ความคิดเห็นที่ 1 Kecak Dance ที่วัด Dalem Taman Kaja นี้ทำการแสดงทุกๆวันพุธและวันเสาร์ เวลาเริ่มแสดงคือทุ่มครึ่ง 7.30 PM สนนราคาค่าเข้าชมอยู่ที่ IDR75,000.- ซึ่งราคานี้จะแพงกว่าที่ Uluwatu IDR5,000.- (คิดเลขกลมๆก็ 20 บาท) ข้อดีคือเลี่ยงรถติดตอนขากลับจาก Uluwatu และได้ดูใกล้ชิดแบบติดขอบจอ แถมอยู่ในใจกลาง Ubud (ไม่ไกลจากร้านดัง Nomad) ข้อเสียคือแพงกว่า 20 บาท และจำนวนนักร้อง Kecak นั้นน้อยกว่าเวทีที่ Uluwatu หน่อยนึง การแสดงที่นี่เป็นการแสดงของชาวบ้านชุมชน Taman Kaja จำนวน 140 ครัวเรือน ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพเป็นจิตรกร นักดนตรี นักเต้น และชาวนา จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 22:07:50

ความคิดเห็นที่ 2 รอดู ตอนเราไป เราอดดูอะ "คาจัก คาจัก คาจัก" เค้าร้องอย่างเงี้ยตลอดเลยใช่ปะ จากคุณ : lene_marinet เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 22:15:15

ความคิดเห็นที่ 3 เจ้า Kecak Dance หรือ Kecak Fire Dance นี้เป็นการแสดงที่ปรับมาจากการร่ายรำประจำดั้งเดิมของบาหลี โดย Wayan Limbak ร่วมกับจิตรกรชาวเยอรมันชื่อ Walter Spies คิดค้นและปรับปรุงการร่ายรำนี้ในปีค.ศ. 1930 ซึ่งเป็นการร่ายรำที่มีการใช้ไฟมาประกอบ และเดินเรื่องด้วยวรรณกรรมฮินดูเรื่องรามายณะ หรือรามเกียรติ์ที่เราๆท่านๆเรียนกันมาแต่เด็กแต่เล็ก เพียงแต่จะต่างออกไปเล็กน้อยในรายละเอียด จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 22:19:30

ความคิดเห็นที่ 4 สวัสดีค่ะ คุณlene_marinet รักคนปาด อิอิอิ ใช่ค่ะเขายังร้อง อะหย่า...อะหย่า...อะหย่า....อวู...อวู...อวูฯ ด้วย ............................................................................................................ ก่อนเริ่มการแสดงก็มีการจุดไฟแจ้งว่าใกล้เวลาเริ่มแสดงแล้ว แนะนำให้ไปแต่เนิ่นๆ จะได้นั่งเก้าอี้หน้าสุดได้ค่ะ แต่ไปช้าก็เห็นไม่แพ้กันแค่ถัดไป 2-3 แถวเท่านั้นค่ะ มีแม่ค้าขายน้ำดื่มหน้าทางเข้า โอ้ย!ด้วยความกระหายซื้อ Coke Diet ไป IDR20,000.- มารู้สึกตัวนี่เราจ่ายเกือบ 80 บาทเชียว อยู่เมืองไทยซื้อได้ทั้งแพค! อิฉันป้ำๆเป๋อๆงงกับเงินอินโดนีเซียขนาด กว่าจะอยู่ตัวเล่นเอาเป็นวัน จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 22:28:56

ความคิดเห็นที่ 5 รูปจะออกมืดนิดนะคะ เพราะกล้องมีแฟลชไม่พอค่ะ แต่ก็ได้รูปสีธรรมชาติจริงๆเหมือนตอนอิฉันนั่งชม ที่วิกแสดงเขาไม่ได้เปิดไฟมาก ออกแดงๆส้มแบบนี้แหละค่ะ จะว่าไปเหมือนตามไปดูด้วยกันเลย อิอิอิ นักแสดงเริ่มออกมาแล้วค่ะ... จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 22:33:03

