ความคิดเห็นที่ 1   มาเตรียมตัวเก็บข้อมูลครับ จากคุณ : A-TOO เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 10:19:34

ความคิดเห็นที่ 2   ลุยไปด้วยคนครับ อยากรู้เหมือนกัน จากคุณ : jeen&jaw เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 10:33:44

ความคิดเห็นที่ 3   มานั่งลุ้นด้วยครับ จากคุณ : เ ม ฆ ค รึ่ ง ฟ้ า เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 10:34:38

ความคิดเห็นที่ 4   เส้นทางดังกล่าว คือทางหลวงจังหวัดสายคลองลาน - อุ้มผาง ได้ถูกระงับการก่อสร้างไปแล้วครับ ด้วยเหตุผลด้านรบกวนชีวิตสัตว์ป่า และอนุรักษ์พื้นที่อุทยานแห่งชาติ ปัจจุบันสิ้นสุดทางที่ช่องเย็น อุทยานแห่งชาติคลองลาน ที่เหลืออาจเป็นแนวทางลำลองที่กรุยเอาไว้เพื่อการก่อสร้างซึ่งอาจรกเรื้อไปแล้วก็ได้ เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมานานหลายสิบปีแล้ว ต้องลงเดินลุยป่ากันล่ะครับ จากช่องเย็นจนถึง อ.อุ้มผาง จากคุณ : owl2 เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 10:54:32

ความคิดเห็นที่ 5   กลัวไป  เข้าไปแล้ว  เจ้าหน้าที่จับดิ ห่ว่าบุกลุกป่าครับ  อีกอย่างน่าอันตรายครับ จากคุณ : ชายเอ ทุ่งรังสิต เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 10:57:47

ความคิดเห็นที่ 6   สิ่งที่สำคัญที่สุดของงานนี้ก็คือ แผนที่ครับ  ซึ่งแผนที่นี้ผมได้ซื้อมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 เป็นของบางกอกไกด์ ที่มีการระบุว่า มีถนนสาย 1117 ที่จะเชื่อมระหว่าง อ.เมือง กำแพงเพชร ไปยัง อ.อุ้มผางเลย ซึ่งถ้าพิจารณาจากแผนที่ข้างล่างนี้ คนที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ แล้วเริ่มใช้ทางลัดจาก อ.คลองขลุง ตรงไปยัง อ.อุ้มผาง โดยผ่าน อ.ปางศิลาทอง อช.แม่วงก์ จะลดระยะทางได้ 2.8 เท่า หรือ ประมาณ 220 กม.เลยทีเดียว แก้ไขเมื่อ 15 มิ.ย. 53 12:09:33 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 11:07:32

ความคิดเห็นที่ 7   อู้ฮู...เผลอไปทำแผนที่แป๊บเดียว มีคนแวะเข้ามาทักทายกันเยอะเลย สวัสดีครับ คุณA-TOO , คุณjeen&jaw , คุณเ ม ฆ ค รึ่ ง ฟ้ า : เชิญติดตามไปได้เลยครับ สวัสดีครับ คุณowl2 : ขอบคุณที่มาเพิ่มเติมข้อมูลให้ครับ ตามเหตุผลที่ว่ามาใช่เลยครับ แต่ก็ยังมีเหตุผลหนึ่งก็คือ การเปลี่ยนพฤติกรรมการเดินทางของนักท่องเที่ยว ที่อาจทำให้ อ.แม่สอดซบเซาได้ สวัสดีครับ คุณชายเอ ทุ่งรังสิต : การจะลุยข้ามไปจนถึง อ.อุ้มผาง จำเป็นต้องมีจนท.นำ เพราะถือเป็นการเดินทางออกนอกเส้นทางปกติ เหมือนๆ กับไป โมโกจู นั่นแหละครับ  แต่คณะที่ไปสำรวจของ เจ้าของรีสอร์ท นั้นไปแค่สิ้นสุดถนนที่สร้าง ยังอยู่ในเขตท่องเที่ยว (คาดว่าเป็นน้ำตกนางนวล) เลยไม่ถือว่าผิดระเบียบครับ  รายละเอียดต้องลองติดตามผมดูนะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 11:20:08

ความคิดเห็นที่ 8   ต้องไปสักครั้งครับ สวยแค่ไหนกันเชียว ต้องไปเห็นด้วยตา จากคุณ : MyPoint เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 11:30:14

ความคิดเห็นที่ 9   ด้วยความเคารพในสิทธิของท่านเจ้าของกระทู้ครับ อย่างไรเสีย เอาแค่พองามแล้วกันครับ ผมไม่สนับสนุนการบุกเบิกเส้นทางอนุรักษ์เลยครับ และเส้นทางนี้ ชาวบ้านคัดค้านอย่างหนัก แต่ผมก็ต้องเคารพในสิทธิ ถ้าคุณจะโพส จากคุณ : หมอนทองแท้ เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 12:10:20

ความคิดเห็นที่ 10   สวัสดีครับ คุณMyPoint : เส้นทางจะว่าสวยก็ไม่สวย แต่มีความเป็นธรรมชาติอย่างมาก  แต่ สำหรับ อช.แม่วงก์นี้ จุดเด่นกลับเป็น การเดินป่าระยะไกล ไปยัง ยอดเขาโมโกจู ที่ต้องค้างแรมกัน 5 วัน 4 คืน! ทริปนี้ ถือเป็นของแถม จากการที่ได้ไปเยี่ยมญาติแถวๆ บ.ปากดง อ.เมือง จ.กำแพงเพชร เลยปิ๊งไอเดีย.. จากแผนที่ข้างล่าง (ขยายขึ้นมาอีก) ผมเริ่มเดินทางออกจากบ้านญาติ เวลาประมาณ 11 โมงเช้า  ใจก็คิดว่าไม่ไกล แค่ 96 กม.เอง  น้ำมันมีในถังเกินครึ่งมาเล็กน้อย ก็น่าจะพอ  (ก็เรื่องนี้แหละทำให้มีเรื่องต้องลุ้นกันอีก) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 12:19:48

ความคิดเห็นที่ 11   สวัสดีครับ คุณหมอนทองแท้ : การเดินทางของผม เน้นสบายๆ แบบคนทั่วไป ที่ไม่ลุยนัก สบายใจได้ว่าไม่มีการบุกป่าฝ่ากฏระเบียบใดๆ หากแต่ข้อมูลเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากกว่า ที่จะดึงดูดให้คนมาเที่ยวที่ อช.แม่วงก์แห่งนี้  เพราะที่ผ่านมา ผมเองก็ไม่เคยทราบว่า ช่องเย็น ที่เขามาเที่ยวกันนั้น มีความสำคัญเพียงไร สวยก็ไม่สวย มาลำบากก็ลำบาก หากแต่ มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ตรงนี้เอง....   การยุติการสร้างเส้นทางผ่านเขตอนุรักษ์ นั้นก็เป็นสิ่งที่ดี เปรียบกับ อช.เขาใหญ่ ที่มีการสร้างถนนลัดข้าม อช. จนทำให้เกิดปัญหาสัตว์ตาย ต้นไม้โดนโค่นมากมาย ตามมา ครับ  แต่เส้นทางที่สร้างไปแล้วก็ใช่ว่าจะทิ้งเปล่าประโยชน์ ยังช่วยให้การดูแลป่าของจนท.ทำได้ง่ายสะดวกขึ้น อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงศึกษาธรรมชาติได้อีก จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 12:37:51

ความคิดเห็นที่ 12   มาขอตามไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นค่ะ ปล.คุณมิราชดูจะสมบูรณ์ขึ้นหน่อยนึงรึเปล่าคะเนี่ย จากคุณ : iamchula เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 12:41:48

