ความคิดเห็นที่ 1   แผนที่การเดินทาง เป็นดังแสดงข้างล่างครับ ด้วยเส้นสีน้ำเงิน วนจากล่างขึ้นไป แล้วเลี้ยวซ้าย ออกไปลักษณะตัวอักษร C กลับด้าน โดยมีตัวเลขแสดงจุดที่น่าสนใจ 8 จุดครับ โดยทั้งนี้ การเดินทางเข้า-ออก จะมาจาก ถนนสายที่ 21 (สระบุรี-ชัยบาดาล) เหมือนกัน ทริปนี้เท่ากับ ได้รู้จักเขื่อนป่าสักกันแบบเจาะลึก เหมือนมีบ้านอยู่แถวนั้นกันเลยนะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 16:31:54

ความคิดเห็นที่ 2   ผมขอรวบรัดเลยนะครับมาที่ ทางเข้าถนนริมอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อน ใกล้ๆ กับ พระพุทธรูปองค์ใหญ่ "หลวงปู่ป่าสัก" ที่มุมล่างขวาของแผนที่ข้างบน (คห.1) เลยนะครับ เพราะเส้นทางก่อนหน้านี้ ได้เคยแสดงมาแล้วในตอนก่อนๆ นี้ ภาพบน : เป็นทางเข้าถนนเลาะริมอ่างเก็บน้ำฝั่งตะวันออก ซึ่งจะอยู่ติดกับทางเข้าไปไหว้ หลวงปู่ใหญ่ป่าสักครับ ภาพล่าง : เลี้ยวซ้ายเข้าไป จะเห็นเป็นดั่งในภาพ  ด้านซ้ายมือเป็นรั้วของพื้นที่หลวงปู่ใหญ่ป่าสัก ซึ่งเมื่อคราวก่อนที่ไปเข้าห้องสุขา ก็ไม่ทันสังเกตุว่ามีถนนเส้นนี้อยู่ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 17:10:10

ความคิดเห็นที่ 3   ภาพบน : พ้นจากแนวชุมชน ออกไปก็เป็นที่โล่ง มีไร่ของชาวบ้านอยู่ ภาพล่าง : ด้านซ้ายเจอ หน่วยงานป้องกันและปราบปราม การประมงน้ำจืด ของ กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ครับ   แปลกใจว่าอยู่ข้างในเงียบๆ ปกติน่าจะอยู่ริมถนนใหญ่กว่านี้ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 17:27:24

ความคิดเห็นที่ 4   ภาพบน : เจอพุ่มไม้สูงทึบอีกแล้ว.... เปลี่ยวจัง ไม่ค่อยมีรถมาแถวนี้เลย  มีสะพานอยู่ข้างหน้า ภาพล่าง : จอดรถบนสะพาน ด้านซ้ายมือเป็นช่องโล่ง ทะลุออกไปไกล  มองเห็นสันเขื่อน ไปจนถึง หอคอยชมเขื่อนอยู่ลิบๆ นับเป็นจุดชมวิวแรก ที่มองเห็นสันเขื่อนได้ใกล้สุด จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 17:41:23

ความคิดเห็นที่ 5   ภาพบน : วิวริมถนนช่วงนี้ร่มรื่นดีจัง  เจอรถมอเตอร์ไซด์สวนมาด้วย ภาพล่าง : เจอช่องโล่งอีกแล้ว มองเห็นสันเขื่อน และซากสิ่งปลูกสร้างอยู่ใกล้ๆ  ระยะทางจากขอบน้ำ มาถึงถนนนี้ ก็ไกลพอดู  ขณะนี้ก็เป็นต้นหญ้าเขียวขจีไปหมด นี่ถ้าหากเป็นหน้าน้ำปกติ อาจมีน้ำท่วมถึงแนวขอบถนน ดังแสดงไว้ในแผนที่ กูเกิ้ล ใน คห.1 ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 17:51:10

ความคิดเห็นที่ 6   ขอบคุณมากๆครับผม จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 17:53:59

ความคิดเห็นที่ 7   ภาพบน : เลยไปอีกนิด ก็เจอช่องโล่งกว้าง เป็นทุ่งหญ้าริมน้ำ จอดรถลงไปบันทึกภาพได้ ภาพล่าง : ใช้กล้องซูมเข้าไปใกล้ๆ จะเห็นหอคอยชมเขื่อนชัดขึ้น จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 18:04:47

ความคิดเห็นที่ 8   ไปด้วยคนคะ ยังทันไหม จากคุณ : **ความจริงในใจ** เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 18:11:50

ความคิดเห็นที่ 9   สวัสดีครับ คุณdigimontamer : แวะเข้ามาทักทายคนแรกในกระทู้นี้นะครับ  กำลังจะง่วงพอดี ขอบคุณครับ ภาพขวา : ผมมาถึงทางเข้า"วัดหาดเล็บยาว" ชื่อแปลกดีจัง ฟังเผินๆ คล้ายหาดเล็กแถวปลายสุด จ.ตราดเลย  แถวนี้สมัยก่อนที่จะมีการสร้างเขื่อน อาจมีหาดทราย(น้ำจืด) แถวนี้ก็ได้ ภาพซ้ายบน : มองไปทางซ้าย จะเห็นช่องโล่งอยู่ ตรงนี้จะเห็นบริเวณเขื่อนป่าสักฯ กับสะพานรถไฟช่วงแรก ที่ผมไปสำรวจมา ภาพซ้ายล่าง : ผมใช้กล้องซูมเข้าไปตรงสะพานรถไฟช่วงแรก  ตื่นเต้นครับ ที่ได้เห็นสะพานรถไฟช่วงนี้อีกครั้ง จากระยะไกลข้ามอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนเลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 18:54:22

ความคิดเห็นที่ 10   มอเตอร์ไซต์ - -" ละเอียด มากกก ครับ หุๆ ตามชมๆ จากคุณ : yorch เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 19:07:24

ความคิดเห็นที่ 11   สวัสดีครับคุณ **ความจริงในใจ** : ยังไม่สายครับ เชิญติดตามมาได้ กระทู้กำลังเริ่ม ยังต้องเดินทางกันอีกหลายความเห็นครับ (กลัวจะไม่จบด้วยซ้ำไป) ภาพบน : ณ.ที่เดิม  มองไปทางเหนือเล็กน้อยจะเห็น ภูเขาเล็ก ข้างหน้า อันเป็นติ่งที่ยื่นเขาไปในอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อน (ดูจากแผนที่ในคห.1 บริเวณจุดหยุดรถหนองบัว)  จะสังเกตุเห็นโรงงาน ถังสีขาวๆ  ซึ่งยืนยันได้ชัดว่าอยู่ฝั่งโน้นของอ่างเก็บน้ำครับ ภาพล่าง : ใช้กล้องซูมเข้าไปใกล้ๆ ตรงโรงงาน  บางทีก็ดูเหมือนโกดัง โรงสี อะไรแบบนั้น ถ้ามีโอกาสก็จะลองแวะเข้าไปเที่ยวดูเหมือนกัน  ใกล้เข้ามาหน่อยจะสังเกตุเห็น ฝูงวัวกินหญ้าอยู่ริมน้ำ ซึ่งอยู่ไกลมาก คล้ายก้อนหิน กระจายอยู่ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 19:28:43

ความคิดเห็นที่ 12   สวัสดีครับ คุณyorch : ก็เพราะละเอียดก็เลยต้องใช้เวลาโพสหลายวัน แต่เพื่อความเต็มอิ่มในอรรถรสแห่งการเดินทางครับ... ตอนนี้ข้างหน้าผมเจอสะพานข้ามคลองกระทิง ครับ ดูสวยดีเลยเก็บภาพมาให้ชมครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 19:34:53

ความคิดเห็นที่ 13   กระทู้ตกเร็วครับ... แนะนำ แตกกระทู้ แล้วเล่าต่อครับ คอยติดตามอยู่ ขอบคุณครับ จากคุณ : ลิงหน้าหมู เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 19:42:54

ความคิดเห็นที่ 14   เลยไปอีกกิโลเมตรกว่าๆ ก็ได้พบกับ จุดชมวิวพานอรามาครับ ซึ่งเก็บภาพได้หมดตั้งแต่ สันเขื่อนยัน ภูเขาเหนือเขื่อนเลย นับว่าสวยมากครับ นี่ถ้ามีน้ำเต็มเขื่อน อาจจะเป็นแผ่นน้ำเรียบกว้างไปจนสุดลูกหูลูกตาครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 19:47:54

ความคิดเห็นที่ 15   สุดยอดเลยครับ ฝั่งนี้ ไม่ค่อยมีใครมาเก็บภาพเท่าใดนัก อยากให้ link กระทู้เก่าด้วย จากคุณ : หมอดาริน เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 19:51:44

ความคิดเห็นที่ 16   ผมจำรถคุณมิราชช และจำคุณมิราชชได้ ถ้าวันหนึ่งวันใดผมเจอกำลังไปเที่ยว ผมจะแวะไปทักทายแน่นอน จากคุณ : สมหมาย09 เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 20:03:27

ความคิดเห็นที่ 17   สวัสดีครับ คุณลิงหน้าหมู : ขอบคุณที่แนะนำครับ คือผมก็ใช้วิธีแบ่งเป็นตอนๆ ซึ่งก็ยังนับว่าเยอะหลายตอนอีก  ถ้าตอนมากเกินไปก็คงไม่สนุกเช่นกัน เมื่อใช้กล้องซูมดู ในบางส่วนที่สำคัญ ก็จะพบว่า ภาพบน : เห็นสันเขื่อนทอดยาวอยู่ด้านซ้าย (ทิศใต้) มีโรงงานน้ำตาลอยู่ด้านหลังชัดเจน เหมือนกับมาตั้งติดเขื่อนเลย ภาพกลาง : ถัดไปทางขวาต่อเนื่องจากภาพบน จะมองเห็นหอคอยเฉลิมพระเกียรติชมเขื่อนอยู่ชัดเจน แต่ที่แปลก คือเห็นสีทองของพระนอนบนเขา ของวัดคีรีโสภณ ด้วย นับว่าแปลกจริงๆ ที่อยู่ไกลมาก ขนาด มองจาก หอชมเขื่อนก็ยังเล็กนิดเดียว  และถ้าไม่ได้มีการบูรณะให้มีสีทอง ก็คงยากแก่การสังเกตุในระยะไกลเหมือนกัน (เดิมมีสีขาว) ภาพล่าง : มองไปทางขวามือ (ทิศเหนือ) จะเห็นแนวแม่น้ำป่าสักเดิมที่ไหลอ้อมภูเขาข้างหน้า  สังเกตุให้ดีที่มุมขวาของภาพจะเห็น สะพานจมน้ำ เป้าหมายแรกที่ต้องการค้นหาครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 20:12:25

