ความคิดเห็นที่ 1   การเดินทาง   จากกรุงเทพฯใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง  รถยนต์ จากตัวเมืองฉะเชิงเทราใช้เส้นทางสายฉะเชิงเทรา-พนมสารคาม  จากอำเภอพนมสารคามไปตามทางหลวงหมายเลข 3245 (พนมสารคาม-สนามชัยเขต) จากนั้นใช้เส้นทางหมายเลข 3259 ผ่านอำเภอท่าตะเกียบสู่บ้านหนองคอก ระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร  แล้วไปตามเส้นทางบ้านหนองคอก-กิ่งอำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว อีกประมาณ 20 กิโลเมตร จะถึงสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนและสถานีวิจัยสัตว์ป่าฉะเชิงเทราซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกัน  รถโดยสารประจำทาง   นั่งรถโดยสารประจำทางสายกรุงเทพฯ-พนมสารคาม แล้วต่อรถโดยสารประจำทางสายฉะเชิงเทรา-คลองหาด ลงหน้าสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ภาพนี้เป็นป้ายที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน สำนักงานจะตั้งอยู่ติดกับถนนสาย 3259 วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ 18 กรกฎาคม 53 อากาศไม่ค่อยเป็นใจนัก ฝนตกพรำๆตลอดเวลา แต่ก็ทำให้เย็นสบาย พวกเรามาถึงที่นี่ตอนเช้า ซึ่งก็ได้รับการต้อนรับจากหน้าที่เป็นอย่างดี พานำชมห้องที่จัดแสดงป้ายต่างๆ พร้อมทั้งอธิบาย สถานที่ท่องเที่ยว ให้ความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ และสัตว์ป่า จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 09:55:03

ความคิดเห็นที่ 2   คนแรกของลุงเอกกกกกกกกกกกกกกกก จากคุณ : One Light One Shadow เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 09:55:32

ความคิดเห็นที่ 3   พื้นที่ป่าปกคลุมเป็นบริเวณกว้างใหญ่  มีสัตว์ป่านานาชนิด เช่น ช้าง กระทิง กวาง เก้ง วัวแดง ชะนีมงกุฎ เม่น  และนกพันธุ์ต่างๆ อาศัยอยู่มากมาย เช่น ไก่ฟ้าพญาลอ นกกก นกแต้วแล้วธรรมดา นกเขาใหญ่ เหยี่ยวขาว เป็นต้น  และในพื้นที่สำนักงานเขตรักษาพันธุ์ฯยังเป็นที่ตั้งของสถานีวิจัยสัตว์ป่าแห่งแรกของภาคตะวันออกและเป็นแห่งที่สองของประเทศไทย รองจากสถานีวิจัยสัตว์ป่านางรำที่ห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี บริเวณหุบเขาร่มรื่นและเย็น   ในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม สามารถชมผีเสื้อได้  เช่น ผีเสื้อสะพายฟ้า ผีเสื้อหางกระดิ่งแววมยุรา ผีเสื้อเจ้าป่า เป็นต้น             สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้แก่ น้ำตกอ่างฤาไน หรือ น้ำตกบ่อทอง อยู่ที่หน่วยพิทักษ์ป่าน้ำตกบ่อทอง เกิดจากคลองหมากบนเขาอ่างฤาไน เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลตลอดปี ห่างจากที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนประมาณ 40 กิโลเมตร มีทางเข้าจากบริเวณบ้านหนองคอก เส้นทางต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ   ตัวน้ำตกอยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์ป่าน้ำตกบ่อทองประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติเหมาะสำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้ศึกษาธรรมชาติอย่างแท้จริง อีกที่หนึ่งคือ  น้ำตกเขาตะกรุบ ขึ้นอยู่กับหน่วยพิทักษ์ป่าเขาตะกรุบ เลยจากที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนประมาณ 30 กิโลเมตรเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ สวยงามมาก จนได้ชื่อว่าเป็นทีลอซูภาคตะวันออกเลยทีเดียว     ลักษณะภูมิประเทศ มีลักษณะเป็นภูเขาสลับซับซ้อนมีที่ราบบ้างเป็นบางส่วน ทางทิศใต้มีเขาอ่างฤาไนบรรจบกับเขาใหญ่ ทางทิศตะวันตกมีเขาละลาก เขาซับมะนาว เขาวง ลักษณะภูมิอากาศ มีลักษณะอากาศชุ่มชื้นตลอดปี โดยจะเริ่มมีฝนตกตั้งแต่เดือนเมษายนและจะสิ้นสุดเมื่อเดือนตุลาคม ชนิดป่าและพรรณไม้ สภาพป่าเป็นป่าดงดิบ ประกอบด้วยป่าดงดิบแล้งและป่าดงดิบชื้นปะปนกัน พรรณไม้ ที่ขึ้นอยู่ได้แก่ ไม้ยาง ไม้กระบาก ไม้มะค่าโมง ไม้ตะเคียน ไม้ตะแบก ไม้นนทรี ซึ่งเป็นไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ และยังมีไม้พื้นล่างที่มีค่าทางเศรษฐกิจอีก เช่น หวายชนิดต่าง ๆ ภาพนี้เป็นกระทิงป่าที่เสียชีวิตแล้ว ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนได้สตาฟ แล้วนำมาจัดแสดงภายในที่ทำการฯ ผมถามถึงสาเหตุของการเสียชีวิต ทางเจ้าหน้าที่ให้คำตอบว่า กระทิงตัวนี้ถูกนายพรานยิงถึง 7 นัด กลางป่า พอเจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงปืน ก็รีบไปดู ปรากฏว่า กระทิงตัวนี้นอนนิ่งเสียชีวิตไปแล้ว จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 09:56:42

ความคิดเห็นที่ 4   ลุงเอกกกกก จากคุณ : แมวน้อยใส่ทูพีช เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 09:57:00

ความคิดเห็นที่ 5   ตามมาเที่ยวอ่างฤาไนกะคุณเอกด้วยนะคะ พร้อมกิฟตามสัญญา  อิอิ จากคุณ : Yai Klong_Tour Rai เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 09:57:24

