ความคิดเห็นที่ 1   สองเดือนก่อนผมได้รับโทรศัพท์ เสียงที่ต้นสายเป็นเสียงพี่ชายผม “พี่บิว” ชวนผมไปเปิปส้มตำ ถึงที่นัดหมายผมกับพี่บิวก็กินไปคุยไปทั้งเรื่องงานของบริษัท และเรื่องทั่วๆไป นั่งกันอยู่นานเพื่อนผม ไอ้ตั้มก็โทรมา ถามว่าอยู่ไหนจะมาหาผม ผมก็ให้มันมา พอมันมาถึงผมก็แนะนำให้มันรู้จักพี่บิว และก็นั้งคุยกันไปเรื่อยๆ เรื่องที่ไอ้ตั้มชอบเดินป่า และคุณตามันก็เคยเป็นนายพราน และพาผมไปเมืองลับแล (อันนี้ตั้งแต่มหาลัยผมจะมาเล่าที่หลัง)   จนพี่บิวพูดขึ้นว่า เคยมีลูกน้องที่รีสอร์ท ชื่อ “น้องเงิน” เคยเล่าเรื่องที่ไปหาของป่าแล้วเจอถ้ำค้างคาวที่ข้างในมีหีบอยู่ เงินคิดว่าหีบเป็นของคอมมิวนิสต์ แต่เงินไม่กล้าเข้าใกล้ เพราะพื้นถ้ำมีแต่ขี้ค้างคาวหนามาก กลัวมีระเบิดฝังอยู่ ว่างๆไปดูกันไหม? คนต้นเรื่องครับ "น้องเงิน" จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเนา 53 16:56:25

ความคิดเห็นที่ 2   เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2553 ผมและทีมงาน ทั้งหมด 9 ชีวิต ประกอบด้วย คุณลุง พี่บิว ม่อน ลี่(ผมเอง) พี่เงิน พี่ทิง พี่รอด 3 คนนี้เป็นลูกหาบ พรานเริด พรานดำ การเดินทางของเราล่าช้ากว่ากำหนดเพราะคุณลุงซึ่งเป็นตำรวจต้องรอต้อนรับนาย จากกำหนดการณ์คือเริ่มเดินทาง 7 โมงเช้าเราต้องเลื่อนไปถึง บ่ายโมงครึ่งเลยทีเดียว การเดินทางช่วงแรกเป็นพื้นราบป่าหญ้าคาที่รถยนต์ไม่สามรถเข้าได้ เราเลยต้องเดินเท้าประมาณ 2 กิโลกว่าๆ ท่ามกลางแสงแดดร้อนระอุ จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเนา 53 17:00:07

ความคิดเห็นที่ 3   สภาพผืนป่าที่ผมเห็นมันช่างต่างกับสถานที่ท่องเที่ยวที่ผมเคยไป เพราะมันคือป่าจริงๆ ที่มีแต่สิ่งที่ธรรมชาติรังสรรค์ ไม่มีวัตถุสิ่งก่อสร้างที่อำนวยความสะดวกของมนุษย์เลย เราเดินตามรอยทางของนักหาของป่า ซึ่งบางรอยนั้นดูลางเลือนมาก หรือบางรอยเราเห็นมันก็เป็นทางที่เดินไปได้หมด (โอกาสเดินออกนอกเส้นทางและหลงง่ายมาก) ถ้าไม่เพราะนายพรานที่ชำนาญดูทาง ทั้งแหวก ฟัน ตัด ถอนให้แล้ว ผมว่าเราคงหลงป่าตั้งแต่ตีนเขาแน่นอน ***พรานเริด คนนำทาง จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเนา 53 17:05:30

ความคิดเห็นที่ 4   ***ทางขึ้นตีนเขา จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเนา 53 17:07:42

ความคิดเห็นที่ 5   ***เส้นทางป่าไผ่ ระหว่างทางขึ้นเขา สังเกตกระเป๋าคุณลุงครับ เอาของหลานมาใช้ ตอนออกจากบ้านหลานยังแซวเลย ว่าคุณลุงเป็นตำรวจ ทำไมมาใส่ชุดทหาร จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเนา 53 17:10:07

ความคิดเห็นที่ 6   ***ปีนไป เดินไป เหนื่อยไป จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเนา 53 17:13:17

ความคิดเห็นที่ 7   วันแรกเราใช่เวลาเดินทางเกือบ 4 ชั่วโมง ระยะทางไม่สามารถระบุได้เลย รู้แต่ว่าข้ามเนินเขามาได้ลูกเดียว จากที่ต้องเดินข้ามเขา 2 ลูกกว่าเพื่อไปถึงถ้ำ ท้องฟ้าเริ่มจะมืดแล้ว พี่พรานพาเราไปหาจุดพักแรมที่ใกล้แหล่งน้ำ ทีมพรานและหาบค่อนข้างเป็นงานเลยทีเดียว พอถึงจุดพักก็ต่างคนต่างหน้าที่โดยไม่ต้องเอยปากบอกสักคำ แยกย้ายหาน้ำ หากบ หาผัก เตรียมที่กางเต้นท์ (พวกพี่ๆเขานอนเปล) ***หมดสภาพ รู้ตัวว่าแก่ก็ตอนเหนื่อยเนี่ยแหละ จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเนา 53 17:22:18

