ความคิดเห็นที่ 1   เนื่องจากเปลี่ยนแผนจะไปเที่ยวเกาะเต่า เกาะนางยวนกัน และอ.ทุ่งตะโกก้ออยู่ทางใต้ของชุมพร เกือบถึงสุราษฎร์ (ประมาณ 50 กิโล) ก้อเลยตั้งเป้าหมายใหม่ว่าขอไปนมัสการพระบรมธาตุไชยากันดีกว่าครับ ไม่ไกลด้วย และไชยาเป็นที่เดียวของสุราษฎร์จริงๆ ที่แวะไป เนื่องจากตั้งเป้าไว้แล้วว่าจะใช้เวลาที่ชุมพร มาพักแบบสบายๆ ครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 00:18:59

ความคิดเห็นที่ 2   วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร[1] สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่เลขที่ 50 ถนนรักษ์นรกิจ หมู่ 3 ตำบลเวียง อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี พระบรมธาตุไชยาเป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นับเป็นปูชนียสถานสำคัญคู่บ้านคู่เมือง ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเป็นหนึ่งในสามของ โบราณสถานอันศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพบูชาของภาคใต้ ได้แก่ พระบรมธาตุไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เจดีย์พระมหาธาตุวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช และพระพุทธไสยาสน์ในถ้ำคูหาภิมุข บริเวณวัดคูหาภิมุข จังหวัดยะลา ข้อมูลจากวิกิครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 00:21:42

ความคิดเห็นที่ 3   จากคำบอกเล่าของชาวเมืองไชยาได้มีตำนานที่เล่าขานเกี่ยวกับเจดีย์พระบรมธาตุไชยาว่า ครั้งหนึ่งมีพี่น้องชาวอินเดียสองคนชื่อ ปะหมอ กับปะหมัน ทั้งสองเดินทางโดยเรือใบเข้ามาถึง เมืองไชยา ได้พาบริวารขึ้นบกที่บ้านนาค่ายตรงวัดหน้าเมือง ในตำบลเลเม็ด เจ้าเมืองมอบให้ปะหมอ ซึ่งเป็นนายช่างมีความเชี่ยวชาญการก่อสร้าง สร้างเจดีย์พระบรมธาตุไชยา ครั้นเสร็จก็ตัดมือตัดเท้า เสีย เพื่อมิให้ปะหมอไปสร้างเจดีย์ที่งดงามเช่นนี้ให้ผู้ใดอีก ปะหมอทนบาดพิษบาดแผลไม่ได้ ถึงแก่ความตาย เจ้าเมืองได้หล่อรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรไว้ เป็นเครื่องหมายแทนตัวปะหมอ ส่วนน้องชายที่ชื่อปะหมันได้ไปครองเกาะพัดหมัน และตึงรากอยู่ที่นั้นจนกระทั่งสิ้นชีวิต สถานที่ตั้งบ้านเรือนของปะหมันนั้นเป็นที่ดอนน้ำท่วมไม่ถึง มีนาล้อมเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่เศษ สมัยโบราณที่นี่ศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านมาก คณะมโนราห์ที่เดินทางผ่านจะต้องหยุดไหว้รำร้องถวายมือ คณะใดไม่เคารพคนในคณะจะชัก หรือเกิดเหตุขัดข้องต่างๆ ถ้าใครไปตั้งคอกเลี้ยวหมูในบริเวณดังกล่าวหมูจะตายหมดทั้งคอก จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 00:26:14

