ความคิดเห็นที่ 1 ไปด้วยคนนะครับน้องแชมป์ พี่ยังไม่เคยไปเลย ภูกระดึง ดึ่ง ดึ้ง เนี่ยย เอ๊ะ คุ้นๆว่า Work and Travel ยังรีวิวไม่จบช่ายป่าว (แอบทวงด้วยเลย) 55 จะรีวิวชุดไหนก็รอชมครับ ชอบอ่านรีวิวของน้อง เขียนเก่ง อ่านแล้วเพลินดี  จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 13:16:45

ความคิดเห็นที่ 2 วิชาเรียนของผมเตรียมตัวให้ผมพร้อมสำหรับการทำงานอย่างแท้จริง เพราะเราไม่ได้รับอนุญาตให้ปิดเทอม คือรายงานมันกินเวลามา แล้ววันที่นัดนำเสนอ มันก็เป็นอาทิตย์สุดท้ายของการปิดเทอมไปแล้ว เวลาปิดเทอมก็เหลือนิดเดียวเองครับ ...ไม่เป็นไร ผมวางแผนว่าวันที่ 1 พรีเซนต์ วันที่ 2 จะไปปล่อยผีบนภูแต่ครั้นใกล้วัน ผมก็มีอาการแปลกๆ อยู่ดีๆ ขาชาๆ ด้านๆ ไร้ความรู้สึก ชนเก้าอี้แล้วไม่เจ็บ ไปหาหมอ หมอบอกว่าสงสัยจะเครียดมากไป... ตอนนี้ไม่เครียดงานละ เครียดว่าขาหมูด้านๆ อันนี้จะเดินขึ้นภูไหวมั้ยมากกว่า พอใกล้ๆ วัน หัวใจมันก็งอแง เดี๋ยวอยากไป เดี๋ยวไม่อยากไป แต่วันสุดท้าย ผมตัดสินใจแน่วแน่... วันนั้นหัวใจไม่สบาย อำนาจของการแอบชอบคนคนนึงมันเล่นงาน ผมตัดสินใจไปปีนภูครับ นาทีนี้ไม่กลัวเหนื่อยตาย ขาชาตาย... รู้แต่ว่าถ้านอนอยู่บ้านอีก 7 วันนี้ เหงาตายแน่ๆ จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 13:19:38

ความคิดเห็นที่ 3 ไปภูกระดึงด้วย ครับ จากคุณ : One Light One Shadow เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 13:23:37

ความคิดเห็นที่ 4 นึกแล้ว... ว่าต้องมีคนทวงของ 555+ สวัสดีครับคุณกาแฟ อเมริกาขอดองอีกแป๊ปครับ : ) ไปภูกันก่อนๆ รถทัวร์ออกจากหมอชิตตอนสามทุ่มกว่าๆ ตีสี่กว่าๆ ก็มาจอดตรงผานกเค้า จุดหมายเริ่มต้นของคนปีนภูครับ ตรงนั้นมีร้านเจ๊กิม เจ๊แกเป็นผู้ผูกขาดกิจการข้าวแกง และบริการที่ล้างหน้าแปรงฟันเพียงรายเดียว ใครไปตรงนั้นก็ต้องเข้าร้านเจ๊กิมนี่แหละ แปรงฟันกันแล้วก็ไปทานข้าวเช้า รอฟ้าสางกันนะครับ จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 13:25:40

ความคิดเห็นที่ 5 นอกจากเจ๊กิมจะขายข้าวที่มีราคาแพงนิดนึง และมีความอร่อยนิดนึงแล้ว ... หน้าร้านยังมีแผงขายหมวกไหมพรม ถุงมือราคาไม่แพงเท่าไหร่ ใครที่ไม่ได้เตรียมมา จะลองซื้อติดขึ้นไปบนภูก็ได้นะครับ เวลาหนาวๆ ก็ช่วยได้ แต่ถ้าดูแบบแล้วยังไม่ถูกใจ ให้ข้ามถนนไปอีกฝั่งโลด จะพบดงหมวกไหมพรมของจริง จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 13:29:54

ความคิดเห็นที่ 6 พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น แต่ก็เริ่มมีแสงรำไรทำให้เห็นหน้าตาผานกเค้า จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 13:31:53

ความคิดเห็นที่ 7 เพิ่งลงมาหยกๆแต่ขอตามจขกท.ไปด้วยคนนะคะ คิดถึงจริงๆเลย...ภูกระดึง ^^ จากคุณ : Creatrips เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 13:32:28

ความคิดเห็นที่ 8 สวัสดีครับ คุณ OLOS เชิญมาพร้อมๆ กันเลยครับ : ) เวลามาร้านที่เป็นชื่อคนแบบนี้ ผมเชื่อว่าหลายๆ คนจะต้องสงสัยว่า คนๆ นั้นคือใคร เช่น น้ำพริกแม่จู้ หม้อแกงแม่กิมทั้งหลาย วันนี้มีเพื่อนผมสงสัยว่าใครคือเจ๊กิม ทำไงดีล่ะ ไอ้คิดเสนอ "เมิงก็ตะโกนสิ "เจ๊กิม!!" คนไหนหันก็คนนั้นแหละ" บิ๊กส่ายหน้า "มีวิธีอารยะกว่านั้น เดินไปถามเค้าก็ได้ว่า เจ๊กิมคือใครครับ" - -" ... ปรากฏว่าเจ๊กิมเป็นหญิงสูงวัย มีลูกสาวเป็นลูกแม่โดมครับ วิธีจะไปทางขึ้นภู จากร้านเจ๊กิม ก็ให้นั่งรอจนพระอาทิตย์ขึ้น อุทยานฯ เปิดทำการ ค่อยหารถสองแถวที่จอดรออยู่หน้าร้าน ไปที่ตีนภูกระดึงครับ ค่าบริการ เที่ยวละ 300 บาท ก็หารกันตามจำนวนผู้โดยสาร จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 13:40:06

ความคิดเห็นที่ 9 เพื่อนผมเป็นสิ่งมีชีวิตที่ตอบสนองต่อสิ่งเร้าไวมาก ตอนแรกก็เห็นนั่งหน้ามึน ปล่อยให้ขนจมูกพลิ้วไหวตามลมแรงขณะที่รถสองแถวซิ่งไป พอคว้ากล้องเท่านั้นแหละ หน้าเปลี่ยนไม่เหลือเค้าเดิมเลย จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 13:43:40