ความคิดเห็นที่ 8   พอตกค่ำนายพรานก็เริ่มทำงานถนัดของขาหละ *** กับดักสัตว์ ตัวอะไรเดี๋ยวมาดูครับ จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเนา 53 17:28:44

ความคิดเห็นที่ 9   ***ถ้ำค้างคาวเล็กใกล้จุดพักแรม จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเนา 53 17:34:15

ความคิดเห็นที่ 10   ***เม่นถ้ำครับ เม่นถ้ำ แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 53 09:57:44 จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเนา 53 17:48:10

ความคิดเห็นที่ 11   ***ขั้นตอนการต่อไป คนเสื้อดำครับ พรานดำ คนจับเม่น จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเนา 53 17:56:10

ความคิดเห็นที่ 12   ตามเข้าป่าด้วยคนค๊าบ จากคุณ : WiNtEr_SuMmEr_New เขียนเมื่อ : วันเนา 53 18:47:21

ความคิดเห็นที่ 13   ท่าทางจะสนุกครับ..... มาปูเสื่อรอตอนต่อไปครับ จากคุณ : ใบมีดโกนบาดปากตัวเอง เขียนเมื่อ : วันเนา 53 18:55:58

ความคิดเห็นที่ 14   ตามมาดู อินเดียหน้า โจร แห่ง BP ครับ จากคุณ : David_kop เขียนเมื่อ : วันเนา 53 19:19:04

ความคิดเห็นที่ 15   น่าตื่นเต้นมากครับ.......มารอดูครับ จากคุณ : camaha เขียนเมื่อ : วันเนา 53 19:28:51

ความคิดเห็นที่ 16   น่าตื่นเต้นครับ  จอง ที่ปูเสื่อนั่งดูด้วยคน จากคุณ : koldo เขียนเมื่อ : วันเนา 53 19:31:59

ความคิดเห็นที่ 17   นั่งรอชมด้วยคนครับ จากคุณ : Speedfilter เขียนเมื่อ : วันเนา 53 19:56:13

ความคิดเห็นที่ 18   หวัดดีปีใหม่ไทยครับ จขกท ไปหม่ำข้าวมา พอดีไม่ชอบเล่นน้ำเลยต้องรอจนปากซอยเลิก ป่าที่ผมไปเนี้ยค่อยข้างทึบทีเดียว ช่วงนี้อากาศก็ไม่ถอว่าร้อนมาก แต่กลางคืนไม่มีลมเลย แม้แต่ตอนกลางวันแสงแดดยังแทบไม่ถูกตัวเลย จะมีลมบ้างก็ช่วงที่อยู่บนมอ(เนินเขา) ***คุณลุงยังต้องถอดเหลือเกงในแค่ตัวเดียวนอน ส่วนถุงนอนก็ต้องเอามาหนุนหัวแทน จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเนา 53 19:59:07

ความคิดเห็นที่ 19   ***คนนี้ชื่อม่อน พลปืน(แบกอย่างเดียว ยิงไม่เป็น) เป็นคนที่ทำให้การเดินทางครั้งนี้ไม่เงียบเหงาเลย แต่วันแรกเหนื่อยหน่อยเลยพูดน้อยไปเยอะ จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเนา 53 20:03:46

ความคิดเห็นที่ 20   เช้าแล้วครับวันนี้พี่ผมตื่นสาย นอนคนเดียวด้วยนะ เพราะแกว่าผมนอนกรน แกกลัวนอนไม่หลับตื่นมาจะเพลียเอา ตื่นมาแกบ่นว่าปวดขา ก็เลยให้กินยานอนพักแป็ป ก็น่าอยู่หรอกผมว่าใครที่ไม่ฟิตมาเนี้ยเสร็จแน่ เพราะทางที่มาค่อนข้างไกลและชันมาก ***ระหว่างนั้นก็เก็บข้าวของเตรียมเดินทางต่อ จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเนา 53 20:11:42

ความคิดเห็นที่ 21   ***เมนูนี้จากสองตัวเมื่อคืนครับ กินทั้งมือเช้า กลางวันเลย ฝีมือพวกพี่แซบใช่ได้เลยละ ผมกับคุณลุงก็เลยอร่อยกันสองคน ส่วนพี่บิวกะม่อนลองคนละคำ เขาว่ามันมีกลิ่น ที่เหลือพวกเขาก็จัดการกะปลากระป๋องซะเรียบเลย เนื้อเม่นไม่เหมือนเนื้อที่เคยกินเลยนะ มีกรุบๆตรงหนังด้วย แก้ไข: จานที่เห็นเนี้ยจานกระดาษครับ ถุงพลาสติกขยะแปลกปลอมพวกพี่เขาขนมาทิ้งข้างล่างหมด เพราะพวกเขาได้รับการอบรมเรื่องสิ่งแวดล้อม และเขาร่วมกิจกรรมอนุรักษ์อยู่บ่อยๆ แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 53 20:23:23 จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเนา 53 20:16:52

