ความคิดเห็นที่ 1   ที่อุทยานแห่งชาติแม่เมย  จะมีจุดชมวิวอยู่ 4 แห่ง นั่นก็คือ ม่อนกิ่วลม ม่อนครูบาใส ม่อนพูนสุดา  ซึ่งจะอยู่ห่างกันแต่ละที่ประมาณ 2-3 กิโลเมตร   ม่อนกิ่วลมเป็นจุดชมวิวที่อยู่สูงที่สุดและไกลที่สุด  และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามที่สุดในบริเวณอุทยานแห่งชาติแม่เมยนี้ (ตามคำบอกเล่า  อย่างนี้ต้องพิสูจน์)     ผมขับรถจากที่ทำการอุทยานฯ  ไต่ระดับความสูงของขุนเขาขึ้นไปเรื่อยๆ ท่ามกลางความมืด  มีเพียงแสงไฟจากรถของเราเท่านั้นที่เป็นแสงนำทาง  ถนนลาดยางอย่างดี เรียบขับง่าย  ผมขับรถด้วยความระมัดระวังด้วยความที่คุ้นชินกับเส้นทาง  ผ่านป้ายบอกจุดชมวิวม่อนพูนสุดา และม่อนครูบาใส  ไม่นานรถของผมก็มาถึงที่หมายที่ ม่อนกิ่วลม  เมื่อจอดรถเสร็จก็เตรียมสัมภาระและต้องเดินเท้าขึ้นไปบนเนินอีกประมาณ 100 เมตร  ก็จะถึงจุดชมวิวม่อนกิ่วลมแล้ว จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 10:03:50

ความคิดเห็นที่ 2   ท้องฟ้ายังไม่สว่างมากนัก พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น  มีเพียงแสงอยู่ริมขอบฟ้าเล็กน้อย  ผมเลือกจุดชมพระอาทิตย์ที่คิดว่าสวยและมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ดีที่สุด กางเก้าอี้พับแล้ววางเตาแก็สบนพื้นหญ้า เอาหม้อน้ำมาต้มเพื่อชงกาแฟ  รอเวลาพระอาทิตย์ขึ้นในอีกไม่กี่นาทีที่จะถึงนี้  อากาศหนาวๆ ลมพัดเป็นระยะมากระทบร่างกายทำให้ยิ่งหนาวเข้าไปใหญ่  นักท่องเที่ยวไม่มากนักเพราะไม่ใช่วันหยุดทำให้ไม่ต้องรีบร้อนเร่งรีบแต่อย่างใด  ชิลๆ สบายๆ ครับ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 10:13:07

ความคิดเห็นที่ 3   นั่งจิบกาแฟสักพักท้องฟ้าก็เริ่มสว่างขึ้นเรื่อยๆ  จวนได้เวลาพระอาทิตย์ผ่านพ้นขอบฟ้าแล้ว จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 10:17:11

ความคิดเห็นที่ 4   พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 10:22:37

ความคิดเห็นที่ 5   สูงขึ้นเรื่อยๆ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 10:23:26

ความคิดเห็นที่ 6   เห็นแล้วคิดถึงเส้น 105 จากคุณ : Mukzaki เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 11:50:18

ความคิดเห็นที่ 7   .. บรรยากาศดีมากครับ  บรรยายได้เหฌ็นภาพมากเลย .. จากคุณ : POGGHI เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 13:22:21

ความคิดเห็นที่ 8   ถ่ายรูปได้สวยครับ ชอบ จากคุณ : hotsia เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 13:32:53

ความคิดเห็นที่ 9   ยินดีต้อนรับครับ คุณMukzaki  คุณPOGGHI และคุณhotsia  กลับมารีวิวต่อ ................................................................................................. อย่างที่บอกไว้ตั้งแต่แรก ว่าจุดประสงค์ที่มาที่ อุทยานแห่งชาติแม่เมย นี้ ก็เพราะต้องการชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่ว่ากันว่าสวยงามติดอันดับในประเทศไทย  แต่ที่ ม่อนกิ่วลม นี้เป็นจุดที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยก็จริงแต่ถ้าต้องการชมทะเลหมอกยามเช้าแล้ว  ตรงจุดนั้จะไม่ค่อยเห็นคลื่นทะเลหมอกสักเท่าไหร่เพราะมีภูเขาสูงบัง  สู้จุดชมวิวด้านล่างอีก 2 ที่ไม่ได้ (ม่อนครูบาใส และม่อนพูนสุดา)  เดี๋ยวจะพาไปชมแต่ขอเก็บภาพบรรยากาศที่ ม่อนกิ่วลม ก่อน   มีเพื่อนๆ บอกว่าที่ม่อนกิ่วลมนี้จะมีต้นไม้ต้นนี้เป็นสัญลักษณ์ระหว่างถ่ายภาพชื่นชมพระอาทิตย์ขึ้น  เห็นท่าจะจริงครับ แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 53 20:44:42 จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 15:32:43

ความคิดเห็นที่ 10   ผมอยู่บนนี้ชมพระอาทิตย์ขึ้นมาเรื่อยๆ  อากาศคลายความหนาวลงไปได้บ้างหลังจากมีแสงสาดส่อง ผสมกับกาแฟร้อนที่เตรียมไป  ชื่นใจจริงๆ กับประเทศไทยที่มีที่เที่ยวสวยๆ แบบนี้ให้เป็นสมบัติของประชาชนคนไทย  แต่ยังงั้นสิ่งดีๆ เหล่านี้จะคงอยู่กับพวกเราไปได้นานเท่านาน  พวกเราทุกคนก็ต้องรู้จักที่จะอนุรักษ์กันไว้ด้วยนะครับ ช่วยกันคนละไม้ละมือ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 15:37:29

