 |
จับหัวใจสะพายเป้ : เกาะล้าน วันระทึก
|
|
สิบเอ็ดโมง วันจันทร์ที่ หนึ่ง กันยายน สองห้าสี่ห้า
เผลอแผล็บเดียว เรา(สองคน)ก็ก้าวเท้า ข้ามเข้าสู่เดือนใหม่กันแล้ว ฉันพยายาม...หลับตา...พาตัวเองหมุนเข็มนาฬิกา......... กลับไปสู่.......วันแรก.....ณ เกาะล้าน เมื่อกลับมายืนที่นี่อีกครั้ง ฉันถึงได้รู้ว่า เรามากันไกลเหลือเกิน หากไม่มีก้าวแรกที่นี่ ก้าวที่สอง...สาม...สี่...คงไม่มี
21 มีนาคม 2545 จำได้ว่า ฉันเข้านอนอย่างตื่นเต้นเล็กๆ กว่าจะจัดข้าวของลงกระเป๋าใบหญ่าย..ยเสร็จ ก็ปาเข้าไปดึกโขอยู่เหมือนกัน พี่ต้าร์ก็โทรเข้ามาพูดคุย หว่านล้อมแถมข่มขู่สารพัด ในใจฉันก็ไม่สนหรอก คิดว่ายังไงพี่ชายที่แสนดีคนนี้ ก็คงไม่ทิ้งน้องให้เดินย่ำต๊อกๆ หาที่พักเองหรอกน่า แถม..ถ้าเป็นอย่างนั้น จากที่เป็นว่า..ฉัน..เธอ..(ก็เธอนั่นแหละ)...จะไปพักกับพี่ต้าร์ ก็จะกลายเป็นว่า...ต้องไปพักกันสองคน!! ในโรงแรม!! ในพัทยาเนี่ยนะ!! Oh! My god ไม่มีทาง impossible! โฮะๆๆ ยังไงๆพี่ต้าร์ก็น่าจะรู้นะว่า มันอันตรายเกินไป!สำหรับน้องพี่ เค้าไม่ปล่อยเราตามยถากรรมแน่ๆ.................หรือเปล่า!!!!!!??????
22 มีนาคม 2545 สาเหตุที่..ฉันคิด..จะไปช่วงนี้ (ก็ ฉันคิด คนเดียวจริงๆนี่...เธอน่ะ...แค่ขอตามไปด้วย...อย่าลืมซียะ) ก็เพราะว่าที่พัทยากำลังมีงาน Pattaya Music Festival มีนักร้องจากทุกค่ายเพลง ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาร้องในงานเดียวกัน ไม่แบ่งคาย แต่แบ่งเป็น3เวที ตามแนวเพลง คือ ROCK POP DANCE นับว่าเป็นปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาด ประหนึ่งว่า สุริยุปราคา ห้าหมื่นปีมีครั้งก็ไม่ปาน (คือ..จะบอกว่า มันไม่เคยมีมาก่อนน่ะ..เข้าใจบ่..)
แผนการที่ฉันวางไว้ มีดังนี้..ออกจากกรุงเทพช่วงบ่าย ไปถึงนั่นช่วงเย็น เดินดูงานกันทั้งคืน..ค้าง1คืน..(แน่นอนว่าต้องเป็นบ้านพี่ต้าร์) เช้าปุ๊บก็ขึ้นเรือที่พัทยาใต้ ออกเดินทางสู่เกาะล้าน ช่วงบ่ายๆก็กลับพัทยา เย็นๆก็กลับกรุงเทพ ฮะฮ้า! such a perfect plan! ใช่ม้า
หลังจากสอนคุณเฟรดเสร็จ ฉันก็มุ่งหน้ากลับบ้าน อาบน้ำแต่งตัวปิ๊งๆ (เหมือนเคย) ยิ่งใกล้เวลาก็ยิ่งกระดี๊กระด๊า นี่ไม่ใช่ครั้งแรก...ที่ฉันไปต่างจังหวัดโดยไม่มีพ่อแม่เข้ามาเกี่ยวข้อง ลงใต้...ไก.ล..ล...ถึงภูเก็ตฉันก็ไปมาแล้ว เขาใหญ่..ฉันก็เพิ่งลุยมา แค่พัทยาน่ะเหรอ อู๊ย..ย..หมูๆ แถมไปถึงก็ยังมีพี่ชาย (ผู้ซึ่งน่าจะไว้ใจได้มากกว่าคนที่ไปด้วยแน่ๆ) รออยู่ทั้งคน (ยังไงก็คิดว่าเขารออยู่) มีอะไรต้องกลัว!?...ไม่มี้...(กรุณาทำเสียงสูงมากๆ ประมาณตึกเวิร์ลด์เทรดได้-ก็จะดี)..
