ความคิดเห็นที่ 1 จะว่าไปแล้ว อาจเหมือนกับผมกำลัง"นำมะพร้าวไปขายสวน" คือสถานที่แห่งนี้ หลายคนอาจรู้จักกันดี และเคยไปมาหลายครั้งแล้ว  แต่อาจได้ประโยชน์สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยไป ได้ยินแต่ชื่อ  ผมจะพาท่านไปรู้จัก แบบละเอียดหน่อย สไตล์ นายมิราชช  (เพื่อนๆ บางคนในห้องนี้คงจำได้ ถึงความเอียน..เอ๊ย... เนื้อหาสาระที่เต็มอิ่ม จนน่าเบื่อ  แต่ก็ได้ความรู้และประสบการณ์เสมือนจริงกลับไป) ตามสไตล์ ผม ก่อนอื่นต้องกางแผนที่ก่อน  ว่า วัดพระราหู หรือ วัดศรีษะทองนี้อยู่ตรงไหนกัน..... จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 10:31:29

ความคิดเห็นที่ 2 แผนที่ข้างบนนี้ ช่วยบอกทางให้แก่เพื่อนๆ ได้รอบทิศ เรียกว่าลัดมาจากทิศใดก็ได้ ไม่ต้องขับรถอ้อม (วาดเตรียมมาให้ตั้งแต่ ต้นปีแล้ว..แทบไม่น่าเชื่อว่า กว่าจะได้ลงโรง นานนับสิบเดือนเชียว) แผนที่ข้างบนนั้น ออกจะกว้างๆ ไปหน่อย  เมื่อใกล้จะถึงวัดแล้ว จำต้องมีแผนที่อีกแผ่น เพื่อระบุทางเข้าวัด ที่ไม่ธรรมดา นะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 10:34:56

ความคิดเห็นที่ 3 คิดว่าส่วนใหญ่เพื่อน ที่เดินทางมาวัดนี้ น่าจะมาจากด้านกรุงเทพฯ คือ ถ.เพชรเกษม มากกว่าทางอื่นๆ   ตอนแรกผมเองยังคิดว่า น่าจะอยู่ใกล้ๆ กับ สวนสามพราน แต่ไม่ใช่ กลับอยู่เลย ทางแยกเข้า อ.นครชัยศรี ไปด้วยซ้ำ (เล่นเอาตาลาย เสียเวลามองหาไปตั้งแต่ สวนสามพรานเลย) จากแผนที่ข้างบน เราจะต้องไปกลับรถ(โน้น) ตรงทางแยกจะเข้า เมืองนครปฐมเลย (ประมาณ 10 กม.) แล้วกลับมาเข้าวัด  ซึ่งภาพซุ้มประตูริมถนนเพชรเกษมก็เป็นดั่งภาพข้างล่างนี้ ซึ่ง ยังไม่ถึงวัดนะครับ ต้องเข้าไปอีกเกือบกิโลเมตรเลย (ไปครั้งแรก ยังนึกว่าวัดอยู่ตรงนี้ซะอีก) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 10:46:52

ความคิดเห็นที่ 4 ซุ้มประตูเข้าวัดริมถนนเพชเกษมนี้ นับว่ามีความงดงามยิ่งใหญ่ อย่างมาก (ชนิดที่เรียกว่า ใหญ่กว่าข้างในเยอะเลย) ขอจอดถ่ายภาพหน้าตรงอีกสักรูปครับ  เรียกว่า มาแล้วไม่เข้าไปข้างใน ก็ดูกระไรอยู่ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 10:52:03

ความคิดเห็นที่ 5 ตามมารอชมค่ะ  เคยผ่าน แต่ไม่เคยแวะไปสักที จากคุณ : tobeLove เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 10:58:28