ความคิดเห็นที่ 11   หลังจากชื่นชมบรรยากาศกันอย่างเต็มอิ่มที่ ม่อนกิ่วลม ท้องฟ้าเริ่มสว่างมากแล้วได้เวลาลงไปชมทะเลหมอกที่ว่ากันว่าสวยนักสวยหนากันสักที  ผมเก็บสัมภาระต่างๆ ขึ้นรถ จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่จุดชมวิวด้านล่าง "ม่อนครูบาใส"และ"ม่อนพูนสุดา"  ระหว่างทางที่รถขับลงมามีเวิ้งเนินเขาเล็กๆ ระหว่าง ผมเห็นทะเลหมอกอย่างชัดถนัดตา ก็เลยรีบจอดรถข้างทางแล้วลงไปถ่ายรูปกัน  สัมผัสแรกที่เห็นหมอกขาวๆ เป็นเส้นสายมีภูเขาขนาบข้างทั้งสองฝั่ง  มองดูคล้ายกับเป็นลำธารของสายหมอกอย่างงัยอย่างนั้นเลยครับ แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 53 15:59:36 จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 15:49:22

ความคิดเห็นที่ 12   สวยงามไม่แพ้กัน..ฮิฮิ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 15:52:21

ความคิดเห็นที่ 13   ใช้เวลาละเลียดความงามอยู่ประมาณ 10 นาที ก็ต้องรีบขึ้นรถเพราะจอดรถอยู่บนไหล่ทางรู้สึกไม่ปลอดภ้ยทั้งเราและรถค้นอื่นๆ  ขับลงมาได้สักพักก็ได้เห็นป้ายและน้ำตกเล็กๆ อยู่ติดกับถนนเลยครับ  นี่งัยครับ "น้ำตกแม่ระเมิง"  ถึงน้ำจะน้อยไปบ้างแต่ได้เห็นแค่นี้ก็ชื่นใจแล้วครับ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 15:57:49

ความคิดเห็นที่ 14   ขับรถลงมาเรื่อยๆ อย่างช้าๆ เพราะไม่ได้รีบร้อนอะไร  แล้วก็มาถึงแล้วครับ "ม่อนพูนสุดา" (ไม่ได้ถ่ายป้ายมาให้เห็น)  ผมขับรถเข้าไปจอดด้านในติดกับหน้าผาเลยครับเพราะไม่มีนักท่องเที่ยวคนอื่น  แล้วก็ลงไปถ่ายรูปกัน อากาศด้านนอกเริ่มอุ่นขึ้นบ้างแล้ว  อากาศบริสุทธิ์ผ่านจมูกเข้าสู่ปอดทำให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า  คนเมืองอย่างเราถ้าไม่ไขว่คว้าดิ้นรนที่จะมาเที่ยวแบบนี้รับรองว่าอยู่ในกรุงเทพฯ ยังงัยๆ ก็หาไม่เจอนะครับ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 16:09:56

ความคิดเห็นที่ 15   ภาพนิ่งส่วนใหญ่จะติดคุณผู้หญิงของผมแทบทั้งนั้น   วิวทิวทัศน์ล้วนๆ จะอยู่ในภาพเคลื่อนไหว (กล้องดีวีดี) แทบทั้งหมด  ไม่รู้จะตัดอย่างงัยทนๆ เอาหน่อยล่ะกันนะครับ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 16:15:33

ความคิดเห็นที่ 16   อยู่ที่ ม่อนพูนสุดา ได้ไม่นาก ก็มุ่งหน้าต่อไปยังจุดชมวิวจุดสุดท้ายที่อยู่ใกล้กับที่ทำการอุทยานฯมากที่สุด  "ม่อนครูบาใส" จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 16:19:01

ความคิดเห็นที่ 17   เป็นงัยครับทะเลหมอกที่นี่  น่ามาชื่นชมด้วยตาตัวเองหรือเปล่าครับ  จริงๆ แล้วจะบอกว่า มันสวยมากกว่าในภาพอื่นไม่รู้กี่เท่านะครับ ไม่รู้จะถ่ายรูปยังงัยให้รู้สึกได้ว่ามันสวยจริงๆ  โดยส่วนตัวแล้วผมรู้สึกประทับใจและชื่นชอบกับที่อุทยานแห่งชาติแม่เมยมากถึงมากทีสุด  ถ้ามีโอกาสก็คงไม่พลาดที่จะเที่ยวที่นี่อีกหลายๆ ครั้ง ชอบๆๆ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 16:24:56

ความคิดเห็นที่ 18   รูปสุดท้ายก่อนกลับไปเก็บเต็นท์ที่ทำการอุทยานฯ "ม่อนครูบาใส" อุทยานแห่งชาติแม่เมย อ.ท่าสองยาง จ.ตาก  พร้อมจะต้อนรับทุกท่านอยู่ที่นี่ตลอดกาล จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 16:27:48

