ความคิดเห็นที่ 1 เส้นทางที่เลือกใช้ . . . เมื่อลงจากภูทับเบิกก็เเลี้ยวซ้าย  จุดหมายต่อไปที่  ด่านซ้าย  ภูเรือ  และ  จะเดินเข้าทางลำบาก  ท่าลี่  เชียงคาน ทั้ง ๆ  ที่ภูเรือ  เลย เชียงคาน  ทางสบายกว่ากันมากมาย  แต่ผมมันพวกแหกกฎเสมอ    "ความสุขของการท่องเที่ยวมิได้อยู่แค่ปลายทางของจุดหมาย แต่  ระยะทางระหว่างทาง  คือความสุขและความทรงจำ" ผมเลยได้ภาพความทรงจำ  บนยอดเขาสูง  เส้น . . .  ภูเรือ  ท่าลี่  หลวงพระบาง จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 12:02:16

ความคิดเห็นที่ 2 ที่เห็นลิบ ๆ ไกล ๆ  แนวทิวเขาที่สลับสล้างสุดลูกหูลูกตานั้น  คือ แผ่นดินของฝั่งลาว  เมืองที่อุดมไปด้วยทรัพยากรป่าไม้   แม้ว่า  ลาวจะเคยตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส  แต่  ด้วยความเป็นเมืองที่ไม่มีทางออกทางทะเล  ฝรั่งเศสจึงไม่สามารถกอบโกยผลประโยชน์จากประเทศนี้ได้เต็มที่นัก  โดยเฉพาะในแผ่นดินที่ติดกับไทย เพราะสมัยนั้นมีข้อพิพิพากเรื่องดินแดนทางฝั่งขวาแม่น้ำโขง จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 12:05:13

ความคิดเห็นที่ 3 ถ้า . . . ผมเลือกเดินทางในเส้นทาง ภูเรือ  เลย  เชียงคาน  ผมคงใช้เวลาราว ๆ  หนึ่งชั่วโมงนิด ๆ  ก็จะถึงเชียงคาน แต่ . . . ผมจะรับไปทำไม  ในเมื่อเวลานี้  ภาพในหัวของผมที่ผมวาดเอาไว้  คือ  ความวุ่นวาย  ของผู้คนที่แห่แหนกันมาเต็มเชียงคาน  ถนนสายเล็ก ๆ  เลียบโขง  ที่เป็นบ้านไม้เก่า ๆ  ก็คงไม่แตกต่างอะไรกับ  ถนนในเมืองปาย  ยามมีวันหยุดยาว ๆ จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 12:07:32

ความคิดเห็นที่ 4 ผมอยากเห็น   "วิถีชีวิตเชียงคาน" และผมก็ได้เห็น  ได้สัมผัสมันแล้วจากเมื่อเดือนก่อน  กระทู้ก่อนโน้น http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9726768/E9726768.html มาวันนี้  โดนข่มขืนใจให้มาเชียงคานอีกครั้ง  ในวันหยุดยาว  วันที่ผมทำใจมาแล้วก่อนหน้า  ว่าผมจะได้เห็น  "วิถีชีวิตตั๊กแตนทางการท่องเที่ยวที่เชียงคาน" จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 12:10:37

ความคิดเห็นที่ 5 จากคืนจันทร์เต็มดวงเมื่อเดือนที่ผ่านมา  ผมได้มานอนชาร์ทพลังที่เชียงคานสองคืน เป็นสองคืนที่ผมมีความสุขมาก  จากน้ำใจของคนพื้นที่  จากรอยยิ้มของคนแปลกหน้าสู่คนแปลกหน้า  จากหลาย ๆ  อย่าง  ผมวาดหวังจะกลับมาเชียงคานอีกครั้ง  แต่ไม่ใช่วันหยุดแบบนี้แน่ ๆ   ความหวังจะกลับมาเชียงคานของผมเร็วกว่าที่ผมคาดหมาย  และมันดันเป็นวันหยุดยาว  ที่ทุกคนโหยหาแหล่งท่องเที่ยว จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 12:15:15

ความคิดเห็นที่ 6 ทางเดียวที่ผมจะเก็บเกี่ยวความสุขในวันนี้  คือ  ผมจะต้องเก็บเอาความสุขตามเบี้ยใบ้รายทาง  เพราะเมื่อผมไปถึงเชียงคาน  ความสุขที่เคยได้รับจากเชียงคานเมื่อเดือนก่อนจะต้องลดน้อยถอยลงแน่ ๆ   เพราะทุก ๆ  ครั้งในวันหยุดยาว  ทุก ๆ  แหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ในกระแส  จะเนืองงแน่นไปด้วยผู้คนจากต่างถิ่น แย่งกันกิน   แย่งกันเดิน  แย่งกันหามมุมสวย ๆ  และคนที่ปล่อยชีวิตเรื่อย ๆ  แบบผม  จะหงุดหงิด  กับภาพที่เห็นแน่ ๆ  ผมเลยเลือกเก็บเอาความสุขจากสองข้างทางไว้เต็มหัวใจ เพราะเมื่อถึงเชียงคาน  หากเป็นดังที่ผมคาด ผมจะเอาความสุขที่ผมเจอในระหว่างการเดินทางมาประโลมใจ จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 12:21:55

ความคิดเห็นที่ 7 คิดถึงเชียงคานจัง ขอบคุณมากจ๊า สงสัยคงต้องแวะเวียนไปเยี่ยมอีกสักรอบ จากคุณ : snas89Pink เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 12:24:18

ความคิดเห็นที่ 8 เส้นทางเลียบชายแดน  และเลียบโขง  จากท่าลี่  สู่เชียงคาน  น่าจะเป็นถนนสายที่สวยที่สุดอีกเส้นหนึ่งที่ผมเคยเจอ  เพราะสองข้างทางอุดมไปด้วยเรือกสวนไร่นา  มีหมู่บ้านบ้าง  ไม่มากนัก  แต่สภาพถนนทำให้ไม่สามารถทำความเร็วได้มาก  และแทบไม่ไม่ไหล่ทาง   แต่ . . . มองอีกมุม  ถนนแย่  ทำให้ผมได้มองภาพ  สองข้างทางได้ชัดขึ้น  และ  รถน้อย ทำให้ผมสามารถจอดรถเพื่อเก็บภาพริมทางได้ง่ายขึ้น จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 12:25:35