ความคิดเห็นที่ 6   วันไลท์ เป็นคนแรก ไม่ยอม --------------------------------------------------------------------------- ในทางภูมิศาสตร์แล้ว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ตั้งอยู่ระหว่างหุบเขาของเทือกเขาที่สำคัญ 2 เทือกเขา คือ เทือกเขาสันกำแพงที่เป็นอุทยานแห่งชาติ เขาใหญ่-ทับลาน-ปางสีดา และเทือกเขาจันทบูรณ์ ที่เคยเป็นผืนป่าที่ต่อเนื่องกับเทือกเขาพนมกระวานในเขมร เทือกเขาทั้ง 2 มีจุดสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 1,500 -1,600 เมตร จากระดับน้ำทะเล เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จึงตั้งอยู่ในซอกกำแพงที่สูงตระหง่าน กำแพงนี้จึงเป็นแนวปะทะสภาวะหรือบรรเทาอากาศที่เลวร้ายให้ลดความรุนแรงลง โดยเทือกเขาสันกำแพงคอยปะทะความหนาวเย็นที่แผ่มาจากประเทศจีนในช่วงฤดูหนาว ส่วนเทือกเขาจันทบูรณ์ คอยปะทะและบรรเทาพายุในช่วงมรสุมที่พัดมาจากทะเลจีนใต้ ภูมิอากาศในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนจึงไม่หนาวเย็นเหมือนเขาใหญ่และไม่ชื้นเหมือนเขาสอยดาว สัตว์ป่าจึงเจริญเติบโตและขยายพันธุ์ได้ดี โดยเฉพาะสัตว์ใหญ่ที่ไม่ชอบภูเขาสูงชัน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน มีบริการที่พัก  ทั้งหมด 3 หลัง พักได้หลังละ 4 - 6 คน นอกจากนี้ยังมีจุดกางเต๊นท์บริเวณรอบๆ ซึ่งต้องนำเต๊นท์มาเอง ค่าธรรมเนียมกางเต็นท์กรณีนำเต๊นท์ไปเอง เต๊นท์ขนาด 4 คน เต๊นท์ละ 50 บาทต่อคืน ขนาดเกิน 4 คนเต๊นท์ละ 100 บาทต่อคืน     บริเวณกางเต๊นท์สวยงามมาก ใกล้อ่างเก็บน้ำ บรรยากาศโอบล้อมด้วยธรรมชาติ ต้นไม้ ยามเช้าบรรยากาศสวยงามเหมือนปางอุ๋ง สงบเงียบ ร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อน และมีนกมากมายนานาชนิด      นอกจากนั้นยังมีบ้านพักต้นน้ำ ที่หน่วยจัดการต้นน้ำภูไท จำนวน 2 หลัง พักได้หลังละ 15 -20 คน และ มีอาคารเอนกประสงค์  สำหรับทำกิจกรรม อยู่ห่างจากสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ประมาณ 2 กิโลเมตร กิจกรรมส่องสัตว์กลางคืน เป็นกิจกรรมที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งสำหรับผู้ที่มาพักแรมในพื้นที่เขตฯ  มีบริการรถส่องสัตว์จุได้ 60 คน  ใช้เวลา 30-40 นาที  โดยบริเวณเส้นทางเข้าออกอุทยาน  ทางหลวง 3259 จะปิดถนนเพื่อให้สัตว์ป่า เดินหาอาหาร ระหว่างเวลา 21.00-05.00น.  มีสัตว์ที่พบ อาทิเช่น ช้าง  กระต่าย  เก้ง  เม่น ฯลฯ ภาพนี้จะเป็นบริเวณที่กางเต็นท์และบ้านพัก บริเวณโดยรอบจะเป็นอ่างเก็บน้ำ อากาศเย็นสบาย ลมพัดตลอดเวลา นั่งมองทิวเขาคงจิบกาแฟคงมีความสุขไม่น้อย จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 09:58:14

ความคิดเห็นที่ 7   ตามลุงเอกเข้าป่าด้วยคนครับ คิดถึงไอดินกลิ่นป่า เวลาฝนพรำ ๆ จัง จากคุณ : chartchy เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 09:59:55

ความคิดเห็นที่ 8   น้องแพท ตามไปเที่ยวป่ากันกันครับ ยายบง ตามมาเลยครับ -------------------------------------------------------------------------- ข่าวคราวของปัญหาช้างป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน เริ่มส่อเค้าความรุนแรงมากยิ่งขึ้น  ความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอันเนื่องมาจากการเผชิญหน้ากับ ช้างป่าเหล่านั้น ดูจะเป็นเรื่องที่ดังเข้าหูอยู่บ่อยครั้ง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน คาดการณ์ว่า พื้นที่ป่า 1,079  ตารางกิโลเมตรแห่งนี้ จะถึงจุดอิ่มตัว ในการรับประชากรช้างป่า ในไม่ช้านี้  สัญญาณดังกล่าวเริ่มชัดเจนขึ้น เมื่อชาวบ้านพบช้างเพศผู้ 3 ตัว เดินอยู่หน้าที่ว่าการอำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ช้างตัวหนึ่งอายุประมาณ 7 ปี เดินทางขึ้นไปทางเหนือ และได้ทำร้ายชาวบ้านจนบาดเจ็บ 1 รายและเสียชีวิต 1 ราย ต่อมาช้างดังกล่าวถูกยิงตาย ส่วนช้างเพศผู้ อีก 2 ตัว อายุ 18 และ 20 ปี ออกมุ่งหน้าทางทิศใต้ เข้าไปอาศัยหากินในบริเวณพื้นที่ป่าเขาป้อม ที่มีพื้นที่ประมาณ 10,000 ไร่ นอกเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน  นักวิจัยให้ความเห็นเกี่ยวกับการออกนอกพื้นที่ในครั้งนี้ว่า อาจเป็นเพราะช้างไม่สามารถหาพื้นที่ครอบครองได้ เนื่องจากพื้นที่มี ช้างป่าตัวอื่นครอบครองอยู่แล้ว จึงต้องหาแหล่งที่อยู่อาศัยใหม่ ปัญหาความขัดแย้งระหว่างคนและช้างป่า ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ทวีความรุนแรงมากที่สุดในประเทศไทย  ก่อนหน้านี้ พบว่ามีช้างป่าเสียชีวิตทั้งสิ้น 17 ตัวเกิดจากธรรมชาติ 4 ตัว, เกิดจากมนุษย์ 11 ตัว และไม่ทราบสาเหตุ 2 ตัว ช้างที่เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นช้างเพศผู้ วัยเจริญพันธุ์ และส่วนมากเสียชีวิตในพื้นที่ตอนบนของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ ป่าเขาอ่างฤาไน ที่มีถนนสาธารณะผ่าน และเป็นพื้นที่เกษตรกรรม ภาพนี้เป็นภาพจำลองพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จะเห็นว่าพื้นที่สีเขียวจะเป็นป่าทั้งหมด มีถนนสาย 3259 ตัดผ่านผืนป่า ประโยชน์ของการสร้างถนนสายนี้มีแน่ๆ แต่ผู้ที่โชคร้าย กลับไปอยู่ที่สัตว์ป่า หลายครั้งที่สัตว์ป่าต้องถูกรถชน เสียชีวิตบ้าง พิการบ้าง ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:00:47