กำลังจะออกจากบ้านอยู่แล้วเชียว เสียงกริ๊งๆๆ ของมือถือก็ดังขึ้น พี่ต้าร์นั่นเอง พี่ต้าร์ยังคงถามประโยคเดิมๆ ที่ถามตั้งแต่เริ่มรู้ว่าเราจะไปด้วยกัน (เปลี่ยนสรรพนามเป็น..เรา..ล่ะนะ..เพราะรู้แล้วว่ามีคนถือกระเป๋าให้ชัวร์ๆ) ตกลงจะมาจริงเหรอ เอ๊..ก็บอกว่าจริงไงเล้า เป้อยู่บนหลังแล้วเนี่ย ไม่มีที่พักนะ เชอะ! ถ้าเราไปถึง มีเร้อจะไไม่มี ไม่มีที่พักจริงๆนะ...ตอนนี้บ้านพี่ที่สัตหีบไม่มีใครอยู่เลย แน่ะ ยังทำเสียงเข้มอยู่อีก คงจะฟอร์มล่ะซี้ พี่พักอพาร์ทเมนท์กับแม่ ไม่ได้พักที่บ้าน ห้องมันเล็ก ที่มันคงไม่พอหรอก เสียงพี่ต้าร์จริงจังขึ้นทุกที เอาละซี ชักหนักใจนิดๆล่ะนะ พัทยากับที่ที่พี่ทำงานมันไกลกันนะ เราจะหารถมาได้เหรอ กว่างานจะเลิกก็ดึก มันก็น่าจะมีทางมั่งล่ะน่า งั้นเอางี้ เรามาเดินเที่ยวนะ ซักทุ่มสองทุ่ม ก็นั่งรถกลับกรุงเทพดีไหม ฮ่วย! จุดหมายที่อยากไปจริงๆมันเกาะล้านนะ แถม pack กระเป๋าใบโตตั้งเท่านี้ ให้ไปแล้วกลับเลยนี่นะ ฮ่วยๆๆ ไม่ย้อม ไม่ยอม งั้นเดี๋ยวดูก่อนละกัน ฉันบอกพี่ต้าร์ไปงั้น เลือดดื้ออยากเอาชนะ มันเดือดพล่านอยู่ในอก (ถึงจะเป็นอกเล็กๆก็เถอะ)
ซักพัก เธอ ก็โทรมา บอกว่าถึงแล้ว ฉันรีบฉากออกไปคุยหน้าบ้าน หรี่เสียงลงเป็นค่อยแสนค่อย ขืนแม่รู้น่ะเหรอ..อด..สถานเดียว อุตส่าห์บอกไปแล้วว่าจะไปค้างกับพี่ต้าร์ แม่ไว้ใจพี่ต้าร์หรอกนะ ถึงให้ไปน่ะ ฉันรีบกรอกเสียงรายงานสถานการณ์ทันที โลกกำลังตกอยู่ในอันตราย เอ๊ย ม่ายช่าย พี่ต้าร์บอกไม่มี และไม่ให้ที่พักนะ ตะหาก เราเงียบกันไปนิด ก่อนฉันจะถามว่า แล้วเอาไง เธอก็ตอบมาทันทีว่า แล้วแต่เธอ (โอ้..ช่างเป็นคำตอบที่สร้างสรรค์ม้า..ก..ค่า..า..) ฉันก็ไม่รู้หมือนกัน...(นี่หว่า)...ใจมันก็สั่นๆล่ะนะ จะให้ทำไงดีล่ะ เอางี้ดีไหม แบ่งมันออกเป็นสองส่วนนะ ส่วนนึงเก๊าะ..ไป...อีกส่วนเก๊าะ...ไม่ไป.. วางไว้บนตาชั่งคนละด้าน รอให้เธอเลือกเอาละกัน งั้นเดี๋ยวออกไปเจอกันก่อนนะ แล้วค่อยว่ากันใหม่ ทันทีที่วางหูแม่ก็ถามว่า..ใครโทรมา..ฉันฉีกยิ้มอย่างสวย แล้วบอกว่า...ปุ่นบอกว่าถึงแล้ว... แล้วเจอกันที่ไหน...เดอะมอลล์...อ้าวทำไมล่ะ...อ๋อ-ก็จะไปซื้อของฝากให้พี่ต้าร์ก่อนไง (That was a plan, you know?) ฉันตอบออกไปอย่างที่ตั้งใจไว้ตอนแรก ทั้งๆที่รู้แล้วว่า ไม่ได้เจอหรอก..พี่ต้าร์..เนี่ย...เฮ้อ!!!! ... ... ... ...