ความคิดเห็นที่ 22   ***อันนี้เป้ลูกหาบครับ มองด้วยสายตาไม่กว่า 30 โล แต่พออยู่บนหลังพวกพี่เขาดูมันเบามากเลย ส่วนพวกผม แบกแต่น้ำกับของกินรองท้องนิดหน่อย จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเนา 53 20:31:52

ความคิดเห็นที่ 23   พร้อมเดินทางฮะ จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเนา 53 20:34:53

ความคิดเห็นที่ 24   วันแรกเรานอนกันโดยไม่ได้อาบน้ำ เพราะแอ่งน้ำที่ใกล้จุดพักมีที่เดียวก็เลยไว้ใช่ดื่มกับทำอาหาร ส่วนธุระหนักเบาก็ตามสะดวกเลยครับ แต่ก็ไม่ใกล้และก็ไม่ไกลที่พัก ไปก็ต้องชวนกันไปเพราะมืดมาก ไฟฉายคนละกระบอก กระดาษและก็พลั่วครับ ขุดหลุมใครหลุมมัน จากนั้นก็ปิดไฟฉาย นั่งไปเสียวไปเลยละ กลัวรอบตัวไปหมด เพราะเสร็จเปิดไฟจะกลบหลุม ไหง...ตูมันเดินมาบนปากหลุมซะงั้น แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 53 20:38:14 แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 53 20:47:06 จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเนา 53 20:36:56

ความคิดเห็นที่ 25   หลงคิดว่าเม่นเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองซะอีก จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : วันเนา 53 20:46:29

ความคิดเห็นที่ 26   เราใช่เวลาในการเดินจากจุดพักแรกประมาณ 3 ชั่วโมง ในที่สุดก็เจอถ้ำที่ว่า แต่ก่อนถึงเราก็ได้กลิ่นขี้ค้างคาวก่อนร้อยเมตร ***ก่อนเข้าถ้ำเลยต้องหาที่ป้องกันจมูก แก้ไขรูปภาพไม่เหมาะสม แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 53 10:01:03 จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเนา 53 20:57:55

ความคิดเห็นที่ 27   ***ปากถ้ำ จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเนา 53 21:00:22

ความคิดเห็นที่ 28   ก่อนที่จะเข้าไปในถ้ำ พวกพี่พรานนั้งซะไกลเลย เราก็เรียกเขาก็ไม่มา ก็เลยเดินไปหาพี่เขา เขาเล่าว่าเขาเคยมาแล้วเห็นงูตัวใหญ่ประมาณต้นขา 2 ตัว กับอีกตัวเท่าๆแขนมันเลื่อยอยู่หน้าถ้ำ เขาเลยไม่กล้าเข้าซะงั้น ไอ้เราก็เห็นว่ามากันเยอะเลยช่วยกันระวังหลังเอา สุดท้ายก็ไม่มีใครเข้า มีแต่ผม พี่บิว ม่อน และเงิน เท่านั้น ที่เหลืออยู่แค่ปากถ้ำ แก้ไขเมื่อ 14 เม.ย. 53 21:08:10 จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเนา 53 21:00:53

ความคิดเห็นที่ 29   ***ส่งกันแค่ทางเข้า จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเนา 53 21:08:48

ความคิดเห็นที่ 30   ***ภายในถ้ำเข้ามาประมาณ 10 เมตร ที่ผมส่องไฟไปทางขวาสุดมีช่องอยู่ ส่องไฟไปก็ไม่ทะลุอีกฝั่ง ไม่ได้เข้าไปดูเพราะต้องมุดเข้าไปคนเดียว ที่เหลือมัวระวังหลังกันอยู่ จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเนา 53 21:19:29

ความคิดเห็นที่ 31   อากาศภายในถ้ำไม่ถ่ายเทเลย เหม็นก็เหม็น หายใจก็ไม่ค่อยออก ***ช่วงต่อไปอีกห้องครับ จากรูปข้างบนมาขวามือ 7 เมตร เลยปลายไฟที่เห็นคือจุดที่มีหีบอยู่ ค้างคาวบังหมด และต้องคลานเขาไปพอดีตัว ไม่มีใครอาสาคลานเข้าไปครับ สังเกตเห็นท่อนไม้ไหมครับ เหมือนมีคนตัดเข้ามาและเหมือนจะลำเลียงหีบออกมาแต่ไม่มีรอยไถ มีไม้ท่อนหนึ่งวางพิงอยู่บนหีบ เหมือนกำลังจะเกี่ยวออกมาแต่เกี่ยวไม่ออก จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเนา 53 21:39:21

ความคิดเห็นที่ 32   ***มาต่อพรุ่งนี้ครับ*** จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเนา 53 21:44:01

ความคิดเห็นที่ 33   ว้ากำลังสนุกเลย Reload ถี่ยิบ เดี๋ยว มาอ่านต่อพรุ่งนี้ครับ จากคุณ : เดือนนี้ไม่มีวันหยุด เขียนเมื่อ : วันเนา 53 21:46:00