ความคิดเห็นที่ 13   ภาพบน : ตอนนี้ใกล้จะถึงสี่แยกคลองลานแล้ว เจอป้ายบอกทางไป อช.แม่วงก์ ภาพล่าง : เจอสี่แยกคลองลานแล้ว อย่างง! เพราะดูเหมือน 3 แยก เพียงแต่เกาะกลางถนนไม่ตัดออก ทำให้การไป อช.คลองลาน และ จ.กำแพงเพชรต้องเลี้ยวซ้ายเหมือนไป อช.แม่วงก์ แล้วค่อยกลับรถมาอีกที  (ถ้าหากมาจาก จ.กำแพงเพชรจะวิ่งตรงๆแบบผ่าน สี่แยกนี้ไม่รู้ตัวเลย) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 12:52:19

ความคิดเห็นที่ 14   สวัสดีครับ คุณiamchula : ยินดีครับ ที่สนใจ ว่าแต่ ผมกำลังลดความอ้วนนะนี่  ลดมาได้ 9 กิโลแล้ว จากปีที่แล้ว  คงต้องลดอีกสัก 9 กิโลนะครับ (น้ำหนักนิ่งมาตั้งแต่ปีใหม่แล้ว ยังไม่ลงเลย...กลุ้มเหมือนกันนะ) ภาพบน : เลี้ยวซ้ายผ่านแยกคลองลานมาแล้ว  จะไปอช.คลองลาน ก็ให้กลับรถข้างหน้า  แต่ถ้าจะไป อช.แม่วงก์กับผม ก็ตรงไปเลยครับ ภาพล่าง : ป้ายบอกระยะทางต่างๆ  เท่าที่จำได้ เมื่อครั้งผมมา น้ำตกคลองลาน ใจก็อยากจะมองหาเส้นทางนี้ไว้เหมือนกัน แต่พอเห็นป้ายบอกว่าไป อช.แม่วงก์ก็เลยไปหาทางอื่นแทน ซึ่งก็หาไม่เจอ จนมาถึง จ.นครสวรรค์ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 13:06:03

ความคิดเห็นที่ 15   กำัลังลดนำ้หนักเหมือนกันค่ะ สู้ๆค่ะ แปลว่านน.ขึ้นมาช่วงปีสองปีนี้สิคะเนี่ย  ส้มจำได้ว่าเห็นรูปคุณในกระทู้ทองผาภูมิส้มน่าจะผอมกว่านี้......ยังไงสู้ๆค่ะ  เชียร์อยู่ค่ะ ทริปนี้ท่าจะยาวไกล  ยังขอเกาะไปดูอย่างใกล้ชิดนะคะ จากคุณ : iamchula เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 13:15:10

ความคิดเห็นที่ 16   ภาพบน : ตอนนี้มาถึงด่านเก็บเงินของอุทยานฯ แล้ว ต้องลงจากรถไปเสียค่าธรรมเนียมกันก่อน ภาพล่างซ้าย : ตารางอัตราค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ (แม้จะไม่ไปค้าง หรือไปแค่ ที่ทำการก็ต้องจ่าย ครับ) ภาพล่างขวา : แผ่นป้ายระบุกฏระเบียบการเข้าไปในอุทยานอย่างย่อ  รู้สึกขำเมื่อเห็นรูปสัตว์เลี้ยง เหมือนสุนัขกำลังง้อแมวเลย...ฮี่ๆ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 13:17:06

ความคิดเห็นที่ 17   เข้าไปแล้วจะเหมือนเรื่อง เพชรพระอุมา  ป่ะครับ  อิ อิ . จากคุณ : แมงเม่าติดลมบน เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 13:43:41

ความคิดเห็นที่ 18   เมื่อปีใหม่ที่ผ่านมาไปเที่ยวอุ้มผาง  กะจะกลับเส้นทางนี้  แต่คนที่อุ้มผางบอกว่าเค้าปิดเส้นทางนี้ไปแล้ว ด้วยเหตุผลว่า เป็นเส้นทางอนุรักษ์  แต่บางคนก็บอกว่ามันจะไปแย่งลูกค้านักท่องเที่ยวจาก ตัวเมืองตาก แต่ก่อนเคยเปิดอยู่พักนึงมันจะเป็นเส้นทางลัดมากๆ  ส่วนข้อเท็จจริงไม่ทราบครับ และอยากทราบว่าเส้นทางนี้ปัจจุบันเปิดหรือปิดอยู่ครับ จากคุณ : หนุ่มค้างปี เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 14:38:20

ความคิดเห็นที่ 19   สวัสดีครับคุณiamchula  นี้เป็นรวมรูปผมในแต่ละปี ที่มีการเพิ่ม-ลดน้ำหนักครับ  ดูเหมือนลูกโป่ง พองๆ แฟบๆ ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 15:09:01

ความคิดเห็นที่ 20   สวัสดีครับ คุณแมงเม่าติดลมบน : อิอิ...คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ... ถ้าจะให้เป็นแบบนั้นก็คงต้องรอภาคสองละครับ... สวัสดีครับ คุณหนุ่มค้างปี : ปิดครับ ดูเหมือนว่าไม่เคยเปิดด้วยนะครับ เพราะคนที่เคยไปสำรวจ เขาบอกว่าถนนยังขาดไป 19 กิโลเมตร  ถ้ามีก็อาจเป็นทางลูกรังเก่า ที่รกๆ นะครับ ใช่ครับ นอกจากเหตุผลทางด้านอนุรักษ์แล้ว เป็นเรื่องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของ อ.แม่สอด ด้วย  ใครจะไปทางนั้นล่ะครับ   ส่วนข้อเสียที่ไม่เปิดใช้เส้นทางนี้ ก็คือ คนมาเที่ยว อุ้มผางได้ไม่มาก  ซึ่งในข้อนี้ ถ้ามองเรื่องการอนุรักษ์ น้ำตกทีลอซู ก็กลับเป็นเรื่องดีอีก ที่จะคงความสมบรูณ์ของป่าไว้ได้ครับ อ้อ..มัวแต่คุยเรื่องอ้วนๆ เพลินไปหน่อย กลับมาเดินทางต่อกัน   หลังจากผ่านหน้าด่านชำระค่าธรรมเนียมมาแล้ว ก็หันกลับไปเห็นหลักกิโลเมตร เลยถ่ายมาให้ดูเป็นหลักฐานว่า อยู่ห่างจาก จ.กำแพงเพชร 68 กม. ซึ่งถ้าหากเทียบกับทางที่ผมมาทางคลองขลุง (นับจาก กำแพงเพชร) ก็คือ 50+40 = 90 กิโลเข้านั่น  เพราะระยะทางระหว่างกำแพงเพชรกับคลองขลุงคือ 40 กม.พอดี แต่ในทางกลับกัน ถ้าหากมาจากกรุงเทพฯ เริ่มนับจากคลองขลุง ถึงตรงนี้ก็แค่ 50 กม. แต่ถ้าไปวกอ้อมจาก กำแพงเพชร ก็ต้อง 68+40=108 กม.เข้านั่น จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 15:25:47

ความคิดเห็นที่ 21   ภาพซ้าย : ถัดมาหน่อย ก็เป็นป้ายต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่จะช่วยกระตุ้นต่อมอยากรู้อยากเห็นให้ตื่นขึ้นมาได้   ภาพขวา : เลยไปอีก ก็เป็นป้ายบอกระยะทางของสถานที่สำคัญๆ ภายในอุทยาน ตามเส้นทางรถยนต์ ครับ ลึกที่สุด ก็คือช่องเย็น ด้วยระยะทางเพียง 36 กม. (ในขณะที่น้ำมันในถังผม ลดลงเหลือเพียง 1 ใน 4 เท่านั้น ใจบอกว่าสบายๆ ระยะทางแค่นี้คงไม่น่ามีปัญหา) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 15:36:19

ความคิดเห็นที่ 22   น่าสนุกครับ แต่ไม่คิดว่าจะเข้าไปได้หรอกแล้วก็ไม่น่าจะเข้าไปด้วย คงลำบากน่าดู  ถนนเส้นนี้ถูกปล่อยทิ้งไว้นานมากแล้ว ไม่เหลือสภาพแล้ว กลับคืนเป็นป่าไปหมดแล้ว ... แต่ไม่รู้สิ อาจมีอะไรไม่คาดฝันขึ้นมาอีกก็ได้ จากคุณ : ก้อนหินยอดดอย เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 16:03:03

