ความคิดเห็นที่ 1 ...ในวันนั้นผมถ่ายทำละครอยู่ที่ต่างจังหวัด และตั้งใจทำงานเป็นพิเศษที่จะเล่นออกมาให้ได้ดี และเทกน้อยที่สุดเพื่อจะได้กลับมาดูแมตช์สำคัญนี้ให้ทันเวลา 555 บอกตามตรงว่าถ้าแมตช์นี้เตะตอนเวลา 4 ทุ่มผมคงไม่มีปัญหาในการลุ้นที่จะกลับมาดูทีมรักของตัวเองเตะแบบชิวชิว แต่ดันเตะ 2 ทุ่มครึ่ง ซึ่งเป็นเวลาที่ผมอยู่บนรถตู้ ! โอ้ยยย...มันช่างปวดใจเล็กน้อยที่ผมไม่ได้ดูในครึ่งแรก และนั่นก็หมายความว่าผมพลาดดู เวย์น รูนี่ย์ ซัด 2 ประตูไปแบบน่าเสียดาย สิ่งที่ช่วยได้ก็คือ ไฮไลต์ เท่านั้น ! จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 18:13:41

ความคิดเห็นที่ 2 และในขณะนั้นผมก็ทำได้แค่เพียงเอาไอแพดที่รักของตัวเองขึ้นมาแนบหูและเปิดแอพพลิ-เคชั่นวิทยุคลื่นที่พากย์ฟุตบอล แล้วก็เปิดเสียงเบาๆ กับสัญญาณที่กระตุกๆ เป็นระยะ เฮ้ออออ....ฉะนั้นการเริ่มดูในครึ่งหลังของผมก็เต็มไปด้วยความตั้งใจอย่างมาก 555 มีหลายอย่างครับที่แมนฯ ยูฯ เล่นค่อนข้างต่างจากนัดอื่นๆ อย่างแรกที่เห็นได้อย่างชัดเจนเลยก็คือ ไม่โดนนำก่อน เย้ๆ...มันก็ค่อนข้างน่าแปลกใจนะครับที่อาการ "โดนนำสไตล์" ไม่เกิดขึ้นในนัดนี้ และดันเป็นนัดที่สำคัญมากๆ ซะด้วย เรียกว่าสำคัญทั้งเรื่องของคะแนนและเรื่องของสภาพจิตใจเลยละครับ        การนำไปถึง 2 ลูกในครึ่งแรกของแมนฯ ยูฯส่งผลให้ทีมน่าจะเล่นง่ายขึ้นในอีก 45 นาทีที่เหลือ เพราะ "เรือใบสีฟ้า" ต้องโหมกระหน่ำบุกใส่อย่างแน่นอน ท่านเซอร์ ก็คงวางแผนได้ไม่ยาก และที่สำคัญเรื่องของความมั่นใจของนักเตะคงมีมากขึ้นด้วย และกองเชียร์แมนฯ ยูฯ หลายๆ คนก็คงแอบมั่นใจเหมือนกันว่าทีมรักของตัวเองต้องคว้าชัยได้แน่ๆ...        แต่เพื่อความมันส์ของคนดู พระเจ้าผู้ใส่เสื้อแมนฯ ซิตี้บรรจงเขียนบทให้ น้องยาย่า ตูเร่ และ ซาบาเลต้าซัดประตูตีตื้นและตีเสมอขึ้นมาตามลำดับ !... ทันใดนั้นความคาดหวังที่จะได้ 3 แต้มจากแมนฯ ซิตี้ ในหัวของผมมันน้อยลงไปมากๆ เลยครับ จนคิดว่าแมนฯ ยูฯ ต้องแพ้แน่ๆ ด้วยซ้ำเพราะโมเมนตั้มของเกมทั้งหมดตกไปเป็นของแมนฯ ซิตี้ ตั้งแต่โดนน้องยาย่ายิงตีตื้นขึ้นมาเป็น 1 ประตูต่อ 2 แล้วละครับ        จากนั้นอาการแกว่งของแผงหลังแมนฯ ยูฯ โผล่มาให้เห็นเป็นระยะ แต่โชคดีนะครับที่แมนฯ ซิตี้ไม่ใช่ทีมที่ใช้ลูกโด่งโจมตีคู่เซนเตอร์ของแมนฯ ยูฯ ความผิดพลาดของกองหลังจึงไม่ค่อยมีให้เห็นมากนัก เพราะช่วงหลังๆ แผงหลังแมนฯ ยูฯ มักจะเกิดอาการสับสน และเผยจุดอ่อนให้เห็นอยู่บ่อยๆ เวลาถูกโจมตีทางอากาศ และต้องยอมรับเลยครับว่าแมนฯ ซิตี้เป็นทีมที่เล่นบอลกับพื้น ต่อบอลในที่แคบบริเวณหน้ากรอบเขตโทษของแมนฯ ยูฯ ได้ดีมาก ด้วยความคล่องตัวของ ดาบิด ซิลบา เกือบจะต้องทำให้แมนฯ ยูฯ เสียประตูเพิ่ม แต่ก็ยังดีที่แมนฯ ยูฯ ยังมี เด เคอา ที่ยืนได้ถูกที่และถูกตำแหน่งทำให้สกอร์ยังคงเสมอกันที่ 2-2        ... และแล้วความดราม่าของเกมก็เกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งในนาทีที่ 90 เมื่อราฟาเอลกำลังพาบอลตัดเข้ากลางแล้วก็โดนทำฟาวล์ ทำให้ RVP ได้โอกาสจัดการปั่นลูกฟรีคิกด้วยเท้าซ้ายข้างที่ถนัดของตัวเองแฉลบเท้าของนาสรี่ บอลโค้งเสียบเสา 2 เข้าไปอย่างสวยงามและกระตุกต่อมกรี๊ดของผมเป็นอย่างยิ่ง และถือว่าลูกยิงนี้ของ RVP เป็นสกอร์ที่ถูกจัดขึ้นโดยการประสานงานของ2 อดีตนักเตะอาร์เซน่อลนะครับ 555 จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 18:14:35

