เปรี้ยงปร้างเหมือนอยู่เทโร ส่วนคัฟฟ้านี่มาตอนนั้นยังไงก็ต้องยอมรับบทตัวสำรอง เพราะกลางตัวจริงจองกันเต็มโควต้าทั้งดาญโญ่ พิชิตพงษ์ ดัสกร ซึ่งโอกาสลงตัวจริงมีน้อยอยู่แล้ว เมืองทองกะไว้เป็นตัวสแตนบาย แถมเจ้าตัวมาเจ็บอีก อนาคตเลยดับไปเลย หรืออย่างลีซอที่ช่วงแรกได้ลงเยอะ แต่ก็ทำผลงานได้ไม่ดีเท่่ที่คาด โดนเรเน่ดร็อบก็แตกหักกันไปเลย แต่อีกพวก มาแล้วรุ่งก็มี อย่างเจ้าไดร์ที่มาตอนแรกก็ต้องนั่งอดทนกับตำแหน่งกองกลาง อต่พอได้โอกาสลงแบ็คขวาก็ทำเต็มที่จนติดทีมชาติ บอล จักรพันธุ์มาตอนแรกก็สำรองริมเส้น ได้ลงเล่นผลงานดีบ้างไม่ดีบ้างแต่ก็สู้อยู่ 2 ปีจนได้เป็นตัวจริงฤดูกาลที่แล้ว หรือมงคล นามนวด มาปีแรกก็ยึดตัวจริงได้เลย จนติดทีมชาติ ยิงประตูได้อีก ที่เล่ามาคือจะบอกว่าการย้ายทีมที่ประสบความสำเร็จมันไม่ได้อยู่แค่ที่ฝีเท้าอย่างเดียว มันต้องประกอบทั้งความอดทน โชค การปรับตัว ทัศนคติของโค้ช ฯลฯ นักเตะที่ไม่ประสบความสำเร็จไม่ใช่ฝ่ายเดียวที่เสียหาย สโมสรก็เสียหาพอกันเพราะบางคนก็ต้องทุ่มซื้อ จ่ายค่าเหนื่อยแพงๆ ค่ารักษาพยาบาลอีก เล่นไม่คุ้มอย่างที่หวังก็ขาดทุน เจ็บท้ังสองฝ่ายไม่ใช่นักเตะฝ่ายเดียว ดังนั้น จะย้ายทีมแล้วเวิร์ครึเปล่า สำหรับนักเตะผมมองว่าคุณต้องคำนวณ คาดการณ์สถานการให้ดีด้วย ไม่ใช่ว่าเห็นเป็นทีมใหญ่มาจีบก็โดดเข้าใส่ ต้องมองว่าพอจะมีโอกาสเบียดลงตัวจริงไหม น่าจะปรับตัวได้ไหม เป็นต้น ไม่ใช่ว่าพอออกมาไม่เวิร์คก็โทษสโมสรอย่างเดียว เพราะส่วนหนึ่งก็เป็นการตัดสินใจของตัวเองด้วย ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงกันไป ขอโทษจขกท ที่ออกนอกเรื่องด้วยครับ จากคุณ : A E Y A U D D A เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 14:55:27

ความคิดเห็นที่ 14 ...เห็นด้วยกับเรปบนครับ จักรพันธ์ แก้วพรหม ตอนแรกยังต้องสำรองกองกลางเลย มาฟลุ๊คว่าประกาศิตเจ็บ แล้วโค้ชยัดไปเล่นแบ็คขวา เลยเกิดกับเมืองทองตั้งแต่ตอนนั้น จากคุณ : LegalisM เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 16:23:46

ความคิดเห็นที่ 15 บาเยิร์นซื้อ ชาคีรี่ ตัดกำลัง บาเซิล บาเยิร์นซื้อ ดานเต้ ตัดกำลังกลัดบัค ตกลง บาเยิร์นซื้อใคร นี่ตัดกำลังหมด :-) แมต ฮุมเมิล กองหลังตัวหลักของ ดอร์ทมุน เด็กปั้นบาเยิร์นนะโว้ย จากคุณ : sergioperez GO เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 16:27:09

ความคิดเห็นที่ 16 นักเตะที่มีสัญญากับเมืองทอง เอามาตั้งทีมได้ 2-3 ทีมเลยทีเดียว ต้องยอมรับว่าเมืองทองมีการจัดการดีมาก เพราะ ถึงแม้ว่าจะมีนักเตะเยอะแต่ก็มีที่เล่นทุกคน จากคุณ : Mukaiten เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 17:01:32

ความคิดเห็นที่ 17 ก็เปรียบเหมือนซื้ออะไหล่ประกอบรถยนต์ จากหลายๆร้านดีๆนี่เอง เพียงแต่ที่ของซื้อมาจากทั้งจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น ซึ่งจะมีคุณภาพไม่เหมือนกัน เพียงแต่ซื้อเก็บไว้เป็นตัวเสริม ถ้าอันใช้ได้ก็ไม่ต้องทิ้งหรือบางอันซื้อแล้วใช้แล้วก็ไม่เวิร์กก็ถอดทิ้งเพียงแต่จะเก็บไว้ใช้ต่อ ( อย่างเราใช้หลอดไฟหน้าเดิมติดมากับรถ แล้วก็เห็นหลอดไฟหน้าแบบใหม่ๆ อย่างเช่นหลอดไฟหน้าซีนอลแท้ แต่หลอดไฟบางอย่างก็ใช้งานไม่เหมือนกัน อย่างหลอดซีนอลแท้ก็ไม่สารถใชกับทัศนะวิสัยไม่ดี เช่น ฝนตก หมอกจัด เราเปลี่ยนป็นของหลอดเดิมๆจากรถเพื่อการมองเห็นชัดเจน )ให้ยืมหรือแม้กระทั้งขายต่อให้คนอื่น หรือแม้กระทั่งเอาไปดัดแปลงเสริมแต่งบ้างได้             อันนี้เปรียบเทียบ แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 55 03:51:16 แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 55 20:47:04 แก้ไขเมื่อ 28 ธ.ค. 55 20:45:37 จากคุณ : yong999 เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 55 20:39:53

