ความคิดเห็นที่ 1   ในวันนั้น ที่ได้กลับไปเยือนภูเก็ต มายืนอยู่ตรงนี้ ณ ที่ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางของผู้คนที่เข้ามาสัมผัสความงดงามของเกาะภูเก็ต  ข้ามสะพานที่เต็มไปด้วยเรื่องราวคู่กาลเวลา เรื่องเล่าขานที่กลายเป็นตำนานคู่สะพานแห่งนี้ จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:12:10

ความคิดเห็นที่ 2   นักเดินทางคนแล้วคนเล่า เดินทางข้ามสะพานแห่งนี้ มาเยือนภูเก็ตด้วยเหตุผลหลากหลาย แต่สำหรับผมมีเพียงเหตุผลเดียวที่นำพาหัวใจดวงเดิมกลับมาที่นี่อีกครั้ง นั่นคือ มนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติและความเป็นตัวตนที่ชัดเจนของไข่มุกเม็ดงามแห่งอันดามัน จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:13:23

ความคิดเห็นที่ 3   เวลาผันผ่าน ความบอบช้ำและผลกระทบจากเหตุการณ์ภัยธรรมชาติเมื่อหลายปีก่อนจางหายไป ไข่มุกเม็ดนี้กลับมาเจิดจรัสอีกครั้ง  แต่ตำนานความรักชั่วนิรันดร์ยังคงอยู่ เล่าขานสืบทอดมาจนทุกวันนี้ จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:14:39

ความคิดเห็นที่ 4   อาจพูดได้ว่าไม่มีชาวภูเก็ตคนไหนไม่เคยได้ยินได้ฟังตำนานแห่งความรักที่อยู่คู่กับสะพานคู่บ้านคู่เมืองชาวภูเก็ตที่สร้างข้ามช่องปากพระ เชื่อมภูเก็ตกับแผ่นดินใหญ่ บริเวณท่าฉัตรไชยกับท่านุ่นของ จ พังงา จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:15:15

ความคิดเห็นที่ 5   เรื่องราวความรักของชายหนุ่มหญิงสาวคู่หนึ่ง ที่เกิดมาแตกต่างด้วยฐานะทางสังคมและชาติตระกูล ชายหนุ่มยากจน ประกอบอาชีพขับรถสองแถวและรับจ้างกรีดยาง  กับ  นักศึกษาวิทยาลัยครู  เมื่อมิอาจสมหวังในรัก ทั้งสองจึงตัดสินใจตรงกันว่ามีแต่ความตายเท่านั้นที่จะพรากทั้งสองไปจากกัน จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:16:37

ความคิดเห็นที่ 6   ยามเมื่อยืนบนสะพานแห่งนี้ มองลึกลงไปภายใต้ผืนน้ำสีมรกต พลันนึกถึงเรื่องราวที่เป็นตำนานเล่าขาน  22 กพ 2516 คือจุดเริ่มต้นของตำนานรักบทนี้  ในวันที่ทั้งสองตัดสินใจฝังร่างลงบนผืนน้ำ ณ สะพานแห่งนี้   ทิ้งเรื่องราวความรักอันซาบซึ้ง ให้ผู้คนเล่าขานสืบต่อกันมา จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:17:04

ความคิดเห็นที่ 7   เป็นตำนานแห่งรักที่มีมาพร้อมๆกับการเริ่มเปิดใช้สะพานแห่งนี้เมื่อหลายสิบปีมาแล้ว แม้มีการก่อสร้างสะพานแห่งใหม่ แต่ตำนานบทนี้ยังคงมิลบเลือนไป จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:17:39

ความคิดเห็นที่ 8   ปาดค่ะ จากคุณ : phuketian เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:19:49

ความคิดเห็นที่ 9   จากสะพานรักสารสิน มุ่งหน้าลงทางตอนใต้ของเกาะผ่านหาดไม้ขาว หาดที่เคยได้รับผลกระทบหาดหนึ่ง แต่ทุกวันนี้ ความสวยงามกลับพื้นคืนนำพาผู้คนกลับมาเยือน จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:19:56

