ความคิดเห็นที่ 1 ตื่นเช้ามาหลังจากจัดการธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกลุยกันเลย.... เช้าวันอาทิตย์แบบนี้ เมือง Bath ยังไม่ตื่นกันเลยครับ จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 23:41:01

ความคิดเห็นที่ 2 จุดหมายแรกของเราอยู่ที่นี่ครับ " The Circle " ผลงานการออกแบบของ John Wood ตึกสร้างล้อมรอบกันเป็นวงกลม ตรงกลางคือสนามหญ้าขนาดใหญ่ หน้าบ้านแต่ละหลังจะมีลวดลาย สัญลักษณ์ที่แตกต่างกันถึง 528 แบบ จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 23:41:55

ความคิดเห็นที่ 3 จาก The Circle เดินมุ่งหน้าต่อไปยังถนน Block Street ที่เป็นจุดเชื่อมระหว่าง The Circle กับ The Royal Crescent จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 23:43:51

ความคิดเห็นที่ 4 The Royal Crescent คือ ตึกรูปครึ่งวงกลม ผลงานการออกแบบของลูกชาย John Wood พ่อออกแบบ The Circle ลูกออกแบบ The Royal Crescent เก่งจริงๆ พ่อลูกคู่นี้ จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 23:44:46

ความคิดเห็นที่ 5 มองกันเต็มๆ สำหรับ The Royal Crescent ของจริงสวยกว่าในรูปนี้มาก แต่ไม่รู้จะถ่ายยังไง ให้เห็นความงามได้ทั้งหมดครับ จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 23:45:30

ความคิดเห็นที่ 6 รูปนี้ไป Load มาจากอากู๋ ครับ อยากให้เห็นความงามของ The Circle และ The Royal crescent กันอย่างเต็มที่ ต้องเห็นด้วยมุมนี้เท่านั้นครับ จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 23:46:58

ความคิดเห็นที่ 7 บริเวณหน้า The Royal Crescent เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่มากๆ ชื่อ The Royal Victoria Park ส่วนสิงโตในรูปนี้เป็นส่วนหนึ่งของ  The Lion of Bath รูปปั้นสิงโต 100 ตัว ที่ตั้งอยูตามจุดต่างๆ ในเมือง Bath แต่ละตัว จะมีรูปร่าง สีสันลวดลายที่แตกต่างกัน อย่างตัวนี้ เน้นสีน่ารัก ๆ ที่เค้ามาตั้งแบบนี้ เพื่อเป็นการหาเงินเข้ากองทุนการกุศลประจำเมือง แต่เหตุผลที่สำคัญ คือ เป็นการสร้างรอยยิ้มให้แก่ชาวเมือง Bath และ ผู้มาเยือนได้มีความสุขกับการได้ชมและถ่ายรูปสิงโตเหล่านี้ เป็นเหตุผลที่น่ารักจริงๆ จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 23:50:04

ความคิดเห็นที่ 8 จาก The Royal Victoria Park เราก็เดินชมเมืองไปเรื่อยๆ ตอนเช้าคนเลยยังไม่ค่อยมี เดินถ่ายรูปได้อย่างสบายๆ จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 23:51:38

ความคิดเห็นที่ 9 เสียดายฟ้าไม่แจ่มใสเท่าไหร่นัก ทำให้ Bath ยามเช้า  ดูเหงาๆ ไปหน่อย จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 23:52:43

ความคิดเห็นที่ 10 Bath เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนเนินเขา เราเลยต้องเดินขึ้น เดินลง ตลอด ถึงจะต้องเมื่อยขาไปหน่อย แต่ก็คุ้มค่าน่าเดินอย่างยิ่งครับ จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 23:54:02

ความคิดเห็นที่ 11 จุดหมายต่อไปก็คือ Pulteney   Bridge เป็นสะพานข้ามแม่น้ำที่มีตึกสำหรับเป็นร้านค้าตั้งอยู่บนสะพาน จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 23:57:42

ความคิดเห็นที่ 12 ตึก 2 ชั้น ที่เราเห็น เป็นตึกที่ตั้งอยู่บนตัวสะพานข้ามแม่น้ำ Avon จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 23:59:23

ความคิดเห็นที่ 13 สะพานแห่งนี้ผู้สร้างก็คือ 2 พี่น้อง Robert และ John Adam โดย Robert ได้รับแรงบันดาลมาจากมาจาก สะพาน the Ponte Vecchio แห่งเมือง Florence ที่นี่ชอบเลียนแบบอิตาลีนะครับ ตอนที่แล้ว พาไปชม Oxford ก็มีสะพานที่เลียนแบบมาจาก สะพาน the Ponte di Rialto ใน Venice จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:01:13