ความคิดเห็นที่ 4   เจดีย์พระบรมธาตุไชยาเป็นสถาปัตยกรรมแบบศรีวิชัยองค์เดียวที่ยังอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นประมาณพุทธศตวรรษที่ 13-14 ไม่ปรากฎประวัติการสร้างและผู้สร้าง เข้าใจว่าสร้างในขณะที่เมืองไชยาสมัยศรีวิชัยกำลังเจริญรุ่งเรืองสูงสุด หลักฐานที่ยืนยันถึงอาณาจักรศรีวิชัยอายุไม่ต่ำกว่า 1200 ปี จังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ใช้ภาพของ เจดีย์พระบรมธาตุนี้เป็นสัญลักษณ์ในดวงตราประจำจังหวัด และเป็นสัญลักษณ์ในธงประจำกอง และผ้าพันคอลูกเสือด้วย ซึ่งถือกันว่าถ้าใครไปเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานี หากไม่ได้ไปนมัสการ พระบรมธาตุไชยาแล้วก็เหมือนกับยังไปไม่ถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่วนทางด้านสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมนั้น มีลักษณะเป็นเจดีย์องค์เดียว ในปัจจุบันที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ที่สุด โดยองค์เจดีย์พระบรมธาตุมีความสูงจากฐานใต้ดินถึงยอด 24 เมตร ตั้งอยู่ บนฐาน สี่เหลี่ยมสูงย่อเก็จ ขนาดฐานวัดจากทิศตะวันตกยาว 13 เมตร ฐานนี้สร้างก่อนสมัยที่ พระชยาภิวัฒน์ (หนู ติสโส) จะบูรณะ ตั้งอยู่บนผิวดินซึ่งมีระดับต่ำกว่าพื้นดินปัจจุบัน ทางวัดได้ขุด บริเวณโดยรอบ ฐานเป็นเสมือนสระกว้างประมาณ 50 เซนติเมตร ลึกประมาณ 60-70 เซนติเมตร เพื่อให้ฐานเดิม ปัจจุบันมีน้ำขังอยู่รอบฐานตลอดปี บางปีในหน้าแล้งรอบๆ ฐานเจดีย์พระบรมธาตุ จะแห้ง มีตาน้ำพุ ขึ้นมา ซึ่งชาวบ้านถือว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์สามารถแก้โรคภัยต่างๆ ได้ ต่อมาทางวัด ได้ใช้ปูนซีเมนต์ ปิดตาน้ำเสีย จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 00:28:17

ความคิดเห็นที่ 5   โดยองค์เจดีย์พระบรมธาตุเป็นทรงสี่เหลี่ยมจตุรมุขย่อ มุขด้านหน้าหรือมุขด้านตะวันออก เปิดมีบันไดขึ้นสำหรับให้ประชาชนเข้าไปนมัสการพระพุทธรูปภายในเจดีย์ เมื่อเข้าไปภายใน จะเห็นองค์พระเจดีย์หลวง เห็นผนังก่ออิฐแบบไม่สอปูนลดหลั่นกันขึ้นไปถึงยอดมุข อีกสามด้าน ทึบทั้งหมด ที่มุมฐานทักษิณมีเจดีย์ทิศหรือเจดีย์บริวารตั้งซ้อนอยู่ด้วย หลังคาทำเป็น 3 ชั้นลดหลั่น กันขึ้นไป แต่ละชั้นประดับรูปวงโค้งขนาดเล็กและสถูปจำลองรวม 24 องค์ เหนือขึ้นไปเป็นส่วนยอด ซึ่งได้รับการซ่อมแซมครั้งใหญ่ในรัชกาลที่ 5 เป็นการบูรณะปฏิสังขรณ์ยอดเจดีย์ที่เดิมหักลงมาถึงคอ ระฆัง ทำให้เห็นลวดลายละเอียดเสียหายมาก รวมทั้งฐานเจดีย์ที่จมอยู่ใต้ดินได้ขุดดินโดยรอบฐาน พระเจดีย์ และทำลายรากไม้ในบริเวณนั้นแล้ว ก่ออิฐถือปูนตลอดเพื่อให้เห็นฐานเดิมของเจดีย์ อีกทั้งลวดลายประดับเจดีย์ ได้มีการสร้างเพิ่มเติมใหม่ด้วยปูนปั้นเกือบทั้งหมด เป็นลายปั้นใหม่ ตามความคิดของผู้บูรณะ มิได้อาศัยหลักทางโบราณคดี รวมถึงลานระหว่างเจดีย์และพระระเบียง เปลี่ยนจากอิฐหน้าวัวเป็นกระเบื้องซีเมนต์ จนถึงในรัชกาลปัจจุบัน พ.ศ.2521-2522 ได้รับการ บูรณะปฎิสังขรณ์ใหญ่อีกครั้ง โดยการบูรณะในครั้งนี้เป็นการซ่อมแซมของเก่าที่มีอยู่เดิมให้คง สภาพดี เพื่อไว้เป็นปูชนียสถานที่สำคัญของชาติสืบต่อไป จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 00:33:27

ความคิดเห็นที่ 6   ขอขอบคุณข้อมูลจากเวบไทยทัวร์ด้วยนะครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 00:35:16

ความคิดเห็นที่ 7   นมัสการพระธาตุที่ภาพสุดท้าย จะขับรถกลับชุมพรแล้วครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 01:00:51

