ความคิดเห็นที่ 1 ดอร์ทมุนด์ โชว์ฟอร์มเยี่ยมสมกับที่เป็นแชมป์เยอรมัน สมัยนี้การซิวโควตา แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูโรป้า ลีก หรือไม่ได้สิทธิ์อะไรเลย มีผลต่อแต่ละค่ายมาก เพราะเม็ดเงินมันมีมูลค่ามหาศาล จนนำไปเสริมทัพให้แข็งแกร่งมากกว่าเดิม บางสโมสรก็สามารถลดทอนหนี้สิน หรืออยู่รอดปลอดภัยกันได้เลย การทำผลงานดีจนเพิ่มค่าสัมประสิทธิ์วันนี้ จึงมีส่วนช่วยเพื่อนร่วมลีกในวันหน้า จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 12:12:06

ความคิดเห็นที่ 2 บาเยิร์น เป็นทีมเดียวของเยอรมันในฤดูกาลนี้ที่แพ้ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เอฟเซ บาเยิร์น มิวนิค, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กับ เอฟเซ ชาลเก้ 04 มีขุมกำลังเพื่อทำศึกใหญ่ทุกปี แต่ไม่ง่ายสำหรับสโมสรเบี้ยน้อยหอยน้อยเช่น ฮันโนเวอร์ 96, โบรุสเซีย มีนเช่นกลัดบัค, เฟาเอฟเบ สตุ๊ตการ์ท กับ ไบเออร์ 04 เลเวอร์คูเซ่น ในการเสริมทัพให้แข็งแกร่งพอจะสู้คู่แข่งจากต่างแดนทุกทีม เพราะขนาดในศึกบุนเดสลีกายังฟอร์มกระท่อนกันเกือบทั้งหมด บางค่ายอาจมีชื่อเสียงโด่งดัง หรือเคยประสบความสำเร็จในถ้วยยุโรปมาก่อน แต่มันก็นานมาแล้ว ดูการซื้อ-ขายนักเตะจะทราบว่าปีที่เตะระดับนานาชาติ กับปีที่ไม่ได้ไป จำนวนเงินการลงทุน และผู้เล่นซึ่งย้ายเข้ามานั้น ต่างกันไกล เพราะพวกที่ได้โควตาฟุตบอลยุโรป ดึงดูดได้ทั้งสปอนเซอร์ และนักเตะใหม่ รวมทั้งรั้งให้ตัวหลักยอมอยู่ต่อไป จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 12:12:28

ความคิดเห็นที่ 3 ชาลเก้ ก็เป็นแชมป์กลุ่ม แม้มีทั้งแชมป์ฝรั่งเศส รวมถึง อาร์เซน่อล สโมสรอย่าง มึนเช่นกลัดบัค เพิ่งเสริมทัพแบบสบายใจครั้งแรกในรอบหลายปี เพราะเพิ่งได้เล่นฟุตบอลยุโรปครั้งแรกในรอบ 16 ปีเช่นกัน แต่ต้องขนพวกไม่เคยมีประสบการณ์กับเกมยุโรปไปทำศึกด้วย เลเวอร์คูเซ่น มีแต่ดาวรุ่งเช่นกัน (อายุเฉลี่ย 23.6 ปี น้อยสุดอันดับ 2 ของบุนเดสลีกา) ส่วน สตุ๊ตการ์ท มีเงินซื้อแข้งใหม่ในปีที่เตะ ยูโรป้า ลีก ไม่ถึงครึ่งล้านยูโร (ย้ายมา 2 คน) สำหรับ ฮันโนเวอร์ ใช้ไป 5 ล้านยูโร จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 12:12:53

ความคิดเห็นที่ 4 สตุ๊ตการ์ท ทำผลงานได้ดี แม้มีเงินเสริมทัพก่อนไป 300,000 ยูโร สโมสรเยอรมันเคยไปลุยฟุตบอลยุโรปพร้อมกันมากถึง 13 ค่ายในฤดูกาล 1991-92 เป็นผลจากการรวมประเทศ ประกอบด้วย ยูโรเปี้ยน คัพ: 1. เอฟเซ ไกเซอร์สเลาเทิร์น, ฮันซ่า รอสต็อค (สูญพันธุ์ตั้งแต่รอบ 2 เพราะโดน บาร์เซโลน่า ปราบทั้ง 2 ค่าย), คัพวินเนอร์ส คัพ: แวร์เดอร์ เบรเมน, สตาห์ล ไอเซนฮุตเตนสตัดท์ (เบรเมน คว้าแชมป์), ยูฟ่า คัพ: บาเยิร์น, สตุ๊ตการ์ท, ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต, ฮัมบวร์ก เอสเฟา, ฮัลเลช เอฟเซ, โร้ท-ไวส์ แอร์ฟวร์ต (เข้ารอบ 3 แค่ ฮัมบวร์ก ไปไม่ถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วย), อินเตอร์โตโต้ คัพ: คาเอฟเซ อัวร์ดิงเก้น, 1. เอฟเซ ซาร์บรุ๊คเค่น, เอเนอร์กี้ ค็อตบุส จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 12:13:22