ความคิดเห็นที่ 6 ผู้ให้เสียงดนตรีจะเป็นนักแสดงชาย เขาว่าเป็นร้อยคนแต่อิฉันปรายจากสายตาน่าจะเกือบๆค่ะ แต่ก็ได้ยินเสียงครึกครื้นใช้ได้เลย เสียงค่อยหนักเบาตามแต่จังหวะและเนื้อเรื่องที่ไหลรื่นไป อ้อ...ก่อนการแสดงจะมีพนักงานวิกมอบดอกลั่นทมให้ทัดหูด้วย ต้นลั่นทมนี้ถูกนำเข้ามาช่วงที่บาหลีรับคติและอิทธิพลจากอารยธรรมขอม นอกเรื่องนิด...อิฉันแนะนำให้ไกด์เอาดอกลั่นทมไปชุบแป้งทอด กินกับน้ำจิ้มไก่ที่อิฉันให้ไปด้วย แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 53 22:41:05 จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 22:38:48

ความคิดเห็นที่ 7 ตามไปดู ด้วยคน ครับ ตอนไป ไม่ได้ไปดู ขอบคุณครับ สำหรับ รีวิว แฮะ ๆ จากคุณ : นายฟ้าใส เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 22:43:20

ความคิดเห็นที่ 8 เหล่านักแสดงจะให้เสียงพร้อมโยกเยกเอนตัวไปมา อีกทั้งยืน นั่ง นอน นัยว่าเสียงที่เปล่งออกเหมือนดังดนตรีประกอบเป็นการสวดมนต์ไปในตัวด้วย... จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 22:44:56

ความคิดเห็นที่ 9 สวัสดีค่ะ คุณนายฟ้าใส ตอนแรกอิฉันกะว่าจะดู Legong Dance ที่ Ubud Palace แต่แล้วคนขายบอก "I recommend you to see this show, for me it's better!" อิฉันก็บอกว่า "Actually it's for me, not for you haha!" แต่ดูจากตั๋วซึ่งก็เป็น brochure ด้วยมันยับเยินมาก อิฉันสงสารคิดว่าพยายามขายมานาน แต่ไม่มีคนสนใจดู อาจเป็นเพราะต้องเดินไปอีกอย่างน้อย 200 เมตรจากแยก Ubud Palace ด้วย คนเลยขี้เกียจไป ............................................................................................................ เรื่องที่แสดงก็เป็นเรื่องรามายณะของฤาษีวาลมิกิ หรือรามเกียรติ์ที่เราคนไทยคุ้นกันดี แต่ในรายละเอียดมันจะแตกต่างไปตามพื้นที่และประเทศนั้นๆค่ะ ว่าแล้วพระรามก็ออกวิกมาร่ายรำ ให้เห็นว่าแต่งองค์ด้วยสีเขียว คติของไทยก็เช่นกัน (ออกจะมืดๆดำๆหน่อยนะคะ รบกวนมองให้เป็นสีเขียวแล้วกันเนาะ อิอิอิ) จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 22:57:26

ความคิดเห็นที่ 10 อ้า...อันนี้ทรงเครื่องเขียวอย่างที่บอก ฉากนี้ร่ายรำพร้อมพระมเหสี นางสีดา ธิดาของท้าวทศกัณฐ์ที่เกิดกับนางมณโฑเทวี สงครามยักษ์ มนุษย์ และลิงเกิดจากท้าวทศกัณฐ์ยักษ์สิบเศียรสิบกรเจ้าเมืองกรุงลงกาให้เสน่หานางสีดา โดยมิรู้เลยว่าเป็นธิดาของตน จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 23:04:46

ความคิดเห็นที่ 11 ตามมาเก็บรายละเอียดและทริกต่างๆ ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ ปูเสื่อรอแล้ว จากคุณ : I'am always girl เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 23:13:43

ความคิดเห็นที่ 12 ในท้องเรื่องที่วัด Dalem Taman Kaja เล่นนี้จะกล่าวถึงท้าวทศกัณฐ์หรือที่บาหลีเรียกว่า Rahwana (ทศกัณฐ์มีอีกชื่อว่าท้าวราพณ์ หรือราวัน) แปลงกายมาเป็นนักบวชหลอกล่อให้นางสีดา(หรือที่บาหลีเรียกว่า Dewi Sita) ออกนอกวงที่พระลักษณ์ (หรือ Laksamana) ลงมนต์ไว้เพื่อปกป้องนาง โดยออกอุบายมาขอบิณฑบาตอาหารเพราะหิวโซจะขาดใจอยู่รอนๆ แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 53 23:16:12 จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 23:15:36