ความคิดเห็นที่ 6 ภาพ 1: เมื่อไปกลับรถมาแล้ว จุดสังเกตุ นอกจากป้ายเล็กๆสีเขียวแล้ว ก็คือ สะพานลอยคนข้ามสีเหลืองครับ ซึ่งทางเข้าวัดจะอยู่เลยสะพานลอยคนข้าม และศาลารอรถ ภาพ 2: เมื่อเลี้ยวซ้ายเข้ามาแล้ว ไม่ต้องงง และคิดว่า เข้าผิดทางนะครับ  เพราะบรรยากาศดูเป็นอย่างนั้นจริงๆ  คือไม่มีอาราม รั้ววัดใดๆ ให้เห็น มีแต่บ้านคนเรียงราย ไปจนลับตา  ถ้าหากย้อนไปดูแผนที่ใน คห.2  ก็จะพบว่าต้องเลี้ยวขวาตามถนนไปก่อน แล้วจะมีสะพานข้ามคลองเล็กๆ ตรงไปยังวัดทันที จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 11:04:20

ความคิดเห็นที่ 7 อยากไปวัดนี้มาก กลับกรุงเทพต้องหาวันว่างไปไหว้พระราหูให้ได้ ขอบคุณมากๆนะคะที่นำมาฝากกัน จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 13:29:19

ความคิดเห็นที่ 8 วัดนี้ดาราดัง ๆชอบไปกัน ค่ะ โดยเฉพาะวันพุธ  เราไปไป 2-4 ครั้งแล้วล่ะ ตรงทางข้ามรถไฟ ให้ขับระวังกันด้วยนะคะ จากคุณ : ม่านบาหลี เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 15:19:02

ความคิดเห็นที่ 9 เข้ามาชมด้วยคนคะ จากคุณ : BROWN STITCH เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 16:04:26

ความคิดเห็นที่ 10 มาลงชื่อ พรุ่งนี้จะตามมาอ่านต่อ ไม่ไกลจากบ้านเท่าไหร จากคุณ : ปตัญชลี เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 16:35:38

ความคิดเห็นที่ 11 สวัสดีครับ ทุกๆ คนที่แวะเข้ามาทักทาย พอดีมีธุระ ตอนนี้มาต่อกันนะครับ ภาพ 1: เข้าไปตามถนนหน้าวัดสักครู่ก็จะเห็นสะพานสวยๆ มีโคมไฟหงส์เหมือนที่ถนนอักษะ ตรงพุทธมณฑลสาย 4   ให้เลี้ยวซ้ายข้ามสะพานนี้ ภาพ 2: มองตรงไปก็จะเห็นประตูทางเข้าวัด  ซึ่งอาจรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยว่า ไม่มีซุ้มประตูให้เห็น ซึ่งอันที่จริง ไม่ใช่ประตูหลักของวัด  ประตูหน้าจริงๆ จะอยู่ไปทางซ้าย    ทางเข้าวัดนี้ นอกจากจะต้องระวังรถไฟแล้ว ยังต้องระวังรถยนต์ด้วย เพราะเชิงทางรถไฟเป็นสี่แยกทั้งสองฝั่งเลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 17:04:17

ความคิดเห็นที่ 12 ภาพ 1: เป็นภาพแสดงลักษณะรางรถไฟที่ข้าม ซึ่งเป็นรางคู่ เมื่อเลยไปแล้วจะเป็นทางลาดชันลงไปยังสี่แยกหน้าวัด ให้ระวังกันหน่อย ภาพ 2: ประตูใหญ่หน้าวัด จะเลยมาทางซ้ายเล็กน้อย แต่ไม่นิยมเข้า (มักใช้เป็นทางออก หรือไม่ก็สำหรับรถที่วิ่งมาจากด้านซ้ายเท่านั้น)  แต่ตรงหน้าวัด ตรงข้ามฝั่งถนนจะเป็นแนวจอดรถ ที่มักเต็มตลอดเวลา จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 17:15:31

