ความคิดเห็นที่ 1   เกือบไม่ได้มาเป็นคนแรกซะแล้วววววว 5555 หลังจากนั่งรอมานาน ในที่สุดก็ตั้งกระทู้สักที...เอาเป็นว่า น้องไปนอนก่อนเน้อออ ฝันดีคร้าาา^^ จากคุณ : ngbobber เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 01:39:08

ความคิดเห็นที่ 2   The Winter North Andaman หลายคนอาจมีความคิดว่า หน้าหนาวต้องไปรับลมหนาวที่ทางเหนือซิ แล้วหน้าร้อนค่อยไปลั้นลาที่ทะเล.. ชั้นเองก็เคยคิดแบบนี้ แต่ก็เข็ดกับการไป แย่งกันกิน แย่งกันเที่ยว และสงสัยว่า เราไปเที่ยวเพื่อผ่อนคลายมิใช่หรือ ทำไมเราไปเที่ยวแล้วยังต้องแก่งแย่งกัน แล้วมันจะต่างอะไรกับชีวิตเมืองกรุงหล่ะ ดังนั้นคราวนี้ชั้นขอคิดต่างบ้าง... ชั้นเลือกจะไปทะเลในช่วงหน้าหนาว.. เพื่อที่จะไปพักผ่อน ไปนั่งเล่น เรื่อยๆ ชิวๆ และก็คิดไม่ผิดจริงๆ.. เพราะเหมันต์ฤดูแห่งท้องทะเลอันดามันเหนือก็มีเสน่ห์เย้ายวนไม่น้อยเลยทีเดียวครับ แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 53 19:01:44 จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 01:42:05

ความคิดเห็นที่ 3   ดีค้าบนิ้ง ตอนแรกว่าจะโพสตั้งแต่เที่ยงคืนแต่รูปไม่เสร็จซะงั้น      กู๊ดไนท์จ๊ะคุณน้อง ----------------------------------------------------------------------------- พระบรมธาตุไชยา การเดินทางไปยัง อช.หมู่เกาะสิมิลัน หากขับรถไปเองก็ไม่ได้ยากเย็นอะไร ขับไปทางภาคใต้ ด้วยเส้น ธนบุรี-ปากท่อ เชื่อมไปยัง ถนนเพชรเกษม ผ่านเพชรบุรี หัวหิน ประชุม และชุมพร ที่แยกปฐมพร ยังคงตรงต่อด้วยถนนหลวงสาย 41 ซึ่งต้องผ่านอำเภอไชยาด้วย ผมจึงไม่พลาดที่จะขอแวะไปสักการะพระบรมธาตุไชยา ณ วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 53 01:55:06 จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 01:46:22

ความคิดเห็นที่ 4   วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหารสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย เป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้นที่แห่งนี้จึงกลายเป็นโบราณสถานอันศักดิ์สิทธิ์ หนึ่งในสามของชนชาวใต้ จึงไม่แปลกแต่อย่างใดที่พบผู้คนจำนวนมากเดินทางมาสักการะที่วัดแห่งนี้ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 01:51:40

ความคิดเห็นที่ 5   ตามมาเที่ยวติดๆค่ะพี่เอ๋อ้อยขา   เมื่อวานนู๋ทำแม็คบุ๊คสุดรักหล่นจากมือ  ใจหายแป้ป  อกสั่นไหวๆ อยากร้องไห้มากเลยค่ะพี่ วันนี้ เปิดเครื่องมาปุ๊บสักพัก  ดับ  ..   นี่ถ้านู๋หายไปหลายๆวันคือ คอมป่วยนะคะ  พอคนหายป่วย คอมมาเป็นแทนอีก   นู๋จะทนปิดๆ เปิดๆ เครื่องไปก่อน จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 01:52:04

ความคิดเห็นที่ 6   พลับพลา ราตรี ครั้งก่อนหน้าที่ผมได้มีโอกาสมาเยือนเมืองไข่เค็มแห่งนี้ ได้เดินทางมากับคนใต้ที่เป็นเจ้าถิ่นแถวๆนี้ เค้าจึงพาผมไปทานอาหารที่ ปากน้ำไชยา... ซึ่งต้องขับรถเข้าไปจาก วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหารอีกราวๆ 10 กิโลเมตร และที่แห่งนั้นจะมีร้านอาหารอยู่สองร้านชื่อพลับพลาและราตรี อยู่สุดถนนฝั่ง ซ้าย/ขวา ครั้งก่อนไปกินร้านฝั่งขวา ครั้งนี้ผมจึงลองไปกินร้านฝั่งซ้ายดูบ้าง.... แต่ไม่ว่าร้านไหนก็จะเจอวิวปากน้ำไชยาได้เหมือนกันครับ... จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 01:52:57

ความคิดเห็นที่ 7   สวัสดียามดึกนู๋ลี่.. แต่ก็ยังสามารถใช้เข้ามาได้อยู่ใช่ม่ะ หรือว่าตอนนี้ใช้เครื่องอื่นอ่ะจ๊ะ... ----------------------------------------------------------------------------- แรกทีเดียวว่าจะสั่ง หอยนางรมสดมากินให้สมเป็นเมืองหอยใหญ่ แต่ที่ไหนได้... ดันไม่มีซะงั้น เนื่องจากเป็นช่วงน้ำทะเลขึ้น จึงไม่สามารถลงไปเก็บหอยขึ้นมาได้ (เค้าว่างั้น เชื่อๆเค้าล่ะกัน อิอิ) จึงสั่งนั่นสั่งนี่ตามประสาคนมาเที่ยวทะเลครับ แต่หลังจากได้กินกันจนอิ่มแล้วแล้ว... ได้ข้อสรุปว่า ร้านขวามืออร่อยกว่าครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 01:54:30