ความคิดเห็นที่ 18   สวัสดีครับ คุณหมอดาริน : ขอบคุณที่ช่วยเตือนลิ้งค์กระทู้ตอนก่อนหน้านี้ครับ ลืมสนิทจริงๆ เลยลิ้งค์ให้ที่ ต้นกระทู้แล้วนะครับ   สวัสดีครับ คุณสมหมาย09 : ยินดีที่รู้จักครับ คงจะไม่ง่ายนักที่เจอโดยบังเอิญ และยิ่งผมชอบออกเที่ยวช่วงบ่ายๆ เย็นๆ ด้วย (เช้าๆ ยังไม่ตื่น!) ถ้าฟลุ๊คเจอก็ยินดีครับ อาจจะเป็นเพื่อนๆ คนอื่นๆ ก็ได้นะครับ ถ้าทุกๆคนที่ดูกระทู้ผม รับรองว่า คงต้องได้เจอใครสักคนในเร็วๆ นี้เป็นแน่ครับ ภาพซ้าย : จุดชมวิวตรงนี้ ถ้าขับรถมาจะเห็นชัดเจน อย่างในภาพข้างล่างนี้ ภาพขวา : ด้านขวาของถนน จะมีหลักกิโล ปักอยู่ มีตัวอักษรย่อ "นทพ" ไม่รู้ว่าย่อมาจากคำเต็มว่าอะไร ลองค้นหาจากกูเกิ้ลดู บอกว่าคือ "หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา" เป็น ทหารนักรบที่ไม่มีปืน มีแต่รถแท็กเตอร์ รถไถ จอบ เสียม หัวใจเรา คือ พัฒนาชุมชน พัฒนาเกษตร ไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่าครับ  เป็นหลักที่ปักบอกระยะทางไปเรื่อยๆ แต่ไม่มีตัวเลขกิโล ทุกอันเลย ดูเหมือนจะเว้นไว้ทา หรือไม่ก็เลือนหายไปแล้ว เพราะไม่ได้เจาะลงไปในผิวเหมือนคำย่อ นทพ และ กม. วันนี้ดึกแล้วจำเป็นต้องพักกระทู้ก่อนนะครับ ไว้พรุ่งนี้มาต่อกันครับ แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 53 21:06:09 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 20:31:34

ความคิดเห็นที่ 19   ผ่านตาแว๊บ ๆ ว่า    "เลาะริมอ่าง"    เลยรีบวิ่งเข้ามาดู   ตามทู้นี้ไปไม่หลงชัวร์ จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 08:40:33

ความคิดเห็นที่ 20   แวะเข้ามาชมค่ะ...ข้อมูลละเอียดดีจังเลยค่ะ   @^_^@ จากคุณ : CX gal เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 10:47:25

ความคิดเห็นที่ 21   สวัสดีครับ คุณแม่ซากานะ : ยินดีมากครับ ที่ได้พบกันอีก  อ่างใบนี้ใหญ่มาก ยิ่งการลัดเลาะตามริมขอบ จะต้องใช้ความพยายามอย่างมากครับ...ฮา  ถ้าผ่านมาแถวนี้ มีเวลาเหลือ ขอแนะนำให้ลองมาใช้เส้นทางนี้บ้างนะครับ จะประทับใจ วันนี้มาต่อกันนะครับ  ถัดไปจากจุดชมวิว ข้างบน(คห.14,17,18) เล็กน้อย ผมก็ได้เจอจุดชมวิวที่กว้างใหญ่กว่าเดิมอีก ชนิดแทบจะไร้สิ่งบดบังข้างทางเลย ผมเลยถือเป็นเป้าหมายที่ 1 ของการเดินทางครั้งนี้ครับ อย่าพลาดถ้าผ่านมาทางนี้นะครับ (ส่วนตำแหน่งให้อ้างจากแผนที่ในคห.1 และรายละเอียดสถานที่ในภาพได้เคยอธิบายแล้วในภาพคห.17นะครับ) แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 53 11:22:29 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 11:17:10

ความคิดเห็นที่ 22   สวัสดีครับคุณ CX gal : ยินดีที่ชอบครับ ข้อมูลเยอะก็เพื่อความเต็มอิ่มในการรับชมครับ..ฮิฮิ ถัดมาจากจุดชมวิว 1 มาประมาณ 5 กม. ก็พบสะพานข้ามห้วยไผ่ ที่แห้งเหือด วิวตรงนี้ก็ดูสวยอีกแล้วครับ  ให้ระวังเชิงสะพานด้านซ้ายไว้ด้วย เสาสะท้อนแสงหักไป คงอาจโดนอะไรกระแทก หรือไม่ก็ขอบทางทรุดพัง ครับ มาตอนมืดๆ ขับเร็วๆ น่ากลัวครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 11:31:31

ความคิดเห็นที่ 23   หันไปดูทางซ้ายมือ จะเห็นวิวกว้างสวยไม่แพ้กัน  ถ้าดูจากแผนที่ในคห.1 ก็คือ อ่าวเล็กๆ ที่เว้าเข้าไป บริเวณเส้นรอยต่อระหว่างจังหวัดพอดี ภาพซ้าย : มองไปทางทิศใต้จะยังคงมองเห็นสันเขื่อนได้ชัดเจน   ตรงริมตลิ่งจะสังเกตุเห็นกลุ่มต้นไม้คล้ายโอเอซิส อยู่ ซึ่งมีบ้านหลังหนึ่งที่รื้อไปบางส่วน  ปกติน้ำคงท่วม ไม่งั้นคงได้เป็นบ้านที่สวยมาก เหมือนบ้านตากอากาศริมทะเลเลย ภาพขวา : เป็นภาพเกือบต่อเนื่องกันจาก ภาพซ้าย (ไม่ได้ตั้งใจถ่ายให้ต่อกัน) จะเห็นวัดที่เชิงเขาข้างหน้า  และลำน้ำป่าสักที่เลี้ยวอ้อมเขาชัดเจนครับ (คงไม่ต้องถามว่า ด้านตรงข้ามกับเขานั้นคืออะไร ก็คือ จุดหยุดรถหนองบัวที่ผมพาไปสำรวจในตอนก่อนๆ แล้วไงครับ)  ดูจากแผนที่แล้ว บริเวณเชิงเขาลูกนี้จะมีถนนล้อมรอบ ถ้ามีเวลาก็อยากไปขับรถเที่ยวชมดูเหมือนกัน  ถ้าให้สวยก็คงช่วงน้ำเยอะๆ นะครับ แก้ไขเมื่อ 20 ก.ค. 53 14:37:35 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 11:50:44

ความคิดเห็นที่ 24   ข้ามสะพานในคห.22 ไปอีกไม่ไกล ก็ได้เจอกับวิวกว้างอีกครับ ภาพซ้าย : หันไปดูด้านทิศใต้ เป็นจุดสุดท้าย ที่เห็นสันเขื่อนป่าสัก  ตรงจุดนี้นับว่าอยู่ใกล้กับภูเขาฝั่งตรงข้ามมากที่สุด ทำให้มองเห็นแนวถนนเลาะเชิงเขา ชัดเจน ภาพขวา : มองไปทางทิศเหนือบ้าง จะเป็นแอ่งน้ำกว้าง ที่ดูตื้นเขิน คล้ายป่าชายเลน และที่สำคัญได้เห็นสะพานเก่าที่จมน้ำอยู่ไม่ไกลนักครับ แถวๆริมตลิ่งพบซากตอไม้ขึ้นเต็มไปหมด ดูแล้วคล้ายต้นมะพร้าว จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 14:49:16

ความคิดเห็นที่ 25   จากภาพขวา คห.24  ผมลองใช้กล้องซูมดูสะพานจมน้ำกันหน่อย มุมนี้จะเห็นด้านข้างสะพานชัดๆ ดูแล้วทำให้คิดไปว่า สะพานอยู่ฝั่งนี้ของแม่น้ำป่าสัก ทั้งๆ ที่ตอนอยู่ฝั่งโน้น (ฝั่งสะพานรถไฟ) กลับเห็นว่าอยู่ฝั่งนี้ แปลกดีครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 14:55:12

ความคิดเห็นที่ 26   ภาพขวา : ตอนนี้มาถึงจุดสำคัญ เป้าหมายที่ 2 แล้วครับ คือ สะพานจมน้ำ  ถนนตรงนั้นจะมีหลายแยกอยู่ใกล้ๆ กัน ไปครั้งแรกจะงงๆ และหลงวิ่งผิดทางได้  แต่ให้จำอาคารหลังคาสีฟ้าข้างหน้าก่อน ซึ่งทีแรกผมยังนึกว่าเป็นตลาดของกิน แต่พอจะแวะเข้าไป ผิดหวัง เพราะไม่มีคนเลย  ดูแล้วเป็นตลาดสดยามเช้ามากกว่า ผมไปถึงที่นั่นเกือบบ่าย 3 โมงเย็นแล้ว เลยวายไปหมด ให้ขับรถเลยตลาดสดสีฟ้านี้ไปก่อน จะพบทาง สามแยก เลี้ยวซ้ายจะลงอ่าง เอ๊ย ตรงไปยังจุดชมวิว ที่ยังไม่มีการพัฒนาภูมิทัศน์ใดๆ ดูเหมือนถนนขาดหายลงไปในน้ำเลย   ถ้าเลี้ยวขวา ก็เดินทางไปกันต่อ  อีกแค่ 50 เมตรก็จะมีทางแยกด้านซ้าย ให้เลี้ยวซ้ายไปตามนั้นครับ ภาพขวา : ผมจอดรถก่อนถึงตลาดสดสีฟ้า มองไปทางซ้ายมือจะเห็นสะพานจมน้ำ อยู่ไม่ไกล  ผมใช้กล้องซูมภาพเข้ามาใกล้ๆ ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 18:32:16