ความคิดเห็นที่ 19   จริงๆ แล้วจุดชมวิวของอุทยานแห่งชาติแม่เมย ยังมีอีก 2 ที่ นั่นก็คือ "ม่อนปุยหมอก" และ "ม่อนกระทิง"   "ม่อนปุยหมอก" อยู่บนเทือกเขาสูงชัน รถยนต์ไม่สามารถไปถึงต้องเดินทางด้วยเท้าเพียงอย่างเดียว  ใช้เวลาในการเดินทางไปถึงเป็นวันๆ ผ่านเส้นทางศึกษาธรรมชาติและป่าเขา  แต่ฟังจากคำบอกเล่าก็สามารถจิตนการได้ถึงความสวยงามที่จะได้พบเห็นคุ้มค่ากับการเดินทาง  ส่วน"ม่อนกระทิง" จะเป็นจุดชมวิวที่อยู่ด้านล่างก่อนถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ   หลังจากเต็มอิ่มกับความงามของธรรมชาติที่จุดชมวิวทั้งสาม  ผมก็เดินทางกลับมายังที่ทำการอุทยานฯ ซึ่งเป็นจุดที่ผมกางเต็นท์นอนค้างคืนเมื่อวานนี้  ดูเวลาในขณะนั้นประมาณเก้าโมงเช้า  แสดงว่าใช้เวลาในการดื่มด่ำกับธรรมชาติทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกเป็นเวลาทั้งสิ้นเกือบๆ สี่ชั่วโมง  เมื่อถึงเต็นท์ที่พักก็เตรียมตัวเก็บสัมภาระต่างๆ เพื่อเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางที่วางแผนกันไว้ จุดไว้ค้างแรมสำหรับวันนี้ (วันที่ 5 ของการเดินทาง) ก็คือ ตัวเมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอน นั่นเอง  ผมตัดสินใจลงไปกินอาหารเช้าที่ร้านอาหารด้านล่างปากทางเข้าอุทยานฯ  ซึ่งสังเกตเห็นตอนที่ขับรถเข้ามายังอุทยานฯ  ส่วนการอาบน้ำชำระร่างกายเวลานี้ไม่ต้องเพราะจากแผนที่วางไว้วันนี้เราจะไปอาบน้ำแร่แช่น้ำร้อนกันที่ "บ่อน้ำร้อนผาบ่อง" จ.แม่ฮ่องสอน   ***ลาก่อนนะ "แม่เมย" ที่รักแล้วจะกลับมาอีก ขอสัญญา*** จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 16:51:29

ความคิดเห็นที่ 20   เมื่อออกจากอุทยานแห่งชาติแม่เมย  มุ่งตรงไปยังร้านค้าและร้านอาหารด้านล่าง  สั่งก๋วยเตี๋ยวหมูและข้าวผัดมาประทังชีวิตพร้อมโอเลี้ยงรสเข้มข้นเพื่อสลายความง่วงนอนจากการตื่นเช้า  เมื่อกินอาหารกันเสร็จก็ออกเดินทางกันทันที  เพราะดูจากแผนที่แล้วระยะทางที่จะมุ่งหน้าไปสำหรับวันนี้ค่อนข้างไกลพอสมควร  เริ่มจากเลี้ยวขวาสู่ถนนเส้นเดิม (ถนนสาย 105) มุ่งหน้าสู่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน  ผ่าน อ.สบเมย ซึ่งเป็นอำเภอล่างสุดของจังหวัดแม่ฮ่องสอน   เมื่อถึง อ.แม่สะเรียง จะพบกับอาคารรูปร่างสวยงามสไตล์ไทยล้านนาผสมผสานกับศิลปะพม่า ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงทางแยก อ.แม่สะเรียง พอดี แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 53 17:06:58 จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 17:06:31

ความคิดเห็นที่ 21   จากทางแยกนี้ถ้าเลี้ยวซ้ายจะเข้าสู่ตัวอำเภอ แม่สะเรียง  ถ้าเลี้ยวขวาจะมุ่งหน้าไปยัง อ.ฮอด จ.เชียงใหม่  ส่วนผมที่ต้องการจะไปยัง ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ต้องขับรถตรงไปเข้าสู่ถนนสาย 108 ซึ่งจะผ่าน อ.แม่ลาน้อย และ อ.ขุนยวม  ก่อนจะถึงตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ผมเดินทางโดยไม่หยุดพักหรือแวะเที่ยวใดๆ ทั้งสิ้น เริ่มออกเดินทางจากร้านอาหารปากทางเข้าอุทยานแห่งชาติแม่เมยในเวลาประมาณเกือบเที่ยง ผ่าน อ.สบเมย - อ.แม่สะเรียง - อ.ขุนยวม จนเข้าสู่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน จุดหมายปลายทางอยู่ที่ "บ่อน้ำร้อนผาบ่อง" ซึ่งอยู่ก่อนถึงตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ 20 กิโลเมตร จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 17:22:58

ความคิดเห็นที่ 22   ถึง "บ่อน้ำร้อนผาบ่อง" ในเวลาประมาณห้าโมงเย็น  สิริเวลาที่ใช้ไปในการเดินทางเกือบหกชั่วโมง  เนื่องด้วยเส้นทางทีผ่านโค้งมากมายเป็นพันๆ โค้ง (จริงๆ แล้วมีอยู่แค่ 2 โค้งเท่านั้นแหละ โค้งซ้ายและโค้งขวา)  เป็นตัวกำหนดให้เราไม่สามารถใช้ความเร็วตามที่ต้องการได้  แต่ก็ดีนะครับขับช้าๆ ปลอดภัยดีแถมยังได้ชื่นชมกับวิวทิวทัศน์สองข้างทางที่ผ่านไปด้วย จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 17:29:00

ความคิดเห็นที่ 23   ส่วนสาเหตุที่ผมไม่เข้าไปยังตัวเมืองแม่ฮ่องสอนก่อน  ทั้งๆ ที่ยังไม่มีที่ซุกหัวนอนกันเลยคืนนี้  ก็เพราะยังไม่ได้อาบน้ำกันเลยตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้า  แถมยังมีกิจกรรมที่ทำกันมากมายตั้งแต่ตื่นนอน  ทำให้มีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์คอยรบกวนจิตใจอยู่ตลอดการเดินทาง   บ่อน้ำร้อนผาบ่อง เอกชนได้รับสัมประทาน มีการจัดการและจัดสร้าห้องอาบน้ำแร่อย่างเป็นสัดส่วนจำนวนหลายห้อง  ด้านนอกจะเป็นบ่อน้ำแร่ขนาดใหญ่พอประมาณ  ไม่สามารถลงไปอาบได้แต่สามารถลงไปจุ่มเท้านั่งเลยได้  เมื่อถึงบ่อน้ำร้อนผาบ่อง  จ่ายเงินค่าเข้าไปอาบน้ำแร่คนละ 50 บาท แล้วก็รีบเดินเข้าไปอาบน้ำทันที  ทนไม่ไหวแล้ว จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 17:39:20