ความคิดเห็นที่ 13 เกาะขอบวิกดูด้วยคนคร้าบบบบ จากคุณ : แมลงภู่บนหูกระต่าย เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 23:16:32

ความคิดเห็นที่ 14 สวัสดีค่ะ คุณI'am always girl ไม่แน่ใจอันนี้จะมีกลเม็ดเคล็ดใดๆหรือเปล่า เหมือนมาเปิดวิกการแสดงมากกว่าค่ะ ตามมาชมแล้วกันนะคะ ถ้ามีคำถามที่ตอบได้จะช่วยตอบเต็มที่ค่ะ ^^ ............................................................................................................ ฉากนี้ตัวละครเข้าหลังโรงไปเปลี่ยนเครื่องทรง อีกเปลี่ยนทางเพื่อพาผู้ชมติดตามฉากต่อไป พร้อมพาผู้ชมไปตามเสียงดนตรีมนุษย์ ฝรั่งเรียก A Capella ใช่ไหมเอ่ย ใครทราบรบกวนบอกนิดนะคะ จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 23:26:08

ความคิดเห็นที่ 15 สวัสดีค่ะ คุณแมลงภู่บนหูกระต่าย ชื่อแปลกแหวกแนวดีแท้ หมายถึงรับประทานหอยแมลงภู่แล้วมันดันร่วงไปบนหูกระต่าย (tuxedo) ใช่ไหมคะ แซวเล่นนะคะ :p ตามมาชมด้วยกันต่อเลยนะคะ ............................................................................................................ ตัวละครนางนี้อิฉันคาดเอาเองว่าน่าจะเป็นหลานสาวท้าวทศกัณฐ์หรือนางเบญจกาย (หรือ Trijata) ออกมาในฉากที่นางสีดาปรับทุกข์กับนาง ว่าตัวเรานั้นเป็นเหตุให้พระสวามีต้องตกอยู่ในภยันตราย โดยมิสามารถทำประการใดได้เลย นารีมีรูปเป็นทรัพย์ฉันใด ทรัพย์นั้นย่อมเป็นที่หมายปองโดยทั่วกันฉันนั้น ส่วนจขกท.มีรูปเป็นอาวุธปยุตต์ประหัตถ์ประหารชายให้วายปราณ ว่าไปนั่น... แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 53 23:41:56 จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 23:40:33

ความคิดเห็นที่ 16 ตัวละครที่สำคัญที่สุดตัวหนึ่งในวรรณคดีรามเกียรติ์นี้คือหนุมาน (คนบาหลีเรียกว่า Hanoman) เป็นทหารเอกของกองทัพของพระรามและพระลักษณ์ เป็นลิงเผือก (ดังจะเห็นว่าทรงเครื่องสีขาว) มีอิทธิฤทธิ์แก่กล้า จำได้ว่าครูบอกว่ายามสำแดงเดชจะมีถึงสี่เศียรแปดกร (แพ้ทศกัณฐ์ไป 6 หัว 2 มือ) และเจ้าชู้ไม่แพ้ทศกัณฐ์ เพราะท้องเรื่องบ่งให้เป็นวานรรูปงามไปไหนก็มีเมียไปทั่ว สมัยจำได้ว่าได้เรียนตอนที่มีลูกชายชื่อมัจฉานุเกิดแก่บุตรีทศกัณฐ์นางสุพรรณมัจฉาที่เป็นครึ่งยักษ์ครึ่งปลา แก้ไขเมื่อ 15 ต.ค. 53 23:53:37 จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 53 23:52:16

ความคิดเห็นที่ 17 มาให้กำลังใจเหมือนเดิมค่ะ กำลังจะรีวิวบาหลีบ้าง ลังเลอยู่เพราะอายรูปที่เยินมากเลยค่ะ จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 00:10:53

