ความคิดเห็นที่ 1   เหตุการณ์ที่ว่านี้เกิดขึ้นเมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมานี่เองครับ ทีมของพวกผมเป็นทีมสำรวจทรัพยากรป่าไม้  มีโปรแกรมเข้าไปสำรวจแปลงที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าผาผึ้ง จังหวัดชัยภูมิ ดูจากแผนที่และเส้นทางคร่าวๆ แล้วเราต้องเดินเท้าเข้าไปราวๆ 5 กิโลเมตร หลังจากที่รถเราไม่สามารถขับเข้าไปต่อได้ ในขาไปเราต้องเดินข้าม "ลำเชิญ" ซึ่งเป็นห้วยหลักของพื้นที่บริเวณนี้  แต่ปริมาณน้ำในห้วย ณ เวลาที่เราข้าม (ตอนเช้า) ก็อย่างที่เห็นในภาพ... แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 53 13:39:23 จากคุณ : Tamakuji เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 12:37:21

ความคิดเห็นที่ 2   จะเห็นว่าระดับน้ำในช่วงเวลาที่เราข้ามไป  แค่พอรองเท้าเปียก ดูน้ำก็ใสสะอาดแทบจะตักกินได้ (โดยปกติถ้ากระหายมากๆ พวกเราก็ตักกินไปแล้ว) จากคุณ : Tamakuji เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 12:40:05

ความคิดเห็นที่ 3   มารอชมครับ... จากคุณ : โนเนม เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 12:44:29 A:118.174.57.213 X: TicketID:284401

ความคิดเห็นที่ 4   หลังจากนั้นเราก็ใช้เวลาเดินเท้าเข้าไปถึงแปลงสำรวจร่วมๆ 3 ชั่วโมง และตลอดทางก็เริ่มมีฝนโปรยลงมาตลอดเวลา  แต่ไปตกหนักจริงๆ เมื่อเราเข้าถึงแปลงและเริ่มทำงาน เราใช้เวลาทำงานไม่นานมากนัก ก็รีบออกเดินทางกลับ ฝนก็เริ่มหนักขึ้น แรงขึ้นทุกขณะ  เรียกได้ว่าเราต้องเดินผ่านห่าฝนกันออกมา  หนำซ้ำขบวนของพวกเรายังโดนช้างป่าวิ่งผ่ากลางขบวน จนต้องแตกกระเจิงไปคนละทิศละทาง เพราะฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้เราและช้างไม่ทันได้กลิ่น หรือได้ยินเสียงของกันและกัน... เมื่อพอถึงจุดจะต้องข้ามห้วย  เราตัดสินใจที่จะไม่ข้ามห้วยที่เราผ่านมา เพราะคิดว่ายังไงเสียก็หนีไม่พ้นน้ำป่าแน่นนอน และห้วยที่ว่าเป็นห้วยที่กว้างพอสมควร การจะฝืนข้ามเป็นอะไรที่อันตรายแน่นอน เราจึงเลือกใช้อีกเส้นทางที่อ้อมกว่า  แต่ข้ามห้วยที่เล็ก และแคบกว่า... แต่สุดท้ายเราก็เจอกับภาพที่เห็น... จากคุณ : Tamakuji เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 12:49:17

ความคิดเห็นที่ 5   อันตราย น่ากลัวมากเลยค่ะ จากคุณ : pamkatay เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 12:52:39

ความคิดเห็นที่ 6   ในความเป็นจริง ตามหลักการไหลของน้ำแล้ว ห้วยที่เป็นห้วยสาขา ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าและแคบกว่า การไหลของน้ำมักจะเร็วและแรงกว่าห้วยขนาดใหญ่หรือห้วยหลัก นั่นคือใช้เวลาไม่นานน้ำก็ไหลผ่านไปหมด แต่ ณ เวลาที่เราเดินมาถึงเป็นเวลาที่มวลน้ำไหลมาถึงห้วยที่เราต้องข้ามพอดี เลยเจอกับน้ำป่าอย่างที่เห็นในภาพ  ถ้านับเวลาตั้งแต่ฝนตกหนักๆ มาตลอดก็ราว 2 ชั่วโมงเศษๆ เท่านั้นเอง... ส่วนคนที่อยู่อีกฝั่งคือเจ้าหน้าที่ของเราเองที่ไม่ทันอ้าปากห้าม ก็เดินลุยน้ำแล้วถูกน้ำพัดไปขึ้นอีกฝั่งซะแล้ว... โชคดีที่เป็นคุ้งน้ำ... จากคุณ : Tamakuji เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 12:55:54