ความคิดเห็นที่ 8   อช.เขาลำปี-หาดท้ายเหมือง หลังจากอิ่มอร่อยกันเรียบร้อย เราก็เดินทางกันต่อ...เพื่อข้ามจากภาคใต้ฝั่งตะวันออกไปยังฝั่งตะวันตก หรือฝั่งอันดามันนั่นเองครับ เส้นทางที่ขับง่ายหน่อยก็คงจะเป็นถนนสาย 401 แต่ด้วยความที่ว่าไม่แน่ใจว่ามีแก๊สให้น้องยิ้มเติมหรือไม่ ผมจึงเลือกขับไปทางที่คุ้นเคยคือ สาย44 ไปทางอำเภอทับปุด เพื่อเติมแก๊สที่นั่น แต่ทางนี้ช่วงทับปุดข้ามไปเขาหลัก/ท่าเรือทับละมุ อาจจะขับยากซักหน่อยนะครับ เนื่องจากเป็นทางทะลุเขา จนอีกคันแอบบ่นอุบเลย ส่วนผมเฉยๆ เพราะเคยมาแล้ว และเคยขับขึ้นเขาโหดกว่านี้มาแล้ว //ฮ่าฮ่าอ่า แล้วมารู้ทีหลังว่าตรงสาย 401 ตอนนี้ก็มีปั๊มแก๊สแล้วเช่นกัน สำหรับคืนนี้เราเลือกที่จะไปนอนที่ อช.เขาลำปี-หาดท้ายเหมือง ที่บ้านพักอุทยานแห่งชาติครับ เพื่อเป็นการประหยัดค่าที่พัก แทนที่จะไปพักโรงแรมแถวเขาหลักครับ โดยหาดท้ายเหมืองมีลักษณะเป็นชายหาด ยาวๆๆๆๆ หลายกิโลเมตรเลยครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 01:56:17

ความคิดเห็นที่ 9   ซึ่งลักษณะหาดแบบนี้จึงเป็นหาดที่มีเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่จำนวนมาก ซึ่งหากมาถูกช่วงเวลาก็มีสิทธิ์ได้เห็นเต่าทะเลตัวเป็นขึ้นบกมาวางไข่กันครับ และด้วยความที่ว่าหาดดังกล่าวอยู่ฝั่งตะวันตกจึงเป็นอีกหาดที่สามารถมานั่งเล่นดูพระอาทิตย์ตกได้อย่างสบายอารมณ์จริงๆครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 01:56:57

ความคิดเห็นที่ 10   ท่าเรือทับละมุ เช้าวันที่สอง ต้องตื่นกันเช้านิดนึงครับ เนื่องจากต้องไปที่ Office ของบริษัททัวร์ที่ผมได้ซื้อไว้ โดยผมซื้อทัวร์แบบ One day open โดยผมซื้อจาก บ.Similan Pro dive ครับตั้งแต่งานท่องเที่ยวช่วง มีนาคมปี 2552 นั่นหล่ะครับ ตอนแรกเค้าจะไม่รับผมเนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลเค้าจะไม่ Open ให้แต่ผมแจ้งกับเค้าว่าผมสามารถระบุวัน open ที่แน่นอนได้ เค้าจึงยอมครับ สาเหตุที่เลือกของที่นี่ไม่ยากครับ ราคาถูกสุดเท่าที่ผมหาได้คือหัวละ 1750 บาทครับ ราคารวม Speed Boat ค่าเช่าอุปกรณ์ดำน้ำตื้น (หน้ากาก ท่ออากาศและ ฟิน) อาหารกลางวัน 1 มื้อ และ ดำน้ำตื้น 2 จุดและค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานครับ ซึ่งราคานี้โอเคเลยเพราะผมลองถามว่าหากจะเอาแต่เรือเท่าไหร่ ราคาไม่หนีจากนี้เลยครับ สำหรับบริษัทอื่นๆที่ทำทัวร์ก็มีหลายที่ อาทิ เม็ดทราย แจ๊ด ซีฮอร์ค(ตอนนี้ใช้ชื่อ Southern Connection) ยังงัยลองติดต่อดูได้ครับ โดยการเดินทางไปยังสิมิลันจะต้องไปขึ้นเรือที่ท่าเรือทับละมุ ซึ่งแต่ละวันจะมีเรือออกเฉพาะตอนเช้าเท่านั้น (ราว 8.30 ครับ) และจะมีเรือกลับมาส่งช่วงเย็น ดังนั้นช่วงเช้าจึงพบผู้คนจำนวนมากที่มารอขึ้นเรือไปยัง อช.หมู่เกาะสิมิลีนกันครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 01:58:53

ความคิดเห็นที่ 11   เครื่องเดิมนี้ล่ะค่ะพี่  เดี๋ยวมันก็คงปิดลงไปอีก   นี่ถ้าไม่ใช่รีวิวของพี่เอ๋อ้อยที่นู๋รักนะ ไม่มาเปิดรอดูเล้ยค่ะเนี่ยะ นู๋ต้องรับๆพิมพ์ให้สวยงามก่อนที่คอมนู๋จะดับอีกค่า  แง๊ จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:00:00

ความคิดเห็นที่ 12   เดินทางสู่เกาะในฝัน สำหรับการเดินทางไปยัง หมู่เกาะสิมิลันนั้นกว่า 90% ใช้เรือ Speed Boat ครับ เนื่องจากเป็นเกาะที่ไกลจากฝั่ง(น่าจะมากที่สุด) คือ 70 กิโลเมตรครับ ซึ่ง Speed Boat ก็ใช้เวลากว่าหนึ่งชั่วโมงครึ่งแล้วครับ ปล. อีก 10% ใช้เรือประมงไปแบบค้างคืนครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:00:08

ความคิดเห็นที่ 13   งั้นพี่จะไปจุดธูปให้หนูนะ.. ว่าขอให้คอมไม่เกเร ติดจนพี่รีวิวจบนะ ----------------------------------------------------------------------------- โลกใต้ทะเลแห่งอันดามันเหนือ สิมิลันเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เป็นที่ใฝ่ฝันจากนักดำน้ำทั่วโลก ซึ่งหากจัดอันดับกันผมเชื่อว่า สิมิลัน ต้องติด 1 ใน10 ของโลกเป็นแน่แท้ครับ (แอบถือหางที่เที่ยวของเมืองไทยซะหน่อย  ) หลังจากหน้ามรสุมผ่านพ้นไป.. จะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกจำนวนไม่น้อยมาที่เกาะแห่งนี้..เพื่อมาดำ Scuba ซึ่งผู้ร่วมเดินทางที่นั่ง Speed Boat มาด้วยกันบางส่วนก็จะปลีกตัวออกไปเพื่อไปดำน้ำลึกครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:02:01

