ความคิดเห็นที่ 1   ส่วนกระทู้ต้นเรื่องของคุณปลอมตัวมาหารักแท้  ดังลิ้งค์ข้างล่างนี้ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9374238/E9374238.html ได้สูญหายไปแล้ว แม้จะโพสในช่วงต้นเดือน กค.ที่แล้วนี้เอง  คงถูกลบออกไปเพราะตั้งอยู่ในหมวด "ท่องเที่ยวไทย" ไม่ใช่ "บันทึกนักเดินทาง" ที่จะคงอยู่ได้นานกว่า  เลยได้รูปที่ผมเซฟเก็บไว้บ้างเล็กน้อย มาลงให้ดูไว้เรียกน้ำย่อยกัน เจ้าของกระทู้เขาใช้เทคนิคปรับภาพให้เป็นขาวดำ จนดูเหมือนสถานที่แห่งความฝัน เรียก กิฟท์ จากเพื่อนๆในห้องนี้กันไปอื้อซ่า เลย...  ลองๆ ดูข้างล่างนี้ก็แล้วกัน ว่าใครจะคิดว่าที่กรุงเทพฯจะมีแบบนี้ให้ดู แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 53 16:18:43 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 16:17:40

ความคิดเห็นที่ 2   ข้อมูลจาก คุณปลอมตัวมาหารักแท้ นั้นได้ระบุไว้ว่า ทางเข้าไปสู่แดนสวรรค์ เอ๊ย..เป้าหมายนี้อยู่ตรงข้ามกับโรงเรียน คลองพิทยาลงกรณ์  ผมเลยกางแผนที่ออกมา ว่าอยู่ตรงไหนกัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 16:21:39

ความคิดเห็นที่ 3   ผมเริ่มออกเดินทางจาก สามแยกบางบอน ตรงห้างจัสโก้ แล้วตรงอย่างเดียว มาเลี้ยวขวาเอาตรงสามแยกใกล้ โรงเรียนคลองพิทยาลงกรณ์เลยทีเดียว ถนนเส้นนี้ผมไม่ได้มาก็เกือบสองปี แล้ว เดิมอยู่ในสภาพทรุดโทรม มีการปรับปรุงเส้นทางขรุขระไม่น่าวิ่ง  จนหันไปใช้ถนนที่เลี้ยวซ้ายเข้ามาจาก หน้าวัดพันท้ายฯ (อยู่ ริมถนนพระราม 2 ไม่ใช่ วัดศาลพันท้ายฯ ที่อยู่ติดกับ ศาลพันท้ายฯ นะครับ) เป็นประจำ ภาพซ้าย : มาคราวนี้ลองวิ่งทางนี้ดูบ้าง เลยได้เจอกับถนนใหม่ กว้างเรียบ แถมมีช่องทางจักรยานให้ด้วย ภาพขวา : มาสะดุดตาตรงที่มีทางเบี่ยงซ้ายไปยังสะพานเล็กๆ ที่มีให้สำหรับรถจักรยานโดยเฉพาะ ดูแปลกดี ไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน ว่าทางการจะใจดี ทำให้ขนาดนี้ แทนที่จะใช้วิธีขยายสะพานเดิมอย่างที่เคยทำกัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 16:40:35

ความคิดเห็นที่ 4   ตอนนั้นจำได้ว่ารีวิวของคุณปลอมตัวมาหารักแท้ ทำให้แปลกใจประทับใจในอีกมุมหนึ่งของกรุงเทพฯ มาก ๆ เสียดายจังเลยค่ะ กระทู้ไม่น่าหายไปเลย ต้องขอบคุณ คุณมิราชช ด้วยนะคะที่มารีวิวให้ชมในครั้งนี้ ตามชมค่ะ   จากคุณ : Yai Klong_Tour Rai เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 16:49:03

ความคิดเห็นที่ 5   มาลองผ่านสะพานดูบ้างเป็นไร (โดยรถมอเตอร์ไซด์นะครับ) ความกว้างของสะพานพยามวัดด้วยแขนโดยประมาณ 2 เมตรครึ่ง ซึ่งพบว่ากว้างกว่ารถยนต์ ที่ปกติจะกว้างเพียง 1.65 - 1.75 เมตร  ทำให้มีรถชาวบ้านบางคันไปจอดเกือบปิดสะพาน เป็นบางช่วง  ปัญหาคือ ต้องทำเครื่องกั้น เช่นเสา ห้ามรถยนต์ผ่านเข้ามาวิ่ง และก็ต้องทำไหล่ทางช่วงเชิงสะพานให้กว้างจนรถยนต์ชาวบ้าน (บางทีอยู่ตรงหน้าบ้านเขาพอดี) สามารถจอดริมถนนได้โดยไม่บังสะพาน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 17:02:14