ความคิดเห็นที่ 18 ตัวละครนี้มีชื่อว่า Taulen ไม่แน่ใจในรามเกียรติ์ไทยในมีชื่อว่าอันใด ใครทราบรบกวนบอกด้วยนะคะ ^^ แต่ในท้องเรื่องจะเป็นผู้ติดตามบุตรชายทศกัณฐ์หรืออินทรชิต (บาหลีเรียกว่า Meganada) ไปจับพระรามและพระลักษณ์ อินทรชิตแปลว่าผู้ชนะพระอินทร์นั่นเอง ที่จำได้เพราะตอนเรียนชอบชื่อนี้มาก ฟังดูไพเราะได้จังหวะจะโคนดีค่ะ จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 00:11:18

ความคิดเห็นที่ 19 สวัสดีค่ะ คุณteddy bear in the box ไม่ต้องอายหรอกค่ะ อิฉันได้ไปเที่ยวเพราะ review ของเพื่อนๆ และไม่เคยเลือกดูเฉพาะรูปเลย บาง review ถ่ายรูปธรรมดาแต่เนื้อหาครบครันจริงๆค่ะ ............................................................................................................ ย้อนกลับมาที่วานรพงศาญาติ ต่อให้หนุมานแกร่งกล้ามีวิชาขนาดไหนก็หมดสมัย one man show จะสู้รบปรบมือศึกสงครามใด ต้องทำงานเป็นกลุ่มเป็นกอง ว่าแล้วก็ได้เวลาตัวละครที่สำคัญอีกตัวในท้องเรื่อง แถ่นแท้นนนนนน คือ สุครีพ หรือ Sugriwa นั่นเองค่ะ มีรูปกายสีแดงเพราะเป็นบุตรของพระอาทิตย์กับนางกาลอัจนา มีศักดิ์เป็นน้าหนุมาน แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 53 00:48:18 จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 00:21:43

ความคิดเห็นที่ 20 ตัวละครตัวนี้น่าจะเป็นปักษาสดายุ (ที่บาหลีเรียกว่า Jatayu) ซึ่งเป็นสหายของท้าวทศรถพระบิดาของพระรามและพระลักษณ์นั่นเอง เท่าที่จำได้ตอนเขาแสดงเรื่องคล้ายกัน ปักษาสดายุมาเห็นตอนทศกัณฐ์ลักพานางสีดาไป แต่โชคร้ายถูกแหวนนางสีดาปีกหักตกลงมาเจียนตาย แต่อุตส่าห์รอบอกข่าวแก่พระราม...ออกแนวหนังจีนกำลังภายในล้างแค้นสิบปีไม่มีสาย อิอิอิ.. จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 00:33:47

ความคิดเห็นที่ 21 เมื่อสักครู่กล่าวถึงอินทรชิต อิฉันคาดว่าคงเป็นตัวละครตัวนี้ สับสนจริงๆค่ะกับทศกัณฐ์ เพราะเขาแต่งองค์ทรงเครื่องคล้ายกันมากๆค่ะ ในฉากคือตอนกำลังจะไปปะทะกับพระรามและพระลักษณ์ สังเกตจากมือถือคันศร ที่เคยมีคำกล่าวว่าศรอินทรชิตนั่นเอง จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 00:53:48

ความคิดเห็นที่ 22 ...ตามมาเที่ยวบาหลีด้วยคนนะคะ เห็นแล้วอยากไปบาหลีอีกจังเลยค่ะ ชอบมากๆ ค่ะ ^-^ จากคุณ : ปลายฟ้าที่ภูตะวัน เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 00:55:35

ความคิดเห็นที่ 23 เนื้อเรื่องก็ดำเนินไปจนมาถึงตอนที่พระรามพระลักษณ์สองศรีพี่น้องถึงคราวตกอับ ถูกจับมัดมือเป็นเชลย ให้อินทรชิตเหิมเกริมถึงความแกร่งกล้าในฝีมือการศึก อินทรชิตนี้นับถือทศกัณฐ์ผู้เป็นบิดายิ่งนัก ได้พรไม่ให้ตายตกบนดิน เก๋สุดๆ หากได้ตายให้ตายในอากาศ หากหัวขาดตกลงดินยังไฟไหม้ทั่วแคว้นแดนจักรวาล ต้องนำพานแว่นฟ้าของพระพรหมมารองรับเท่านั้น...ไม่แปลกใจเลยที่ทำให้อินทรชิตลืมตัวถึงปานนั้น แต่ในบทประพันธ์สุดท้ายก็ต้องพ่ายความทะนงตน ถูกศรพระลักษณ์สิ้นใจในบัดดล จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 01:03:34