ความคิดเห็นที่ 14   ส่วนตัวผมเองแม้ใจจะอยากหัดเรียน Scuba ขนาดไหน แต่ยังติดขัดด้วย วิตามิน M (Money) การดำน้ำลึกจึงเป็นเพียงแค่ฝันไกลๆของผมอยู่นั่นเอง อย่างที่บอกครับการที่ผมมาที่สิมิลันในช่วงเดือนธันวาคมอย่างนี้ ทำให้ผมเป็นคนไทยจำนวนน้อยที่มาเยือน.. โดยจากการสังเกต เท่าที่ดู... นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยมาจากรัสเซียครับ เนื่องจากรัสเซียในช่วงนี้อากาศค่อนข้างหนาวมาก เค้าจึงหนีหนาวมาเที่ยวทะเลบ้านเราครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:02:58

ความคิดเห็นที่ 15   เย้ คนสวยๆ พิมพ์สวยงาม เวลาที่โพสยังส้วยสวยเนอะ  ตี 2 เป๊ะอ่ะ ใครทำได้แบบนู๋มั้ยคร๊า รูปที่พี่เอ๋อ้อยถ่ายมานี้ สวย   นู๋รอดูมานานจนลืมเล้ยค่า จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:03:11

ความคิดเห็นที่ 16   เย้ รีวิวนี้ที่รอคอยค่ะ^^ จากคุณ : yuki_shimi เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:03:31

ความคิดเห็นที่ 17   เออเนอะ ตีสอง เป๊ะจริงๆด้วย... อิอิ     พี่ก็ดองจนจะลืมเองเหมือนกันหล่ะ..     แต่ก็นะ เดือนที่แล้วออกทริป สามอาทิตย์ติด แถมงานเข้าอีก     เลยไม่ได้รีวิวซะที อิอิ (ข้ออ้างทั้งน้านนนน)     ปล.ขอบคุณสำหรับคำชมค้าบบบบ.. ----------------------------------------------------------------------------- สำหรับทริปนี้ผมได้รับ อภินันทนาการจาก Cybereak ให้ยืม Housing ของ 400D มาครับ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ผมจะได้ลงไปเก็บภาพใต้ทะเลครับ อิอิ ปล. ขอบคุณ ม่อน สำหรับรูปนี้ค้าบบบ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:05:58

ความคิดเห็นที่ 18   สวัสดียามดึกๆครับคุณยูกิ... อิอิรีวิวที่รอนานกันจนลืมไปเลย...     ว่าแต่นอนดึกจังเลยครับ ----------------------------------------------------------------------------- เกาะเก้า เกาะบางู สำหรับจุดแรกที่เราได้มาดำน้ำกันทาง ทัวร์เค้าได้พามาที่ เกาะเก้าหรือเกาะบางูครับ ซึ่งที่นี่เอง.. จุดดำน้ำอยู่ค่อนข้างลึกครับ (ราวๆ 10 เมตร) ซึ่งเหมาะกับคนที่มาดำ Scuba เสียมากกว่า ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ผมพอจะทราบว่าตั้งแต่ก่อนมาแล้วครับ ว่าการมาดำ Snokle ที่สิมิลันไม่ค่อยมีอะไรซักเท่าไหร่ ดังนั้นผมจึงไม่มีปัญญาที่จะเก็บภาพอะไรใต้น้ำมาได้มากนัก.. จึงขอมาเก็บภาพความสนุกสนานของเพื่อนๆที่ไปด้วยกันดีกว่า อิอิ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:08:39

ความคิดเห็นที่ 19   เพรียงหิน ไม่ใช่เพียงแค่หิน สำหรับนักดำน้ำตื้นมือใหม่ อีกสิ่งที่ควรระวังในการมาดำน้ำ...ได้แก่.. เพรียงหิน โดยเพรียงเป็นสัตว์จำพวกเดียวกับ กุ้ง ปู.. ที่เรียกว่า เพรียงหิน เพราะมันเกาะที่หินนั่นเอง.. ซึ่งในการเกาะของเพรียงนั้น ตัวมันจะมีสารจำพวกหินปูนหุ้มตัวและช่วยในการเกาะซึ่งเปลือกเพรียงส่วนใหญ่จะมีความแหลมคม หากคนเข้าไปใกล้แล้วโดนคลื่นซัดก็อาจจะโดนบาดได้ครับ ซึ่งเรื่องดังกล่าว ทัวร์ส่วนใหญ่จะมีการแจ้งให้กับลูกทัวร์อยู่แล้วครับ แต่ทัวร์ผมมีชาวรัสเซียคนหนึ่งไม่แน่ใจว่า ฟังภาษาอังกฤษไม่ได้หรือเปล่า (คนรัสเซียส่วนใหญ่พูดอังกฤษไม่ได้ครับ) จึงโดนคลื่นซัดไปถูกเพรียงบาด จนเป็นแผลเหวอะที่หน้าแข้งครับ ซึ่งแผลดูน่ากลัวเชียวครับ น่ากลัวจนคนที่เห็นหลายคนถึงกับหน้าถอดสี ยกยาดมมาดมกันเลยทีเดียว อิอิ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:11:37

ความคิดเห็นที่ 20   เกาะแปด เกาะเรือใบ เกาะในฝัน หลังจาก ดำผุดดำว่าย อยู่ที่เกาะเก้าราวๆ ครึ่งชั่วโมงทางทัวร์ก็เรียกลูกทัวร์ขึ้นเรือครับ.. และเดินทางเข้าไปยังเกาะแปด ในภาพแรกที่ผมได้เห็นนั้น ทำเอาผมอึ้งไปเลยครับกับความงาม.. ไม่ว่าจะเป็นน้ำทะเลใสๆ ฟ้าปิ๊งๆ รวมไปถึง Landscape ที่งามมากๆครับ เล่นเอาคนที่หลงใหลในการถ่าย Landscape รีบวิ่งไปหยิบกล้องมาเก็บภาพทันทีเลยครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:14:10