ความคิดเห็นที่ 14 ไปๆมาๆ สะพานแห่งนี้กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งของเมือง Bath จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:02:09

ความคิดเห็นที่ 15 เดินจากสะพาน Pulteney มาหน่อยก็มาเจอกับ Bath Abbey ผู้สร้างโบสถ์คือท่าน Bishop Oliver King ฝันถึงเยซูปรากฏองค์ โดยโบสถ์แห่งนี้เริ่มมีมาตั้งแต่สมัยแองโกล แซกซัน ในปี 757 และถูกทำลายโดยพวกนอร์แมนในปี 1066 ภายหลังพวก นอร์แมน เริ่มสร้างโบสถ์ขึ้นมาใหม่ในปี 1090 ก่อนที่จะเสื่อมสลายลงลงอีกครั้งในช่วงศตวรรษที่ 15 โบสถ์ดั่งรูปแบบในปัจจุบัน สร้างตั้งแต่ 1499 จนมาเสร็จสมบูรณ์ในปี 1611 จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:03:27

ความคิดเห็นที่ 16 ข้างๆ Bath Abbey จะมีรูปปั้น เทพีเทน้ำ ด้านล่างจะเขียนจารึกไว้ว่า "Water Is Best " มีอายุเกือบ 200 ปี จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:04:25

ความคิดเห็นที่ 17 เดินมาด้านหน้าโบสถ์ครับ เช้าๆ แบบนี้ยังไม่มีคนเลย จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:05:09

ความคิดเห็นที่ 18 ประตูไม้ด้านหน้าโบสถ์สลักลวดลายอย่างงดงาม จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:07:31

ความคิดเห็นที่ 19 ยังเช้าอยู่ Roman Bath ก็ยังไม่เปิดให้ชม เลยเดินกลับโรงแรมไป กินข้าวเช้าและ Check out ก่อนดีกว่า ที่ YMCA  Bath มีอาหารเช้ารวมให้ด้วย แต่ก็ไม่มีอะไรมากครับ เป็นพวกขนมปัง คอนเฟลค นม แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรให้กิน ถือว่ารองท้องไว้ก่อน รูปนี้เป็นที่ทำการไปรษรีย์นะครับ น่ารักดี จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:09:04

ความคิดเห็นที่ 20 Check out แล้ว พวกเราก็เดินเอากระเป๋าไปเก็บที่รถไว้ก่อน พอมาเที่ยว Roman Bath แล้ว จะได้ไม่ต้องเดินย้อนกลับไปโรงแรมอีก รูปนี้ถ่ายระหว่างทางเดิน ถึงแม้ว่าบ้านในเมือง Bath จะเป็นแต่ตึกทั้งนั้น ก็ยังมีหามุมพักผ่อนเล็กๆ น่ารักๆ เหมือนกัน จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:11:24

ความคิดเห็นที่ 21 เดินกลับมาด้านหน้า Roman Bath อีกครั้ง รูปนี้คือ King and Queen bath สปาที่ยังเปิดให้บริการให้ผู้คนได้มาลองอาบน้ำแบบยุค Roman จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:12:27

ความคิดเห็นที่ 22 3 สาว หน้า Bath Abbey อาคารที่เห็นทางขวามมือ คือ Roman Bath ที่ที่เราจะเข้าไปชม จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:14:25

ความคิดเห็นที่ 23 Roman Bath เปิด 09.00 ค่าเข้าชมคนละ 12.5 GBP เราสามารถขอAudio Guide และแผนที่ ในแผนที่จะแนะนำให้เดินตามจุดต่างๆ ที่กำหนดไว้ แต่ละจุดพอเดินมาถึง ก็จะมีคำอธิบายให้เราทราบถึงประวัติความเป็นมา อย่างจุดแรกนี้คือให้พวกเรามาชมส่วนที่เรียกว่า " The Terrace " บริเวณชั้น 2 ของบ่ออาบน้ำกลางก่อน จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:16:44

ความคิดเห็นที่ 24 มาปาดก่อนนะคะ รูปงามงดมากค่า เดี๋ยวมาตามต่อตอนจบแล้ว จากคุณ : Bpearl เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:17:22

