Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
คลั่งกอล์ฟดีกว่าบ้าอย่างอื่น vote ติดต่อทีมงาน

วันนี้ผมตื่นเช้ามาก ไม่รู้ว่าตื่นขึ้นมาทำอะไรเหมือนกัน ชีวิตโล่งโจ้งดี เคยบอกพี่อี๊ด ชมัยพรว่า ตั้งแต่ออกจากการเป็นกรรมการสมาคมรู้สึกเหมือนคนตกงาน ตื่นเช้าขึ้นมาก็เดินลงบันไดสิบสองขั้นจากห้องนอนก็ถึงที่ทำงานเลย บางทีหน้าไม่ล้าง ฟันก็ไม่แปรง ลงมาเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์และเขียนอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ พอให้รู้ว่าได้ทำงานแล้วนะ

ช่วงนี้งานสำนักพิมพ์ก็ใช้วิธีจ้างคนข้างนอกแทบทุกอย่าง เราก็เลยใช้เงินเป็นลูกน้องให้ทำงานแทน นอกจากอ่านต้นฉบับแล้วไม่ต้องทำอะไรเลย บ้านก็สงบเงียบเรียบร้อย มีหมาพุดเดิ้ลอยู่ตัวหนึ่ง คอยบอกให้รู้ว่า ว่าเรายังมีมันอยู่นะ ต้องพาไปฉี่ ไปอึ หรือชวนคุยบ้าง ไม่งั้นหมามันก็เฉาเหมือนต้นไม้ไร้คนรดน้ำ

ลูกสาวผมนี่ก็มีนิสัยคล้าย ๆ กับผม  มีโลกส่วนตัวสูง หมกตัวอยู่กับการอ่าน และเล่นเฟสบุ๊คอยู่แต่ในห้อง บางวันแทบไม่เห็นหน้าเลย กินข้าวก็กินคนเดียว ไม่ค่อยเป็นเวลา หิวก็ย่องลงมา หยิบไส้กรอกสักชิ้นหนึ่ง ขนมปังสองแผ่น น้ำขวดหนึ่งย่องขึ้นไปกินข้างบน นอนอ่านหนังสือไปด้วย กินไปด้วย และฟังเพลงไปด้วย

ส่วนคุณแม่ของลูกนี่เธอไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว ยิ่งผมไม่พูด เธอก็ยิ่งชอบ บางวันนี่ผมยังงงอยู่เลยว่า เราพูดกันน้อยคำมาก แต่ก็ดีนะครับ ไม่ใช่ไม่ดี ผมไม่ชอบผู้หญิงพูดมากมาตั้งแต่เด็กแล้ว ผมมีแม่เลี้ยงตั้งแต่อายุห้าขวบ เป็นผู้หญิงพูดเยอะ บ่นได้ทุกเรื่อง บ่นแม้กระทั่งเรื่องที่ผมราดข้าวด้วยน้ำปลาตราทิพรสมากไป แม่เลี้ยงว่ามันเปลือง ทำให้ไตทำงานหนัก แก่ตัวอาจป่วยด้วยโรคไต ค่าฟอกไตมันแพงมาก ตายก็ไม่ได้ อยู่ก็ไม่สนุก และก็พูดต่อไปอีกครึ่งชั่วโมง พอที่จะทำให้กินข้าวไม่ลงไปมื้อหนึ่ง พอโตหน่อยได้ออกจากบ้าน จากนั้นก็ไม่หวนกลับอีกเลย คิดก็ไม่เคยคิด ทั้งเบื่อ ทั้งขยาด บอกไม่ถูก พอแต่งงานได้เจอคนไม่พูดมากเข้าก็รู้สึกโชคดีที่พระเจ้าเมตตา

ช่วงไหนที่ผมโดนภรรยาบ่น เป็นช่วงที่ผมรู้สึกแย่ รู้สึกผิด อยากหนีออกนอกบ้าน อยากไปหาผู้หญิงคนใหม่ ที่สามารถนอนหนุนแขนผมได้ทั้งคืนโดยไม่ต้องอ้าปากพูดสักคำ (ได้แต่คิดนะครับ แต่ยังไม่เคยทำ)

เมื่อวานไปซ้อมไดร์เวอร์มาสี่ถาด รู้สึกดีจริง ๆ ที่สามารถทำได้ สี่ถาดนี่ผมทำได้ค่อนข้างดี แต่ก็อย่าคาดหวังอะไร พอลงสนามจริงอาจจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งก็ได้