ความคิดเห็นที่ 8   กลับมาถึงปากน้ำหลังสวนครับ มากินอาหารกลางวันสักหน่อย แต่ที่นี่ทำไมหาอาหารทะเลยากจังส์ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 01:03:05

ความคิดเห็นที่ 9   ตรงส่วนที่ตัดกันระหว่างแม่น้ำกับน้ำทะเลจะเห็นสีตัดกันชัดเลยครับ น้ำจากแม่น้ำจะขุ่นๆ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 01:04:59

ความคิดเห็นที่ 10   วิวแม่น้ำหลังสวนครับ แต่ผมกลับชอบแม่น้ำตะโกมากกว่า จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 01:06:29

ความคิดเห็นที่ 11   จากหลังสวนเป้าหมายเราต่อไปคือที่นี่ครับผม จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 01:07:55

ความคิดเห็นที่ 12   ที่สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ชุมพร เป็นที่ตั้งของถ้ำเขาเงินที่สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงเคยเสด็จมาเมื่อครั้งประพาสเมืองหลังสวนครับ แต่ตอนผมไปไม่ได้ขึ้นถ้ำ เพราะฝนตกแถมไม่มีคนเลยครับ ไม่มีเจ้าหน้าที่ด้วย ก้อเลยกัวๆ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 01:14:15

ความคิดเห็นที่ 13   ถ้ำเขาเงินตั้งอยู่บริเวณเดียวกันกับสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ฯ ชุมพร ภายในถ้ำเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ บริเวณหน้าถ้ำมีเจดีย์วัดถ้ำเขาเงิน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯให้ สร้างขึ้นเมื่อ ครั้งเสด็จประพาสเมืองหลังสวน เมื่อ พ.ศ. 2472และให้เปลี่ยนนามถ้ำใหม่เรียกว่า "วัดถ้ำเขาเงิน" และโปรดเกล้าฯ ให้สลักพระปรมาภิไธยย่อ "จปร" ไว้ด้วย จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 01:32:13

ความคิดเห็นที่ 14   ไปดูบรรยากาศโดยรอบของแม่น้ำหลังสวนครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 01:33:58

ความคิดเห็นที่ 15   แม่น้ำจะสายเล็กๆ ครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 01:35:39

ความคิดเห็นที่ 16   ออกจากหลังสวนมา ปรากฎว่ายังไม่ได้กินข้าวเลยครับ ก้อเลยแวะทานที่นี่ ที่นี่มีอะไรพิเศษรู้ไหมครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 01:37:42

ความคิดเห็นที่ 17   ครับใช่แล้วครับที่นี่ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรม "ส้วม" แบบต่างๆ และใช้ได้ทุกแบบเลยครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 01:39:25

ความคิดเห็นที่ 18   ทั้งส้วมแบบเด็กๆ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 01:40:41

ความคิดเห็นที่ 19   หรือส้วมทาร์ซาน จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 01:47:06

ความคิดเห็นที่ 20   และส้วมจริงๆ ครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 01:48:17

ความคิดเห็นที่ 21   สุดยอดส้วมจริงๆ โอว ละลานตา จากคุณ : Smiley_Season เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 09:05:22

ความคิดเห็นที่ 22   ขอบคุณข้อมูลมากๆครับ ละเอียดมากๆ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 10:26:23

ความคิดเห็นที่ 23   ... แวะมาชมครับ ชอบส้วมทาร์ซานแฮะ จากคุณ : the Sixth Floor เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 10:32:10

ความคิดเห็นที่ 24   สวัสดีครับคุณ Smiley_Season คุณม่วงมหากาฬ คุณ the Sixth Floor ขออนุญาตพาเที่ยวต่อนะครับ ที่สวนนายดำไม่ได้มีดีแค่ส้วมครับ กาแฟกับอาหารก้ออร่อย และของตกแต่งอื่นๆ ก้อสวยงามครับ เหมาะแก่การแวะพักมากครับ อยู่ริมถนนใหญ่จากสุราษฎร์-ชุมพรเลยครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 14:17:46

ความคิดเห็นที่ 25   และก้อมีดอกไม้แบบต่างๆ ด้วยครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 14:20:27

ความคิดเห็นที่ 26   มีคนบอกว่าเป็นเมล็ดกาแฟไม่รู้ว่าโดนหลอกหรือเปล่า จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 14:23:01