ความคิดเห็นที่ 27   ภาพซ้าย : เมื่อเลยตลาดสดสีฟ้า ไป ด้านซ้ายมือก็คือถนนตก(น้ำ) เอ๊ย..ถนนขาดหายไปดื้อๆ  ผมนำรถลงไปจอดที่ลานดินโล่งๆ ข้างล่าง แล้วออกมาบันทึกภาพสะพานจมน้ำกัน ซึ่งลานนี้ ถ้าหากหน้าน้ำปกติ อาจท่วม จนรถลงไปไม่ได้ (อาจเป็นสาเหตุที่ถนนจึงหดสั้นแค่นั้น เผลอๆ น้ำอาจท่วมถนนนี้ขึ้นมาด้วยซ้ำไป) ภาพขวา : นี่เป็นภาพสะพานจมน้ำที่เห็นด้วยตาปกติ (ไม่ใช่ซูม) นับว่ายังไกลพอสมควร วัดระยะโดย GPS Map จาก จุดที่สะพานนี้ที่คาดว่าใช้ข้ามคลองซับน้ำ (ไม่ได้ข้ามแม่น้ำป่าสัก) น่าจะตกประมาณ 200 เมตร แหม..แต่จากสายตา น่าจะไม่น้อยกว่า ครึ่งกม. นะครับ  น่าเสียดายที่ไม่มีพื้นดินเชื่อมต่อกับสะพานแห่งนี้เลย ยังมีสายน้ำขวางกั้นอีกยาวไกล และดูจะลึกพอสมควร เพราะเห็นมีเรือลอยอยู่  การจะเข้าถึงสะพานแห่งนี้ คงต้องใช้เรืออย่างเดียว จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 18:47:47

ความคิดเห็นที่ 28   ภาพซ้าย : ใช้กล้องซูมดูอีกที จากระยะทางที่ถือว่าใกล้ที่สุดแล้ว  แนวสะพานจะไม่ตรงกับถนนเส้นที่ขาดหายนี้ แต่จะบิดเอียงไปทางขวา คงให้ตั้งฉากกับแนวคลองซับน้ำ แต่ก็น่าจะเชื่อมต่อกับถนนเส้นนี้ เมื่อข้ามสะพานไปแล้ว ถนนก็น่าจะวิ่งขนานไปกับแม่น้ำป่าสักเดิม  น่าเสียดายจริงๆ ที่ถนนที่เชื่อมต่อระหว่างสะพานกับพื้นดินฝั่งตะวันออก นี้ไม่น่าขาดหายไปด้วย ไม่งั้นคงได้ไปเดินชมวิวบนสะพานแห่งนี้แล้ว ภาพขวา : ลองลากแผนที่ดู เพื่อระบุตำแหน่งสะพาน และถนนตรงแยกมะนาวหวานนั้นเป็นอย่างไร ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 19:05:19

ความคิดเห็นที่ 29   ลองถ่ายภาพแบบพานอรามาดูบ้างครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 19:14:50

ความคิดเห็นที่ 30   ภาพบน : มองไปทางใต้อีกที ปรากฏว่าไม่สามารถมองเห็นสันเขื่อนแล้ว เพราะถูกบังด้วยเนินดิน เพียงแต่เห็นวัดเขาพระที่เชิงเขาเท่านั้น  มองตรงจุดนี้แทบไม่เห็นแม่น้ำป่าสัก เพราะเนินดินริมตลิ่งบังตาอยู่ครับ ภาพล่าง : ถ่ายภาพเสร็จ หันกลับขึ้นมาข้างหลัง ทีแรกคิดจะสั่งอาหารทานให้หายหิว แต่....พอเข้ามาใกล้ๆ ดันไม่มีคน!   ผมเลยไม่ได้กินอะไรจนค่ำ โชคดีมีขนมในรถพอประทัง เพราะไม่มีเวลาไปหาร้านอาหาร จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 19:52:40

ความคิดเห็นที่ 31   ภาพขวา : ผมออกรถจากแยกมะนาวหวานมาเล็กน้อยก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนน ตามแผนที่ในรูปขวา คห.28 ได้เห็นสะพานจมน้ำ (อีกแล้วครับท่าน) ในแนวตรง ภาพซ้าย : หันกลับไปดู แยกมะนาวหวานอีกที จะเห็นเพียงหลังคาตลาดสดมะนาวหวาน อยู่บางส่วน   (วิวที่เห็นในภาพขวา ก็มองออกไปตามลูกศรสีชมพู นั่นเอง) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 20:12:09

ความคิดเห็นที่ 32   ภาพขวา : ขึ้นเหนือลัดเลาะไปตามขอบอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนป่าสักอีกพักหนึ่งก็เจอช่องโล่งอีก เป็นตรงหัวโค้งพอดี เลย จอดรถถ่ายภาพวิวด้านขวามือ กันอีกครับ ภาพซ้าย : วิวที่เห็นก็คือ สะพานจมน้ำ อันเดิม ที่ตอนนี้ได้เปลี่ยนมุมมองมาเป็นด้านข้าง ซึ่งตรงข้ามกับภาพในคห.25  นอกจากนี้ยังมีภาพสะพานรถไฟอยู่ลางๆ เบื้องหลังด้วยครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 20:26:15

ความคิดเห็นที่ 33   ผมเอากล้องซูมภาพซ้ายในคห.ข้างบน(32) ดูให้ชัดๆ อีกที จะเห็นชัดเจนกว่า ตรงตลาดสดมะนาวหวานในคห.28  เพราะไม่ย้อนแสง จากภาพข้างล่างจะสังเกตุเห็นมีคนอยู่เชิงสะพานนี้  แหม...ถ้ามีเวลามากพอ จะจ้างเรือชาวบ้านไปยืนบนสะพานแห่งนี้ดู เขาคงแปลกใจ เพราะสำหรับเขาแล้ว สะพานแห่งนี้ ก็ดูเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่สำหรับผมคิดว่าไม่บ่อยครั้งที่ สะพานจะโผล่พ้นน้ำมาให้เห็นแบบนี้ได้ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 20:34:57

ความคิดเห็นที่ 34   ภาพขวา : ไปได้อีกพักหนึ่ง ก็เจอช่องโล่ง ชมวิวได้อีก อดใจไม่ได้ เลยลงมาถ่ายภาพอีก ภาพซ้าย : มองไปทางฝั่งตรงข้าม จะเห็นฝูงวัวอยู่ใกล้ๆ มีแนวสะพานอยู่ลิบๆ คาดว่าจะเป็นสะพานเหนือ ต.โคกสลุง และ เสาอากาศกลุ่มควันไฟ ซึ่งน่าจะเป็น ต.โคกสลุง (ให้ดู แผนที่ในคห.1 ประกอบ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 21:11:45

ความคิดเห็นที่ 35   ภาพบน : จากภาพบนซ้าย (คห.34) ซูมกล้องดึงภาพตรงบริเวณสะพานรถไฟเหนือ ต.โคกสลุงดู ก็พอมองเห็นเสาสะพานลางๆ ภาพล่าง : หันไปดูด้านใต้ จะเห็นเกาะกลางน้ำ ที่มีต้นไม้อยู่ 2 - 3 ต้น  มีรถยนต์จอดอยู่แถวนั้น หลายคัน ซึ่งสังเกตุความสูงของเกาะเทียบกับขนาดรถยนต์ที่จอดอยู่ ทำให้คาดได้ว่าอาจไม่โดนน้ำท่วม หรือท่วมไม่นานในแต่ละปี  ดูสภาพแวดล้อมใกล้เคียงแล้วเหมือนป่าชายเลน หรือนาเกลือแถวๆ จ.สมุทรสงคราม จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 21:28:58

ความคิดเห็นที่ 36   ภาพซ้าย : มองไปทางด้านใต้ ซึ่งตอนนี้จะเห็นสะพานจมน้ำอยู่ไกลๆ ผมใช้ซูมดึงภาพมาดู จะเห็นแนวเสาสะพานที่มีมากกว่าที่เห็นจากมุมมองด้านอื่นๆ  นอกจากนี้ก็จะเห็นแนวแม่น้ำป่าสักอยู่ข้างหลังสะพาน เป็นการยืนยันว่าตัวสะพานนี้อยู่ฝั่งนี้แน่นอน ภาพขวา : หันกลับไปดูถนน ที่สร้างเป็นคันใช้กั้นน้ำ ซึ่งดูแล้วไม่สูงเท่าใดนัก แสดงว่า จุดที่ผมยืนถ่ายภาพ หรือจุดที่มีหญ้าสีเขียวๆ แถวนี้ น่าจะมีระดับพื้นดินที่สูงกว่า ฝั่งโน้นของอ่างเก็บน้ำ (เพราะสังเกตุได้จาก เสาสะพานรถไฟที่มีรอยน้ำท่วมสูงกว่า 4 เมตร) วันนี้ดึกแล้ว ขอพักกระทู้ กลับบ้านก่อนนะครับ  ยังไปไหนไม่ไกลเลย แค่ผ่านสะพานจมน้ำมาเท่านั้น เอาไว้พรุ่งนี้มาต่อกันนะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 ก.ค. 53 21:41:47

