Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
::::: .. หยิบเรื่องเล็กมาเล่า "แค่รอ" .. ::::: vote  

..



บันทึกการเดินทาง
อาทิตย์ที่ 12 กันยายน 2553
FD 3239 CM - BKK



วันนี้มีเรื่องเล่าจากวันเสาร์อาทิตย์
เอามาเล่าู่สู่กันฟังอีกแล้ว
หลังจากที่เมื่ออาทิตย์ก่อน
เรื่องของแอร์พอร์ตลิ้งค์ยังไม่เคลียร์
ทำให้ฉันยังเพลียฮาร์ทมาจนทุกวันนี้
วันนี้ก็เลยมีเรื่องใหม่มากระชากหัวใจ
ให้ไหลลงไปกองรวมกันอยู่ที่ไส้ติ่งกันอีกครั้ง



จะเริ่มเรื่องจากตรงไหนกันดี
ถ้าจะให้เริ่มกาลครั้งหนึ่งของเช้าวันอาทิตย์
เกรงว่ามันจะลามไปสามวันอืดเท่ากับมาม่าสามนาที
(((ใครกำหนดว่าต้มมาม่าต้องสามนาทีเนี่ย .. อืดเชียว )))



เค่อารัมภบทยังปาเข้าไปสามย่อหน้านี่แล้ว
แก  แก  ..  แกนั่นแหละ  แกที่กำลังพิมพ์อยู่เนี่ย
เข้าเรื่องไปได้แล้วเดี๋ยวคนอ่านจะแอบสาปแช่งในใจ
(((แช่งให้สวย ให้รวย ให้มีความสุข ความเจริญ มิ่งมงคล เทอญ)))


ย่อหน้าที่ 4 ย่อไว้ลอย ๆ แบบนี้แหละ .. ฮ่าฮ่าฮ่า


เมื่อวานนี้ฉันเดินทางกลับจากเชียงใหม่
ด้วยสายการบิน "แอร์อิซี่ คนมีลิตเติ้ลมันนี่ ก็บินได้"
(((อันนี้ตั้งขึ้นใหม่ จริง ๆ อยากพิมพ์อีกเวอร์ชั่นมากกว่า
คาดเดาได้ว่า  คุณ ๆ ก็คงเคยได้ยินผ่านหูกันมาบ้าง )))
ไฟลท์ค่ำวันอาทิตย์มีผู้คนพลุกพล่านมากหน้าหลายตา
สอดส่องไปมาก็เจอแต่หน้าตาดี ๆ หล่อโฮกทั้งนั้น
แต่ก็มิสามารถทำอะไรได้ ((( เศร้าเล็กน้อย )))
เพราะล้วนแล้วแต่มีแม่ (คุณ) มาคุม
เสน่ห์ของฉันที่มันมีอยู่น้่อยนิด
แอบซ่อนอยู่ในซอกหลืบกระดูกเชิงกรานซี่ที่ 7
ก็เลยต้องเก็บไว้มิได้ส่งเจ้าหล่อนออกมาทำงาน



ถึงเวลาเกือบสองทุ่มก็เตรียมตัวขึ้นเครื่อง
ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นสำหรับฉัน
การเดินทางคนเดียวท่ามกลางสายฝนโปรยปราย
มันช่างเงื่องหงอยหอยเฉาสิ้นดี
เดินมาถึงที่ของฉัน 11F ริมหน้าต่างพอดีเป๊ะ
ขอแนะนำว่าถ้าคุณทำเวบเช็คอินเร็ว
คุณมักจะได้ที่ดี ๆ เสมอขามาฉันได้  11A
((( คนอื่นอาจจะไม่อยากนั่งริมหน้าต่างเหมือนแกก็ได้นี่ )))



