Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กอล์ฟเปลี่ยนชีวิต vote ติดต่อทีมงาน

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตอนอยู่ในสนามกอล์ฟ รู้สึกดีมากเลยครับ อากาศดี เจอเพื่อนดี ได้เดินออกกำลังกายจนเหงื่อไหลปริบเต็มหลัง  ตีผิดบ้าง ถูกบ้าง แต่ก็ตั้งใจอยู่เสมอว่าจะทำให้ดีขึ้น สวยขึ้น ไม่ต้องการคำชมใด ๆ แค่อยากให้เราสุขและเพื่อนก็สุขด้วย

กลับมาจากสนามกอล์ฟก็ได้ทำงานจุก ๆ จิก ๆ ที่คาอยู่ในบ้าน เช่นกวาดบ้าน ถูบ้าน เช็ดพัดลม ผมถนัดในเรื่องแบบนี้ ทำในสิ่งเล็ก ๆ ที่คนอื่นไม่ค่อยเห็นคุณค่าได้ดีนัก

เมื่อสักสิบกว่าปีก่อน ช่วงที่ผมกำลังอยู่ในวัยกำลังสร้างเนื้อสร้างตัว ผมทำงานทั้งวันทั้งคืน ผมพักเฉพาะตอนนอนกับตอนทานข้าวเท่านั้น ผมอ่านต้นฉบับ เขียนหนังสือ พิสูจน์อักษร ออกแบบปก จัดหน้าหนังสือ และอารมณ์เสียทั้งวันทั้งคืน

ตอนนั้นผมมีน้องมาช่วยงานหกคน นั่งกันอยู่ในสำนักงานซึ่งอยู่ในบ้านของผม ผมรู้ ไม่มีใครชอบผม ทุกคนเกรงและกลัว ผมคิดว่าพวกน้อง ๆ อาจจะเกลียดผมเอาด้วยซ้ำ เพราะผมดุ มองทุกอย่างเป็นขาวกับดำ ไม่ผิดก็ถูก  และดูหมิ่นคนอื่นว่าโง่กว่าอยู่เนือง ๆ  

ตอนกลางคืนหลังจากใคร ๆ  หลับไปหมดแล้ว ผมก็จะลุกขึ้นมาทำงานต่อ กว่าจะหมดแรงก็ตีสองตีสาม นอนตื่นสาย ไม่ค่อยแจ่มใส เช้าผมดื่มกาแฟและกินข้าวเยอะมาก ผมดูและการเงินและทำบัญชีเอง ทั้งหมดนี้เพราะผมคิดว่า ผมเก่งกว่า ผมไม่ไว้ใจใคร ไม่เชื่อว่าใครจะเก่งได้เท่าผม

แต่ผมก็ไม่ได้หาเงินได้เป็นกอบเป็นกำอะไร ผมเคยนั่งคิดว่าเพราะอะไร ยิ่งทำก็ยิ่งเห็นกองหนี้เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเฉียดหลักล้านเข้าไปแล้ว ผมคิดไม่ออกว่าผมจะหาเงินล้านมาใช้หนี้ธนาคารได้อย่างไร

แต่แล้วมันก็ผ่านพ้นมาได้ ผมก็ยิ่งหลงตัวมากขึ้น ทำงานหนักมากขึ้น โมโหง่าย พักผ่อนด้วยการเที่ยวเตร่ดึก ๆ ดื่น ๆ มั่วอยู่กับเรื่องชั่ว ๆ สารพัดอย่าง
จนกระทั่งผมรู้สึกเหนื่อย รู้สึกเบื่อ  รู้สึกว่าน่าจะพอได้แล้ว ผมมาฉุกคิดได้ เพราะผมอ่านหนังสือชื่อ “คืนชีวิตสู่ความเรียบง่าย” ผมคิดว่า ชื่อเสียงก็จอมปลอม เงินทองก็จอมปลอม อะไรๆ ก็จอมปลอมไปเสียหมด สิ่งที่ผมควรได้ ควรมี คือสุขภาพที่แข็งแรง มีเพื่อนที่ดีสักจำนวนหนึ่ง ไม่ต้องมาก แต่ให้รักเขาเต็มที่เท่าที่เราจะรักได้  ทำดีกับเพื่อน พูดดีกับคนที่อยู่ใกล้ชิด