ความคิดเห็นที่ 25 ประวัติมีอยู่ว่า ชาวโรมันที่เข้ามารุกรานเกาะอังกฤษในสมัยปีคริสต์ศักราช 43 ได้เริ่มสร้างสถานอาบน้ำแร่แบบโรมัน(Roman Spa) ที่เมืองBath (Aquae Sulis) จากการค้นพบอักษรที่จารึกไว้ ทำให้เราทราบว่าสถานที่แห่งนี้มีเกิดขึ้นแล้วในสมัย คศ. 75 ใครสนใจข้อมูลเพิ่มเติม ลองไปดูที่นี่ครับ http://www.romanbaths.co.uk/default.aspx มองไปไกลๆ ก็จะเห็น Bath Abbey ประกอบเป็นฉากหลัง จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:18:27

ความคิดเห็นที่ 26 ถัดจาก The Great Bath ก็คือ Sacred Spring บ่อน้ำแร่ศักดิ์สิทธิ์(Sacred Spring) ใช้เพื่อการบูชา ผู้นำเครื่องบูชาต่อเทพธิดา Sulis Minervaจะโยนเครื่องบูชาไว้ทีลานนี้ บ่อนี้ มีน้ำร้อนอุณหภูมิ 46 องศา จะผุดขึ้นมาจากบ่อนี้ทุกๆ วัน วันละ 1.17 ล้านลิตร ( ล้านลิตรจริงๆ นะขอบอก เยอะมากๆ ) เป็นระยะเวลากว่า พันปีมาแล้ว เสียดายน้ำจังเลยครับ ........... จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:20:01

ความคิดเห็นที่ 27  หวัดดีครับ คุณเปิ้ล ดีใจจริงๆ คุณเปิ้ลเป็นลูกค้าคนแรกเลยนะครับเนี่ย........ ทริปไต้หวันสนุกไหมครับ  แล้วทริปนี้ฟ้าใสเหมือนทริปที่ผ่านมาๆ ไหมเอ่ย ตั้งใจว่ารีวิวกระทู้นี้เสร็จจะตามไปชมรูปของคุณเปิ้ลจากไต้หวันอยู่เหมือนกันครับ จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:22:36

ความคิดเห็นที่ 28 จากชั้น 2 เดินลงมาเข้าสู่ส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์ อันนี้เป็นรูปแบบจำลองอาคาร Roman Bath สมัยก่อน จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:23:42

ความคิดเห็นที่ 29 " The Temple " เป็น 1 ใน 2 อาคาร ที่มีมาตั้งแต่ยุคโรมัน เป็นสถานที่ประดิษฐานเทพี Minerva ส่วนที่เราเห็นไกลๆ คือ " The Gorgon's head " เป็นชิ้นส่วนที่มีชื่อเสียงมากๆ เพราะเป็นรูปสลักหน้าอาคาร The Temple เค้าเก็บชิ้นส่วนได้ไม่ครบ ก็เลยทำเป็นจอฉายให้ดูชิ้นส่วนที่หายไป จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:25:47

ความคิดเห็นที่ 30 รูปปั้น ศรีษะ เทพี Minerva ทำมาจากทองแดง เป็นเทพีในตำนานของโรมัน เทียบเท่ากับเทพีอธีนา ในตำนานกรีก เทพีมิเนอร์วา เป็นเทพีพรหมจารีแห่งสงคราม กวีนิพนธ์ วิทยาศาตร์ แพทย์ศาสตร์ สติปัญญา การค้าขาย การทอผ้า งานหัตถกรรม และเป็นผู้ค้นคิดดนตรี ชื่อนี้คุ้นๆ นะ ใครจำได้ไหมครับว่า " มิเนอร์วา " เป็นชื่อนำหน้าของตัวละครใด ในแฮรี่ พอตเตอร์ ^ ^ จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:27:33

ความคิดเห็นที่ 31 มาเป็นคนที่ 3 ค่ะ คุณยูกิกับคุณ kumyotha ไม่ออกเสียง ไต้หวันสนุกมากค่า ฟ้าใสเหมือนเดิม ทั้งที่ CNN กับ BCC บอกตรงกันว่าพายุจะเข้า โชคดีจริงๆ จากคุณ : Bpearl เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:28:14

