วินนี่สั่งลุย! ไทยทัพใหญ่มุ้ยหน้าเป้าล่าเสือเหลือง
|
|
"ช้างศึก" ทีมชาติไทย จัดทัพใหญ่ล่า "เสือเหลือง" มาเลเซีย "วินนี่" วินฟรีด เชเฟอร์ ลั่นไทยปิดประตูแพ้ ไม่หวั่นเสียงเชียร์แฟนเจ้าถิ่น ขอเปิดเกมบุกเต็มที่ รับทำใจลำบากส่งชื่อ 18 คน หลังลูกทีมพร้อมลงสู้ศึกทุกคน วาง "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา หน้าเป้าล่าตาข่าย แถมได้ ปิยพล บรรเทา แบ็กขวาตัวเก่งคืนทัพ ขณะที่เจ้าถิ่นยิ้มได้ โมฮัมเห็มด ซาฟี ดาวยิงตัวเก่ง คืนทัพกร้าวของล้มไทยเป็นทีมแรก แฟนบอลชาวไทยร่วมส่งใจเชียร์ 9 ธ.ค. นี้ ช่อง 7 สี ยิงสด 19.00 น.
เมื่อวันที่ 8 ธ.ค ที่ผ่านมา เวลา 9.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ ห้องประชุมโรงแรมพาเลซ ออฟ เดอะ โกลเด้น ฮอร์ส เป็นการแถลงข่าวความพร้อมของศึกลูกหนังเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2012 รอบรองชนะเลิศนัดแรก คู่ระหว่าง มาเลเซีย พบกับ ไทย ในวันที่ 9 ธ.ค นี้ ที่สนามบูกิต จาลิล เวลา 19.00 น. โดยทีมชาติไทยส่ง "วินนี่" วิลเฟร็ด เชเฟอร์ กุนซือใหญ่เข้าร่วมแถลงข่าว ขณะที่ทางฝั่งมาเลเซีย เป็นทางด้านของ ราจา โกปาล เฮดโค้ชทีมชาติมาเลเซีย เป็นตัวแทน ท่ามกลางสื่อมวลชนท้องถิ่น ที่แห่กันมาปักหลักรายงานข่าวอย่างคับคั่ง วิลเฟร็ด เชเฟอร์ กล่าวถึงความพร้อมของทีมชาติไทยว่า "เราไม่มีปัญหาในการจัดทัพ และพร้อมที่จะส่งผู้เล่นที่ดีที่สุดลงสนาม พบกับ มาเลเซีย โดยผู้เล่นอย่าง ปิยพล บรรเทา แบ็กขวาของเราที่มีอาการเป็นไข้ ก็สามารถกลับมาลงสนามฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้ตามปกติแล้ว รวมถึง ดัสกร ทองเหลา มิดฟิลด์ของเราก็ลงได้เช่นกัน ส่วนตำแหน่งอื่นๆ พร้อมลงสนามทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น อดุลย์ หละโสะ, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว และ ภานุพงศ์ วงศ์ษา"
"วินนี่" ลั่นไทยปิดประตูแพ้ วินนี่ กล่าวต่อว่า ตนยอมรับว่าคู่แข่งเป็นทีมที่เล่นในบ้านได้ดี และแม้ว่านัดแรกจะแพ้ต่อ สิงคโปร์ 0-3 แต่ก็สามารถกลับมาได้ใน 2 เกมสุดท้ายของรอบแรก ซึ่งคงไม่ใช่งานง่ายมากนัก ที่ทีมชาติไทย จะบุกมาเอาชนะ มาเลเซีย ถึงถิ่น อย่างไรก็ตาม แม่ทัพใหญ่ทีมชาติไทย ยังเชื่อแสดงความมั่นใจว่า ศักยภาพของผู้เล่นไทย ซึ่งกำลังอยู่ในฟอร์มการเล่นที่ดี แม้ว่าจะบุกมาเยือน แต่เชื่อว่าไทย ไม่ได้เป็นรอง มาเลเซีย แม้แต่น้อย และจะไม่ประเดิมด้วยความพ่ายแพ้อย่างแน่นอน"