ความคิดเห็นที่ 13 ภาพ 1: ผมไปยืนถ่ายภาพนี้จากบนรางรถไฟ นับเป็นมุมมองที่เห็นจากบนรถไฟเมื่อแล่นผ่านหน้าวัด (ซึ่งแน่นอน ผู้ที่ขับรถยนต์บนถนน เพชรเกษม ก็จะไม่มีทางเห็นภาพนี้)   ดังนั้น บางคนที่จำได้ลางๆ ว่าเคยเห็นภาพนี้ อาจคิดว่าเคยเห็นจากริมถนนใหญ่ได้ ภาพ 2: ป้ายชื่อวัดทำได้สวยมาก(ขอซูมให้ดูชัดๆ)  ชื่อวัดมีประวัติความเป็นมาจากที่มีการขุดพบเศียรพระสีทอง ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น เลยมีชื่อว่า "วัดหัวทอง" มาตั้งแต่แรก จนต่อมาได้มีการขุดคลองเจดีย์บูชา ที่เราเพิ่งข้ามสะพานมานั่นเอง เลยได้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดศรีษะทอง สำหรับความเกี่ยวข้องของ ของพระราหู กับ วัดนี้ คือ ในสมัยหลวงพ่อน้อย นาวารัตน์ อดีตเจ้าอาวาสวัด ท่านเป็นต้นตำรับของการสร้างพระราหูอมจันทร์จากกะลาตาเดียว  เครื่องรางที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง  จนทำให้วัดนี้มีชื่อเสียงมาจนทุกวันนี้ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 20:14:59

ความคิดเห็นที่ 14 ภาพ 1: เป็นถนนหน้าวัด ซึ่งมองไปทางซ้ายมือ (ด้านจ.นครปฐม) จะเป็นถนนวนอ้อมไปยังหลังวัด ซึ่งจากแผนที่ในคห.2 จะเห็นว่าเป็นถนนที่ไปยัง อ.ดอนตูม และ อ.นครชัยศรีได้ ภาพ 2: เป็นถนนเดียวกับภาพ 1 แต่มองมาทางขวามือ จะเห็นประตูใหญ่ทางเข้าวัด ซึ่งไม่มีซุ้มประตู มีแต่ศาลาพักร้อนทั้งสองด้านของรั้ววัด  เลยไปก็คือ ทางแยกที่เราข้ามทางรถไฟเข้ามา เลยไปก็เป็นถนนวนอ้อมไปหลังวัด ไปบรรจบกับถนนในภาพที่ 1 นั่นแหละ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 20:15:53

ความคิดเห็นที่ 15 ผมขอนำเพื่อนเข้ามาทางเข้าด้านหน้าวัดเลยนะครับ จะพบพระพุทธรูปองค์ใหญ่ สถาปัตยกรรมสมัยโบราณ (เหมือนสุโขทัย) ด้านซ้ายมือ  ซึ่งมีคนบอกว่า แต่ก่อนไม่ได้ตั้งประดิษฐานตรงนี้ ย้ายมาจากลานกลางวัด จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 20:17:07

ความคิดเห็นที่ 16 ด้านหลังองค์พระพุทธรูปจะมีบอร์ดข้อมูลเกี่ยวกับวัดให้อ่านหลายอัน ผมเลือกเอามาให้ดู 3 ภาพ  ที่น่าสนใจก็คือ ตำนานพระราหู ที่หลายคนอาจไม่เคยทราบมาก่อน  พระราหูตนนี้ เป็นยักษ์ที่มีรูปร่างผสมกับงู คือมีแขน 4 แขน ไม่มีขา มีแต่หางตั้งแต่ใต้สะดือลงไป มีชื่อเต็มว่า “ไสยนนิเกยะ”  ได้แอบไปร่วมดื่มน้ำอมฤตกับเทวดา เพื่อให้มีชีวิตอมตะ  ทำให้พระอาทิตย์และพระจันทร์ผู้ดูแลพิธีกวนน้ำอมฤตเห็นเข้าและกราบทูลกับพระอินทร์ทราบ ซึ่งทำให้ ท่านได้ขว้างจักรตัดตัวพระราหู เหลือแต่สวนบน และแขน 2 ข้างไป เหลือ เพียง 2 ข้างเท่าที่เห็น ซึ่งเนื่องจากพระราหูได้ดื่มน้ำอมฤตไปแล้ว เลยทำให้ไม่ตาย และคอยแอบจับพระอาทิตย์และพระจันทร์กิน (อม) เป็นประจำ ดังที่เราเรียกว่า สุริยคราส และ จันทคราส (ทำให้มีการยิงปืน หรือส่งเสียงดังเพื่อให้พระราหูตกใจ คลายพระจันทร์ ดังที่เคยเห็นกัน)    แต่สำหรับ คัมภีร์พระพุทธศาสนา กลับไม่ใช่  พระราหูเป็นราชาแห่งอสูร มีชื่อว่า “อสุรินทรราหู” เป็นเทพอสูรที่มีน้ำใจเสียสละแก่เทพต่างๆ เป็นอมตะ เป็นเทพราตรี ที่นำความมืด ความเย็น ให้แก่โลกยามค่ำคืน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 20:23:12