ความคิดเห็นที่ 32 หลังจากหมดยุครุ่งเรือง ชาวโรมันก็ได้อพยพไปแล้ว วิหารก็ถูกทำลายและสถานที่อาบน้ำก็เสื่อมสภาพ เหลือเพียงซากปรักหักพังและถูกทับถมอยู่ใต้พื้นดิน ต่อมาในศตวรรษที่12 มีการสร้าง King's Bath คร่อม ในศตวรรษที่18 เกิดความนิยมในการดื่มน้ำแร่ขึ้นจึงมีการสร้างห้อง Pump Room ติดกับ King's Bath ในช่วงปีคศ.1880  ได้มีการขุดซากปรักหักพัง ส่วนใหญ่ที่เหลือของRoman Baths ทำให้ทราบถึงความใหญ่โตที่แท้จริงของสถานที่นี้ ปัจจุบัน ซากอาคารเก่า ยังคงเก็บรักษาเป็นอย่างดี โดยการทำเป็นทางเดินให้เข้าไปชมได้ แต่ละจุดก็จะบอกว่าคืออะไร มีที่มาที่ไป อย่างไร จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:30:14

ความคิดเห็นที่ 33 ระบบท่อน้ำที่ไหลออกจากใต้ดิน วิศวกรในยุคโรมันออกแบบให้ น้ำพุร้อนที่ไหลเกินออกมา จะต้องระบายทิ้งไป จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:31:20

ความคิดเห็นที่ 34  คุณเปิ้ลโชคดีจังเลยครับ ไปไหนก็ฟ้าใสตลอด ตรงข้ามกับผม ไปไหนก็ฝนตกตลอด สงสัยผมกับฝนจะต้องอยู่คู่กันเสมอ อย่างล่าสุดจริงๆ คืนนี้จะต้องไปนอนที่เกาะช้าง จองที่พักไว้นานแล้ว เป็นไงล่ะครับ พายุเข้าเกาะช้าง จนดินถล่ม ถนนขาด น้ำท่วมกันทั้งเกาะ....นี่ขนาดผมยังไมได้ไปนะเนี่ย........ถ้าไปจะซะขนาดไหน.....     ปล.ขอบคุณ  คุณ  yuki_shimi และ คุณ kumyotha ที่แวะมาแจกกิ๊บให้นะครับ จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:36:09

ความคิดเห็นที่ 35 ท่อระบายน้ำทิ้ง จะระบายน้ำจาก Roman Bath ไปทิ้งยังแม่น้ำ Avon ที่ห่างออกไปอีก 400 เมตร จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:37:18

ความคิดเห็นที่ 36 หลังจากชมส่วนพิพิธภัณฑ์กันแล้ว ก็เดินทะลุออกมายังส่วน Great Bath ชั้นล่าง เป็นบ่อน้ำกลางของ Roman Bath บ่อแห่งนี้ ลึก 1.6 ม. รอบๆ เป็นทางลงเพื่อให้ชาวโรมันลงไปแช่น้ำกัน จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:38:23

ความคิดเห็นที่ 37 2 สาวนี้แต่งกายตามรูปแบบชาวโรมันสมัยก่อน พร้อมด้วยเครื่องประทินผิวต่างๆ ได้บรรยากาศภาพในอดีตได้เป็นอย่างดี จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:40:43

ความคิดเห็นที่ 38 2 คน นี้น่ารักและเฟรนด์ลี่มากๆ เลยครับ ขอถ่ายรูป ก็ให้ถ่าย เวลาเค้าทำอะไรหรือจับโน่นจับนี่ จะค่อยๆ จับ ประดิษประดอยมากๆ จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:42:20

ความคิดเห็นที่ 39 The Great Bath บ่ออาบน้ำแห่งนี้ สมัยโรมันนอกจากจะเป็นที่พบปะ พูดคุยเพื่อผ่อนคลายกันแล้ว  แม้กระทั่งนักธุรกิจโรมันก็นิยมกันมาเจรจาธุรกิจกันระหว่างอาบน้ำก็มี ในอดีต สามารถนำโต๊ะตัวเล็กๆ ลง สำหรับวางของว่างและเครื่องดื่ม ระหว่างที่แช่น้ำได้ ช่างมีความสุขจริงๆ จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:45:37

ความคิดเห็นที่ 40 บรรยายอีกมุมหนึ่งของ Great bath จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:48:18

ความคิดเห็นที่ 41 บ่อน้ำที่อยู่รอบๆ Great Bath จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:48:54

ความคิดเห็นที่ 42 อันนี้เป็นห้องอบไอน้ำ บนเสาเล็กๆ สมัยก่อนจะมีพื้นห้อง แล้วเค้าจะปล่อยให้ไอร้อนไหลเข้ามาด้านใต้พื้น ให้เราอบตัวเหมือนเป็นห้องเซาน่าครับ จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:49:56