ความคิดเห็นที่ 21   พิชิตหินเรือใบ จากนั้นผมก็ทานมื้อกลางวันกับทัวร์ครับ... ซึ่งก็เป็นอาหารของอุทยานนั่นหล่ะครับ แต่จะมีบางทัวร์ที่เค้าจะเตรียมอาหารมาจากฝั่งเองครับ พอทานข้าวเสร็จพวกผมก็อยู่ต่อที่เกาะแปดครับ เพื่อค้างที่นี่หนึ่งคืน ส่วนพวก One Day trip ก็จะออกไปดำน้ำต่อกันครับ รวมถึงพวกที่ซื้อทัวร์แบบค้างคืนเช่นกัน เพราะเค้าจะไปค้างที่เกาะสี่กันครับ ซึ่งนี่เป็นอีกเหตุผลที่ผมซื้อแค่ One day Open Tour ครับ ส่วนผมก็ไปติดต่อเต้นท์ที่พักกับเจ้าหน้าที่ครับ... ซึ่งเต๊นท์ที่อช. ที่นี่ค่อนข้างขึ้นชื่อว่ามีปัญหา มีรู มีหนูวิ่งเยอะ แต่จากการที่ได้คุยกับทางทัวร์ที่มาระหว่างทางเค้าบอกว่า ไม่ใช่ว่าทางจนท. เค้าไม่สนใจนะครับ.. เค้าซ่อมตลอด แต่ที่หนูมันเยอะเนี่ย เกิดจากนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ นี่หล่ะครับที่มักเอาอาหารมาเก็บไว้ในเต๊นท์ หนูพวกนี้ได้กลิ้นมันก็กัดเต๊นท์เพื่อไปเอาของกินครับ ดังนั้นแนะนำว่าใครจะเอาของกินไปก็ควรใส่กระเปาแบบไฟเบอร์ไปครับ.. เพราะหนูเจาะไม่ได้ และให้วางไว้นอกเต๊นท์เพื่อหนูจะได้ไม่กัดเต๊นท์เข้าไปครับ จากนั้นผมปีนขึ้นไปบนหินเรือใบครับ ทัวร์มักจะบอกว่าไม่ควรใส่รองเท้าขึ้นไป.. เพราะอาจจะลื่นครับ แต่ผมมั่นใจในรองเท้า และคิดถูกเพราะหินร้อนมากๆๆๆๆๆ เดินเท้าเปล่าๆนี่พองได้เลยนะครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:17:37

ความคิดเห็นที่ 22   และหลังจากขึ้นไป..บนหินเรือใบก็เข้าใจว่า ทำไมใครๆ หลายคน ถึงหลงรัก สิมิลันกันได้ขนาดนี้ น้ำใสๆ สวยๆ สีงามๆ กับฟ้าสวยๆ แบบนี้ไม่ให้หลงรักได้อย่างไรจริงมั๊ยครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:20:45

ความคิดเห็นที่ 23   อ้อมกลับมาฝั่งหาดบ้าง.. โอ้..ทะเลแสนงามมมมม จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:21:37

ความคิดเห็นที่ 24   ฟ้าสีครามสดใส... จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:22:22

ความคิดเห็นที่ 25   มองเห็นเรือใบ... จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:24:15

ความคิดเห็นที่ 26   แล่นอยู่ในทะเล... จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:24:37

ความคิดเห็นที่ 27   ตามมาชมรีวิวยามดึกค่ะ สวยมากๆๆๆๆๆๆ  อิจฉาจริงๆเลยยยยยยย ปล. กางเกงน้องนิ้ง......พี่ปลื้มมากกกกก จากคุณ : iamchula เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:25:12

ความคิดเห็นที่ 28   ทะเล้... ทะเล ใครจะว่าไงกับที่นี่ไม่รู้ รู้แต่ว่าผมสุขใจมากมายที่ได้มีโอกาสมาที่สวยๆแห่งนี้ครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:25:29

ความคิดเห็นที่ 29   สวัสดีครับอีกรอบครับส้ม... หลังจากทักทายกันใน MTP ไปแล้ว     ที่สิมิลันสวยจริงๆครับ คิดแล้วก็ยังอยากกลับไปอีก ----------------------------------------------------------------------------- เพื่อนๆทั้ง 6 คนต่างเริ่มทยอยลงกันหมด แต่ผมเหมือนเด็กที่ยังไม่พอ ยังเดินซ้าย เดินขวา เก็บภาพมุมนั้นมุมนี้ แบบไม่มีเบื่อเลยครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:27:42

ความคิดเห็นที่ 30   ดำน้ำ ริมหาด ยามบ่าย พอลงมาข้างล่างสมาชิคส่วนใหญ่หนีไปนอนครับ แต่ผมยังมีพลังอยู่ เลยคว้ากล้องไปดำผุดดำว่ายอยู่ริมหาดใกล้ๆ กองหินตรงหินเรือใบครับ และเป็นการไปลองดำน้ำโดยไม่ใช่ชูชีพครับ เดิมผมเองว่ายน้ำไม่แข็ง เวลาดำน้ำจะใส่ชูชีพตลอด แต่เพื่อนที่ดำน้ำหลายคนบอกว่า ถ้ามีฟินมันก็ไม่จมแล้ว... เอาว่ะ.. ลองซะเลย แล้วก็พบว่ามันไม่จมจริงด้วย แต่เมื่อยขาน่าดู.. ปล. ไม่รู้ว่าไม่จมเพราะไขมันมันลอยน้ำหรือเปล่า   จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:29:01

ความคิดเห็นที่ 31   ทะเลที่สิมิลันมันใสจริงๆครับ... ดูซิครับ...แสงแดดทะลลงมาที่ผิวน้ำมันสวยจริงๆครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:29:35

ความคิดเห็นที่ 32   ถึงที่สิมิลันจะไม่ได้ขึ้นชื่อเรื่องปะการัง... แต่ก็มีปะการังสวยๆ ให้เราดูเหมือนกัน อิอิ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:30:15