ความคิดเห็นที่ 24   ไม่เกิน 15 นาที ความสดชื่นก็กลับมาพร้อมสำหรับการเดินทางต่อไปแล้วครับ  ก่อนเดินทางออกจาก บ่อน้ำร้อนผาบ่อง  ก็เดินเล่นรอบบริเวณเพื่อซึบซับและรับรู้ความเป็นมาของสถานที่ (แต่ตอนนี้จำไม่ได้แล้วครับ ขอโทษที)  หลังจากนั้นก็มุ่งหน้าเดินทางต่อไปยังตัวเมืองแม่ฮ่องสอนเพื่อหาที่พักและอาหารค่ำกินกัน รูปบ่อน้ำแร่ธรรมชาติ  ที่บ่อน้ำพุร้อนผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 17:47:40

ความคิดเห็นที่ 25   ขอไปด้วยคนนะครับ ภาพสวย เห็นแล้วคิดถึงตอนที่ไปจัง..... จากคุณ : Triper Man เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 18:11:29

ความคิดเห็นที่ 26   สุดยอดเลย เที่ยวคล้ายผมเลยครับ ภาพที่ถ่ายสวยๆทั้งนั้นฝีมือดีมากครับ ผมก็เที่ยวประมาณนี้ครับ แรกๆก็รีวิวเก็บไว้ดู แต่สองปีหลังชักขี้เกียจ มีภาพแยะเก็บไว้เฉยๆ สายเหนือผมชอบมากไปมาสิบกว่าปีแล้ว จะไปต้นเดือน ธค. ทุกๆปี ทิปละเก้าถึงสิบวัน มีโอกาสคงได้ขัยรถตามๆกันไปสักทิปนะครับ ลองเข้าไปชมภาพการเที่ยวแบบของผมที่ว่าคล้ายๆกันสิครับ เข้าไปเลือกดูกะทู้เที่ยวต่างๆได้เลยครับ http://sombataia.pantown.com/ แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 53 19:56:00 จากคุณ : หนุ่ม (sunsam) เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 19:54:54

ความคิดเห็นที่ 27   บรรยากาศเวลาพระอาทิตย์ขึ้นสวยมากๆเลยครับ ขอบคุณที่พาไปเที่ยวนะครับ จากคุณ : tataweb เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 20:31:58

ความคิดเห็นที่ 28   ยินดีต้อนรับครับ คุณTriper Man คุณtataweb และ คุณหนุ่ม (sunsam)  ปีนี้อยากไปเที่ยว ชัยภูมิ เลย เขียงคลาน แบบเจาะลึก  (ยกเว้นขึ้นภูกระดึงนะครับ แพ้สังขาร) ไปเที่ยวด้วยกันมั้ยครับ ................................................................................................. ออกจาก บ่อน้ำพุร้อนผาบ่อง ก็มุ่งหน้าสู่แม่ฮ่องสอนด้วยความรวดเร็ว  ไม่ถึงสิบห้านาทีก็เข้าสู่เขตตัวเมืองแม่ฮ่องสอน  ผมตระเวณขับรถหาที่พักไปเรื่อยๆ แล้วก็ผ่านถนนตัดใหม่เห็นรีสอร์ทเล็กๆ ริมถนน  ดูสะอาดสะอ้าน ก็เลยลองเข้าไปติดต่อดูและสรุปก็เป็นที่นี่แหละครับ  ที่ซุกหัวนอนคืนนี้ (จำชื่อไม่ได้อีกแว๋ว)     หลังจากเก็บสัมภาระเข้าสู่ในห้องพักเป็นที่เรียบร้อย  ก็เตรียมตัวไปหาอาหารเย็นกินกันที่ถนนคนเดินเชียงราย รอบๆ สระน้ำหน้าวัดจองคำและวัดจองกลาง  ที่หากินประจำสำหรับทริปที่มาเที่ยวแม่ฮ่องสอนทุกครั้ง จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 20:57:40

ความคิดเห็นที่ 29   จากที่พักวิ่งไปไม่ถึงห้านาทีก็ถึงถนนคนเดินแล้วครับ  หลังจากที่เดินหาอากาศกินกันในบริเวณถนนคนเดินแล้ว  ผมก็เดินเล่นไปรอบๆ หาซื้อของที่ระลึกฝากเพื่อนๆ  เดินกันไปเรื่อยๆ แล้วก็ถึงบริเวณสระน้ำหน้าวัดจองคำและวัดจองกลาง  ก็เลยถ่ายรูปวัดจากภายนอกกำแพงเป็นที่ระลึก จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 21:01:46

ความคิดเห็นที่ 30   มาที่แม่ฮ่องสอนทุกครั้ง ผมต้องแวะสักการะที่วัดจองคำและวัดจองคำทุกรอบ  ชื่นชมศิลปะวัฒนะของวัดทางภาคเหนือเป็นพิเศษ  มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองถึงแม้ว่าจะมีรูปลักษณ์ที่เหมือนกับศิลปะทางพม่ามากกว่าไทย  แต่ถึงอย่างรัยก็เป็นศาสนาพุทธเหมือนกัน จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 21:08:28

ความคิดเห็นที่ 31   บรรยากาศดีจังเลย จากคุณ : mamyammy เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 21:10:24

ความคิดเห็นที่ 32   ภายในวัดจะมีศาลาเรือนงาม  ภายในมีพระพุทธรูปและรูปภาพต่างๆ ทางพุทธประวัติอยู่ภายใน จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 21:10:33