ความคิดเห็นที่ 43 บ่อน้ำเย็น เป็นส่วนหนึ่งของ Roman West Baths หลังจากที่ได้แช่น้ำร้อนเละอบตัวด้วยเซาน่าแล้ว ก๋มาแช่น้ำเย็นเพื่อเป็นการผ่อนคลาย บ่อน้ำสีเขียวมรกตนี้ มีคนโยนเหรียญลงไปเยอะแยะ เรา 4 คน ก็โยนลงไปด้วย เจ้าประคุณ ขอให้ลูกช้างไปกลับมาเที่ยวที่นี่อีกครั้งนะ เจ้าประคู๊ณ จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:50:43

ความคิดเห็นที่ 44 หลังจากที่เสร็จเรียบร้อย ตรงทางออกก็มีจุดให้แวะมาช้อปปิ้งกันที่นี่ครับ จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:51:16

ความคิดเห็นที่ 45 ภายในร้าน มีของขายน่ารักๆ เต็มไปหมด โดยเฉพาะสบู่ ครีมอาบน้ำ เครื่องประทินผิวและโลชั้นหอมๆ ของสาวๆ มีกลิ่นให้เลือกเยอะแยะเลย ถูกใจสาวๆเป็นอย่างยิ่ง จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:52:25

ความคิดเห็นที่ 46 จาก Shop เราเดินต่อไปที่ The Pump room เราสามารถเอาตั๋วมาชิมน้ำแร่ที่นี่ได้ฟรี ลองดูคนละแก้ว รสมันปะแหล่มปะแหล่มยังไง ไม่รู้แฮ่ะ ในห้อง The Pump room เป็นร้านอาหารตกแต่งอย่างสวยงาม จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:54:17

ความคิดเห็นที่ 47 ด้านหน้า Roman Bath ช่วงสายๆ คนเริ่มมาเยอะแยะแล้ว จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:55:00

ความคิดเห็นที่ 48 โปรแกรมเที่ยวเมือง Bath หมดแล้ว เดินกลับไปลานจอดรถ จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:56:58

ความคิดเห็นที่ 49 มีร้านอาหารไทยด้วยนะครับ ฟ้าเริ่มใสแล้ว แต่มาใสทำไมตอนนี้ ตอนเที่ยวเสร็จแล้ว เพื่อนๆถ้าได้ติดตามทริปนี้ไปเรื่อยๆ จะรู้ว่าผมเจอแบบนี้ตลอดทริปเลย ตอนเที่ยวๆ อยู่ฝนตกหนัก ไม่งั้นก็ฟ้าปิด สีออกเทาหม่นๆ พอเที่ยวเสร็จปุ๊บ ฟ้าใสขึ้นมาทันที ให้มันได้อย่างงี้ซิ จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 00:58:24

ความคิดเห็นที่ 50 เดินกลับมาถึงลานจอดรถ ก็ต้องมาจ่ายตังค์ค่าจอดรถกันซะก่อน ที่นี่จะเป็นแบบ Pay on foot 1. ตอนเราขับรถเข้ามา ตรงไม้ก้น เค้าจะกดปุ่มและ print ตั๋วออกมา ให้เราเก็บไว้ 2. พอเราจะออกก็เดินมาที่ตู้จ่ายเงิน เสียบบัตรเข้าไป เครื่องก็จะแสดงยอดเงินที่เราจ้องชำระ ตามชั่วโมงที่เราจอด จ่ายเงินเสร็จ ตั๋วก็จะเด้งออกมาให้เราเก็บไว้ 3. พอเราขับรถออก ก็เสียบตั๋วคืนตรงไม้กั้น ถ้ามูลค่าถูกต้อง ไม้กั้นเปิด เราก็ขับรถออกไปได้เลยครับ จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 01:00:29

ความคิดเห็นที่ 51 ป้ายบอกรายละเอียดและราคาที่จอดรถ จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 01:01:08

ความคิดเห็นที่ 52 จากเมือง Bath เราขับรถมาอีกประมาณ 17 ไมล์ เพื่อมาหมู่บ้าน Castle Combe โชคดีที่เราเช่า GPS ไว้ เพราะเส้นทางมาหมู่บ้าน Castle Combe ค่อนข้างจะต้องซอกแซก เลี้ยวไปเลี้ยวมา เยอะสมควร ใช้เวลาขับรถประมาณครึ่งชั่วโมงเราก็มาถึงลานจอดรถทางเข้าหมู่บ้านแล้ว จอดรถไว้ที่นี่แล้วค่อยเดินเข้าไปในหมู่บ้าน จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 01:06:07