ความคิดเห็นที่ 17 ภาพ 1: เมื่อเดินห่างออกมาจากพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ที่ตั้งอยู่หน้าศาลาหลังใหญ่  กำลังมองหาสุขาอยู่หนใด? ภาพ 2: ติดกับศาลาหลังใหญ่ ก็เป็นศาลาสวดศพ ซึ่งปกติจะมีห้องสุขาอยู่ด้านหลัง เลยเดินเข้าไป ได้พบกับสุขาแสนสวย ไม่แพ้ปั๊มน้ำมันบางแห่งที่มีสุขาหรูๆ  และก็สะดุดตา ตรงชื่อเพศ หน้าห้อง ที่มักไม่ค่อยพบเห็น คือคำว่า “สตรี” กับ “บุรุษ”  (ส่วนใหญ่ใช้คำว่า “หญิง” กับ “ชาย” เท่านั้น ซึ่งในสถานที่หรูๆ บางแห่งอาจใช้คำว่า “Lady” และ “Gentle” ที่แปลว่า สุภาษสตรี กับ สุภาพบุรุษ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 20:26:01

ความคิดเห็นที่ 18 ภาพ 1: ก่อนจะถึง ศาลาพระราหูหลังใหญ่ ที่ดูเป็นศูนย์กลางของวัดแห่งนี้  จะเห็นศาลาเล็ก ที่ประดิษฐาน พระประจำวันสีเหลือง คล้ายหล่อมาจากเทียน วางเป็นวงกลม ไม่ได้มีแท่นบูชาใดๆ  (เพราะมีองค์ปพระประจำวันอยู่ในศาลาพระราหูให้บูชาอยู่แล้ว) ภาพ 2:  ใกล้กัน มีแท่งศิลาจารึก ไม่ได้จารึกพระคัมภีร์ หรือตัวอักษรโบราณแต่อย่างใด เป็นนายชื่อผู้บริจาคเงินทำบุญ ทั้งหมด ภาพ 3: ผมเข้าไปในศาลาพระประจำวันในภาพที่ 1 แล้วรู้สึกชอบ พระพุทธรูปปางไสยาสน์ ประจำวันอังคารของผมเป็นพิเศษ  พระพักต์ท่านมีรอยยิ้ม ด้วยครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 20:27:27

ความคิดเห็นที่ 19 วันนี้คงต้องขอพักไว้ก่อน ไว้พรุ่งนี้มาต่อกัน  ตอนนี้อยู่หน้าศาลาพระราหูแล้ว กำลังจะเข้าไปไหว้พระราหู ครับ  ชอบใจ หลังคาศาลาพระราหู สร้างได้สวย และมีความหมายครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 20:37:50

ความคิดเห็นที่ 20 ตามมาเที่ยวด้วยครับ จากคุณ : Red Fox เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 53 22:10:06

ความคิดเห็นที่ 21 สวัสดีครับ คุณ Red Fox  ที่เข้ามาทักทายยามดึก เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาต่อให้จบครับ ช่วงนี้ผมคงต้องพาเข้าวัดทำบุญบ่อยๆ จะได้บุญร่วมกันนะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 01:32:27

ความคิดเห็นที่ 22 มารอชมรีวิวอีกค่ะ จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 08:23:16