ความคิดเห็นที่ 6   บางขุนเทียนที่คิดถึง  :)   เมื่อสองปีที่แล้ว เคยจัดทัวร์ไปปลูกป่าชายเลนที่นั่น ร่วมกับโรงเรียนคลองพิทยาลงกรณ์  ไม่รู้ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ขอบคุณ จขกท. นะครับ ที่นำมารีวิวให้ชม :) จากคุณ : 8anashi8 เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 17:13:21

ความคิดเห็นที่ 7   .. เคยไปบางขุนเทียน ก็ตอนแวะไป มจธ. บางขุนเทียนครับ ไกลมาก และลำบากสำหรับคนไม่มีรถส่วนตัว - -" แต่ไปถึงแล้วก็รู้สึกดีครับ ว่ากรุงเทพ ก็มีอารมณ์ริมทะเลนะเนี่ย .. จากคุณ : POGGHI เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 17:18:31

ความคิดเห็นที่ 8   ตามมาชมด้วยนะคะ บ้านอยู่แถวนั้นจะได้ลองไปบ้าง จากคุณ : นู๋ชมเจ้าขา เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 17:23:44

ความคิดเห็นที่ 9   สวัสดีครับ คุณYai Klong_Tour Rai : ฮั่นแน่...เจอแฟนกระทู้คุณปลอมตัวมาหารักแท้ เข้าให้แล้ว เดี๋ยวผมจะพาไปย้อนอดีต ก้าวเข้าไปในภาพนั้นครับ.... ตอนนี้ผมมาถึงสุดถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล รวมระยะทางจาก สามแยกบางบอน(จัสโก้) ประมาณ 18 กม. แล้วเลี้ยวขวาไปยัง โรงเรียนคลองพิทยาลงกรณ์ ถึงปากซอยเข้าไปด้วยระยะทางเพียงประมาณ 300 เมตร (ซึ่งจะผ่านหน้าจุดลงเรือไปร้าน Bangkok Seaview ด้วยครับ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 17:23:47

ความคิดเห็นที่ 10   นึกถึงบางขุนเทียนทีไรก็จะคิดถึงแต่อาหารทะเล แต่มาวันนี้กับกระทู้นี้ จะมองผ่านมุมของป่าชายเลนบ้่างค่ะ จากคุณ : แมวน้อยใส่ทูพีช เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 17:25:55

ความคิดเห็นที่ 11   สวัสดีครับ คุณ8anashi8 : นับว่าคุณโชคดีที่ได้ร่วมประวัติศาสตร์การปลูกป่าชายเลนที่นั่น ต่อไปจะช่วยลดการสูญเสียพื้นที่ริมทะเลได้ แต่ใจผมคิดว่ายังน้อยเกินไป ต้องปลูกให้มากกว่านี้อีกเป็นสิบๆ เท่า โดยเฉพาะตามแนวขวางครับ (เท่าที่สังเกตุ ดูจะเป็นแนวตรงไปยังทะเลมากกว่า) สวัสดีครับ คุณPOGGHI : ต้องยอมรับว่าไกลจริงๆ ทั้งๆ ที่มีความรู้สึกว่าอยู่ใกล้ทะเล แต่กว่าจะถึงตัวทะเลจริงๆ ก็สุดๆ เหมือนกัน สวัสดีครับ คุณนู๋ชมเจ้าขา : ยินดีครับ ถ้ามีเวลาว่างๆ ควรรีบไป เดี๋ยวจะเสียดายว่า น่าจะมานานแล้ว.. สวัสดีครับ คุณแมวน้อยใส่ทูพีช : คุณมีจินตนาการเรื่องอาหารกับบางขุนเทียน ทำให้ผมนึกถึงร้านอาหารแถวๆ นั้น เช่น ร้านครัวแสวง และ อ่าวกระเบนซีฟู๊ด (ที่มีสัญญลักษณ์ กังหันลม) ผมเกือบลืมไป เพราะมัวแต่นึกถึง ทิวต้นสน ที่เรียงกันเหมือนเทียน อยู่ริมทะเล ทำให้ สถานีตำรวจที่นั่นมีชื่อว่า สน.เทียนทะเล มาต่อกัน ตอนนี้ผมมาอยู่ตรงหน้า โรงเรียนคลองพิทยาลงกรณ์แล้วครับ มองไปทางขวาก็คือ ทางที่มาจากสามแยกข้างบน (คห.9)  มองไปทางซ้ายก็คือ ทางไป มหาชัย (จ.สมุทรสาคร) ซึ่ง จะเห็นช่องเล็กๆ ด้านซ้ายมือ ของถนนฝั่งตรงข้ามกับโรงเรียน นี่คือตรอกที่เข้าไปยัง ป่าชายเลนที่ว่าครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 18:10:45

ความคิดเห็นที่ 12   สังเกตุเห็นบอร์ดข้อมูลการท่องเที่ยวหน้าโรงเรียน ลองข้ามไปดูกันว่ามีอะไร (ผมไปที่นั่น 2 ครั้งครับ  ครั้งแรกไปผิด คนละแห่งกัน กลับมาถามคุณปลอมตัวตามมาหารักแท้ เขาได้แนะนำ ผมจึงไปอีกครั้ง อย่างถูกต้อง แต่บางเรื่องขอนำมารวมกันเพื่อให้ง่ายต่อการติดตามครับ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 18:19:52