ความคิดเห็นที่ 9 เหมือนกับเหรียญ . . . เหรียญมีสองด้านเสมอ  หลาย ๆ  คนเลือกมองที่เหรียญด้านหงาย  โดยที่ลืมไปว่าที่ด้านคว่ำของเหรียญก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน  ผมไม่เร่งรีบกับการมองเหรียญ  เพราะผมเชื่อว่าตอนนี้  หลายร้อยชีวิต  กำลังมองเหรียญที่หงาย  อยากไปเดินที่ถนนเลียบโขง  อันเป็นด้านหงายของเหรียญในเวลานี้ จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 12:28:20

ความคิดเห็นที่ 10 ไป ด้วย คน ครับ ผม เพื่อน แบงค์ แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 53 12:38:03 แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 53 12:35:08 จากคุณ : ke70sr20 เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 12:33:44

ความคิดเห็นที่ 11 แค่ผมขับรถมาเฉียดที่ถนนสายหลักของเชียงคาน  ผมก็สัมผัสได้ถึง รังสีอำมหิต  จาก  การรุมของผู้คนมากหน้าหลายตา  ถนนที่แทบไม่มีรถราในเดือนก่อน  บัดนี้  แน่นหนา  ไปด้วยทะเบียนรถต่างถิ่น  (รวมทั้งรถกรูอีกคัน) ผมมองทางซ้ายไล่ไปตั้งแต่ซอย  ๕  จนกระทัั่งถึง ซอย  ๑๖    ก็ตัดสินใจเลี้ยวเข้าไป  และคิดว่า  ที่ไหนว่าง  ก็จะเอาในทันที  เพราะวันหยุดยาวแบบนี้  มิกล้าเสี่ยงหาเอาแถบริมโขง  เพราะกลัวว่าเดินไปแล้วจะไร้ที่ว่าง จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 12:35:32

ความคิดเห็นที่ 12 ถามที่บ้านครูแดง . . . "คนละสองร้อยค่ะ"  ครูแดงแห่งโรงเรียนแถบแก่งคุดคู้บอก  พร้อมรอยยิ้ม  แบบคนเชียงคานทุกคน  ที่ยิ้มแย้มกับคนแปลกหน้า หัวใจผมชุ่มชื้น  กับรอยยยิ้มทุกครั้ง  ไม่เดินหาแน่ ๆ  ตัดสินใจอย่างไม่ลังเล   "สองร้อยบาทต่อคน  มีกาแฟ  ชา  โอวัลติน  เลี้ยงทั้งวันด้วย" จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 12:40:14

ความคิดเห็นที่ 13 รถคันนี้ คุ้น ๆ  เหมือนเคยเห็นที่สุราษ จากคุณ : รอยยิ้มของคนดี เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 12:42:55

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าไปเชียงคาน    แล้วไม่เดินถนนบ้านเก่าเลียบโขงจะถึงเชียงคานหรือ    อีกอย่างจะแวะไปหาคุณยาย  ที่บ้านตรงข้าม  พรรณีโฮมสเตย์ด้วย  เพราะคราวก่อน  ยังแอบปลื้มคุณยาย  ผู้เย็บผ้านวมฝ้ายขาย จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 12:42:58

ความคิดเห็นที่ 15 คุณ : รอยยิ้มของคนดี ไม่นะ  เพราะผมเคยขับกลับบ้านแค่ปีละครั้งเอง  เพราะส่วนมากอาศัย  O  บาท  กลับบ้าน ##################### ชิบหา . . . . . นี่หรือเชียงคาน ? ทั้ง ๆ  ที่ทำใจเอาไว้แล้ว  แต่ดูเหมือนว่า  สิ่งที่เห็น  มันเกินใจคาดคิด  เพราะเมื่อกวาดสายตามอง  ตามสองข้างทาง  ผู้คนที่เคยเห็นเมื่อเดือนก่อนแทบไม่มี  มีเพียงคนแปลกหน้าแทบทั้งสิ้น "เชียงคานแนวใหม่" จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 12:46:58

ความคิดเห็นที่ 16 ถนนสายเล็ก ๆ  เลียบโขงที่เคยเป็นเสน่ห์ทางวัตถุโบราณ  มาวันนี้  มีรถรามากมาย  หลากหลายรุ่น  จอดอย่างไร้ระเบียบ  การจัดการเรื่องรถราของหน่วยงานภาครัฐ  ยังไร้การควบคุม และที่แย่  รถยนต์ที่จอดอย่างไร้ระเบียบ  จอดชิดเลนขวา  ทั้ง ๆ  ที่ประเทศเราวิ่งซ้าย  ทำให้เห็นถึง  ความไร้วัฒนธรรมของคนขับรถ และ  นักท่องเที่ยวบางคนที่ยังไร้จิตสำนึกในการท่องเที่ยว จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 12:50:52

ความคิดเห็นที่ 17 เชียงคานไม่ได้เปลี่ยนไป . . . . . . หากแต่นักท่องเที่ยวไร้วินัย  นิสัยแย่ ๆ  ต่างหากที่กำลังข่มขืนเชียงคาน  เพราะหากคุณรู้จักกฎระเบียบ  และเคารพในกฎหมาย  กฎจราจร  ความไร้ระเบียบคงไม่เกิดขึ้น ผมไม่รู้หรอกว่า  คนอื่นคิดเช่นไร  มีเงิน  ไม่ได้หมายความว่าจะทำอะไรก็ได้  การเดินไปเยือนบ้านเมืองอื่นที่ไม่ใช่ถิ่นฐานบ้านเกิด  เราควรเคารพสิทธิของเขาด้วย จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 12:53:43