ความคิดเห็นที่ 23 สวัสดีครับ คุณสาวหน้าใส : ติดตามมาชมกระทู้แต่เช้าเลย วันนี้จะได้เข้าไปไหว้พระราหู และเข้าชม สถาปัตยกรรมสวยๆ ด้านในวัดด้วยครับ ภาพ 1: ตอนนี้ พระราหู อยู่ตรงหน้าแล้วครับ ของไหว้ต้องเป็นสีดำ ที่เห็นจากในภาพ เป็นองุ่นสีม่วงเข้มจนดูสีดำ  มีคำบูชาจารึกอยู่ในแผ่นป้ายด้านหน้าหลายอัน ต้องเลือกอ่าน ตามต้องการครับ ภาพ 2: ขอซูมเข้าไปใกล้ๆ ที่องค์รูปปั้นพระราหู  เป็นดั่งตำนานที่เขียนไว้จริง คือมี ร่างกายครึ่งท่อนบน  ทีแรกยังคิดว่าเขาประหยัดปั้นแค่ครึ่งตัว แต่ที่จริงไม่ใช่ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 10:38:31

ความคิดเห็นที่ 24 ภาพ 1: ก่อนจะไหว้ ต้องเตรียมธูปสีดำ 9 ดอก ดอกไม้สีดำ และทองคำเปลว มีจัดไว้ให้ริมระเบียงด้านหน้า ภาพ 2: ครบแล้วก็มาสวดมนต์ขออวยพรให้โชคดีมีชัย  โปรดสังเกตุในวงสีชมพู เจ้าตัวเล็กดูจะมีความสนใจเป็นพิเศษ แหงนชะเง้อดู แบบสุดๆไปเลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 10:39:45

ความคิดเห็นที่ 25 ภาพ 1: ด้านหน้า รูปปั้นพระราหูในคห.23 จะมีรูปหล่ออันเล็กกว่า อยู่ข้างหน้า 2 องค์ ที่เปิดให้ปิดทองได้  สำหรับภาพ 2 ก็คือรูปหล่อด้านขวา(ของรูปปั้นครับ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 11:47:06

ความคิดเห็นที่ 26 แหงนขึ้นไปดูเพดานศาลาพระราหู จะเห็นภาพวาดจิตรกรรมฝาผนัง เทพองค์ต่างๆ ตามความเชื่อในศาสนา ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 13:53:42

ความคิดเห็นที่ 27 กลับมาดูที่รูปปั้น พระราหู อีกครั้ง ครับ ภาพ 1:  เป็นภาพด้านข้าง  เนื่องจากองค์พระราหูมีสีดำ จึงตัดกับสภาพแวดล้อมด้านข้าง ที่สว่างกว่า เลยมองไม่เห็นอะไรโดยรอบ ภาพ 2:  เป็นภาพด้านหลัง ซึ่งไม่ค่อยมีใครเห็นกัน (Unseen อีกแล้วซิ)  มองเลยไปที่เพดาน จะสังเกตุเห็นกระจกกลมๆ ใส ไม่มีสีดำ เหมือนดังที่เห็นจากด้านนอกในภาพ คห.19  นับว่าแปลกดีจัง เพราะเมื่อเทียบกับ กระจกโดยรอบที่มีสีขาวเมื่อมองจากข้างนอก เมื่อเข้ามาดูข้างในก็ดูใสๆ เช่นกัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 19:21:42

ความคิดเห็นที่ 28 เสร็จแล้วก็ ตามอัธยาศัย   รอบๆ ศาลาพระราหูนี้ มีจุดให้เลือกทำบุญได้หลายแบบ เช่น ปิดทองพระประจำวันเกิด เป็นต้น  ส่วนผม ต่อไปนี้ก็ได้เวลาไปเก็บภาพสวยๆ ในบริเวณวัดกันแล้วครับ ติดตามมาได้เลยครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 19:59:00

ความคิดเห็นที่ 29 ภาพ 1: เริ่มจากศาลาเทพกลางน้ำ ซึ่งอยู่ติดกับ ศาลาพระราหู ด้านขวามือ (มองเข้าไปจากด้านหน้าวัด) ภาพที่ 2:  ลองซูมภาพดูใกล้ๆ รูปปั้นองค์เทพสีทองลวดลายงดงามมาก น่าสนๆ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 20:00:26