แล้วฉันก็เจอพระเอกของการเดินทางครั้งแรกในชีวิต (ก็ไปกันแค่นี้..ถ้าไม่ให้เธอเป็นพระเอก ฉันก็คงต้องเป็นล่ะนะ... แล้วสวยๆอย่างฉันเนี่ย..ผู้กำกับเค้าให้เป็นแต่นางเอกเท่านั้นแหละย่ะ ) เธอมาพร้อมกับเป้ที่ดูจะเบากว่าฉันโข... คงรู้ล่ะนะว่าต้องทำหน้าที่พระเอก แบก..เอ๊ย..บวกน้ำหนักเพิ่มอีกใบ ทันทีที่หาที่นั่งเย็นๆได้ ฉันก็ยื่นไอ้สองส่วนที่แบ่งไว้แล้ว ให้เธอเลือกอีกครั้ง
..ไป.. ..ไม่ไป..
ฉันแอบลุ้นคำตอบจากปากเธอ เสียงหัวใจดูจะดังกว่าเสียงผู้คนรอบข้างอีกนะ ปล่อยความคิดคำนึงวิ่งชนกันให้วุ่น..
เธอจะคิดยังไงนะ กับการเดินทางครั้งนี้? ถ้าฉันไปกับเธอ...เธอจะมองฉันยังไง?? ตอนนี้เธอคิดอะไรอยู่กันแน่??? เธอแอบหวังอะไรอยู่หรือเปล่า!!?? ตอนนี้..เธอจะได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้น ตึกๆตักๆ...เหมือนที่ฉันกำลังได้ยินไหม ????????????????????????????????????????
ฉันรีบจับเจ้าตัวความคิดที่ว่า ขังไว้แน่นหนา ก่อนที่เครื่องหมายเควสชั่นมาร์ค จะออกมาวิ่งไล่จับกันให้ปวดหัวมากกว่านี้
แล้วเธอก็ตอบมาว่า...ไป...
โอย..ไม่ไหว...เจ้าตัวยุ่งที่เมื่อกี๊จับขังไว้แล้ว กระโจนออกมาอีกรอบ คราวนี้มันวิ่งวุ่นโวยวาย ไม่ไว้หน้าเจ้าของ ทั้งที่ตัดใจเอาอนาคตตัวเอง ในเวลาสองวันข้างหน้านี้ ฝากไว้กับการตัดสินใจของเธอแล้ว ก็ยังอดหวั่นไหวไม่ได้ เจ้าตัวยุ่งมันเป่าหูอย่างนั้นอย่างนี้ มันคงเป็นห่วงเจ้าของมันนะ..ฉันว่า แล้วก็ได้ผลนิดๆนะ เพราะฉันก็ถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา แข่งกับมันนั่นแหละ
..จะไปจริงๆเหรอ!?!?!?..
..นี่คิดดีแล้วเหรอ?!?!?!?..
วันนี้เครื่องหมายเควสชั่นมาร์คคงทำงานหนักเป็นพิเศษ เจ้าปรัศนีย์เพื่อนมัน เลยชักจะต้องออกโรงช่วยอีกแรง ฉันชำเลืองมองเธอที่นั่งอยู่ข้างๆ
บนรถเมล์เล็กสาย71 ที่กำลังพาเราห่าง..บ้าน..ออกไปทุกที เธอจะรู้ไหมนะ ว่าฉันนั่งเถียงกับตัวเองจนเหนื่อย... จนไม่มีกะจิตกะใจ สรรหาเรื่องสนุกๆมาคุยเอาซะเลย เธอจะสังเกตไหมนะ ว่าฉัน เงียบ ผิดปกติ
ใจคอเธอจะไม่พยายามทำให้บรรยากาศมันตึงเครียดน้อยลงเลยหรือไง
คิดบ้างไหมว่าคนที่มาด้วยเนี่ย รู้สึกยังไง
เธอคิดอะไรอยู่กันเเน่ (วะเนี่ย)
..หรือว่า.. กำลังเถียงกับตัวเอง.....เหมือนฉัน.....
(คาดว่าคงไม่..เฮ้อ!!)
จากคุณ |
:
cinta
|
เขียนเมื่อ |
:
16 พ.ค. 53 21:20:26
|
|
|
|  |