ความคิดเห็นที่ 37   วันนี้มาต่อกันนะครับ  ก่อนอื่นขอนำแผนที่ในคห.1 มาขยายเฉพาะส่วนที่จะต้องเดินทางกันต่อ และในวงกลมสีชมพูนั้นก็คือจุดชมวิวที่ผมถ่ายในคห.34 - 36 ครับ คงเหลือการเดินทางในลักษณะตัว C คว่ำ คือขึ้นไปอ้อมถนนลอยน้ำ (หมายเลข 3) แล้ววกกลับลงมาที่ ต.โคกสลุงครับ เชื่อว่าหลายคนคงไม่เคยมาแถวนี้แน่นอน (Unseen) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 09:56:39

ความคิดเห็นที่ 38   ถนนหลังจากนี้ไป ก็เบนหัวออกจากแนวแม่น้ำป่าสักเดิมแล้ว (ถ้าน้ำเยอะ อาจมีน้ำนองมาจนถึงถนนได้) แถมมีแยก บ้าง ต้องอาศัยดูป้าย และแผนที่ให้ดี มิฉะนั้นอาจเลี้ยวผิด ออกนอกแนวริมอ่างเก็บน้ำได้ (ซึ่งจะตรงไปยัง ถนนท่าหลวง-วังม่วง ทันที) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 10:21:52

ความคิดเห็นที่ 39   ขับรถไปเรื่อยๆอีกพักหนึ่ง ก็เริ่มเห็นแม่น้ำป่าสัก หันเหเข้ามาใกล้อีกแล้ว ซึ่งคราวนี้อยู่แทบติดถนนเลย ภาพบนซ้าย : อยู่ๆ ผมก็สังเกตุเห็น ร่องเว้าๆ ที่ริมน้ำ เลยรู้สึกสนใจ ภาพบนขวา : เลยจอดรถเดินลงไปดูใกล้ๆ ด้วยความสงสัย และอยากเข้าใกล้แม่น้ำป่าสักให้มากที่สุด เพราะที่ผ่านมาจะอยู่ห่างจากถนนค่อนข้างมาก (ยกเว้นตรงตลาดสดมะนาวหวาน) ภาพล่างซ้าย : หันไปทางซ้ายมือก็ได้เจอกับอ่าวจิ๋ว เหมือนทะเลสาบสงขลาย่อขนาดเลยนะครับ ภาพล่างขวา : หันไปทางขวามือ อันเป็นด้านเหนือของแม่น้ำป่าสัก  สังเกตุจากตลิ่งค่อนข้างสูง เวลาหน้าน้ำ คิดว่าคงไม่ล้นออกมาจากแนวตลิ่งเท่าใดนัก (อย่างมากน่าจะแค่ปริ่มๆ ที่ฝั่งตรงข้ามนะครับ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 10:42:43

ความคิดเห็นที่ 40   เมื่อสำรวจเสร็จแล้ว ก็หันกลับมาที่รถผมจอดอยู่ ช่างเป็นโลเกชั่นที่สวยไปอีกแบบนะ.... จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 11:06:50

ความคิดเห็นที่ 41   ภาพบน : ถัดไปอีกนิด ก็ได้พบกับเจ้าสิ่งนี้ เห็นไกลๆ นึกว่าสะพานเดินข้ามแม่น้ำ หรือท่าเรือ  แต่พอมาเห็นชัดๆ ไม่ใช่ น่าจะเป็นปั๊มดูดน้ำ มากกว่า แต่ทำอย่างมาตรฐานเลย   มองไปไกลๆ จะเห็นสะพานทอดยาวข้ามแม่น้ำป่าสัก นี่แหละเป้าหมาย 3 ที่ต้องการไป  ซึ่งจะเห็นแนวถนนที่ใช้เป็นพนังกั้นน้ำด้านเหนือ อยู่ติดกัน (ตอนเข้าไปยังดูงงๆ เพราะมีถนนเก่าริมแม่น้ำอยู่ด้วย ยังนึกแปลกใจว่าทำไมต้องมีถนน 2 เส้นด้วย) ภาพล่าง : เข้าไปใกล้อีกหน่อย พยายามเก็บภาพเจ้าสะพานดูดน้ำให้เต็มๆ หน่อย ยาวจังเลย มองไปไกลๆ โน้นจะเห็นแนวคันถนน ที่สร้างต่อจากสะพานข้ามแม่น้ำป่าสักไป  นี่แหละครับ "ถนนลอยน้ำ" ละครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 13:14:05

ความคิดเห็นที่ 42   ภาพซ้าย : เนื่องจากไม่ใช่เป้าหมายของผม และ กลัวจะเป็นการบุกรุก สมบัติของเขา เลยไม่ได้ลงไปเดินบนสะพานดูดน้ำ ได้เพียงถ่ายภาพมาให้ดู คิดว่าน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของระบบประปา แถวนั้น (เพิ่งสังเกตุดูจากภาพขณะโพสนี้ว่าเป็น ปั๊มน้ำของโรงงานอะไรสักอย่าง) ผมเลยขอศึกษาระบบดูดน้ำของเขาหน่อย (ดังแสดงในภาพ) ว่ามีปั๊มดูดถึง 2 ตัววางต่างระดับกัน คงมีไว้สำหรับ ระดับน้ำที่แตกต่างกัน  คือถ้าน้ำลดลงมากๆ ปั๊มตัวบนอาจดูดน้ำได้ไม่ดี  ดังนั้น เวลา น้ำขึ้นมากๆ ก็คงท่วมปั๊มตัวล่างไปเช่นกัน (ซึ่งต้องงดการใช้ เพราะมอเตอร์ดันอยู่ติดกับปั๊มเลย มิฉะนั้นจะช๊อตได้) ภาพขวา : หันกล้องไปทางสะพานข้ามแม่น้ำป่าสัก แล้วซูมดู ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 13:39:57

ความคิดเห็นที่ 43   ภาพบน : เลยสะพานดูดน้ำมาแล้ว จะเห็นสะพานข้ามแม่น้ำป่าสัก ด้านเหนืออ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชัดเจนขึ้น ซึ่งสามารถเลือกเดินทางไปได้ 2 ทิศทาง อ.โคกสำโรง กับ อ.ท่าหลวง  สังเกตุให้ดี แม่น้ำตรงนี้ มีสันดอนตรงกลางน้ำด้วย ภาพล่าง : ตอนนี้ผมขึ้นมาวิ่งบนพนังกั้นน้ำแล้วครับ ดูคล้ายสันเขื่อนเหมือนกัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 15:35:26

ความคิดเห็นที่ 44   ก่อนจะขึ้นสะพาน ขอลากแผนที่สรุปเส้นทางโดยรวมให้ดูอีกทีก่อน จะได้ไม่งง กับการเดินทาง ครับ สะพานข้ามแม่น้ำป่าสัก นั้นเป็นส่วนหนึ่งของถนนหมายเลข 2256 ที่มาจาก อ.ท่าหลวง ไปบรรจบกับถนนหมายเลข 205 ที่มาจาก อ.ชัยบาดาล ตรงไปยัง อ.โคกสำโรง ซึ่งจะมีจุดตัดกับ ถนนหมายเลข 21 ที่มาจาก อ.ชัยบาดาลเช่นกัน แล้วตรงไปยัง จ.สระบุรี อันเป็นถนน 4 ช่องทาง ตามแผนที่ข้างล่าง จึงนับเป็นถนนทางเลือกหนึ่งไว้ใช้กรณีสาย 21 ใช้การไม่ได้  และการจะมายังถนนลอยน้ำ ที่ต่อจาก สะพานข้ามแม่น้ำป่าสักนี้ ก็ต้องใช้ถนนหมายเลข 205 นี่แหละครับ จากแผนที่ข้างล่าง ผมแสดงแนวการเดินทางไว้ด้วยจุดสีเหลือง และทางเข้า-ออก ไว้พร้อมเสร็จครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 16:14:26

ความคิดเห็นที่ 45   ภาพบน : ตอนนี้ผมกำลังจะข้ามสะพานแล้ว โชคดีที่ช่วงนี้ไม่ค่อยมีรถวิ่ง เลยสามารถลงมาถ่ายภาพได้ ภาพล่าง : เมื่อข้ามไปแล้ว ก็หันมาถ่ายภาพสะพานอีกที สะพานแห่งนี้ก็คือ ช่องทางที่แม่น้ำป่าสักไหลเข้ามาในอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 16:32:21

ความคิดเห็นที่ 46   ผมได้ลงไปเดินบนสะพาน  แล้วถ่ายภาพทั้งสองด้านมาดู ภาพซ้าย : เป็นแม่น้ำป่าสักด้านเหนือที่ไหลมาจาก อ.ชัยดาบาล ภาพขวา : เป็นด้านใต้ ที่ไหลไปยังอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อน จะเห็นถนนพนังกั้นน้ำที่ผมเพิ่งผ่านมา โรงงานที่มีสะพานดูดน้ำประปา และสันดอนกลางน้ำอยู่ไกลๆโน้น จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 16:59:24

ความคิดเห็นที่ 47   ตอนนี้ ถึงเวลาไปลุย ถนนลอยน้ำ (ที่แห้งขอด) แล้วครับ ภาพบน : เป็นเชิงสะพาน ที่ต่อด้วยถนนลอยน้ำ อันสังเกตุได้ว่ามีขอบทางคอนกรีต ตลอดแนวครับ  มีป้ายบอกว่าต่อไปคือเขต อ.ชัยบาดาล เพราะ อีกฝั่งแม่น้ำก็คือ อ.ท่าหลวง ภาพกลาง : มีป้ายบอกจุดชมทิวทัศน์ อีก 1 กม. ที่มีการเพิ่มความกว้างถนนให้จอดได้สบายๆ ไม่ต้องมีเสียวกับรถที่ผ่านไปมา (เพราะเป็นถนนวิ่งสวนทาง) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 17:15:05