ความคิดเห็นที่ 34   มาต่อเร็วๆน๊าคร๊าบ กำลังตื่นเต้น ว่ามีอะไรไหม จากคุณ : noppong เขียนเมื่อ : วันเนา 53 23:07:35

ความคิดเห็นที่ 35   น่าสนุกจังเลยคะ่ รอชมต่อนะคะ จากคุณ : เจ้าหญิงขี้นอนกับเจ้าชายหัวโต เขียนเมื่อ : วันเนา 53 23:34:31

ความคิดเห็นที่ 36   ...  ตามลุ้นด้วยคนครับ . จากคุณ : แมงเม่าติดลมบน เขียนเมื่อ : วันเนา 53 23:50:28

ความคิดเห็นที่ 37   คอยติดตามอยู่นะครับ......อย่าให้รอนะครับ จากคุณ : camaha เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 00:59:00

ความคิดเห็นที่ 38   น่าติดตามๆ...ขอบคุณสำหรับreview สนุกๆอย่างนี้ จากคุณ : อณิชย์ เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 01:08:22

ความคิดเห็นที่ 39   ลุ้นต่อๆๆ เหมือนอ่านเพชรพระอุมาเลย อิอิ จากคุณ : ผู้เฒ่าเด็กดื้อ เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 04:55:10

ความคิดเห็นที่ 40   อรุณสวัสดิ์ ทุกท่าน มีผู้ชมรอบดึกด้วยแฮะ ขออภัยที่ให้คอยนานครับ เนื่องจากภายในถ้ำอากาศค่อนข้างจำกัด เราออกมาจากถ้ำเพื่อวางแผนกันต่อ หลังจากปรึกษาสักพัก สรุปคือต้องมีคนมุดเข้าไปดูใกล้ๆ เพื่อดูว่าจะทำอย่างไงกับหีบ ต่างคนต่างไม่กล้า ต่างให้เหตุผลว่าเกิดเจ้าที่ (งูใหญ่) โผล่มาข้างหน้าเนี้ย กลัวจะเลี้ยวกลับไม่ถูก มาถึงขนาดนี้แล้ว ผมเลยอาสามุดครับ ไม่ใช่ว่ากล้าหรอก แต่เห็นว่ามาหลายคน คงมีใครแจ็กพ็อตก่อนผมบ้างหละ แล้วแต่ละคน สัดส่วนลูกกระทิงทั้งนั้น แค่ตัวละคนมันคงเลื้อยไม่ออกแล้วละ เรา 4 คนจึงกลับเข้าไปในถ้ำอีกครั้ง แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 53 08:56:47 จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 08:51:35

ความคิดเห็นที่ 41   ***แปลนถ้ำแบบคร่าวๆครับ จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 09:28:45

ความคิดเห็นที่ 42   จริงๆที่บอร์ทนี้ก็เน้นแนวอนุรักษ์ ผมเลยคิดว่าไม่เหมาะสมหากจะนำรูปบ้างรูปมาลง ซึ่งมันจะไม่เหมาะสม การเดินในป่าถ้าไม่จำเป็นจริงๆแล้วไม่ควรที่จะไปเบียดเบียนสิ่งมีชีวิตในป่าเช่นกัน จากคุณ : ลำน้ำสุริยะ เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 09:50:23

ความคิดเห็นที่ 43   เงินฉายไฟเข้าไปในถ้ำก่อนแล้วเป็นผมเดินตามเข้าไป ตอนที่ไปถึงจุดก่อนคลานเงินก็ส่องไปเจออะไรบ้างอย่างครับ มันเป็นดวงตาสะท้อนออกมา ห่างจากผมไปประมาณ 7 เมตร แต่ที่ผมเห็นตามันใหญ่กว่าค้างคาวครับ เงินก็พยายามส่องให้เห็นว่าเป็นตัวอะไร แต่เพราะไฟที่เงินใช่แบตเริ่มอ่อน จนกระทั้งพี่บิวที่มีไฟฉายแรงสูงมาส่อง เราก็เห็นว่าเป็นค้างคาว แต่ไม่ใช่ค้างคาวทั่วไปครับ เพราะทั้งตัวและปีกมันเป็นสีขาวเผือก ตัวของมันใหญ่กว่าค้างคาวที่ถ่ายรูปมาเกือบ 10 เท่าเลย แล้วไม่ใช่ตัวเดียวครับ เป็นสิบ พอพี่บิวส่องไฟไปที่พวกมัน มันก็ทยอยบิน พี่บิวถ่ายรูปมาครับ แต่ไม่ติด พยายามอยู่ 4 5 ครั้งก็ถ่ายไม่ได้ แถมมันยังบินโฉบผ่านหน้าไปมาอีกแนะ เหมือนจะเย้ยกันเลย จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 09:51:43