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่นานก็มาถึงที่ทำการ ตรงนั้นเรียกว่า ที่ทำการอุทยานศรีฐาน แต่ละคนรับผิดชอบสัมภาระของตนเอง พกมามากบ้างน้อยบ้าง ขึ้นอยู่กับสไตล์การใช้ชีวิต อีกสักครู่ เมื่อชำระค่าผ่านประตูอุทยาน คนละ 40 บาทแล้ว เราก็จะนำสัมภาระเหล่านี้ไปให้ลูกหาบช่วยนำขึ้นไปครับ จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 13:47:41

ความคิดเห็นที่ 11 ปาดขวาคะ ^^ ว่าจะไปปลายเดือนหน้า ตามมาเก็บข้อมูล จากคุณ : korlela เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 13:48:16

ความคิดเห็นที่ 12 คุณ Creatrips เจอเมเปิลแดงรึเปล่าครับ : ) ที่เห็นข้างบนนั้น ขอเรียกว่ากระเป๋าปกติละกัน ส่วนใบที่จะเห็นต่อไปนี้ จะเรียกว่าอะไรดีล่ะ ...ปลวกทอดสามรส ยิ่งเอ๊ย แกจะไปปารีสหรือไปภูกันแน่ จริงๆ ผมตกใจตั้งแต่เห็นครัง้แรกที่หมอชิตแล้วล่ะ แต่จริงๆ แล้ว เห็นอีกกี่ทีก็อดทึ่งไม่ได้ เนื่องจากยิ่งเป็นหญิงบอบบางร่างเล็ก ผู้ชายอกสามศอก (ทั้งหมดสิบคน รวมเป็นสามสิบศอก) ต้องผลัดกันรับผิดชอบกระเป๋าของเธอ อยากรู้จริงๆ ลูกหาบเห็นเข้า จะทำหน้ายังไง จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 13:52:56

ความคิดเห็นที่ 13 ตามไปภุกระดึงด้สยครับ...ชอบๆๆๆ จากคุณ : ชายเอ ทุ่งรังสิต เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 13:53:57

ความคิดเห็นที่ 14 คุณ korlela ขอออกตัวก่อนนะครับ ว่าข้อมูลอาจไม่ละเอียดนัก แต่ว่าดูเป็นน้ำจิ้มก็พอไหวครับ : ) ช่วงนั้นคนคงเยอะนิดนึง ภูคึกคัก ลูกหาบจะดูแลแบกสัมภาระของเราขึ้นไปให้จนถึงที่พักบนยอดภู คิดราคากิโลรัมละ 15 บาท เมื่อเทียบกับการทำงานหนักของพวกเขาแล้ว 15 บาทนี้ ไม่แพงเลยครับ จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 13:55:15

ความคิดเห็นที่ 15 ที่น้ำตกถ้ำใหญ่ก็แดงซะ... ส่วนเพ็ญพบใหม่ก็แดงกำลังดี ^^ จากคุณ : Creatrips เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 13:56:07

ความคิดเห็นที่ 16 ข้อมูลเรามีอยู่แล้วคะ :) แต่ตามมาดูแบบอัพเดทสุดๆ ปล.เมื่อกี้ว่าจะปาดขวาแต่ไม่ขวา 55 จากคุณ : korlela เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 13:56:57

ความคิดเห็นที่ 17 ผมไม่บึกบึนพอจะแบกของขึ้นไปด้วยตนเอง แต่เพื่อนบางคนพลังเยอะ บอกว่าไม่ได้แบกขึ้นไปจะไม่ได้ฟีล อันนี้ก็ตามใจนะครับ ก่อนออกเดินทาง เราจะแบ่งหมู่กันก่อน เวลาเช็คคนจะได้เช็คง่ายๆ ช่วยกันเดินไปพร้อมๆ กัน โอน้อยออก! จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 13:58:17

ความคิดเห็นที่ 18 โอน้อยมาแล้ว ปรากฏผลดังนี้ครับ รูปแนวนอน เป็นหมู่กระเจียว มีสัญญาณเรียกแถวว่า "กระเจียว ตรง" "กระเจียว ชูชัน" อย่ามาว่าอะไรผมนะ ผมไม่ใช่คนคิด -*- หัวหน้าหมู่คือบิ๊กที่อยู่บนเสา ผมอยู่อีกหมู่ครับ หมู่กะเหรี่ยง มีซอมพอ สตรีผู้เชี่ยวชาญพนาไพรเป็นหัวหน้า นี่ถ้าระหว่างทางมีเถาวัลย์ ชีคงโหนไปถึงยอดภูได้ไม่ต้องเดิน จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 14:02:16

ความคิดเห็นที่ 19 ทางขึ้น ช่วงหน้าหนาวมันดีตรงที่ไม่มีโคลนนี่แหละครับ ขนาดแห้งๆ บางทียังกลัวจะลื่น ถ้ามีโคลนก็คงดูไม่จืดเลย เรื่องรองเท้า ผ้าใบเหมาะที่สุด แต่เห็นบางคนใส่แตะรัดส้น ผมคิดว่าก็โอเคนะ แล้วแต่ถนัด... มีรองเท้าอีกชนิดจะนำเสนอ เค้าเรียกสตั๊ดดอย ทำจากยาง พื้นเป็นปุ่ม เกาะพื้นผิวดีเยี่ยม ราคาแปดสิบกว่าบาทครับ ซื้อได้ตรงทางขึ้นภู พวกลูกหาบที่ปีนกันเทพๆ ก็ใส่สตั๊ดดอยนี่แหละ แล้วก็เวลาเดินขึ้น ค่อยๆ เดินครับ เดี๋ยวก็ถึง หาไม้ไผ่เหมาะมือสักอันก็ดีนะครับ ค้ำยันมั่นคงดี จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 14:06:13

ความคิดเห็นที่ 20 ช่วงแรกของการปีนขึ้น ระยะทาง 1 กิโลเมตร ทางชันๆ พอให้ท้าทายและเหนื่อยหอบได้ จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 14:08:43

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่นานก็ถึงที่พักแรก ซำแฮกครับ เย้ๆๆๆๆ 1 กิโลเมตรแล้ว 1 กิโลเมตรจากทั้งหมด 5 กิโลเมตรครึ่ง!!! ไอ้ท่อนหลังไม่ต้องใส่ใจก็ได้ครับ เดี๋ยวจะห่อเหี่ยว ขี้เกียจแล้วเดินลงภูไปซะดื้อๆ ในความคิดผมนะ ผมว่าซำก็คือโอเอซิสกลางทะเลทราย เพราะมีขนม น้ำ อาหารบริการเติมพลังก่อนจะไปสู้กันต่อ ป้าขายของประจำถิ่น บอกว่า ซำ หมายถึง ที่ที่มีน้ำ ครับ จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 14:12:41

ความคิดเห็นที่ 22 ตามไปเที่ยวด้วยครับ น่าสนุกจัง จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 14:16:10