ความคิดเห็นที่ 33   ยินดีต้อนรับครับคุณmamyammy ................................................................................................. วัดจองคำและวัดจองกลาง มีอาณาบริเวณอยู่ในรั้วเดียวกันโดยไม่มีกำแพงกั้นภายในวัดทั้งสอง  แต่ชาวบ้านจะรู้ว่าตรงนี้คือวัดจองคำ  ตรงนี้คือวัดจองกลาง  น่าทึ่งจริงๆ ครับ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 21:14:13

ความคิดเห็นที่ 34   หลังจากไหว้พระทำบุญกันเป็นที่เรียบร้อย  ผมก็เดินเล่นอยู่บริเวณถนนคนเดินอีกสักพัก  ก่อนจะเดินทางกลับที่พักเพื่อพักผ่อนรอเวลาในการเดินทางในวันต่อไป  เป็นอันจบการท่องเที่ยวสำหรับวันที่ 5 อย่างอิ่มบุญเพราะได้ไหว้พระในยามค่ำคืนด้วย   เริ่มวันที่ 6 ของการเดินทางเลยล่ะกันนะครับ  การมาเที่ยวแม่ฮ่องสอนทุกครั้ง  นอกจากเดินเล่นถนนคนเดิน  แวะไหว้พระที่วัดจองคำและวัดจองกลาง ยังมีการไปใส่บาตรตอนเช้าที่ตลาดและหาซื้ออาหารเช้ามากินกัน  และอีกอย่างที่ทำเป็นประจำทุกครั้งในการมาที่นี่นั่นก็คือ การขึ้นไปมนัสการ "วัดพระธาตุดอยกองมู" สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดแม่ฮ่องสอนนั่นเอง   ผมตื่นนอนตอนเช้ามืดด้วยเสียงนาฬิกาปลุกที่ตั้งเอาไว้ในเวลาตีห้าครึ่ง  หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ออกเดินทางจากที่พักมุ่งหน้าสู่ตลาดเช้าที่อยู่ไม่ไกล  (เสียดายตอนที่ไปตลาดเช้า  ด้วยความเร่งรีบก็เลยลืมเอากล้องถ่ายรูปไปด้วย  อยากให้เห็นบรรยากาศการใส่บาตรและบรรยากาศภายในตลาดเช้าที่แม่ฮ่องสอนจัง  แสดงให้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้าน ขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงจากคนกรุงอย่างเราๆ ท่านๆ  น่ารักน่าจับต้องน่าชื่นชมจริงๆ ครับ)  ได้ใส่บาตรพระที่มาเดินบิณฑบาตรในตอนเช้า  เดินกันเป็นระเบียบแถวเรียงเดี่ยวยาวๆ น่าเลื่อมใสมากครับ  หลังจากใส่บาตรเสร็จผมก็เดินเข้าตลาดตั้งใจว่าจะหาอาหารไปกินกันที่ที่พัก  ซักพักก็ได้อาหารติดไม้ติดมือมาอย่างที่เห็น จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 21:30:27

ความคิดเห็นที่ 35   มีโต๊ะอาหารตั้งอยู่ลานว่างๆ หน้าห้องพัก อากาศเย็นๆ กำลังดี ได้ น้ำเต้าหู้ร้อนๆ พร้อมปาท่องโก๋  มีข้าวเหนียวขาวข้าวเหนียวดำมาพร้อมกับปลาทอดและน่องไก่ทอดอยู่ในใบบัวขนาดใหญ่ และก็น้ำพริกรสเด็ดถุงเล็กอีกหนึ่งถุงด้วย จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 21:36:16

ความคิดเห็นที่ 36   รสชาติอาหารเช้ามื้อนี้ก็อร่อยดีครับ ไม่หนักจนเกินไป  หลังจากกินกันเสร็จคุณผู้หญิงของผมก็นั่งเล่นอ่านหนังสือสักพัก  ส่วนผมก็เดินเล่นรอบบริเวณที่พักซึ่งไม่กว้างขวางมากนัก  เดินไม่กี่ก้าวก็ถึงปลายรีสอร์ทแล้ว  ที่นี่มีห้องพักไม่ถึงสิบห้อง  เป็นรีสอร์ทเล็กๆ ที่น่ารักๆ ครับ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 21:39:53

ความคิดเห็นที่ 37   ด้านหลังของรีสอร์ทจะมีลำธารเล็กๆ (ขอบอกว่าเล็กมาก)  ไหลผ่านด้วย จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 21:41:33

ความคิดเห็นที่ 38   เมื่อได้เวลาอันสมควร ผมก็เช็คเอ้าท์ออกจากที่พัก ขับรถมุ่งหน้าขึ้นเขาไปยัง "พระธาตุดอยกองมู"  พระธาตุุคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดแม่ฮ่องสอน  มีคนเค้าบอกว่าถ้ามาแม่ฮ่องสอนแล้วไม่ได้มากราบไหว้สักการะที่ "พระธาตุดอยกองมู" ถือว่ามาไม่ถึงจังหวัดแม่ฮ่องสอน  เห็นท่าจะจริงส่วนตัวถ้าไม่ได้ขึ้นมาไหว้พระธาตุฯ เมื่อมาถึงแม่ฮ่องสอนรู้สึกแปลกๆ ยังงัยไม่รู้ แต่พอขึ้นมากราบไหว้แล้วก็รู้สึกถึงความอิ่มเอิบในจิตใจ  รู้สึกปลอดภัยในการเดินทาง  จริงๆ นะครับ (เป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่สามารถเลียนแบบได้) จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 23:10:38