ความคิดเห็นที่ 5 มึนเช่นกลัดบัค เริงร่า แม้เพิ่งได้เล่นฟุตบอลยุโรปหนแรกในรอบ 16 ปี ผลงานก็ยังไม่โดดเด่นเท่าปีนี้ โดย บาเยิร์น, ดอร์ทมุนด์, ชาลเก้ เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มทั้งหมด แพ้รวมกัน 1 เกม คือ บาเยิร์น โดน บาเต้ โบริซอฟ เชือด 3-1 "เสือเหลือง" อาจล้มเหลวในรายการนี้เมื่อฤดูกาลก่อน แต่กลับมาแก้ตัวด้วยการโชว์ฟอร์มเยี่ยม ชนะทั้ง อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม แชมป์เอเรดิวิซี่ ฮอลแลนด์ (1-0, 4-1), แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ (1-0) และ เรอัล มาดริด แชมป์ลา ลีกา สเปน (2-1) แม้จะอยู่ "กรุ๊ป ออฟ เดธ" แต่กลับเป็นแชมป์กลุ่ม ทั้งๆหลายฝ่ายมองว่าไม่น่าจะรอดด้วย เพราะเสียตัวหลักอย่าง ชินจิ คางาวะ ออกไป และตัวที่เข้ามาแทนอย่าง มาร์โค รอยส์ เป็นดาวรุ่งไร้ประสบการณ์เกมระดับนี้ จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 12:13:49

ความคิดเห็นที่ 6 ฮันโนเวอร์ คือสโมสรเมืองเบียร์หนึ่งเดียวที่ได้แชมป์กลุ่มในศึก ยูโรป้า ลีก บาเยิร์น เข้ารอบได้ อาจไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะพวกเขาคือรองแชมป์เก่า (แต่แชมป์เก่ากลับเอาตัวไม่รอด) ก็ถือว่าผลงานร้อนแรงเหมือนกัน เพราะชนะในบ้านทุกนัด (ถล่ม ลีลล์ 6-1 กับ โบริซอฟ 4-1) ยิงกันแบบแทบไม่ซ้ำหน้า (โธมัส มุลเลอร์, เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ คนละ 3 ประตู, โทนี่ โครส, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ คนละ 2, ดาวิด อลาบ้า, มาริโอ โกเมซ, อาร์เยน ร็อบเบน, ฟร้องค์ ริเบรี่, เซอร์ดาน ชาคิรี่ คนละ 1) ชาลเก้ ต่างหากที่ได้ฟอร์มการยิงของ คลาส-แยน ฮุนเตลาร์ ดาวซัลโวสูงสุดศึกบุนเดสลีกา 2011-12 ช่วยไว้ได้เยอะ โดยซัด 4 ประตู ขณะเพื่อนร่วมทีม ยิงแบบกะหลอมกะแหลม อย่างไรก็ตาม พวกเขาสามารถผ่านด่านอย่าง โอลิมเปียกอส, มงต์เปลลิเย่ร์ และ อาร์เซน่อล ได้สำเร็จ ด้วยสถิติชนะ 3 เสมอ 3 ส่วน ยูโรป้า ลีก มีแค่ ฮันโนเวอร์ ที่ได้แชมป์กลุ่ม และไม่แพ้ใคร จุดเด่นคือยิงแหลก ดีดิเย่ร์ ยา โกน็อง กับ มาม ดิยุฟ ซัดคนละ 3 ประตู ซาโบลซ์ ฮุซตี้ อีก 2 แถมพวกเขาทำ 2 ลูกได้ทั้ง 3 เกมที่เล่นนอกบ้าน มึนเช่นกลัดบัค ก็เล่นนอกบ้านดี หนึ่งในนั้นคือถล่ม เฟเนร์บาห์เช่ 3-0 แมตช์เดียวที่แพ้คือโดน เฟเนร์บาห์เช่ บุกมาเชือด 4-2 เลยอดได้แชมป์กลุ่ม ที่น่าเสียดายกว่าคือ เลเวอร์คูเซ่น เพราะแต้มเท่า เมตัลลิสท์ คาร์คิฟ แต่เฮดทูเฮดแย่กว่า (เสมอ 0-0 ในบ้าน และแพ้ที่ยูเครน 0-2) จึงได้อันดับ 2 ของกลุ่ม สตุ๊ตการ์ท ก็แพ้ โมลด์ บ๊วยกลุ่มในนัดสุด คาบ้านตัวเอง เลยอดเป็นแชมป์กลุ่ม ทั้งๆเฮดทูเฮดดีกว่า สเตอัว บูคาเรสต์ จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 12:14:41

ความคิดเห็นที่ 7 ต้องตามดูต่อว่ารอบหน้า 7 สโมสรเหล่านี้จะเจอกับใคร และเอาตัวรอดได้อีกหรือไม่ อุตส่าห์เข้ามามากกว่าใครแล้วก็ควรมีลุ้นแชมป์กับเขาบ้าง อย่างน้อยเข้าตัดเชือกสักทีมก็ยังดี ไม่ใช่มาเยอะเพื่อเป็นไม้ประดับเท่านั้น แต่ปีหน้านั่นแหล่ะถึงจะรู้ว่า 7 สิงห์แดนเสือ ถึงเวลาแล้วจะมีน้ำยาจริงหรือเปล่า เลเวอร์คูเซ่น เอาตัวรอดได้ แม้มีดาวรุ่งแทบยกทีม คอลัมน์ : สปอร์ตวาไรตี้ โดย.. นาร์ซีส์ซัส จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 12:15:40

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณครับ รูป คห.5 เก็กชะมัด เข้าใจครีเอท จากคุณ : MAD Magazine เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 13:47:45

ความคิดเห็นที่ 9 ปีนี้ทีมจากเยอรมันยกมาตรฐานกลับมาได้ดีมาก จากคุณ : eagle1000 เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 20:48:11