ความคิดเห็นที่ 23 แค่ซำแรก วิวก็สวยแล้ว พวกเรายังพอมีแรง เลยตัดสินใจทำเวลา เก็บท้องไว้ไปอุดหนุนร้านคาที่ซำต่อๆ ไปแทน แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 53 17:18:02 จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 14:17:04

ความคิดเห็นที่ 24 คุณม่วงมหากาฬ กับคุณชายเอฯ เชิญเลยครับ : ) ทางขึ้นภูกระดึงไม่ได้โหดร้ายเกินไปหรอกครับ ค่อยๆ เดิน เหนื่อยก็พัก ใครที่ยังอยากไปแต่กลัวร่างกายไม่ไหว ถ้าไม่ได้มีปัญหากระดูกกล้ามเนื้อต่างๆ ผมเชียร์นะ ไปเถอะ ของแบบนี้อยู่ที่ใจ ระหว่างทางเจอคุณป้า (จริงๆ จะเรียกคุณยายก็ไม่ผิดนัก) มาเที่ยวกับลูกหลานวัยหนุ่มสาว สู้ๆ นะครับ เผลอนิดเดียว (แต่เหนื่อยไม่นิด) ก็มาถึงซำกอซาง ณ จุดนี้ คงต้องกินแล้วล่ะ จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 14:21:45

ความคิดเห็นที่ 25 อาหารยอดฮิตอย่างส้มตำ ไข่ปิ้ง ก็มีขายนะครับ คุยกับป้าที่ขายของ แกบอกว่าต้องเดินขึ้นเดินลงทุกวัน ของก็ต้องจ้างขนขึ้นมา น้ำแข็งก็มากันวันต่อวัน ถ้าไม่มีลูกหาบ ชีวิตบนภูกระดึงคงเป็นอัมพาต... ร้านค้ามี่หลายร้านครับ แต่ละร้านก็แข่งกันเรียกลูกค้าเต็มที่ ยิ่งวันที่พวกเราไปนั้น มีขึ้นภูกันแค่ไม่กี่กลุ่ม แม่ค้ายิ่งต้องแข่งกันเรียกให้พวกเราช่วยกันกระจายรายได้ จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 14:26:04

ความคิดเห็นที่ 26 ป้ามุกมิก ซำกอซาง ผมจำป้าแกได้แม่น ป้าไม่ต้องเรียนการตลาดให้มากความ ... แกสามารถมัดใจลูกค้าได้ไม่ยากจากรอยยิ้ม อัธยาศัย และการขายชนิดฮาร์ดเซลล์ เซเว่น ธรรมดา ซื้อน้ำแล้วอาจถามแค่เอาขนมจีบซาลาเปามั้ย เทียบกับป้าแล้ว แกคงถามว่า เอาขนมจีบ ซาลาเปา โอวัลติน แฟ้บ ที่ตัดเล็บ ทิชชู่ โซฟี มั้ยคะ อะไรประมาณนั้น แล้วป้าแกช่างชมมากครับ (เอ๊ะ หรือเรียกช่างยอดี) "โอ๊ยยย หนุ่มๆ มธ. หน้าตาหล่อ ขากลับมาแวะร้านป้านะ จะเลี้ยงส่งเต็มที่ กินไอติมมั้ยลูก" คนบ้ายออย่างผมติดกับเข้าแล้วสิ ยิ่งเกิดมาไม่ค่อยมีใครชมอยู่ เลยได้ไอติมกะทิราดนมข้นมา อร่อยดีครับ จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 14:31:05

ความคิดเห็นที่ 27 ตามเด็กๆ มาเที่ยวภูกระดึงด้วยคนนะจ๊ะ เล่าเรื่องสนุกดีนะ ปล.1 ภาพเปิดกระทู้สวยมาก ปล.2 เห็นภาพบรรยากาศใน #9 แล้วคิดถึงสมัยตอนเป็นวัยรุ่นจัง เหมารถสองแถวจากในมอไปถึงตีนภูเลย แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 53 14:46:26 จากคุณ : adangrawi เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 14:44:42

ความคิดเห็นที่ 28 คิดถึงเมื่อครั้งกระโน้น....  ที่ไปกะเพื่อนๆ   ซื้อเสบียงไปตุนบนภูซะคิดว่าเป็นร้านสะดวกซื้อได้เลยทีเดียว เร็วๆนี้จะได้ไปอีกไหมนะ จากคุณ : ไม้จิ้มฟันจระเข้ เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 14:50:51

ความคิดเห็นที่ 29 .. หายไปนาน  แอบไปปีนภูอยู่นี่เอง เรื่องราว - เทคนิคการเล่าเรื่อง ยังเต็มไปด้วยอารมณ์สนุกๆเช่นเคยนะครับ เพียงแต่คราวนี้ ไม่ได้เป็นทริปชายล้วนแล้ว ... ค่อยน่ารื่นรมย์กว่าเดิมหน่อย .. จากคุณ : POGGHI เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 14:51:30

ความคิดเห็นที่ 30 ไปด้วยคนสิ... จากคุณ : ^แอ๊บหมู^ เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 14:59:10

ความคิดเห็นที่ 31 ตาม ๆๆๆๆ จากคุณ : เพราะรัก (blovech) เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 15:06:41

ความคิดเห็นที่ 32 รอชมคร้าบ จากคุณ : นักเที่ยวตัวยง เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 15:10:08

ความคิดเห็นที่ 33 ไปปีนภูด้วยคนจ้า เห็นแล้วคิดถึงภูกระดึงจัง ไปมาเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ตอนนี้เริ่มไม่มั่นใจในสังขารอ่ะ จากคุณ : bow_bb เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 15:19:35

ความคิดเห็นที่ 34 เล่าเรื่องได้สนุกและน่าติดตามมากค่ะ จากคุณ : ถึงอ้วนก็รัก เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 15:28:28

ความคิดเห็นที่ 35 ขอโทษที่หายไปครับ ไปกินก๋วยเตี๋ยวปากซอยมา : ) สวัสดีครับทุกๆ ท่าน ตามไปเที่ยวกันต่อนะครับ คุณ adangrawi คุณไม้จิ้มฟันจระเข้ พี่ป๊อก คุณแอ๊บหมู คุณเพราะรัก คุณนักเที่ยวตัวยง คุณ bow_bb แล้วก็คุณถึงอ้วนก็รัก ด้วยนะครับ (ชอบชื่อล็อกอินจัง ฮ่าๆ) หลังจากป้ามุกมิกขายของจนหนำใจ แกก็เอาแผนที่มาให้ดู "อยากรู้มั้ยจะหนุ่มหล่อ.." (หนุ่มหล่ออีกแล้ว - -") ตอนนี้หนูเดินถึงไหนกันแล้ว" คือ ไอ้ที่เดินผ่านมาแล้วน่ะ ผมทำสีแดงไว้ครับ แล้วที่เหลือ โอ้โห ชันเป็นบ้าเลย เห็นแล้วชักถอดใจ จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 15:39:34