ความคิดเห็นที่ 13   ข้างล่างนี้คือ แผนที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวของเขตบางขุนเทียน ซึ่งผมพอจะเพิ่มเติมให้เล็กน้อย ในส่วนที่เกี่ยวข้อง  ซึ่งเป้าหมายที่ต้องการไปก็คือ ศูนย์ศึกษาอนุรักษ์ป่าชายเลน บางขุนเทียน ซึ่งสะพานไม้ในรูป ก็คือในรูปคห.1 ของ คุณปลอมตัวมาหารักแท้ นั่นเอง (ในตอนแรกผมไม่ทราบ เพราะไม่ได้เข้ามาดูที่บอร์ดนี้) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 18:36:27

ความคิดเห็นที่ 14   รอชมต่อนะคะ จากคุณ : nok_naja เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 18:39:30

ความคิดเห็นที่ 15   โอ้โห ป้าขอชื่นชมคุณมิราชชค่ะ ทำแผนที่เส้นทางไปได้ละเอียดมาก ไม่ยากแก่การตามรอย ชอบค่ะชอบ จากคุณ : เตี้ยอ้วนชวนไถล เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 18:40:15

ความคิดเห็นที่ 16   ตามมาด้วยคนครับผม..... จากคุณ : torti เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 18:42:23

ความคิดเห็นที่ 17   แวะมาชมครับ ชมแล้วรู้สึกอยากไปบ้าง รอชมต่อนะครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวครับผม จากคุณ : กัปตันลูกชุบ เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 18:44:20

ความคิดเห็นที่ 18   ส่วนอีกแผนที่ใกล้ๆ กันก็คือ แผนที่แสดงเส้นทางจักรยานท่องป่าชายเลนบางขุนเทียน ครับ ซึ่งจะแสดงด้วยเส้นสีชมพู แผนที่นี้จะขยายจากแผนที่ในคห.13 นะครับ เลยพอเห็นรายละเอียดได้ โดยที่ผมไม่ต้องพิมพ์ตัวอักษรให้อีก การเดินทาง จะเริ่มจากสถานีรถไฟทั้งสองแห่ง คือ สถานีรางโพธิ์ กับ สถานีพรมแดน (แสดงด้วยวงกลมชมพู) ดูจากแผนที่แล้วทำให้ผมเพิ่งทราบว่า ถ.แสมดำนี้มาจาก ถ.พระราม 2 ลัดตรงมายังถนนเลียบคลองพิทยาลงกรณ์ แห่งนี้ได้เลยหรือ ปกติจะมาจากถนนที่เข้ามาตรงวัดพันท้ายฯ ปลายทางก็คือ ศูนย์อนุรักษ์ป่าชายเลนแห่งนี้ ซึ่งนับว่าได้ประโยชน์สองต่อ คือ อนุรักษ์ธรรมชาติ และ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ที่ได้ออกกำลังกาย ด้วยจักรยาน (เลยเป็นเหตุผลที่ถนนตอนเข้ามา มีช่องทางจักรยานให้ด้วย) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 18:50:55

ความคิดเห็นที่ 19   สวัสดีครับ คุณเตี้ยอ้วนชวนไถล : ผมชอบคิดอะไรแบบแผนภาพ หรือแผนที่ ทำให้ง่ายต่อการค้นหา แก้ปัญหาได้ง่าย ขอบคุณที่ชมครับ สวัสดีครับ คุณnok_naja, คุณtorti, คุณกัปตันลูกชุบ :ด้วยความยินดี เชิญติดตามต่อได้ครับ ผมจะขอถ่ายภาพใกล้ๆ ตรงส่วนการท่องเที่ยวที่นี่กันหน่อย ภาพซ้าย : มีบอร์ดข้อมูลตรงทางเข้า ภาพกลาง : เส้นทางชมป่าชายเลนเป็นสะพานไม้ที่มีรั้วสองข้าง (แต่ปัจจุบันไม่มีแล้ว) ภาพขวา : ดูๆ น่าจะเป็นจุดที่ออกสู่ทะเล (มองไม่ชัด) เดี๋ยวเราจะเข้าไปเที่ยวกัน แต่วันนี้มีธุระไปงานเพื่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อ คอยติดตามชมนะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 19:03:43

ความคิดเห็นที่ 20   http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2010/06/E9374238/E9374238.html เอากระทู้เดิมของคุณปลอมตัวมาหารักแท้มาฝากครับ ตอนนี้มันเข้าไปอยู่ในคลังกระทู้แล้ว จากคุณ : bluedracula เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 19:17:15

ความคิดเห็นที่ 21   ตามมาเก็บข้อมูลด้วยคนครับ  รีวิวละเอียดดีมากเลยครับ ขอบคุณที่ภาพเที่ยวนะครับ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 19:18:47