ความคิดเห็นที่ 48   ภาพบน : มาถึงแล้วครับ จุดชมทิวทัศน์ (จุดแรก เพราะไปอีกหน่อยก็จะมีให้อีกจุดหนึ่ง) ห่างจากสะพานข้ามแม่น้ำป่าสักประมาณ 1 กม. มีการเพิ่มผิวจราจรให้เยอะ สามารถจอดแบบทะแยงก็ยังได้ ดูๆ แล้วถ้าจอดแบบขนานกับขอบทางน่าจะได้ไม่ถึงสิบคัน ภาพกลาง : จอดตรงนี้ค่อยสบายใจหน่อย เพราะห่างจากรถวิ่ง หันไปดูวิวที่ขอบทางดู ภาพล่าง : เอ๊ะ!....น้ำหายไปไหนหมด แล้วทำไมมีนาข้าวมาแทนล่ะ  แสดงว่า น้ำแล้งมานานขนาดทำนากันได้เลยนะนี่.....  มองเห็นตัวอะไรอยู่ไกลๆ นั่นน่ะ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 17:30:26

ความคิดเห็นที่ 49   ภาพบน : ใช้กล้องซูมเข้าไปใกล้ๆ อะไรที่เคลื่อนไหวอยู่ไกลๆ ในรูปบนของคห.48  พบว่าเป็นรถเกี่ยวข้าวในนา 2 คันครับ แสดงว่ากำลังสิ้นสุดการใช้พื้นที่ตรงนี้เพื่อการเกษตรกรรม ต่อไปคงเริ่มจะมีน้ำไหลเข้ามาเพิ่ม  ชาวบ้านคงทำกันเป็นประจำ เพราะในแต่ละปี น้ำคงแห้งแบบนี้นะครับ ภาพกลาง : หันไปดูฝั่งตรงข้าม (ด้านเหนือ) บ้าง จะเห็นว่าเป็นทุ่งนาโล่งกว้างเช่นเดียวกัน  หน้าน้ำคงมีน้ำเข้ามาขังนะครับ (เอาไว้มาดูกันอีกที) ไม่รู้ว่าใต้ถนนนี้มีท่อระบายน้ำลอดใต้หรือเปล่า  มิฉะนั้นน้ำจะมีเพียงด้านเดียว จนกว่าน้ำจะเอ่อล้นแม่น้ำป่าสักเข้ามาด้านเหนือ จึงจะมีน้ำมาขังเช่นเดียวกัน ภาพล่าง : ไม่มีอะไรน่าสนใจ  ผมออกเดินทางต่อกันดีกว่าครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 17:52:20

ความคิดเห็นที่ 50   ภาพบน : อุ๊บ!...เจอจุดชมทิวทัศน์อีกแล้ว ห่างจากจุดแรก ประมาณ 600 เมตรกว่าๆ ครับ  จุดนี้ดูโล่งไกลจริงๆ ถ้ามีน้ำเต็มที่คงดูเหมือนทะเลสาบเลยนะครับ  แต่ในความเป็นจริง น้ำไม่ได้ลึกอย่างที่คิดเลยครับ ภาพล่าง : นี่เป็นวิวทิวทัศน์จุดที่ 2 ครับ ดูแล้วสบายตาจริงๆ  เห็นภูเขาทรงแหลมๆ นั่น เหมือนปิรามิดทรงเตี้ยเลยครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 18:10:23

ความคิดเห็นที่ 51   ภาพบน : ผ่านถนนลอยน้ำมาแล้ว  ผมหันกลับไปดูอีกที จะเห็นป้ายบอกระยะทางไปยัง อ.ท่าหลวง และสถานที่อื่นๆ แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ตรงปลายสุดถนนลอยน้ำ ที่สร้างเป็นคันดินตลอดแนวนี้ เป็นสะพานครับ คงใช้ระบายน้ำให้ไปอยู่อีกฝั่งหนึ่งของถนนนั่นเอง  ระยะทางถนนลอยน้ำรวมสะพานทั้งสองปลาย ผมคำนวณจาก GPS Pocket PC ได้ประมาณ 1.5 กม. ครับ ภาพล่าง : ก่อนเดินทางต่อไป  จะสังเกตุด้านซ้ายมือ มีแนวถนนเลาะริมอ่างเก็บน้ำฝั่งตะวันตก แยกไปด้วย  แต่เป้าหมายต่อไป (ลำดับที่ 4) คือ ภาระกิจติดตามทางรถไฟไปจนถึง สถานีโคกสลุงครับ  ผมเลยตรงไปเลี้ยวซ้ายเอาตรง ต.ม่วงค่อม ที่อยู่ใกล้กับทางรถไฟตัดข้ามครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 19:18:46

ความคิดเห็นที่ 52   ภาพบน : หลังจากผ่าน อนามัยม่วงค่อมไปเล็กน้อย ก็มีทางแยกซ้ายไปทางใต้ เฉียดสถานีรถไฟสุรนารายณ์ฝั่งขวามือไป จนถึงถนนที่เลาะริมอ่าง เส้นเดียวกับในภาพล่างของคห.51 ก็เลี้ยวขวา ตัดกับรถไฟ ผมได้ถ่ายภาพไปทางใต้ เพื่อสังเกตุจุดเริ่มต้น ทางรถไฟที่เลี้ยวเบนไปทางขวา ตามรูปคห.37 ซึ่งมองเห็นลิบๆ โน้นว่ามีการเลี้ยวขวาไปจริง ระยะทางจากจุดตัดถึงจุดเลี้ยวก็ประมาณ 300 เมตร ภาพกลาง,ล่าง : เนื่องจาก ทางรถไฟช่วงนี้ไม่ได้เป็นสะพานโค้งๆ เป็นคันดินตันๆ ที่โค้งคล้ายๆกับสะพานรถไฟส่วนอื่น เลยทำให้ ถนนเลาะริมอ่างนั้น ดูรกทึบไปด้วยต้นไม้ มองไม่เห็นแนวทางรถไฟเลย  บางแห่งก็มีต้นไม้ขึ้นเหมือนอุโมงค์  ผมเคยผ่านเส้นทางนี้แล้วเมื่อคราวไป อุโมงค์เขาพังเหย  ซึ่งผ่านตอนประมาณทุ่มครึ่ง ดูเปลี่ยวจริงๆ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 19:40:50

ความคิดเห็นที่ 53   ขอนำแผนที่ใน คห.37 มาให้ดูกันอีกทีนะครับ ดูตามเส้นสีน้ำเงิน จะเห็นจุดตัดทางรถไฟที่ผมเพิ่งผ่านมาในรูปบนของคห.52 ที่ถือเป็นจุดแรกของการปรับปรุงทางรถไฟ ให้สอดรับกับการสร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป้าหมายต่อไป ก็คือหมายเลขที่ 4 อันเป็นจุดแวะชมทางรถไฟได้ใกล้ที่สุดครับ  และตามด้วยจุดที่ 5 ที่น่าจะมองเห็นสะพานรถไฟช่วงที่ 5 ได้บ้าง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 20:07:00

ความคิดเห็นที่ 54   ภาพบน : ตอนนี้ผมถึงเป้าหมายที่ 4 แล้ว นับเป็นใกล้รางรถไฟที่สุดตามแผนที่คห.53  จากภาพเป็นมุมถ่ายย้อนกลับ คือมาจาก ต.โคกสลุง จะสังเกตุเห็นทางโค้งหักศอกข้างหน้า  แต่ถ้าไปถ่ายจากอีกด้านจะไม่สามารถสังเกตุทางเข้าได้ชัด  อ้อ..ฝั่งตรงข้าม มีบ้านคนอยู่ มีพื้นที่กว้างๆ ภาพล่างซ้าย : จากริมถนนมองเข้าไป จะเห็นคันทางรถไฟ และเสาโทรเลข ไม่ถึง 50 เมตรเลย ทางเข้าไปแห้งดี ไม่รู้ว่าหน้าน้ำ จะมีน้ำท่วมหรือเปล่า ภาพล่างขวา : ผมจอดรถริมถนน แล้วเดินเข้าไป คันทางสูง รกไม่น้อยเลย... จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 20:18:31

ความคิดเห็นที่ 55   ผมปีนขึ้นรางได้แล้ว ภาพซ้าย : หันไปมองทางซ้ายมือ จะเห็นรางโค้งไปทางขวา มีสะพานเล็กๆ ให้น้ำลอดได้ จึงเป็นที่แน่ชัดว่า ถ้าเป็นหน้าน้ำ คงมีน้ำเข้ามาระหว่างถนนกับทางรถไฟแน่ๆ ผมคงต้องลุยน้ำมาที่รางนี้แน่นอน ภาพขวา : หันไปทางขวามือ จะเป็นทางตรงไปสุดลูกตาเลยครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 20:35:28

ความคิดเห็นที่ 56   ภาพซ้าย : มองไปข้างหน้า บริเวณอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนป่าสักฯ ที่แห้ง มีต้นหญ้าสีเขียวและฝูงวัวกินหญ้าเหมือนกับฝั่งโน้นที่เพิ่งไปดูมา  สังเกตุให้ดีจะเห็นพื้นที่สูงกว่าส่วนอื่นๆอยู่ด้านขวา ซึ่งเมื่อดูจากแผนที่กูเกิ้ลดาวเทียมในคห.53 จะดูเป็นเกาะกลางน้ำครับ ภาพขวา : มองกลับมาฝั่งที่เดินเข้ามา จะเห็นถนนอยู่ไม่ไกล ซึ่งดูจากสายตาแล้ว ทางรถไฟจะอยู่สูงกว่าถนนครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 21:06:47

ความคิดเห็นที่ 57   ภาพขวา : ตอนนี้มาถึงเป้าหมายที่ 5 แล้ว  ไม่ค่อยมีต้นไม้บังเท่าใดนัก เลยมองเห็นรางยาวๆ โล่งๆ แบบนี้ครับ อุ๊บ...เพลินไปหน่อย เลยทางเข้าไปแล้ว ภาพซ้าย : กลับรถหันกลับไป จะเห็นทางเข้าเล็กๆ ด้านขวามือ ซึ่งตรงนี้มีจุดสังเกตุง่ายกว่า เพราะมีถนนฝั่งตรงข้ามด้วย เมื่อตรวจสอบจาก GPS Map แล้ว พบว่า สามารถไปออกถนนใหญ่ สายสระบุรี-ชัยบาดาล (หมายเลข 21) ได้ด้วย ประเมินระยะทาง สิบกว่ากม. เท่านั้น  แต่สภาพทางเป็นอย่างไรไม่ทราบ เพราะไม่ได้ลองเข้าไปครับ (ดูจากแผนที่ เข้าไปได้ไม่ถึง 10 กม.จะมีถนนตัดขวาง ให้เลี้ยวขวา ไปอีกไม่กี่กม.ก็ออก ถนนใหญ่) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 21:28:04