ความคิดเห็นที่ 36 "พักอีกไม่นานนะ..." เพื่อนผมที่รับหน้าที่หัวหน้าทริปบอกเพื่อน หันไป เอ๊ะ นั่นลุงแบกอะไรมา คุ้นๆ นะ... ยิ่งก็นั่งหน้าแดง  ปากก็บอกใหญ่ว่าคราวหน้าขอแก้ตัว เธอบอกว่าหนหน้าจะเอากระเป๋ามาแบบที่คนธรรมดาเค้าใช้ พูดถึงเรื่องลูกหาบ ก็เข้าใจนะครับว่าเป็นวิถีชีวิตของชาวบ้านในแถบนั้นไปแล้ว ช่วงฤดูท่องเที่ยว หาบของขึ้นก็ได้รายได้เลี้ยงครอบครัวไม่น้อยเลยทีเดียว ผมเห็นแล้วก็คิดว่าเค้าคงเหนื่อยมาก แม้มันจะเป็นอาชีพที่ต้องทำ แต่มันก็ดูเป็นอาชีพที่เหนื่อยเหลือเกินน่ะครับ แอบสงสารอยู่ เพราะลูกหาบไม่ได้มีแค่ชายหนุ่ม ทว่ามีหมดเลย ตั้งแต่ชายชรา หญิงสาว หญิงชรายังมีเลย เพื่อนผมคุยกับลูกหาบคนนึง เค้าเล่าว่าบ่อยครั้ง ต้องฉีดสเตียรอยด์เพื่อให้ร่างกายสามารถทานทนกับการปฏิบัติงานที่หนักหน่วงเช่นนี้ รู้อย่างนี้แล้ว ไม่สบายใจเลยครับ จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 15:49:14

ความคิดเห็นที่ 37 หลังจากต่อให้คุณลุงหาบได้สักพัก พวกเราก็ออกเดินทางต่อ วิวระหว่างทาง ต้นไม้ใบหญ้ายังเขียวชอุ่มชวนมอง... แต่ด้วยความล้า บางทีเราก็เดินก้มหน้ากันอย่างเดียว เวลาอย่างนี้แหละ ที่ทำให้รู้ได้ว่าคนที่เดินไปกับเราน่ารักแค่ไหน เพื่อนหลายๆ คน ยังเดินเร็วได้อีกมาก แต่ก็ช่วยกันผ่อนๆ แรงมาดูแลเพื่อนๆ ที่เดินขึ้นช้าๆ ... ไปพร้อมๆ กัน สนุกพร้อมกัน ถึงช้าหน่อยไม่เป็นไรครับ จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 15:53:57

ความคิดเห็นที่ 38 มารอชมต่อครับ น่าสนุกดีจัง หนุ่มๆ สาวๆ แรงยังดีต้องเที่ยวตุนไว้ก่อนครับ จากคุณ : Kriti64 เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 15:56:37

ความคิดเห็นที่ 39 ยืนยันอีกที ว่าทางเดินไม่โหดมากหรอก เหนื่อยไม่มาก แต่เมื่อยมากเท่านั้นเองครับ ทางเดินที่่เทพื้น มีราวกั้นแบบนี้ มีแค่ไม่กี่จุดครับ จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 15:57:19

ความคิดเห็นที่ 40 คุณ Kriti64 เดี๋ยวช่วยผลักๆ ดันๆ ผมขึ้นไปหน่อยนะครับ ขาเริ่มอ่อนแล้ว 555 บางช่วงชันนิดนึง เอามือผลักช่วยก็สบายมากครับ จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 15:59:04

ความคิดเห็นที่ 41 เดินช้าๆ นอกจากจะได้ประหยัดแรงแล้ว ยังได้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง ที่ไม่มีทางเห็นได้ถ้าเดินจ้ำอ้าว ไม่ใช่แค่เฉพาะบนภูนี้นะครับ เส้นทางประจำในเมืองที่วุ่นวาย แค่เดินช้าลงหน่อย ก็คงเห็นของสวยงามที่ปกติมองไม่เคยเห็น จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 16:02:26

ความคิดเห็นที่ 42 เมื่อกี๊เห็นแมลง พอแหงนหน้าขึ้นข้างบนก็พบว่า วันนี้เราไม่ได้อยู่ในห้องเลคเชอร์ มองไปไม่เจอหลอดฟลูออเรสเซนต์... ...เราอยู่ในป่า เพื่อนที่ชื่อเฟินบอกว่า "ความรู้สึกตอนนี้ ไม่อยากเชื่อว่าเป็นความจริง มันรู้สึกเหมือนอยู่ในทีวี..." เธอคงรู้สึกแบบนั้นเพราะเดินอยู่ข้างๆ ผมอะครับ ผมเข้าใจของผมเองว่า ... ผมเป็นพี่ติ๊กแห่งรายการเนวิเกเตอร์ จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 16:08:59

ความคิดเห็นที่ 43 ไปด้วยๆๆดีนะยังทัน ไป 2 ครั้งแล้วแต่ก็ยังอยากไปอีกอยู่ดี จากคุณ : ajcha3557 เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 16:10:05

ความคิดเห็นที่ 44 ในระหว่างเดินขึ้นภู เราจะได้ผ่านป่าหลายประเภท จากวิชาภูมิศาสตร์ จำได้ว่าเขาจำแนกป่า ตามระดับความสูง และสภาพอากาศ ซึ่งส่งผลให้พืชต่างชนิดเจริญเติบโตได้ดีในแต่ละพื้นที่ พวกเราโชคดีครับ สัปดาห์ที่ผ่านมา เค้าบอกว่าฝนตกไม่ลืมหูลืมตา พอพวกเรามาปุ๊บ ไม่จำเป็นต้องปักตะไคร้ ฟ้าก็ใสอำนวยจริงๆ กระนั้นก็ตาม ร่องรอยความชุ่มชื้นยังคงมีให้เห็น... แต่อีกไม่นานก็คงทยอยจางไป เมื่อฤดูหนาวมาเยือนอย่างเป็นทางการ แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 53 16:17:09 จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 16:15:40

ความคิดเห็นที่ 45 ขอตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ จากคุณ : บ้านนี้มีสุข เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 16:20:45