ความคิดเห็นที่ 39   ผมขับรถขึ้นเขาอย่างช้าไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างไม่รีบร้อน  ไม่เกินสิบนาทีก็มาถึงยอดเขาที่เป็นที่ประดิษฐานขององค์พระธาตุดอยกองมูแล้ว  จะมีที่จอดรถอยู่เลยเข้าไปด้านในซึ่งต้องขับรถผ่านองค์พระธาตุก่อนที่จะเข้าไปยังลานจอดรถ   บริเวณที่จอดรถเป็นลานโล่งอยู่ริมเขาและมีร้านค้าขายสินค้าที่ระลึกของชาวบ้านตั้งอยู่เรียงรายด้านในของภูเขา  ส่วนด้านริมหน้าผาในครั้งนี้สิ่งที่ผมสังเกตเห็นว่าเปลี่ยนแปลงคือ จะมีร้านกาแฟตกแต่งร้านดีมีสกุล วิวสวยมาก มีระเบียงยื่นออกไปนอกหน้าผาไว้เป็นที่นั่งจิบกาแฟพร้อมชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม  ซึ่งทุกครั้งที่มาในหลายๆ ปีที่ผ่านมาผมไม่เคยเห็นร้านกาแฟร้านนี้มาก่อน  แสดงว่าเพิ่งสร้างและเปิดได้ไม่นาน  ร้านกาแฟนี้ใช้ชือตามเนื้อร้องของศิลปินชื่อดังในอดีตซึ่งได้จากพวกเราไปแล้วนั้นก็คือ พี่เต๋อ เรวัต  พุทธินันท์  ชื่อของร้านคือร้าน "ก่อนตะวันลับแนวเหลี่ยมภูผา" หรือในภาคภาษาอังกฤษ "Before Sunset Coffee"  ไปไหว้พระกันก่อนเดี๋ยวผมจะพามาเยี่ยมชม จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 23:27:25

ความคิดเห็นที่ 40   หลังจากจอดรถเสร็จผมก็เดินมายังองค์พระธาตุฯ  เข้าไปซื้อธูปเทียนทองพร้อมเครื่องบูชาองค์พระธาตุที่จุดบริการของทางวัด  แล้วก็เดินไปจุดธูปเทียนยังจุดที่ตรงกับวันเกิดของเรา  ซึ่งมีทั้งหมด 7 จุดตามวันเกิดของแต่ละบุคคล  เมื่อจุดธูปเทียนพร้อมทั้งอธิษฐานจิตเป็นที่เรียบร้อยก็ปักธูปและวางเทียนยังกระถางที่อยู่ด้านล่าง  หลังจากนั้นก็นำเครื่องบูชาองค์พระธาตุเดินรอบองค์พระธาตุ 3 รอบ เหมือนเป็นการเดินเวียนเทียน เดินวนทางซ้ายนะครับอย่าย้อนศร  หลังจากครบ 3 รอบแล้วก็นำเครื่องบูชาองค์พระธาตุมาวางไว้ที่ด้านหน้าขององค์พระประจำวันเกิดของเราเป็นอันเสร็จพิธี จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 23:37:12

ความคิดเห็นที่ 41   พระธาตุดอยกองมูในวันฟ้าใส จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 23:38:32

ความคิดเห็นที่ 42   เสร็จแล้วผมก็เดินไปหยิบใบโพธิ์ทองคำ ที่ทำมาจากวัสดุที่เป็นโลหะบางๆ  นำมาเขียนชื่อ-นามสกุล ด้วยแท่งเหล็กปลายแหลม แล้วนำใบโพธิ์ทองคำไปผูกติดกับซุ้มแขวนใบโพธิ์  เป็นการทำพิธีสะเดาะห์เคราะห์และขอความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ตัวเรา...สาธุๆๆ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 23:43:25

ความคิดเห็นที่ 43   เมื่อเสร็จสิ้นพิธีการบุญ  ผมก็เดินเล่นรอบๆ องค์พระธาตุ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 23:46:45

ความคิดเห็นที่ 44   เดินมาจนมาถึงด้านหน้าองค์พระธาตุฯ ซึ่งเป็นจุดชมวิวตัวเมืองแม่ฮ่องสอนที่สวยงามที่สุดเลยก็ว่าได้ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 23:49:58

ความคิดเห็นที่ 45   บริเวณนี้จะเห็นบันไดทางขึ้น-ลง ซึ่งมีระยะทางยาวไปจนถึงเชิงเขาด้านล่างเลยนะครับ  เหมาะสำหรับพุทธศาสนิกชนที่ต้องการจะออกกำลังกายพร้อมทั้งได้บุญกุศลไปด้วย  (แต่สำหรับผมขอขับรถขึ้นมาดีกว่า  ข้อเข่ามันไม่ค่อยดีครับ) แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 53 23:56:17 จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 23:55:23

ความคิดเห็นที่ 46   รูปปั้นสิงห์กับนางสิงห์ของผม จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 53 23:58:20

ความคิดเห็นที่ 47   ที่เห็นเป็นทางยาวๆ ไปตลอดแนวนั่นก็คือ รันเวย์ของสนามบินประจำจังหวัดแม่ฮ่องสอน จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 00:00:53

ความคิดเห็นที่ 48   อีกภาพสำหรับมุมนี้กลับวิวทิวทัศน์เมืองแม่ฮ่องสอนพร้อมทั้งรูปปั้นสิงห์คู่ที่ยืนเด่นเป็นสง่าหันหน้าไปยังตัวเมือง จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 00:02:35

ความคิดเห็นที่ 49   จากนั้นผมก็เดินกลับไปที่จอดรถ ก่อนที่จะขึ้นรถผมไม่ลืมที่แวะร้านกาแฟที่เกริ่นไว้ตั้งแต่แรกตอนที่ขึ้นมาที่พระธาตุดอยกองมูนี้ตามสัญญา ด้านหน้าร้านกาแฟ ถูกตกแต่งด้วยเสาป้ายบอกจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมจำนวนโค้งที่ต้องผ่านเพื่อมาที่นี่ อีกทั้งรหัสไปรษณีย์และหมายเลขถนนที่ใช้ในการเดินทางด้วย  มีตุ๊กตาเด็กน้อยชาวเขานั่งต้อนรับลูกค้าอยู่ตรงทางเข้า เป็นมุมถ่ายรูปเก๋ๆ ก่อนที่จะเดินเข้าไปชิมกาแฟและชมบรรยากาศสวยๆ ริมหน้าผา จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 12:54:24