ความคิดเห็นที่ 58   ภาพขวา : ลักษณะทางเข้าไป เมื่อมองจากถนนจะเป็นดังที่เห็นครับ คือ โรยกรวดไว้ระยะสั้นๆ แล้วต่อจากนั้นก็เป็นทางลูกรังสีแดง มีต้นไม้ขึ้นรกสองข้างทาง แทบมองไม่เห็นคันทางรถไฟเลย (เฉพาะตรงทางเข้า แต่ด้านข้างเห็นทางรถไฟชัดเจน) ระยะทางเข้าไปก็เกือบ 100 เมตร ภาพกลาง : เมื่อเข้ามาถึงคันทางรางรถไฟแล้วก็ต้องหาช่องทางปีนป่ายขึ้นไปให้ได้  สูงและรกเช่นเคยครับ ภาพซ้าย : มองไปทางซ้ายจะเห็นทางลูกรังรถวิ่งได้ คู่ขนานไปกับทางรถไฟ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 21:51:22

ความคิดเห็นที่ 59   ตอนนี้ขึ้นมาบนรางได้อีกแล้ว(ครับท่าน) ภาพซ้าย : มองไปทางเหนือ ก็เห็นแต่รางตรงๆ ไปไกลสุดสายตา ซึ่งนับระยะทางไปถึงจุดที่ 4 ที่ผมเพิ่งไปโผล่มา ก็ประมาณ 1 กม.พอดี ภาพขวา : มองไปทางใต้ ก็เห็นรางตรงๆ เช่นกัน ทั้งๆ ที่อีกแค่ 600 เมตรกว่าๆ ก็จะเลี้ยวซ้ายไปยังสะพานรถไฟช่วงที่ 5 แล้ว ก็มองไม่เห็น  เป็นเพราะต้นไม้ข้างรางรถไฟเยอะจริงๆ ด้านหน้าของผมที่เป็นอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อน ก็มองไม่เห็นเท่าใดนัก เพราะมีดงต้นไม้บดบังตลอดแนว เลยไม่ได้ถ่ายภาพมาให้ดู จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 22:11:52

ความคิดเห็นที่ 60   เสร็จแล้วก็หันหลังกลับลงมา เพื่อเร่งไปยังเป้าหมายอื่นต่อ คือ สถานีโคกสลุง พนังกั้นน้ำโคกสลุง และ สะพานรถไฟช่วงที่ 5   ในภาพถ่ายจากบนรางรถไฟลงมา เหมือนภาพขวาในคห. 56 ซึ่งจะเห็นรถผมเข้ามาจอดได้ใกล้กับรางเลย  วันนี้ต้องขอพักกระทู้อีกครั้ง เพราะดึกแล้วครับ ไว้พรุ่งนี้มาต่อกันในกระทู้เดิมนี้นะครับ แก้ไขเมื่อ 21 ก.ค. 53 22:21:08 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 53 22:18:59

ความคิดเห็นที่ 61   วันนี้มาต่อกันให้จบนะครับ (กลัวไม่จบเหมือนกัน...อิอิ) ภาพบน : จากจุดหมายที่ 5 มาประมาณ 10 นาที ก็มาถึง ต.โคกสลุง ที่ดูเหมือนเมืองในกำแพงด่านล้อม 3 ด้าน ดังในรูปคห.53 ซึ่งผมได้เปลี่ยนใจ เข้าสู่เป้าหมายที่ 8 ก่อน จากรูปจะเห็นว่าถนนได้วกวน หันหัวขึ้นเหนือ ไปตามถนนที่สร้างเป็นพนังกั้นน้ำ โอบล้อมตำบลโคกสลุงไว้ ภาพกลาง : จะมองเห็นความสูงของถนนที่เป็นพนังกั้นน้ำครับ โดยจะมีร่องระบายน้ำอยู่ข้างล่าง ในกรณีน้ำท่วมล้นถนนมา จะได้ตกลงในในร่อง แล้วรีบสูบออกไปให้ทันกับปริมาณการล้นเข้ามา โดยยังไม่ไหลเข้าไปท่วมในตัวตำบล ภาพล่าง : พ้นโค้งมา ก็เห็นตัวสะพานทอดยาวชัดเจนครับ เป็นมุมมองทิศตะวันออกเฉียงเหนือ  ตอนนี้น้ำแห้งมากจนวัวลงไปกินหญ้าได้สบายๆ  เป้าหมายผมคือ หลักเสาโทรเลขที่ 177/9 ตามกลุ่มคนรักรถไฟเคยไปยืนมาตามลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ http://portal.rotfaithai.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=2428&postdays=0&postorder=asc&start=240 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 53 16:51:29

ความคิดเห็นที่ 62   ภาพบน : ตอนนี้ข้างหน้าผมคือ จุดตัดทางรถไฟ ที่จะข้ามไปยังถนนบนแนวพนังกั้นน้ำริมอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนป่าสักฯ ที่เหมือนเขื่อนล้อมชุมชนชาวโคกสลุงไว้ ภาพกลาง : มองไปทางซ้ายมือ คือ เชิงสะพานรถไฟช่วง 5 ที่มีหน่วยซ่อมบำรุงทางอยู่ ภาพล่าง : มองไปทางขวามือ คือทางรถไฟตรงไปยัง สถานีโคกสลุง ในระยะทางประมาณ 600 เมตร ซึ่งจะสังเกตุคันทางที่สูงในระดับเดียวกับถนนเลย จึงนับเป็นการป้องกันน้ำท่วมได้อีกชั้นหนึ่ง กรณี พนังกั้นน้ำเอาไม่อยู่ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 53 17:30:29

ความคิดเห็นที่ 63   ภาพขวา : ตอนนี้กำลังยืนบนจุดตัดทางรถไฟ หันไปมองทางสถานีโคกสลุง จะเห็นคันทางรถไฟสูงกว่าพื้นดินมาก แต่มีต้นไม้ขึ้นปกคลุมจนไม่เห็นพื้นดินเลย ภาพบนซ้าย : เดินข้ามทางรถไฟไปเล็กน้อย เพื่อดูส่วนโค้งของสะพานรถไฟช่วงนี้ ซึ่งแตกต่างจาก สะพานช่วงอื่นๆ (ผมคิดว่า ทั้ง 5 สะพาน นั้นจะมีความแตกต่างกัน ถ้าคนที่เคยชิน จะสามารถบอกได้ว่าเป็นสะพานช่วงไหน) ภาพล่างซ้าย : ผมเริ่มเดินบนรางเข้าไปหาสะพานแล้วละครับ ซึ่งมุมนี้จะมองเห็นคันทางรถไฟเก่าทอดยาวตรงไปยัง เกาะกลางน้ำเดียวที่เห็นในภาพคห.56 (ภาพซ้าย)  ซึ่งถ้าดูจากแผนที่กูเกิ้ลในคห.53 จะเห็นเกาะนี้ชัดมาก เพียงตอนนี้น้ำแห้งเลยดูเป็นพื้นดินปกติเท่านั้นครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 53 17:56:20

ความคิดเห็นที่ 64   ภาพบนซ้าย : หันกลับไปมองรถผมที่จอดอยู่ไม่ไกล วิวสวยไม่เบาครับ พนังกั้นน้ำด้านเหนือนี้ จะว่าไปแล้วก็ยาวเกือบ 700 เมตรน่ะ (พนังด้านตะวันออกยาวที่สุด ประมาณ 2 กม.) ภาพล่างซ้าย : ผมก้าวขึ้นมาบนสะพานได้ไม่เท่าใด ก็ได้ยินเสียงรถไฟมา  เป็นรถไฟท้องถิ่นขบวนสุดท้าย หมายเลข 434 จาก อ.บัวใหญ่ ไป อ.แก่งคอย ครับ  ซึ่งจะถึงปลายทางเวลาตามตาราง 17:50 น. ภาพขวา : ผ่านไปแล้วครับ รถไฟขบวนสั้นๆ  กำลังเข้าจอดสถานีโคกสลุง ครับ  ทริปนี้ผมโชคดีได้เจอรถไฟทุกครั้งแบบไม่ได้นัดหมาย กะเวลาอะไรเลยครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 53 18:25:06

ความคิดเห็นที่ 65   ภาพขวา : ผมกำลังเดินผ่านหน่วยซ่อมบำรุงทางไปครับ  แม้จะดูรกๆ แต่รถไฟก็สามารถวิ่งผ่านได้สบาย นับว่าเป็นข้อได้เปรียบ เมื่อเทียบกับถนนรถยนต์วิ่งที่ต้อง ทำให้เรียบโล่ง รถถึงจะวิ่งได้ ครับ ภาพซ้าย : มองไปทางซ้ายมือ ก็คือ วิวสะพานฝั่งตะวันตก ที่โค้งไปยังเชิงสะพานข้างหน้าโน้น  จะเห็นฝูงวัวกินหญ้าตรงกลางโล่งอยู่  และที่เห็นดำๆ ใต้สะพาน อย่านึกว่าเป็นก้อนหิน นั่นก็วัวนะครับ เยอะจริงๆ ตรงนี้ จากวิวตรงนี้ ทำให้สังเกตุได้ว่า สะพานแห่งนี้ต่างจากสะพานอื่นๆ ตรงที่โค้งเข้ามายังฝั่งถนนด้านตะวันตก ไม่โค้งโอบล้อมด้านอ่างเก็บน้ำเหมือนที่อื่นๆ ครับ แม้จะดูแผนที่ในคห.53 แล้ว ว่าทางรถไฟโอบล้อมด้านอ่างเก็บน้ำ(ฝั่งตะวันออก) แต่เป็นช่วงที่ไม่ใช่สะพาน เป็นคันดินครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 53 19:00:12