ความคิดเห็นที่ 9   ถึงคห.3 ถ่ายรูปตัวเองมาทำไมจ๊ะพ่อกระทิงเปลี่ยว จากคุณ : Yukung เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:01:37

ความคิดเห็นที่ 10   ..........                      ไปด้วยพี่............แต่อย่าพาหลงนะ .. จากคุณ : เจ๊ เชพบ๊ะ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:02:05

ความคิดเห็นที่ 11   สงสารน้องกระทิงมากเลยค่ะ ทำไมคนที่ทำ ใจร้ายจัง นัดเดียวก้อเจ็บแย่แล้วอะ สงสัยรีวิวนี้ เค้าเสียน้ำตาเยอะแน่เลยคุณเอกอะ จากคุณ : Yai Klong_Tour Rai เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:03:08

ความคิดเห็นที่ 12   ตามคนข้างบนมาเข้าป่าค่ะ จากคุณ : ZhuZhuJoopJoop เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:03:45

ความคิดเห็นที่ 13   ตามลุง บุญหลง  งงทุกทิศ ไปเที่ยวด้วยคนนะ จากคุณ : รอยยิ้มของคนดี เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:04:46

ความคิดเห็นที่ 14   น้าชาติ ตามไปเที่ยวป่า ของชอบกันครับ -------------------------------------------------------------------------- ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3259 ที่วิ่งตัดผ่านเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน  สมัยเริ่มดำเนินการก่อสร้างนั้น จำเป็นต้องมีการเปิดป่า และได้ย้ายผู้คนที่เข้ามาบุกรุกจับจองที่ทำกินหลายครัวเรือนทีเดียว ทำให้พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่มีถนนตัดป่าแยกออกเป็นสองส่วน ช่วงระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร ของถนนที่ผ่านเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสามารถพบเห็นสัตว์ป่าที่เดินข้ามถนนไปมาเพื่อหากินได้หลายชนิด ในขณะเดียวกันภาพความทุกขเวทนาที่เกิดกับสัตว์ป่าก็มีให้เห็นอยู่เป็นประจำเช่นกัน ภาพของสัตว์ป่าที่เสียชีวิตจากการถูกรถชน จากการกินเศษขยะ เศษถุงพลาสติก มีอยู่ให้เห็นเรื่อยๆ เศษขยะเหล่านั้นมาจากไหน ก็มาจากยานพาหนะที่สัญจรผ่านไปผ่านมานั่นเอง นับจากปี 2543 เป็นต้นมา ได้เกิดอุบัติเหตุกับช้างป่าบนถนนสาย 3259 ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนมาแล้วจำนวน 13 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 10 คน มีช้างป่าเสียชีวิต 3 ตัว บาดเจ็บอีก 3 ตัว โดยช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดคือ 18.00 – 03.00 น.  ซึ่ง ดูเหมือนว่า ปัญหานี้ เกิดขึ้นรุนแรงที่สุดในพื้นที่ถนนที่ตัดผ่านเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่าง ฤาไน ภาพนี้เป็นบรรยากาศของอ่างเก็บน้ำในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ในความสวยงามของธรรมชาติ เมื่อความเจริญย่างกายเข้ามา ไม่ว่าจะที่ใด ความสูญเสียย่อมเป็นเงาตามตัวเมื่อนั้น จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:05:08

ความคิดเห็นที่ 15   ลุงยู นั่นแหล่ะ รูปลุง เจ๊ ตามมาเลยครับ ยายบง ใจเย็น อย่าเพิ่งร้อง เดี๋ยวผมก็ร้องตามหรอก น้องจุ๊บ ตามมาเลยครับ ยิ้ม ตามมาเลยตัว ---------------------------------------------------------------------- จะขอลำดับเหตุการณ์คร่าวๆ ของปัญหาระหว่างคนกับสัตว์ป่า ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ซึ่งเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวหนึ่งของปัญหาทั้งหมด  เพื่อเป็นอุทาหรณ์ ดังนี้ ไม่นานมานี้ ช้างป่าชื่อพลายสามพรานอายุ 4-5 ปี ได้รับบาดเจ็บจากการถูกบ่วงแร้วพรานป่าดัก เป็นแผลฉกรรจ์ หลังออกไปหากินพืชไร่ชาวบ้าน ต่อมาหลังจากทำการรักษาอยู่นาน พลายสามพรานก็สิ้นลมลงเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว และติดเชื้อในกระแสเลือด ต้นปี 51 กระทิงออกนอกพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน มาไล่ขวิดชาวบ้าน บาดเจ็บหลายราย สาเหตุที่ทำร้ายชาวบ้านนั้น เนื่องมาจาก ช่วงระยะเวลานี้ตรงกับช่วงสืบพันธุ์ บรรดากระทิงเปลี่ยวก็จะเสาะหาคู่ และจะตามกลิ่นของวัวที่ชาวบ้านเลี้ยง เพื่อมาหาคู่ผสมพันธุ์ อีกเหตุการณ์หนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ มีช้างป่างาเดียว เพศผู้ อายุ 8 ปี จากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ออกมากินสวนผลไม้ของชาวบ้าน สร้างความเสียหายกว่า 30 ไร่ ทางเขตฯได้เตือนชาวบ้านอย่าใช้ประทัดจุดไล่ หรือใช้ปืนยิงอย่างเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ช้างตกใจจนเข้าทำร้ายชาวบ้าน ซึ่งตามธรรมชาติ ช้างป่ากินอาหารอิ่มและไม่มีใครรบกวน ประมาณ 7-15 วัน ช้างจะย้ายถิ่นฐานกลับคืนสู่ธรรมชาติเอง อีกเหตุการณ์หนึ่งเมื่อไม่นานมานี้  มีโขลงช้างป่าเกือบ 20 ตัว ทั้งช้างแม่ลูกอ่อน ช้างพลาย ช้างพัง ขึ้นมาขวางถนนสาย   3259 ที่ตัดผ่านหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน  ระหว่างหลัก กม.ที่ 24-25 ดักรถบรรทุกอ้อย-มันสำปะหลัง เมื่อรถจอดก็ใช้งวงดึงมัดอ้อย และมันสำปะหลังจากท้ายรถบรรทุกมากิน นอกจากนี้ยังมีช้างบางตัวใช้หัวชนรถให้คว่ำอีกด้วย ต้นปี51 พบกระทิงป่าเพศผู้ขนาดน้ำหนักตัวราว 800 ก.ก. อายุ 8 ปีเศษ ถูกกับดักด้วยบ่วงเชือกแร้วของพรานป่าที่ข้อเท้าหลังขวา เป็นแผลฉกรรจ์ และมีแผลถูกยิงที่ใต้ตาขวา สะโพกขวา รอยต่อกระดูกสะโพกหลุด บาดเจ็บสาหัส นอนหมอบสิ้นสภาพ ในพื้นที่ป่าชุมชนหมู่บ้านร่มโพธิ์ทอง เขตติดต่อเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ต่อมาได้นำกระทิงป่าตัวนี้ส่งตัวไปรักษาที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี ไม่กี่วันต่อมากระทิงตัวนี้ก็ตายจากไปอย่างน่าสลดใจ ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2537 เจ้าหน้าที่ของทางสถานีวิจัยสัตว์ป่าฉะเชิงเทรา ได้พบจระเข้น้ำจืดบริเวณลำคลอง สายหนึ่ง ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จังหวัดฉะเชิงเทรา และยังสามารถถ่ายภาพไว้ เป็นหลักฐานได้อีกด้วย ซึ่งการจะพบจระเข้อาศัยอยู่ในธรรมชาตินั้น ปัจจุบันแทบไม่หลงเหลือแล้ว เหตุการณต่างๆที่ได้บอกกล่าวมานี้ เป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของความเจ็บปวด เป็นบทเรียนให้จดจำ  ทำอย่างไรคนกับสัตว์ป่า จะอยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข คำตอบแม้ว่าจะดูยาก แต่ก็มีความเป็นไปได้ ถ้าต่างฝ่ายต่างถ้อยที ถ้อยอาศัยกัน หากเปรียบเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนเป็นชีวิตคนๆหนึ่ง คนๆนี้ก็ต้องผ่านความเจ็บปวด ผ่านเรื่องเศร้ามามากมาย แต่ทุกย่างก้าวที่ผ่านไปนั้น กลับทำให้ยิ่งเพิ่มความเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ ซักวันหนึ่งเขาจะกลายเป็นคนที่ดี และมีคุณค่าอย่างแน่นอน จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:08:43