ในหนังสือเขาบอกว่า ในสนามกอล์ฟเรามีมารอยู่สามอย่าง คือ

หนึ่ง ความกลัว
สอง ความโกรธ
และสาม ความไม่มั่นใจ

บางคนแม้แต่เสียงนกร้องก็สามารถทำลายสมาธิได้เลย ไม่ต้องพูดถึงตอนที่แคดดี้เดินไปเดินมาอยู่ในคลองสายตา คือเรากลัวไปเสียทุกเรื่อง กลัวลูกจะตกน้ำ กลัวลูกจะออกนอกลู่ กลัวลูกจะไปไม่ไกล กลัวลูกจะปึ๊กอยู่ที่ปลายไม้ สุดท้ายมันก็เกิดขึ้นจริง

ส่วนความโกรธนั้น เขาบอกว่า เมื่อเราตีพลาด สิ่งแรกสุดก็คือ เราจะโกรธตัวเองก่อน ว่าทำไมเป็นอย่างนี้ ทำไมไม่เป็นอย่างนั้น จากความโกรธตัวเองก็จะกลายเป็นคนโกรธอย่างอื่น เช่นโกรธนกที่มาร้องอยู่ข้าง ๆ ทำลายสมาธิของเรา แล้วก็โกรธเพื่อนที่พูดดังหรือมายืนกดดันอยู่ข้างหลัง หรือไม่ก็โกรธแคดดี้ที่เอ่ยปากสอน หรือพูดมากไป พาร์ต่อไปหากพลาดอีก ความโกรธก็จะเพิ่มพูนขึ้น จนหน้าหงิกหน้างอ เป็นอารมณ์ต่อเนื่องที่เกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ความสุขจากการเล่นกอล์ฟก็ค่อย ๆ หายไป นอกจากนี้ยังทำให้เพื่อนพลอยไม่สนุกไปด้วย  ความโกรธตัวนี้แหละที่จะลายทุกสิ่งทุกอย่าง

มารตัวสุดท้ายก็คือ ความลังเลหรือความสงสัย เราจะลังเลไปเสียทุกเรื่อง ความลังเลไม่แน่ใจนี่แหละสำคัญที่สุด จะทำให้เราตีพลาดเสมอ โดยที่บางทีเราก็ไม่สามารถรู้เท่าทันมันได้ เพราะเรามักจะคิดว่าไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร ที่จะเราพยายามวิเคราะห์ทุกอย่างให้ละเอียดลออ  คุณหมอวิธานบอกว่า นักกอล์ฟบางท่านนี่จะละเอียดมาก ๆ

การวิเคราะห์อย่างละเอียดนั้นก็ทำให้สับสนในจิตใต้สำนึกของเราเองว่า เราจะตัดสินใจอะไรกันแน่  หมอบอกว่า บางทีความละเอียดลออเกินไปจะทำลายการพัตต์ที่ดีๆ ไปเสมอ ความสงสัยจะทำให้กล้ามเนื้อเราเกร็งโดยที่เราไม่รู้ตัวเลย

หมอวิธานแนะนำง่าย ๆ ว่าให้เอามารสามตัวนี้ออกไปจากใจเราให้ได้ ให้คิดว่าเรามาเล่นกีฬา มาออกกำลังกาย ไม่ได้แข่งขันกับใคร นอกจากแข่งกับตัวเอง ไม่ต้องโกรธอะไรง่าย ๆ ไม่ต้องละเอียดมากก็ได้  หรือไม่ต้องกลัวจนเกินไป ตีทุกลูกด้วยความสุข ผ่อนคลาย สบาย ๆ ลูกกอล์ฟมันจะวิ่งไปตามทิศทางที่เราต้องการทันที

อ่านแล้วก็รู้สึกดี แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่เราจะเลิกกลัว หรือเลิกโกรธก็ตาม แต่ถือว่าเป็นคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ แค่ข้อที่ว่า นักกอล์ฟจะเริ่มจากโกรธตัวเองก่อน แล้วจะลามปามไปโกรธผีโกรธสาง และก็โกรธเพื่อน ถ้าใครเป็นอย่างนี้รับรองไม่มีทางเล่นกอล์ฟได้อย่างสนุกสนานเหมือนเดิม

ผมนี่บ้าถึงขนาด ซ้อมไดร์กอล์ฟไปด้วย อ่านหนังสือไปด้วย ทำให้ชีวิตมันสมบูรณ์ขึ้นอย่างบอกไม่ถูก ช่วงนี้หากผมไม่บ้ากอล์ฟ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปบ้าอะไร ถ้าเกิดว่าไปบ้าผู้หญิงสักคนหนึ่ง ผมก็คงคลั่งพอๆ กับคลั่งกอล์ฟนี่แหละ แต่บ้าผู้หญิงนี่มันอันตรายต่อความมั่นคงของชีวิตครอบครัว มันทำลายชีวิต ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่เราฝ่าฟันร่วมกันมา ผมก็เลยรู้สึกดีที่มาบ้ากอล์ฟแทน

จากคุณ : kajohnrit
เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 55 10:00:56




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com