ความคิดเห็นที่ 18 สภาพของเชียงคานยามนี้  มิได้ผิดแผกแตกต่างไปจากปาย . . เราไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า  เชียงคานเปลี่ยนไป  เพราะคนทำให้เปลี่ยน  ร้านขายของที่ระลึก  ร้านเสื้อ  ร้านโปสการ์ด  เกิดขึ้นอย่างกับดอกเห็ด  แถมบนถนนสายแคบ ๆ  มีแม่ค้าบางคนเอาราวแขวนเสื้อที่สกรีนว่า  "เชียงคาน" แม่ค้าพวกนี้  ใช่คนเชียงคาน  หรือ คนเลย  หรือ? รู้ ๆ  กันอยู่ว่า คนที่ไปทำลายวิถีชีวิตคนเชียงคาน  คือ  คนที่อื่นแทบทั้งสิ้น  ซื้อเสื้อเชียงคานจากร้านค้าต่างถิ่นที่แห่ไปขายยามเทศกาล  นี่หากไปรื้อดูในรถ อาจจะมี  เสื้อที่สกรีน ปาย  น่าน  แม่ฮ่องสอน  เพราะแม่ค้าบางจำพวก  บินตามตั๊กแตนท่องเที่ยวเช่นกัน จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 12:57:56

ความคิดเห็นที่ 19 เดินได้พักใหญ่  ไม่ไหว   รู้สึกว่า  ไม่ค่อยมีความสุขกับการถ่ายภาพมากนัก   อาจเพราะว่าผู้คนมากมายจนเกินไป . . . กลับไปที่พัก  อาบน้ำแล้วแอบหลับไปงีบใหญ่  ก่อนตื่นมาอีกทีก็มืดค่ำ  ไอ้ท้องมันเริ่มร้องเรียกหาอาหารยามเย็น  ก็เดินออกมา   โอ้วววววววววว คิดถึงเซเว่นจับหัวใจ  เพราะหากเป็นกรุงเทพฯ  ในเวลาเร่งรีบเช่นนี้  ร้านค้านั้นคือทางเลือกที่ดี  เพราะร้านอาหารตอนนี้  คิวยาวเยียด  แทบไม่มีโต๊ะว่าง จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 13:01:52

ความคิดเห็นที่ 20 ขนาดทำใจไว้แล้ว ไม่น่าเล้ยยยยยยยยยยยยยยย ไม่น่ามาเลย  ได้แต่แอบบ่นตัวเองในใจ แต่ก็พยายามแล้วที่จะปรับสภาพตัวเอง  ว่าเอาน่า  "เทศกาล" จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 13:04:15

ความคิดเห็นที่ 21 เลยชวนคุณเพื่อนเดินไปบนถนนสายกลาง . . . ร้านอาหารที่เคยไร้ผู้คนเมื่อเดือนก่อน  วันนี้หนาแน่นเช่นกัน    แถมโต๊ะข้าง ๆ  ทำตัวแบบเชี่ย ๆ  เหวี่ยงใส่แม่ค้า  ว่าสั่งไปตั้งนานแล้วไม่ได้อีกหรือ  เด็กหิว อ้าว   คุณเพิ่งมา  และแม่ค้าก็ทำอยู่ตามคิว  ไอ้วัฒนธรรมการรอคอยนี่  มันยากมากนักหรือไง   ในเมื่อเรามาทีหลัง เราก็ควรได้ทีหลัง  จะเด็ก  ผู้ใหญ่  คนแก่  ก็ต้องคอย  เพราะมันไม่ได้เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย  แบบ  เลือดทะลัก  คอจะขาดเพราะโดนมีดปาด  ที่จะให้แซงคิวไปหาหมอก่อน ผมมองโต๊ะข้าง ๆ  อย่างเหยียด ๆ  เกลียดมาก  ที่มาโวยวายทั้ง ๆ  ที่ตัวเองมาทีหลังแต่โวยวายขนาดนั้น จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 13:08:24

ความคิดเห็นที่ 22 เพิ่งไปเมื่อก่อนปลายปีที่แล้ว หนึ่งปีผ่านไป ดู จขกท.รีวิว เชียงคานเปลี่ยนไปมากถึงมากที่สุดค่ะ โดยเฉพาะที่จอดรถไม่มีระเบียบกัน แล้วร้านโปสการ์ด เสื้อยืด ก็ไม่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดขนาดนี้ จากคุณ : ฟ้าส่งให้เกิดมาสวย เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 13:11:15

ความคิดเห็นที่ 23 ถ้า . . . เราไม่รู้จักการมาก่อนมาหลัง   คุณเดินเข้ามาแล้วจะเอาเดี่ยวนั้น  ขอแนะนำว่า  ไปเดินซื้ออาหารสำเร็จรูป  เพราะร้านอาหารตามสั่ง  ทุกอย่างมันต้องใช้เวลา  และ  การประกอบอาหารแต่ละชนิดก็ต้องใช้เวลา "ยำไข่เยี่ยวม้ายากนักหรือไง  เอาไข่ผ่า  แล้วทำน้ำยำราดมาก็เสร็จ  ทำไมยังไม่ได้"  เสียงคุณป้าวัยใกหล้เกษียณ  พูดดัง พอที่คนทั้งร้านได้ยิน  ในขณะที่  คิวแก  อยู่คิวที่ห้า แกตาบอดหรือที่ไม่เห็นว่า  แม่ค้ากำลังทยอยทำอาการ  ตามคิวที่ลูกค้ามาก่อนหลัง ขอร้องนักท่องเที่ยวทั้งหลายอย่าทำตัวแย่ ๆ  แบบนี้เลย  เพราะน่าอาย  ให้คนมาก่อนได้ไปถูกต้องที่สุดแล้ว จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 13:12:31

ความคิดเห็นที่ 24 "อะไรกันนี่  สั่งเพิ่มไข่เจียวทำไมยังไม่ได้ ไม่เห็นหรือ  ว่ารอกับข้าวอยู่"  เสียงคุณป้าคนเดิมโวยวาย เจ้าของร้านดูจะใจเย็นมาก เพราะ  ป้าแกใส่สีหน้าเต็มที่  แกโวยวาย หลังจากที่แกได้กับข้าวไปครบ และแม่ค้าทำคิวถัดไป   ในเมื่อแกสั่งอีก  คิวของแกก็ต้องตกไปอยู่คิวสุดท้าย   แต่แกสั่งแล้ว  แกจะเอาเลย เพราะแกถือว่าแกกินค้างอยู่ "โคร  ตระ  เชี่ย"    ผมยกให้แกเลย  แต่ก็แอบยิ้มนะ  มองหน้าแกแล้วยิ้ม ๆ  ประมาณว่า  เกิดมาตั้งนาน  เวลาไม่ได้ช่วยอะไรป้าเลย จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 13:16:58