ความคิดเห็นที่ 30 ผมไม่ทราบว่าจะเรียกชื่อว่าอะไรดี เลยขอตั้งชื่อว่า ศาลาเทพกลางน้ำก็แล้วกัน  ลอยเด่นอยู่กลางสระน้ำเลย เพียงแต่น้ำในสระนั้นดูไม่สะอาดนัก มีสาหร่ายตระไคร่น้ำเขียวเต็มไปหมด  ปกติเขามักจะมีใบบัว หรือไม่ก็เลี้ยงปลา จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 20:21:13

ความคิดเห็นที่ 31 ภาพขวา :  เป็นบันไดลงไปในสระน้ำ คงไว้ใช้ในเทศกาลลอยกระทง (ผมคิดเอาเองนะครับ) ภาพซ้าย : เดินมาทางด้านหน้าศาลา ก็จะมีสะพานทอดยาวไปสู่ศาลาตรงกลางน้ำเลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 20:30:05

ความคิดเห็นที่ 32 ลองใช้กล้องซูมดูด้านหน้า องค์เทพ ดูสวยไม่น้อย  แต่เมื่อเดินเข้าไปใกล้ (เข้าไปในศาลาไม่ได้ เพราะประตูปิดอยู่) กลับถ่ายภาพได้ไม่ชัด ก็เพราะประตูกระจกที่แบ่งเป็น 3 ส่วน บังอยู่  เลยได้ภาพเต็มๆ จากด้านข้างอย่างที่เห็นครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 20:31:38

ความคิดเห็นที่ 33 หันไปดูด้านหลังวัด ก็จะเห็นวิหาร ที่งดงามด้วยประติมากรรม รูปปั้นเทวดา ตามหลังคาวิหาร  ซึ่งผมนับดูแล้ว มี 4 หลัง  แบ่งเป็น วิหารหน้า วิหารหลัง วิหารขวา และวิหารซ้ายที่ยังสร้างไม่เสร็จ(ในวันที่ไปผมไปถ่าย คือ 13  ธค. 2552  ปัจจุบันน่าจะสร้างเสร็จไปแล้ว) แก้ไขเมื่อ 27 ต.ค. 53 20:58:36 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 20:34:57

ความคิดเห็นที่ 34 ผมขอพาเพื่อนๆ เข้าไปยังวิหารหน้า เป็นแห่งแรกก่อนเลย เพราะอยู่ใกล้กับศาลาพระราหูมากที่สุด  เป็นวิหารที่มีรูปทรง 3 ด้านเท่า   ด้านในมีองค์พระพุทธรูปสีทองอร่าม ซึ่งในตอนนั้นยังถือว่าไม่เสร็จสมบูรณ์ เลยมีนั่งร้านตั้งอยู่ด้วย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 20:35:54

ความคิดเห็นที่ 35 ภาพซ้าย : เมื่อเข้าไปข้างในวิหาร แล้วหันกลับออกมาดูที่ประตูด้านหน้า ก็จะเห็นศาลาพระราหูอยู่ไม่ไกล ภาพขวา : สะดุดตา กระจกลายเหนือประตู (และหน้าต่างทุกบาน) เป็นรูป พระราหู สลักได้สวยงามมาก ยิ่งมองจากจุดนี้ ทำให้ดูเหมือน พระราหูลอยอยู่บนฟ้าจริงๆ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 20:36:54

ความคิดเห็นที่ 36 สภาพภายในวิหาร มีลวดลายสวยงามไม่น้อย  ภาพ 1: เพดานรูปสิงห์คู่  ภาพ 2: ด้านข้างองค์พระประธานข้างใน  ภาพ 3: บานประตู(ที่มากมาย และปิดอยู่) มีลวดลายลงรักปิดทองดูมีระดับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 20:37:52

ความคิดเห็นที่ 37 ภาพซ้าย : ลองมาดูที่วิหารด้านขวา  รูปทรงเหมือนโบสถ์ ยกพื้นระดับเดียวกับวิหารด้านหน้า เลยเดินไปชมได้สะดวก ภาพขวา : ก่อนเข้าไปดู ขอเดินลงมาชมด้านริมวิหารฝั่งด้านทิศตะวันออก(ขวามือ)  ชัดๆ หน่อย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 20:38:30