ความคิดเห็นที่ 10   อะ เจอเจ้าถิ่นระหว่างทาง น้องคนภูเก็ต สงสัยพี่จะได้คนพาเที่ยวแระ   จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:21:32

ความคิดเห็นที่ 11   วัดพระทอง หรือวัดพระผุด มีพระพุทธรูปผุดขึ้นจากพื้นดินเพียงครึ่งองค์ จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:22:30

ความคิดเห็นที่ 12   ทราบว่าเมื่อคราวพม่ายกพลมาตีเมืองถลาง ทหารพม่าพยายามขุดพระผุดเพื่อนำกลับไปพม่า แต่ขุดลงไปคราวใดก็มีฝูงแตนไล่ต่อยจนต้องละความพยายาม จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:23:42

ความคิดเห็นที่ 13   นึกว่าน้าเคจะไปโสะพานเล่นซะอีก จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:23:52

ความคิดเห็นที่ 14   ต่อมาชาวบ้านได้นำทองหุ้มพระพุทธรูปที่ผุดจากพื้นดินเพียงครึ่งองค์ ดังปรากฏอยู่จนถึงปัจจุบัน จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:24:00

ความคิดเห็นที่ 15   ขอตามไปเที่ยวด้วยคนน่ะครับผม จากคุณ : aoxkup เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:24:30

ความคิดเห็นที่ 16   อะ ปร้าอุ๊ ถ้าไปด้วยกันจะชวนโดด กล้าป่าว จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:24:56

ความคิดเห็นที่ 17   aoxkup ตามไปด้วยกันครับ จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:25:33

ความคิดเห็นที่ 18   ภายนอกวัดในวันนั้นมีพิธีสรงน้ำพระเนื่องในวันสงกรานต์ จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:26:17

ความคิดเห็นที่ 19   พระอุโบสถอันงดงามของวัดพระทอง จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:27:14

ความคิดเห็นที่ 20   ใครจะกล้าโดดกะน้าเคล่ะ   จากคุณ : หมูอ้วนจอมพลัง เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:27:41

ความคิดเห็นที่ 21   นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของ "พิพิธภัณฑสถานวัดพระทอง" จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:27:56

ความคิดเห็นที่ 22   ตามไป ภูเก็ต ด้วยครับ จากคุณ : นายฟ้าใส เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:28:01

ความคิดเห็นที่ 23   อะ ปร้าอุ๊ คิดว่าอยากชวนจะสร้างตำนานบทใหม่ซะอีก   จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:28:48

ความคิดเห็นที่ 24   "พิพิธภัณฑสถานวัดพระทอง" เป็นที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุข้าวของเครื่องใช้ของชาวภูเก็ต จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:29:30

ความคิดเห็นที่ 25   เช่น "จังซุ่ย" เสื้อกันฝนชาวเหมืองแร่ดีบุก และรองเท้าตีนตุกของสตรีเชื้อสายจีนที่ต้องมัดเท้าให้เล็กตามค่านิยมของสังคมสมัยนั้น แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 53 15:30:36 จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:30:02

ความคิดเห็นที่ 26   ตามไปด้วยคนนะครับ น้าเค จากคุณ : รอยยิ้มของคนดี เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:30:11

ความคิดเห็นที่ 27   อะ ยิ้ม กะ นายฟ้าใส ได้ด้วยกันเลย แต่ต้องรักษาระยะห่างนะ เด่วคนเข้าใจผิด   จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:31:47

ความคิดเห็นที่ 28   นี่น้าเค  มาเล่าเรื่องเศร้าซะแระ     เดี๋ยวนี้ขับรถสองแถวดูท่าว่าจะรวยกว่าอาชีพครูนะน้า ถ้าสองคนนั้นมาเกิดสมัยนี้คงไม่มีปัญหาโศกนาฏกรรมความรัก จากคุณ : นั่งอมยิ้มริมระเบียง เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:32:02

ความคิดเห็นที่ 29   พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวัน เวลา 07.00-17.00 น. จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:32:18