ความคิดเห็นที่ 44   หลังจากนั้นผมพยายามคลานเข้าไป ซึ่งไปได้ไม่ถึงครึ่งทางก็รู้สึกว่ามันแคบลงมาก จะคลานต่อไปข้างหน้าก็กลัวถอยออกมาไม่ได้ พร้อมกับอากาศหายใจก็เหมือนจะน้อยลง พี่บิวเลยตัดสินใจให้ผมถอยกลับ หลังจากกลับถึงจุดเริ่มคลาน เงินก็พูดขึ้นมาเฉยๆว่า "พี่บิว ผมว่าท่าจะไม่ดีแล้วละ" ยังไม่ทันสิ้นเสียง พอผมหันกลับไป พี่แกก็วิ่งพ้นปากถ้ำไปแล้ว นาทีนั้นก็กระเจิงสิครับ ไม่ทันรู้ว่าอะไรก็รีบแจ้นออกกตามกันไป แก้ไขเมื่อ 15 เม.ย. 53 13:54:57 จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 10:09:55

ความคิดเห็นที่ 45   ไปหาเพชรพระอุมามาอ่านดีกว่า จากคุณ : ยุง บิน ชุม เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 10:10:16

ความคิดเห็นที่ 46   กำลังตื่นเต้นเลย.... ต่อครับ ต่อ!!! จากคุณ : เด็กยอดดอย เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 10:13:57

ความคิดเห็นที่ 47   หุหุ กำลังตื่นเต้นเลย จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 10:18:27

ความคิดเห็นที่ 48   พอออกพ้นถ้ำผมกับพี่บิวก็ถามเงินว่าเกิดอะไรขึ้น แกก็บอกว่าไม่มีอะไร แค่รู้สึกไม่มีอากาศหายใจแค่นั้น แต่ท่าทีแกเหมือนตกใจ ขณะเดียวกันพี่พรานก็เดินมาบอกว่าต้องเดินทางไปจุดพักที่สอง เพราะหากไปช้ากลัวจะมืดซะก่อน ผมเลยต้องล้างเนื้อตัว ตรงปากทางเข้าถ้ำจะมีน้ำที่ไหลตามรากไม้ลงมา แล้วก็ออกเดินทางไปยังจุดพักแรมต่อไป จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 10:18:40

ความคิดเห็นที่ 49   ตอนแรกผมเข้าใจว่าจุดพักแรมที่สองไม่ห่างจากถ้ำมาก แต่เราก็ใช่เวลาเกือบ 3 ชั่วโมงเพื่อไปถึง การเดินของเราเป็นแบบขึ้นทาง ลงอีกทาง เพราะขามาขี้นง่ายกว่าลง และถ้าย้อนกลับไปก็ไกลกว่า ส่วนขากลับใกล้กว่า เดินง่ายกว่าเพราะเดินตามทางน้ำตก จุดพักแรมนั้นต้องใกล้แหล่งน้ำครับ เพราะที่เราเตรียมงานมาคือมาเพื่อค้างแค่คืนเดียว น้ำที่เราเตรียมมากินเลยหมดหมดตั้งแต่ระหว่างเดินมาจุดพักแรมที่สอง แรกๆผมก็เข้าใจแหล่งน้ำที่ว่าจะสะอาดใส นอนแช่น้ำเล่นได้สบายๆ แต่ไม่ใช่ครับ มันเป็นแอ่งน้ำตกที่ยังพอมีน้ำขังอยู่บ้าง เป็นแหล่งน้ำที่เรากินร่วมกับสัตว์ป่า น้ำที่อุดมไปด้วยใบไม้ รากไม้ แม้กระทั้งขี้ช้าง (อันนี้เห็นตอนจะกลับแล้ว) ***แหล่งน้ำใสเย็นที่พี่พรานว่า จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 10:38:52

ความคิดเห็นที่ 50   จบแล้วเหรอคับ....? จากคุณ : เด็กยอดดอย เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 10:38:57

ความคิดเห็นที่ 51   กำลังรอลุ้น จากคุณ : คนข้างหนุน เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 10:43:55

ความคิดเห็นที่ 52   ยังครับ ยังไม่จบ จุดประสงค์ที่เรามาครั้งนี้คือมาเพื่อให้เห็น เพราะตอนที่เราฟังเราก็ได้แต่คิดว่าถ้ามีอยู่จริง ทำไมเอาออกมาไม่ได้ และเราก็เตรียมตัวมาค่อนข้างน้อย เพราะไม่ได้ประเมิณความยากง่ายของงาน มีเพียงข้อมูลที่ได้จากเงิน เสื้อผ้าก็มาสำหรับลุยแค่ชุดเดียว น้ำ อาหารก็เตรียมมาไม่มาก เพราะงั้นการที่ต้องหาของกินในป่าก็เป็นเรื่องที่จำเป็น และจำใจ ***จุดพักแรมที่สองมีแอ่งน้ำเยอะหน่อยเราเลยแยกสำหรับกิน และใช้ซักผ้าและอาบน้ำ ต่างหาก จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 10:57:57

ความคิดเห็นที่ 53   ตามมาล่าสมบัติด้วยคนค่ะ กำลังลุ้น ^ ^ จากคุณ : KOPI & CHAYEN เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 10:59:33