ความคิดเห็นที่ 25 เชียงคาน . . . มาเร็วเกินกว่าที่คนในพื้นที่จะตั้งมือรับ  เพราะเมือ่เป็นหน้าเทศกาล  ทุก ๆ  อย่างแย่งกันแทบทั้งสิ้น  ร้านค้าก็ไม่มีการปรับตัว   เชื่อมั้ยว่า . . . ร้านข้าวต้ม  อาหารสำเร็จรูปไม่มีเลย  ถ้ามีร้านข้าวต้ม  และมีอาหารสำเร็จรูป  ประเภท  จับฉ่าย พะโล้  หมูแดงหมูกรอบ  ในเวลาเทศกาล  เรื่องคิวยาว ๆ  คงลดลงเพราะบางคนรีบที่จะกินมากกว่า จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 13:19:58

ความคิดเห็นที่ 26 ทัน on air พอดีเลย จากคุณ : เลือกที่จะเหงา เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 13:20:35

ความคิดเห็นที่ 27 ว่าด้วยเรื่อง  "ต้มยำ" ผมไปเชียงคานครั้งนี้ครั้งที่สอง  และไอ้สั่งต้มยำมาสามครั้ง  ต้นยำปลาน้ำโขง ทั้งร้านที่ดังที่สุดในเชียงคาน  ร้านที่ได้ชื่อว่าอาหารอร่อย  และร้านข้าวต้ม ทั้งสามร้านต้มยำอร่อยพอกัน แต่ . . . ที่เหมือนกันก็คือ  เครื่องปรุงเยอะมาก  เครื่องปรุงในที่นี้  หมายถึง  ข่า ตะใคร้  ใบมะกรูด  หอมแดง  ปริมาณเครื่องเหล่านี้ตกราว ๆ  ๔๐%  น้ำ ๕๐%  ที่เหลือ  ๑๐%  คือปลาแม่น้ำโขง ราคาหรือ  ร้อยกว่าบาท  แพงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 13:23:43

ความคิดเห็นที่ 28 เชียงคานตามปายไปอย่างที่คิด แต่ไม่คิดว่าจะเร็วขนาดนี้ จากคุณ : นัยแว่น เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 13:25:04

ความคิดเห็นที่ 29 ท่ามกลางกระแสการท่องเที่ยวที่เชี่ยวกราก  เราไม่สามารถต้านการไหลบ่าได้  เพราะสิ่งที่ทุกคนโหยหาคือ  "อดีต" ในเมืองที่วุ่นวาย  แห้งแล้งน้ำใจเช่นกรุงเทพฯ   หลายต่อหลายคนอยากเห็นวิถีชีวิตแบบเดิม ๆ  ในเมื่อเชียงคานเกิดมาท่ามกลางกระแสที่ผู้คนอยากเห็นรอยยิ้ม  อยากสัมผัสถึงน้ำใจของคนเชียงคาน  จึงไม่แปลกอะไร  ที่วันนี้  เชียงคานกำลังกลายเป็น     "ข้าวสารริมโขง" จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 13:30:53

ความคิดเห็นที่ 30 .... ดูรูปเคล้าคำบรรยายแล้ว วุ่นวายดีจังเลย ไปเชียงคานนี่ต้องไปวันธรรมดาหรือไม่ก็เลี่ยงเทศกาลเท่านั้น จากคุณ : the Sixth Floor เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 13:34:10

ความคิดเห็นที่ 31 เชียงคานไม่ใช่    "ปาย ๒" เพราะ ปาย  ก็ไม่ได้เป็นแบบฉบับ  "ข้าวสารบนดอย"  คือนิยามของปายที่ผมเจอ  และเคยเรียกเช่นนั้น ในเมืองเล็ก ๆ  ที่ดอบล้อมด้วยขุนเขา  เมืองที่เป็นจุดพักระหว่างเชียงใหม่  และแม่ฮ่องสอน ที่เคยเงียบสงบ  ค่อย ๆ  กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยร้านขายของแบกะดินแบบเดียวกับ  "ถนนข้าวสาร" สายเดี่ยว  ขาสั้น  เริ่มเดินกันเกลื่อน  แฟชั่นของเด็กกรุงเทพฯ  ต่างหากที่ไปแต้มแต่งเมืองเล็ก ๆ  แบบปาย  และตอนนี้  แฟชั่นแบบเดิมกำลังระบาดมาสู่  "เชียงคาน" เรามี . . .  "ข้าวสารบนดอย" วันนี้  เราก็ยังมี  "ข้าวสารริมโขง"  (ตอนนี้  เฉพาะ  เสาร์  อาทิตย์  และ วันหยุดยาว  อนาคตล่ะ? ) จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 13:35:37

ความคิดเห็นที่ 32 ไปด้วยคนค่ะ.... จากคุณ : auau_py เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 13:38:22

ความคิดเห็นที่ 33 ผมมองความเปลี่ยนแปลง  อย่างปลง ๆ   สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ  "เงิน" เพราะเมื่อทุกคนมีเงิน  และคิดว่า "ฉันจะทำอะไรก็ได้  ที่สนองความต้องการตัวเอง" เพื่อตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐาน  เงิน  จึงเป็นสิ่งที่มนุษย์จับจ่ายใช้สอย  เพื่อซื้อหา  และตอบสนองความต้องการของตัวเอง  โดยที่เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่า  ปลายอุโมงค์ข้างหน้ามีอะไรรอเราอยู่บ้าง จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 13:38:31