ความคิดเห็นที่ 66   ภาพซ้าย : เดินผ่านหน่วยซ่อมบำรุงทาง แล้วมองไปข้างหน้า (ด้านเหนือ) จะเห็นวิวสวยไม่เบา ขนาดข้างล่างมีน้ำที่แหว่งเว้า ไม่ได้เต็มเรียบนะครับ อากาศที่นี่ลมเย็นจริงๆ ภาพขวา : มองไปทางขวา แล้วซูมดูคันทางรถไฟเก่า ช่วงนี้นับว่าสมบูรณ์มากขนาดรถยนต์ลงไปขับได้ (แต่ขรุขระหน่อย เพราะไม่ได้มีการปรับผิวทางให้เรียบ)  มีหินกรวดสีเทาชัดเจนมากครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 53 19:15:15

ความคิดเห็นที่ 67   ลองหันกลับไปดูด้านทิศใต้ ที่เดินผ่านมาบ้าง ภาพซ้าย : เป็นวิวด้านอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อน จะมองเห็นพนังกั้นน้ำ 2 ระดับ คือ ขอบล่าง กับ แนวถนนด้านบน ซึ่งจะช่วยลดการกัดเซาะน้ำ ได้ดีกว่ามีระดับเดียวเหมือนเขื่อน ผมได้ลองวัดระยะห่างตั้งแต่ ขอบล่าง ถึงขอบถนนxประมาณ 50 เมตร ในขณะที่ถนนกว้างประมาณ 10 เมตร ครับ ภาพขวา : เป็นวิวด้านฝั่งตะวันตก ที่เป็น ชุมชนโคกสลุง ครับ  ซึ่งจะมองไม่เห็นอาคารบ้านเรือนใดๆ เพราะพนังด้านเหนือบังไว้หมด (รถผมจอดอยู่บนพนังด้านเหนือ) ยกเว้นยอดไม้ และพระอุโบสถวัดโคกสลุง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 53 19:54:23

ความคิดเห็นที่ 68   ตอนนี้ผมเดินมาถึงเป้าหมาย สทล. 177/9 แล้วครับ ภาพบน : วิวสะพานรถไฟ สวยๆ ครับ ภาพล่าง : หันไปทางอ่างเก็บน้ำ(ทิศตะวันออก) บ้าง ช่วงนี้นับว่ามีน้ำเยอะ ไม่แห้งเหมือนสะพานช่วงอื่นๆ ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 53 20:05:59

ความคิดเห็นที่ 69   ภาพบน : ผมเดินกลับออกมาแล้ว ก่อนจะถึงจุดตัดทางรถยนต์ มองไปทางซ้ายจะเห็น พนังกั้นน้ำโค้งขวาลับแนวต้นไม้ไป  ซึ่งจะมีจุดชม(เห็น)สถานีรถไฟโคกสลุงได้ ซึ่งถ้าไม่สังเกตุกันจริงๆ จะมองไม่เห็น เพราะมีต้นไม้บดบังเยอะ ครับ ภาพล่าง : ก่อนไป ขอถ่ายภาพสะพานรถไฟช่วงนี้แบบเต็มๆ หน่อยครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 53 20:25:31

ความคิดเห็นที่ 70   ภาพบน : ผมออกรถมาบนถนนพนังกั้นน้ำด้านตะวันออก เล็กน้อย ก็หันกลับไปดูอีก เห็นสะพานรถไฟ โค้งหลบไปทางซ้าย ภาพล่าง : เลยไปอีกหน่อย ก็เห็นแนวตรงของพนังกั้นน้ำด้านนี้ ซึ่งมีความยาวของแนวตรงประมาณ กิโลเมตร พอดี จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 53 20:57:41

ความคิดเห็นที่ 71   ผมได้เดินลงไปข้างล่างเพื่อดูระดับพนังกั้นน้ำ ว่ามี 2 ระดับ คือ ระดับขอบล่าง(ภาพซ้าย) กับ ระดับแนวถนน (ภาพกลาง) ครับ โดยมีระยะระหว่าง ขอบล่างกับขอบถนน 50 เมตร และ ถนนกว้าง 10 เมตร สาเหตุที่ต้องมีระยะถึง 50 เมตร เพราะป้องกันมิให้น้ำเซาะถนนพังได้ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 53 21:15:41

ความคิดเห็นที่ 72   ภาพซ้าย : ผมหันไปทางซ้าย (ทิศเหนือ) ก็เห็นเป็นสองระดับเช่นกัน  และยังสังเกตุเห็น มีคนมากางเต้นท์พักผ่อนอยู่ไกลๆ  นับเป็นจุดพักตากอากาศได้เหมือนกัน เพราะลมแรงดี ภาพขวา : มองไปทางอ่างเก็บน้ำ ช่วงนี้มีน้ำสลับพื้นดินคล้ายๆ กับ นาเกลือ ทั่วไป จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 53 21:25:26

ความคิดเห็นที่ 73   ภาพขวา : เหลือบเห็นป้ายเก่าๆ เลือนๆ ติดอยู่ตรงแนวพนังกั้นน้ำข้างล่าง เลยเข้าไปอ่าน  นึกว่าเป็นป้ายห้ามตกปลา อย่างที่เคยเห็นบริเวณอ่างเก็บน้ำทั่วไป  แต่กลายเป็นป้าย ห้ามก่อสร้างอาคารในบริเวณนี้ ภาพซ้าย : หันไปดูด้านเหนืออีกครั้งแล้วใช้กล้องซูมดูภูเขาสวยๆ ที่เป็นพื้นหลังของอ่างเก็บน้ำ คาดว่าเป็น เขาสมโภชน์ ที่เห็นเมื่อครั้งไป อ.เทพสถิตย์โน้น วันนี้ดึกแล้ว ต้องขอกลับบ้านก่อนอีกแล้วครับ พรุ่งนี้จะมาต่อกันให้จบ  คอยติดตามกันนะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 53 21:40:24

ความคิดเห็นที่ 74   วันนี้มาต่อกันให้จบครับ (จำเป็นต้องจบ ไม่งั้นข้ามสัปดาห์แน่ๆ) ผมขับรถไปตามถนนบนพนังกั้นน้ำริมอ่างเก็บน้ำ ไปจนโค้งขวามาบรรจบกับทางตัดรถไฟอีก ครับ  แต่เป็นทางรถไฟหลังจากเลย สถานีโคกสลุงมาแล้ว ถ้าหากเลยไปก็เป็นถนนลัดเลาะริมอ่างฝั่งตะวันตก ไปจนถึง เขื่อนป่าสักนั่นเอง (ตามที่ผมพาเพื่อนๆไปสำรวจมาแล้วในตอนก่อนๆ) ตรงจุดตัดทางรถไฟนี้จะมีถนนเล็กๆ เลี้ยวขวาลงไปยัง ต.โคกสลุง ทั้งก่อน และหลังผ่านทางรถไฟไปแล้ว  เพียงแต่ถ้าหาก เป็นแยกก่อนผ่านทางรถไฟ(ในรูปขวา) ก็จะต้องไปลอดทางรถไฟก่อน ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 53 12:19:36

ความคิดเห็นที่ 75   จากแผนที่ข้างล่างนี้จะทำให้ทราบถนนหนทางหลักๆ ในต.โคกสลุงครับ ซึ่ง ทางเข้าชุมชน จาก ถนนเลาะริมอ่าง ด้านใต้ นี้เล็กนิดเดียว ไม่มีป้ายใดๆ บอกด้วยครับ  แม้กระทั่ง ด้านเหนือ ก็มีทางเข้านิดเดียวเช่นกัน โดยทุกด้านจะเป็นทางลาดลงไปข้างล่างเล็กๆ เหมือนกัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 53 12:41:39

ความคิดเห็นที่ 76   ตอนนี้กำลังผ่านทางรถไฟเลยจอดถ่ายภาพกันกลางราง เล่นเสียวซะงั้น.... ภาพซ้าย : ด้านซ้ายมือ ผมคือ รางบนคันดิน ที่พุ่งตรงไปยังสะพานรถไฟช่วง 4 ที่ผมพาเพื่อนไปชมมาแล้วในตอนที่สี่ ตามลิ้งค์ข้างล่างนี้ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9468045/E9468045.html#20 ภาพขวา : คือภาพคล้ายกับ ภาพขวาในคห.74 ครับ เพียงแต่จะเห็นถนนอีกฝั่งทางรถไฟด้วย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 53 13:00:57

ความคิดเห็นที่ 77   ผมได้กลับรถย้อนไป พนังกั้นน้ำอีกครั้ง เพื่อมองหาสถานีรถไฟโคกสลุงจากที่นี่ ภาพบน : เมื่อผ่านทางรถไฟกลับไปอีก จะเห็นความโค้งของถนน ที่มองไปข้างหน้าคือ อ่างเก็บน้าด้านเหนือที่ยังเต็มๆอยู่  และมีภูเขาสวยๆ อยู่เบื้องหลังไกลๆโน้น ภาพล่าง : เลยไปอีกหน่อย ก็จะได้เห็นแนวคันดินพนังกั้นน้ำที่สูง ในมุมมองด้านตรงข้ามกับ รูปล่างของ คห. 70  ที่มีร่องระบายน้ำเดียวกัน เนื่องจาก แนวคันดินนี้ไม่มีต้นไม้ เลยทำให้มองเห็นได้โล่งสบาย  แต่ก็ไม่สามารถเห็น แนวคันทางรถไฟได้ เพราะ มีต้นไม้ปกคลุม และยังมีชุมชน บ้านคน คั่นอยู่อีก การจะมองหาสถานีรถไฟก็ไม่ใช่ง่ายเหมือนกัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 53 15:17:08