ความคิดเห็นที่ 46 คุณ ajcha3557 ไปรอบที่สามกับพวกเรานะครับ "เมื่อไหร่จะถึง..." คำถามนี้มันคลาสสิค ถามกันแล้วถามกันอีก จนกระทั่งได้คำตอบจากคนที่เดินสวนกลับลงมา "น้องไปถึงบันไดชันๆ เมื่อไหร่ ก็แปลว่าใกล้จะถึงแล้ว" เดินไปก็ได้แต่สงสัย บันไดมันหนีไปเล่นซ่อนแอบอยู่หรือเปล่า จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 16:21:30

ความคิดเห็นที่ 47 คุณบ้านนี้มีสุข มาปีนกันต่อ อีกไม่ไกลครับ ทางเดินจากซำสุดท้าย (ซำแคร่) ไปถึงหลังแป (ยอดภู) ระยะทางประมาณเกือบกิโลครึ่ง ช่วงนี้ทางจะชันและแคบมากครับ เดินขึ้นลงก็ต้องหลบๆ กันบ้างตามซอกหิน การเดินสวนกันย่อมมีการสื่อสารภาคบังคับ คนขึ้นมักจะถามก่อน "อีกไกลไหม" คนลงก็จะตอบ "โอ๊ย ไม่ไกล นิดเดียวๆ จะถึงแล้ว" คำตอบแบบนี้ก็เหมือนจะเป็นคำบังคับ ยังไม่เคยเจอใครเลยที่ตอบว่า "โอ้โห โคตรไกลเลยน้อง เดินกันหนักกว่านี้อีกสิบเท่า" อะไรแบบนี้... ไม่ว่ามันจะเป็นคำตอบจริง หรือคำตอบหลอกที่ประสงค์จะให้กำลังใจ การได้คุยกับใครสักคนระหว่างทาง มันก็เป็นความรู้สึกที่ดี เฮ้ย.... นั่นมัน.... จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 16:29:21

ความคิดเห็นที่ 48 นั่นมันบันได!!! แปลว่าเราใกล้จะถึงแล้ว ดูจากรูปสิ จะปีนขึ้นยังไง ถ้าไม่มีอะไรช่วย จะสร้างลิฟต์กดขึ้นลงก็คงไม่งาม กรมอุทยานฯ เลยสร้างบันไดแทน ตอนแรกก็... ก็เอ้อ บันได แล้วไงล่ะ... พอเหยี่ยบขั้นแรก ... "ไอ้บันได %$#WF" คือแบตเตอรี่ขาเสื่อมแล้วครับ รู้ซึ้งถึงรสชาติก็คราวนี้ เกิดมาไม่เคยคิดว่าการปีนบันไดจะลำบาก การขึ้นบันไดชันๆ นี้ นอกจากจะต้องรับผิดชอบตัวเองให้ขึ้นไปได้ถึงข้างบนแล้ว ยังต้องเผื่อจิตคิดถึงสังคมบ้าง ถ้าปล่อยให้ตัวเองตกลงมาข้างล่าง คนเจ็บตัวมีเป็นแถวเลยนะครับ ยิ่งข้างหน้าผม ไอ้เก่ง เพื่อนที่มวลเกือบร้อยโลปีน ปีนไปด่าบันไดไป ยิ่งต้องลุ้น "เมิงอย่าหล่นลงมานะๆๆๆ" ถ้ามันหล่นลงมา ไม่ใช่แค่ผมไม่ได้เที่ยวภู อีกสิบแปดที่ในโลกที่อยากไป ก็คงไม่ได้ไปสักที่แหละครับ แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 53 16:38:39 จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 16:36:46

ความคิดเห็นที่ 49 ในที่สุด สี่ชั่วโมงกว่าๆ เราก็ได้ถ่ายรูปกับป้ายที่ใครๆ ก็อยากถ่ายรูปด้วย ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง : )) จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 16:41:04

ความคิดเห็นที่ 50 ตามรุ่นน้องแม่โดม ไปเที่ยวภูด้วย นึกถึงสมัยเรียน พารุ่นพี่ไปเที่ยว ตัวใหญ่ ต้องดันก้นขึ้นไป กว่าจะขึ้นไปได้ เหนื่อยเป็น 2 เท่า แต่ดีใจที่พาคนเที่ยวแล้วสนุก มีความสุขตลอดการเดินทาง ผ่านมาหลายปี เจอพี่เหล่านี้ ก็ไม่เคยลืมทริปภูกระดึงเลย ต่อไปเพื่อนๆกลุ่มนี้ ของน้องก็จะคิดถึงและนึกถึงที่ภูกระดึง เป็นทริปไม่รู้ลืมตลอดไป จากคุณ : Frankly เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 16:47:05

ความคิดเห็นที่ 51 สวัสดีครับคุณ Frankly ทริปนี้สนุกจริงๆ อยากจะจำไปตลอดเหมือนกันครับ : ) วิวจากหลังแปก็เป็นอย่างที่เห็นครับ ความสูงประมาณ 1,200 เมตรจากพื้นดินเบื้องล่าง จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 16:55:26

ความคิดเห็นที่ 52 ยังเล่าเรื่องได้สนุกเหมือนเดิมค่ะ เคยไปภูกะดึงหนเดียวเอง ตอนอยู่ปี 4 ตอนนี้อยากไป ก็ไม่ไหวแล้ว จากคุณ : scuba734 เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 16:58:49

ความคิดเห็นที่ 53 เย่ ถึงยอดแล้ว กลับกันดีกว่าพวกเรา... -*- ไม่ใช่ละ เราไปเข้าที่พักกันดีกว่าครับ เลือกไปได้ 2 ทาง จะปั่นจักรยานไปก็ได้ จะเดินไปก็ได้ (แต่ทางปั่น กับทางเดิน คนละทางกันนะครับ) ผมเลือกเดิน ระยะทางแค่ 3 กิโลโดยประมาณ เป็นทางราบ ไม่ทรมานแต่อย่างใดครับ จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 16:59:09

ความคิดเห็นที่ 54 คุณ scuba734 สบายดีมั้ยครับ ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดครับ ระหว่างทางเดิน ได้เห็นพืชพรรณข้างทางก็เดาได้แล้วว่าสองสามวันบนภู เราคงได้เห็นต้นสนสวยๆ ไปตลอด จากคู่มือ บอกว่าสภาพป่าบนภูเป็นป่าดิบเขา ก็คือป่าที่ไม่ผลัดใบ แต่เพราะอยู่สูง อากาศเย็น ก็จะมีต้นสนเยอะหน่อย อย่างต้นในภาพข้างล่างนี้ เค้าบอกกันว่าเป็นแลนด์มาร์ค ก็ขอชักภาพสักใบครับ จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 17:07:05