ความคิดเห็นที่ 7   ในความจำเป็นของเราตอนนั้นคือ เวลาก็จวนจะมืดค่ำลงไปทุกที เราจึงตัดสินใจที่จะหาทางข้ามไปให้ได้  ก่อนที่จะมืดแล้วเราจะต้องติดอยู่ในป่า การเดินหาจุดข้ามน้ำจึงเกิดขึ้น  เจ้าหน้าที่ของเขตฯ ที่ชำนาญพื้นที่ก็แนะนำให้เดินย้อนห้วยขึ้นไปอีกประมาณ 50 เมตร จะมีจุดที่ห้วยตื้น และแคบ พอที่จะเดินข้ามได้... หน่วยกล้าตายลงไปสำรวจ และนำร่องไปก่อน... จากคุณ : Tamakuji เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 13:01:10

ความคิดเห็นที่ 8   ตามมาลุ้นติดๆครับ... จากคุณ : tenface เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 13:05:23

ความคิดเห็นที่ 9   ส่วนพวกเราที่ไม่ค่อยชำนาญเรื่องพันนี้ก็รอ และบัญชาการอยู่ด้านบน... เราแนะให้เจ้าหน้าที่เอาเศษไม้ที่อยู่ริมห้วยมามัดเป็นราวยึด และใช้เชือกประคองอีกที เพราะในทีมของเรามีน้องผู้หญิงอยู่ด้วย  ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ... แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 53 13:43:26 จากคุณ : Tamakuji เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 13:05:25

ความคิดเห็นที่ 10   ติดตามอยู่ครับ จากคุณ : ปากซอยจามจุรี เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 13:07:04

ความคิดเห็นที่ 11   รอชมค่ะ แต่ก็น่ากลัวมากน้าป่าเคยเห็นไกลๆ ยังมีความรู้สึกว่าแรงแน่ๆ หากคงไปอยู่ในสถานการ์ณจริงคงทำอะไรไม่ถูก ขอชื่นชมค่ะ และรอลุ้นค่ะ จากคุณ : ปูป้อแป้ เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 13:09:48 A:58.9.199.24 X: TicketID:239144

ความคิดเห็นที่ 12   เมื่อทดสอบความแน่นหนาของราวไม้และเชือก  แล้วได้ผู้เล่นแถวสองทดสอบข้ามไปก่อนครับ... การข้ามน้ำในขณะที่น้ำไหลเชี่ยวและแรงอย่างนี้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษครับ ที่สำคัญคือ หลักต้องแน่น หลักในที่นี้คือขาครับ  แต่ละก้าวต้องแน่ใจ และมั่นใจว่าเหยียบพื้นที่แข็งแรง เพราะน้ำแรงมาก  ถ้าเหยียบพื้นไม่ดี ต่อให้มีราวยึดเกาะ ก็มีโอกาสโดนน้ำพัดไปได้... ที่สำคัญต้องไปทีละคนครับ (ราวรับน้ำหนักได้แค่นั้น) เพราะฉะนั้นถ้าคิดจะข้ามแล้วต้องมั่นใจ ต้องกล้า...  จะไปใจฝ่อเอากลางครันไม่ได้... แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 53 16:15:41 จากคุณ : Tamakuji เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 13:10:54

ความคิดเห็นที่ 13   จากนั้นเราก็ทะยอยข้ามไปทีละคน  จนครบปลอดภัยถึงฝั่งทุกคน แต่เป็นห่วงสุดก็น้องผู้หญิง  เพราะแค่เดินมาทั้งวันก็คงเหนื่อยพออยู่แล้ว  ต้องมาสู้กับน้ำป่าอีก...  สุดท้ายก็ผ่านมาได้อย่างปลอดภัย ต้องปรบมือให้ครับ... จากคุณ : Tamakuji เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 13:13:55