ความคิดเห็นที่ 27   ขับรถจากสวนนายดำสัก ๑๐ กว่ากิโล จากอ.ทุ่งตะโกมายังอ.สวี เพื่อนมัสการพระธาตุเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของภาคใต้ครับ พระบรมธาตุสวีครับ อยู่ที่วัดพระบรมธาตุสวี จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 14:25:57

ความคิดเห็นที่ 28   เป็นวัดเล็กๆ เงียบสงบแต่ไม่ห่างจากถนนใหญ่เลยครับ ตอนเข้าไปนึกว่าหลงเพราะไม่เจอคนเลยครับ ตอนไปถึงวัดก้อมีแค่เราสองคนเอง จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 14:48:30

ความคิดเห็นที่ 29   ประวัติของพระธาตุจากเอกสารการค้นคว้า และคำบอกเล่าต่อ ๆ กันมา ปรากฏว่า ประมาณปี พ.ศ. ๑๘๐๓ กองทัพอโยธยาโดยการนำของท้าวพิชัยเทพ เรืองพวา   (ท้าวอู่ทองหรือพระเจ้าไชยเสน) ได้กรีฑาทัพลงมารุกราน อาณาจักรไทย ศรีธรรมาโศกราชในสมัยของพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ที่ ๘ ซึ่งเสด็จนำทัพไปป้องกันข้าศึกทางเหนือ และได้ปะทะกันที่เมือง กำเนิดนพคุณ (อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์) กองทัพทั้ง สองฝ่ายต่างรบพุ่งกันเป็นสามารถ และไม่สามารถเอาชนะกันได้โดย เด็ดขาด จึงทำสัญญาสงบศึกต่อกัน พระเจ้าศรีธรรมาโศกราชก็เสด็จนำ ทัพกลับ เมืองนครศรีธรรมราช ขณะที่พักรี้พลอยู่ ณ วัดร้างเก่าแก่แห่ง หนึ่ง ในเขตอำเภอสวีในปัจจุบัน มีเจดีย์ชำรุดพังทลายเป็นที่สังเกตได้ มีกาฝูงหนึ่งมาจับกลุ่มวีปีก (กระพือปีก) อยู่ที่กองอิฐเจดีย์นั้น ส่งเสียง ร้องเซ็งแซ่เป็นที่รำคาญแก่ไพร่พล และแม่ทัพนายกอง พระเจ้าศรีธรรมา โศกราชจึงให้ทหารไล่กา ฝูงนั้น แต่กาไม่ยอมบินหนียังคงบินวนเวียน กลับมาที่กองอิฐเจดีย์นั้นและวีปีกส่งเสียงร้องสนั่น พระเจ้าศรีธรรมา โศกราชเห็นเป็นการผิดปกติ และทอดพระเนตรเห็นกาเผือกตัวหนึ่งอยู่ใน ฝูงด้วย จึงให้ทหารรื้อกองอิฐเจดีย์ ปรากฏพบฐานเจดีย์ใหญ่ เมื่อขุดภาย ในองค์พระเจดีย์นั้น ได้พบผอบทองคำบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระเจ้า ศรีธรรมาโศกราชจึงรับสั่งให้แม่ทัพนายกองระดมกำลังพลทหาร ทำการ บูรณะเจดีย์จนเสร็จเรียบร้อย นำเอาผอบพระบรม-สารีริกธาตุบรรจุไว้ตาม เดิม โปรดให้จัดงานสมโภชเจดีย์ ๗ วัน ๗ คืน พระราชทานนามเจดีย์นั้น ว่า “พระบรมธาตุกาวีปีก” ต่อมาคำว่า “ปีก” ถูกตัดหายไปเรียกกันว่า “พระธาตุกาวี” ครั้นนานเข้าคำจึงกร่อนลงไปกลายเป็น “พระธาตุสวี” และเป็นชื่ออำเภอสวีตั้งแต่นั้นด้วย ข้อมูลจาก http://www.oknation.net/blog/kondee007/2009/08/25/entry-1 จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 14:52:31