ความคิดเห็นที่ 54   จุดพักแรมที่สองคงอยู่ใกล้กับรังนกเงือก เพราะจะได้ยินเสียงมันบินผ่านไปมาตลอด เวลาบินผ่านเนี้ยยังกะเฮลิคอปเต่อร์เลย เรียกว่าได้ยินทุกครั้งที่บินผ่าน ป่าที่ผมไปค่อนข้างสมบูรณ์ดีทีเดียว ตลอดเส้นทางจะได้ยินเสียงนกนานาชนิด และเห็นรอยเท้าของสัตว์มากมาย อย่างหมูป่า เสือ กระทิง รอยเล็บหมี ขี้ช้างนี้เห็นตลอดทางเลย มีกองหนึ่งผมสงสัยว่าเป็นขี้ของตัวอะไร ลักษณะเหมือนเม็ดมะขาม สีดำ ขนาดเท่าๆกันเป็นกอง พี่พรานบอกผมว่าเป็นขี้เลียงผา ผมก็เลยบอกเขาว่ามันสูญพันธ์ไปแล้วไม่ใช่เหรอ เขาก็ยิ้มๆ แล้วตอบว่า "ไม่หรอก ที่อื่นไม่รู้ แต่ที่นี้ยังมี" จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 11:25:29

ความคิดเห็นที่ 55   พี่พรานก็ออกหาอาหารทันทีทีเราถึงจุดพักแรม ***จับปลาจากใต้ขอนไม้ครับ จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 11:54:37

ความคิดเห็นที่ 56   ***มีปลาไหลด้วยนะ จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 11:55:44

ความคิดเห็นที่ 57   ***อาหารที่ได้ จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 11:57:16

ความคิดเห็นที่ 58   ***น้ำสำหรับดื่ม ผ่านการต้มเรียบร้อยแล้ว รสชาติประมาณน้ำชาครับ จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 12:05:01

ความคิดเห็นที่ 59   ตึก ตึก ..... ตึก ตึก ..... ลุ้นระทึกตลอดการเดินทาง!!! จากคุณ : satawara เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 12:10:08

ความคิดเห็นที่ 60   หลังจากพักเหนื่อยสักพัก ผมกะพี่บิวก็คุยกันว่าจะกลับไปที่ถ้ำ แต่เนื่องจากว่าคุณลุงมีอาการเหนื่อยล้ามาก และถ้าหากเดินกลับไปก็ต้องใช่เวลามากกว่า 3 ชั่วโมง (เพราะตอนมาเดินลง) ร่วมทั้งถ้าจะกลับก็จะต้องเดินไกลเพิ่มขึ้นอีกเยอะ ก็เลยต้องล้มเลิกที่จะกลับไปถ้ำ จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 12:11:12

ความคิดเห็นที่ 61   ***สำรวจทางเดินกลับ เพื่อประเมิณว่าจะกลับทางไหนง่ายกว่ากัน สุดท้ายสรุปว่าเดินทางใหม่น่าจะง่ายกว่าเพราะไม่รกทึบเหมือนตอนมา จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 12:22:38

ความคิดเห็นที่ 62   ***นี้ครับ พี่บิว(ตากล้อง) จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 12:27:37

ความคิดเห็นที่ 63   พอเช้าเราก็ออกเดินทางกลับบ้าน ทางกลับที่ว่าง่ายๆ ของพวกพี่เขาทำเอาเราเกือบแย่เหมือนกัน (ยากน้อยกว่าทางมาหน่อยเดียวเอง) เราใช่เวลาจนถึงรีสอร์ทเกือบ 10 ชั่วโมง ถึงรีสอร์ทสองทุ่มกว่าๆ เพราะระหว่างทางคุณลุงเกือบจะเป็นลม ต้องให้แกพักนานหน่อย เราเองก็ใจเสียเพราะแกมือชา เท้าชา ตัวนี้เย็นเจี๊ยบเลย และลุงก็เป็นความดันอยู่ด้วย ต้องพัด นวด กันพักใหญ่ แต่แกก็ใจสู้กลัวว่าจะมืดเกิน เดินในป่าจะลำบาก ก็เลยต้องให้ม่อนประคองตลอดทาง เราเองก็พยุงอยู่ข้างหลัง น้ำทุกคนก็หมด แกเป็นลม ก็เหลือชงเกลือแร่ให้แกแค่แก้วเดียวเอง ***แผ่สองสลึง จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 12:44:56

ความคิดเห็นที่ 64   ***ไก่ฟ้าพญาลอ เจอระหว่างทางกลับ จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 12:49:03

ความคิดเห็นที่ 65   เอากลับบ้านไปเลี้ยงเหรอเพ่ จากคุณ : คนข้างหนุน เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 13:01:48

ความคิดเห็นที่ 66   สนุกดีครับ  รอติดตาม จากคุณ : Napsterio เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 13:02:04