ความคิดเห็นที่ 16   วิธีแก้ปัญหา เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ได้ดำเนินการ ควบคุมและการจัดการถนนสาธารณะ การจัดทำแผนแห่งชาติ และการเสริมทักษะให้แก่ เจ้าหน้าที่ในการดูแล ช้างป่า ซึ่งนับเป็นมาตรการหนึ่งที่จะช่วยให้การเสียชีวิตของช้างป่าในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนลดลงได้ โดยปัจจุบันมีการปิดการสัญจรบนถนนสาย 3259 ในช่วงเวลา 21.00 – 05.00 น ของทุกวันเพื่อ ลดผลกระทบจากความเสียหายเนื่องจากปัญหาดังกล่าว  ซึ่งก็ได้ผล เป็นที่น่าพอใจ โดยเฉพาะรายงานอุบัติเหตุ ที่เกิดขึ้นกับช้างป่าบนท้องถนนนั้น  นับจากเริ่มปิดถนนได้ร่วมปีเศษ ไม่พบว่ามีอุบัติเหตุดังกล่าวอีกเลย จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:09:41

ความคิดเห็นที่ 17   วุ้ย...ดีใจจัง วันนี้นอกจากได้ปาดน้องม่วงแล้ว ยังได้เป็นเพื่อนบ้านกันด้วยจิ แต่ก็แอบหวั่นๆว่าทู้ปร้าจะหมองซะงั้น จากคุณ : เตี้ยอ้วนชวนไถล เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:10:00

ความคิดเห็นที่ 18   ขอตามไปด้วยคนได้ไม๊ครับ คุณม่วงมหากาฬ ท่าทางจะสนุกนะครับ จากคุณ : Koon Shy_Tour Dee เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:10:33

ความคิดเห็นที่ 19   โครงการฟื้นฟูพืชอาหารช้างป่าภูหลวงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ นับเป็นอีกโครงการหนึ่ง ที่บรรเทาและแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของคนและช้างป่า ได้อย่างถาวร นับตั้งแต่โครงการได้ก่อสร้างรั้วไฟฟ้า แบบมาตรฐานและมีชุดปฏิบัติการพิเศษ “สายฟ้า” ออกตรวจพื้นที่ตามแนวรั้วทุกวัน ปัญหาช้างทำลายพืชผลทางการเกษตรบริเวณนั้นก็ไม่ปรากฏอีกเลย จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:10:35

ความคิดเห็นที่ 20   ป้าเตี้ย เดี๋ยวผมแวะไปเยี่ยมนะครับ น้าป้อม ตามมาเลยครับ ---------------------------------------------------------------------- ระหว่างทางที่เข้าไปอ่างเก็บน้ำในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน พวกผมยังพบฝูงนกยูงฝูงหนึ่ง กำลังเดินหากิน อยู่บริเวณริมถนน จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:14:03

ความคิดเห็นที่ 21   ......ตามคนชอบหลงมาเที่ยวด้วยดีก่า.....เผลอ ๆ ม่วงกี้ฯ  คงค้นพบที่ ที่เที่ยวใหม่แน่ ๆ อิ อิ.... จากคุณ : กานพลู...คนชอบเที่ยว เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:14:13

ความคิดเห็นที่ 22   น่าแปลกใจว่าฝูงนกยูงฝูงนี้ ค่อนข้างเชื่อง เดินไปใกล้ๆถ่ายรูปยังได้ คงเคยชินกับมนุษย์พอสมควร ผมออกมาจากสำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างไนด้วยจิตใจที่มีคำถามเกิดขึ้นมากมาย บางครั้งคำถามก็ไม่สามารถหาคำตอบได้ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:14:45

ความคิดเห็นที่ 23   เฟี๊ยววววววววววววว นั่งสาย57 ตามไป จากคุณ : ยายแก่สีม่วง เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:15:17

ความคิดเห็นที่ 24   นู๋แหม่ม ตามมาเลยครับ -------------------------------------------------------------------------- สถานที่ต่อไปที่พวกผมจะไปก็คือ น้ำตกเขาตะกรุบ ซึ่งไม่ห่างจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนนัก ภาพนี้เป็นทางขึ้นไปน้ำตกเขาตะกรุบ ซึ่งปกคลุมด้วยต้นไม้หนาทึบ ต้องมุดบ้าง ปีนบ้าง จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:15:59

ความคิดเห็นที่ 25   ตามน้าม่วงไปเที่ยวด้วยคนจ้า.... จากคุณ : โรม ณ. โคราช เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:16:00

ความคิดเห็นที่ 26   สวัสดีคะ มาชื่นชมผลงานรูปสวย ได้บรรยกาศ จากคุณ : แมงซุ่มมืด (แมงซุ่มมืด) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:16:13