ตอนที่ทำงานหนัก จู่ ๆ ผมก็หันไปมองพัดลม มันมีฝุ่นเขรอะทั้งใบพัด ทั้งตัวเครื่อง พัดลมของผมไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน ตอนเด็กผมชอบทำความสะอาดพัดลมมาก ผมคิดว่า ถ้าใบพัดสะอาด สายลมเย็น ๆ ที่ส่งถึงเราจะสะอาดด้วย ไม่น่าเชื่อผมก็ลืมเรื่องเล็ก ๆ เรื่องนี้ไปได้ เพราะอะไร เพราะทำงานมากไป เพราะหวังความสำเร็จมากเกินไป หรือเพราะใส่ใจเรื่องราวเล็ก ๆ น้อยเกินไป

ผมนั่งนิ่ง ๆ คิดเรื่องพัดลมอยู่หลายนาที ในที่สุดผมก็ลงมือเช็ดพัดลมด้วยตัวผมเอง ตอนนั้นในบ้านมีพัดลมอยู่สามเครื่อง ผมถอดออกมาเช็ดและทำความสะอาดจนหมด จากนั้นก็หยอดน้ำมันและก็ประกอบส่วนกลับเข้าไปใหม่ ผมลองเปิดและพิจารณาดูมันทุกเครื่อง ผมรู้สึกดีขึ้น หายใจได้โล่งขึ้น มุมมองของชีวิตเริ่มเปลี่ยนไป

เพราะเรื่องพัดลมนี่แหละ ทำให้ผมครุ่นคิดเรื่องความสุขอันเรียบง่ายขึ้นมา ผมอ่านหนังสือ “คืนชีวิตสู่ความเรียบง่าย” ของเอเลน เซนต์ เจมส์ ซ้ำอีกครั้ง วันนั้นผมหยุดทำงานและนั่งอ่านหนังสือเล่มนี้

เอเลนบอกว่า ลองปล่อยมือจากภูเขาที่เราปีนป่าย ทิ้งเศษดินเศษทรายที่เราคอยตักตวงใส่กระเป๋าอันหนักอึ้ง แล้วปล่อยตัวดิ่งลงสู่ความว่างเปล่าเบื้องล่าง แล้วเราจะพบกับอิสระอันแท้จริง

เพราะเราเชื่อกันว่า หนทางสู่ความมั่นคงในชีวิตนั้นถูกขีดไว้บนภูเขาอันสูงชันให้เราได้ปีนป่ายอยู่เสมอ

“แท้จริงแล้วชีวิตคนเรานั้นสั้นนัก หากเรามุ่งแต่จะไปให้ถึงความสำเร็จโดยมีเวลาให้กับความสงบของชีวิตและความสุขของจิตใจเพียงน้อยนิด ชีวิตที่เหลืออยู่นี้จะมีประโยชน์อันใด”

หนังสือบอกอีกว่า งานที่พวกเราส่วนใหญ่ทุ่มเทเกือบทั้งชีวิตนั้นมิได้เอื้อต่อชีวิตที่งดงาม  เราเฝ้าแต่ปลอบใจว่า เมื่อถึงเวลาเราจะเอาเงินที่หาได้ไปใช้ในชีวิตบั้นปลายอย่างแสนสุข

แล้วใครจะบอกเราได้ว่าบั้นปลายของเรานั้นมาเร็วหรือช้าแค่ไหน
ผมจึงคิดว่า ชีวิตนั้นไม่แน่นอน ผมเห็นเพื่อนรุ่นเดียวกันตายไปหลายคน แล้วมีใครรับประกันได้ว่าผมจะไม่ตายบ้าง ผมจะบ้างาน หาเงินไปมาก ๆ เพื่ออะไรอีก มีคนชอบพูดกันว่า เพื่ออนาคตลูก ๆ  แต่พระเจ้าองค์ไหนจะรับประกันได้อีกว่า ลูกของผมจะอยู่หรือตายก่อนหรือหลังผม ความตาย ความเจ็บป่วยนั้นไม่มีใครบอกเราได้เลย

หลานรักของผมคนหนึ่ง ตายตั้งแต่อายุสิบเก้า ผมจึงคิดหยุดเรื่องการบ้าหาเงิน เลิกคิดการใหญ่ เลิกอยากเป็นนั่นเป็นนี่ ตัดบางเรื่องออกไป และทำงานเท่าที่ตัวเองสามารถทำได้ แค่พออยู่พอกิน ขงจื้อกล่าวว่า รวยจนเป็นเรื่องของชะตาฟ้าลิขิต