ความคิดเห็นที่ 67   หลังจากที่ให้คุณลุงพักเหนื่อยก็ไม่มีการถ่ายรูปอีก เราแยกกันเป็นสองกลุ่มเพื่อให้อีกกลุ่มล่วงหน้าไปเพื่อหาน้ำ เพราะคุณลุงต้องการน้ำมาก แต่ก็ไม่เป็นอย่างที่คิด เพราะทั้งสองกลุ่มต่างก็เดินมืดอยู่ในป่า ทำให้การเดินของเราล่าช้ามาก ถ้าไม่ใช่เพราะความชำนาญของพราน เราคงต้องหลงป่าแน่นอน มืดขนาดที่มือตัวเองอยู่ข้างหน้ายังมองไม่เห็นเลย เรามีเพียงไฟฉายที่ส่องเห็นทางรำไร เดินป่าตอนกลางคืนไม่ใช่เรื่องสนุกเลย ไอ้ผมเดินรั้งท้าย ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรเดินตามตลอด ตอนหลังพี่พรานบอกว่า "ไม่มีอะไรน่ากลัว แค่จ้าวป่าจ้าวเขาท่านมาส่ง" สุดท้ายการเดินทางครั้งนี้แม้ไม่มีอะไรติดมือกลับบ้าน แต่อย่างน้อยเราก็ได้เห็นสิ่งที่เงินพูด และเข้าใจเหตุผลว่าทำไมเอาออกมาไม่ได้ แต่เราก็ไม่ได้ล้มเลิกที่จะกลับไปอีกครั้ง เดือนพฤษจิกายนปีนี้ เราจะกลับไปพร้อมกับการเตรียมตัวที่มากกว่าเดิม ขอบคุณผืนป่า ขุนเขา ที่มอบประสบการณ์ความทรงจำให้เรา ***ขอบคุณทุกท่านทีติดตามครับ*** นี้เป็นกระทู้แรกของผม ขาดตกบกพร่องก็ขออภัยด้วยนะครับ จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 13:33:57

ความคิดเห็นที่ 68   ไก่ฟ้าเอามาเลี้ยงไม่ได้ครับ เพราะมันเป็นสัตว์ใจเสาะ (พี่พรานพูดมานะ) คือถ้าเลี้ยงไปมันจะตรอมใจตาย มันจะไม่ยอมกินจนตายประมาณเนี้ยะ ตัวที่เห็นเนี้ยปล่อยไปครับ มันมาติดกับดักนายพรานที่ไม่ใช่ชุดพวกผมนะ ถ้าเจอตอนอยู่ก็ไม่แน่เป็นมื้อเย็นแหง่ ***แต่มีอีกตัวตายอยู่แล้ว พี่เขาเอากลับบ้านครับ จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 13:45:21

ความคิดเห็นที่ 69   ขอบคุณสำหรับ review ครับ แต่อดรุ้เลยว่าในหีบมีอะไร >_< จากคุณ : เดือนนี้ไม่มีวันหยุด เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 53 14:28:51

ความคิดเห็นที่ 70   ตื่นเต้น...นะครับ จากคุณ : คมครับ เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 13:47:51

ความคิดเห็นที่ 71   เอ่อ  เข้าไปเพื่อ "ล่า" และ "ทำลาย" กันเลยใช่ไหมครับ ทราบหรือไม่ครับ ว่าสัตว์ป่าหายาก และใกล้สูญพันธุ์เข้าไปทุกวัน ล่ากันแบบนี้ อีกหน่อย แม้แต่ป่าก็จะไม่เหลือให้ดูนะครับ เป็นถึงตำรวจ แทนที่จะดูแลเอาใจใส่  ดันทำผิดซะเอง ไม่มีปัญญาแบกอาหารเข้าไป ก็อย่าเข้าไปเลยครับ   เดือดร้อนคนรุ่นหลัง จะไม่มีอะไรเหลือให้ดูครับ จากคุณ : `SEPULTURA_`FROM_`HELL เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 53 17:02:55

