แล้วรถก็กระชากทางขวาแรงๆอีก 1 ครั้ง แล้วก็เอียงไปมาเหมือนรถทรงตัวไม่อยู่
นาทีนั้นคิดว่ารถกลิ้ง แน่นอน เพราะรถเหวี่ยง และเอียงมากค่ะ รถเป็นรถบัสชั้นเดียว แต่สูงมาก
แต่มีบันไดตรงกลางรถ และต้องเดินขึ้นมาข้างบน เหมือนรถ 2 ชั้น
ด้วยแรงเหวี่ยงและความเอียง ประกอบกับฝนตกหนัก กะว่าไม่รอดแล้วค่ะ
แต่อยู่ๆ รถก็หยุดนิ่ง พร้อมกับเสียงคนในรถอื้ออึงขึ้นมาพร้อมๆกัน
พอรู้สึกตัวว่าเราไม่เป็นอะไร รู้แต่โลกเอียงมากตอนนี้ ก็สำรวจรอบๆ
เห็นของ เห็นกระเป๋าอะไร อยู่บนหัว บนหลังเราเต็มไปหมด
ผ้าอะไรใครมาจากไหนไม่รู้ รองเท้าเราหายไปเลย ทั้งสองข้าง
หลายๆคนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดๆๆๆ ส่งเสียงภาษาใต้กันใหญ่
ส่งเสียงบอกญาติพี่น้องว่าเกิดอุบัติเหตุ
สองข้างทางมืดสนิท มีเพียงเสียงฝนกระหน่ำลงบนหลังคา
และไฟจากห้องโดยสารเป็นบางดวงเท่านั้น
วายกนาฬิกาขึ้นดูเวลาประมาณตี 4 ครึ่ง โทรศัพท์มีสัญญาณ 1 ขีด
จากทั้งหมด 7 ขีด ซึ่งแปลว่า ถ้าโทรออก ต้องไม่มีสัญญาณ หรือคุยไม่รู้เรื่องแน่ๆ
ถ้าโทรหาพ่อแม่ เค้าก็คงจะเป็นห่วง ถ้าโทรหาทางรีสอร์ท ที่จะมารอรับ
เค้าก็อาจจะยังไม่ออกมาก็เป็นได้ เพราะมันยังไม่ถึงเวลา
รถเอียงมากจนวารู้สึกว่า ไม่ปลอดภัยแน่ ถ้าในที่สุดมันล้มลงไปจริงๆ
เพราะด้านวาเอง อยู่ริมด้วย ทุกอย่างต้องลงมาทับเราแน่ๆ หลายๆคน
ก็เลยออกไปยืนโหนตรงกลาง เป็นการปลอบใจตัวเอง