ผมออกกำลังกายทุกเย็น พยายามเดินให้ได้สี่หรือห้ากิโลเมตร ผมคิดว่า ถ้าร่างกายแข็งแรง เราก็ป่วยได้ยากขึ้น เพราะถ้าป่วย เราไม่มีทางมีความสุขได้เลย ไม่ว่าความสุขที่เกิดจากการอ่านหรือการเขียนก็ตาม ผมรักษาสุขภาพเพื่อให้ได้อ่านหนังสือ ได้เขียนอะไรต่อมิอะไรที่อยากเขียน เรื่องเงินเรื่องทองก็ปล่อยให้โชคชะตาฟ้าดินกำหนด แค่ระมัดระวังไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ไม่ลงทุนในกิจการใดก็ตามที่เราไม่ถนัด ผมไม่เชื่อเรื่องการแสวงหาความมั่งคั่ง ผมไม่เชื่อว่าคนรวยจะมีความสุขเสมอ แค่เขาอยากได้อะไรก็ได้มา แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะมีความสุขตลอดเวลา เพราะบางเรื่องหรือบางสิ่งบางอย่างนั้นเงินไม่อาจซื้อหามาได้

ตัวอย่างที่ดีที่สุดของผมก็คือความร่ำรวยของคุณทักษิณ ผมตระหนักได้ค่อนข้างแน่นอนว่า เขาไม่มีความสุข เขาร้อนรุ่ม เขาไม่มีความสงบในจิตใจ ไม่ว่าเขาจะมีเงินเท่าไร แต่เขาก็หาความสุขแทบไม่ได้เลย หน้าตาและคำพูดของเขาฟ้องทุกคนว่า เขาเป็นคนไร้สุขที่สุดคนหนึ่งของโลกใบนี้

พูดเรื่องรวยเรื่องจน บางคนก็ทนไม่ไหว บอกว่า ผมอาจจะเป็นประเภทองุ่นเปรี้ยว คือพอไม่สามารถหาเงินได้เท่าเศรษฐีก็คิดเข้าข้างตัวเองว่ารวยก็ไม่ได้ดีอะไรก็เลยบอกว่าเป็นคนจนดีกว่า

เรื่องนี้คงต้องเถียงกันจนตายไปข้างหนึ่ง เหมือนที่เราชอบถามกันว่าไข่กับไก่อะไรเกิดก่อนกัน

เมื่อวานผมซื้อนิตยสารswing มาอีกเล่ม เปิดดูรูปสนามกอล์ฟไปเรื่อย ๆ จนจบเล่ม แต่ละสนามนั้นสร้างแรงบันดาลใจหรือสร้างความอยากให้อย่างบอกไม่ถูก มันสวย และน่าตื่นเต้นมาก ถ้าหากเราได้เดินไปอยู่ในสถานที่สวย ๆ แบบนั้นบ้าง

ผมเจอคุณจรัญ หอมเทียนทองเจ้าของสำนักพิมพ์แสงดาวในงานหนังสือ ผมคุยกับเขาเรื่องกอล์ฟ เพราะเขาเล่นกอล์ฟมานาน เขาถามผมว่าไปเล่นที่สนามไหนมาบ้าง ผมบอกว่าที่วิสต้าเมืองเอก และที่สนามชลประทาน คุณจรัญบอกว่า สนามไม่ดี ต้องไปเล่นที่อัลไพน์ เขาเป็นสมาชิกอยู่ที่นั่น วันหลังเขาจะชวนผมไป เขาเล่าว่า เขามีรถตู้คันหนึ่ง มีคนขับเรียบร้อย หลังงานหนังสือเขาจะชวนผมไปอัลไพน์ และต่อด้วยสนามหัวหิน

พอพูดถึงเรื่องกอล์ฟตาเขาเป็นประกายแวววาว  เขาบอกว่า เรื่องวงการหนังสือไว้ค่อยคุยกัน เพราะเครียด คุยเรื่องกอล์ฟดีกว่า จากนั้นก็พูดกันถึงเทคนิคการเล่นของแต่ละคน เขาให้ข้อคิดอย่างหนึ่งว่า ถ้าเราตีแรง ลูกจะไปได้ไม่ไกล ถ้าตีตามสบายลูกจะไปได้สวยขึ้น

คุณจรัญเขามีสุขภาพดี หน้าตาขึ้งเครียด ดูเหมือนดุ แต่จริง ๆ แล้วมีจิตใจดีมาก เป็นห่วงวงการ ช่วยเหลือคน รักนักเขียน ดูแลนักเขียนที่ตกทุกข์ได้ยากอยู่เสมอ  ผมนับถือเขามานานหลายปี