ความคิดเห็นที่ 30   วัดพระทอง (วัดพระผุด) อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 21 กิโลเมตร ไปตามถนนเทพกษัตรีผ่านสี่แยกอำเภอถลาง ถึงที่ว่าการอำเภอถลางทางด้านขวาจะมีทาง แยกเข้าวัดพระทอง จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:32:55

ความคิดเห็นที่ 31   อะ น้องอมยิ้ม น่านสินะ เราเจอกันช้าไปอะป่าว จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:34:11

ความคิดเห็นที่ 32   ออกจากวัดพระทอง มุ่งหน้าลงมาทางตอนใต้ของเกาะภูเก็ต เข้าสู่ตัวเมืองระหว่างทางผ่านหาดกะรน หาดทรายที่ยาวเหยียด ทรายขาวสะอาด จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:35:47

ความคิดเห็นที่ 33   ตามไปเที่ยวทะเลคลายร้อนด้วยคนครับ จากคุณ : samapapa เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:36:04

ความคิดเห็นที่ 34   #31 ^ ^ ^ อืมมมมมม   ใช่แล้ว  มาเจอน้าเคตอนน้าเคอายุ 80    กรั่กๆๆๆๆ   แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 53 15:37:20 จากคุณ : นั่งอมยิ้มริมระเบียง เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:36:31

ความคิดเห็นที่ 35   เป็นลักษณะเด่นของหาดกะรน ทิวทัศน์ที่สวยงามของเนินทรายเหนือชายหาด มีฉากหลังเป็นทิวสนทะเลและต้นตาลขึ้นเรียงรายอยู่ จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:39:37

ความคิดเห็นที่ 36   samapapa ตามไปด้วยกันครับ อะ น้องอมยิ้ม 80 นี่ หมายถึง พศ ไหน เนี่ย จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:41:31

ความคิดเห็นที่ 37   จึงเป็นแหล่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาชื่นชมความงามตามธรรมชาติได้ อย่างดีอีกแห่งหนึ่ง จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:42:25

ความคิดเห็นที่ 38   พศ. 2553    น้าเคอายุครบ 80   เอิ้กกกกกกก.... จากคุณ : นั่งอมยิ้มริมระเบียง เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:42:53

ความคิดเห็นที่ 39   เข้าสู่ตัวเมืองมาย้อนรอยภูเก็ต เมืองที่มีประวัติศาสตร์และความรุ่งเรืองอันยาวนานเมืองหนึ่งของไทย โดยหนึ่งในรอยอดีตอันรุ่งเรืองของภูเก็ตก็คือตึกเก่าสถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรตุกีส ที่ผสมผสานศิลปะตะวันตกและตะวันออกเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืนจนเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของเมืองภูเก็ต จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:43:25

ความคิดเห็นที่ 40   อะ น้องอมยิ้ม พี่ว่า 80 นี่ น่าจะอายุเราสองคนรวมกันนะ เอาเป็นว่า เรารุ่นใกล้กัน  ฟันธง จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:44:26

ความคิดเห็นที่ 41   ตึกเก่าเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อกว่าศตวรรษที่ผ่านมา ตั้งตระหง่านอยู่ในย่านการค้าเก่าเเก่ของเมือง กระจายอยู่ทั่วตัวเมืองภูเก็ต สามารถเดินชมได้อย่างต่อเนื่อง จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:44:49

ความคิดเห็นที่ 42   นอกจากนี้ในย่านเมืองเก่า ยังมีร้านอาหารอร่อยหลายเจ้าให้เที่ยวไปกินไปอย่างเพลิดเพลิน  เที่ยงวันนี้ผมแวะฝากท้องไว้ที่ร้าน ลกเที้ยน ศูนย์รวมอาหารพื้นเมือง ตั้งอยู่บริเวณแยกถนนเยาวราชตัดถนนดีบุก อาหารในแบบฉบับชาวจีนกวางตุ้ง เปิดขายมาตั้งแต่รุ่นก๋ง สืบทอดถึงรุ่นหลาน เป็น มีอาหารพื้นเมืองให้เลือกทานหลายชนิด อาทิ  หมี่หุ้น จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:46:18