ความคิดเห็นที่ 55 สนต้นนี้เราเคยถ่ายรูปด้วยเมื่อตอนสิบกว่าปีที่แล้วไปกะแก๊งเพื่อนสาวตอนมอห้า เห็นแล้วคิดถึงจังค่ะ ^^ จากคุณ : hedonism เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 17:13:11

ความคิดเห็นที่ 56 ไม่นานนักเราก็มาถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ... รับกุญแจบ้านพักและชำระค่าหาบสัมภาระกันที่นี่ครับ เนื่องจากทริปนี้มีผู้หญิง และคนก็เยอะ เลยเลือกนอนบ้านพักกัน บ้านพักอยู่ไกลจากบริเวณกางเตนท์ และศูนย์บริการนิดหน่อยครับ แต่มีข้อดีคือ สงบดี ไม่มีใครวุ่นวาย หน้าตาห้องพักเป็นแบบนี้ครับ มีสามห้อง มีห้องน้ำให้สองห้อง มีเครื่องทำน้ำอุ่นแบบแก๊ส มีไฟแสงสว่างเปิดให้เป็นเวลา (18.00-21.00) ไม่มีปลั๊กไฟภายในห้อง นอนได้ 12 คนครับ จริงๆ แล้ว 4 คนที่เกินมา เราตั้งใจจะไปนอนเต๊นท์ แต่บ้านกับเต๊นท์ไกลกันเกินไป เลยต้องยัดกันครับ (แต่มันก็ไม่ได้เบียด ยังนอนสบายดี) จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 17:17:02

ความคิดเห็นที่ 57 กระเป๋าหรูกว่าของผมตอนมาญี่ปุ่นอีกนะนี่ 555 ตามไปเที่ยวภูกระดึงด้วยคนนะครับ จากคุณ : เจมส์&เรย์ เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 17:22:49

ความคิดเห็นที่ 58 คุณ hedonism มาย้อนความหลังด้วยกันนะครับ พอเก็บสัมภาระ ล้างเท้า แล้วก็นั่งรอเพื่อน... รอเพื่อนที่ปั่นจักรยานมาครับ จริงๆ เค้าควรจะถึงไวกว่า แต่พวกนี้ดันทรยศ แอบแวะกินส้มตำระหว่างทาง... พอมาถึงก็มีเพื่อนแฉกันทันที เค้าบอกว่า ตอนปั่นจักยาน โอปอร้อง โว้ยๆๆๆ เฮ้ยๆๆๆ ไม่หยุด เพื่อนก็ตกใจหันไปดู เป็นอะไรรึเปล่า โอปอตอบหน้าเฉย "เปล่า วิวสวย ทางขรุขระ จักรยานเด้ง มันสนุกดี.."  เอ้อ โอเค - -* ส่วนเพื่อนที่ยังหิวไส้กิ่วรวมทั้งผมก็เดินไปร้านอาหารครับ มีหลายร้านเป็นแนวยาว เราไปที่ร้านแห่งหนึ่งที่ป้ามุกมิก (อีกแล้ว) แนะนำมา เจ้าของร้านนี้เป็นน้องสาวของป้ามุกมิกนั่นแหละ ครอบครัวนี้ช่วยกันทำมาหากิน จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 17:23:08

ความคิดเห็นที่ 59 เจ้าของร้านอาหารจะมีกลยุทธ์ต่างๆ นานา เพื่อมัดใจลูกค้า ถ้าลูกค้ากลุ่มใหญ่ๆ ฝากท้องทุกมื้อ ทุกวัน รายได้ก็ไม่น้อยนะครับ อย่างป้าคนนี้ ก็บริการเต็มที่ ให้ยืมไฟฉาย แจกน้ำชา เสนอให้ชาร์จโทรศัพท์ฟรี ยิ้มแย้มแจ่มใสครับ ไม่นานอาหารที่ผมสั่งก็มา ข้าวผัดเปรี้ยวหวานหมู เป็นเมนูที่นึกอยากกินตั้งแต่กำลังเดินขึ้นภู จานนี้ 50 บาท ราคาแพงซักหน่อย เนื่องจากสารพัดวัตถุดิบ เอเวอรี่ติงทุกสิ่งสรรพ์มาข้างบนได้ด้วยแรงลูกหาบทั้งนั้นนะครับ จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 17:29:23

ความคิดเห็นที่ 60 แวะมาชมครับ ขอตามไปด้วยคนครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : กัปตันลูกชุบ เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 17:32:38

ความคิดเห็นที่ 61 มาข้างบนภู ไม่ต้องกลัวอดครับ มีสารพัดสิ่งให้กิน ขนมโคล่อน ยังมีให้เลือกครบทุกรส ครีม ชอค สตรอเบอรี่ ผ้าอนามัยยังมีตั้งหลายแบบอะ คิดดูครับ น้ำเปล่าก็ราคาแพงนิดนึงนะครับ ขวด 750 มิลลิลิตร ขาย 25 บาท ถ้าเป็นขวด 5 ลิตร ก็ 100 บาท เอาน่า ราคาพอๆ กับไปกินฟู้ดคอร์ทพาราก้อนนี่แหละ ตรงใกล้ๆ ร้านอาหารจะมีกวางอยู่ด้วยครับ พวกนี้เสียนิสัย กินอาหารคน กินหญ้าไม่เป็น กินเป็นแต่ขนมปังทาเนยค้างคืนที่ร้านค้าขายไม่หมด ดูหุ่นมัน กวางหรือหมูป่ากันแน่ จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 17:34:37

ความคิดเห็นที่ 62 วันนั้นเห็นสองตัว ตัวนึงจะขี้อาย กลัวคน อีกตัวจะเห็นแก่กินมาก ขออาหารแบบฮาร์ดคอร์สุดๆ (วันรุ่งขึ้นเห็นมีสามตัวครับ คงไม่ใช่ลูกของคู่นี้แน่ๆ คืนเดียวโตไม่ทันหรอก) จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 17:38:08

ความคิดเห็นที่ 63 ตามมาชมทริปภูกระดึงด้วยคนนะครับ เข้าหน้าหนาวแล้วภูกระดึงคงจะคึกคักกันน่าดู  ไปเที่ยวกันหลายๆคนคงจะสนุกดีนะครับ ถ้ามีโอกาส ครั้งหนึ่งในชีวิตผมไม่พลาดแน่นอนครับ  ... รอตามชมต่อนะครับ รีวิวน่าสนใจมากๆ  จากคุณ : ว่าที่ลูกเรือ เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 17:40:51

