"บิ๊ก โคล่า ซิตี้" (ตอน 1)
Update : 16 ธันวาคม 2555, 05:00 น.
Report by : Thairath online sport news
ผมเองห่างหายจากคอลัมน์เรียงหน้าชนนี้ไปประมาณ 10 วัน หลังจากได้เทียบเชิญจากเครื่องดื่ม บิ๊ก โคล่า ให้ร่วมเดินทางไปเมืองแมนเชสเตอร์
ประเทศอังกฤษ เพื่อทำกิจกรรม บิ๊กโคล่า ลุ้นดวล จุดโทษกับโจ ฮาร์ท สุดยอดผู้รักษาประตูมือหนึ่งทีมชาติอังกฤษ และสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้
เมื่อคัดเลือกมาทั่วประเทศ แคมเปญนี้ได้ ธัชพนธ์ ธนารัตน์พุฒิธร, ธีระพงษ์ แซ่ฟุ้ง และ พีรวิชญ์ แซ่ตั้ง เป็น 3 ตัวแทนจากประเทศไทย ร่วมดวลจุดโทษ กับโจ ฮาร์ท ที่คาร์ริงตัน แคมป์ฝึกซ้อมของทีม เรือใบสีฟ้า ชนิดตัวต่อตัว
แต่ไม่ได้แข่งขันกันเพียง 3 คนเท่านั้นนะครับ ในครั้งนี้ยังมี 3 ตัวแทนจากประเทศอินโดนีเซียร่วมลงวัดฝีเท้าด้วย ซึ่ง เจ้าออฟ ธีระพงษ์ แซ่ฟุ้ง หนุ่มวัย 20 ปี จาก จ.ยะลา ไม่ทำให้คนไทยเสียชื่อ ยิงเสียบมุมคว้าตำแหน่งแชมป์ในการแข่งขันครั้งนี้ได้สำเร็จ
ต้องบอกว่า บิ๊ก โคล่า ไม่ธรรมดาจริงๆ
ครับ จัดให้ เจ้าออฟ ได้ลงไปรับถ้วยรางวัลจาก ไมค์ ซัมเมอร์บี อดีตตำนานนักเตะของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่อหน้าแฟนบอล 48,000 คน
ภายในสนามอิติฮัด สเตเดียม ในแมตช์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดหยุดโลก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ถือเป็นประสบการณ์อันยิ่งใหญ่ สุดแสนประทับใจ ซึ่งจะหาซื้อไม่ได้ที่ไหนในโลกนี้
ขณะเดียวกัน ผลดีอีกด้านก็คงจะเป็นการที่ประเทศไทยพลอยได้รับชื่อเสียงไปด้วย เพราะ นี่ถือเป็นครั้งแรกในโลกที่คนไทยได้รับรางวัลนี้
ในทริปนี้คณะของเราถือเป็นแขกระดับซุปเปอร์วีไอพีของสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จึงมีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมชมศูนย์ฝึกฟุตบอลอะคาเดมี หรือที่เรียกกันอย่างเป็นทางการว่า สถาบันการศึกษาเฉพาะทางฟุตบอล ของสโมสรเรือใบสีฟ้าด้วย ซึ่งปกติแล้วจะห้ามบุคคลภายนอกเข้าไปอย่างเด็ดขาด
สถาบันแห่งนี้จะเริ่มฝึกเด็กตั้งแต่อายุ 6 ขวบไปจนถึงอายุ 18 ปี ภารกิจของบรรดานักเตะฝึกหัดทั้งหลาย ตอนเช้าเข้าเรียนที่โรงเรียน ช่วงบ่ายก็มาฝึกซ้อมกันที่นี่ทุกวัน หากสโมสรเห็นว่าคนไหน
มีแวว ก็จะคัดเอาไว้เป็นพิเศษ ก่อนจะเอามาเจียระไนขึ้นสู่ (First Team) หรือทีมชุดใหญ่ต่อไปในอนาคต
ทั้งหมดถือเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลา แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า
ก็อย่างที่รู้แหละครับว่า เด็กฝรั่งทำอะไรเต็มที่จริงจัง เขาเรียนแค่ครึ่งวัน และซ้อมฟุตบอลแค่ไม่กี่ชั่วโมง เปรียบเทียบกับเยาวชนบ้านเรา เรียนเต็มวันไม่พอ พ่อแม่ยังจับให้เรียนพิเศษนอกเวลาอีก ส่วนนักฟุตบอลเล่นบอลอย่างเดียว ถึงเวลาสถาบันก็ประเคนวุฒิการศึกษาให้เอง
ทั้งๆที่เราเรียนหนักกว่าอยู่เล่นกับฟุตบอลมากกว่า แต่ผลลัพธ์ออกมากลับตรงกันข้าม เราได้แค่ ปริมาณ แต่ คุณภาพ มีน้อย
บอกได้เลยครับ ที่เป็นเช่นนั้น เพราะเรื่องของความ เอาจริงเอาจัง-ความตั้งใจ เราด้อยกว่า
เขียนไปเขียนมาเนื้อที่หมด ฉบับพรุ่งนี้ผมจะมาเขียนตอนต่อให้จบ คณะของเราได้มีโอกาสไปเยือนเมืองที่เคยยิ่งใหญ่ในอดีตอย่าง ลิเวอร์พูล ด้วย บรรยากาศจะเป็นอย่างไรติดตามอ่านกันได้ครับ.
ขอบคุณ Webmaster
http://m.thairath.co.th/content/sport/313572