ความคิดเห็นที่ 50   บรรยากาศหน้าร้าน "ก่อนตะวันลับแนวเหลี่ยมภูผา" จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 12:56:15

ความคิดเห็นที่ 51   เดินเข้าไปสั่งกาแฟดื่มกันสักหน่อย  ภายในร้านมีมุมจำหน่ายโปสการ์ดและของที่ระลึก จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 12:58:13

ความคิดเห็นที่ 52   ระเบียงถูกสร้างยื่นออกไป มีโต๊ะและเก้าอี้วางอยู่ที่ระเบียง 3-4 ชุด พร้อมร่มคันใหญ่ไว้คอยบังแดดให้กับลูกค้า จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 13:01:39

ความคิดเห็นที่ 53   วิวด้านหน้าเป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนเรียงรายเป็นแนวยาว  ยิ่งท้องฟ้าเปิดแบบนี้ยิ่งน่าสัมผัสเป็นที่สุด จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 13:05:45

ความคิดเห็นที่ 54   หลังจากสั่งเครื่องดื่มแล้ว ผมก็เดินไปหาที่นั่งเหมาะเพื่อรอเครื่องดื่ม เลือกที่นั่งตรงนี้แหละวิวสุดยอดแล้ว จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 13:10:58

ความคิดเห็นที่ 55   นั่งอยู่ที่นี่ดื่มกาแฟเย็นๆ ดื่มด่ำกับทิวทัศน์อันสวยงาม พร้อมกับทบทวนแผนการเดินทางต่อจากนี้  จุดหมายปลายทางสำหรับการเดินทางในวันที่ 6 นี้ จุดหมายปลายทางของเราอยู่ อำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน นั่นเอง หลังจากชื่นชมกับธรรมชาติของขุนเขาพร้อมกาแฟสดรสชาติเข้มข้น  ก็ถึงเวลาที่จะต้องเดินทางกันต่อเสียที  ก่อนจากขออีกสักภาพประทับใจล่ะกันกับร้านกาแฟร้านนี้ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 13:22:58

ความคิดเห็นที่ 56   ลงจากยอดเขาของพระธาตุดอยกองมูในเวลาประมาณ 11.00 น. ใช้เส้นทางสาย 1095 มุ่งหน้าไปยัง อ.ปาย ระยะทางประมาณ 110 กิโลเมตร ผ่าน อ.ปางมะผ้า  เส้นทางขึ้นเขาและคดเคี้ยวโดยตลอด ผมขับรถไปเรื่อยๆ ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงต่างๆ ของอำเภอเมือง และอำเภอปางมะผ้า ตามเส้นทางสาย 1095 โดยไม่ได้แวะแต่อย่างใด (เพราะที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ อาทิ ปางอุ๋ง ภูโคลน น้ำตกผาเสื่อ พระราชวังปางตอง ถ้ำปลา และถ้ำลอด  ได้เคยสัมผัสกันมาหลายครั้งแล้ว ทริปนี้ก็เลยขอผ่านไปก่อนดีกว่า)  วิ่งมาได้ประมาณสองชั่วโมงกว่า  ท้องก็เริ่มร้องแสดงอาการอยากอาหารออกมาให้เห็น  ในขณะนั้นผมเข้ามาอยู่ในเขตอำเภอปางมะผ้าแล้ว  ระหว่างที่ขับรถไปเรื่อยๆ สายตาของผมก็ไปสะดุดกับ ป้ายของรีสอร์ทแห่งหนึ่งที่เคยได้ผ่านตามาจากรีวิวของเพื่อนๆ ชาว Gang นั่นก็คือ "สบป่องริเวอร์อินน์" จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 13:45:27

ความคิดเห็นที่ 57   เคยได้อ่านว่าที่รีสอร์ทแห่งนี้มีทั้งห้องพักและจำหน่ายอาหารรสชาติดี  แถมบรรยากาศภายในรีสอร์ทยังสวยๆ อีกต่างหาก  ลองไว้กินอาหารที่นี่สักหน่อยดีกว่าเผื่อเห็นบรรยากาศที่พักอาจจะเปลี่ยนแปลงใจพักที่นี่แทนที่จะไปพักที่ อ.ปาย ซึ่งไปกันมาหลายครั้งแล้วก็ได้ เข้าไปยังห้องอาหารที่อยู่ด้านหน้าของรีสอร์ทติดกับถนนใหญ่  พนักงานมาต้อนรับและแนะนำอาหารให้ลองทาน เป็นหมี่ผัดแห้งสูตรเฉพาะของที่นี่ อร่อยมากครับผมขอแนะนำ  ด้วยความหิวและความอร่อยผมกินเข้าไปตั้ง 2 จานแน่ะ  ส่วนคุณผู้หญิงสั่งสลัดและข้าวผัดกระเพราของโปรด รสชาติดีเหมือนกัน  หลังจากอิ่มอร่อยกับอาหารที่สั่งมาแล้วก็ขอเจ้าหน้าที่เข้าไปเดินชมห้องพักและบรรยากาศโดยรอบของรีสอร์ทเสียหน่อย  ซึ่งเจ้าห้าที่ก็ยินดีให้เข้าชมเพราะแขกที่จองเอาไว้ยังมาไม่ถึง จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 13:56:12

ความคิดเห็นที่ 58   เดินเข้าไปสำรวจห้องพักด้านในสุดที่อยู่ติดกับลำธาร  มีระเบียงยื่นออกไปรับลมด้วย จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 13:58:55