ยักไหล่ไม่หวั่นเสียงเชียร์ ต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าว มาเลเซีย ว่า แมตซ์นี้จะมีกองเชียร์ชาวมาเลเซีย เข้ามาเชียร์จำนวนกว่า 8 หมื่นคน รู้สึกกดดันหรือไม่ เฮดโค้ชทีมชาติไทยเผยว่า "ผมคิดว่านักเตะเรามีความนิ่ง ซึ่งแต่ละคนมีประสบการณ์จากการเล่นในลีก และระดับทีมชาติมาแล้วอย่างมากมาย ซึ่งแม้ว่ากองเชียร์เจ้าถิ่นจะเยอะก็จริง แต่ผมกลับมองว่ามันคือการปลุกเร้าให้เจ้าบ้านต้องบุกเข้าใส่เรา ในทางกลับกัน กลายเป็นทีมไทยที่จะเล่นอย่างไร้ความกดดัน ยิ่งเวลาผ่านไปเรื่อยๆ แล้วพวกเขาไม่สามารถเจาะประตูเราได้ มันจะกลายเป็น มาเลเซีย เองที่ต้องแบกรับความกดดันนี้ไว้"
พร้อมเปิดเกมบุกแลกหมัดเจ้าถิ่น พร้อมกันนี้กุนซือทีมชาติไทย ยังได้กล่าวต่อไปว่า "อย่างที่บอกว่าเรามาเยือนด้วยความมั่นใจเกินร้อย ซึ่งนักเตะทุกคนกระหายที่จะคว้าแชมป์ ดังนั้นเกมนี้เราจะต้องผ่านมันไปให้ได้ โดยเราจะไม่มาเพื่อเน้นเกมรับและหวังผลเสมออย่างแน่นอน แต่เราจะเปิดเกมบุกเพื่อกดดันพวกเขาเช่นกัน แต่ทั้งนี้คงจะต้องกำชับให้ทุกคนห้ามประมาทเด็ดขาด เพราะหากเราเสียประตูแรก จะทำให้งานของเรายากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามผมยังเชื่อมั่นในศักยภาพของทีมเราว่า น่าจะมีทีเด็ดพอที่จะบุกมายิงประตูพวกเขาได้ถึงถิ่นแน่นอน"
"โกปาล" ทำใจแข้งหลักไม่ฟิต ส่วนทางฝั่ง ราจา โกปาล เฮดโค้ชทีมชาติมาเลเซีย เปิดเผยถึงความพร้อมว่า "เกมนี้เรามีปัญหาในการจัดทัพค่อนข้างมาก เนื่องจากจะไม่สามารถใช้งาน วาน เชค ไฮคาล ห้องเครื่องตัวเก่งที่ได้รับบาดเจ็บหนัก กล้ามเนื้อต้นขาฉีก รวมถึง ซาเกีย ซาเอรี่ ที่เจ็บข้อเท้า ซึ่งทั้ง 2 รายไม่น่าจะเล่นไหวแน่นอน แต่เราก็พร้อมที่จะส่งผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามพบกับไทย"
พอยิ้มออก "ซาฟี" มีลุ้นล่าตาข่าย อย่างไรก็ตามทัพ เสือเหลือง ยังพอได้รับข่าวดี เมื่ออาการบาดเจ็บเอ็นร้อยหวายของ โมฮัมเหม็ด ซาฟี ซาลี กองหน้าตัวเก่งเริ่มดีขึ้นแล้ว และสามารถกลับมาฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมได้ตามปกติแล้ว เช่นเดียวกับ คูนาลาน และ ไคริล มูไฮมัน ซาบรี้ ที่เจ็บโคนขาหนีบ ก็เริ่มดีขึ้นแล้ว ซึ่งทั้งหมดจะมีชื่อในแมตซ์ที่จะพบกับไทยอย่างแน่นอน แต่จะฟิตพอที่จะเป็นตัวจริงหรือเปล่า คงต้องพิจารณากันอย่างละเอียดอีกครั้ง