ความคิดเห็นที่ 24 สวัสดีค่ะ คุณปลายฟ้าที่ภูตะวัน ชอบมากๆเหมือนกันค่ะ รอ 0 บาทแล้วจะกลับไปใหม่ค่ะ ตอนนี้การแสดงใกล้ถึงคราลาโรงแล้วนะคะ ชมกันต่ออีกนิดนะคะ ^^ ............................................................................................................ ธรรมะย่อมชนะอธรรม ฝ่ายพระรามและพระลักษณ์ได้รับความช่วยเหลือจากทัพวานร ทำให้กลับมาต่อกรกับฝ่ายกรุงลงกาได้อีก สุดท้ายฝ่ายยักษีมีฤทธิ์ก็ถูกพิชิตลงได้ อิฉันนี่นับถือผู้ประพันธ์ฤาษีวาลมิกิมากๆค่ะ จินตนาการสุดบรรเจิด หากใครที่คิดถึงทศกัณฐ์ก็ไปเยี่ยมเยือนแบบไทยเราๆได้ที่หน้าอุโบสถวัดพระแก้วบ้านเรานะคะ ทศกัณฐ์เจ้าเมืองกรุงลงกานั้น ทำหน้าที่ยืนเป็นทวารบาลคู่กับสหัสเดชะอยู่มาเป็นร้อยปีแล้วค่ะ จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 01:16:17

ความคิดเห็นที่ 25 นอกจากการแสดงเรื่องรามเกียรติ์ เอ...น่าจะเรียกตามเขาว่ารามายณะแล้ว ที่วัดนี้ยังรวมการแสดงส่งท้ายที่เรียกว่า Trance Dance ไว้ด้วยหรือ Sanghyang Djaran Sanghyang คือการเต้นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพระเจ้า เพื่อปกป้องผู้คนจากภูติผีปีศาจ Djaran แปลว่าม้า การเต้นเลียนแบบการขี่ม้านั้น ผู้แสดงจะเหยียบไปที่กากมะพร้าวติดไฟและเตะไปเตะมา แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 53 01:24:13 จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 01:23:52

ความคิดเห็นที่ 26 พอเตะเจ้ากากมะพร้าวติดไฟ ไฟมันก็กระจายแบบนี้ล่ะค่ะ ต้องระวังนิดนึงสำหรับคนที่นั่งแถวหน้า สะเก็ดไฟหรือกากมะพร้าวอาจกระเด็นมาโดนได้ค่ะ ตอนอิฉันนั่งก็ไม่ทันสังเกต กลับมาที่โรงแรมเห็นรอยไหม้ที่แขน 2 จุด แต่ไม่กี่วันก็ลอกไปค่ะ ส่วนที่เห็นว่าโดนจะๆก็เป็นนักท่องเที่ยวฝรั่งที่นั่งอีกข้าง เจอไปเต็มๆค่ะ ดีที่เขาใส่กางเกงขายาวรองเท้ากีฬา ส่วนอิฉันลากแตะอีหนีบ เท้านี่ดำจากเถ้ากากมะพร้าวกันเลยทีเดียว จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 01:28:08

ความคิดเห็นที่ 27 การแสดง Kecak Fire and Trance Dance ขอลาไปด้วยเหล่านักแสดงบางส่วนตอนจบนะคะ การแสดงจะกินเวลาประมาณ 1 ชม. ถือว่าคุ้มค่าเงินมากค่ะ ตีเป็นเงินไทยอิฉันจ่ายไป 266.25 บาท (อัตรา IDR1,000 = 3.55 บาท) ถือเป็นอีกทางเลือกนอกจาก Legong Dance ที่ Ubud Palace ซึ่งคราวหน้าถ้าได้กลับไปคงไปชม จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 01:41:15