ความคิดเห็นที่ 14   นี่คงไม่ใช่การเผชิญน้ำป่าครั้งแรกของผม เพราะด้วยหน้าการงานที่ต้องผูกพันธ์อยู่กับป่า สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อหลายปีก่อน ที่ป่าภูหลวง จ.เลย ขาไปพวกผมเดินข้ามขอนไม้ที่พาดสองฝั่งห้วย  แต่ขากลับขอนที่ว่าลอยอยู่กลางลำห้วย... วันดีคืนดีขับรถผ่านไปบนถนนลาดยางดีๆ  ขากลับน้ำล้นคอสะพาน ต้องจอดรอจนกว่าน้ำจะลด... เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องเตือนกันคือ  อย่าประมาท  อย่าคิดว่ามันจะไม่เกิด เพราะมันมาเร็วมาก จนเราอาจคาดไม่ถึง...  บางครั้ง ณ จุดที่เราอยู่ไม่มีฝนซักเม็ด  แต่บนยอดเขาฝนตกหนัก  สิ่งที่ทำได้ก็คือต้องหมั่นสังเกตความผิดปกติ  สีน้ำ  ความแรงของน้ำ ระดับน้ำที่สูงขึ้นเร็วผิดปกติ... และสิ่งที่ทำได้คือหลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงภัยเป็นดีที่สุดครับ จากคุณ : Tamakuji เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 13:23:29

ความคิดเห็นที่ 15   ขอบคุณค่ะ จากคุณ : นมสดกับช็อคโกแลต เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 13:29:18

ความคิดเห็นที่ 16   ถ้ามันเกิดขึ้นแล้วล่ะ  เราจะทำอย่างไร...? สิ่งแรกคือ "สติ" ครับ อย่าพึ่งตื่นตระหนก เพราะถ้าไม่มีสติเราจะไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยปัญญาได้... น้ำป่าเป็นน้ำที่มาเร็วไปเร็วยิ่งกว่าประกันภัยรถยนต์  ถามความจำเป็นว่าเราต้องข้ามให้ได้นะเวลานั้นไหม  ถ้ายังพอมีเวลาหรือพอติดต่อโลกภายนอกได้ (มีสัญญาณโทรศัพท์) ก็ให้ขึ้นไปอยู่ในที่สูงและรอไปก่อน เมื่อน้ำลดหรือ มีคนมาช่วยค่อยว่ากัน... นี่คือสิ่งที่ควรทำที่สุด ถ้าจำเป็นต้องข้ามให้ได้ ก็ต้องเลือกจุดที่คิดว่าปลอดภัยที่สุด  แน่นอนล่ะการประเมินด้วยสายตา ณ เวลานั้นคงไม่สามารถทำได้  เว้นแต่จะมีผู้ชำนาญพื้นที่อยู่ด้วย  แต่ถ้าดูแล้วการฝืนข้ามไป และเสี่ยงต่ออันตรายก็ให้ย้อนกลับไปคิดในข้อที่แล้วอีกที... ยังไงเสีย การวางแผนล่วงหน้าตั้งแต่ออกเดินทาง ก็จะเป็นการดีที่สุด ถ้าเราต้องเข้าไปในป่า แล้วพบว่าฝนตกหนัก สุ่มเสี่ยงต่อการที่เราจะต้องเจอกับน้ำป่า ก็ให้รีบกลับออกมาทันที... ก็ถือเป็นการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าได้ดีที่สุด... จากคุณ : Tamakuji เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 13:35:09

ความคิดเห็นที่ 17   ขอบคุณมากครับกับข้อมูลดีๆที่นำมาแบ่งปัน จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 13:36:29

ความคิดเห็นที่ 18   สีของน้ำ น่ากลัวจริงๆ จากคุณ : สบายๆ สไตล์เอนจิเนียร์ (gazeclub) เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 13:36:30

ความคิดเห็นที่ 19   ทั้งคำบรรยายและภาพทำให้เห็นความน่ากลัวของน้ำป่าจริงๆ ขอบคุณค่ะที่นำเสนอทั้งสภาพ และวิธีการรับมือที่ถูกต้อง จากคุณ : nupook538 เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 13:55:15

ความคิดเห็นที่ 20   ขอบคุณที่มาเตือนภัยและเล่าเหตุการณ์ให้ฟังค่ะ น้ำป่าน่ากลัวจริงๆ ช่วงนี้ดูข่าวเรื่องนี้ทุกวันเลยค่ะ จากคุณ : napatson เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 14:07:10

ความคิดเห็นที่ 21   ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันประสบการณ์ จากคุณ : นู๋ชมเจ้าขา เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 14:19:56