ห้าวจัดขอล้มไทย พร้อมกันนี้กุนซือทีมชาติมาเลเซีย ยังได้กล่าวอีกว่า "แม้ว่าทีมชาติไทย จะพกสถิติอันสวยหรูในการลงสนามรอบแรก ด้วยการชนะรวด 3 นัด แต่เราเองก็ไม่ได้รู้สึกหวั่นเกรงศักดิ์ศรีของพวกเขาแม้แต่น้อย โดยเชื่อมั่นว่าเสียงเชียร์จากแฟนบอล จะช่วยกดดันให้คู่แข่งเสียขวัญได้บ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งเกมนี้พวกเขาจะต้องเจอกับเกมที่ยากลำบากแน่ เพราะพวกเราคงไม่ยอมให้ ไทย บุกมาชนะถึงถิ่นง่ายๆ อยู่แล้ว โดยวางเป้าหมายว่าจะขอเอาชนะทีมไทย ได้เป็นทีมแรกของทัวร์นาเมนต์"
"ซาฟี" ขุดสถิติเก่าโวแกร่งในรัง ส่วน โมฮัมเหม็ด ซาฟี อดีตดาวซัลโวเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2010 ด้วยการยิง 5 ประตู เปิดเผยว่า "ทีมไทยเป็นทีมที่เล่นได้อย่างแข็งแกร่ง มีผู้เล่นตัวจริงและสำรองที่ยอดเยี่ยม โดยเราเคยเล่นกระชับมิตรกับพวกเขาเร็วๆ นี้ และแพ้ 0-2 แต่นั้นก็แค่เกมอุ่นเครื่องธรรมดาเท่านั้น ผมขอยืนยันว่าเกมนี้จะไม่เหมือนเดิมแน่นอน" นอกจากนี้ ซาฟี ยังได้กล่าวอีกว่า "ถ้าจำกันเมื่อปีก่อน ที่เราได้แชมป์ต้อนรับทั้ง เวียดนาม และ อินโดฯ ในรอบรอง และรอบชิงนัดแรกตามลำดับ และเราก็ชนะทั้งสองนัดนั้นได้แบบสบายๆ ซึ่งครั้งนี้เราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะทำสำเร็จอีกครั้ง"
แฟน มาเลเซีย ตื่นตัว, รับเป็นรองไทย ผู้สื่อข่าวสยามกีฬาได้สอบถาม โมฮัมเหม็ด ชิราบูล เหยี่ยวข่าวท้องถิ่นสำนักหนึ่ง ของประเทศมาเลเซีย เกี่ยวกับกระแสความสนใจของแฟนบอลชาว มาเลเซีย ก่อนที่จะได้รับคำบอกเล่าว่า "กระแสแฟนบอลที่ประเทศมาเลเซีย ค่อนข้างตื่นตัวกับแมตซ์นี้อย่างมาก โดยก่อนหน้านี้มีแฟนบอลแห่จองตั๋วอย่างคับคั่ง คาดว่าจะมีแฟนบอลไม่ต่ำกว่า 8 หมื่นคนเข้ามาร่วมเชียร์ในสนามบูกิต จาลิลอย่างแน่นอน" พร้อมกันนี้ ยังได้กล่าวถึงความน่าจะเป็นว่า "ผมคิดว่าทีมชาติไทย แข็งแกร่งมาก ด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่น จากการชนะติดต่อกัน 3 นัดรวด ซึ่งทั้งหมดกำลังเล่นกันได้อย่างมั่นใจ ต่างจากทีมชาติมาเลเซีย ที่เล่นกันแบบไร้ใจ สังเกตุได้จากแมตซ์แรกที่แพ้ สิงคโปร์ แบบหมดรูป 0-3 แม้ว่า 2 นัดหลังสุดจะดีขึ้น แต่ก็เป็นการเจอกับทีมอย่างลาว และ อินโดนีเซีย ที่ไม่แข็งแกร่งมากนัก ต่างจากไทย ที่เล่นกันได้อย่างลงตัว ผมคิดว่าเป็นงานยากที่เราจะเอาชนะไทย"
ไทยซ้อมเข้มกลางสายฝน ช่วงเย็นเวลา 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ขุนพลนักเตะไทย ได้ลงฝึกซ้อมที่สนามบูกิต จาลิล สังเวียนที่จะใช้ฟาดแข้งในรอบรองชนะเลิศนัดแรก ในวันที่ 9 ธ.