ความคิดเห็นที่ 43   หมี่ซั่ว หมี่ฮกเกี้ยน จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:46:38

ความคิดเห็นที่ 44   หมูสะเต๊ะ จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:47:03

ความคิดเห็นที่ 45   ไปด้วยคนครับ พี่เค ... ไปถ่าย สะพานแห่งรัก ... แล้วพาคนรักไปด้วยป่าวเนี่ยยย ครับ !!! จากคุณ : ต่ายน้อย (coopers2006) เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:47:29

ความคิดเห็นที่ 46   เครื่องดื่มเย็นๆดับกระหาย จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:47:30

ความคิดเห็นที่ 47   นั่นสิว่าจะถามต่ายน้อย ขอยืมคนรักต่ายน้อยสักทริปได้ป่าวอ่ะ จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:48:15

ความคิดเห็นที่ 48   หลังจากอิ่มท้องแล้วก็ออกเดินทางไปต่อ มุ่งหน้าสู่เขารัง จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:49:01

ความคิดเห็นที่ 49   จุดชมวิวที่งดงามแห่งหนึ่งของภูเก็ต จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:49:39

ความคิดเห็นที่ 50   ขอตามมาเที่ยวภูเก็ตด้วยคนค่ะ ภาพสวยจัง จากคุณ : ม่านหมอกที่ปลายฝัน เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:50:26

ความคิดเห็นที่ 51   น่าเสียดายที่วันนั้นมีระอองฝนโปรยปรายทำให้ทัศนวิสัยไม่ดีเท่าที่ควร จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:51:06

ความคิดเห็นที่ 52   5555555555++   ซะงั้น   แก้ไขเมื่อ 25 มิ.ย. 53 15:53:58 จากคุณ : นั่งอมยิ้มริมระเบียง เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:51:50

ความคิดเห็นที่ 53   ไปด้วยกันเลย น้องม่านหมอก  แต่ต้องตามติดๆเลยนะ   จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:52:00

ความคิดเห็นที่ 54   อะ น้องอมยิ้ม ต้องรีบสรุปก่อนที่น้องจะยัดเยียดความชราให้พี่ 555+ จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:52:50

ความคิดเห็นที่ 55   แม้จะมีละอองฝนมาบดบัง ก็มิอาจลบเลือนภาพเมืองภูเก็ตที่ผมเคยมาเยือนหลายครั้งหลายครา จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:53:47

ความคิดเห็นที่ 56   แม้จะผ่านเหตุการณ์อันเลวร้าย แต่ไข่มุกแห่งอันดามันก็ยังคงมนต์เสน่ห์อันน่าหลงใหล จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:54:53

ความคิดเห็นที่ 57   จากเขารังมองเห็นความเป็นภูเก็ตได้ชัดเจนยิ่งนัก จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:55:59

ความคิดเห็นที่ 58   อำลาเขารังด้วยภาพนี้ จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:56:58

ความคิดเห็นที่ 59   กำลังจาได้ไปเลย  เข้ามาเยี่ยมชม สวยมากมายเลย ฝีมือดีจริงๆเลยค่ะ เอากิ๊ฟไป2 จากคุณ : kamolmail เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:57:08

ความคิดเห็นที่ 60   จากเมืองมุ่งหน้าสู่ทางตอนใต้ ตามเส้นทางสู่ห้าแยกฉลอง จะพบกับป้ายบอกทางให้เลี้ยวขวาเข้าสุ่เขานาคเกิด อันเป็นที่ประดิษฐาน  “พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี” จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:57:20

ความคิดเห็นที่ 61   พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี คือพระนามที่ได้รับการถวายจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกพร้อมตราตั้งให้เป็นพระพุทธรูปประจำเมืองภูเก็ต ถือเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:57:52

ความคิดเห็นที่ 62   ประดิษฐานบนยอดเขานาคเกิด ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:58:35

ความคิดเห็นที่ 63   บนยอดเขามองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของอ่าวฉลองได้เป็นอย่างดี   รวมถึงสามารถมองเห็นหาดราไวย์ในมุมสูงได้อีกด้วย จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:59:09