ความคิดเห็นที่ 64 ถ้าใครนอนเตนท์ อุทยานก็จะจัดโซนไว้ให้ครับ ลานกางเตนท์ช่วงที่พวกเราไปยังว่างๆ เพราะไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว แต่พอถึงช่วงไฮซีซัน แม่ค้าบอกว่าคนนี่เป็นพัน เดินชนกัน อาหารขายแบบตามสั่งก็ไม่ได้ ต้องขายข้าวแกง ต่อคิวกินข้าว ต่อคิวอาบน้ำ ต่อคิวฉี่ นึกแล้วสยองๆ อะ ผมไม่ค่อยชอบคนเยอะๆ ไม่แน่ใจว่าปกติแล้วอุทยานแห่งนี้จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวหรือไม่ แต่ถ้าไม่ ผมก็เสนอว่าควรทำนะครับ ธรรมชาติจะได้สวยๆ ไปนานๆ เวลามาเที่ยว จะได้ไม่ต้องหงุดหงิดกับคลื่นมหาชนด้วย จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 17:41:59

ความคิดเห็นที่ 65 รายการสุดท้ายของวันนี้คือการไปชมพระอาทิตย์ตกดินที่ผาหมากดูกครับ เดินไม่ไกล ไปกลับสี่กิโลเมตรเท่านั้น ตามแผนที่ แต่วันนี้ มิ้งค์เดินไม่ไหวแล้ว เลยขอตัวกลับบ้านพักไปกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง ส่วนพวกเราที่เหลือก็ไปลุยกันต่อเลย จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 17:44:53

ความคิดเห็นที่ 66 .... ตามมาเที่ยวด้วยครับ จากคุณ : Hero11147 เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 17:46:59

ความคิดเห็นที่ 67 ทางเดินราบเรียบ สบายๆ ครับ ตรงนี้มีออปชั่น ถ้าเดินเองก็ฟรี ถ้าอยากสบายขา ก็เช่าจักรยานแบบผมได้ ไปกลับ วังกวาง - ผาหมากดูก 40 บาท แต่ถ้าเป็นจักรยานแบบมีเกียร์ ก็ 60 บาท ผมอาสาเช่ามาคันหนึ่ง ผลัดกันขี่ครับ จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 17:47:30

ความคิดเห็นที่ 68 ทางเดินสวยมากๆ ต้นสนข้างทางทำให้ตื่นตาตื่นใจจริงๆ เดินมาตั้งนาน ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ ผมพาเพื่อนมาด้วยคนหนึ่ง "ออกมาเร็วๆๆ มาดูวิว" ผมใส่เค้ามาในกระเป๋าเป้ครับ ตอนเหนื่อยๆ ลืมนึกไป แต่พอเดินสบายๆ ก็คิดถึงขึ้นมา ผมจะขอเรียกเค้าว่า วูดู แล้วกัน จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 17:51:51

ความคิดเห็นที่ 69 วูดูคือคนที่ผมแอบปลื้มแต่ทำอะไรไม่ได้ วูดูตัวไม่อ้วนมาก พอแบกได้ไม่ค่อยหนัก ผมกลัวเค้าจะเหงาเลยชวนมาขึ้นภูด้วยกัน เรียกยังไง วูดูก็ไม่ยอมออกมาดูวิว... ออกมาเถอะ แดดยามเย็นอย่างนี้ตัวไม่ดำหรอก เอ้า ไม่ออกก็ไม่ออก ตามใจ ไม่แคร์ก็ได้ ถึงแล้วๆๆๆๆ ถ่ายรูปเป็นหลักฐานก่อนเลยครับ จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 17:55:32

ความคิดเห็นที่ 70 เวลาไปนั่งตามหน้าผา อย่าท้าทายธรรมชาติห้อยขาแขนนะครับ ขอร้อง น่ากลัวจริงๆ อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ เราไปทันเวลาจับจองที่ดูพระอาทิตย์ตกดิน เจอพี่สาวฝรั่งคนหนึ่งนั่งอยู่ก่อนหน้า ดูเธอสงบนิ่ง อยากรู้จังว่าเธอคิดอะไรอยู่ในใจ... จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 17:59:20

ความคิดเห็นที่ 71 และแล้วก็มีหมู่มารทำลายความสงบ... พวกเราเอง เราไม่ได้ตั้งใจรบกวนเค้านะ แต่แหม มาทีนึงสิบหกคน จะให้เงียบมากนักก็คงเป็นไปได้ยาก เราก็พยายามเตือนกัน พูดเบาๆๆๆ ชู่ๆๆ เตือนกันไปเตือนกันมา ชักรู้สึกว่า ไอ้เสียง ชู่ๆ นี่น่ารำคาญกว่าเสียงคุยปกติอีก 555 ถ้าวันนั้นเราทำลายมู้ดของเจ๊ ก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้นะครับ ไม่ได้ตั้งใจครับ จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 18:01:37

ความคิดเห็นที่ 72 รอสักพัก พระอาทิตย์ก็ได้เวลากลับไปพักผ่อน ภาพตรงหน้ามันสวยจริงๆ แสงทองอาบไปทั่วบริเวณ ลมเย็นๆ พาความหนาวพอดีๆ มากระทบกาย กระทบใจ สวยอย่างนี้ ลืมทุกข์ ลืมเหนื่อย ใช้เวลาไม่นานก่อนพระอาทิตย์ตกมาซึมซับความงามให้เต็มที่กันครับ จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 18:04:36

ความคิดเห็นที่ 73 ... จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 18:09:31

ความคิดเห็นที่ 74 แวะมาปาด  (ทันรึเปล่าก็ไม่รู้) จะเล่าว่า  อาทิตย์ที่แล้ว เพื่อนผมได้ขึ้นไปตรวจร้านค้าร้านอาหารบนภู  อิจฉาจริงอะไรจริง รู้งี้ไปทำงานเมืองเลยดีกว่า  T^T จากคุณ : ไม้จิ้มฟันจระเข้ เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 18:11:25

ความคิดเห็นที่ 75 ปาดทันครับ คุณไม้จิ้มฟันฯ : ) ช่วงที่ท้องฟ้าสวยที่สุดของวัน คือช่วงหลังอาทิตย์ตกนี่แหละ จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 18:19:33

ความคิดเห็นที่ 76 ไม่เห็นหน้าน้องแว่นนานนนเลย เห็นภูกระดึงแล้ว นึกถึงตอนสมัยโน้นน กำลังจะเข้ามหาลัย เดินขึ้นกันสาหัส สากรรณ์มาก แต่ก็ยังอยากไปอีกนะ มันมีเสน่ห์ แต่ว่า ไปตอนนี้ คงไม่ไหวแล้ว อยากไปเที่ยวที่ไหนที่ลุย ๆ โหด ๆ ต้องไปเสียแต่ตอนเรียนหนังสือ เพราะมีเพื่อน มีแรง ไปด้วยกันเยอะ ๆ สนุกดี พอทำงานแล้ว เรี่ยวแรงมันหมด ไปไม่ค่อยไหว ต้องเที่ยวแบบสบายหน่อย รอชมต่อนะคะ   จากคุณ : Invisible Angel เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 18:19:46