ความคิดเห็นที่ 27   แอบอายอ่ะน้องม่วง ทู้น้องม่วงนอกจากรูปสวยๆแล้ว ยังมีสาระเพียบ อ่ะน้องแหม่ม เดี๋ยวนี้น้องม่วงเค้าปั๊ดตะนาแล้วนะ ถ้าไปไกลๆไม่ค่อยหลงทางแระ จากคุณ : เตี้ยอ้วนชวนไถล เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:17:19

ความคิดเห็นที่ 28   ยาย ตามมาเลยครับ คุณโรม ตามมาเลยครับ --------------------------------------------------------------------------- การเดินทางไปน้ำตกเขาตะกรุบ  ให้วิ่งไปตามถนนสาย 3259 ทางไปอำเภอวังน้ำเย็น เลยจากด่านเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนมานิดเดียว ถึงตลาดทุ่งมหาเจริญ เลี้ยวซ้ายผ่านโรงเรียนบ้านมหาเจริญจนถึงสามแยก มีป้ายบอกทางไปน้ำตกเขาตะกรุบ จากนั้นเลี้ยวขวาไปตามทางเส้นทางผ่านหมู่บ้านอีก 7 กม. เลยแยก รร.ตชด.บ้านคลองตะเคียนชัยไปจนถึงหมู่บ้าน ก่อนเลี้ยวซ้ายไปยังหน่วยพิทักษ์ป่าเขาตะกรุบ  จากจุดนี้เป็นทางผ่านป่าเหมาะสำหรับรถ 4WD เข้าไปอีก 3 กม.ถึงที่จอดรถลานไทร  ก่อนเดินป่าด้วยเท้าไปน้ำตกอีกประมาณ 1 กม. ทางค่อนข้างชัน ภาพนี้เป็นเห็ดป่าจะพบเห็นได้ตลอดสองข้างทาง ทางเดินไปน้ำตกค่อนข้างชัน ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:17:25

ความคิดเห็นที่ 29   หวังว่าวันนี้คงไม่พาหลงตามสโลแกนตัวเองนะลุงเอก "หลงทางเสียเวลา หลงตลอดเวลาคือลุงม่วง" จากคุณ : Yukung เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:18:28

ความคิดเห็นที่ 30   หนีเที่ยวเหรอ อิอิ จากคุณ : **ความจริงในใจ** เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:18:43

ความคิดเห็นที่ 31   คุณแมงซุ่มมืด ขอบคุณมากครับ ที่มาเยี่ยมกันเป็นประจำ ป้าเตี้ย ใครบอกครับ ผมยังหลงอยู่เหมือนเดิม ----------------------------------------------------------------------------- ช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝน จะพบเห็นเห็ดขึ้นมากมายตามขอนไม้ผุผัง บริเวณป่าโดยรอบจะเป็นป่าดิบชื้น ทางเดินจะพบเห็นมูลช้างเป็นระยะๆ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:19:22

ความคิดเห็นที่ 32   ลุงยู เดี๋บวเหอะ เจอดีแน่ น้องพัช ไม่ได้หนีครับ แค่ไม่บอกใครเอง -------------------------------------------------------------------------- เห็ดแชมเปญก็สามารถพบเห็นได้โดยทั่วไปที่นี่ ซึ่งหาชมได้ยากมาก จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:21:09

ความคิดเห็นที่ 33   ระยะทางการเดินไปน้ำตกประมาณ 1 กิโล แต่ดูชั่งนานเหลือเกิน อาจเนื่องมาจากทางเดินต้องป่ายปีน ทางค่อนข้างชันมากๆ แต่ก็เพลิดเพลินด้วยพันธุ์ไม้ ดอกไม้แปลกๆตา จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:22:51

ความคิดเห็นที่ 34   ลงชื่อก่อน ...เดี๋ยวตลาดวาย.. จากคุณ : ฮุยเฉง เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:22:56

ความคิดเห็นที่ 35   ตามมาครับ จากคุณ : หนุ่ม ณ วันวาน เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:23:46

ความคิดเห็นที่ 36   น้ำตกเขาตะกรุบ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่กลางป่าอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน มีความสูง 50 เมตร มีน้ำมากในช่วงฤดูฝน สายน้ำจะไหลจากหน้าผาที่สูงชันเกือบ 90 องศา ลงสู่เบื้องล่างก่อนจะไหลลงสู่น้ำตกเล็กอีกชั้นหนึ่ง ช่วงเดือนสิงหาคมถึงตุลาคมน้ำตกจะสวยมากเป็นพิเศษ บริเวณทางขึ้นน้ำตกเป็นป่าดิบชื้นที่สมบูรณ์ มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมหนาแน่น และเฟิร์นหลายชนิดแทรกขึ้นตามหลืบหิน   เส้นทางก่อนถึงก่อนถึงน้ำตกอาจพบร่องรอยของช้างป่าที่มีชุกชุมในป่าแถบนี้ โดยเฉพาะช่วงเวลาเย็น  และเส้นทางเดียวกันนี้เหมาะสำหรับการเดินดูนกและดูผีเสื้อ ภาพนี้เป็นน้ำตกเขาตะกรุบชั้นแรก น้ำค่อนข้างเยอะทีเดียว คุ้มค่ากับการรอคอยมาก จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:24:04

ความคิดเห็นที่ 37   ตามเข้าป่าด้วยคนครับ ชอบจังเขียวๆ สดชื่น :) จากคุณ : Wini2524 เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:25:22

ความคิดเห็นที่ 38   ป้าเชง ตามมาเลยครับ คุณหนุ่มแก๊งค์แว่นดำ ตามมาเลยครับ -------------------------------------------------------------------------- ขอถ่ายรูปเห็ดแชมเปญอีกซักรูป ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้พบเจอเธออีกเมื่อไหร่ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:25:39

ความคิดเห็นที่ 39   ...................................... จากคุณ : ถนนสายนี้เปรี้ยว เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:25:46

ความคิดเห็นที่ 40   สดชื่นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:27:34

ความคิดเห็นที่ 41   มุดตามลุงม่วงมาด้วยจ้ะ เรื่องของพลายสามพรานนั่นเศร้าแท้    พยายามยื๊อกันสุดชีวิตก็ไม่สำเร็จ จากคุณ : แม่ซากานะ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:28:38

ความคิดเห็นที่ 42   คุณ Wini2524 ตามมาเลยครับ น้าเปรี้ยว ขอบคุณมากครับ ที่แวะมาเยี่ยมชม -------------------------------------------------------------------------- ยิ่งเดินขึ้นไปสูงเรื่อยๆ ความงามของน้ำตก ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:28:40

ความคิดเห็นที่ 43   น้าม่วง หลงทางบ่อยๆหรือ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร "หลงทางยังหาเจอ แต่หลงเธอ นี่สิ หมดหนทาง" จากคุณ : หนุ่ม ณ วันวาน เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:30:27