ความคิดเห็นที่ 22   อิ่มแล้ว กางมุ้ง รอชมด้วยคนครับ อิ่มก่อน ดูโขนดูหนัง อิ่มทีหลัง ล้างถ้วยล้างชาม วันแม่นี้ว่า จะไปทำบุญที่วัดทุ่งครุ อาจจะมีโอกาสได้มาเยือนที่นี่บ้าง จากคุณ : พนบ. เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 19:27:18

ความคิดเห็นที่ 23   โอ้ว น่าไปจริงๆนะครับ จากคุณ : music maniac เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 20:11:24

ความคิดเห็นที่ 24   คนบางบอนเหมือนกัน  แต่ไม่เคยได้มีโอกาสเข้าไปชมเลยค่ะ  ไม่มีรถ จากคุณ : kamolmail เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 20:30:51

ความคิดเห็นที่ 25   ...ตามมาเที่ยวป่าชายเลนด้วยค่ะ เคยเข้าไปแต่ก็ไปไม่ทันถึงต้องกลับออกมาซะก่อนเพราะไกลมากเลยค่ะ หลงทางด้วยอ่ะค่ะ  ^-^ จากคุณ : ปลายฟ้าที่ภูตะวัน เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 22:08:49

ความคิดเห็นที่ 26   ขอบคุณค่ะ จากคุณ : tonpalmy เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 53 23:03:56

ความคิดเห็นที่ 27   ขอบคุณ คุณน้ามิรราชมากๆครับผม จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 10:53:55

ความคิดเห็นที่ 28   คิดอยากไปนั่งทานซีฟูดสดๆ อยู่เหมือนกันค่ะ เห็นว่าบรรยากาศดีมากๆ แต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปสักครั้ง ขอบคุณรีวิวภาพสวยๆ ที่จุดประกายต้องรีบหาเวลาไปให้ได้ซะแล้ว จากคุณ : Samalady เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 12:54:05

ความคิดเห็นที่ 29   สวัสดีครับ คุณbluedracula : ขอบคุณมากที่ไปค้นหากระทู้เดิมมาให้ สวัสดีครับ คุณnoiwanwannoi : ยินดีครับที่ชอบ บางกระทู้ที่เคยทำ ถ้าหากถูกลบไปแล้ว ว่างๆ ผมจะไปรวบรวมฝากเว็บไว้สักแห่งเพื่อเป็นประโยชน์ต่อไปครับ สวัสดีครับ คุณพนบ. ยินดีครับ ที่ติดตามมาชม  เห็นคุณบอกว่าจะไปวัดทุ่งครุ แล้วไปป่าชายเลนแห่งนี้  ผมลองตรวจสอบถนนจาก GPS Map พบว่า มีทางลัดไปได้ โดยเข้าซอยประชาอุทิศ90 ผ่าน วัดคลองมอญ วัดคลองสวน ม.เทคโนพระจอมเกล้าธนบุรี  แต่ยังไม่เคยไปนะครับ มิฉะนั้นต้องอ้อมรถไปทาง ถ.พุทธบูชา หรือไม่ก็ ถ.สุขสวัสดิ์-ถ.พระราม 2 เลย ถ้าไม่อยากงง สวัสดีครับ คุณmusic maniac ,คุณkamolmail, คุณปลายฟ้าที่ภูตะวัน : การเข้าไปจะว่าแล้วก็ไม่ค่อยสะดวกเท่าใดนัก ระยะทางรวม 4 กม. รถมอเตอร์ไซด์เข้าได้ 3.25 กม. นอกนั้นต้องเดินครับ แต่ได้ธรรมชาติเต็มๆ ครับ สวัสดีครับ คุณtonpalmy, คุณอุ้ย (digimontamer), คุณSamalady : ยินดีครับที่ชอบ   กระทู้นี้มีเพื่อนๆ แวะเข้ามาชมและทักทายเยอะเลย วันนี้มาต่อกันนะครับ ตรงบอร์ดประชาสัมพันธ์หน้าโรงเรียนนั้นยังมี ข้อมูลของพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ของเขตบางขุนเทียนอยู่ด้วย คิดว่าอยู่ในโรงเรียนคลองพิทยาลงกรณ์นะครับ ถ้าสนใจก็โทร.สอบถามดูครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 15:17:51

ความคิดเห็นที่ 30   ภาพซ้าย : นี่แหละครับ ตรอกเล็กๆ (ไม่ควรเรียกซอย เพราะรถยนต์เข้าไม่ได้) ที่เราจะเข้าไปกัน  ไม่มีป้ายใดๆ ระบุว่าข้างในมีป่าชายเลน หรือสถานที่ท่องเที่ยวเลย ต้องอาศัย หน้าโรงเรียนคลองพิทยาลงกรณ์เป็นที่สังเกตุครับ (อยู่ตรงกันข้ามเยื้องๆ ตามในภาพคห.11) ภาพขวา : ก้าวเข้าไปแล้ว จะต้องขึ้นสะพานสูงนี้ก่อน ใครขี่มอเตอร์ไซด์เข้าไปก็ต้องเตรียมตัวให้ดีก่อน และให้ระวังรถวิ่งสวนลงมาด้วยนะครับ เสียว จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 15:26:37