ความคิดเห็นที่ 59   อีกฝั่งตรงข้ามรีสอร์ทเป็นภูเขาลูกเล็กๆ ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่น้อยปกคลุมไปทั่ว  ทำให้รีสอร์ทแห่งนี้ร่มเย็นและอากาศดีน่าพักผ่อนเป็นอย่างมากนะครับ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 14:01:42

ความคิดเห็นที่ 60   เมื่อเห็นบรรยากาศททั้งหมดของที่พักแล้วชอบมากๆ  ตัดสินใจไปติดต่อขอเข้าพัก  แต่เหมือนสวรรค์ไม่เป็นใจ  ห้องเต็มหมดแล้วสำหรับวันนี้แต่จะมีว่างสำหรับวันพรุ่งนี้  ผมมานั่งปรึกษากันถ้าวันนี้ไปพักกันที่ อ.ปาย แล้ววันพรุ่งนี้ย้อนกลับมาพักที่นี่ จะเป็นการผิด Concept ที่ตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่ต้นว่าจะไม่ย้อนกลับมายังเส้นทางเดิม (ยกเว้น อ.อุ้มผาง) และอีกอย่างที่สำคัญที่สุดคือ ผมได้จองเต็นท์ที่พักของอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังไว้แล้วในวันพรุ่งนี้  จะเป็นการยุ่งยากถ้าต้องเลื่อนหรือยกเลิกที่จะไปพักที่อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง เพราะที่นั่นเป็นอีกหนึ่งความตั้งใจของการเดินทางมาในทริปนี้  คิดได้ดังนั้นก็เลยตัดใจไม่ขอมาพักที่นี่เพื่อให้เป็นตามโปรแกรมที่วางเอาไว้  ไว้โอกาสหน้าค่อยมาล่ะกัน  จากนั้นก็ออกจาก "สบป่องริเวอร์อินน์" มุ่งหน้าต่อไปยัง อ.ปาย จุดหมายปลายทางเดิม ระหว่างทางจาก อ.ปางมะผ้า มุ่งไปยัง อ.ปาย จะมีจุดชมวิวและเป็นที่พักรถด้วย จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 14:15:28

ความคิดเห็นที่ 61   เป็นเนินเขาสูงสามารถชมวิวได้ทั้งสองฝั่ง จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 14:17:25

ความคิดเห็นที่ 62   ออกจากเนินชมวิว  มุ่งหน้าสู่ อ.ปาย ตามเส้นทางสาย 1095  จากนั้นอีกประมาณไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็เข้าเขต อ.ปาย  ผมขับรถตระเวณหาที่พักแล้วก็เห็นป้ายรีสอร์ทแห่งหนึ่งก่อนถึงตัวอำเภอปายประมาณ 3 กิโลเมตร อยู่ฝั่งเดียวกับ น้ำตกหมอแปง ชื่อ ฮัทอิงปายรีสอร์ท  ลองเข้าไปติดต่อดูราคาไม่แพงอย่างที่คิดเมื่อเทียบกับห้องพักและบรรยากาศดีๆ (ราคาค่าห้องน่าจะประมาณพันห้าร้อยต่อห้องพร้อมอาหารเช้า 2 คน ถ้าจำไม่ผิดน่ะครับ)  เวลาในตอนนี้ประมาณ 16.00 น. แก้ไขเมื่อ 13 มิ.ย. 53 14:47:27 จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 14:43:42

ความคิดเห็นที่ 63   เมื่อติดต่อห้องพักเรียบร้อย  ก็ขนสัมภาระเข้าสู่ห้องพัก  อาบน้ำชำระร่างกายและพักผ่อนตามอัธยาศรัยรอเวลาไปเดินเล่นที่ถนนคนเดินเมืองปาย  พร้อมหาอาหารเย็นกินกันที่นั่น   ขอจบรีวิวตอนที่ 3 ไว้ที่ตรงนี้ดีกว่า เพราะช่วงที่อยู่ที่ถนนคนเดินเมืองปายมีเรื่องราวเรื่องเล่าต่างๆ ให้ติดตามกันอีกยาว ผมกลัวว่าจะยาวเกินไปสำหรับรีวิวนี้  ขอค้างสำหรับการเดินทางในวันที่ 6 ช่วงค่ำคืนที่เมืองปายไว้ล่ะกันนะครับ  ขอขอบคุณเพื่อนๆ ทุกท่านที่ติดตามเรื่องราวการเดินทางของผม  ขออภัยถ้ามีข้อความหรือพฤติกรรมอะไรไม่เหมาะไม่ควรระหว่างการรีวิว  และขอให้เพื่อนทุกคนมีความสุขกับการใช้ชีวิต มีอายุ วัฒนะ สุขะ พละ กันโดยทั่วหน้านะครับ  แล้วเจอกันใหม่ในรีวิวหน้าในโอกาสอันใกล้นี้  บายบ๊าย... จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 53 14:55:04

ความคิดเห็นที่ 64   รอดูต่อเด้อ ครับ จากคุณ : chee-win4 เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 53 20:12:01

ความคิดเห็นที่ 65   รีวิว..ทริปท่องเที่ยวภาคเหนือ 13 วัน 12 คีน เริ่มต้นด้วย ตาก ลงท้ายด้วย สุโขทัย ตอนที่ 4 ความคิดเห็นนี้ได้แตกไปยังกระทู้ E9376090 จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 53 20:28:18

ความคิดเห็นที่ 66   ดูแล้วคิดถึงความหลังจังเลยค่ะ ตอนนี้ทุกอย่างมันเป้นอดีตไปหมดแล้ว จากคุณ : จันทร์จริงใจ เขียนเมื่อ : 21 มิ.ย. 53 08:50:48