ความคิดเห็นที่ 44   ถึงขนาดต้องหนีเข้าป่ากันเชียวเหรอลุงงงงงงงง....น้องล้อเล่นน้าาาาา  แค่ลองเล่นดู อิอิ จากคุณ : **ความจริงในใจ** เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:30:55

ความคิดเห็นที่ 45   พี่อุ๊ ขอบคุณมากครับ ที่แวะมาเยี่ยมชม พี่อิ๋ม ใช่แล้วครับ น่าเศร้าใจ และเสียดายมากๆครับ ----------------------------------------------------------------------- บริเวณน้ำตกสามารถพบต้นมอส และเฟริ์น ขึ้นตามหลืบหิน ดูสวยงามมาก แต่ก็ต้องเดินด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจลื่นได้ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:31:20

ความคิดเห็นที่ 46   ตามพี่ม่วงไป เที่ยวด้วย  "ม่วงมหากาฬ"   ชื่อนี้การันตีรีวิว จากคุณ : ชายเอ ทุ่งรังสิต เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:31:30

ความคิดเห็นที่ 47   โอ้โห...เส้นทางทรหดน่าดู ขอบคุณน้องม่วง ที่ทำให้ป้าได้เห็นความงดงามโดยไม่ต้องบากบั่นไปเอง จากคุณ : เตี้ยอ้วนชวนไถล เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:35:01

ความคิดเห็นที่ 48   พี่หนุ่ม ชอบสำนวนนี้จังครับ น้องพัช อย่านะ เดี๋ยวหนีไปบวชเลย น้องชายเอ ขอบคุณมากครับ ชมซะเกินความจริงเลยครับ ------------------------------------------------------------------------ พืชพันธุ์แปลกๆ บริเวณน้ำตกเขาตะกรุบ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:35:55

ความคิดเห็นที่ 49   สดชื่นตาและใจดีจังค่ะลุงเอก   @^_^@ จากคุณ : CX gal เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:36:33

ความคิดเห็นที่ 50   มีไรกันเหรอลุงม่วงถึงต้องหนีเข้าป่า จากคุณ : Yukung เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:37:31

ความคิดเห็นที่ 51   ไม่เป็นไรครับป้าเตี้ย แต่ผมเกือบเอาชีวิตไม่รอด เหนื่อยมากๆครับ ---------------------------------------------------------------------------- ใยแมงมุมเมื่อถูกละอองน้ำจากน้ำตก ดูแปลกตา และสวยงามดี จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:38:02

ความคิดเห็นที่ 52   ขอบคุณค่ะ ได้เที่ยวโดยไม่เปียก จากคุณ : มาดามกระปุ๊กลุ๊ก เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:38:23

ความคิดเห็นที่ 53   น้องแพม ขอบคุณมากครับ ไปเที่ยวป่ากันครับ ลุงยู ถามแบบนี้ หมายความว่าอย่างไง คุณ มาดามกระปุ๊กลุ๊ก ขอบคุณเช่นกันครับ ที่แวะมาชม ----------------------------------------------------------------------- นักท่องเที่ยวที่เข้ามาน้ำตกแห่งนี้ มีเพียง 2-3 กลุ่มเอง ทั้งๆที่วันนี้เป็นวันหยุด อาจเพราะ ยังไม่เป็นที่รู้จักนัก ประกอบกับหนทางขึ้นน้ำตกค่อนข้างลำบาก จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:42:02

ความคิดเห็นที่ 54   แอบบอู้งานตามลุงเอกเข้าป่าไปติดๆ จากคุณ : เวสป้าสยาม เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:42:39

ความคิดเห็นที่ 55   ชอบมาดูรูปสวยๆจังเลยค่ะ อิอิ จากคุณ : ตัวน้อยกะตัวโต (La CitrOuilLe~*) เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:43:24

ความคิดเห็นที่ 56   กับฉายาที่ถูกเรียกขานว่าเป็น ทีลอซูภาคตะวันออกไม่เกินความจริงเท่าไหร่นัก ดูแล้วสวย งดงาม และอลังการมากๆ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:44:06

ความคิดเห็นที่ 57   ขี้เกียจอ่าน เข้ามาดูรูปอย่างเดียวนะ จากคุณ : Mukzaki เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:46:12

ความคิดเห็นที่ 58   คุณเวสป้าสบาม ตามมาเลยครับ แต่ระวังเจ้านายจับได้ คุณ ตัวน้อยกะตัวโต (La CitrOuilLe~*) ชอบก็ตามกันต่อครับ ------------------------------------------------------------------------- ภาพน้ำตกเขาตะกรุบชั้นสุดท้าย ชั้นที่สวยที่สุด ละอองน้ำกระจายไปทั่วบริเวณ สร้างความสดชื่น และชุ่มช่ำยิ่งนัก จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:46:59

ความคิดเห็นที่ 59   แหะๆ น้ามุก ไม่อ่านกันซักหน่อยเหรอครับ -------------------------------------------------------------------------- หากเปรียบน้ำตกผืนนี้เป็นภาพวาดภาพหนึ่ง ภาพนี้ก็ต้องเป็นภาพที่เขียนโดยศิลปินที่เก่ง เพราะเพรียบพร้อมไปด้วยความสวยงาม และความบริสุทธิ์ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:48:52

ความคิดเห็นที่ 60   อยากนั่งมองสายน้ำอย่างนี้นานๆ สายน้ำที่ไม่มีวันหยุดไหล ขอบคุณธรรมชาติที่ชั่งสร้างสรรค์ เติมแต่งได้สวยงามมาก จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:50:18

ความคิดเห็นที่ 61   นั่งอยู่ประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง ทั้งเสื้อ และกล้องเปียกน้ำไปหมด ละอองน้ำจากน้ำตก จะกระจายไปทั่วบริเวณ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:51:50

ความคิดเห็นที่ 62   ผมใช้เวลาอยู่ในน้ำตกนี้ รวมเวลาในการเดินเข้ามาประมาณ 3 ชั่วโมง ทุกเศษเสี้ยวเวลามันชั่งผ่านไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:53:15

ความคิดเห็นที่ 63   ถ้าหยุดเวลาได้ ขอนั่งมองน้ำตกแบบนี้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ด้วยภาระกิจการงาน จึงต้องอำลาจากไป ยังไงก็จะขอเก็บความสวยงามนี้ไว้ในใจตลอดไป จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:54:41

ความคิดเห็นที่ 64   ขยันรีวิว ขยันเที่ยวดีจังลุง ขยันทำงานแบบนี้มั่งก็ดีนะ จากคุณ : แมงปอบินเดี่ยว เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:54:44