ค นี้ โดยระหว่างการฝึกซ้อมได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้แข้งไทยต้องซ้อมท่ามกลางสายฝนซึ่งกระหน่ำตกลงมาอย่างหนัก ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. จึงเสร็จสิ้น หลังการฝึกซ้อม "วินนี่" กล่าวว่า สภาพความฟิตของนักเตะทุกคนถือว่าน่าพอใจอย่างยิ่ง มีเพียงแค่ พิภพ อ่อนโม้ รายเดียวเท่านั้น ที่ยังมีอาการบาดเจ็บ ส่วนที่เหลือพร้อมลงสนามได้ทั้งหมด ซึ่งนอกเหนือจาก อาทิตย์ สุนทรพิธ ที่โดนแบนแล้ว เราต้องตัดชื่อออกอีก 2 ราย เพื่อส่งชื่อ 18 คนลงสนาม ซึ่งตนยอมรับว่าหนักใจไม่น้อย ว่าจะต้องตัดชื่อใคร เพราะทั้งหมดมีสภาพร่างกายทมี่ฟิตสมบูรณ์ ซึ่งต้องบอกว่าทีมเราพร้อมมากที่จะลงสนามพบกับ มาเลเซีย
ใส่ชุดแดง,ไม่หวั่นเชิ้ตดำอิหร่าน ในส่วนของชุดแข่งทีมชาติไทย จะใส่ชุดสีแดงทั้งชุดลงสนาม ขณะที่ มาเลเซีย จะใส่สีน้ำเงิน-ขาว ส่วนคณะผู้ตัดสิน ที่จะลงทำหน้าที่ในเกมนี้ มาจากประเทศอิหร่าน ทั้งชุด ส่วนผู้ตัดสินที่ 4 จากฮ่องกง ต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าวสยามกีฬาว่า รู้สึกกังวลกับการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินหรือไม่ ซึ่ง "วินนี่" เปิดใจว่า ตนไม่ได้รู้สึกกังวลแม้แต่น้อย เนื่องจากผู้ตัดสินชุดนี้เคยทำหน้าที่ในเกมที่ไทย พบ ออสเตรเลีย ในศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชียมาแล้ว ซึ่งก็ทำหน้าที่ได้ดี และเชื่อมั่นในมาตรฐานของผู้ตัดสินว่า จะทำหน้าที่ด้วยความเป็นธรรม โดยหวังว่าเกมนี้จะเป็นเกมที่ใสสะอาด อย่างไรก็ตามอยากจะโฟกัสไปที่เกมการแข่งขันมากกว่า ไม่อยากให้ไปใส่ใจกับปัจจัยรอบข้าง เพราะเราต้องการชัยชนะแบบไม่มีข้ออ้าง
วาง "มุ้ย" หน้าเป้า, ปิยพล ฟิตคืนแบ็กขวา สำหรับ 11 ผู้เล่นตัวจริงทีมชาติไทย ที่คาดว่าจะลงสนามพบกับ มาเลเซีย ในช่วงค่ำวันนี้ ในระบบ 4-4-1-1 ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู กวิน ธรรมสัจจานันท์, แบ็กซ้าย ธีราทร บุญมาทัน, แบ็กขวา ปิยพล บรรเทา, เซ็นเตอร์ฮาร์ฟ ภานุพงศ์ วงษ์ศา (กัปตันทีม), ชลทิตย์ จันทคาม, ปีกซ้าย อนุชา กิจพงษ์ศรี, ปีกขวา จักรพันธ์ พรใส, กองกลาง พิชิตพงษ์ เฉยฉิว จับคู่กับ อดุลย์ หละโสะ, หน้าต่ำ ดัสกร ทองเหลา และหน้าเป้า ธีรศิลป์ แดงดา
"ทนุศักดิ์" มั่นใจช้างศึกเก๋าเอาตัวรอดได้ ขณะที่ ทนุศักดิ์ เล็กอุทัย ผจก.ทีมชาติไทย ซึ่งเดินทางมาเชียร์ลูกทีมถึงประเทศมาเลเซีย เมื่อช่วงเช้าวันที่ 8 ธ.