ความคิดเห็นที่ 22   เห็นชื่อกระทู้ ใจวูบหวนคิดถึงพี่น้องวนศาสตร์ มองรูปอยู่นาน ใช่เลย พี่น้องวนศาสตร์นี่เอง เห็นเสื้อน้ำตาลแวบๆ ยิ่งชายหนุ่มเสื้อลายพรางนี่ คุ้นหน้าคุ้นตากันดี พระคุ้มครองนะคะ ขอให้มีสติทุกขณะตอนอยู่ในป่า "พวกเราชาววนศาสตร์ ไม่หวั่นไม่หวาดความทุกข์ในป่า..." แก้ไขเมื่อ 29 ส.ค. 53 14:39:30 จากคุณ : นก วนศาสตร์ 68 (Hippiainen) เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 14:38:57

ความคิดเห็นที่ 23   ตื่นเต้นดีครับ จากคุณ : Beingbig เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 14:42:13

ความคิดเห็นที่ 24   ขอบคุณมากครับ ที่มาบอกกล่าว ถ้าเห็นน้ำแดงๆเมื่อไหร่ ก็รีบโกยได้เลยครับ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 14:53:25

ความคิดเห็นที่ 25   ขอบคุณมากคะที่มาเตือนภัย....... ทุกคนจะได้ไม่มองข้ามความปลอดภัย... ถ้าเป็นเราอยู่ในเหตุการณ์คงตื่นเต้นน่าดู..... แต่ถ้าเลือกได้ก็ขออย่าได้เจอเลย..... โชคดีคะที่ทุกคนปลอดภัย...... จากคุณ : ผักกะเฉดใส่ไข่ เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 15:16:01

ความคิดเห็นที่ 26   เหมือนในหนังเลยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : น้องสมไข่ เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 15:31:02

ความคิดเห็นที่ 27   อุ๊ยตายแล้ว... ทำไมกล้าข้ามนะ   แม้จะตื้น ก็เหอะ  เราว่ามีโอกาสปลิวได้นะเนี่ย ดีใจที่ปลอดภัยค่ะทุกคน จากคุณ : อ้วนน้อยศิษย์เจ้าแม่ เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 15:56:59

ความคิดเห็นที่ 28   ตอบคุณ อ้วนน้อยศิษย์เจ้าแม่ คห. 27 อย่างที่บอกแหละครับว่าการรับมือที่ถูกต้องจริงๆ คือหาที่สูงเพื่อหลบ และรอจนน้ำลด   แต่ในเหตุการณ์ครั้งนี้เราประเมินแล้วว่ากว่าจะรอให้น้ำลด ก็คงมืดค่ำ และเราเองไม่ได้เตรียมอุปกรณ์พักค้างมาด้วย ลำพังการเดินเท้าในเวลากลางคืนย่อมเป็นเรื่องที่อันตรายกว่า เพราะแถวนั้นสัตว์ป่าชุกชุมมาก (พึ่งเกือบเดินชนช้างมาหมาดๆ) ไหนยังต้องไปลุยกับรถที่จอดทิ้งไว้อีก ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะขับออกไปได้หรือเปล่า... หลังจากที่เราสำรวจจุดข้ามแล้ว จุดนั้นเป็นจุดที่พอข้ามได้ครับ เพราะจริงๆ เจ้าหน้าที่ของเราที่ข้ามไปก่อนก็เดินลุยไปตัวเปล่า ใช้แค่เชือกประคองไป อาจเป็นโชคดีที่น้ำไม่แรงมาก และถ้าเทียบกับเหตุการณ์ครั้งอื่นๆ ส่วนตัวผมว่าครั้งนี้ยังไม่อัตรายมากนัก...  แต่ถ้าน้ำมาแรงกว่านี้เราก็คงต้องคิดกันอีกที... แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมก็ไม่แนะนำให้ใครต้องทำตามนะครับ  มันอยู่ที่สถานการณ์เฉพาะหน้ามากว่า  ที่สำคัญคือ "สติ" ครับ... จากคุณ : Tamakuji เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 16:11:16