ความคิดเห็นที่ 64   แต่เป็นที่หน้าเสียดายที่ในวันนั้นมีสายฝนโปรยปรายลงมา ทำให้ทิวทัศน์อันงดงามถูกบดบังไปบ้างจากม่านหมอกและละอองฝน จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 15:59:33

ความคิดเห็นที่ 65   มาฟังตำนานรักครับ......................... น้าเคดูหนังเรื่องนี้เปล่า.....สะพานรักสารสิน............. จากคุณ : ถนนสายนี้เปรี้ยว เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:00:08

ความคิดเห็นที่ 66   เครื่องดับกระหายระหว่างทางลงจากเขานาคเกิด จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:00:48

ความคิดเห็นที่ 67    ไปด้วยครับน้าเค ประกาศตามหา คนเสื้อฟ้า ใน คห .18 ได้ถ่ายรูปน้าเค มาแน่นอน จากคุณ : One Light One Shadow เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:01:27

ความคิดเห็นที่ 68   เกิดไม่ทันดูอะน้าเปรี้ยว เล่าให้ฟังคร่าวๆ หน่อยสิ ว่าจะหาหนังสือมาอ่านนะ จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:01:47

ความคิดเห็นที่ 69   สะพานแห่งรัก ตั้งชื่อเพราะมาก หิวหมี่ซัวครับ จากคุณ : inint&anant เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:02:07

ความคิดเห็นที่ 70   ตามมาเรียนวิชาประวัติศาสตร์กับอาจารย์เคครับ จากคุณ : keep it up เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:02:34

ความคิดเห็นที่ 71   อะ เหาน้อย คนนั้นรุ่นพี่นะนั่นอ่ะ จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:03:15

ความคิดเห็นที่ 72   inint&anant เค้าเรียกชื่อกันอย่างนั้นจริงๆนะ อย่าลืมพาคุณนายไปนะ อิอิ อะ ตุ่ม ไม่ต้องซีเรียส ไม่ออกสอบ   จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:04:41

ความคิดเห็นที่ 73   ตามติดไปรึเปล่าคะ ฝนตกเลย ขอเดินห่างๆ แล้วกันนะคะ จากคุณ : ม่านหมอกที่ปลายฝัน เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:05:14

ความคิดเห็นที่ 74   วัดไชยธาราราม (วัดฉลอง) จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:05:47

ความคิดเห็นที่ 75   หูย น้องม่านหมอก เดินห่างๆ เด่วเปียกฝนนะ มีร่มเพียงคนเดียวก็พอไง   จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:06:40

ความคิดเห็นที่ 76   ว่ากันว่าหากมาถึงภูเก็ตแล้ว ควรได้เดินทางมาไหว้หลวงพ่อแช่มที่วัดฉลองหรือวัดไชยธาราราม วัดคู่บ้านคู่เมืองภูเก็ต จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:07:14

ความคิดเห็นที่ 77   แม้ว่าหลวงพ่อแช่มจะมรณภาพเป็นเวลานับหนึ่งร้อยปีมาแล้วก็ตาม ชื่อเสียงเกียรติคุณและบารมีของท่านก็อยู่ในความทรงจำของผู้คนสืบมา จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:08:01

ความคิดเห็นที่ 78   ทุกวันนี้หลวงพ่อแช่มยังคงเป็นที่พึ่งพาทางจิตใจให้กับชาวภูเก็ต และชาวไทยทั่วทุกภาคหรือแม้แต่เพื่อนบ้านผู้มาเยือนดินแดนไข่มุกแห่งอันดามันนี้เสมอ จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:08:43

ความคิดเห็นที่ 79   กลิ่นธูปและควันเทียนไม่เคยจางหายไปจากพระอารามแห่งนี้ จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:09:59

ความคิดเห็นที่ 80   แม้แต่เสียงประทัดที่ดังกึกก้องเป็นภาพทีเห็นจนชินตา จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:10:37