ความคิดเห็นที่ 18 ผมว่าไม่ถึงกับเหมือนกันซะทีเดียว บาเยิร์น น่ะใช่แน่นอนที่ซื้อตัดกำลังคู่แข่ง ใครมีแววจะเก่งขึ้นมา บาเยิร์น ไปสอยมาเลยในฤดูกาลถัดไป ทีมใหญ่ทีมเล็กเอาหมด แต่ระยะหลังๆมานี้ บาเยิร์น ไม่ค่อยจะทำแบบนั้นแล้วนะครับ  น้อยลงกว่าเมื่อก่อนแล้ว ส่วนเมืองทองฯผมว่าไม่ถึงกับดึงเพื่อตัดกำลังคู่แข่งนะ เพราะถ้าไล่กันจริงๆแล้ว นักเตะอย่าง ดัสกร,พิชิตพงษ์,ธีรศิลป์,ภาณุพงศ์,ณัฐพร พวกนี้ก็ซื้อมาก่อนและ ตอนนั้นยังไม่มีทีมที่ลุ้นแชมป์กันเยอะแบบนี้ จะว่าซื้อเพื่อตัดกำลังก็คงไม่ใช่ ที่ดูจะซื้อตัดกำลังจริงๆก็เคสของ อานนท์ สังสระน้อย ที่ซื้อมาจากเทโรฯ  ปี 2011 ตอนนั้น อานนท์ กำลังฟอร์มดีได้ดาวซัลโว เลยซื้อมากะเอามาคู่กับมุ้ย แต่ไม่ลงตัว ในเคสอื่นทั้ง คัฟฟ้า,ณรงค์ชัย,รณชัย พวกนี้ผมมองว่าไม่น่าจะเกี่ยวน่าจะเป็นการซื้อมา เพื่อหมุนเวียนกันมากกว่า  ที่ผมเคยเห็นเมืองทองซื้อนักเตะจากทีมคู่แข่งแย่งแชมป์ด้วยกัน ก็คือเคสของ โคเน่ ที่ย้ายมาจากชลบุรี นั้นน่าจะเป็นเคสเดียวที่เมืองทองดึงนักเตะมาจาก ทีมที่ลุ้นแชมป์ด้วย  แต่ช่วง 2 ปีหลังมานี้ไม่มีเลยนะ นักเตะที่เข้ามาจะมาจากทีมระดับกลาง มีล่างๆบ้างซะมากกว่า ไทยลีกจะทำแบบลีกยุโรปคงไม่ได้ที่ไปดึงเอาต่างชาติที่ใกล้เคียงกันมาแทน  เพราะของ เขามีโควต้า EU ให้ แต่ของเราไม่มีโควต้าแบบนี้ ทางแก้ก็คือต้องเน้นนักเตะไทยเองนี้แหละ ส่วนใหญ่ก็อยู่ทีมระดับลุ้นแชมป์กันทั้งนั้น  การจะปล่อยตัวออกไปไม่ง่ายแบบเมื่อก่อน และจุดที่ผมมองอีกอย่างที่เมืองทองเขาพยายามเสริมนักเตะไว้เยอะ ก็น่าจะมาจากเป็นทีม ที่ต้องเล่นบอลถ้วยเอเชียอยู่เป็นประจำ  จุดนี้ก็อย่างที่รู้กันว่าความฟิตของผู้เล่นจะเกิดปัญหา มาตรฐานความฟิตของร่างกายเรายังสู้พวกลีกระดับโลกไม่ได้  การมีผู้เล่นไว้หมุนเวียน และไม่ห่างฝีเท้ากันมากนักน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดตอนนี้ ขุมกำลังไม่ดีจริงมีสิทธิ์ปิ๋วยาวๆ จากคุณ : แร้งคอย เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 55 02:29:52

ความคิดเห็นที่ 19 แบบว่าทีมรักผมรวย(ไม่ได้ประชด)ซื้อได้ก็ซื้อมาลอง ถ้าไม่เข้ากับทีมก็ปล่อยยืมบ้างขายบ้าง ความรวยตรงนี้จริงๆก็ต้องบอกว่าไม่ได้มีแต่เมืองทองทีมเดียว ขึ้นกับการใช้เงินให้มีประสิทธิภาพ บางคนที่ซื้อมาก็ซื้อมาพัฒนา ส่วนใหญ่เป็นนักบอลอายุน้อย ที่เห็นชัดๆก็บอล-จักรพันธ์ที่เพิ่งแจ้งเกิดในทีมชาติซึ่งส่วนหนึ่งในพัฒนาการก็ต้องให้เครดิตสตาฟโค้ชเมืองทอง เจตนาของการซื้อตัดกำลังคู่แข่งมีความเป็นไปได้ แต่ไม่น่าเป็นเป้าหมายหลัก ดูเหมือนเห็นผลร้ายมากกว่าดี จากคุณ : Service Guy เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 55 10:05:25