ความคิดเห็นที่ 65   ทู้ป้าเริ่มแปลกๆแระ มาพักสายตาที่ทู้น้องม่วงดีก่า หูย..น้ำตกงามจริงๆ เฮ้อ เห็นแล้วก็พอเข้าใจที่น้องม่วงบอกว่าแทบตาย ว่าแต่ ไปเที่ยวแบบนี้ แล้วน้องใบหยกไม่ร้องตามเหรอจ๊ะ จากคุณ : เตี้ยอ้วนชวนไถล เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 10:55:19

ความคิดเห็นที่ 66   น้าแมง ประชดประชัน หรือน้อยใจวาสนาเนี่ย ก็ไปด้วยกันแหล่ะครับป้าเตี้ย แต่น้องหยกไม่ได้เข้าไปด้วย มันลำบากครับ ------------------------------------------------------------------------- ระหว่างทางที่รถวิ่งกลับ จะพบเห็นพืชพันธุ์ดอกไม้แปลกๆ สวยงามมาก จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:00:46

ความคิดเห็นที่ 67   เดินไหวเหรอเนี่ยลุง  หรือจ้างใครขึ้นมาถ่ายรูป อิอิ...ลุงอย่าหนีไปบวชเลย  เดี๋ยวญาติโยมเค้าจะไม่มาทำบุญ...นึกว่าโจรหนีมาห่มผ้าเหลือง ฟิ้วววววววววววววววววว ไปดีกว่า อิอิ จากคุณ : **ความจริงในใจ** เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:01:05

ความคิดเห็นที่ 68   เห็นอะไร อ่าง ๆ เลยเข้ามาดูครับ กิฟหมดให้ แทนครับลุง จากคุณ : keep it up เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:01:59

ความคิดเห็นที่ 69   กะว่าอีกไม่นานกระทู้นี้คงมีรูปมดให้ดูมั่งนะ ลืมทัก คห.บน พี่ตุ๋มเข้าผิดเวปแล้วมั๊งครับ เกี่ยวกับอ่างๆ เนี่ย แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 53 11:16:34 จากคุณ : Yukung เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:06:41

ความคิดเห็นที่ 70   น้องพัช จะหนีไปไหน มาโดนทำโทษก่อนเลย น้าตุ๋ม กิฟไม่เป็นไรครับ แค่มาเยี่ยมชมก็ดีใจแล้วครับ ------------------------------------------------------------------------- ดอกชนิดหนึ่งในตระกูลขิง ข่า สามารถพบเห็นได้ตลอดทางจริงๆ ช่วยแต่งแต้มให้สองข้างทางดูมีชีวิต ชีวาขึ้นมาทันทีทันใด จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:10:01

ความคิดเห็นที่ 71   ลืมถ่ายมาอะลุงยู กระทู้ก่อนยังถ่ายเลย ลืมได้ไงเนี่ย ----------------------------------------------------------------------- นอกจากนั้น เราสามรถพบผีเสื้อมาเกาะอยู่ตามถนนลูกรัง ได้เป็นจำนวนมาก จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:12:49

ความคิดเห็นที่ 72   ในช่วงเวลานี้ ผีเสื้อจะออกมากินโปร่งดิน เป็นสีสันของผืนป่าแห่งนี้ได้ดีทีเดียว จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:14:44

ความคิดเห็นที่ 73   เส้นทางจากด่านถึงลานจอดรถที่จะเดินไปน้ำตก ระยะทาง 2 กิโลกว่าๆ รถที่เหมาะในการเข้ามา ต้องขับเคลื่อนด้วย 4 ล้อ ทางบางช่วงจะเป็นล่องน้ำ บางช่วงจะเป็นหินก้อนๆ ค่อนข้างลำบาก จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:16:38

ความคิดเห็นที่ 74   ที่นี่ไม่มีของขาย ไม่มีร้านค้า เสียค่าธรรมเนียมการเข้าเพียงเล็กน้อย ผมไปกัน 5 คนเด็ก 2 เสียเพียง 100 บาท จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:19:03

ความคิดเห็นที่ 75   น้องม่วงจวนเสร็จยังอ่ะ ของปร้าเหลืออีกครึ่ง มัยเน็ตมันช้าจังวุ้ย ชอบผีเสื้อสวยๆอีกแล้ว จากคุณ : เตี้ยอ้วนชวนไถล เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:20:28

ความคิดเห็นที่ 76   ระหว่างทางกลับ ขอเก็บภาพ ไร่ข้าวโพด ซึ่งสามารถพบเห็นได้ทั่วไป เจ้าของบางรายต้องเดือดร้อนจากการที่ช้างป่าลงมากินพืชไร่ นอกจากข้าวโพดแล้ว ที่พบเห็นตลอดสองข้างทาง ก็มีการทำไร่มันสำปะหลัง ปลูกต้นยูคาริบตัส  ปลูกต้นยาง เป็นต้น จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:20:58

ความคิดเห็นที่ 77   ภาพสวยมากค่ะ ภาพในความคิดเห็นที่ 3 ดูแววตาแล้วเศร้ามาก ยิ่งอ่านข้อความขนลุกเลยค่ะ จากคุณ : bombik เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:22:26

ความคิดเห็นที่ 78   มีชายเอ ทุ่งรังสิต ก็ต้องมี หญิงเอ ทุ่งวัดดอน จากคุณ : เด็กชายถั่วงอกหัวโต เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:23:09

ความคิดเห็นที่ 79   อีก 4-5 รูปครับป้า ใจเย็นๆ ------------------------------------------------------------------------ อีกหนึ่งสถานที่ที่พวกผมแวะเที่ยว คืออ่างเก็บน้ำสียัด ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนนัก ตัวอ่างเก็บน้ำจะเป็นเขื่อนดิน กักเก็บน้ำเพื่อการเกษตร ตั้งอยู่หมู่ 2 ตำบลท่าตะเกียบ ห่างจากตัวจังหวัดฉะเชิงเทราไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 90 กิโลเมตร บนทางหลวงหมายเลข 3259 ห่างจากที่ว่าการอำเภอท่าตะเกียบประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นเขื่อนดินเก็บกักน้ำเพื่อการเกษตร ภูมิทัศน์ โดยรอบมีความสวยงาม สามารถเล่นน้ำ พายเรือ ตกปลา ขี่จักรยาน เดินป่า พักแรมกางเต็นท์บริเวณริมอ่างเก็บน้ำได้ เหมาะเป็นสถานที่เล่นกีฬาทางน้ำและพักผ่อนชมธรรมชาติ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:23:45

ความคิดเห็นที่ 81   น้ำตกสวยมากๆครับ น้าม่วง จากคุณ : inint&anant เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:27:13