ความคิดเห็นที่ 31   ตอนนี้ผมขึ้นไปบนสะพานสูง(ข้ามคลองพิทยาลงกรณ์) แล้ว ภาพข้างหน้าก็คือ เชิงสะพานลงไปอย่างชันเช่นกัน ข้างล่างเป็น 3 แยก เลี้ยวซ้ายไปขึ้นสะพานอีกแห่ง (ข้ามคลองศรีกุมาร) ด้านซ้ายมือครับ ตรงนี้จะเห็นแนวป่าโกงกางอยู่ ซึ่งมีสะพานเดินอยู่ด้วย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 15:47:55

ความคิดเห็นที่ 32   ขึ้นมาบนสะพานข้ามคลองศรีกุมาร ที่มีราวแป๊บเหล็กนะครับ ภาพซ้าย : มองไปทางซ้ายจะเห็น อาคารโรงเรียนคลองพิทยาลงกรณ์ สะพานที่เพิ่งข้ามมาจากตรอกทางเข้า และ โป๊ะชมวิว ที่ตอนขากลับได้มีโอกาสไปยืนดูวิวสามแยกคลองแบบพานอรามาครับ ภาพขวา : มองไปทางขวาเป็นคลองศรีกุมาร ที่ไปสิ้นสุดที่คลองประมง ตรงจุดที่เริ่มเดินไปป่าชายเลนที่ติดทะเล(เป้าหมายที่ต้องการไปของเรา)   ด้านริมคลองนี้เป็นป่าชายเลน ที่มีสะพานไม้ทอดยาวไปเรื่อยๆ  เนื่องจากการไปคราวแรกของผม ยังไม่มีข้อมูลการไปป่าชายเลนติดทะเล เลยตัดสินใจไปแห่งนี้ก่อนครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 16:11:27

ความคิดเห็นที่ 33   เมื่อจะลงสะพานจะมีทางแยกไปทางขวามือ เพื่อไปสะพานชมป่าโกงกางเก่า  ซึ่งทางข้างหน้าจะคดเคี้ยวไปอ้อมคลอง แล้วเลี้ยวไปทางขวาตามแนวต้นสน เพื่อไปยังป่าชายเลนติดทะเล ซึ่งตรงนี้ไม่มีป้ายข้อมูลบอกทางใดๆ ไม่ได้ถามใครด้วย ผมเลยตัดสินใจไปทางขวามือ อ้อ...ผมเดินเท้ามาด้วย เอาตรงนี้ใกล้กว่า ก็มีสะพานไม้เห็นอยู่ต่อหน้านี่นา จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 16:22:55

ความคิดเห็นที่ 34   ภาพซ้าย : ทางเดินเป็นดิน ก่อนถึงสะพานไม้ครับ  ตอนนั้นยังคิดว่าไม่เห็นไกลเลย ภาพกลาง : สะพานไม้ดูเรียบน่าเดินจังเลย มีราวระเบียงให้ตลอดทาง ภาพขวา : อุ๊บ!...เจอรู เข้าให้แล้ว พื้นทางเดินหลุดหายไป  สังเกตุได้ว่าสะพานนี้ไม่ได้ทำจากไม้จริงๆ แต่เป็นพลาสติคไฟเบอร์ ทั้งพื้นเดินและคาน ทำให้ไม่ผุ แต่ก็กรอบ แตกได้เหมือนกัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 16:36:31

ความคิดเห็นที่ 35   ระหว่างทางเดิน จะมีทางแยกไปสะพานชมวิวริมน้ำเป็นระยะๆ นับว่าน่าเดินมากครับ แต่เปลี่ยวจริงๆ เพราะไม่มีคนมาตรงนี้เลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 16:46:58

ความคิดเห็นที่ 36   เส้นทางทั้งไกลและลึกลับ (ด้วยต้นไม้ปกคลุมเส้นทางบางช่วง) สลับด้วยอันตรายที่คาดไม่ถึง (มีพื้นทรุด น่ากลัวจะตกลงไป หรือสะดุดล้มเอาง่ายๆ ต้องระวังครับ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 16:58:25

ความคิดเห็นที่ 37   ข้างหน้ายังมีทาง.....แม้จะรกไปบ้าง แต่บรรยากาศก็น่าเดินสุดๆ โอ๊วทางขาด.....ต้องค่อยๆ ปีนข้ามไปนะครับ เสียวเล็กน้อย เพราะข้างล่างเป็นพื้นดิน เบี่ยงมาทางชมวิวริมน้ำ ตรงนี้พื้นหายทั้งแถบเลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 17:11:59