ความคิดเห็นที่ 38 มาดูกันให้ชัดๆ รูปปั้นประติมากรรมเทวดา ตามชายคา วิหาร นั้นมีความละเอียดอ่อนมาก แต่โดนแดดกินสี และมีตระไคร่น้ำจับเยอะเหมือนกัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 20:39:02

ความคิดเห็นที่ 39 ภาพซ้าย : ผมเข้ามาข้างในวิหารด้านขวา พบ รูปปั้นพระประจำในปางต่างๆ เรียงรายอยู่ ภาพขวา : เป็นลวดลายเพดานวิหาร มีความปราณีตมาก จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 20:39:39

ความคิดเห็นที่ 40 และผมเองก็ไม่ลืมบันทึกภาพ ลวดลายจากรกระจกเหนือประตู หน้าต่าง ในวิหารขวา ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 20:40:16

ความคิดเห็นที่ 41 ภาพ 1: ผมออกมาจากวิหารด้านขวาแล้วเดินอ้อม มาทางด้านทิศตะวันออก เพื่อดูด้านหลังวิหาร ซึ่งจะเห็นวิหารด้านหลังอยู่ติดกัน ภาพ 2: รูปปั้นประติมากรรมยักษ์ คุ้มครองสถานที่  มีความละเอียดบรรจงดี พร้อมแผ่นพลาสติคป้องกันทั้ง มือคนไปจับลูบคลำ และฝนสาด นับว่าทันสมัยมาก จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 20:40:57

ความคิดเห็นที่ 42 ภาพ 1: นี่ เป็นลวดลายหน้าต่าง ของวิหารด้านหลังครับ  ความงามไม่ต้องพูดถึง ภาพ 2:เป็นลวดลายประตูด้านหลังของวิหารนี้ ครับ  สังเกตุให้ดี สำหรับวิหารหลังนี้  ลวดลายบนกระจกจะแตกต่างกัน คือเป็นเทพ คนละองค์กันครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 20:41:36

ความคิดเห็นที่ 43 ภาพ 1: ผมเดินอ้อมไปทางด้านหลังวิหารหลัง แล้วมาโผล่ ตรงช่องว่างติดกับวิหารซ้าย ซึ่งจะมองเห็นหอระฆัง  กับศาลาพระราหู อยู่ข้างหน้า ภาพ 2: เสร็จแล้วผมก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปยังช่องทางเดินกลางระหว่างวิหารหน้า-หลัง ซึ่ง เหมือนหลุดเข้ามาในโลกหนึ่งเลย (เพราะเต็มไปด้วย ประติมากรรม แห่งสวรรค์) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 20:42:10

ความคิดเห็นที่ 44 ผมลองเข้าไปในวิหารหลังดู พบว่าภายในวิหารยังไม่มีการประดิษฐานพระหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ  ดูคล้ายเป็นห้องเก็บของมากกว่า  ในปัจจุบันอาจมีการประดิษฐานสิ่งใดๆ แล้วก็ได้   แม้วิหารนี้จะดูเรียบๆ แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งภาพวาดบนเพดานสวยๆ อีกเช่นกันครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 20:45:41

ความคิดเห็นที่ 45 ภาพขวา : ตอนนี้ออกมาตรงทางเดินระหว่างวิหารหน้าและวิหารหลัง หันมองไปทางวิหารด้านซ้าย (มองเข้ามาจากหน้าวัด) ที่ยังสร้างไม่เสร็จ ภาพซ้าย : เดินออกมาเก็บภาพวิหารด้านซ้าย ที่ยังสร้างไม่เสร็จ (เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ.2552)  ตอนนี้อาจเสร็จแล้วก็ได้  จะเป็นอย่างไรก็คงต้องหาเวลาไปเก็บภาพอีกครั้งครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 20:57:38