ความคิดเห็นที่ 33   สวัสดีอีกรอบเหมือนกันค่ะ มาอยู่เป็นเพื่อนค่ะ จนกว่าจะรีวิวเสร็จเลยค่ะ เห็นน้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลาแล้วอยากเก็บกระเป๋าซะเดี๋ยวนี้จริงๆ.......ใจมันหวิวๆ จากคุณ : iamchula เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:30:42

ความคิดเห็นที่ 34   ซึ่งรวมไปถึงสิมิลันจะไม่ใช่ทะเลที่มี ปลามากมาย เหมือนแถวทะเลกระบี่ ที่แค่ลงน้ำปลาก็มารุมแล้ว แต่อย่างหนึ่งอาจะเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ที่ อช. (รวมถึง อช.หมู่เกาะสุรินทร์ด้วย) ค่อนข้างให้ความสำคัญกับระบบนิเวศน์ ที่จะกำชับไม่ให้นักท่องเที่ยวให้อาหารปลา ซึ่งตรงนี้ผมคงต้องชมต่อไปยังทัวร์แถบนี้ด้วย ที่ส่วนใหญ่ล้วนไม่โยนอาหารลงไปให้ปลากิน ซึ่งจะส่งผลต่อระบบนิเวศน์ตามที่ หลายๆคนเคยมาโพสนั่นเองครับ แต่ผมยังได้พบได้เจอปลาหลากหลายชนิดที่แทบจะว่ายมาชนจมูกผมเลยทีเดียว สงสัยว่าใช่ ปลาดาบเงินหรือเปล่า ???? รู้แต่ว่ามันว่ายน้ำเป็นระเบียบดีจึง แบบว่าเข้าแถวเรียงหนึ่งมาเลย จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:31:00

ความคิดเห็นที่ 35   ขอบคุณครับคุณส้ม.... จริงๆเริ่มแอบง่วงแล้ว... แต่จะรีวิวให้จบก่อนค่อยไปนอน อิอิ.. ----------------------------------------------------------------------------- หรือแม้แต่เจ้าพวกนี้ ปลาปักเป้าหน้าหมา ปลานกแก้ว ปลาดอรี่ เพื่อนนีโม่ ใน Fiding Nemo อิอิ ..... แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 53 02:32:55 จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:32:27

ความคิดเห็นที่ 36   แต่เนื่องด้วยแถวนี้ไม่มีพวกดอกไม้ทะเล หรือพวกปะการังอ่อน จึงไม่มี Nemo มาให้พวกเราเห็นกันครับ แต่ๆๆๆๆ ดันมี นีโม่ยักษ์โผล่มา จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:33:23

ความคิดเห็นที่ 37   รวมไปถึงโลมายักษ์สีฟ้าด้วย   เอาเข้าไปเผาตัวเองซะงั้น   จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:33:49

ความคิดเห็นที่ 38   อีกหนึ่ง Land Mark ของที่นี่คือ หินก้อนนี้ครับ.. หินโดนัลดั๊ก... อืมก็เหมือนอยู่นะเนี่ย จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:34:15

ความคิดเห็นที่ 39   หลังจาก Survey เสร็จเลยกลับไปตามเพื่อนๆมาเล่นน้ำกันดีกว่า อิอิ ถ่ายแบบ Fish Eye View มันเป็นแบบนี้นี่เอง จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:34:50

ความคิดเห็นที่ 40   เฮฮากันไปครับ อิอิ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:35:35

ความคิดเห็นที่ 41   เริ่มตกเย็น ฟ้าเริ่มมีเมฆ ผมว่ามันก็สวยไปอีกแบบนะ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:35:58

ความคิดเห็นที่ 42   ตอนแรกก่อนมาเพื่อนที่ให้ยืม Housing สั่งเสียมาว่า.. ให้ไปดูพระอาทิตย์ตกบนหินเรือใบ จะสวยงามมาก แต่ๆๆๆ ด้วยความขี้เกียจ ผมจึงขอใช้เวลาอยู่ริมหาดแทนครับ... ซึ่งพระอาทิตย์จากริมหาดก็สวยงามไม่แพ้กันเลยครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:36:27

ความคิดเห็นที่ 43   จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:36:54

ความคิดเห็นที่ 44   มิตรภาพจากห้องครัว เนื่องจากค่อนข้างได้ยินคำขู่จากหลายๆปากมาว่า... ที่อช.แห่งนี้มักมีปัญหาในการสั่งอาหาร (อีกแล้ว ชื่อเสียเยอะนะเนี่ย) อาจจะเพราะได้ยินมาแบบนั้นเลยไม่ได้คาดหวังอะไรมากมาย แต่พอได้มาเจอจริงๆ ผมว่า พี่ๆป้าๆ ที่นี่เค้ามีอัธยาศรัยดีมากๆเลยครับ.. ได้ไปยืนคุยกับเค้าว่ามีอะไรกินบ้าง.. เค้าเลยชวนเข้าครัวซะเลย ไปดูกันว่ามีอะไรบ้างแล้วอยากกินอะไร... ผมเลยได้ปลาเผาตัวประมาณ 1.5 โลมากินด้วยราคาเพียง 250 บาทเท่านั้นครับ ซึ่งปกติปลา Size นี้ที่กรุงเทพฯ ไม่น่าจะต่ำกว่า 400-500 แน่ๆครับ และเฮียที่ไปด้วยยังไปผูกมิตรกับ หนุ่มเสริฟคนหนึ่งด้วย Red หนึ่งเป๊ก.. จนน้องเค้าจะเอายำปลาหมึกมาให้กินฟรีๆ ซะงั้น เสียดายที่ว่างอิ่มกันแล้วไม่งั้นนะ ผมว่า "มิตรภาพดีๆ เกิดขึ้นได้เสมอครับ เพียงแค่เรายื่นมือออกไป แค่นั้นเอง" หลังจากอิ่มเราก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำนอนครับ ก็จบไปสำหรับวันแสนสุขที่สิมิลันวันแรก จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:37:35