ความคิดเห็นที่ 53 เดินเข้ามาประมาณ 15 นาที สองข้างทางร่มรื่นด้วยแนวต้นไม้เขียวขจี ระหว่างทางก็เห็นมีคนเอารถมาจอดริมถนนทางเข้าหมู่บ้านเหมือนกัน จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 01:08:20

ความคิดเห็นที่ 54 เน็ตเริ่มช้า....คนโพสเริ่มง่วง พามาถึงแค่ปากทางเข้าหมู่บ้านก่อนนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาพาเข้าไปเที่ยวในหมู่บ้านกัน........... ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมกันนะครับ จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 01:12:08

ความคิดเห็นที่ 55 สุดยอดดดดเลยค่ะ   น่าไปมากๆๆ จากคุณ : doname เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 03:32:18

ความคิดเห็นที่ 56 .. โอ้โห คำว่า take a bath มีที่มาเช่นนี้นี่เอง  ... งามมากๆ นี่หากดูแค่รูปถ่าย ผมนึกว่าคุณ BaNkmAn พาไปเที่ยวอิตาลีแล้วนะครับเนี่ย ชอบถนนหนทาง เดินไปสู่ The Circle กับ The Royal Crescent จังเลยครับ ... ไม่มีป้ายโฆษณารกตาเลย .. จากคุณ : POGGHI เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 03:50:48

ความคิดเห็นที่ 57 รูปสวยมากค่ะ อยากไป Bath บ้างจังเล๊ย T^T จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 04:44:58

ความคิดเห็นที่ 58 เป็นเมืองหนึ่งที่อยากไปมากๆเลยคะ จากคุณ : marzo เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 05:14:00

ความคิดเห็นที่ 59 น่าไปมาก ไม่รู้ว่าของจริงจะสวยเหมือนภาพหรือเปล่า จากคุณ : Biocalm เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 09:17:58

ความคิดเห็นที่ 60 ตามไปเป็นผู้ดีอังกฤษด้วยนะ อิอิ จากคุณ : snas89Pink เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 09:19:56

ความคิดเห็นที่ 61 อ่านแล้วเพิ่งรู้ว่าพลาดไปหลายอย่าง หาข้อมูลได้เก่งมากๆ เลยค่า รอชมอยู่นะคะ จากคุณ : Bpearl เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 09:52:30

ความคิดเห็นที่ 62 เมือง Bath ตอนเช้า ๆ นี่สวยงาม ไร้ผู้คนดีจัง ถ่ายภาพออกมาสวยมาก ๆ ค่ะ ดูแล้วเหมือนถ่ายหลังจากฝนตกใหม่ ๆ รอชมต่อนะค่ะ จากคุณ : Invisible Angel เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 10:22:17

ความคิดเห็นที่ 63 แม้อากาศจะไม่เป็นใจ  แต่รูปสวยมากเลยค่ะ จากคุณ : ชอบกินชอบเที่ยว เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 10:38:49

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมกันนะครับ หวัดดีครับ คุณ doname มีโอกาสลองไปดูนะครับ อังกฤษก็มีมุมน่ารักๆ ไม่แพ้ประเทศอื่นๆ เหมือนกันนะครับ หวัดดีครับ คุณ POGGHI ผมเองก็ชอบสถาปัตยกรรมที่นี่เหมือนกัน ดูๆ แล้วเหมือนอิตาลีตอนใต้อย่างที่คุณป๊อกกี้บอกจริงๆ ด้วย บ้านที่นี่เค้าอนุรักษ์เป็นอย่างดีครับ เนื่องจากเป็นเมืองมรดกโลก จึงไม่มีป้ายอะไรมาเกะกะสายตาเราเลยครับ  คุณ ha-meow ขอบคุณมากๆ ครับ Bath น่ารักน่าเดินจริงๆ ครับ มีโอกาสไปอังกฤษต้องไปให้ได้นะครับ หวัดดีครับ คุณ marzo ผมเชื่อได้เลยว่า วันหนึ่งคุณ marzo ต้องได้มาแน่นอนครับ คุณ Biocalm ผมว่าของจริงสวยกว่าในรูปที่ผมถ่ายมาซะอีกนะครับ อย่างบางมุมสวยจริงๆ แต่ไม่รู้จะเก็บภาพมาได้อย่างไร คุณ snas89Pink  ตามมาได้เลยครับ เดี๋ยวจะพาไปเป็นคนชนบทในอังกฤษต่อนะครับ สนใจไหมครับ คุณเปิ้ล ขอบคุณครับ ก็ได้ข้อมูลจากคุณเปิ้ลก่อนไปเนี่ยแหล่ะครับ ทำให้ทริปนี้สำเร็จลงได้ด้วยดี ไต้หวันน่าไปมากๆ เลยครับ รอโปรดีๆ มาก่อน สงสัยผมได้ตามรอยคุณเปิ้ลไปแน่ๆ เลย หวัดดีครับ Invisible Angel  ขอบคุณมากๆ นะครับ แอบเห็นกระทู้รีวิว Mini แล้ว ขอบอกว่าเป็นรถในฝันของผมเลยนะครับ เนี่ย....น่ารักมากๆ ชมกันต่อได้เลยนะครับ แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 53 10:50:54 จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 10:48:19