ความคิดเห็นที่ 30   และก่อนที่พระเจ้าศรีธรรมาโศกราชจะเสด็จยกทัพกลับทรงห่วงใย พระบรมธาตุจะไม่มีผู้ดูแลรักษา จึงสั่งเรียกบรรดาทหารในกองทัพ ซึ่งกำ ลังนอนหลับสนิทในขณะนั้น  มีนายทหารคนหนึ่งชื่อ  “เมือง”  ขานรับ พระองค์ จึงมีรับสั่งถามว่า ต้องการจะอยู่ดูแลรักษาพระบรมธาตุแห่งนี้ ไหม นายเมืองขานรับอาสาพระองค์จึงสั่งให้นายทหารตัดศีรษะนาย เมืองเซ่นสรวงบูชาไว้ในศาลเพียงตา ศาลนี้เรียกว่าศาลพระเสื้อเมือง ให้เป็นผู้เฝ้ารักษา พระบรมธาตุในปัจจุบัน ศาลนี้ยังมีคนทั่วไปให้ความ เคารพนับถือโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวจีน          ต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (พ.ศ. ๒๓๗๕) เกิดเมืองสวีขึ้น พระธาตุแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า “พระธาตุสวี” อย่างเป็นทางการตั้งแต่นั้น          ความสำคัญต่อชุมชนภายในพระธาตุสวี มีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุ อยู่ในเจดีย์ จึงเป็นโบราณสถานทางศาสนาที่ประชาชนในท้องถิ่นให้ความ เคารพในฐานะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองของชุมชนอำเภอสวีและอำเภอ ใกล้เคียง          ลักษณะทางสถาปัตยกรรม องค์พระธาตุเป็นรูประฆังคว่ำ ลักษณะ เดียวกับพระบรมธาตุเมืองนครศรีธรรมราช แต่มีขนาดเล็กกว่า ความกว้าง รอบองค์พระธาตุ วัดได้ ๒๐ เมตร และมีความสูง ๑๘.๕ เมตร ปัจจุบันองค์ พระธาตุได้มีการบูรณะใหม่โดยใช้กระเบื้องโมเสกปิดองค์พระเจดีย์แต่ยัง คงรูปทรงเดิมและมีการสร้างกำแพงแก้วรอบองค์พระธาตุ          กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเรียบร้อยแล้ว เส้นทาง เข้าสู่วัดพระธาตุสวี จากสี่แยกปฐมพรไปตามทางหลวงหมายเลข ๔๑ ประมาณ กิโลเมตรที่ ๓๗ กลับรถใต้สะพาน แม่น้ำสวี แล้วแยกซ้ายไปตามถนนลาดยาง ระยะทางประมาณ ๑ กิโลเมตร ก็จะถึงพระธาตุสวี โบราณสถานทางศาสนาที่มี ค่าคู่บ้านคู่เมือง จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 14:54:57

ความคิดเห็นที่ 31   กราบลาองค์พระธาตุสวีไปเที่ยวที่อื่นกันต่อดีกว่าครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 15:25:47

ความคิดเห็นที่ 32   กลับมาเที่ยวที่อ่าวตะโก หาดอรุโณทัยกันครับ อ่าวตะโกเขียนเป็นภาษาอังกฤษ Aotako ยังแปลเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ว่าปลาหมึกสีฟ้าได้อีก มั่วจนได้บรรยากาศแฮะ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 15:28:14

ความคิดเห็นที่ 33   อ่าวไทย ทะเลชุมพร มองออกไปจากหาดครับ แต่ตอนนี้มึดแล้ว พรุ่งนี้พาเที่ยวนะครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 15:31:34

ความคิดเห็นที่ 34   ไปดูโค้งแม่น้ำตะโกกันครับ แม่น้ำค่อนข้างใหญ่เหมือนกันครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 15:33:53

ความคิดเห็นที่ 35   ซูมดูชุมชนชาวประมงกันหน่อย ตรงข้ามเป็นเวิ้งป่าชายเลนที่สมบูรณ์แห่งหนึ่งของประเทศไทยเลยนะครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 15:35:37

ความคิดเห็นที่ 36   ป่าชายเลนครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 15:36:44

ความคิดเห็นที่ 37   อีกด้านครับมองลึกเข้าไปในโค้งน้ำ จะเห็นป่าชายเลนที่สมบรูณ์มั่กๆ ครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 15:38:31

ความคิดเห็นที่ 38   มุมเดียวกันให้ดูมุมพาโนจะเห็นภูเขาหินปูนและโค้งแม่น้ำครับ สุดฝั่งโน้นคงเป็นจังหวัดระนองหรือไม่ก้อพม่าล่ะครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 15:41:10