ความคิดเห็นที่ 3 แต่ด้วยประตูนี้ที่ทำให้แมนฯ ยูฯ ไปสู่ชัยชนะก็ต้องสังเวยเลือดที่ปลายคิ้วซ้ายของปราการหลังพันล้านอย่างริโอ เฟอร์ดินานด์ ครับ หลังจากที่ริโอไปออกอาการสะใจอย่างเต็มที่ พร้อมด้วยสีหน้าที่ใส่อารมณ์ต่อหน้าต่อตากองเชียร์ของแมนฯ ซิตี้ จึงถูกมือดีที่ฝึกขว้างเหรียญมาจากบ้านอย่างแม่นยำ ซัดเข้ามาโดนเฟอร์ดินานด์เต็มๆ ก็เลยเกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้นเล็กน้อย แล้วก็ต้องชมเจ้าหน้าที่สนามของแมนฯ ซิตี้ นะครับที่สามารถจับตัวผู้กระทำความผิดได้ในทันที... จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 18:15:49

ความคิดเห็นที่ 4 หลังที่เกมแห่งความดราม่าได้จบลงไปด้วยชัยชนะของแมนฯ ยูฯ นั้น ด้วยความเคารพนะครับ ผมดีใจมากเป็นพิเศษ เพราะผมคิดว่าคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดของแมนฯ ยูฯ ในฤดูกาลนี้ก็คือ แมนฯ ซิตี้ นั่นแหละครับ มีหนึ่งเหตุการณ์สำหรับผมที่น่าจับตามองครับ ก็คือเก้าอี้ของยอดกุนซือโรแบร์โต้ มันชินี่ ครับ ผลงานของมันชินี่ในฤดูกาลนี้โดยส่วนตัวแล้วผมว่าไม่ได้น่าเกลียดอะไรมากมายนะครับก่อนเตะกับแมนฯ ยูฯ ยังมีสถิติที่ไร้พ่ายในพรีเมียร์ลีก แต่ก็หนักไปทางเสมอทำให้แต้มเป็นรองจ่าฝูง แล้วก็เพิ่งมาแพ้แมตช์แรกในฤดูกาลให้กับแมนฯ ยูฯ นี่แหละครับ...        สำหรับ 6 แต้มที่ตามจ่าฝูงอย่างแมนฯ ยูฯ และเวลาที่เหลืออีกครึ่งฤดูกาลนั้น ผมว่ายังไม่ห่างมากนะครับเพราะด้วยศักยภาพของทีมอย่างแมนฯ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของมันโช่ ต้องทำให้ทีมตีตื้นขึ้นมาและเกิดความดราม่าขึ้นอีกในท้ายๆ ฤดูกาลอย่างแน่นอน แต่ด้วยสิ่งที่บ่งบอกว่าเก้าอี้ที่มันโช่นั่งมันไม่แน่นอนเอาเสียแล้วก็คือ ผลงานในเวทีแชมเปี้ยนส์ ลีก ที่น่าใจหายนั่นแหละครับ        แมนฯ ซิตี้ตกรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยนส์ ลีก โดยไม่สามารถเอาชนะใครได้เลย และไม่ได้เล่นแม้แต่ถ้วยยูโรปา ลีก ด้วยชื่อชั้นและนักเตะของแมนฯ ซิตี้แล้วควรที่จะเข้ารอบแชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นอย่างน้อยคืออันดับ 2 ของกลุ่มเท่านั้น !!        ...ความคาดหวังจากผู้บริหารเบื้องบนของเรือใบสีฟ้าที่ทุ่มเงินไปอย่างมากมายในการทำทีม ต้องเกิดความไม่สบายใจอย่างแน่นอนครับ เพราะถ้วยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเวทียุโรปได้หลุดลอยไปจากวงโคจรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และถ้วยที่ยังเป็นหลักที่สามารถการันตีความสำเร็จได้อย่างถ้วยพรีเมียร์ลีก แต้มก็ดันตกเป็นรองจ่าฝูงและมีโอกาสเสี่ยงที่จะหลุดมืออยู่เหมือนกัน        จึงเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเก้าอี้ของมันโช่เต็มไปด้วยไฟพร้อมลนก้นมากที่สุดแล้วในพรีเมียร์ลีกเวลานี้... จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 18:16:37

ความคิดเห็นที่ 5 ในอีก 4-5 แมตช์ข้างหน้าของแมนฯ ซิตี้นั้นถือว่ายังไม่น่าหนักใจมากในการเก็บ 3 แต้มครับ แต่ !! ถ้าแมนฯ ซิตี้เกิดพลาดท่าแพ้หรือเสมอแบบไม่สมควรล่ะ การเด้งก้นของมันโช่หลุดจากเก้าอี้กุนซือเรือใบสีฟ้าจึงย่อมไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวซักเท่าไหร่นัก        เรื่องนี้ก็น่าคิดนะครับ... ผมขออนุญาตเป็นกังวลล่วงหน้าซักนิดนะครับ วันหนึ่งถ้าตูดของมันโช่เด้งขึ้นมาจริงๆ ด้วยเก้าอี้กุนซือที่มีความเสี่ยงสูงและมีราคาแพงอย่างแมนฯ ซิตี้นั้น ก้นที่จะมานั่งได้ก็ควรจะต้องเป็นก้นระดับโลกเท่านั้น !! และถ้าก้นกลมๆ อันนั้นเป็นคนที่คุณก็รู้ว่าใครล่ะ !! แมนฯ ซิตี้จะน่าสยดสยองขนาดไหนนนนน...        ตูดนั้นเป็นของใครก็ลองเดาๆ กันดูนะครับ...รักคนอ่านครับ credit : www.siamsport.co.th    คอลัมน์ : เกรทสกอร์ โดย.. เกรท วรินทร จากคุณ : เลขาลิขิต เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 18:17:31

ความคิดเห็นที่ 6 ก่อนเข้ามาแอบเดาว่าจะเป็นก้นใคร เงิบเล็กน้อยเลยเรา ขอบคุณสำหรับบทความค่ะ จากคุณ : โทโมะจัง เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 55 19:02:47