กระแสทีมชาติไทยมาแรงแซงทางโค้ง หนึ่งในนักเตะที่ HOT สุด ๆ ณ วันนี้ คงไม่มีใครปฏิเสธ ธีราทร บุญมาทัน ได้ เนื่องในโอกาสวันพ่อปีนี้ มีโอกาสพูดคุยกับพ่อของน้องอุ้ม มาถ่ายทอดสู่ท่านผู้สนใจอ่านกันนะครับ
............................................................
ผม สมหมาย บุญมาทัน เรียกว่า หมาย กันทั่วไป พื้นเพเดิมเป็นคนพิจิตรครับ
จำได้เสมอไม่เคยลืม เพราะอุ้มเป็นลูกคนแรก น้องเกิดวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2533 เวลาบ่ายโมง 55 นาที ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎ
ชื่ออุ้มนี้ ป้าเขาตั้งให้ คือตอนนั้นอุ้มไปอุ้มมา ส่วนชื่อ ธีราทร นี่ ผมกับแม่เขาดูตามหนังสือ เกี่ยวกับการตั้งชื่อพบว่ามีความหมายดีก็เลยตั้ง
เลี้ยงไม่ยากครับ ช่วงนั้นที่บ้านลำบาก แม่เขาต้องไปทำงานเข้ากะ ผมก็ดูแลเอง ชงนม เช็ดหนักเช็ดเบา นอนกอดหลับในอ้อมแขนเกือบทุกวัน
อุ้มเรียนอนุบาลแถวลาดพร้าว พอประถมก็มาอยู่เมืองนนท์เรียนแถวบัวขวัญถึง ป. 3 พอ ป. 4 - ม. 3 กลางเทอมเรียนที่โรงเรียนกีฬา ของกรุงเทพมหานคร หลังจากนั้นก็เข้าอัสสัมชัญธนบุรีจนจบ ม. 6
ก็ชอบฟุตบอลมาตั้งแต่เด็กเลย ผมเองก็เป็นนักฟุตบอลบางทีนึกไปก็สงสารลูก สมัยก่อนพาไปสนามบอลด้วยตัวเองก็ลงเตะบอลมืดค่ำ ยุงกัดลูกเต็มไปหมด
สอนตลอดเมื่อเด็ก ๆ ว่าถ้าหนูอยากเก่ง หนูก็ต้องอดทนสู้ ขยันซ้อม คือตอนนั้นก็ไม่คิดว่าจะมาไกลขนาดนี้ คิดว่าแค่มีที่เรียนฟรีมีงานทำก็พอแล้ว
เขาก็เติบโตในเส้นทางฟุตบอลมาตามลำดับ บุรีรัมย์ก็มีส่วนอย่างมากที่ผลักดันลูกมาถึงวันนี้ ที่เห็นชัดเจนก็คือเมื่อก่อนนั้นผอมมากไม่แน่นเลย ทีนี้พอไปอยู่ที่บุรีรัมย์มีทีมงานดูแลการออกกำลังกาย ลูกโตขึ้นมาก
โดยนิสัยส่วนตัวนั้นเขาเป็นคนเรียบร้อย ไม่หวือหวาตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยสร้างปัญหาอะไรเลย กับคนที่ไม่คุ้นเคยจะไม่กล้าคุยด้วย ส่วนในสนามฟุตบอลตั้งแต่เด็กมาแล้ว ที่จะไม่ยอมแพ้ สู้ทุกอย่าง
ไม่มีโรคประจำตัวแต่ตอนเด็กๆผิวด่างๆเหมือนเกลื้อน แต่เรื่องแข็งแรงนี่แข็งแรงจริง ๆ ไม่ค่อยหาหมอ
การที่เขาจะเลือกคบใครก็ให้อิสระเขา ไม่เคยบังคับว่าจะต้องเป็นแบบไหน เขาก็จะปรึกษาพ่อตลอดในเรื่องต่าง ๆ ผมจะสนิทกับเขามากมีอะไรจะคุยกับผมตลอด
เมื่อก่อนนั้นทุกวันพ่อเขาก็จะซื้อทองให้ทุกปี หลังสุดเขาก็ซื้อรถให้คันหนึ่ง เห็นผมลำบากงานที่ทำก็บอกให้หยุดได้แล้ว เราเองก็เหงา ๆ ไม่ทำก็อยู่เฉย ๆ ก็ทำมาเรื่อย ไม่เคยเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิต
เขาก็ซื้อบ้านหลังหนึ่งจากที่นี่ไปประมาณกิโล ด้วยน้ำพักน้ำแรงเขาเอง เขาก็บอกว่าให้พ่อ
ก็พยายามไปดูไปเชียร์ลูกทุกนัดเท่าที่ไปได้ บางทีไกลแค่ไหนเดินทางลำบากก็ไป อย่างที่บุรีรัมย์ก็ไปเกือบทุกนัด
อาหารการกินก็ชอบฝีมือพ่อ ผมเองก็รู้ว่าเขาชอบทานยำปลาดุกฟู บอกเวลาไหนก็ทำให้ทานทันที
สิ่งที่ห่วงเขาก็คงเป็นเรื่องอารมณ์ อารมณ์ที่มุ่งมั่นจริงจัง จนบางทีอาจจะควบคุมตัวเองไม่ได้ เขาเป็นคนที่อ่อนไหว บางครั้งบอลชนะหรือแพ้ ก็ร้องไห้ มาถึงบ้านก็ซึม
การขับรถก็ห่วงมาก เขาขับเร็วบางครั้งบอลจบสามทุ่ม ก็ขับมาบ้านจากบุรีรัมย์มาถึงก็ดึกเกือบสว่าง นั่งด้วยนี่กลัว บอกเสมอว่าอย่าขับเร็ว อย่าประมาท เขาก็บอกว่า อุ้มไม่เคยประมาท
อีกเรื่องหนึ่งที่ห่วงก็คือ เรื่องที่ทำอะไรลงไปโดยไม่คิดให้รอบคอบ เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงอย่างเรื่องชูผ้าพันคอ ซึ่งวันนี้ก็ได้คุยกันเรื่องนี้ เขาก็บอกว่าไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้อ่านว่าข้อความเป็นอะไร ก็บอกไปว่าทีหลังให้รอบคอบกว่านี้
ก็ภูมิใจในตัวลูก ซึ่งก็คงเป็นธรรมดา อยากให้ลูกเจริญเติบโตในเส้นทางฟุตบอล เพื่อสโมสรและเพื่อทีมชาติไทย
พ่ออยากจะบอกหนูว่า พ่อรักหนูมาก เป็นห่วงหนูทุกวัน ทุกครั้งที่หนูเป็นข่าว พ่อติดตามตลอด ขอให้หนูเป็นคนดี ดูแลตัวเองให้ดี สำหรับพ่อกับแม่รวมทั้งน้องชาย พร้อมที่จะเป็นกำลังใจให้หนูเสมอ
.....................................................................
เครดิต : เพจ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 3 ธันวาคม 2555
แก้ไขเมื่อ 04 ธ.ค. 55 00:14:29
จากคุณ |
:
monton UFO
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ธ.ค. 55 00:13:16
|
|
|
|