ความคิดเห็นที่ 39   ตอนนี้ฝนเริ่มตกพรำๆ แล้วครับ ขอกลับที่พักเดี๋ยวจะพาไปชมจุด Unseen ของชุมพรกันครับที่อำเภอสวี จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 15:44:20

ความคิดเห็นที่ 40   ข้อมูลแน่นมากค่ะ  ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ เพราะปกติไม่ค่อยได้เห็นรีวิวของชุมพร   คราวหน้าจะไปแวะเที่ยวบ้างค่ะ จากคุณ : nok_naja เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 16:15:06

ความคิดเห็นที่ 41   สวัสดีครับผมคุณ nok_naja ชุมพรเป็นเมืองที่เงียบสงบดีจริงๆ ครับ ผมขับรถตามถนนเลียบชายฝั่งด้านหนึ่งเป็นทะเลอีกด้านเป็นภูเขาสวยมากครับ เสียที่มีคนสัญจรไปมาน้อย ถ้ารถเสียหรือยางแบนล่ะก้อ มีเฮ ... ไปเที่ยวกันต่อดีกว่าครับ ขับรถจากท่าตะโกกลับไปทางประจวบไม่ถึง ๑๐ โลจะถึงอำเภอสวีที่นี่มีจุดชมวิวที่คนท้องถิ่นแนะนำผมให้มาชมครับ เรียกว่าจุดชมวิวเขาหัวถ่าน แต่อีกหน่อยคงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญเพราะมีโครงการสร้างศาลสมเด็จกรมหลวงฯ บนนั้นครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 18:14:45

ความคิดเห็นที่ 42   จริงๆ เขาหัวถ่านวิวสวยมากเลยครับ หลายๆ มุม เลยทำให้ถ่ายตัวเองกะวิวเยอะไปหน่อย เจอถ่ายวิวจริงๆ แค่สองรูปเอง ตอนแรกผมจะไปถ่ายตอนเช้าพระอาทิตย์ขึ้นน่าจะสวย แต่เช้าวันนั้นฝนตกตลอดเลยครับ ตกทั้งวันเลย เลยมาถ่ายตอนเย็น ก้อได้แสงสีฟ้าสวยๆ เหมือนกัน จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 18:18:32

ความคิดเห็นที่ 43   ก้อเลยพามาชมพระอาทิตย์ขึ้นที่หาดอรุโณทัยแทนล่ะกันครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 18:22:58

ความคิดเห็นที่ 44   แต่ด้วยความที่เมฆหนามากเลยไม่เห็นพระอาทิตย์เลยครับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 18:24:54

ความคิดเห็นที่ 45   ขอปิดท้ายชุมพรด้วยหาดที่มีชื่อเสียงที่สุด และมีสนามบินด้วยครับ "หาดทุ่งวัวแล่น" จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 18:27:13

ความคิดเห็นที่ 46   อีกมุมหนึ่งครับผม จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 18:28:48

ความคิดเห็นที่ 47   ปิดท้ายการรีวิวที่ชุมพรแล้วนะครับ ขอบคุณทุกท่านนะครับที่เข้ามาเยี่ยมชมครับผม จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 18:30:26

ความคิดเห็นที่ 48   ขอบคุณที่ทำให้รู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดชุมพรอีกหลายๆที่เลยนะครับ จากคุณ : tataweb เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 20:11:30

ความคิดเห็นที่ 49   ขอบคุณมากๆครับผม จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 20:45:34

ความคิดเห็นที่ 50   หวัดดีค่า คิดถึงกระทู้คุณ Aeykun ค่า ไม่ได้อ่านมานาน จากคุณ : Bpearl เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 53 22:34:47

ความคิดเห็นที่ 51   สวัสดีครับคุณ Bpearl ได้ไปอังกฤษอีกรอบหรือยังขอรับ จากคุณ : Aeykun เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 53 20:40:47

ความคิดเห็นที่ 52   ...ตามมาเที่ยวชุมพรด้วยคนนะคะ เคยมองว่าเป็นเมืองทางผ่านไปสู่ภาคใต้ แต่จริงๆ แล้วมีที่เที่ยวเยอะหมือนกันนะคะ ^-^ จากคุณ : ปลายฟ้าที่ภูตะวัน เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 00:56:53

ความคิดเห็นที่ 53   น่าสนใจทีเดียวค่ะ คงต้องแวะไปเที่ยวชุมพรบ้างแล้ว จากคุณ : Trip Tracking เขียนเมื่อ : 7 ก.ย. 53 15:25:29