 |
ความคิดเห็นที่ 16 |
|
ราวปีพุทธศักราช ๒๓๐๐ พระเจ้าเอกทัศน์ พระเจ้าแผ่นดินองค์สุดท้ายแห่งกรุงศรีอยุธยาและ พระยาทะระ พระมหากษัตริ์มอญองค์สุดท้ายแห่งกรุงหงสาวดี ซึ่งมี พระเจ้าอะลองพระยาแห่งกรุงอังวะ ได้ยกทัพตีเมืองหงสาวดีได้จุดไฟเผาเมืองพินาศสิ้นจนถึงเมืองเมาะตะมะและเมาะลำเลิง มอญจึงเสียเอกราชมาจนถึงปัจจุบัน ในสมัย พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดี ศรีสินทรมหาจักกรีบรมนาถ (พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช) เจ้าพระยารามัญวงศ์ กราบทูลเรื่องมอญขอพึ่งพระบรมโพธิสมภารให้ทรงทราบ พระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้เจ้านายมอญที่เหลือชีวิตอยู่ ๗ คน ให้เป็นนายด้านป้องกันเมืองชายแดน ๗ เมือง เมืองทั้ง ๗ นั้น ได้แก่ ไทรโยค ท่าขนุน ท่ากระดาน ท่าตะกั่ว ลุ่มสุ่ม เมืองสิงห์และทองผาภูมิ โดยมีเจ้าเมืองไทรโยคเป็นหัวหน้าอีกทีหนึ่ง เมืองทั้ง ๗ มีหน้าที่เป็นข้าหลวงต่างพระเนตรพระกรรณ เพราะเป็นเมืองหน้าด่าน ต่อมาได้มีมอญอพยพครอบครัวเข้ามาอีกประมาณ ๕,๐๐๐ ครอบครัวจึงทำให้ไม่มีที่ทำมาหากินเพราะภูมิประเทศเป็นภูเขาลำเนาไพร ดังนั้นมอญบางพวกจึงอพยพไปทางเมืองปทุมธานี ลพบุรี หัวหน้ามอญทั้ง ๗ จึงเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปหาเจ้าพระยารามัญวงศ์และพระยามหาโยธา เจ้าพระยาทั้งสองท่านจึงพาเข้ากราบบังคมทูลของพระราชทานที่ทำมาหากิน พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้พระยามอญทั้ง ๗ เลือกที่ทำมาหากินเอาเองแล้วแต่จะพอใจที่ใด พระยามอญทั้ง ๗ จึงทูลขอที่ริมสองฝั่งแม่น้ำแม่กลอง ตั้งแต่เมืองไทรโยคจนถึงเมืองราชบุรีแล้วจึงพระราชทานท้องตราให้พระยามอญทั้ง ๗ มาด้วย ฝ่ายพระยามอญทั้ง ๗ ได้พิจารณาเห็นว่าที่บริเวณตั้งแต่อำเภอบ้านโป่งถึงอำเภอโพธาราม เป็นทำเลที่เหมาะแก่การที่จะตั้งบ้านเมืองของพวกตน เดิมทีที่ตั้งสองฝั่งแม่น้ำแม่กลองนี้เป็นที่ตั้งบ้านเรือนของชาวลาวเวียงจันทร์ที่ถูกกวาดต้อนมาเป็นเชลยครั้งสมัย สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีมหาราช ซึ่งได้ตั้งบ้านเรือนเป็นโรงนาเล็กๆพระยามอญจึงได้เอาท้องตรามาให้ดูว่าบัดนี้ พระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานที่เหล่านี้ให้แก่พวกมอญแล้ว ดังนั้นชาวลาวเวียงจันทร์จึงถอยร่นออกไปอยู่บริเวณ วัดโบสถ์ วัดบ้านเลือก วัดบ้านฆ้อง บ้านสิงห์ เมื่อได้ทำเลแล้วจึงมีหนังสือมาถึงเจ้าพระยามอญทั้งสอง เพื่อขอพระราชทางวิสุงคามสีมาจากพระบาทสมเด็จพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯได้ ดังนั้น วัดคงคา จึงเป็นวัดแรกของชาวไทยรามัญ มีเจดีย์รอบๆพระอุโบสถ ๗ องค์ ซึ่งหมายถึงเมืองหน้าด่านทั้ง ๗ เมืองนี้ ในสมัยรัชกาลที่ ๒ ได้คิดสร้างวัดตามหมู่บ้านใหญ่รุ่นที่ ๒ คือวัดใหญ่นครชุมน์ วัดม่วง วัดบ้านฆ้อง ในสมัยรัชกาลที่ ๓ มีวัดมอญรุ่นที่ ๓ คือ วัดป่าไผ่ วัดไทร วัดเกาะ วัดตาผา วัดบ้านโป่ง วัดโชค วัดตาลปากลัด วัดหัวหิน วัดโพธิ์โสภสราม วัดมะขามและวัดม่วงล่าง และในสมัยที่รัชกาลที่ ๔ มีวัดมอญรุ่นที่ ๔ คือ วัดหนองกลางดง วัดชัยรัตน์ วัดหุบมะกล่ำ วัดดอนกระเบื้อง และวัดเขาช่องพราน (วัดต้นตระกลูปัณยารชุน เป็นเชื้อสายพระยามอญทั้ง ๗ เหมือนกัน)
พระวิญญู (ถิระปัญโญ) เรียบเรียง สถานที่: ลุ่มแม่น้ำแม่กลอง
จากคุณ |
:
นครชุมน์
|
เขียนเมื่อ |
:
12 ก.ค. 53 21:09:08
|
|
|
|
 |