ความคิดเห็นที่ 29   ผมสรุปการรับมือเมื่อต้องเผชิญกับน้ำป่าไว้อย่างนี้แล้วกันครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นสิ่งที่เขียนจากประสบการณ์ อาจจะถูกหลักบ้างไม่ถูกบ้างก็ต้องช่วยเสริมแล้วกันครับ การเตรียมตัวป้องกัน 1 ถ้าจำเป็นต้องเดินทางไปในที่เสี่ยงภัย ต้องคอยติดตามคำพยากรณ์อากาศ และการแจ้งเตือนภัยให้ดี  หากหลีกเลี่ยงการเดินทางได้ควรหลีกเลี่ยง 2 ถ้าจำเป็นต้องเดินทางจริงๆ ควรเตรียมอุปกรณ์ช่วยชีวิตสุดแล้วแต่จะเตรียมไปได้เช่น ชูชีพ ห่วงยาง เชือก ฯลฯ  ตลอดจนเสบียงและอุปกรณ์การดำรงชีพต่างๆ เผื่อว่าต้องติดอยู่ในป่าเพื่อรอน้ำลด 3 หัดเป็นคนช่างสังเกต โดยเฉพาะสิ่งรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นปริมาณน้ำ สีของน้ำ ความขุ่นของน้ำ ปริมาณและระยะเวลาที่ฝนตก รวมไปถึงปฏิกิริยาของสิ่งมีชีวิต  เช่น การย้ายรังของมด เป็นต้น  เพราะการเป็นคนหูไวตาไว จะช่วยให้เรารอดพ้นอันตรายได้ 4 เชื่อฟังเจ้าหน้าที่ หรือบุคคลในท้องที่ เช่นถ้าเขาบอกว่าอย่า ก็ต้องอย่า เขาห้ามเราก็ต้องฟัง  เพราะคนในพื้นที่เขามีประสบการณ์มากกว่าเรา การปฏิบัติเมื่อเผชิญเหตุ 1 ตั้งสติและวิเคราะห์เหตุการณ์อย่างรอบคอบ 2 สิ่งที่ควรทำที่สุดคือหาที่สูงเพื่อหลบภัย เพราะอย่างที่บอก น้ำป่าเป็นน้ำที่มาเร็ว ไปเร็ว  ถ้าสามารถรอได้ ให้รอไปก่อน 3 พยายามติดต่อบุคคลภายนอกเพื่อขอความช่วยเหลือ หรืออย่างน้อยก็แจ้งให้ทราบว่าเรากำลังเผชิญอะไรอยู่ 4 สิ่งที่ต้องระวังตามมากับน้ำป่าคือโคลนถล่ม  เพราะฉนั้นที่หลบภัยต้องมั่นใจว่าปลอดภัยจริง 5 หากอยู่บนท้องถนน และข้างหน้าเป็นน้ำป่าที่เอ่อล้นขึ้นมา อาจจะเป็นสะพาน หรือท่อระบายน้ำ หรือผิวถนนปกติก็แล้วแต่  ถ้าไม่สามารถมองเห็นผิวถนนไม่ควรขับรถข้ามโดยเด็ดขาด  ควรจอดรอในที่สูงประเมินสถานการณ์อีกที  เพราะที่น้ำที่ดูไม่แรง แต่จริงๆ แล้วอาจจะแรงกว่าที่คิด จนสามารถพัดรถตกถนนได้... ที่สำคัญเราไม่อาจรู้ได้เลยว่าถนนบริเวณนั้นขาดหรือยัง...!!! 6 หากจำเป็นต้องข้ามน้ำจริงๆ ควรใช้วิธีที่ปลอดภัย เช่นการโรยตัวข้ามน้ำ (อย่างที่อาจจะเคยเห็นใน TV) หรือการขนส่งทางอากาศ (ถ้าสามารถทำได้) ซึ่งแน่นอนว่านั่นคือการได้รับความช่วยเหลือจากภายนอกแล้ว 7 ถ้าสามารถหาจุดที่ลุยน้ำข้ามได้  ต้องเป็นจุดที่แน่ใจได้จริงๆ ว่าปลอดภัย เช่นลำน้ำแคบ ตื้นไม่ควรเลยเข่า หรือถ้าสูงสุดอย่าให้เลยต้นขา (อาศัยตามหลักฟิสิก์นิดๆ) น้ำไหลไม่แรงมาก มีสิ่งกีดขวางเช่น แก่งหิน ต้นไม้ หรือตอไม้ขอนไม้ และต้องใช้อุปกรณ์ช่วย  เช่น เชือก หรือไม้วางพาดเป็นราว เพื่อช่วยในการพยุงตัว และต้องข้ามด้วยความระมัดระวัง... แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่ควรปฏิบัติที่สุดคือข้อ 1 และ 2 ถ้าที่ผมประมวลมาได้ก็ประมาณนี้  ยังไงจะช่วยเสริมหรือติตรงไหนก็ได้นะครับ... จากคุณ : Tamakuji เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 16:53:01