ความคิดเห็นที่ 45   เช้าวันที่สามของการเดินทางหรือวันที่สองบนสิมิลัน แรกทีเดียวที่เกาะแปดเค้ามีจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นครับ... ซึ่งได้ไป Survey เส้นทางกับเพื่อนไว้เมื่อคืน และแน่นอนผมตั้งนาฬิกาปลุกไว้ แต่ๆ.... หลังจากตื่นขึ้นมา... หันซ้ายหันขวาอยู่พักนึง... ก็ได้ยินเสียงจากเต๊นท์ข้างๆ ที่ตอนแรกจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นเช่นกันว่า... "อย่าไปเลย นอนเถอะ" ได้ยินดังนั้นผมจึงล้มตัวลงนอนอย่างว่านอนสอนง่าย และมาตื่นอีกครั้งหลังพระอาทิตย์เริ่มมาอวดโฉมแล้ว.. ผมเลยออกไปเดินเล่นริมหาด... ซึ่งเป็นหาดที่สงบมากกกกกก (เพราะยังไม่มีเรือมาส่งนักท่องเที่ยวนั่นเองครับ) จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:39:01

ความคิดเห็นที่ 46   และผมเลยขึ้นไปบนหินเรือใบอีกครั้งเพื่อขึ้นไปเก็บบรรยากาศของเกาะยามเช้าครับ ซึ่งก็ไม่ผิดหวังเพราะแสงเช้าๆ ก็ทำให้ผมได้ภาพในอีกอารมณ์เช่นกัน... ซึ่งช่วงเช้าอย่างนี้จะไม่ค่อยได้เห็นเรือ Speed Boat เท่าไหร่หากแต่จะเห็นบรรดาเรือยาง.. ที่เหล่านักดำน้ำ Scuba ใช้ในการนั่งเข้ามาที่เกาะแทนครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:39:59

ความคิดเห็นที่ 47   โพสผิดครับ.. อิอิ แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 53 02:42:00 จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:41:31

ความคิดเห็นที่ 48   หลังจากมื้อเช้าผมก็ให้เวลากับตัวเองในการนั่งเล่นรับลมอยู่หน้าหาดครับ เพื่อรอเวลาให้เรือมารับเพื่อเดินทางต่อครับ บางคนก็นอนอาบแดด บางคนก็เดินเล่นริมหาด... บางคนอาจจะมองว่าเสียเวลาไม่จำเป็นต้องอยู่นานขนาดนี้ก็ได้ (เพราะถ้าเอาจริงๆ มันก็ไม่มีอะไรจริงๆนั่นหล่ะ   ) แต่สำหรับผมแล้วการที่ไม่มีอะไรนั่นหล่ะครับ มันทำให้เราได้อยู่อย่างสงบ ทำให้เราได้พักผ่อน อยู่นิ่งๆ เพื่อชาร์จแบตให้ตัวเอง... จริงอยู่อาจะเป็นการเที่ยวที่ใช้วันเวลาไม่คุ้ม คือเที่ยวไม่กี่ที่ แต่มันก็เป็นการเที่ยวที่เที่ยวแล้วหายเหนื่อย และสร้างความสุขให้ผมได้เป็นอย่างดีครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:42:17

ความคิดเห็นที่ 49   เวลาผ่านไปความคึกคักก็กลับมาสู่เกาะแปดอีกครั้งหลังจาก บรรดาทัวร์เริ่มพานักท่องเที่ยวมายังเกาะแปด จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:42:51

ความคิดเห็นที่ 50   สำหรับมื้อกลางวันผมและเฮียไปคุยกับแม่ครัว... ว่าวันนี้ขอข้าวกลางวันเร็วหน่อย ก่อนที่ทัวร์จะมาลง ซึ่งแม่ครัวก็ Happy นะ เพราะการที่ไปกินตอนทัวร์ลง แน่นอนทางครัวเค้าต้อง Service ทัวร์เค้าก่อนเพราะมันก็เป็นลูกค้ารายใหญ่ของเค้า บางคนอาจจะไม่ชอบใจ ว่าทำไมไม่สนใจเรา แต่ใจเข้าใจเราครับ... เค้าก็ต้องทำมาหากินเหมือนกัน.. แม้ว่าจะต้องกินเร็วไปบ้าง แต่ผมว่าก็ดีกว่าที่จะต้องไปแย่งทัวร์เค้ากินนะ... บางครั้งเรายอมหลีกบ้าง เพื่อความสุขของคนส่วนมาก ดีกว่าดันทุรังไป สุดท้ายเราก็ไม่มีความสุขไปเอง ซึ่งมื้อนี้ก็มีเมนูพิเศษแบบว่าไป Request แม่ครัวเลยคือ "แกงส้มใต้เนื้อปลา" จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:44:08

ความคิดเห็นที่ 51   กินแกล้มกับปลาหมึกจานนี้ที่แอบเล็งไว้ตั้งแต่เมื่อคืน จิ้มน้ำจิ้มรสเด็ด.. ราคาน่าจะแค่ 150 เองครับ อร่อย ถูก และสดมากมาย จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:44:31

ความคิดเห็นที่ 52   เกาะปายู หลังจากอิ่มอร่อยกับมื้อกลางวันเรียบร้อย เราก็เดินทางต่อไปยังเกาะปายูครับ เพื่อไปดำน้ำในจุดที่สองกันครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:44:57

ความคิดเห็นที่ 53   ที่เกาะปายูมีปะการังค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับเกาะ 9 ที่ผมได้ดำมาเมื่อวานครับ แต่จะคล้ายๆกันคือปะการังค่อนข้างอยู่ลึกพอสมควรครับ... แต่น้ำที่ใส และแดดที่แรง ทำให้แสงส่องลงมาเป็นลำๆเลยครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:45:24

ความคิดเห็นที่ 54   ปะการังก็มีไม่หลากหลายเท่าไหร่ครับ แต่อย่างว่าหล่ะครับถ้าจะเอาปะการังสำหรับดำน้ำตื่นสวยๆ ต้องไปที่ มก.สุรินทร์ครับ หรือไปอช.ตะรุเตาแทนครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:45:54