ความคิดเห็นที่ 23   สวัสดีครับ คุณก้อนหินยอดดอย : แต่ก็น่าสนใจนะครับ ว่าเข้าไปได้แค่ไหน และเป็นอย่างไร..... ทั้งหมดเป็นภาพเส้นทางที่เข้าไปช่วงแรก นับว่าสุดยอดครับ หมายถึงเรียบ เส้นบนถนนชัด จนแทบไม่น่าเชื่อว่าเป็นถนนที่เข้าไปสู่ป่าลึก   มีจุดเดียวที่ มีต้นไผ่ล้มลงมาขวางถนน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรงด่านได้บอกไว้แล้ว ว่ากำลังดำเนินการเอาออกอยู่ (แสดงในภาพล่างซ้าย ซึ่งตอนขากลับออกมา ก็ไม่มีซากต้นไผ่ให้เห็นแล้ว) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 17:10:17

ความคิดเห็นที่ 24   ภาพบน : จากด่านหน้า เข้าไป 9 กม. ก็ถึงที่ทำการอช. ภาพล่าง : ให้เลี้ยวขวา ลงไปติดต่อศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก่อน  มิฉะนั้นจะไม่สามารถผ่านเข้าไปข้างในได้ เพราะจะเจอป้อมกั้นอีกชั้นหนึ่ง (โดนมาแล้ว...ฮา ต้องถอยรถกลับลงไปครับ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 17:23:22

ความคิดเห็นที่ 25   ภาพบนซ้าย : โดนเข้าแล้ว ห้ามเข้า..ฮ่าๆ  ต้องถอยรถกลับไปศูนย์ข้างล่างก่อน ภาพบนขวา : ถอยรถออกมาถ่ายภาพให้ดูชัดๆ ถึงทางลงไปยังศูนย์ ทางเล็กจนตอนแรกตัดสินใจไม่ลงไปครับ ภาพล่างซ้าย : เข้าไปก็เจอบรรยากาศสวยๆ ของบริเวณที่ทำการ ดังในรูปครับ ภาพล่างขวา : อาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอยู่ขวามือ ต่ำลงไปจากถนนหน่อย ให้จอดรถตรงขวามือเลยครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 17:36:55

ความคิดเห็นที่ 26   ตรงลานจอดรถ จะมีป้ายแนะนำ อุทยานแห่งนี้ ของ Dtac อยู่  มีรายละเอียดเยอะพอสมควร จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 17:41:11

ความคิดเห็นที่ 27   จอดรถแล้ว ก็เดินลงไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวข้างล่างครับ  เลยเข้าไปจะมีร้านอาหาร ห้องน้ำ และ บ่อน้ำแร่ไว้บริการฟรีด้วยนะครับ วันนี้พอดีมีธุระ ต้องกลับบ้านก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อกันนะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 17:53:24

ความคิดเห็นที่ 28   มาทีไร มีแต่ของแปลกๆ น่าติดตามตลอดนะครับ รอชมต่ออยู่ จากคุณ : Speedfilter เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 00:23:04

ความคิดเห็นที่ 29   สวัสดีครับ คุณSpeedfilter : ยินดีที่ชอบครับ แล้วแต่คนครับ บางคนก็อาจรู้สึกเฉยๆ  เชิญติดตามต่อได้แล้วครับ ภาพซ้าย : ตอนนี้ลงมาที่หน้าศูนย์บริการ ตรงประตูหน้า จะมีที่นั่งพักให้ เดินผ่านเข้าไปอีก จะเป็นห้องอาหาร ลงบันไดไปข้างล่างจะเป็น สุขา ร้านค้า และบ่อน้ำแร่ ครับ ภาพขวา : เมื่อก้าวเข้าไปในศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ก็จะเจอเคาท์เตอร์ สมุดให้ลงทะเบียนเข้าไปในอุทยานฯ  มีข้อมูลเยอะมากจริงๆที่ศูนย์นี้ เรียกว่าเข้ามาแล้วเดินเพลินเกือบลืมเข้าไปในอุทยานฯเลย (ว่าเข้านั่น....) ถ้าหากจะกางเต้นท์ ก็มีอัตราค่าบริการข้างล่างให้เห็น คือ ถ้านำเต็นท์มาเอง 30 บาทต่อคนต่อคืน (ไม่ใช่ต่อเต้นท์ 1 หลังนะครับ)  แต่ถ้าจะขอเช่าเต้นท์จาก อุทยานฯ ก็มีให้บริการ (3 คน=225บาท, 6 คน=300บาท, เคบิ้ล=500บาท) และเครื่องนอนชุดละ 60 บาทต่อคืน ครับ แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 53 12:51:12 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 12:45:10

ความคิดเห็นที่ 30   ด้านขวามือของ เคาท์เตอร์บริการ จะเป็นห้องแสดงข้อมูล เกี่ยวกับอุทยานฯ แม่วงก์ แห่งนี้  (มีห้องสุขาด้วย)  มีแผนที่สามมิติด้วย (ภาพล่างซ้าย) ดูไม่เบื่อครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 14:54:02

ความคิดเห็นที่ 31   นี่เป็นบอร์ดข้อมูล แบบเข้ากับบรรยากาศธรรมชาติครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 14:57:36

ความคิดเห็นที่ 32   นี่ก็เป็นบอร์ดข้อมูลแนะนำอุทยานฯ อีกอันหนึ่ง ที่ไฮไลท์เฉพาะสถานที่สำคัญ  น้ำตกแม่กระสา และ ยอดเขาโมโกจู นี้ต้องเดินกันหลายวัน แต่แก่งผาคอยนางนี้อยู่ใกล้ๆ กับ ที่ทำการ ห่างจากริมถนนเพียง 350 เมตร จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 15:03:59

ความคิดเห็นที่ 33   อุทยานแห่งนี้มีกล้วยไม้เยอะ ถ้าใครชอบดอกไม้ พืชพรรณ ก็นับว่าน่าสนใจมากเลยครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 15:07:44

ความคิดเห็นที่ 34   เดินออกมาจาก อาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยว  มีการจัดสวนด้านหน้าอาคารด้วย  สงสัยคำจารึกในป้าย "Please keep the litter with ..... " ดันถูกใบไม้บังไปหนึ่งคำ เลยไม่รู้ความหมาย ใครทราบช่วยบอกด้วยครับ แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 53 15:28:17 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 15:19:53

ความคิดเห็นที่ 35   พอดีท้องเริ่มหิว นึกได้ว่าข้างในคงไม่มีอะไรขาย เลยหันกลับไป ห้องอาหารของ อุทยานฯ ซึ่ง มีบอร์ดแผนที่สามมิติ ด้วย สุดยอด! ครับ  เหมือนกับอยู่ในห้องปฏิบัติงานวางแผน อะไรสักอย่างเลย ด้านข้างบอร์ด (ภาพขวา) มีห้องครัว สามารถสั่งอาหารได้  แต่ตอนนั้น บ่ายโมงครึ่งแล้ว เลยสั่งได้แค่ ไข่เจียวราดข้าว กับผัดกระเพราราดข้าว ครับ ส่วน กาแฟนั้นมีให้บริการตัวเอง แต่...วันนั้นไฟฟ้าดับ เลยต้องพึ่ง น้ำต้มในครัวแทนครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 15:37:58

ความคิดเห็นที่ 36   ระหว่างรออาหาร ก็มาศึกษาเส้นทางที่จะเข้าไปกันก่อนนะครับ แผนที่สามมิติมีหรือผมจะพลาดได้ ชอบมาก เพราะจะได้ทราบความสูงต่ำของถนนที่จะเข้าไป  ชักหวั่นๆ อยู่เหมือนกันว่าน้ำมันที่ผมมีเพียง 1ใน4 ถึงจะพอหรือไม่ ไม่มีปั๊มแถวนี้ด้วย แค่ 28 กม. ไม่น่าจะใช้น้ำมันมากนัก... จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 15:55:11