ความคิดเห็นที่ 65 หวัดดีครับ คุณชอบกินชอบเที่ยว ขอบคุณมากนะครับ ตามไปชมทริปฮ่องกงมาแล้วครับ ปีหน้าผมจะไป สงสัยได้ตามรอยคุณ ชอบกินชอบเที่ยว แน่ๆเลย ขอบคุณมากๆ สำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 10:50:26

ความคิดเห็นที่ 66 เดินเข้ามาในหมู่บ้าน Castle Combe ก็เจอนี่ก่อน " The Village Museum " แสดงถึงประวัติและความเป็นมาของหมู่บ้าน ดูๆ แล้วไม่มีอะไรเลยเดินผ่านดีกว่า T T จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 10:53:34

ความคิดเห็นที่ 67 เริ่มเจอบ้านคนแล้วครับ จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 10:54:16

ความคิดเห็นที่ 68 เดินมาเรื่อยๆ จะตรงเข้ามากลางหมู่บ้าน " The Market Cross " จุดศูนย์กลางของหมู่บ้านที่เชื่อกันว่ามีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 เพื่อให้เป็นตลาดนัดประจำหมู่บ้าน จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 10:54:52

ความคิดเห็นที่ 69 Castle Hotel โรงแรมสุดหรูใจกลางหมู่บ้าน จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 10:55:37

ความคิดเห็นที่ 70 Castle Combe จริงๆ แล้ว ไม่ค่อนคุ้นชื่อนี้กันเท่าไหร่ เท่าที่ผมเคยดูโบชัวร์ทัวร์ต่างๆ  ส่วนใหญ่พวกทัวร์ไทย ถ้าจะพามาเที่ยวแถบ Cotswold แถวๆ นี้มักจะพามาที่ หมู่บ้าน Bourton on the waterมากกว่า เพราะเป็นหมู่บ้านใหญ่กว่าและมีร้านอาหารเหมาะสำหรับแวะมาทานมื้อกลางวัน บังเอิญผมไปเจอข้อมูล หมู่บ้านนี้จากหนังสือ "SAWASDEE" เล่มนึงตอนนั่งเครื่องการบินไทย เห็นเค้าจั่วหัวว่า เป็น " The most beautiful village in England " เอ....ชักน่าสนใจแฮ่ะ เลยมาหาข้อมูลเพิ่มเติม รู้ว่าอยู่ม่ไกลจาก Bath เท่าไหร่ เลยโป๊ะเช่ะ เลย ใครสนใจข้อมูลเพิ่มเติม ลองไปดูที่นี่นะครับ http://www.castle-combe.com/ แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 53 11:00:13 จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 10:59:26

ความคิดเห็นที่ 71 จาก The Market Cross เดินต่อไป ช่วงเที่ยงๆ อากาศยังดี ฟ้ายังแจ่มใสอยู่ จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 11:01:24

ความคิดเห็นที่ 72 หมู่บ้านที่สร้างจากหินสีทองหรือน้ำตาลอ่อน ดูๆไปก็เหมือนกับ หมู่บ้าน Bibury ที่ไปมาเมื่อวาน บ้านแต่ละหลังเป็นลักษณะเฉพาะของ Cotswolds Cottage ผนังบ้านเป็นกำแพงหนาก่อด้วยหินอูไลต์ หลังคาก็เช่นกันใช้หินสกัดในพื้นที่มาวางเรียงกัน ความแข็งแรงไม่ต้องพูดถึงแต่ละหลังมีอายุนับร้อยปีคับ แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 53 11:04:23 จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 11:02:53