ฉันนั่งเปิดกระเป๋าก๊อกแก๊กกุ๊กกิ๊กกึ๊กกั๊กสักพัก
ผู้ชายหน้าตาดีสะพายเป้ออร่าของความมีเสน่ห์ส่องสว่าง
เขาก้าวเข้ามานั่งข้างฉัน  11E  ฉันแอบอมยิ้มในใจ
((( อย่างน้อยก็มีอาหารตาล่ะวะกรู .. ฮี่ ๆๆๆ )))
ผ่านไปไม่กี่นาทีเหมือนสวรรค์แกล้ง
ที่นั่ง 11D ก็ถูกเธอที่หน้าตาดี๊ ดีหย่อนก้นลงนั่งข้าง ๆ เขาของฉัน
((( เขาของแก .. ช่างกล้าอุ๊บอิ๊บนะหล่อน )))


และแล้ว ..
บรรยากาศอันเย็นชาของเราสองสามคนก็ได้เกิดขึ้น



หลังจากเครื่องเทคออฟขึ้นฟ้าไปได้สักพัก
ค่ำเมื่อวานนี้เชียงใหม่มีพายุฝนฟ้าคะนองพอดี
เครื่องเริ่มไต่ระดับ  ปั๊ป ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ขึ้นไปบนฟ้า
แต่ใจของฉันมันก็เต้น ปั๊ป ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ลงไปที่สะดือ
เลื่อนลงไปที่หน้าท้อง  ผ่านหน้าขา ไหลไปกองอยู่ที่ตาตุ่ม
ฉันไม่ชอบบรรยากาศของการบินผ่านพายุแบบนี้เลย
เครื่องสั่นเป็นจังหวะ .. แต่ใจฉันเต้นไม่เป็นจังหวะ
แอบเหลือบแลสายตาไปมองคนข้าง ๆ นอนหลับตานิ่งเลย
((( เค้ากลัวเหมือนฉัน หรือ เค้าหลับกันแน่หว่า )))
มองเลยไปยังสาวสวย 11D นั่งอ่านหนังสือนิ่งเลย


หน้าผากฉันเริ่มผุดเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ หน้าชา ๆ เย็น ๆ วาบ ๆ
ถึงฉันจะเดินทางบ่อยแค่ไหน แต่เจอสถานการณ์แบบนี้ทีไร
ฉันก็แทบจะทำใจให้ชินไม่ได้สักครั้ง
จนอยากจะเอื้อมมือไปกุมมือพ่อหนุ่ม 11E  เอาไว้ให้อุ่นใจ


กี่ย่อหน้าแล้วนับกันรึเปล่า .. ยังไปไม่ถึงไหนเลย .. ฮ่าฮ่าฮ่า


หลังจากพายุร้ายได้พัดผ่านไป  
ทางสว่าง(เพราะแสงไฟ)บนรันเวย์ก็เข้ามาแทนที่
เครื่องบินกำลังร่อนลงจอดยังสนามบินสุวรรณภูมิ
อันกว้างใหญ่ไพศาลมากเพราะกว่าจะนั่งรถบัสไปถึงอาคาร
ก็ใช้เวลาไปเกือบ 20 นาทีเข้าไปแล้ว
แต่ฉันไม่ได้จะพูดถึงเรื่องนั้น ..


เมื่อล้อเครื่องบินแตะพื้นรันเวย์ปั๊ป
เราจะได้ยินเสียงล้อบดเบียดไปกับพื้นรันเวย์
ในขณะที่กัปตันกำลังเบรคชะลอความเร็วของเครื่องบิน
แต่ภายในเสียงนั้นเราจะได้ยินเสียง
กุ๊กกิ๊ก  กิ๊บกั๊บ  ก๊อกแก๊ก  ตึ้งดึ่งดึงดึ่งดึ้ง ปี๊ด ป๊อด แป๊ด
ดังภายในตัวเครื่องเป็นหย่อม ๆ
ซึ่งเสียงนั้นเกิดจากการที่ผู้โดยสายทั้งหลาย
ลงมือปลดสายรัดหรือเซฟตี้เบลท์ออกจากตัว
พร้อมกับอีกมือที่เปิดโทรศัพท์
และแอร์โฮสเตสก็เริ่มประกาศว่า ..
กรุณาอย่าเพิ่งปลดเปลื้องเสื้อผ้าให้อดใจไว้ก่อน .. เอ้ย  ไม่ใช่
กรุณาอย่าเพิ่งปลดสายรัดประจำที่นั่งออกจาตัว
เนื่องจากอาจเกิดอันตรายได้
และอย่าเพิ่งเปิดสวิทช์โทรศัพท์มือถือ
เพราะทำให้ไปรบกวนการทำงานของระบบการบิน