ความคิดเห็นที่ 37   เลือกที่นั่งกินข้าวตรงระเบียงริมขวามือสุด มองเห็นบ่อน้ำแร่ อยู่ข้างล่างด้วย  หลังจากทานเสร็จแล้วจะขอเข้าไปสำรวจดูครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 16:02:45

ความคิดเห็นที่ 38   ผมทานเสร็จก่อนใคร ก็เลยเดินลงไปดูบ่อน้ำแร่  ใช่จริงๆครับ กลิ่นกำมะถันโชยเข้าจมูกเลย  อุณหภูมิน้ำก็อุ่นๆ พอดีๆ ไม่ร้อนเกินไป มีห้องให้อาบน้ำด้วยครับ แต่มีคำเตือน ห้ามดื่มนะครับ เพราะเป็นน้ำแร่ ที่ไม่ได้เจือจางสำหรับดื่ม (แบบที่มีจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อทั่วไป) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 16:16:31

ความคิดเห็นที่ 39   อ้อ.. ตรงหน้าศูนย์ฯ มีป้ายบอกข้อมูลสรรพคุณเกี่ยวกับน้ำแร่ด้วย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 16:19:49

ความคิดเห็นที่ 40   ใกล้ๆ กันก็มีร้านค้าสวัสดิการอยู่ด้วย ผมเลยเข้าไปซื้อน้ำอัดลมมาเก็บไว้ดื่มระหว่างทาง และมีห้องสุขาอยู่ติดกันด้วย เข้าไปข้างในดูสะอาดดี ครับ  (เดี๋ยวนี้อุทยานฯ เขาพัฒนาแล้ว ไม่เหมือนสมัยสิบกว่าปีก่อนโน้นครับ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 16:25:33

ความคิดเห็นที่ 41   ภาพบน : กลับออกมาที่รถแล้วครับ ภาพกลาง : เป็นลานกางเต้นท์ ที่อยู่ถัดไปจากศูนย์บริการ ภาพล่าง : ฝั่งตรงข้ามกับลานกางเต้นท์ เป็นการจัดสวนป้ายชื่อ อุทยานฯ ด้วย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 16:36:56

ความคิดเห็นที่ 42   ภาพบน : ได้เวลาออกเดินทางกันแล้วครับ นี่ก็บ่ายสองโมงพอดี  แป๊บเดียวก็ถึงแยกไปแก่งผานางคอย เอ๊ย....ผาคอยนาง  (ถ้าหากนางคอยนี่ รู้สึกน่ากลัวอย่างไรก็ไม่รู้.... ลองคิดดูซีว่าใครล่ะจะมาคอยคุณกลางป่าเขาแบบนี้..บรื๋อยย์..) มีทางแยกเข้าไป 400 เมตร  แต่ผมไม่ได้แวะ เพราะเป้าหมายผมคือ ปลายทางสุดถนนเส้นนี้ครับ ภาพล่าง : ลักษณะถนนที่เข้าไป อยู่ในสภาพดีมาก ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 16:44:57

ความคิดเห็นที่ 43   ขับรถมาเรื่อยๆ มาพบกับเจ้าป่าเจ้าถนนเข้าให้แล้ว ตัวเล็กกระจิดเดียว..... ต้องหยุดรถรอให้เขาเดินไปก่อน เลยได้โอกาสคว้ากล้องมาเล็งดู นกอะไรเอ่ย..ใครพอทราบครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 16:59:57

ความคิดเห็นที่ 44   ลักษณะเส้นทางก็ไม่เบา พอกับทางไป อุ้มผางเหมือนกัน เพียงแต่แทบไม่มีรถวิ่งเลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 17:13:59

ความคิดเห็นที่ 45   ระยะทางช่วงนี้ยาวไกลพอสมควร 16 กม.กว่าจะถึงกิ่วกระทิง เพราะเป็นเส้นทางขึ้นเขาเป็นส่วนใหญ่  ผมเองก็เริ่มรู้สึกกลัวน้ำมันหมดบ้างแล้ว เพราะเข็มวัดน้ำมันได้ผ่าน 1/4 ถังไปเยอะแล้ว จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 17:33:25

ความคิดเห็นที่ 46   ภาพบนซ้าย : มาถึงแล้วครับ จุดชมวิวกิ่วกระทิง ภาพบนขวา : มองกลับไปทางที่มา จะเห็นความโค้งของถนนอยู่หลายขดเหมือนกัน ภาพล่างซ้าย : ถ่ายภาพกับป้ายหน่อยนะจ๊ะสาวน้อย... ตรงนี้เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า  แทบไม่น่าเชื่อ ตอนแรกผมยังคิดว่าเป็นด้านทิศตะวันตก เพราะถนนมุ่งไปทาง อ.อุ้มผาง  แต่พอมาดูแผนที่อีกที  จุดชมวิวนี้อยู่ด้านซ้ายมือ (ขาไป) ในขณะที่ถนนกำลังเป็นโค้งหักลงใต้พอดี ภาพล่างขวา : แม่ลูก เขาถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกครับ มุมนี้จะเห็นว่าข้างล่างเป็นเหวลงไปครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 17:57:06

ความคิดเห็นที่ 47   นี่เป็นวิว ที่กิ่วกระทิงแห่งนี้ แบบพานอรามาครับ  ข้างล่างมีลานกว้างอยู่ด้วย สังเกตุให้ดีที่ด้านซ้ายของภาพจะมีถนนที่เพิ่งผ่านเข้ามาอยู่ แสดงว่าเป็นมุมมองย้อนกลับไปทางทิศตะวันตกจริงๆ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 18:06:42

ความคิดเห็นที่ 48   ถึงเวลาต้องเดินทางต่อแล้วละครับ  ป้ายบอกระยะทางถึง ช่องเย็นแค่ 12 กม.เอง น้ำมันรถเหลือแค่ 1 ใน 8 ถังแล้ว!  เอาละ ลองเสี่ยงดู ถ้าย้อนกลับไปก็เป็นอันล้มเหลวภาระกิจนี้  ต้องลุ้นกันหน่อยละครับ ว่าเจ้า อีซุซุ นี้จะประหยัดแค่ไหนกัน จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 18:13:06

ความคิดเห็นที่ 49   เส้นทางช่วงนี้ เหมือนกับ ทางลอยฟ้า แม่สอด-อุ้มผาง เลยครับ เพียงแต่ระยะทางนั้นไม่ยาวไกลเท่า  อ้อ..ป้ายในรูปข้างล่าง เกี่ยวกับการโครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ ประจำปี 2550  หมายถึงพื้นที่บริเวณนี้เคยมีการมาปลูกป่ากันไปแล้วครับ แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 53 18:23:01 แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 53 18:20:29 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 18:19:04

ความคิดเห็นที่ 50   ตรงนี้ก็วิวสวยไม่เบาครับ เจอป้าย "โครงการปลูกป่า" อีกแล้วครับ ตรงนี้มีหลังคาให้ด้วย ไม่ใช่ป้ายทางเข้าหมู่บ้านนะครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 18:29:10

ความคิดเห็นที่ 51   โอ้โฮ... วิวสวยไม่เบาแฮะ   ภาพบน : น่าจะเรียกว่า ช่องเขา ช่องลม อะไรทำนองนี้นะ ดูเหมือนมีคนมาตัดออก ให้ถนนผ่านกลาง ภาพล่าง : วิว ถนนเชื่อมระหว่างเขาสองลูก นี้สวยไม่เบา  อ้อ..ให้ระวังไหล่ทางชำรุดข้างหน้าด้วยนะครับ  เส้นถนนนี้ดูสดใหม่ เหมือนถนนเพิ่งปรับปรุงเลยนะครับ (หรือว่าไม่ค่อยมีรถผ่าน เลยยังอยู่ในสภาพดี) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 18:36:46