ความคิดเห็นที่ 73 ไม่น่าเชื่อว่า ปัจจุบันหมู่บ้านนี้มีประชากรเพียงแค่ 350 คน จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 11:06:07

ความคิดเห็นที่ 74 สะพานที่ชื่อว่า The Pack bridge เดิมสร้างเป็นสะพานไม้ ปรับปรุงใน ศต.18 ข้ามสายน้ำ Bybrook จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 11:07:16

ความคิดเห็นที่ 75 " The most beautiful village in England " ผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนจัดอันดับ อีกทั้งยังมีอีกหลายหมู่บ้านที่ผมไม่เคยไป แต่ที่ Castle Combe นี้ยอมรับจริงๆว่า สวยงามและน่ารักมากๆ เลยครับ ผมเคยหลงเสน่ห์ บ้านไม้แบบ Swiss Cottage มากๆ แต่มาตอนนี้ ผมว่าบ้านหินแบบ English Cottage ก็น่ารักไม่แพ้กันเลยครับ ตัดสินลำบากจริงๆ จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 11:09:33

ความคิดเห็นที่ 76 เดินกลับมาตรงลานกลาง โบสถ์ St. Andrew Church เป็นโบสถ์เล็กๆ ประจำหมู่บ้านครับ จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 11:10:39

ความคิดเห็นที่ 77 โบสถ์ประจำหมู่บ้านเชื่อกันว่ามีมาตั้งแต่ปี 1291 ส่วนของหอคอยมาสร้างในปี 1435 โดยได้รับบริจาคเงินจากเศรษฐีในสมัยนั้น จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 11:11:33

ความคิดเห็นที่ 78 ตามมาชมบรรยากาศดี ๆ + วิวสวย ๆ ด้วยค่ะ ^^ จากคุณ : หนูกิตหอ 4 ชาย เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 11:11:47

ความคิดเห็นที่ 79 หวัดดีครับ คุณ หนูกิตหอ 4 ชาย   ตามมาได้เลยครับ วันนี้ยังเที่ยวอีกยาวววววว จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 11:12:43

ความคิดเห็นที่ 80 ภายในโบสถ์ ด้านในมีสุสานของอัศวิน จารึกชื่อว่า Walter de Dunstanville ปี 1270 ตายจากสงครามครูเสด นอนในชุดเกาะ ขาไขว้ทับเข่า ปลายเท้ามีรูปสิงโต แสดงให้เห็นว่าอัศวินผู้นี้เสียชีวิตระหว่างการต่อสู้ เสียดายผมลืมถ่ายรูปเก็บไว้ จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 11:13:53

ความคิดเห็นที่ 81 บรรยากาศหน้า โรงแรม The Castle Inn น่านั่งชิวๆ จริงๆ จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 11:14:46

ความคิดเห็นที่ 82 บางมุมของ Castle Combe จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 11:15:32

ความคิดเห็นที่ 83 ดอกไม้ยามหน้าร้อน สวยงาม จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 11:16:18

ความคิดเห็นที่ 84 ใครอยากนั่งคันนี้บ้าง ยกมือขึ้น Lamborghini รุ่น Gallardo ช่วง Summer อากาศดีๆแบบนี้ เราเห็นรถ Super car และรถโบราณสวยๆ ออกมาขับอวดโฉมกันเต็มไปหมด จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 11:18:16

ความคิดเห็นที่ 85 หลังจากที่เดินเล่นไปประมาณ 1 ชม. ก็เดินกลับมาลานจอดรถ บ้านหลังคาแบบนี้แปลกและสวยดี เป็นหลังคาที่มุงด้วยฟาง ที่เรียกว่า Thatched Roof เห็นแล้วนึกถึง หลังคาที่หมู่บ้านชิราคาวาโกะ หมู่บ้านมรดกโลกที่ญึ่ปุ่น จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 11:21:22

ความคิดเห็นที่ 86 จากหมู่บ้าน Cotswold เราขับรถมุ่งหน้าขึ้นไปทางเหนือ ประมาณ 50 ไมล์ เพื่อไปยังหมู่บ้านเล็กๆ อีกหมู่บ้านถึง และเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของย่าน Cotswold ชื่อว่า Bourton on the water อ่านว่า " บาวร์ตัน-ออน-เดอะ-วอเตอร์ " ครับ แก้ไขเมื่อ 17 ต.ค. 53 11:32:25 จากคุณ : BaNkmAn เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 53 11:22:22