ความคิดเห็นที่ 46 ภาพ 2 : ตรงช่องว่างระหว่าง วิหารด้านซ้าย(มองเข้ามาจากหน้าวัด) กับวิหารหน้า มองกลับไปทางหน้าวัด จะเห็น ศาลาพระราหูอยู่ตรงหน้า ภาพ 1: มองไปทางซ้ายมือ (ทิศตะวันออก) ก็จะเห็นสระน้ำ ที่มีศาลาเทพอยู่ ดังที่ผมเคยพาไปชมมาตอนต้นกระทู้นี้แล้ว ภาพ 3: มองไปทางขวามือ(ทิศตะวันตก) จะเห็นหอระฆังอยู่ ทางด้านขวาเป็นศาลาสวดศพ และศาลาที่มีพระพุทธรูปองค์โต ในคห.15 ตั้งอยู่ถัดไปทางหน้าวัดครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 21:12:26

ความคิดเห็นที่ 47 จากภาพข้างบน (คห.46) ผมลองเดินไปทางซ้าย ตรงช่องว่างระหว่างวิหารขวามือ(มองเข้ามาจากหน้าวัด) กับวิหารด้านหน้า ก็จะเห็นศาลาเทพกลางน้ำในมุมสูงเต็มๆ อีกครั้ง โดยมีพระอุโบสถอยู่ด้านหลังครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 21:17:00

ความคิดเห็นที่ 48 ผมลองเดินอ้อมไปยังหน้าพระอุโบสถ แต่ไม่ได้เข้าไปข้างใน เพราะสมาชิกที่มาด้วยกันพร้อมจะกลับกันแล้ว เหลือบเห็นรถบริการหนังสือธรรมะ เคลื่อนที่ครับ เป็นของ "สถาบัน บันลือธรรม" ใช้สำหรับเผยแผ่พุทธศาสนาเคลื่อนที่ ไปเปิดบริการที่วัดไหนก็ได้สะดวกดี จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 21:27:55

ความคิดเห็นที่ 49 ตรงจุดนี้เหลือบไปเห็นศาลาการเปรียญหลังเก่า (คาดว่าเลิกใช้แล้ว) อยู่ติดรั้ววัดด้านหน้าเลย  ของเก่าน่าสงวนไว้ แต่ผมไม่มีเวลาเดินไปสำรวจ ต้องรีบกลับละครับ เย็นมากแล้ว จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 21:32:17

ความคิดเห็นที่ 50 ผมรู้สึกแปลกใจว่า ตรงท้ายพระอุโบสถนี่เขามีอะไรกัน คนถึงเยอะ  อ้อ...ตลาดนัดนั่นเอง  เลยเห็นอาคารสุขาขนาดใหญ่เข้าให้..  ถึงว่าซี ทำไมหายากจัง ตอนแรกต้องเข้าไปใช้ด้านหลังศาลาสวดศพ ด้านโน้นเลย ตรงนี้ถือว่าออกนอกเขตวัดแล้ว เพราะมีถนนด้านข้างวัดคั่นกลาง ตอนแรกก็รู้สึกงงๆ เหมือนกัน จนมาดูแผนที่ GPS จึงทราบครับ ว่าถนนเส้นนี้สามารถพาวนได้รอบวัดเลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 21:38:43

ความคิดเห็นที่ 51 และแล้วก็ถึงเวลากลับบ้านละครับ ขอความสุขสวัสดีจงมีแต่เพื่อนๆทุกท่าน ขอให้โชคดี นะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 53 21:43:50

ความคิดเห็นที่ 52 กดเก็บเข้าคลังกระทู้เก่าไว้เรียบร้อย ขอบคุณมากๆอีกครั้งนะคะ จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 12:58:30

ความคิดเห็นที่ 53 สวัสดีครับ คุณสาวหน้าใส : ขอบคุณมากครับ ที่ช่วยให้รีวิวนี้ได้คงอยู่ไว้ใช้อ้างอิงต่อไปนานๆ ครับ  ตอนนี้ผมมีตอนใหม่แล้ว คือพาไปปิดทองฝังลูกนิมิต  4 วัด ภายในครึ่งวัน รีวิวไปแล้ว 2 วัดคือ วัดธัญญาราม และ วัดบางแก้ว ครับ สนใจก็ติดตามลิ้งค์ข้างล่างนี้ได้ครับ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9856750/E9856750.html จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 53 20:11:30