ผมเล่าให้คุณจรัญฟังว่า ผมตามอ่านนิตยสาร swing ชอบดูรูปนักกอล์ฟ ชอบดูรุปสนามกอล์ฟ และก็อ่านคอลัมน์ต่าง ๆ ไปเรื่อยเปื่อย ผมเล่าว่าในหน้าสุดท้ายของนิตยสารฉบับนี้ มีบทความเรื่อง” เมื่อท่านผู้นำเล่นกอล์ฟ” เขาบอกว่า ประธานาธิบดีคนที่๓๕ ของสหรัฐอเมริกา จอห์น เอฟ เคนเนดี้ ชื่นชอบการเล่นกอล์ฟ ถ้ามีการจัดอันดับประธานาธิบดีที่เล่นกอล์ฟได้ดี เคนเนดี้คือโปรหมายเลข๑  ทว่าน่าเสียดายที่การหาเสียงก่อนหน้าเข้ามารับตำแน่ง เขาได้เปิดประเด็นโจมตีประธานาธิบดีคนก่อน ดไวท์ ดี.ไอเซนว่าเอาแต่เล่นกอล์ฟ  ไม่ยอมทำงาน นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้เจ้าตัวไม่สามารถเล่นกอล์ฟได้เท่าที่ควร

เจอรัลด์ ฟอร์ด ประธานาธิบดี คนที่๓๘ ของสหรัฐมีชื่อเสียงในการตีลูกกอล์ฟไปยังผู้ชม จนบ๊อบโฮพดาราตลกชื่อดังของฮอลลีวูดเคยหยอกล้อว่า “ถ้าผมจะเล่นกอล์ฟกับประธานาธิบดีฟอร์ดในก๊วนสี่คนต้องประกอบด้วย ฟอร์ด ผม บุรุษพยาบาล และหมอผี”

จอร์จ ดับเบิลยู บุช ประธานาธิบดีคนที่ ๔๓ ของสหรัฐ ตัดสินใจประกาศหันหลังให้กีฬากอล์ฟที่เขารัก เมื่อปี ๒๐๐๔ เพื่อเป็นการให้เกียรติและแสดงความเคารพต่อครอบครัวทหารที่เสียชีวิตในสงครามอิรัก เขามองว่า การเล่นกอล์ฟขณะที่ชาติยังอยู่ในภาวะสงคราม เป็นการส่งสัญญาณที่ผิด เขารู้สึกติดหนี้ครอบครัวบุคคลเหล่านี้  และต้องการแบ่งปันความรู้สึกกับพวกเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

บุช จำได้ว่า แซร์จิโอ อิเวร่า เด เมลโล หัวหน้าสำนักงานใหญ่สหประชาชาติที่กรุงแบกแดด เสียชีวิตในเหตุการณ์ระเบิดสำนักงานเมื่อ ๑๙ สิงหาคม ๒๐๐๔ เขากล่าวว่าคนดี ๆ อย่างเด เมลโล ถูกฆาตกรคร่าชีวิต แต่เขากลับทราบว่าเรื่องขณะเล่นกอล์ฟที่อยู่รัฐเท็กซัส ทำให้เขารู้สึกว่า ไม่คุ้มค่าที่จะเล่นกอล์ฟอีกต่อไป

ข้อมูลที่บันทึกไว้โดยซีบีเอสนิวส์ระบุว่า บุชออกรอบเล่นกอล์ฟครั้งสุดท้ายวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๐๐๔ หรืออีกสองเดือนต่อมา ส่วนในวันที่เกิดเหตุเขายุติการเล่นกอล์ฟหลังทราบข่าวขณะอยู่ที่หลุม ๑๒ และมุ่งหน้ากลับบ้านทันที
เรื่องกีฬากอล์ฟนี่อยู่ในหัวผมตลอดเวลา จนผมเขียนนิยายต่อไม่ได้เลย บางครั้งผมก็โทษว่า ผมเล่นเฟสบุ๊คมากไป คิดเรื่องกอล์ฟมากไป หรือไม่ผมก็อาจอยู่ในช่วงวัยทอง คือซึมเศร้าได้ง่ายมาก มีอะไรมาสะกิดนิดสะกิดหน่อยก็เศร้าใจอย่างบอกไม่ถูก ผมน่าจะเข้มแข็ง น่าจะหัวเราะได้บ่อย หรือพูดอะไรที่ทำให้มันสะใจบ้าง แต่ผมเปลี่ยนไปแล้ว เพื่อนสนิทสองสามคนก็บอกว่าผมเปลี่ยนไปมาก ที่เห็นได้ชัดก็คือผมไม่ด่าใครอีก ผมพูดน้อยลงและไม่ค่อยออกงาน