ความคิดเห็นที่ 52   ภาพบน : เข้าไปใกล้ ไหล่ทางชำรุด อึ๋ย...เสียวจริงๆ กลัวจะพังลงไปอีก ถ้าหากขับเบียดเข้าไปใกล้ๆ ขอบทาง ภาพล่าง : มีทางแยกไปไหนก็ไม่ทราบ ลืมจดจำมา จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 18:43:21

ความคิดเห็นที่ 53   มีรีวิวสนุก ๆ พร้อมวิวสวย ๆ  มาให้ชมกันอีกแล้ว   เกาะล้อตามไปเที่ยวด้วยคนครับ แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 53 18:53:17 จากคุณ : Trip-F เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 18:52:53

ความคิดเห็นที่ 54   มาถึงจุดชมวิวขุนน้ำเย็นแล้วครับ  ยัง...ยังไม่ใช่ช่องเย็นนะครับ  มีห้องสุขา (ตอนนั้นน้ำไม่ไหล) ด้วย  นับเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดของถนนสายนี้(สาย 1117) ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 18:59:36

ความคิดเห็นที่ 55   สวัสดีครับ คุณTrip-F : วันนี้เหงาๆหน่อย เพิ่งแวะเข้ามาทักทายกันนะครับ เชิญติดตามต่อได้ กำลังสนุกครับ ภาพบน : จากลานจอดรถ มองขึ้นไปบนเนิน จะเห็นศาลาชมวิวอยู่  ถ้าหากทางดีๆ ก็จะนำรถขึ้นไป แต่กลัวไปลื่นลงมา ยิ่งรถผมแรงไม่ค่อยดีด้วย  สู้เดินเท้าขึ้นไปดีกว่า ภาพล่างซ้าย : จะเห็นความสูงชันของเนินชมวิวแห่งนี้ ว้าว.... ภาพล่างขวา : ผมไต่ขึ้นไปได้แล้ว หันกลับมามองข้างล่างดูบ้าง...วิ๊ว ขึ้นมาได้อย่างไรหวา  ซึ่งจะมองเห็นสถานที่แต่ละจุดได้ชัดเจนครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 19:14:38

ความคิดเห็นที่ 56   บนนี้มีป้ายครีเอทีฟ แนวสร้างสรรค์ ด้วยครับ "ขุนน้ำเย็น" ตั้งอยู่ด้านข้างศาลาชมวิวครับ บังเอิญมาคนเดียว เลยลืมถ่ายตัวเองคู่กับป้ายไว้เป็นที่ระลึกครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 19:38:05

ความคิดเห็นที่ 57   นี่เป็นวิว พานอรามา ผ่านศาลาชมวิวครับ  พอดีไม่มีนักท่องเที่ยวขึ้นมา เลยได้วิวที่ปลอดโปร่งแบบนี้แหละครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 19:40:39

ความคิดเห็นที่ 58   เดินออกไปถ่ายริมระเบียง แบบไม่มีอะไรบดบัง จะได้เห็นวิวกว้างๆ   จากรูปข้างล่าง ด้านซ้ายมือจะมองเห็นแนวถนนลัดเลาะตามไหล่เขาอ้อมไปยังช่องเย็น จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 19:50:49

ความคิดเห็นที่ 59   ผมเดินลงมายังศาลาข้างล่างหน้าลานจอดรถ มีลานกางเต้นท์อยู่ตรงที่โล่ง  ด้านซ้ายมีแนวถนนเล็กๆ ทอดยาวเข้าไปด้านข้างลาน แต่มีต้นไม้ขึ้นรก มีบันไดเดินลงไปยังลานกางเต้นท์ด้วย พอดีไม่ได้ตั้งใจถ่ายมาต่อกันไว้ก่อน  เลยต่อไม่ค่อยสนิทนัก แต่เพื่อความเข้าใจเลยนำมาวางต่อกันให้ดูครับ แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 53 20:07:34 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 20:06:42

ความคิดเห็นที่ 60   ภาพซ้าย : บันไดที่เดินลงมาจากแนวถนน รกชัฎ ด้านข้างลานกางเต้นท์ คงมีไว้อำนวยความสะดวกเวลามากางเต้นท์ที่นี่ จะได้เดินไม่ไกลนัก  ถ้าเป็นฤดูท่องเที่ยวคงมีการถางออกให้โล่งนะครับ ภาพขวา : เมื่อลงมาเดินในลานกางเต้นท์ พบสิ่งประหลาดหน่อย คือ ตอไม้สีดำ มีป้ายชื่อนายตำรวจท่านหนึ่งด้วย ไม่รู้ว่ามีความหมายอย่างใดกัน... จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 20:16:28

ความคิดเห็นที่ 61   จากลานกางเต้นท์นี้ มองกลับไปยังศาลาด้านล่าง หน้าลานจอดรถก็จะเห็น ห้องน้ำ และทางขึ้นศาลาชมวิวด้านบน ครับ  บรรยากาศดูเขียวขจีดี เพราะฝนเพิ่งตกไปไม่นาน ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 20:22:14

ความคิดเห็นที่ 62   ได้เวลาออกเดินทางต่อแล้วละครับ  เวลาตอนนั้นก็ บ่ายสามโมงเย็นครึ่งแล้ว เส้นทางเงียบมาก มีนักท่องเที่ยวเพียงคันเดียวที่ ล่วงหน้าผมขึ้นไปก่อน  บรื๋อยย์...เสียวน้ำมันหมดจริงๆ  เพราะเข็มวัดน้ำมันใกล้ขีด E เข้าไปแล้ว  แต่ยังไม่ทาบลงไป   รถผมเองเคยมีประวัติ น้ำมันหมดจนต้องเข็นกันแล้ว ขณะที่เข็มวัดน้ำมันยังไม่พ้นขีด E เลย... แต่เอาล่ะ ไปอีกแค่ 4 กม.เอง น่าจะพอ  และขากลับก็เป็นทางลงเสียเป็นส่วนใหญ่ ก็ไม่น่ากินน้ำมันเยอะนะครับ รู้สึกเข็ดเหมือนกัน ที่ไม่ยอมเชื่อคำเตือน ว่า เข้าป่าน้ำมันต้องเต็มถังไว้ก่อน ใจก็ไม่คิดว่าแค่ไม่ถึง 100 กม. น้ำมันครึ่งถังน่าจะสบายๆ แต่เนื่องจากเป็นภูเขาประมาณ 30 กม.เท่านั้นเอง จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 20:38:15

ความคิดเห็นที่ 63   ภาพบน : ยังไม่ถึงช่องเย็นนะครับ เป็นซุ้มประตูเข้า หน่วยจัดการต้นน้ำขุนหมาก ต้องไปต่อกันอีก  เงียบ.....ไร้ผู้คนผ่านไปมาจริงๆ ภาพล่าง : ถึงแล้วครับ โน่นไง ช่องเย็นตัวจริง  เป็นลักณะช่องเขา ที่มีลมพัดผ่านตลอดเวลา  ถนนที่เข้าไปก็ต้องลอดผ่านช่องนี้ด้วยครับ (ดูดีๆ ถึงจะทราบ) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 20:48:06

ความคิดเห็นที่ 64   ภาพบน : นำรถไปจอดหน้าป้ายชื่อช่องเย็น จะเห็นลานกางเต้นท์อยู่ข้างหน้า มีห้องพักอยู่ด้านขวามือ  ยังไม่สิ้นสุดถนนสาย 1117 เส้นนี้นะครับ ภาพล่างซ้าย : ป้ายชื่อ ช่องเย็นริมถนนสาย 1117 ภาพล่างขวา : หันกลับมามองทางที่เข้ามา ซึ่งจะเห็นบ้านหลังสีเขียว ที่เห็นมาแต่ไกลครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 21:03:08