ความคิดเห็นที่ 55   สุดท้ายก็เลยกลับมามุขเดิมคือถ่ยรูปเล่นกันเองดีกว่าครับ อิอิ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:46:27

ความคิดเห็นที่ 56   มุ่งหน้าสู่เกาะเมี่ยง เกาะสี่ หลังจากดำน้ำที่นี่เสร็จผมก็นั่ง Speed Boat ไปยังเกาะสี่หรือ อีกชื่อคือเกาะเมี่ยง ซึ่งที่นี่เป็นที่ตั้งของที่ทำการ อช.ครับ ซึ่งมีบ้านพักและมีเต๊นท์จำนวนมากกว่าเกาะแปดครับ เพราะที่เกาะนี้มีแหล่งน้ำจืดอยู่บนเขาครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:46:50

ความคิดเห็นที่ 57   หลังจากเก็บของเข้าเต๊นท์เราก็ออกไปดำน้ำเล่นที่หน้าหาดครับ... เกาะสี่เองอาจจะไม่มีมี Lnadmark อะไรดังเช่นหินเรือใบที่เกาะแปด.. หากแต่เกาะสี่นั้นสิ่งที่เป็นจุดเด่นอย่างมากคือความใสของน้ำครับฃ เกาะแปดที่ว่าใสๆ มาเจอเกาะสี่นี่ชิดซ้ายไปเลยครับ ปล. สิ่งที่ขัดใจผมเล็กน้อยคงจะเป็นเสาสัญญาณมือถือซักค่ายนึงนี่หล่ะครับ... (ที่เกาะแปดไม่มีครับ) จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:47:21

ความคิดเห็นที่ 58   ดูรูปนี้ซิครับจะเห็นว่าน้ำมันใสขนาดไหน จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:47:33

ความคิดเห็นที่ 59   หาดเล็ก ที่เกาะสี่อาจะไม่มีมีหินเรือใบ ดังเช่นเกาะปด แต่เกาะสี่เองเป็นเกาะที่มีพื้นที่มาก สามารถเดินไปหลังเกาะได้ รวมไปถึงมีจุดที่สามารถเดินไปชมพระอาทิตย์ขึ้น และตกได้ครับ หลังจากเสร็จภารกิจดำน้ำเป็นที่เรียบร้อย เลยถือโอกาสเดินสำรวจซะหน่อย... เดินไปประมาณครึ่งกิโล ข้ามไปหลังเกาะ หาดเล็ก... ที่ไม่ได้เล็กไปตามชื่อหาด เป็นอีกหาดที่มีนักดำน้ำจำนวนมาก มานั่งตากอากาศที่นี่ครับ ด้วยสภาพหาดที่มีทรายขาว น้ำใส และมีร่มเงาจำนวนมาก และอยู่หลังเกาะ ทำให้มีเรือดำน้ำลึกจำนวนมาก มาหลบคลื่นที่นี่ และส่งคนดำน้ำลึก มานั่งเล่นบนหาดพอสมควรเลยครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:47:58

ความคิดเห็นที่ 60   รวมไปถึงมีเรือใบด้วยเช่นกัน.. จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:48:20

ความคิดเห็นที่ 61   และเมื่อถึงเวลาทาง Dive Leader ก็จะพานักดำน้ำทั้งหลายกลับขึ้นเรืออีกครั้งหนึ่ง จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:48:48

ความคิดเห็นที่ 62   อาทิตย์อัสดง ณ เกาะสี่ อย่างที่บอกไว้มาซักครู่ครับ.. ว่าเกาะสี่เองเป็นเกาะที่มีพื้นที่พอสมควร จึงมีจุดให้เราสามารถ Trekking ไปชมพระอาทิตย์ตกได้ครับ แต่อาจจะต้องเตือนคนที่อยากจะไปซักเล็กน้อยนะครับ ว่าทางเดินไปต้องปีนเขาพอสมควร ขึ้นเขา ลงเขาใช้เวลาเดินไปราวๆ ครึ่งชั่วโมงครับ และ หากไปชมพระอาทิตย์ตก รอชม Twilight ขากลับอาจจะลำบากพอดูเลยครับ ยังงัยควรที่จะเตรียมไฟฉายไปด้วยนะครับ ตอนแรกผมก็ไปคนเดียวเพราะเพื่อนๆ แต่ละคนแอบเหนื่อยกับการเที่ยวมาทั้งวันผมเลยเดินไปเรื่อยๆเปื่อยๆ พร้อมกับคิดในใจว่า... ตรูมาถูกทางหรือเปล่าว่ะ แถมลืมเอาไฟฉายมาอีก ตอนกลับจะทำไงหล่ะเนี่ย... เดินๆไปรองเท้าที่ใส่ไปก็เริ่มขาด... ตรูจะรอดมั๊ยเนี่ย แต่สุดท้ายก็มาถึงจนได้ครับ บริเวณจุดชมวิวนั้นจะเป็นกองหินอยู่ที่มุมเกาะเลยครับ ซึ่งคงไม่ได้มี Landscape อะไรที่เป็นจุดเด่นเท่าไหร่ครับ แต่สำหรับผมไม่มีปัญหาเลยครับ เพราะสำหรับผมแล้ว แค่การได้เดินชมธรรมชาติ ได้อยู่กับตัวเอง แค่นั้นก็พอแล้วครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:50:15

ความคิดเห็นที่ 63   ที่จุดชมวิวจะมีจุดนึงที่สามารถปีนขึ้นไปได้ และสามารถมองมุมกว้างเห็นจนสุดปลายของเกาะได้ครับ ซึ่งก็สวยงามทีเดียวหล่ะครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:50:42