หรือเป็นเพราะผมแค่รักษาบรรยากาศที่หม่นหมอง และหดหู่ เอาไว้ให้ได้ ทั้งนี้เพื่อจะได้เขียนนิยายต่อให้จบ

ตั้งแต่หลานเดินทางมาจากตรัง ผมก็ขลุกอยู่กับพวกเขา แทบไม่ได้ทำงานการอะไรเลย วันหนึ่งหมดไปอย่างรวดเร็ว ด้วยการอ่านหนังสือ ฟังเพลง และเล่นเฟสบุ๊ค บางครั้งผมก็หงุดหงิดตัวเอง เฟสบุ๊คไม่เห็นจะได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา แค่ตัดใจ คลิกเดียว ปิดการสื่อสาร จบมันให้ได้

แต่ผมก็ทำไม่ลงอีก เคยทำมาแล้ว และก็รู้ดีว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
ผมจะจัดระเบียบตัวเองให้ลงตัวได้อย่างไร

วันเวลาที่ผ่านมา สองเดือนนี้ ผมทำอะไรบ้างล่ะ  เขียนเรื่องกอล์ฟเก็บไว้ ซ้อมกอล์ฟทุกเย็น ออกรอบทุกสัปดาห์ ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย ผมปล่อยให้เวลามันล่วงผ่านไปอย่างไร้ค่า มัวแต่คิด มัวแต่จด ๆ จ้องๆ เพราะคิดว่า เรื่องที่กำลังจะเขียนนั้นสุดยอด มีวิธีการเล่าที่แสนจะเพอร์เฟ็ค แต่ใครจะบอกได้อีกล่ะ ว่าเมื่อเขียนจบมันจะออกมาสุดยอดอย่างที่เราคิดไว้หรือเปล่า ความเลอเลิศในเรื่องเล่านั้นเราบอกเองไม่ได้ จนกว่าจะมีผู้อ่านมาบอกเรา
ถ้าเขาส่ายหน้านั่นก็หมายความว่า สิ่งที่เราคิด สิ่งที่เราเขียนลงไปนั้นมันล้มเหลว

มีคนเคยบอกผมว่า ไม่มีทางที่ผมจะสงบลงได้ เพราะชีวิตของผมนั้นมักจะหาเรื่องเข้ามาทำให้ทุกข์ใจได้ไม่จบสิ้น หากจบเรื่องนี้ก็ต้องไปเริ่มเรื่องใหม่ ผมเคยถามตัวเองเหมือนกันว่า ที่เขาพูดมาทั้งหมดนั้นจริงไหม

เมื่อคืนนอนคนเดียว ปล่อยให้พวกหลาน ๆ นอนในห้องแอร์ ผมย้ายขึ้นไปนอนในห้องสมุดบนชั้นสาม ปูฟูกนอน เปิดพัดลม ก่ายหน้าผากคิด และก็ได้คำตอบว่า ปล่อยมันไป ชีวิตก็เป็นอย่างนี้ อย่าไปฝืนมันอีกเลย ฝืนไปก็เหนื่อย แถมยังขัดแย้งกับธรรมชาติของตัวเองอีก

อีกวันเดียวก็จะจบงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติแล้ว อีกสามหรือสี่วันจะส่งหลาน ๆ กลับตรัง จากนั้นผมก็จะได้อยู่กับตัวเองอีก ตอนเย็นไปซ้อมกอล์ฟ กลางวันอ่านนิตยสารกอล์ฟ และก็นั่งรอให้เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เผื่อว่าใครสักคนโทรมาชวนให้ไปออกรอบด้วยกัน

ผมคิดว่ากอล์ฟได้ช่วยชีวิตเอาไว้ อย่างน้อยกอล์ฟก็เป็นกีฬาที่ทำให้เราได้ออกไปสู่สถานที่กว้าง โล่ง ทำให้อากาศดีถ่ายเทเข้าไปสู่ตัวเรา เพื่อนผมคนหนึ่งที่ตายไปแล้วบอกว่า “แค่ได้อากาศดี ๆ หายใจ เราก็น่าจะพอใจกับชีวิตได้แล้ว

ผมชอบประโยคนี้ของเขามาก จำได้เสมอ

จากคุณ : kajohnrit
เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 55 21:38:07




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com