ความคิดเห็นที่ 71   ^ ^ ^ เขาล่าเพื่อกิน และมีชีวิตอยู่กับป่า เป็นหนึ่งเดียวกับป่า เหมือนชีวิตหนึ่ง  ชีวิตคนบ้านป่า  ไม่ใช่ล่าเพื่อความสนุก ไก่ที่ติดบ่วงและยังมีชีวิตอยู่ก็ปล่อยไป  การปล่อยสัตว์ติดบ่วง นี่คงไม่ใช่การทำลาย? (ขนาดมีภาพและการบรรยายละเอียด) การเดินป่าแบบนี้มันหนักมาก ทั้งระยะทาง ทั้งของ ก็แบกกันแต่ที่จำเป็นทั้งนั้นแหละค่ะ  คนที่ไปแบบนี้ได้ ต้องพร้อมทั้งกายทั้งใจ  ยิ่งแบกอาหารเข้าไปเยอะเท่าไร ก็ยิ่งมีขยะมากเท่านั้น  และอาจจะทำให้ตกเป็นเหยื่อสัตว์ และเดินทางได้ช้าขึ้นอีก อาจจะไม่ถูกใจนักอนุรักษ์คนเมือง แต่นี่คือวิถีชาวบ้าน ที่เขากินอยู่กับป่าจริงๆ และอนุรักษ์แบบคนในพื้นที่ คืออาศัยและรักษาไปพร้อมๆ กัน  ดูได้จากที่เขา เก็บขยะออกมา  เขาไม่ได้เข้าไปปิคนิค  การที่พรานท้องถิ่น พาคุณคณะนี้ไปและพวกเขาก็ทำตามที่พรานแนะนำ อย่างเคร่งครัด  นี่คือการรักษาวิถีแบบหนึ่ง ที่ทำให้มนุษย์สามารถมีชีวิตอยู่ร่วมกับได้จริงๆ ในทางกลับกัน....ถ้าอนุรักษ์แบบคนเมือง แม้กระทั่งยากันทากกันยุงก็คงห้ามใช้ระหว่างอยู่ในป่า แล้วอาจจะติดมาเลเรียได้  หรือพิษจากพืชและสัตว์ เล็กๆ ในป่า  ซึ่งคนเมืองไม่มีภูมิคุ้มกันเท่ากับ ชาวบ้านแถบป่า   ดังนั้นการอนุรักษ์ต้องมีความเข้าใจ   ถ้าเข้าใจแบบเข้าใจเอาเอง จากในหนังสือ จากที่ตนเองปฏิบัติเวลาไปเที่ยวรีสอร์ท หรือ เดินเล่นในวนอุทยาน  นั่นเป็นเรื่องดีนะคะ  แต่มันไม่ได้ใช้ได้ ทุกอย่างตามตัวหนังสือ  และมันไม่ได้เป็นบรรทัดฐานที่ถูกไปหมด ทุกสถานการณ์   การเอามาตรฐานตัวเอง เข้ามาบีบคั้นคนอื่นไม่ก่อให้ประโยชน์อะไร ไม่ทำให้เม่น ไก่ ปลา ฟื้นได้ด้วย   แถมมันอาจจะทำให้ เปิดฉากทะเลาะกัน  ในขณะที่เจ้าของกระทู้แค่ใช้พื้นที่รีวิว เหมือนทุกๆ คนที่ไปเที่ยวมาเท่านั้น  แต่การเที่ยวของเขา ดิบๆ ลุยๆ เท่านั้นเอง   คิดเสียว่าดูสารคดีนะ จะได้ไม่เครียด ถ้าเรารักษาชีวิตตัวเองไม่ได้  เราก็จะอนุรักษ์อะไรไม่ได้ทั้งสิ้น ปล.ปกติเป็นผีห้องนี้  แต่ขอบคุณ 71 ที่ทำให้อยากพูดขึ้นมาบ้าง เหมือนกัน  และไม่ได้รู้จักเจ้าของกระทู้ด้วยค่ะ จากคุณ : คิงเพนกวิน เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 01:38:01

ความคิดเห็นที่ 72   ขอบคุณ คุณคิงเพนกวิน ที่ตอบแทน ผมครับ (จขกท) จริงอย่างที่คุณกล่าวทั้งหมดครับ พวกผมเข้าไปไม่ได้หวังล่าสัตว์ใดๆทั้งสิ้น ไม่อย่างนั้นกระทู้นี้คงเป็นการรีวิวอย่างอื่นมากกว่า ปืนที่พกไปก็มีแค่ลูกซอง กับปืนพกอย่างละกระบอกและใช่เผื่อป้องกันตัวเท่านั้น อาหารและสิ่งของที่อำนวยความสะดวกก็พกไปแค่สำหรับ 2 วัน 1 คืน เพราะการเดินทางครั้งนี้เจตนาก็บอกไว้ชัดเจนว่าต้องการพิสูจน์ และเห็นด้วยตาของตัวเอง ไช่แค่ฟังจากที่เงินว่า ***เพิ่มเติมครับ*** ผมเชื่อว่าผืนป่ามีความศักด์สิทธ์ ที่ผมเองก็ไม่กล้าลบหลู่ ลองหาโอกาส ลุยๆดิบๆ สักครั้ง แล้วคุณจะรู้ว่ามนต์ขลังของเป็นไงครับ จากคุณ : Manly@Smiles เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 53 21:55:27

ความคิดเห็นที่ 73   รออ่านต่ออยู่นะคะ จากคุณ : *_*Dryice*_* เขียนเมื่อ : 22 ส.ค. 53 18:58:54

ความคิดเห็นที่ 74   เป็นกระทู้ที่สนุกมากครับ ผมก็เป็นประเภทลุยๆเหมือนกัน แต่เข้าป่าปีนเขาแบบนี้ สิ่งที่ผมคำนึงถึงอันดับแรกเลยคือ เจ้าที่เจ้าทางเจ้าป่าเจ้าเขา ครับ เพราะถ้าเข้าไปแล้วเกิดอาการกลัวขึ้นมา มันจะยาว จากคุณ : wisanup111 เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 53 15:02:20

ความคิดเห็นที่ 75   แจ่มครับ วิถีชีวิตชาวป่า ชาวบ้านธรรมดา อยู่กับป่า กินกับป่า เขาจะรู้ดี ชอบชอบมารีวิวให้ดูอีกครับ คิดถึงเพชรพระอุมา ขึ้นมาทันใด อิอิ จากคุณ : ผู้เฒ่าเด็กดื้อ เขียนเมื่อ : 21 ก.ย. 53 05:05:46