ความคิดเห็นที่ 34 ผมไปเชียงคานครั้งนี้ . . . ผมไม่ได้ทำร้ายเชียงคานมากไปกว่านี้   ผมไม่ได้ซื้อน้ำที่ใส่แก้าพลาสติก เพราะผมดื่มน้ำที่บ้านครูแดงจัดไว้ให้  ผมไม่ได้ซื้อ  ขนมที่ใส่ถ้วยโฟม  เพราะผมเลือกร้านอาหารที่เขามีภาชนะล้างได้  ผมไม่ได้ซื้อของที่ใส่ถุงพลาสติก ภาพนี้ . . . คนเชียงคานคงมองด้วยความเจ็บปวดหัวใจ  บ้านฉัน  ฉันยินดีต้อนรับพวกคุณ  แต่ดูเหมือนว่า  ความมีน้ำใจของฉัน  จะกลับมาทำร้ายบ้านฉัน ด้วย  ขยะมหึมา จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 13:41:28

ความคิดเห็นที่ 35 เราตอบแทนคนเชียงคานด้วยกองขยะ ? ก็พยายามเข้าใจ  ว่าเมื่อคนมาก  ขยะก็มากตาม  แต่เราละได้  เราลดละ ปริมาณได้  แต่ถนนเลียบโขงในวันนี้  ทุก ๆ  ถังเอ่อล้น  เพราะเกินกำลังที่เชียงคานจะรับได้  แน่นอว่าเทศบาลเก็บทุก ๆ  เช้า  แต่พลบค่ำ  ขยะกองโตก็เกิดขึ้นอีก จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 13:43:51

ความคิดเห็นที่ 36 แม่น้ำโขงไปทำร้ายอะไรคุณ ? คนเชียงคานไปทำร้ายคุณหรือ ? เพราะเมื่อเช้าตรู่อีกวัน  ทางลงไปแม่น้ำโขงกลับมีสิ่งที่บ่งบอกถึงความ  "เฮี้ย" ไม่มีใครว่าหากคุฯจะดื่ม  ไม่มีหรอก  เพราะมันเป็นสิทธิ์  ของคุณ  การตั้งวงดื่มในคืนพระจันทร์เต็มดวง  บรรยากาศมันสวยใช่เล่น  แต่สิ่งที่คุณทิ้งเอาไว้  มันประจาน  ความมักง่ายในตัวของคุณเอง หากคุณคิดว่าคุณมาเชียงคาน เพราะอยากสัมผัสถึงเชียงคาน  ภาพแบบนี้คงไม่มี  คุณจะทำร้ายเมืองแห่งนี้ไปทำไม? จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 13:47:22

ความคิดเห็นที่ 37 คนเชียงคาน  คงจุกแน่นในหัวอกหัวใจ   การยิ้มแย้ม ต้อนรับ เป็นเจ้าบ้านที่ดี  กับทุก ๆ  คนที่มาเยือนเมืองเล็ก ๆ  ริมโขงแห่งนี้  กลับต้องเจอกับความมักง่ายของนักท่องเที่ยวบางกลุ่ม  บางคน ที่เอาแต่ความสะดวกของตัวเอง แค่หยิบ  "ขยะ"  ไปทิ้งในที่ชาวเชียงคานจัดไว้  มันไม่ยากเลย  แต่ยังมีคนเห็นแก่ตัวจำนวนมาก  เลือกทิ้งเอาไว้ที่ริมโขง   บุคลากรที่กำจักขยะในต่างจังหวัดไม่มากเท่าเมืองกรุงหรอก  คุณรู้ไหม  หลังจากคุณกลับ  เขาเหล่านั้นจะเหน็ดเหนื่อยกับความมักง่ายของคุณชขนาดไหน จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 13:50:38

ความคิดเห็นที่ 38 แวะมาชมครับ ขอตามไปเที่ยวชมเชียงคานด้วยคน ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : กัปตันลูกชุบ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 13:50:57

ความคิดเห็นที่ 39 ใครบอกว่าเชียงคานไม่เปลี่ยน ? เราอย่าโกหกตัวเอง ตอนนี้เชียงคานกำลังเปลี่ยน  เพราะทุนนิยมเริ่มก้าวเข้าสู่เชียงคาน  บ้านเก่า ๆ  ริมน้ำ  เริ่มมีการรื้อถอน พร้อมที่จะแปลงสภาพเป็นที่พักราคาหลักพัน และแน่นอนว่า เมื่อห้องพักที่รองรับคนมีกำลังซื้อเกิดขึ้น  เมืองเล็ก ๆ  แห่งนี้จะค่อย ๆ  กลายเป็นเหมือนเมืองท่องเที่ยวอื่น ๆ จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 13:53:45

ความคิดเห็นที่ 40 เสน่ห์ของเชียงคาน . . . ๑.  บ้านเด่าเลียบโขง ๒.  รอยยิ้มและความมีน้ำใจของคนเชียงคาน และเมื่อ  สิ่งที่เป็นเสน่ห์อันดับแรก ค่อย ๆ  หายไป  มีบ้านใหม่ ๆ  มาแทรกมาแซม  มีร้านโปสการ์ด  ร้านขายของที่ระลึก  สิ่งที่คนทั้งหลายโหยหา  ก็จะค่อย ๆ  คลาย เหล่าตั๊กแตนทางการท่องเที่ยวก็จะมองหาแหล่งท่องเที่ยวแหล่งใหม่ ๆ  อีก จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 13:56:11

ความคิดเห็นที่ 41 ตามมาชมเชียงคานต่อค่ะ ^^ จากคุณ : LoveError เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 13:58:07

ความคิดเห็นที่ 42 วิถีเชียงคานกำลังแปรสภาพไปอย่างช้า ๆ  . . . เชียงคานอาจจะโชคดี  ที่ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวดึงดูดเท่าปาย  เพราะหาไม่แล้ว  เชียงคานจะเปลี่ยนเป็นปายไปแน่ ๆ  แต่ตอนนี้อยู่ในช่วง  รอการเปลี่ยนแปลงอย่างถาวร เสน่ห์ของเชียงคานจะมีแค่ . . .  วันธรรมดาเท่านั้น จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 13:58:07