ความคิดเห็นที่ 38   ผมเดินไปจนสุดทาง ต้องเลี้ยวขวา..... โอ๊ว...ไปต่อไม่ได้แล้ว เสียว..... จะไม่ให้เสียวได้อย่างไรกันล่ะครับ ข้างล่างมันขี้โคลนทั้งนั้น แถมสูงด้วย ผมเดินไปตามสะพานไม้ได้แค่ระยะทางประมาณ 300 เมตรเอง ก็ต้องหยุด กันตรงนี้  น่าเสียดายที่สะพานนี้มีการออกแบบสร้างอย่างดี สวยและดูทนทาน เพราะใช้พลาสติคที่ไม่ผุเหมือนไม้ แต่ดูเหมือนจะปล่อยรกร้าง ใช้พังไปเรื่อยๆ  เส้นทางยังมีต่อไป ถ้าใจถึงคงได้เดินไปอีก  ถ้าอยากจะรู้ง่ายๆ ก็นั่งเรือไปตามคลองศรีกุมารนี้ ก็จะทราบเองครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 17:25:14

ความคิดเห็นที่ 39   จากภาพขวาคห.38 ผมหันกลับไปมอง ด้านที่เข้ามา จะยังคงเห็นสะพานที่เดินข้ามมาอยู่ลิบๆ  ตรงนี้เป็นชายเลนน้ำกร่อย ริมคลองศรีกุมาร ที่มีคนลงไปเดินหาจับอะไรกันกันเป็นธรรมดาครับ จากตรงนี้ผมก็เดินกลับออกไป คณะที่มาด้วยกัน ได้นั่งรออยู่ร้านอาหารริมถนน ปล่อยให้ผมเข้ามาคนเดียว จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 17:32:16

ความคิดเห็นที่ 40   หลังจากเดินออกมาแล้ว ถึงตรงสามแยกเชิงสะพานในรูปคห.33 ผมได้ลองเดินไปตามทางเดินเล็กๆที่ปูด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก  พ้นโค้งก็เห็นเวิ้งน้ำข้างหน้า มีทางโค้งอ้อมคลองไปทางขวา สังเกตุอาคารสีขาวตั้งอยู่ ผมได้เดินไปจนถึงอาคารแห่งนั้นพบว่าเป็นอาคารร้างครับ มองไปทางขวาก็เห็นทิวต้นสนยาวลึกสุดลูกหูลูกตา คาดว่าคงไม่สามารถเดินเท้าเข้าไปได้แน่นอน เพราะคำนวณจาก GPS Map แล้วตกประมาณ 4 กม. และยังมองไม่เห็นป่าโกงกาง ผมเลยยกเลิกการเดินทางในวันนั้น แล้วกลับมาถาม คุณปลอมตัวมาหารักแท้ ว่าใช่ทางเข้าไปป่าชายเลนริมทะเลหรือไม่ คำตอบก็คือใช่ (ในสัปดาห์ต่อมา ผมจึงขี่รถมอเตอร์ไซด์เข้ามา) แต่ระหว่างเดินกลับออกมา ตรงหัวโค้งนั้น มีสุนัขวิ่งออกมาเห่า ท่าทางไม่เป็นมิตรนัก เล่นเอาต้องหาไม้ลำโตๆ มาถือไว้ป้องกันตัว  งานนี้คงไม่ง่ายนัก เพราะถูกบังคับให้ใช้รถมอเตอร์ไซด์ ซึ่งไม่สามารถป้องกันสุนัขได้ ต้องกลับไปคิดหนักเหมือนกัน  แต่ก็ท้าทาย..ตื่นเต้นดี จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 17:48:39

ความคิดเห็นที่ 41   ตอนนี้ผมกลับออกมาที่ริมถนนแล้วละ สงสารพวกที่นั่งรอจะเบื่อเปล่าๆ พอดีได้คุยกับแม่ค้าตรงนั้น เขาบอกมีตรอกเข้าไปดูคลองที่ผมเพิ่งเข้าไป คณะที่มาก็เลยพากันเดินเข้าไปดูกัน ครับ จากรูปจะเห็นว่าตรอกนี้อยู่ด้านข้างบ้านแฝดสวยๆ ที่ด้านหน้าเป็นเพิงร้านอาหารเล็กๆ  เข้าไปข้างในมีบ้านคนปลูกอยู่ริมน้ำอีกหลายหลัง ดูแล้วไม่ใช่ตรอกส่วนตัว จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 17:54:35

ความคิดเห็นที่ 42   นี่เป็นวิวคลองสามแยก ที่ตรงโป๊ะชมวิวในรูปคห.32 นะครับ ดูแล้วเหมือนสะพานลอยคนข้ามตามแยกถนนในกรุงเทพฯเลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 18:03:16