ความคิดเห็นที่ 30   ขอบคุณหลายๆครับ สำหรับข้อมูลและเตือนสติครับ จากคุณ : โบริโบริ เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 16:59:03

ความคิดเห็นที่ 31   อุ๊ย เห็น login คุณ โบริโบริ  นึกขึ้นได้ว่ายังค้างรีวิวญี่ปุ่นตอน 3 อยู่เลย... เฮ๋อๆๆๆ โทษทีเด้อ มัวแต่ลุยป่าอยู่นี่แหละ  เลยบ่ได้ทำรีวิวซักที แฮ่ๆๆๆ  (แก้ตัวไปนั่น) จากคุณ : Tamakuji เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 17:10:44

ความคิดเห็นที่ 32   รบกวนคุณ Tamakuji ขอทราบพิกัดบริเวณที่พบกรณีน้ำป่านี่หน่อยได้ไหมครับ พอดีว่าผมมีพื้นที่ทำงานอยู่ในเขต จ. ชัยภูมิ ใกล้ๆกับบริเวณลำเชิญเช่นกัน เป็นชื่อตำบล อำเภอ ก็ได้ครับ หรือถ้าได้ พิกัด GPS ก็จะขอบพระคุณมาก เลยกังวลว่า กว่าจะลงมือทำงาน จะเจอปัญหาอย่างนี้หรือเปล่า จากคุณ : Wobbegong เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 17:35:44

ความคิดเห็นที่ 33   เรื่องพิกัด บอกได้คร่าวๆ นะครับ  เอาเป็นพิกัดแปลงสำรวจแล้วกัน  เพราะเราสำรวจเป็นจุดตัดเส้นกริดทุก 5 กิโลเมตร แปลงที่ว่า พิกัด 790000E  1836000N WGS84 Zone 47 ครับ อยู่กลางเขตุรักษาพันธุ์สัตว์ป่าผาผึ้ง อ. คอนสาร ครับ ทางเข้าจะเข้าไปเส้นที่วิ่งไปโรงไฟฟ้าของเขื่อนฯ  เดิมเป็นเส้นทางที่เจ้าหน้าที่ใช้เข้าไปปลูกป่าครับ แต่ตอนนี้ทางถูกปิดมาหลายปีแล้ว  ถ้าเช็คในgoogle map รู้สึกยังขึ้นเป็นถนนอยู่ จุดเกิดเหตุเป็นลำห้วยสาขาของลำเชิญอีกทีครับ... แต่น้ำป่าที่เจอนี่น่าจะเป็นเรื่องปกติที่จะเกิดขึ้นได้หลังฝนตกหนัก  เพราะฉะนั้นถ้าเข้าไปทำงานช่วงนี้ก็ต้องระวังกันหน่อยแล้วกันครับ... จากคุณ : Tamakuji เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 18:02:10

ความคิดเห็นที่ 34   ขอบคุณมากๆครับ จากคุณ : หนุ่ม ณ วันวาน เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 18:02:37

ความคิดเห็นที่ 35   ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆค่ะ จากคุณ : like_the_moon เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 18:51:18

ความคิดเห็นที่ 36   อึมน่ากลัวจริงๆ ต้องระมัดระวังการเที่ยวป่าและน้ำตกช่วงนี้จริงๆ ขอบคุณสำหรับความรู้และข้อควรระวังครับ จากคุณ : บารอนก๊อง เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 20:12:13

ความคิดเห็นที่ 37   ขอบคุณครับ จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 20:46:43

ความคิดเห็นที่ 38   ขอบคุณสำหรับข้อมูลและภาพค่ะ จากคุณ : dcapar เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 21:01:06

ความคิดเห็นที่ 39   ขอบคุณค่ะ จากคุณ : มา รัก กัน เถอะ เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 21:19:40

ความคิดเห็นที่ 40   ขอบคุณครับ จากคุณ : torak123 เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 21:49:57

ความคิดเห็นที่ 41   ขอบคุณมากๆค่ะ จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 53 22:23:01

ความคิดเห็นที่ 42   น้ำป่ายังพอไหว   แต่ช้างวิ่งผ่ากลางวง....บรื๋อออออสสสส.... จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 53 02:24:22

ความคิดเห็นที่ 43   ขอบคุณครับ สำหรับความรู้ จากคุณ : nuthaha เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 53 15:02:07