ความคิดเห็นที่ 43 วัฒนธรรมเชียงคานจะเหลือแค่ตำนาน . . . ผู้หญิงเวลาใส่บาตรต้องนั่ง  ส่วนผู้ชายยืนได้เสมอพระ  คือ วัฒนธรรมดั้งเดิม  ค่อย ๆ  โดนกลืนไป  จากภาพนักท่องเที่ยว  ที่ใช้วัฒนธรรมของตนเองแทน ผู้หญิงบางคนยืนใส่บาตร และที่หนักกว่านั้น . . . "สวมรองเท้าใส่บาตร" จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 14:00:37

ความคิดเห็นที่ 44 ทำไมเราไม่ปรับตัวเองให้เข้ากับวัฒนธรรมของที่นั่น . . . ในเมื่อเราคิดจะซึมซับกับความเป็นเชียงคานเราก็น่าจะรักษาสิ่งที่ชาวเชียงคานกระทำกันมา  แต่ดูเหมือนว่า  เรากำลังเอาความเป็นตัวตนของเราไปแต่งแต้มเชียงคานให้เปลี่ยนแปลงไป  ในแบบอย่างของเราเอง ผมได้แต่มองภาพนั้นเงียบๆ  ความคิดแบบผม  มันขวางโลกแท้ ๆ จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 14:03:30

ความคิดเห็นที่ 45 ผมไม่รู้หรอกว่า . . . ความต้องการของคนเราคืออะไร  ผมไม่รู้หรอกว่าความสุขของคนเราใช้อะไรมาวัด  เพราะมันคงไม่มีมาตราวัดความสุข  ที่ตายตัว สำหรับผมแล้ว การได้เดินไปบนเส้นทางที่ไม่เคยย่ำ  ผมมีความสุขเสมอ ผมยิ้มรับ  และ  บางครั้งก็รับสภาพความเปลี่ยนแปลงไม่ได้  เพราะบางอย่างมันคลืบคลานเข้ามาเร็วเกินไป  เชียงคานในวันธรรมดา  กับเชียงคานในวันหยุดยาว  แตกต่างกันราวกับเป็นเมืองคนละเมือง ผมอยากถ่ายรูปคนเชียงคานใส่บาตร  ผมอยากเห็น  คนเฒ่าคนแก่  ของเมืองเชียงคานจับกลุ่มคุยกันยามเช้า  แต่ภาพเหล่านั้นจะไม่มีให้ได้เห็นในวันหยุดยาว จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 14:06:47

ความคิดเห็นที่ 46 ถ้า . . . เราโหยหาความเป็นเชียงคาน   ความแตกต่างในการเดินทางสองครั้งบอกผมว่า  เสน่ห์ของเชียงคานมีอยู่ทั่วเชียงคาน  และเราจะสัมผัสมันได้อย่างเต็มหัวใจในวันธรรมดา "วันธรรมดา"   เท่านั้น เพราะเมื่อถึงเทสกาล  หรือวันหยุดยาว  คุณจะเจอ  "ข้าวสารริมโขง" จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 14:08:32

ความคิดเห็นที่ 47 อาหารเช้าชาวเชียงคาน . . . ข้าวปุ้นน้ำแจ่ว  ๒๐  บาท จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 14:09:25

ความคิดเห็นที่ 48 ผมเลือกเส้นทาง  ๒๐๓  เชียงคาน เลยภูเรือ  ด่านซ้าย   และมาต่อที่ถนนสาย ๒๐   หล่มเก่า  หล่มสัก  เพชรบูรณ์  สระบุรี  กรุงเทพฯ ถนนสายนี้ช่วง  หล่มเก่า ด่านซ้าย  ภูเรือ  เลย  บางช่วงจะอุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่า  และดูเหมือนว่า  จะเป็นถนนที่สวยอีกเส้น  การขับขี่ไมยาก  รถไม่ได้มากมายอะไร จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 14:12:27

ความคิดเห็นที่ 49 รูปจากการเดินทางในครั้งก่อน ในวันธรรมดาของเชียงคาน  เพราะมันจะสะท้อนภาพเชียงคานที่ชัดเจน  และ  จะเป็นทางเลือกสำหรับคนที่อยากไปเชียงคาน  ว่าจะเลือกวัน  ธรรมดาหรือวันหยุดยาว ขอบคุณหากคนที่ไปเชียงคานจะไม่แต่งแต้มสีเชียงคานและไม่ทำร้ายเชียงคานเหมือนหลาย ๆ  คนได้กระทำ แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 53 14:16:51 จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 14:16:11

ความคิดเห็นที่ 50 ผมขอจบกระทู้นี้ที่รูปนี้ . . . ในวันธรรมดาของเชียงคาน เมืองเล็ก ๆ  ริมโขง จากคุณ : นนท์ปวิชญ์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 14:18:21

ความคิดเห็นที่ 51 _+_  เห็นแล้วเศร้า จากคุณ : tankura เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 14:21:48

ความคิดเห็นที่ 52 ขอบคุณมากๆครับผม จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 14:38:02

ความคิดเห็นที่ 53 โอ้ว เปลี่ยนไปจริงๆ 5 ปีมาแล้วที่ไม่ได้ไปเชียงคาน ถึงแม้ว่าบ้านจะห่างจากเชียงคาน แค่ 40 กิโลเมตร จากคุณ : TheJef เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 14:45:02

ความคิดเห็นที่ 54 คิดเอาไว้เหมือนกันว่าต้องเป็นแบบนี้ คงได้แต่ทำใจครับ เสน่ห์ของเชียงคานหาใช่ร้านรวง และบ้านเรือนเก่า ๆ แต่อย่างเดียวนะ "ไมตรี ของคนเชียงคาน" นี่แหละครับที่ยังคงมีอยู่ เสน่ห์ของเชียงคานที่ใคร ๆ ก็ต่างหลงรัก "คิดถึงเชียงคานจัง" แจมด้วยภาพเมื่อปีกลายวันอาทิตย์ นะไม่ใช่วันธรรมดา สงบดีเนาะ คิดถึงประโยคที่มีคนพูดว่า "เวลาหมุนช้าที่เชียงคาน" แต่ตอนนี้เชียงคานหมุนเร็วจัง จากคุณ : chartchy เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 14:45:15