ค ที่ผ่านมา ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบิน ทีจี 415 เวลา 8.45 น. ถึงประเทศมาเลเซีย 11.15 น. และได้เดินทางมาให้กำลังใจนักเตะไทยถึงขอบสนามซ้อมด้วย โดยนายใหญ่ทีมชาติไทย กล่าวว่า "ผมเชื่อว่าเกมนี้จะเป็นแมตซ์ที่สนุก และอยู่ในความทรงจำของแฟนบอลอย่างแน่นอน เพราะอย่างที่ทราบว่าแฟนบอลชาวมาเลเซีย จำนวนกว่า 8 หมื่นคน จะเข้ามาเชียร์กันเต็มความจุแน่นอน อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่านักเตะไทยมีประสบการณ์ ผ่านเกมระดับชาติ และระดับลีกสูงสุดของประเทศมาแล้วทั้งสิ้น มั่นใจว่าจะเอาตัวรอดได้อย่างแน่นอน ก็ขอเชิญชวนแฟนบอลชาวไทย ร่วมกันส่งแรงใจเชียร์เยอะๆ ผ่านทางช่อง 7 สี ที่จะถ่ายทอดสดไปทั่วทั้งประเทศ โดยพวกเราทุกคนสัญญาว่าจะคว้าชัยชนะกลับบ้านเราให้ได้"
"บังยี" จัดให้ฉีด 2 ล้านหากเข้าชิง ส่วนทางฝั่ง "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่เดินทางมาให้กำลังใจลูกทีมถึงประเทศมาเลเซีย ด้วยเช่นกัน ก็ได้เปิดเผยผ่านสื่อว่า "ทางสมาคมฟุตบอลฯ พร้อมที่จะอัดฉีดให้นักเตะทีมชาติไทยจำนวน 2 ล้านบาท หากสามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ โดยแบ่งเป็นแมตซ์ละ 1 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับนักเตะไทย โดยเรามีเป้าหมายในการคว้าแชมป์เอเอฟเฟ ซูซูกิคัพ เพื่อทวงความเป็นเจ้าอาเซีนกลับคืนมา"
"กัปตันใหม่" ปลุกลูกทีมชนะคว้าชัยเพื่อพ่อ ขณะที่ "กัปตันใหม่" ภานุพงศ์ วงศ์ษา กัปตันทีมชาติไทย กล่าวว่า "เกมที่พบกับมาเลเซีย เชื่อว่าน่าจะเป็นเกมที่สนุกสูสี โดยเรากำลังอยู่ในฟอร์มการเล่นที่ดี และหวังคว้าชัยชนะให้ได้ก่อน เพื่อชิงความได้เปรียบก่อนที่จะกลับไปเล่นในบ้าน และที่สำคัญเราเคยประกาศไว้ชัดเจนว่าเราจะเอาชัยชนะกลับไปถวายแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อเป็นฉลองพระชนมพรรษา 85 พรรษา ก็อยากจะฝากให้พี่น้องชาวไทย ร่วมกันส่งใจมาเชียร์พวกเราด้วยครับ โดยพวกเราจะขอทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถเพื่อคว้าชัยให้ได้"
"อดุลย์" เผยแข้งไทยกระหายฟัดมาเลย์ ด้าน อดุลย์ หละโสะ ห้องเครื่องตัวเก่งทีมชาติไทย เปิดเผยว่า "ผมและเพื่อนๆ รู้สึกตื่นเต้น และอดใจไม่ไหวแล้ว ที่จะลงสนามพบกับ มาเลเซีย โดยทุกคนต่างมีความกระหายที่จะคว้าชัยชนะกลับบ้านเราให้ได้ อย่างไรก้ตาม แม้ว่าพวกเขาจะมีกองเชียร์จำนวนกว่า 8 หมื่นคนเข้ามาเชียร์ที่สนาม แต่บอกได้เลยว่าพวกเราไม่ได้รู้สึกหวั่นเกรงหรือตื่นสนามแม้แต่น้อย โดยเชื่อมั้นในสปิริตและทีมเวิร์คของเราว่าน่าจะมีโอกาสบุกมาคว้าชัยได้ก่อน"
http://www.siamsport.co.th/suzukicup2012/news_detail.php?IDnews=169308
จากคุณ |
:
Black Operation
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ธ.ค. 55 09:50:13
|
|
|
|