ความคิดเห็นที่ 78   ภาพซ้าย : ในที่สุด ผมก็มองเห็นสถานีรถไฟโคกสลุงแล้ว  ตอนขาไปไม่ทันสังเกตุเห็น เพราะมีต้นไม้ขึ้นบังเกือบมิด ต้องค่อยๆหาช่องมองเอาเอง ภาพขวา : ลองใช้กล้องซูมดู ชัดๆ ก็ยังเห็นได้แค่นี้ ทำให้นึกถึงตอนที่สร้างพนังกั้นน้ำและสถานีใหม่ๆ ที่ยังไม่มีต้นไม้เยอะอย่างนี้ อาจมองเห็น คันทางทั้งสองแห่งเป็นแอ่ง สวยไม่แพ้ตัวเขื่อน เลยนะครับ  เพราะอย่างน้อย ถ้ามายืนบนถนนเส้นนี้ เราก็จะเห็นชุมชน โคกสลุง เต็มๆ ยังกับจุดชมวิวเมือง โดยที่ชุมชนนี้ถูกล้อมรอบโดยพนังกั้นน้ำ ไปเกือบครึ่ง ดังกับกำแพงเมืองเลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 53 15:31:18

ความคิดเห็นที่ 79   หันกลับไปดูรถผมที่จอดตรงนี้บ้าง ดูสวยไม่เบาสำหรับวิวนี้ (เหมือนโฆษณารถยนต์เลย)  จะเห็น ทั้งสองด้านของพนังกั้นน้ำด้านตะวันออก (โดยการนำภาพมาต่อกันแบบไม่สนิท เพราะไม่ได้ตั้งใจไว้แต่แรก) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 53 15:36:46

ความคิดเห็นที่ 80   เอาแบบพานารามาดีกว่า  โดยเน้นความสัมพันธ์ระหว่างสถานีรถไฟกับถนนบนพนังกั้นน้ำครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 53 15:48:28

ความคิดเห็นที่ 81   ภาพขวา : ผมได้เคลื่อนรถต่อไปอีกเล็กน้อย ก็เห็นป้ายรถไฟสีเหลือง มองไปทางซ้าย อ้าว... สถานีรถไฟโคกสลุงชัดกว่าจุดเมื่อกี้อีก  สามารถใช้ป้ายนี้เป็นจุดสังเกตุการมองตัวสถานีได้เลยนะนี่... (น่าจะเรียกว่า ป้ายชมสถานี มีสัญญลักษณ์รูปสถานีไว้หน่อยก็จะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวได้อย่างหนึ่งด้วย)  ใกล้ๆ กันเป็นป้ายอะไรก็ไม่รู้ วางเหมือนกับจะบินได้เลย  น่าจะเป็น ป้ายคำว่า "ระวังรถไฟ" นะครับ  ผมไปชะโงกอ่านดูแล้ว แต่ดันลืม ครับ ภาพซ้าย : เมื่อมองไปทางซ้ายมือ ตามป้ายรูปรถไฟ ก็จะเห็นตัวสถานีได้ตรงกับช่องว่างต้นไม้พอดี ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่า  ผมเล็งหาช่องว่างแบบนี้มานานแล้ว....ฮา จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 53 16:09:31

ความคิดเห็นที่ 82   ภาพซ้าย : ขอนำภาพป้ายระวังรถไฟ มาเล็ง กับตัวสถานี ชัดๆ หน่อย ว่าสามารถใช้เป็นป้ายชี้บอกตำแหน่งสถานี หรือจุดชมสถานีได้จริงๆ นับเป็นจุดเป้าหมายที่ 7 ของการเดินทางในตอนนี้ครับ ภาพขวา : เลยซูมดึงภาพสถานีมาให้ใกล้ๆ อีกครั้ง ซึ่งจะสังเกตุถังน้ำประปาใกล้ๆ ไว้ให้ดี เมื่อไปยืนมองจากตัวสถานีแล้ว ต้องเห็นจุดที่ผมยืนอยู่นี้ โดยใช้เป็นตัวยืนยันว่า เป็นจุดเดียวกันจริง สนุกละ... เดี๋ยวผมจะไปที่สถานีโคกสลุงกันเลย แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 53 17:41:09 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 53 16:20:00

ความคิดเห็นที่ 83   ภาพซ้าย : ผมใช้เส้นทางเดิมที่ผ่าน สะพานรถไฟช่วง 5  เลยมา 600  เมตร ก็มีทางเล็กๆ เลี้ยวซ้ายลงมาที่ถนนในโคกสลุง แล้วเลี้ยวซ้ายวิ่งมาไม่นานก็ถึงสถานีรถไฟ (ไม่มีป้ายใดๆ บอกชื่อสถานี) ซึ่งแปลกไปจาก สถานีทั่วไปที่เคยเห็น คือ อยู่สูงมากยังกับสะพานลอยเดินข้ามถนนเลย  ถ้าขาไม่ดี ผู้สูงอายุ คงไม่ต้องมาที่นี่กันแล้ว อย่างนี้น่าจะเรียกว่า ขึ้นสถานี สอดคล้องกับคำว่า ขึ้นรถไฟเลย...ฮา ภาพขวา : เมื่อขึ้นไปแล้ว ก็มองลงมาข้างล่าง จะเห็นถนน อยู่นอกแนวที่จอดรถ ครับ  ดูแล้วสูงไหม ? จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 53 16:30:57

ความคิดเห็นที่ 84   จะว่าไปแล้ว สถานีแห่งนี้ก็คล้ายๆ กับสถานีรถไฟฟ้า BTS ในกรุงเทพฯ นั่นแหละครับ  ต่างจังหวัดก็ยังมีรถไฟลอยฟ้าใช้แล้ว แบบไม่รู้ตัวเลยนะครับ...ฮา ภาพซ้าย :  เมื่อขึ้นไปบนสถานีแล้ว หันไปทางซ้ายมือ จะเป็นห้องจำหน่ายตั๋ว และห้องทำงาน จนท.ประจำสถานี ครับ ภาพขวา : มองไปข้างหน้า (ไกลๆ)  จะเป็นช่องโล่งที่มองเห็นถนนบนพนังกั้นน้ำด้านตะวันออก ที่ผมไปยืนมองกลับมา เมื่อครู่นี้ พอดี  ซึ่งยืนยันจาก ถังน้ำประปาใกล้ๆ ครับ    คงไม่เป็นเรื่องบังเอิญที่ ปลายต้นไม้ตรงนั้นถูกตัดออก น่าจะเป็นจุดสำคัญหนึ่ง ที่จนท.อาจใช้สังเกตุการณ์อะไรบนนั้นได้ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 53 16:47:27

ความคิดเห็นที่ 85   ภาพซ้าย : หันมองไปทางด้านเหนือ จะชานชาลาสวยๆ สีสดๆ แบบนี้ครับ สถานีถัดไป คือ สถานีสุรนารายณ์ มีระยะทางห่างกัน 9.25 กม.ครับ ภาพขวา : หันไปทางด้านใต้บ้าง สถานีถัดไปคือ สถานีแก่งเสือเต้น มีระยะทางห่างกัน 16.5 กม.ครับ แต่ระหว่างนั้นจะมีจุดหยุดรถ 2 แห่งคือ หนองบัว กับ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ครับ ซึ่งสำหรับจุดหยุดรถเขื่อนป่าสักนั้น จะอยู่ห่างจากที่นี่ 14.17 กม. สำหรับภาพเกี่ยวกับตัวสถานีแห่งนี้ ผมได้เคยถ่ายมาให้ชมแล้วในกระทู้ เก่าตามลิ้งค์ข้างล่างนี้ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8964997/E8964997.html#103 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 53 17:07:40

ความคิดเห็นที่ 86   ภาพขวา : ผมเดินออกไปยืนที่ราง เพื่อถ่ายภาพถนนบนพนังกั้นน้ำชัดๆ ครับ ภาพซ้าย : หันกลับมาดู อาคารสถานี  นับเป็นเป้าหมายจุดที่ 6 ของตอนนี้นะครับ แก้ไขเมื่อ 23 ก.ค. 53 17:42:27 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 53 17:18:06

ความคิดเห็นที่ 87   จากเหตุที่ ตัวสถานีอยู่สูงจากถนนมาก จึงสามารถอำนวยประโยชน์ในเรื่องการชมวิว ชุมชนบ้านโคกสลุงได้ด้วย ซึ่งบริเวณด้านหลังอาคารสถานีแห่งนี้ ได้มีการสร้างสวนหย่อมเล็กๆ ที่สามารถขึ้นมายืนชมวิว หรือใช้สังเกตุการณ์ บ้านโคกสลุงได้ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 53 17:25:25

ความคิดเห็นที่ 88   ภาพซ้าย : ก่อนกลับลงไปจากสถานี สังเกตุซุ้มต้นไม้เหนือบันไดทางขึ้นสถานี นับเป็นส่วนหนึ่งของการจัดสวนหย่อมที่นี่ด้วย เพื่อให้กลมกลืนไม่แข็งกระด้างเกินไป ภาพขวา : ก่อนกลับบ้านผมขับรถล่องลงมาเล็กน้อย เพื่อเก็บภาพอุโมงค์ลอดทางรถไฟ ที่สามารถลอดไปขึ้นถนนบนพนังกั้นน้ำ อีกฝั่งหนึ่งของทางรถไฟใน รูปขวา ของคห.74 ครับ และนี่ก็ถือเป็นรูปจบทริปนี้เลยนะครับ ยืดยาวมาเดือนกว่าแล้ว.... จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 53 17:36:25

ความคิดเห็นที่ 89   สุดยอดกระทู้เลยครับ พี่มิราชช วิวสวย ๆ รอบเขื่อนป่าสัก ถูกก็บไว้ในซีรีส์ชุดนี้แล้ว จากคุณ : หมอดาริน เขียนเมื่อ : 24 ก.ค. 53 10:27:14

ความคิดเห็นที่ 90   สวัสดีครับ คุณหมอดาริน : ยินดีครับ ที่ชอบ  รอให้น้ำเต็มๆเขื่อนก่อน จะไปเก็บภาพมาให้ชมกันอีก ครับ  ว่าแต่พรุ่งนี้ว่าจะไปเขื่อนขุนด่านปราการชล คงได้ภาพดีๆมาดูกัน ถ้ามีเวลาแวะไป...... จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 25 ก.ค. 53 01:30:03