ความคิดเห็นที่ 55 อยากไปนะคะ แต่เห็นแบบนี้แล้ว ขอเลือกไปช่วงที่ไม่ใช่เทศกาลดีกว่า ท่าจะสบายใจกว่า จากคุณ : Kimmu เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 14:47:08

ความคิดเห็นที่ 56 จขกท. น่าจะใช้เส้นทางเดียวกับเราเลยเราไปมา สี่คืน ห้าวัน เมื่อปลายเดือนก.ย. ไปนกแอร์ แล้วเช่ารถจากสนามบินอุดร (ซื้อ voucher ในงานไทยเที่ยวไทย 5 แถม 1ได้พอดี) เริ่มจากคืนแรกภูเรือ - เช้าขึ้นไปดูทะเลหมอกบนภู - ไปต่อด่านซ้ายไหว้พระธาตุ - ขับต่อไปท่าลี่ ข้ามไปซื้อของอะไรเรื่อยเปื่อยที่ฝั่งลาว ต่อจากท่าลี่เข้าเชียงคาน ถึงเชียงคานก็ปาไปเกือบห้าโมง ขับไปรถไปเรื่อยๆ จนอ.จิ๋ว (เชียงคานริเวอร์วิวต้องโทร.ตามว่าหนูถึงไหนแล้ว) ตอนเย็นก็ปั่นจักรยานเล่น คืนที่สองที่เชียงาน ตื่นมาใส่บาตรพระ ไปภูทอกแต่ขึ้นไม่ได้เพราะถนนลื่นมาก ก็เลยไปแก่งคุดคู้ ภูพระบาท ภูช้างน้อย แวะไหว้พระนุ่น นี่ นั่นไปทั่ว พอบ่ายแดดแรงมากก็เข้าบ้านนอนเล่น  ตอนเย็นก็ออกปั่นจักรยานอีกรอบ คืนที่สามที่เชียงคาน เช้าตื่นมาใส่บาตรอีกรอบ นั่งเล่นจิบกาแฟริมโขงไม่รีบร้อน  เสร็จแล้วก็ออกจากเชียงคานวิ่งเส้นปากชม แวะน้ำตกธารทิพย์  น้ำตกธารทอง กินข้าวเที่ยวที่สังคม แวะไหว้พระที่วัดหินหมากเป้ง  ถึงหนองคายก็ห้าโมงเย็ฯ คืนที่สี่ที่หนองคาย  เช้าตื่นมาไหว้พระที่วัดโพธิ์ชัย เที่ยวซื้อของ ถ่ายรูปริมโขงที่หนองคาย  แล้วก็กลับเข้าอุดร แต่ของเราเนี่ยด้วยความที่บ้านอาจารย์บรรยากาศดี ทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็น เราก็เลยปั่นจักรยานไปซื้อของกินทุกอย่างที่เป็นที่รู้จัก ทั้งข้าวปุ้น ข้าวเปียก ปาท่องโก๋  หรืออื่นๆ ที่อยากกิน  เอามานั่งกินที่ระเบียงหลังบ้าน มีความสุขกว่าไปนั่งวุ่นวายกับคนเยอะๆๆ อีก  มีความสุขมาก   แต่รูปที่ถ่ายมาไม่สวยเหมือนของใครเขาและอีกอย่างที่บริษัทฯโพสรูปไม่ได้  ก็เลยได้แต่มานั่งดูรูปสวยๆ ของคนอื่น   มีความสุขกับเชียงคานที่สุด เพิ่มเติม  เห็นทะเบียนรถ จขกท.แล้วคิดถึงเมื่อวันแรงงานที่ผ่านมาก็ไปสมุย ด้วยนกแอร์เหมือนกัน ก็ยังไม่ได้อวดรูปใครอีกเช่นเคย   แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 53 14:52:31 จากคุณ : maxsun เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 14:47:54

ความคิดเห็นที่ 57 เชียงคาน สวยมากๆๆ จากคุณ : ชายเอ ทุ่งรังสิต เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 15:00:45

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ กำลังจะไปที่เชียงคานเร็วๆนี้ จะทำตัวเป็นนักท่องเที่ยวที่ดีค่ะ สัญญา ^^ จากคุณ : JuicyGrape เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 15:23:35

ความคิดเห็นที่ 59 ดูรีวิวแล้ว ลังเลใจ จะไปเที่ยวไหนดี ระหว่างเชียงรายกับเชียงคาน(ทีแรกตั้งใจไปเชียงราบและแม่ฮ่องสอน) จากคุณ : พยุหะ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 16:15:55

ความคิดเห็นที่ 60 บอกตามตรงคนไทยส่วนใหญ่ต่อมสำนึกรักษ์บ้านตัวยังไม่มี บางคนมีแต่อยู่ลึกเหลือเกิน แค่ถือว่ามีเงินก็ไปเที่ยวได้จริงๆ ว่าแต่ตัวเราเองนักท่องเที่ยวน่ะ เป็นหนึ่งในปัจจัยในความเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ใช่หรือ ถ้าเราไม่ไป เขาอาจเปลี่ยนตามกาลก็จริงอยู่ เพราะไม่มีสิ่งใดจีรัง แต่มันจะเปลี่ยนไปตามสังคมนั้นๆจะพาไป ไม่ใช่เพราะเราไปเร่งมัน หรือไม่จริง... จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 18:37:05

ความคิดเห็นที่ 61 ผมว่าคนเชียงคานเอง รู้ทั้งรู้แหละครับว่าการท่องเที่ยวเชียงคานจะทำให้เชียงคานเป็นอย่างไรต่อไป ตัวอย่างของปาย ก็มีให้เห็น ทุกคนก็รู้แก่ใจดี แต่ก็ไม่สามารถต้านทานกระแสของ "ตั๊กแตนการท่องเที่ยว" ได้ น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟครับ หรือสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ มันจะเป็นการยืนยันหลัก อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ได้ดีจริงๆ ไม่เที่ยง ทนอยู่ไม่ได้ และไม่มีตัวตนที่แท้จริง จากคุณ : David_kop เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 19:05:45