ความคิดเห็นที่ 65   ตรงนี้มีป้ายบอกที่มาชื่อ "ช่องเย็น" ด้วยครับ สรุปคือ จุดที่มีสายลมพัดเย็นสบายตลอดทั้งปี  ซึ่งก็เป็นจริง เพราะระหว่างที่เข้ามา จะรู้สึกร้อนตลอด แต่พอมาถึงตรงนี้อากาศกลับเย็นลงเสียทันที  นี่ขนาดหน้าร้อนนะครับ ถ้าหากเป็นหน้าหนาวละก็....คงเย็นจับใจเลยละ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 21:09:04

ความคิดเห็นที่ 66   ที่นี่มีลานกางเต้นท์ที่กว้างและเรียบ ไม่เหมือนตรงขุนน้ำเย็น  และยังมีบ้านพักให้ประมาณ 5 หลังด้วยครับ บรรยากาศเหมือนในต่างประเทศเลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 21:14:58

ความคิดเห็นที่ 67   หันกลับมามอง ช่องเย็น ที่ผ่านเข้ามา เพื่อยืนยันลักษณะความเป็นช่องเขา ที่ลมต้องรวมตัวมาผ่านตรงนี้ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 21:19:26

ความคิดเห็นที่ 68   ภาพบน : นี่เป็นวิวที่มองเห็นจากลานกางเต้นท์  ที่มีสายลมพัดตลอดเวลา โปรดสังเกตุว่า มีป้อมอะไรเล็กๆ อยู่ด้านข้างป้ายชื่อ ภาพล่างซ้าย : เมื่อเดินเข้าไปดูใกล้ๆ  อ้อ...เทอร์โมมิเตอร์ อุปกรณ์วัดอุณหภูมิ นั่นเอง เพียงแต่ทำหลังคากันแดดกันฝนให้เท่านั้น ภาพล่างขวา : ซูมเข้าไปใกล้อีก อ่านค่าได้ 26 องศา C ถือว่ากำลังพอดี กับสภาพลมโกรกแบบนี้ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 21:31:36

ความคิดเห็นที่ 69   เดินมองๆ ดูป้ายคำเตือนต่างๆ โดยรอบของที่นี่ไปพลางๆ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 21:40:19

ความคิดเห็นที่ 70   ลองถ่ายภาพวิวที่ช่องเย็น แบบพานอรามากันหน่อย ครับ แหม..เหลืออีกนิดเดียวที่จะไปถึงปลายสุดถนนสาย 1117 กันแล้ว ขอพักเพื่อกลับบ้านก่อนนะครับ ไว้พรุ่งนี้มาต่อกันใหม่ ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 21:44:16

ความคิดเห็นที่ 71   วันนี้มาต่อกันนะครับ ใกล้จะถึงเป้าหมายแล้ว ผมก็เคลื่อนรถต่อจาก ด้านหน้าทางเข้าช่องเย็นไปอีกเพียงร้อยกว่าเมตร ก็สุดถนนหมายเลข 1117 แล้ว  พบเครื่องกั้นทางอยู่ข้างหน้า พร้อมบอร์ดข้อมูล เกี่ยวกับเส้นทางสายนี้ ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 14:02:29

ความคิดเห็นที่ 72   ลงจากรถไปดูใกล้ๆ  นี่คือเป้าหมายของการเดินทางครั้งนี้  จุดปลายสุดของเส้นทางหมายเลข 1117 จาก จ.กำแพงเพชร โดยมีระยะทางถึงจุดนี้ 93 กม. พอดี จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 14:10:17

ความคิดเห็นที่ 73   เดินเข้าไปดูบอร์ดข้อมูลใกล้ๆ หน่อย ถ่ายภาพมาให้อ่าน ได้ใจความว่า "โครงการก่อสร้างเส้นทางสาย อุ้มผาง-คลองลาน นี้ เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ.2518 ด้วยวัตถุประสงค์เรื่องความมั่นคง เพื่อใช้ในทางการทหาร  แต่เมื่อเวลาผ่านมา พื้นที่แถบนี้ได้มีความสงบเกิดขึ้น แล้ว ในปี พ.ศ.2530 จึงได้สั่งระงับการก่อสร้างเส้นทางสายนี้ในส่วนที่เหลือเพียง 28 กม. ในส่วนที่ใกล้จะถึง อ.อุ้มผาง เพราะไม่ต้องการทำลายความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าแถบนี้" นอกจากนี้ ยังมีแผนที่เล็กๆ แขวนติดบอร์ดใหญ่นี้ด้วย เป็นการแสดงเส้นทางเดินเท้า ต่อจาก จุดนี้ไปตามถนนที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์เข้าไปอีก 9 กม. ปลายทางคือ น้ำตกนางนวล  นอกจากนี้ ก็ยังมีเส้นทางเดินในป่า เพื่อศึกษาธรรมชาติอีก 1.5 กม. จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 14:22:17

ความคิดเห็นที่ 74   จากข้อมูลในบอร์ด นั่นหมายความว่า เส้นทางต่อจากเครื่องกั้นนี้ไป นั้นสามารถเดินเท้าเข้าไปได้ถึง น้ำตกนางนวล ในระยะทาง 9 กม. ซึ่งไม่ได้มีข้อห้ามใดๆ ในการผ่านจากจุดนี้  แต่ถ้าหากถึง น้ำตกนางนวลแล้ว อาจมีป้ายห้าม หรือไม่คงเหลือสภาพถนน เส้นทางใดๆ ก็ได้ ซึ่งต้องรอ คนที่เคยไปสำรวจมาแล้ว นำภาพมาให้ชมอีกที  เพราะระยะทาง 9 กม. บนเขา ที่มีต้นไม้รกชัฎ แบบนี้  คงใช้เวลาเดินไม่ใช่น้อย อาจจะนานถึง 5 ชม. ก็ได้  จึงต้องมีกลุ่มคณะ ที่มีอาหารพร้อมในการเข้าไป  และเป็นที่แน่นอนว่า ต้องพักค้างแรมกันที่ ช่องเย็นนี้ เพื่อจะได้เข้าไปแต่เช้า และกลับออกมาก่อนค่ำให้ได้ ภาพขวา : ผมได้ลองเดินเข้าไปประมาณ 50 เมตร ก็พบว่า เส้นทางมีต้นไม้ปกคลุมยื่นมาทั้งสองข้างทาง ทำให้ดูไม่ปลอดภัย จากสัตว์มีพิษ เช่น งู  จึงได้หยุดการเดินสำรวจของผมไว้เพียงแค่นี้ (เข้ามาคนเดียว แค่นี้ก็เสียวแล้วครับ...) จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 14:36:04

ความคิดเห็นที่ 75   จากจุดที่ผมเข้าไปลึกที่สุด (50เมตร) มองย้อนกลับมาที่ เครื่องกั้นทาง จะเห็นบอร์ดข้อมูลอยู่ไกลๆ  ถ้าหากเดินลึกไปกว่านี้ คงจะลับตา มองไม่เห็นทางเข้ามาแน่นอน.... ถ้าหากเป็นหน้าแล้ง ช่วงเดือนมีค. ต้นไม้อาจไม่รกขนาดนี้ น่าจะพอเดินได้บ้าง....... จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 14:45:35

ความคิดเห็นที่ 76   ผมลองค้นหาภาพ น้ำตกนางนวลดูว่ามีหน้าตาแบบใด   รูปข้างล่างได้มาจาก เว็บ http://travel.sanook.com ว่าเป็นน้ำตก 4 ชั้น แต่ข้อมูลในเว็บบอกว่า ระยะทางเดินจาก ช่องเย็นแค่ 6 กม.  คืออยู่หลักกิโลเมตรที่ 99 ของ เส้นทางสาย 1117 นี้  และการจะเข้าไปยัง น้ำตกแห่งนี้ต้องแจ้งจนท.อุทยานฯ ก่อนด้วยครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 14:55:56