ความคิดเห็นที่ 43   มาต่อกระทู้ให้ที่บ้านเลย ออกจากหน้าโรงเรียนคลองพิทยาลงกรณ์ ก็ขับรถมุ่งไปทาง  จ.สมุทรสาคร ประมาณ 5 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายไปยัง จุดชมโลมา เพราะไหนๆ ก็ไม่เห็นทะเล ก็ขอพาคณะไปดูทะเลตรงนี้แทน จากแผนที่ แสดงเส้นทางการเดินทางด้วยจุดสีเหลืองขอบเทา จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 53 22:49:03

ความคิดเห็นที่ 44   ทางไป จุดชมโลมานี้ จะว่าแล้วก็งงๆ เหมือนกัน เพราะถนนตรงนั้นเยอะ มีสะพานข้าม วกไปมา จึงขอลากแผนที่มาให้ดูกันอีกที  และได้เพิ่มเติม สิ่งที่น่าสนใจในบริเวณใกล้เคียงให้ด้วยครับ เช่น บริเวณแยกถ.เอกชัย ที่มักจะงงๆ เช่นกัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 53 00:24:10

ความคิดเห็นที่ 45   เนื่องจาก  จุดชมโลมานี้ผมเคยทำรีวิวไว้แล้ว (แต่โดนลบออกแล้ว เอาไว้มีเวลาจะนำมาฝากไว้ในเว็บอีก เพราะได้บันทึกเก็บไว้ในเครื่องคอมฯของผม) เมื่อเข้ามาถึง จะมีลานจอดรถ กว้างๆอยู่ติดกับทะเลเลย  มองไปทางซ้ายจะเห็นร้านค้าติดกับศาลเจ้าพ่อมัจฉานุ  มองไปทางขวามีทางเดินคอนกรีตเสริมเหล็กไปยัง  โครงการสร้างร้านค้าชุมชน ที่ยังไม่เสร็จ เพราะมีปัญหาทางกฏหมายอยู่ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 53 00:37:56

ความคิดเห็นที่ 46   ภาพซ้าย : ทางด้านซ้ายของลานจอดรถนี้ จะมีทางเลี้ยวซ้าย เพื่อไปยังศาลเจ้าพ่อมัจฉานุ  ที่อยู่ติดกับที่นั่งรับประทานอาหารริมทะเล ที่มีมานานแล้ว และตรงหน้าศาล มีการทำจุดชมวิว เป็นพื้นยกสูง เพิ่มเติมขึ้นมา (ตอนที่ผมไปครั้งก่อนๆ ยังไม่มี) ภาพขวา :  เมื่อขึ้นไปยืนบนที่ชมวิวทะเล ก็มองเห็นเวิ้งทะเลกว้าง และมีแนวป้องกันคลื่นอยู่เช่นเดิม แต่สังเกตุเห็นป้ายเตือนอะไรอยู่ใกล้ๆ คิดว่าน่าจะเตือนเรือไม่ให้เข้ามาใกล้ ครับ แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 53 00:54:53 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 53 00:52:09

ความคิดเห็นที่ 47   ภาพซ้าย : มองไปทางซ้าย จะเห็นชายฝั่งยื่นไปในทะเลลิบๆ ซึ่งจริงๆแล้วน้ำทะเลได้กัดเซาะเข้ามามากกว่า ภาพขวา : มองไปทางขวา จะเห็นมีผืนดินยื่นเข้ามาในทะเลเข้าไปเยอะตรงลิบๆตาโน้น คาดว่าจะเป็นชายฝั่งปากแม่น้ำท่าจีน ด้านตรงข้าม ที่ค่อยเอียงลงไปทางใต้เล็กน้อย  แถวนี้เคยมีโครงการจะสร้างทางด่วนลงไปที่ ถนนสายชะอำ-หัวหิน โดยผ่าน แหลมผักเบี้ย ซึ่งก็ถูกคัดค้าน เพราะจะทำลายธรรมชาติริมฝั่งมาก  แต่ถ้ามีจริง ก็คงลดเวลาในการลงภาคใต้อย่างมาก ที่ไม่ต้องไปอ้อม จ.เพชรบุรี แถมได้ชมวิวทะเลขณะขับรถอย่างยาวนานสุดๆ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 53 01:11:48

ความคิดเห็นที่ 48   หันหลังกลับไปถ่ายภาพแบบพานอรามา โดยเอาศาลเจ้ามัจฉานุอยู่ตรงกลางครับ จะเห็นสิ่งต่างๆ โดยรอบ   ด้านขวาของภาพก็คือพื้นยกระดับชมวิว ที่มีการสร้างก่อนหน้านี้ รู้สึกว่ายังโล่งๆไม่มีราวระเบียง ทำให้การขึ้นไปบนนั้น รู้สึกเสียวไม่น้อยครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 53 01:23:46