ความคิดเห็นที่ 62 ตามมาเที่ยวด้วยครับ จากคุณ : Red Fox เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 19:57:57

ความคิดเห็นที่ 63 เข้ามาชมบรรยากาศของเชียงคานในช่วงวันหยุดยาวด้วยคนค่ะ จากคุณ : คืนไร้ดาวพราวแสงจันทร์ เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 20:47:20

ความคิดเห็นที่ 64 เห็นแล้วแหยงไม่กล้าไปเชียงคานในวันหยุดเอาซะเลย...   ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 21:06:30

ความคิดเห็นที่ 65 ...ตามมาเที่ยวเชียงคานด้วยคนนะคะ อยากไปเชียงคานจังเลยค่ะ ^-^ จากคุณ : ปลายฟ้าที่ภูตะวัน เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 22:06:14

ความคิดเห็นที่ 66 วิธีแก้คือ ห้ามมีวันหยุดยาว วิ่งเส้นท่าลี่-เชียงคานหรือครับ ขรุขระใช้ได้นะ ผมไปไหว้พระใหญ่แล้ววิ่งต่อไปไหว้พระธาตุสัจจะ เล่นซะแจ๊สน้อยอ่วมไปเหมือนกัน ตอนนี้ผมอยู่เชียงคานครับ (3 DAYS LATER น่ะแหละ) ขยะถูกจัดเก็บเรียบร้อย และร้านรวงปิดไปเยอะเหมือนกัน สงสัยรบกะตั๊กแตน(ผมชอบคำนี้นะ)มาจนเหนื่อย และตอนนี้ เชียงคานก็ยังเป็นเชียงคานที่น่ารักเหมือนเดิมครับ ก็รอวันหยุดยาวอีกที่โน่นแหละ รอตั๊กแตนอีกฝูงใหญ่ แต่วันหยุดสั้น(ส-อา)ก็ใช่ย่อยนะครับ ที่พักเต็มทุกที่ในวันหยุด ในความวุ่นวายที่เจ้าของกระทู้ได้เล่ามาทั้งเรื่องและภาพ ผมว่าผมอยู่กับมันอย่างสันติได้นะ แต่นักท่องเที่ยวที่มาในวันธรรมดาล้วนน่ารักครับ ผมเจอน้องๆนักศึกษาปีสุดท้าย มาทำ thesis สารคดีเกี่ยวกับเชียงคาน ก็ได้แบ่งปันมุมมองให้น้องๆเขาไป อ้อ..เมื่อกี้โดนฝรั่งอำด้วยครับ เขาบอกโห..คนมาเที่ยวเชียงคานเยอะแยะ ทีนี้เราก็จะมี 7-11 แล้วสิ แม็คโดนัลด์ด้วย ผมบอกอย่าพูดแบบนั้น เขาบอก "ล้อเล่นน่า ผมเกลียดพวกนี้จะตาย ที่มาเชียงคานเพราะไม่มีสิ่งพวกนี้" เชื่อผมเถอะครับว่าคนที่เกี่ยวข้องเขารู้และต้องการรักษาความเป็นเชียงคาน เขาอยู่เชียงคานมาตลอดชีวิต คงรู้ว่าต้องทำอะไรยังไงไม่น้อยไปกว่าคนที่.. นานๆทีปีนึงสองปีสามปี สิบปียี่สิบปีมาเชียงคานทีนึงหรอกครับ จากคุณ : z2k เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 00:52:54

ความคิดเห็นที่ 67 เชียงคาน  ขอให้คงมนต์เสน่ห์เอาไว้ ไม่อยากให้เปลี่ยนไป  เพราะเชียงคาน ก็คือเชียงคาน จะให้เปลี่ยนไป  เหมือนกับปายหรืออย่างไร  สิ่งสุดท้าย  พวกเราท่านช่วยได้ ต้องร่วมกัน จากคุณ : ไวท์เบิร์น เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 13:13:41

ความคิดเห็นที่ 68 เก็บไว้ในความทรงจำ จากคุณ : แมนโชว์ เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 21:32:35

ความคิดเห็นที่ 69 เฮ้อออดูรีวิว แล้วแอบเศร้า จากคุณ : ajcha3557 เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 53 22:44:17

ความคิดเห็นที่ 70 ชีวิตมันก็เป็นเช่นนี้เอง...จริงๆ แล้วเมื่อเวลามาถึงการเปลี่ยนแปลงก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้  การเปลี่ยนแปลงอาจมีทั้งข้อดีและข้อเสียขึ้นอยู่กับสำนึกของ "คน" ที่จะทำให้การเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นแบบไหน  หลายๆ ที่ก็มีการเปลี่ยนแปลงเพียงแต่มีสำนึกที่จะให้การเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นไปในทางที่ดีและคงไว้ซึ่งสิ่งที่ดี  การท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์จริงๆ แล้วไม่ได้หมายถึงเพียงอนุรักษ์ธรรมชาติเพียงอย่างเดียวแต่ยังหมายถึงอนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีสิ่งดีงามต่างๆ ให้คงอยู่ตลอดไปด้วย  ดังนั้น"สำนึก"ในการท่องเที่ยวจึงเป็นสิ่งสำคัญและเป็นตัวแปรที่จะทำให้การเปลี่ยนแปลงนั้นๆ ดีกว่าหรือเลวร้ายลงไปกว่าอดีต  อยากให้ทุกผู้คนมี"สำนึก"ในการท่องเที่ยวจะได้มีสิ่งดีๆ ไว้ให้ลูกหลานได้ชื่นชม จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 09:29:50

ความคิดเห็นที่ 71 เชียงคานแล้วเราคงได้พบกันกันนะ จากคุณ : P.S. i love you เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 53 18:39:14

ความคิดเห็นที่ 72 ขอตามไปเที่ยวเชียงคานด้วยคนนะคะ   เห็นแล้วชวนคิดถึง  ^^ จากคุณ : DOGHALL เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 53 23:35:37

ความคิดเห็นที่ 73 ขอบคุณครับ จากคุณ : โบริโบริ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 53 20:53:57