ความคิดเห็นที่ 83   คุณ bombik นั่นแหล่ะครับ ที่ต้องการสื่อให้เห็น ป้าเอ วัดดอนเค้าว่าผีดุนะ ---------------------------------------------------------------------------- บนสันเขื่อนเป็นทางรถวิ่ง มองเห็นวิวทิวทัศน์ได้สวยงาม  มีร้านอาหารริมอ่างเก็บน้ำ  จากบริเวณเขื่อนสามารถขึ้นไปยังจุดชมวิวเพื่อชมทิวทัศน์ และสักการะศาลเจ้าพ่อเขากา ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวท่าตะเกียบ มีตำนานเล่าว่า ท่านเคยเป็นทหารเอกของพระเจ้าตากสินในสมัยที่ไปตีเมืองจันทบุรี แล้วมาเสียชีวิตที่นี่ จึงตั้งศาลไว้เป็นอนุสรณ์ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:27:40

ความคิดเห็นที่ 84   ขอบคุณครับคุณอินอิ๊น ไปเที่ยวด้วยกันครับ --------------------------------------------------------------------------- สำหรับพื้นที่ที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองสียัด จะอยู่บริเวณท้ายน้ำของอ่างเก็บน้ำ ที่สามารถขยายเขตชลประทานเพิ่มขึ้น และพื้นที่ตอนท้ายของอ่างเก็บน้ำ  ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตโครงการส่งน้ำ และบำรุงรักษาท่าลาด สำหรับพื้นที่ที่อยู่ในเขตที่จะได้รับประโยชน์จากอ่างเก็บน้ำคลองสียัดอีกแห่งหนึ่ง ได้แก่ พื้นที่บริเวณฝั่งซ้ายแม่น้ำบางปะกง พื้นที่ในส่วนนี้กล่าวโดยรวมได้ว่า มีพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาฝั่งซ้ายแม่น้ำบางปะกง ตั้งแต่จังหวัดฉะเชิงเทราขึ้นไปจนถึงอำเภอบางคล้า มีการทำสวน ผลไม้ ซึ่งมักจะเป็นสวนมะม่วง และที่ตั้งของฟาร์มเลี้ยงสุกรกระจายอยู่ทั่วไป ส่วนบริเวณใต้ตัวจังหวัดฉะเชิงเทราลงมา มีการเลี้ยงกุ้ง กุลาดำ ซึ่งเป็นการเลี้ยงสัตว์น้ำกร่อยอยู่ในเขตอำเภอเมือง อำเภอบางปะกง อำเภอบ้านโพธิ์ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:30:19

ความคิดเห็นที่ 85   ผมชอบที่นี่มาก ดูเงียบสงบ ไม่มีนักท่องเที่ยวมากนัก บรรยากาศดี ลมพัดเย็นสบาย วันนี้ท้องฟ้าปกคลุมไปด้วยเมฆฝน แดดไม่ค่อยมี ทำให้ไม่ร้อนมากนัก จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:31:53

ความคิดเห็นที่ 86   สวยมาก ลุงเอกก จากคุณ : ยายแก่สีม่วง เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:31:56

ความคิดเห็นที่ 88   ซ้ำ แก้ไขเมื่อ 19 ก.ค. 53 12:00:09 จากคุณ : ยายแก่สีม่วง เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:33:15

ความคิดเห็นที่ 89   .. น้าม่วงนำเรื่องราวดีๆจากผืนป่ามาฝากกันอีกแล้ว อ่านเรื่องราวเก่าๆ แล้วก็น่าเศร้านะครับ มนุษย์รุกคืบไปในพื้นที่ป่าเมื่อไหร่ ความสูญเสียไม่มากก็น้อยต้องตามมาทุกทีเลย .. จากคุณ : POGGHI เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:35:44

ความคิดเห็นที่ 90   ยายมาเบิ้ลเลยนะ ขอบคุณสำหรับคลิปวีดีโอครับ ------------------------------------------------------------------------ ขอลาด้วยภาพจุดชมวิวของอ่างเก็บน้ำ  ธรรมชาติชั่งสวยงามเหลือเกิน อยู่ที่ว่าเราจะอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างไร ได้ดีแค่ไหน ทุกชีวิตต้องพึ่งพาอาศัยกัน ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ป่า ขอบคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมชมครับ โอกาสหน้าจะพาไปเที่ยวใหม่ สวัสดีครับ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:36:06

ความคิดเห็นที่ 91   บริสุทธิ์ สวยงาม และเศร้า ขอบคุณที่รีวิวให้ดูนะคะ จากคุณ : ขนมไทยห่อใบตอง เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:39:17

ความคิดเห็นที่ 92   สวัสดีครับน้าป๊อกกี้ เมื่อความเจริญคืบคลานเข้าไป ผลเสียก็ตามมาอย่างนี้แห่ละครับ ขอบคุณที่มาเยี่ยมชมกันนะครับ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:40:07

ความคิดเห็นที่ 93   มีของกินไรมาฝากเค้ามั่งอะ จากคุณ : **ความจริงในใจ** เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:40:30

ความคิดเห็นที่ 94   ขอบคุณค่ะ เพิ่งเคยได้ยินชื่อ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน เหมือนกันค่ะ จากคุณ : ย้ำคิดย้ำฝัน เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:52:52

ความคิดเห็นที่ 95   รูปสวยค่ะ จากคุณ : beaulek เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:54:45

ความคิดเห็นที่ 96   ขอบคุณค่ะ ภาพสวยมาก สงสารสัตว์ป่าที่นี่จัง ไม่ทราบว่าจะมีหน่วยงานอะไรเข้าไปช่วยเหลือบ้างไหมคะ จากคุณ : jeangirl เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 11:57:20

ความคิดเห็นที่ 97   สงบจริงๆนะครับ ชอบจัง ขอบคุณนะครับ คุณ ม่วงมหากาฬ จากคุณ : Koon Shy_Tour Dee เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 12:05:12

ความคิดเห็นที่ 98   เที่ยวธรรมมชาติอีกแย๊ววว ~!!!~ ตามมาเที่ยวด้วยคนจ้า ข้อมูลละเอียดจังเลย รูปสวยมากๆๆเลยค่ะลุงเอก ^^ จากคุณ : Pinkwinter เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 12:08:54

ความคิดเห็นที่ 99   ลุงม่วง ... เห็นแฟนนู๋เฟิร์นอยู่แถวนั้นไม๊คะ ^_^   ขอบคุณที่พาไปเที่ยวน๊าคะคุณลุง ^__________^ จากคุณ : เมื่อไหร่จะมีความรักดีๆซะทีนะ เขียนเมื่อ : 19 ก.ค. 53 12:12:02