ความคิดเห็นที่ 77 มุมโปสการ์ด... จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 18:21:43

ความคิดเห็นที่ 78 เร่งฝีเท้ากันนิดนึงครับ เริ่มมืดแล้ว จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 18:22:53

ความคิดเห็นที่ 79 แม้จะรีบเดิน แต่ก็ไม่วายจะเล่น... จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 18:24:48

ความคิดเห็นที่ 80 ดูวิวเพลินจริงๆ ครับ มันไม่รู้จะบรรยายยังไง อยากชมความสวยต้องไปด้วยตัวเอง จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 18:26:20

ความคิดเห็นที่ 81 กลับมาถึงค่ำๆ อากาศหนาวๆ จะมีอะไรดีเท่าอาหารที่เป็นน้ำแกงร้อนๆ อันนี้เป็นจิ้มจุ่มหมู ชุดละ 500 บาทครับ กินหลายๆ คนก็หารกัน จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 18:31:01

ความคิดเห็นที่ 82 หลังอิ่มแล้วก็กลับมารวมพลกันที่บ้าน นั่งคุยกันสบายๆ รีบอาบน้ำก่อนเค้าจะดับไฟ แต่พวกเรามีกัน 16 คนก็ใช้เวลาครับ อาบไม่ทันก่อนไฟดับหรอก คนหลังๆ ก็ต้องแบกตะเกียงเข้าไปอาบน้ำด้วย เวลาอาบน้ำ ที่ต้มน้ำมันเป็นพลังแก๊ส ต้องระวังประกายไฟครับ แล้วความร้อนมันก็จะควบคุมได้ไม่แน่นอน วิธีที่แนะนำคือ ต้มน้ำผสมให้ได้อุณหภูมิที่เหมาะสมก่อนอาบครับ อย่าใช้น้ำจากเครื่องโดยตรง เดี๋ยวสุกไม่รู้ตัว แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 53 19:48:21 จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 18:36:28

ความคิดเห็นที่ 83 รีวิวสนุกมากค่ะ เพลินดี รูปสวยด้วย จากคุณ : BakeryGirl เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 19:40:33

ความคิดเห็นที่ 84 เราเตรียมเสบียงไปเยอะแยะ ขนมถุงทั้งหลาย พอแบกขึ้นไปสูงๆ ความกดอากาศเปลี่ยน ถุงพองเบ้อเริ่มเลย นอกจากขนม มาม่า กาแฟแล้วก็มีเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ บางชนิดด้วย อยู่ในผ้าขาวๆ ครับ จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 19:41:47

ความคิดเห็นที่ 85 วันนี้ค่ำแล้ว เติมเสบียงลงท้องอีกนิดหน่อยก็เข้านอน เก็บแรงไว้ พรุ่งนี้ยังมีอะไรให้ผจญภัยอีกเยอะ แล้วจะกลับมาเล่าให้ฟังเร็วๆ นี้ครับ ก่อนจะไป บอกเคล็ดลับแก้ปวดเมื่อยกันหน่อย ยาตระกูลแก้ปวดเมื่อยที่ควรเตรียมไป เพราะใช้แล้วเวิร์คมอร์ คือ 1. โวลทาเรน ชนิดเจล 2. โวลาทาเรน ชนิดเม็ด 3. นอร์จีสิค ชนิดเม็ด 4. ยาสเปรย์คลายกล้ามเนื้อ พอมีอาการ แนะนำให้กินแบบนี้ครับ 1. เมื่อยย่างเดียว กินนอร์จีสิค ให้มันไปคลายกล้ามเนื้อ 2. เมื่อยด้วยปวดด้วย กินนอร์+โวลทาเรน    กรุณากินชนิดเม็ดนะครับ ไม่ใช่บีบเจลกินเอา 3. นวดด้วยก็ได้ถ้าเป็นมาก เอาเจลมานวดครับ 4. ยาแบบสเปรย์ พ่นแล้วจะเย็นๆ ช่วยได้พอสมควรเวลาล้ามากๆ      ขณะที่กำลังเดินอยู่ สำคัญนิดนึง ตรงที่ยาเม็ดทั้งหลายกัดกระเพาะ ห้ามกินตอนท้องว่างนะครับ กินหลังอาหารทันที จะดีที่สุด วันนี้ขอตัวไปกินแอบโซลูทราสพ์เบอร์รี่ก่อน เอ้ย ไปนอนสิ ไปนอนๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้เดินไม่ไหว เจอกันตอนหน้าครับ : ) จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 19:47:37

ความคิดเห็นที่ 86 ดีครับ ใช้ชีวิตวัยรุ่นได้คุ้มค่า... ผมไปมาเมื่อเดือนตุลาคม ทางเละมากๆ จากคุณ : ฝนสั่งฟ้า เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 19:51:51

ความคิดเห็นที่ 87 ทักทายกันก่อน... คุณเจมส์&เรย์ : ขอบคุณที่มาเที่ยวด้วยกันนะครับ : ) คุณกัปตันลูกชุบ : แล้วพบกันตอนหน้า มาเที่ยวด้วยกันนะครับ คุณว่าที่ลูกเรือ : ไปเลยครับ หาโอกาสไป รับรองว่าจะประทับใจไม่ลืม คุณHero11147 : มาเที่ยวพร้อมๆ กันครับ นั่นลูกหมาของคุณฮีโร่หมดเลยหรือเปล่า พี่นางฟ้า Invisible Angel : ดีใจที่ได้พบกันครับ สบายดีนะครับ เดี๋ยวนี้เรียนเยอะ ไม่ค่อยได้เข้ามาห้องบลูเลยครับ คุณBakeryGirl : ขอบคุณมากครับ : ) คุณฝนสั่งฟ้า : พูดเหมือนเพื่อนผมครับ ตอนแรกผมจะไม่ไป ชีมาโวยวายใส่ผมบอกว่ายังไม่แก่นะ ไปเถอะๆ ... แก้ไขเมื่อ 27 พ.ย. 53 19:55:59 จากคุณ : หน้าแว่น เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 19:54:43

ความคิดเห็นที่ 88 มาขานชื่อรอบสองค่ะ จากคุณ : scuba734 เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 20:54:41

ความคิดเห็นที่ 89 สนุกดีจ้า รอชมนะจ๊ะ จากคุณ : Boa Boa เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 53 21:25:52