ความคิดเห็นที่ 49   ตรงกลางพื้นยกระดับชมวิวนี้ ยังมีบันไดลงไปข้างล่างอีกแน่ะ เพื่อจะได้ลงไปใกล้ผิวน้ำทะเลให้มากที่สุด  ทะเลที่นี่เป็นแบบชายเลน คือมีโคลนทำให้น้ำขุ่นไม่ใส น่าเล่น  เหมาะแก่การชมวิวรับลมมากกว่า จะว่าไปแล้วก็คล้ายๆกับทะเลฝั่งบางปู ที่สวางค์นิเวศน์ (ที่มีร้านอาหาร ยื่นไปในทะเล) ผิดแต่ที่นี่ไม่มีนกนางนวล จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 53 01:36:01

ความคิดเห็นที่ 50   ตรงเชิงบันไดข้างล่างนี้ จะเรียกว่าอยู่ใกล้ระดับผิวน้ำทะเลก็ได้ ตรงนี้ลองถ่ายภาพย้อนมาที่พื้นยกระดับทั้งสองด้านดู จะได้สัมผัสกับผิวน้ำทะเลอย่างชัดๆ ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 53 01:47:38

ความคิดเห็นที่ 51   ลองแบบพานอรามา กับเวิ้งทะเลกว้าง ที่ไม่มีอะไรบดบังกันหน่อยเป็นไร อย่านึกจินตนาการว่ากำลังว่ายน้ำอยู่กลางทะเลนะครับ (อารมณ์เดียวกันเลย) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 53 01:57:31

ความคิดเห็นที่ 52   ตอนนี้เจ้าตัวเล็ก ขอแอ๊คชั่นสักรูป เอาคอนเซ็ป "ทะเลกว้างของเรา" ก็แล้วกันครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 53 02:05:32

ความคิดเห็นที่ 53   ระหว่างเดินลงจากพื้นยกระดับชมวิวทะเล ก็มองดูขอบระเบียงเดิม ที่เคยมานั่งเล่นคราวก่อน  โอ้โฮ..ยื่นไปเยอะเหมือนกันนะนี่  เรียกอารมณ์ชมทะเลขึ้นมาได้เยอะจริงๆ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 53 02:20:49

ความคิดเห็นที่ 54   กลับแล้วละครับ 6 โมงเย็นกว่าแล้ว เลยถ่ายภาพลานจอดรถด้านหน้ามาให้ดู ปัจจุบันมีร้านขายอาหารอยู่ด้านขวา (เมื่อกำลังเข้ามา)  เพราะมีนักท่องเที่ยวเข้ามากันเยอะ แม้ว่าจะไม่มีปลาโลมา แต่แค่ทะเลก็คุ้มแล้วครับ เพราะห่างจากกรุงเทพฯเพียง 20 กิโลเมตรกว่าๆ เอง และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ถนนบางขุนเทียน-ทะเล ที่ผมพาท่านมานั้นได้สร้างเสร็จ ราบเรียบขับสบายกว่าแต่ก่อนมากครับ จึงขอจบกระทู้ในตอนแรกนี้ก่อน เพราะนับว่าสิ้นสุดการเดินทางในครั้งแรกที่ไป ผิดที่ แต่กลับได้บรรยากาศมาอีกแบบ   ในสัปดาห์ต่อมาผมได้ใช้รถมอเตอร์ไซด์  ขับเข้าไปยังป่าชายเลนบางขุนเทียน ได้สำเร็จ ครับ (ในครั้งแรกนี้ผมใช้รถยนต์ เพราะไปกันหลายคน) แต่เหนื่อยน่าดูเหมือนกัน ได้ลุ้นกับสุนัขท้องถิ่น ไม่พอ แล้วยังมีเสียว ตรงเชิงสะพานไม้ไปป่าชายเลนอีก รถเกือบตกสะพานตอนกลับรถอีก จึงเป็นประสบการณ์มาเล่าให้กับเพื่อนที่ยังไม่เคยไปได้ฟัง คอยติดตามในสัปดาห์หน้านะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 53 02:36:42

ความคิดเห็นที่ 55   สุด....เลย ครับ  จขกท..... เห็นแล้วอยากเอาจักรยานไปปั่นจัง.. จากคุณ : คมครับ เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 53 12:38:11

ความคิดเห็นที่ 56   สวัสดีครับ คุณคมครับ : ยินดีครับ ถ้าหากใช้จักรยานจะสะดวกมาก เพราะวิ่งเข้าไปได้ลึก(ยกข้ามสิ่งกีดขวางได้) และกลับรถก็ง่าย  แต่ต้องระวังหน่อย สะพานไม้ไม่ได้มีราวสะพาน อาจตกลงไปข้างล่างได้นะครับ   อีกทั้งระยะทางก็ค่อนข้างไกล ถ้าหากใช้รถยนต์บรรทุกรถจักรยานมาก็จะไม่เหนื่อยครับ มาวันนี้ ผมมาต่อให้จบ กับป่าชายเลนบางขุนเทียนที่ทะลุออกทะเลได้จริงๆ ครับ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9561322/E9561322.html แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 53 16:34:21 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 9 ส.ค. 53 14:10:32