ความคิดเห็นที่ 77   ค้นๆ ไป ก็พบว่า มีทริปเดินป่า ช่องเย็น-อุ้มผางด้วย จากในเว็บนี้ http://www.mrbackpacker.com/info/trail/trail_3.html ระบุว่า จากช่องเย็นเข้าไป 8 กม. จะเจอสะพานปูนเก่าแห่งแรก ที่มีทางแยกลงไปข้างล่าง 200 เมตร มุ่งไปสู่น้ำตกนางนวล  กลับขึ้นมาเดินต่ออีก 8 กม.จะไปถึง สะพานปูนเก่าอันที่สอง พักค้างคืน เช้าออกเดินทางต่อตามถนนสายเก่านี้ จนสุดถนน แล้วลุยป่าไปจนถึงลานเฮลิคอปเตอร์รวม 4 ชม.  เดินลุยป่าต่อไปอีก 3 ชม. ก็ถึงลำน้ำอุ้มผางคี แล้วลงเรือล่องแก่งไปบ้านอุ้มผางคี เดินต่อไปบ้านแปโคหะ แล้วจึงถึงทางรถยนต์ไปสู่ อ.อุ้มผางอีกที   เฮ้อ...เห็นแล้วรู้สึกอ่อนใจเลย.... เพราะเป็นการข้ามอุทยานฯ แม่วงก์ไป เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางเลย จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 15:27:11

ความคิดเห็นที่ 78   ภาพบน : ผมเดินย้อนกลับมาที่เครื่องกั้นทางแล้ว  ห้องน้ำจะอยู่ด้านซ้ายมือครับ ภาพล่าง : นี่เป็นห้องน้ำของที่นี่ นับว่ามีความสะอาดทันสมัย และน้ำแรง ครับ  สาวๆ ก็รีบล้างหน้า เสริมสวย กันเพลิน ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 15:34:15

ความคิดเห็นที่ 79   จากหน้าห้องน้ำ หันหลังกลับไป ก็คือลานกางเต้นท์ ที่ช่องเย็นครับ ซึ่งจะมองเห็นช่องเขาที่ลมพัดผ่านได้ชัดเจนครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 15:39:38

ความคิดเห็นที่ 80   ขอสรุปเป็นแผนผัง พื้นที่แถวๆ ช่องเย็นให้เข้าใจง่ายขึ้นดังนี้ครับ คือ จุดชมวิวของช่องเย็นนี้จะหันไปทางทิศตะวันออก ในขณะที่ อ.อุ้มผางนั้นจะอยู่ต่ำลงไปทางใต้ เล็กน้อย ซึ่งจะมีทิวเขาบัง ทำให้ไม่สามารถมองเห็น ตัวอำเภอได้ แม้ว่าจะอยู่ไกลในระยะทางตรงประมาณ 28 กม. เอง  จุดที่มองเห็นได้นั้น คงจะอยู่ในช่วงเส้นทางไปยัง น้ำตกนางนวล ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 16:06:37

ความคิดเห็นที่ 81   ภาพบน : ผมเดินไปยืนตรงจุดชมวิว (ระเบียง) แล้วมองกลับมาที่จุดสิ้นสุดถนนสาย 1117 ภาพล่าง : ลองส่ายกล้องไปยังวิว โล่งๆ ซึ่งจะเห็นทิวเขาบัง  แนวทิศของ อ.อุ้มผางอยู่ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 16:15:55

ความคิดเห็นที่ 82   ลองเอากล้องถ่ายชัดๆ ถึงแนวเขาที่ยื่นไปบัง อ.อุ้มผางอยู่ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 16:22:54

ความคิดเห็นที่ 83   ซึ่งถ้ามองไปตรงๆ จากจุดชมวิว (เหมือนภาพพานอรามาในรูปคห.70) โดยซูมไปไกลๆ ก็จะเห็นทิวเขาหลายลูก ซึ่งเลยไปจากนั้น ก็คือเส้นทางลอยฟ้าระหว่าง แม่สอดกับอุ้มผางในช่วงใกล้ถึง อุ้มผางในช่วงที่เป็นสวนหินนั่นเอง (อ้างจาก กระทู้ทริปทีลอซูของผมข้างล่างนี้) http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E9314049/E9314049.html#71 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 16:43:47

ความคิดเห็นที่ 84   ตามมาชมต่อครับ ... จากคุณ : Trip-F เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 16:48:42

ความคิดเห็นที่ 86   สวัสดีครับ คุณTrip-F : ยินดีด้วยครับ ที่ติดตามมาจนจบกระทู้เลย พอดี เพิ่งมาสังเกตุเห็นภาพถ่าย เกจ์วัดน้ำมัน ตอนอยู่ระหว่างกิ่วกระทิง กับ ขุนน้ำเย็น ช่วงขาขึ้นครับ (คห.52) เป็นการถ่ายโดยบังเอิญ เพราะกดกล้องผิดพลาด  แต่ดูแล้วเสียวไหมครับ ที่เห็นเข็มวัดน้ำมันเข้าใกล้ ขีด E เต็มทีแล้ว ในขณะที่ยังเหลือเส้นทางบนเขาที่ไม่เคยไปอีก 10 กม! แล้วขาลงกลับออกมา กว่าจะถึงปั๊มน้ำมัน ตรงสี่แยกคลองลาน ต้องวิ่งระยะทางอีก 50 กม.! ผมใช้เทคนิคค่อยๆแตะคันเร่ง และใช้เกียร์ต่ำ(มากๆ) เมื่อเจอทางขึ้น ผลคือ ประสบความสำเร็จครับ มาถึงปั๊ม เข็มวัดน้ำมันเพิ่งแตะขีด E ด้านบนเอง แต่ก็รู้สึก เข็ดจริงๆ ครับ แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 53 17:34:47 แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 53 17:15:27 แก้ไขเมื่อ 17 มิ.ย. 53 17:13:37 จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 17:01:50

ความคิดเห็นที่ 87   ภาพบนซ้าย : หลานสาวผม เธอกำลังเพลินชมวิวทิวทัศน์อยู่ครับ ภาพบนขวา : ระหว่างล้างหน้าอยู่ที่ห้องน้ำบนโน้น เจอเจ้าตัวแมลงประหลาด ลำตัวเป็นแมลงปีกแข็งประเภทแมลงเต่าทอง แต่ขานั้นยาวเหมือนแมงมุมเลย ใครรู้จักบ้างครับ ภาพล่างซ้าย : ป้ายชื่อตรงจุดชมวิวครับ ภาพล่างขวา : ลักษณะถนน ระหว่างช่องเย็น-ขุนน้ำเย็น มีชำรุดเป็นบางจุดครับ นี่เป็นภาพถ่ายขากลับออกมา ตอนเวลา สี่โมงเย็นครึ่ง ขอจบกระทู้นี้ไว้เพียงแค่นี้นะครับ ใครที่เคยไปสำรวจเส้นทาง 1117 แล้วมองเห็น อ.อุ้มผางได้ ก็ลองติดต่อผม เพื่อส่งรูปไปให้ดูบ้างนะครับ สวัสดีครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 17:08:59

ความคิดเห็นที่ 88   ขอบคุณค่ะ  กำลังคิดอยากจะไปช่องเย็นอยู่พอดี...   ผจญภัยสนุกสนานตามเคยนะคะ...อ่านแล้วลุ้นไปด้วย จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 08:58:55

ความคิดเห็นที่ 89   ชอบครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวดีๆ ข้อมูลเยอะๆ  อยากไป อช.แม่วงศ์ มานานแล้วยังไม่ได้ไปสักที จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 09:16:02