ความคิดเห็นที่ 28 พอการแสดงจบก็เดินเท้าออกไปหาอะไรหม่ำตอนเกือบๆสามทุ่มได้ ท้องรัวเสียยื่งกว่ากลองแต๊ก ด้านหน้าวัดตอนเราออก จะมี taxi มารอถามเลยค่ะว่าจะไปไหน ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีรถกลับ ราคาก็ต่อรองกันตามแต่พอใจนะคะ แต่ก็สูงกว่าเวลาปกติแน่นอน เพราะเริ่มดึกแล้ว อิฉันเองเลือกเดินมาถึงซอยข้างๆ Ubud Palace เห็นมีร้านมังสวิรัติเลยไม่ลังเลเข้าไปเป็นลูกค้า ร้านนี้ค่ะ Bumbu Bali เพราะตอนกลางวันนั่งรถไปเที่ยวเจอรถขนหมูขนไก่เสมอ แถมตอนไปวัด Besakih ยังเห็นเขาถือไก่เป็นๆไปเซ่นด้านบน จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 01:45:55

ความคิดเห็นที่ 29 ภายในร้านก็ตกแต่งใช้ได้ค่ะ ที่สำคัญอาหารอร่อยเปล่าไม่รู้ ต้องลองดูกันค่ะของแบบนี้... มีแขกนั่งรออาหารอยู่ 2 โต๊ะ...สาวโสดเดินเข้าไปก็ถูกมอง เอ๊ะๆๆ แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 01:48:10

ความคิดเห็นที่ 30 เผอิญสอดส่ายสายตามากไปหน่อย อะจ๊าก!!!! มองไปมองมาเพดานด้านบน เจอเจ้านี่... ไข่ตุ๊กแกใช่หรือไม่?!?! เกรงๆกลัวๆว่าแม่มันมาโผล่ข้างๆให้เห็น เสียวหลังเหมือนกัน แต่คิดว่าตีนตุ๊กแกมันเหนียว ไข่มันคงเหนียวไม่ตกลงมาง่ายๆเหมือนกัน ปลอบใจตัวเองกันไป จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 01:51:26

ความคิดเห็นที่ 31 คงต้องลาแล้วล่ะค่ะ ขอลาไปด้วยอาหารมังสวิรัติมีนามว่า Eden Burger [IDR24,500.-] สั่งพร้อมน้ำมะนาวปั่น [IDR12,500.-] สนนราคารวม tax&service 15% [IDR5,550] เจอไป IDR42,550.- คิดเป็นเงินไทยก็ 150.87 บาท รสชาติใช้ได้เลยค่ะ ส่วนตัวอิฉันกลับรู้สึกว่าอาหารฝรั่งที่บาหลีนี่รสชาติดีทีเดียว จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 01:57:55

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณค่ะ สำหรับรีวิวและร้านมังสวิรัติ จะไปจันทร์นี้แล้ว พอดีพ่อแม่ทานมังพอดี จะได้พาไปทานได้ถูกร้าน มีร้านอื่นแนะนำอีกไหมอ่ะคะ ที่เป็นมังสวิรัติ.. ขอบคุณค่ะ ปล. รีวิวมีประโยชน์กับการท่องเที่ยวของเรามากๆค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : Nutoun เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 02:25:37

ความคิดเห็นที่ 33 ความคิดเห็นที่ 32     ขอบคุณค่ะ สำหรับรีวิวและร้านมังสวิรัติ จะไปจันทร์นี้แล้ว พอดีพ่อแม่ทานมังพอดี จะได้พาไปทานได้ถูกร้าน มีร้านอื่นแนะนำอีกไหมอ่ะคะ ที่เป็นมังสวิรัติ.. ขอบคุณค่ะ ปล. รีวิวมีประโยชน์กับการท่องเที่ยวของเรามากๆค่ะ ขอบคุณค่ะ จากคุณ : Nutoun     เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 02:25:37 ............................................................................................................ ลองตามไปดูที่ link นี้นะคะ มีลงไว้อีก 6 ร้านใน Ubud หวังว่าคงช่วยได้ค่ะ เที่ยวให้สนุกและเดินทางปลอดภัยนะคะ ^^ http://www.tripadvisor.com/Restaurants-g297701-c40-Ubud_Bali.html จากคุณ : Stila is Style เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 03:02:39

ความคิดเห็นที่ 34 Eden Burger น่าทานดีคะ (ดูไม่ออกว่าเป็นมังสวิรัต) ;) จากคุณ : BROWN STITCH เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 53 10:47:45