ถ้าถามว่ามีคนฟังมั้ย ในสิ่งที่คุณแอร์พูด
ถ้าไม่หูหนวกก็คงได้ยินกันไปถึงกระดูกฆ้อน  ทั่ง  โกลน  นั่นเลย
แต่การที่ได้ยินหรือได้ฟัง  ไม่ได้หมายความว่าจะทำตามนี่นา


" ก็มันวิ่งอยู่บนพื้นแล้วไม่เป็นไรแล้วล่ะมั้ง "
" อึดอัดจะตายรัดมาตั้งนานแล้ว หายใจไม่ออก "
" แหม .. เครื่องบินมันคงไม่วิ่งไปโหม่งพื้นหรอกน่ะ"
" ถึงแล้ว  ถอดได้แล้ว เดี๋ยวก็ลงแล้ว "
" ตาย ๆ ป่านนี้แฟนจะมารอรึยัง ต้องโทรก่อน "
" ราชรถจะมาจอดรอที่ประตูทางออกไหนเนี่ย "
" ธุรกิจฉันป่านนี้ใครจะติดต่อเข้ามาบ้าง ต้องเช็ค ๆ "



หลาย ๆ ความคิดและการกระทำเริ่มล่องลอยอยู่ในตัวเครื่อง .. ฯลฯ



คุณ ๆ หลายคนอาจจะมองว่า ..
การขอความร่วมมือจากผู้โดยสารเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างนี้

" ฉันไม่จำเป็นต้องทำตามก็ได้  "

แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นสิ่งที่ต้องทำตามอย่างเคร่งครัดต่างหาก
ไม่มีใครรู้เหตุการณ์ข้างหน้าได้
ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตและทรัพย์สินของคุณ
การคาดสายรัดเซฟตี้เบลท์ไปจนถึงเมื่อเครื่องบินจอดสงบนิ่ง
หรือการเปิดรับสัญญาณโทรศัพท์เมื่อเดินเข้าสู่อาคารผู้โดยสาร
มันอาจช่วยให้พ่อได้กลับไปเห็นหน้าลูก
ภรรยาได้เจอหน้าสามี .. ปู่ย่าตายายได้โอบกอดลูกหลาน
คนที่พรากจากกันไปนานได้กลับมาพบกันอีกครั้ง
คุณเพียง "แค่รอ" ให้มันถึงเวลาที่เหมาะสม
เวลาเพียงไม่กี่นาที ..
อาจเปลี่ยนเหตุการณ์หนึ่งให้เป็นอีกเหตุการณ์หนึ่งได้
เรื่องเล็ก ๆ ของบางคน .. อาจเป็นเรื่องใหญ่ของอีกคน


" ถ้าเราจะใจเย็นกันลงสักนิด
คิดถึงคนอื่นให้มากขึ้น  
คิดถึงตัวเองให้น้อยลง
โลกของเราก็จะน่าอยู่กว่าที่เป็น "




ปล.

ขอบคุณชายหนุ่ม 11E ที่มีน้ำใจหยิบกระเป๋าจากที่เก็บส่งให้
หน้าตาดีแล้วยังน้ำใจงามอีก .. ฮี่ ๆๆๆๆๆๆ  ฮ่าฮ่าฮ่า



..

จากคุณ : Ka - Ti
เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 53 19:38:55





[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ]       
 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com