ความคิดเห็นที่ 90   เคยได้ยินชื่อช่องเย็นมานาน แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไรยังไง พอได้อ่านกระทู้คุณมิราชชแล้ว ทำให้เข้าใจเลยครับ (หลังจากไม่รู้เรื่องมานาน) หลาย ๆ กระทู้ที่ผมได้อ่าน รู้สึกเหมือนได้เปิดโลกกว้างขึ้นอีกเยอะเลยครับ แล้วก็รู้สึกว่ามีแรงบัลดาลใจ อยากหลบออกจากกรุงเทพไปท่องเที่ยวแบบนี้บ้าง นี่ขนาดแค่ผมอ่าน ยังรู้สึกมันส์ มาก ๆ เลยครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวดี ๆ ครับ (จะคอยติดตามผลงานตอนต่อ ๆ ไปครับ) จากคุณ : Trip-F เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 53 17:02:44

ความคิดเห็นที่ 91   ยอดเขาโมโกจู น่าไปมากครับ แต่ว่าหาคนร่วมทริปไมได้เลยแฮะ ^^ จากคุณ : freestyler เขียนเมื่อ : 19 มิ.ย. 53 22:07:15

ความคิดเห็นที่ 92   สวัสดีครับ คุณป้าฟู , คุณnoiwanwannoi , คุณTrip-F : ยินดีด้วยครับ ที่ชอบ  ถ้ามีโอกาสก็ลองแวะไปเที่ยวได้ครับ  อช.แม่วงก์ อยู่ไม่ไกล เรียบๆ ง่ายๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น แต่เน้นสงบตามธรรมชาติ ครับ  การได้ข้อมูลล่วงหน้ามากๆ เต็มอิ่มแบบนี้ จะทำให้ ง่ายต่อการตัดสินใจก่อน และเตรียมตัวเตรียมใจได้ว่า ไปแล้วได้อะไร และจุดไหนน่าสนใจสำหรับเราครับ  ไม่งั้นจะกลายเป็นว่า ไปแล้วเสียเที่ยวครับ  ผมเพิ่งกลับมาจาก เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ครับ เดี๋ยววันอังคารจะเริ่มมาโพสให้ดู ว่าสถานการณ์น้ำแห้ง และสิ่งที่หลายคนยังไม่รู้(Unseen) เกี่ยวกับเขื่อนแห่งนี้ ครับ สวัสดีครับ คุณfreestyler : การเดินป่าไปยอดโมโกจู นั้นใช้เวลายาวนาน  5 วัน 4 คืน ย่อมหาคนไปด้วยไม่ง่ายนักครับ  ทางการน่าจะหาวิธีให้เดินทางไปได้เร็วขึ้นกว่านี้ เช่น พัก 1 - 2 คืน ก็พอครับ  ธรรมชาติน่าจะเป็นของทุกคน  การเข้าถึงธรรมชาติ น่าจะเป็นเรื่องง่ายกว่านี้   แต่ถ้าต้องการควบคุมมิให้มีผู้คนเข้าไปเหยียบย่ำธรรมชาติมาก ก็ต้องมีมาตรการ เช่น โควต้า หรือกระจายระยะเวลาให้เข้าได้กว้างขึ้น เกือบทั้งปี    เช่นในบางประเทศเขาสร้างรถกระเช้าลอยฟ้า เพื่อลดการเหยียบย่ำธรรมชาติโดยตรง ผู้เข้าชมจะมองเห็นป่า สัตว์ป่าจากระยะไกล  สามารถขึ้นไปวันเดียวกลับได้ และไม่จำกัดช่วงเวลา เพียงแต่การก่อสร้าง อาจรบกวนธรรมชาติชั่วระยะเวลาหนึ่ง แต่ก็น้อยกว่าการสร้างถนน อย่างแน่นอนครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 20 มิ.ย. 53 17:20:10

ความคิดเห็นที่ 93   สวัสดีค่ะ หนูเป็นเจ้าของพื้นที่ค่ะ ขอเข้ามาสนับสนุนการท่องเที่ยวด้วยคน อยากบอกว่าช่องเย็นสวยมากค่ะ ไปเมื่อต้นปีมา อากาศหนาวเย็นสมชื่อ คิดว่าจะไปอีกทีกันยา-ตุลาคม ปีนี้ อยากเปลี่ยนไปแบบหน้าฝนดูค่ะ อยากรู้ว่าทะเลหมอกที่นี่จะสวยแค่ไหน จากที่ดูแผนที่เสียดายมากเลยนะคะ (แอบคิดในใจว่าถ้าทำเส้นทางต่อ คงไป ทีลอซูใกล้นิดเดียวเอง) แต่ก็ดีค่ะ จะได้ชื่อว่าเราไปถึงที่สิ้นสุดของถนนมาแล้ว ความเป็นจริงอยากพิชิตยอดเขาโมโกจู มากค่ะ แต่เพื่อนร่วมทริป สังขารไม่ไหว 555 ความฝันเลยแขนอยู่บนยอดเขาไปไม่ถึง-.- (แต่ถ้าใครจัดทริปไปด้วยคนนะคะ555) จากคุณ : เจ้าม่อนจอมซน เขียนเมื่อ : วันต่อต้านยาเสพติดโลก 53 17:24:00

ความคิดเห็นที่ 94   สวัสดีครับ คุณเจ้าม่อนจอมซน : ยินดีที่รู้จักคนในพื้นที่ ครับ การเปิดเส้นทางประวัติศาสตร์ หรือทางลัดไป อุ้มผางนั้น อาจทำเพื่อการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ก็ได้ เช่น เดินเท้า ลงเรือ นั่งช้าง  ไม่ใช่สร้างทางดีๆ ให้รถยนต์ข้ามไปง่ายๆ  ดั่งทัวร์ใน คห.77 ครับ สำหรับผม เรื่องลุยไม่กลัว กลัวแต่ห้องน้ำครับ เพราะไม่มีในระหว่างทางเลย  ขนาดไปเขาช้างเผือก ค้างแค่คืนเดียว ยังคิดหนัก กลัวตอนเช้าเกิดปวดท้องขึ้นมา จะทำอย่างไร  อยากได้แบบเดินป่า ไปเช้าเย็นกลับ ครับ หรือไม่บนโน้นก็ต้องมีห้องน้ำ ร้านค้า ที่พักเหมือนกับ ภูกระดึง ไม่แน่นะครับ ในอนาคต โมโกจู  หรือ เขาช้างเผือก นี่อาจมีการสร้าง ห้องน้ำระหว่างทางให้ก็ได้  ถ้าหากมีคนไปกันเยอะ อย่างน้อยก็จะได้ไม่ไป ปล่อยของเสียในป่ากันเต็มไปหมด ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 53 17:07:56

ความคิดเห็นที่ 95   สวัสดีครับ คุณเจ้าม่อนจอมซน : ยินดีที่รู้จักคนในพื้นที่ ครับ การเปิดเส้นทางประวัติศาสตร์ หรือทางลัดไป อุ้มผางนั้น อาจทำเพื่อการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ก็ได้ เช่น เดินเท้า ลงเรือ นั่งช้าง  ไม่ใช่สร้างทางดีๆ ให้รถยนต์ข้ามไปง่ายๆ  ดั่งทัวร์ใน คห.77 ครับ สำหรับผม เรื่องลุยไม่กลัว กลัวแต่ห้องน้ำครับ เพราะไม่มีในระหว่างทางเลย  ขนาดไปเขาช้างเผือก ค้างแค่คืนเดียว ยังคิดหนัก กลัวตอนเช้าเกิดปวดท้องขึ้นมา จะทำอย่างไร  อยากได้แบบเดินป่า ไปเช้าเย็นกลับ ครับ หรือไม่บนโน้นก็ต้องมีห้องน้ำ ร้านค้า ที่พักเหมือนกับ ภูกระดึง ไม่แน่นะครับ ในอนาคต โมโกจู  หรือ เขาช้างเผือก นี่อาจมีการสร้าง ห้องน้ำระหว่างทางให้ก็ได้  ถ้าหากมีคนไปกันเยอะ อย่างน้อยก็จะได้ไม่ไป ปล่อยของเสียในป่ากันเต็มไปหมด ครับ จากคุณ : มิราชช (mirage_II) เขียนเมื่อ : 2 ก.ค. 53 17:12:00