ความคิดเห็นที่ 81   หลวงพ่อแช่มได้ช่วยเหลือชาวภูเก็ตต่อสู้กับพวกอั้งยี่ ชาวกรรมกรเหมืองแร่ที่ได้ก่อเหตุจลาจล ไล่ฆ่าฟันโจมตีชาวบ้านและจะยึดครองเมืองภูเก็ต จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:11:19

ความคิดเห็นที่ 82   ในครั้งนั้นหลวงพ่อได้มอบผ้าประเจียดสีขาวให้ชาวบ้านทุกคนโพกหัวเพื่อเป็นเครื่องรางป้องกันอันตราย จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:11:50

ความคิดเห็นที่ 83   ซึ่งได้สร้างความเชื่อมั่นและขวัญกำลังใจให้กับชาวภูเก็ตเป็นอย่างมาก และใช้วัดฉลองเป็นที่มั่นราวกับป้อมค่ายที่ใช้ในการต่อสู้ จนกระทั่งสามารถเอาชนะพวกอั้งยี่ได้ จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:12:19

ความคิดเห็นที่ 84   เมื่อรัชกาลที่ 5 ทรงทราบความจึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานสมณศักดิ์แก่หลวงพ่อแช่ม เป็นพระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุนี ให้มีตำแหน่งเป็นสังฆปาโมกข์แห่งเมืองภูเก็ต ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดในสมัยนั้น จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:12:57

ความคิดเห็นที่ 85   และได้พระราชทานนามวัดฉลองเป็นวัดไชยธารารามแต่นั้นมา จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:13:32

ความคิดเห็นที่ 86   วัดฉลองแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของ พระมหาธาตุเจดีย์พระจอมไทยบารมีประกาศ เป็นที่ประดิษฐสถานของพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าที่นำมาจากศรีลังกา จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:15:00

ความคิดเห็นที่ 87   ประภาคารกาญจนาภิเษก แหลมพรหมเทพ จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:16:06

ความคิดเห็นที่ 88   .....หรือว่าพรุ่งนี้เป็นวันหยุด....เลยหวานซะ.... จากคุณ : กานพลู...คนชอบเที่ยว เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:16:20

ความคิดเห็นที่ 89   ประภาคารกาญจนาภิเษก เป็นประภาคารที่ชาวภูเก็ตและกองทัพเรือร่วมกันสร้างถวายแด่องศ์พ่อหลวงเนื่องในปีกาญจนาภิเษก มีความสูง 50 เมตร หมายถึงพระเจ้าแผ่นดินทรงครองราชย์ครบ 50 ปี จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:16:55

ความคิดเห็นที่ 90   .. ตามน้าเคมาเที่ยวภูเก็ตด้วยงับ แหมเห็นสาวๆ เป็นไม่ได้เลยน้าเคเนี่ย ขอไปหลบร่มด้วยคนนะน้าเค .. จากคุณ : จูลายกะปลายฟ้า (July 15th) เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:18:00

ความคิดเห็นที่ 91   อะ คุณแหม่ม หวานทุกวันไม่เว้นวันหยุด   อะ พี่บอลขออนุญาตตะวันจ๋ายังอ่ะ จะมาหลบฝนเนี่ยอ่ะ   จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:19:40

ความคิดเห็นที่ 92   ฐานประภาคารกว้าง 9 เมตร สื่อถึงรัชกาลที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี แสงไฟของประภาคารมองเห็นได้ไกล 39 กิโลเมตร หมายถึงปีกาญจนาภิเษก พ.ศ. 2539 จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:20:17

ความคิดเห็นที่ 93   เหนือทางเข้าด้านหน้ามีตราสัญลักษณ์ปีกาญจนาภิเษก ฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:20:59

ความคิดเห็นที่ 94   ส่วนด้านข้างตราสัญลักษณ์ประดับธงชาติ จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:21:46

ความคิดเห็นที่ 95   เราปรองดองกันแล้ว เค้าต้องเรียก พี่เค ใช่มะ จากคุณ : **ความจริงในใจ** เขียนเมื่อ : 25 มิ.ย. 53 16:21:47