ความคิดเห็นที่ 64   ตอนแรกผมก็เริ่มสงสัยว่ามีแค่ผมคนเดียวหรือเปล่าที่มาดูพระอาทิตย์ตกที่นี่ แต่หลังจากนั่งเล่นไปได้ซักพักหนึ่ง.. ก็มีฝรั่งเดินมา 2 คู่ครับ อิอิ แล้วก็ตามด้วยเด็กๆกลุ่มนึงที่เดินมาแล้วก็ปีนๆ ลงไปที่กองหินแล้วก็หายไปไหนก็ไม่รู้ ซักพักคุณเพื่อนผมสองคนก็ตามมาสมทบ พร้อมกับบ่นว่า นึกว่าหลงทางซะแล้ว เกือบจะเดินกลับไปแล้ว โชคดีที่มีคุณพี่ทหารคนนึงเดินมาด้วยแล้วบอกว่าทางนี้แหละถูกแล้ว แต่ค่อนข้างน่าเสียดายไม่น้อย ที่ตอนแรกฟ้าค่อนข้างเปิด แต่พอใกล้เวลาที่พระอาทิตย์ตก กลับมาเมฆขึ้นที่ปลายขอบฟ้า และในที่สุดพระอาทิตย์ก็หนีผมไปแบบไม่บอกไม่กล่าว จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:51:10

ความคิดเห็นที่ 65   สุดท้ายเลยไม่ได้พระอาทิตย์ตก เลยจับเอาคุณเพื่อนทั้งสองมาถ่ายรูปแทนครับ อิอิ ถ่ายไปถ่ายมาอ้าวกำ คนอื่นเค้ากลับกันหมดแล้วซะงั้น... จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:51:34

ความคิดเห็นที่ 66   สำหรับอาหารเย็นที่เกาะสี่ ถ้าจะให้แนะนำนะครับ ไม่ควรสั่งอาหารที่เป็นอาหารประจำวันครับ ผมว่าเค้าทำรวมๆแล้วรสชาติมันไม่ได้อ่ะ... แถมให้น้อยด้วย แนะนำให้สั่งเป็นอาหารตามสั่งนอกเมนูดีกว่าครับ โดยที่อาหารที่เกาะสี่จะแพงกว่าเกาะแปดนิดหน่อยครับ และไม่อร่อยเท่า... จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:51:51

ความคิดเห็นที่ 67   กิจกรรมยามค่ำ ชมปูไก่ หลังจากกินกันอิ่มแล้วตอนประมาร 2 ทุ่มครึ่ง ที่เกาะสี่จะมีการจัดกิจกรรมโดยจะมีมัคคเทศน์ของเกาะพานักท่องเที่ยวไปชมปูไก่กันครับ ปูไก่ เป็นปูที่ร้องเจี๊ยบๆเหมือนลูกไก่.... เจร้ยยย ไม่ช่ายๆ มันบ่ได้ร้องน่อ.. เค้าว่ากันว่า เวลามันหายใจ จะมีลมผ่านรูที่กระดองมัน แล้วจะมีเสียงดัง เจี๊ยบๆ (ผมลองฟังแล้วก็ไม่รู้สึกเท่าไหร่ ) สงสัยจะหูไม่ดีเอง อิอิ ปูไก่นั้นตอนเด็กๆ จะโตในน้ำทะเลครับ แต่พอโตปุ๊บจะขึ้นมาอยู่บนบกแทนครับ โดยจะขุดรูอยู่แถว เลนครับ แล้วพอช่วงวางไข่ตัวเมียจะไปวางไข่ในทะเลครับ วนเวียนเป็นวัฎจักรประมาณนี้ครับ ปล. รูปนี้จากกล้องตาม่อนครับ แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 53 02:56:24 จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:52:12

ความคิดเห็นที่ 68   หลังจากดูปูไก่เสร็จพวกผมก็ไปนั่งเล่นอยู่ริมทะเลรับลมครับ... แม้จะไม่ใช่คืนเดือนมืด แต่ดาวจำนวนมากก็ออกมาอวดโฉมอยู่เต็มท้องฟ้าเลยครับ.... เป็นอีกหนึ่งความสุขที่ผมได้จากทริปนี้เลยครับกับการ นอนดูดาว แม้ว่าจะไม่รู้ว่าดาวไหนเป็นดาวไหนก็ตาม จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:52:41

ความคิดเห็นที่ 69   ก่อนนอนได้นัดคุณเพื่อนๆ ทั้งหลายว่าพรุ่งนี้จะขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ลานข้าหลวงกันครับ แต่ตอนนัดนี่ไม่มีใคร Confirm เลยครับว่าจะไป.. ซึ่งรวมของตัวผมเองด้วย เอาแค่ว่าตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตีห้าล่ะกันนะ อิอิ สำหรับวันที่สองบนสิมิลันก็หมดไปอีกแล้วครับ.... พรุ่งนี้ก็วันสุดท้ายแล้วซินะกับสิมิลัน... ทำไมชั้นยังไม่อยากกลับเลย... มันเป็นความรู้สึกที่เหมือนกันทุกครั้งเวลาไปเที่ยวที่ไหนซักที่แล้วมาถึงคืนสุดท้ายก่อนกลับเนี่ย... แต่ทำอย่างไรได้.. "The Show must go on" เราก็ทำได้แค่อยู่กับความเป็นจริงต่อไปก็เท่านั่นเอง... จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:53:35

ความคิดเห็นที่ 70   ลานข้าหลวง   กริ๊งงงงงงงงง..... กริ๊งงงงงงงง.... เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น... ผมตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืดมิด.... หันซ้าย หันขวา ทุกคนนิ่งเงียบหลับ... ตัวผมเอง ก็...นั่งนิ่ง.... นิ่งแบบว่าเฉยๆ เกือบ 5 นาที... ด้วยอารมณ์ที่ว่า... อยากขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นแต่ ง่วงเฟร้ยยยย... เกือบที่จะล้มตัวลงนอนเสียแล้ว... แต่สุดท้าย Angle ก้อชนะ Devil ในการดันตัวเองลุกขึ้นมาเพื่อจะเดินขึ้นไปยัง ลานข้าหลวง ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นของเกาะสี่แห่งนี้ สำหรับทางขึ้น... ไม่มีอะไรมากครับ แค่ ทางชันราว 60 องศา ต้องใช้มือดึงเชืองแล้วเอาเท้ายันเวลาขึ้นแค่นั้นเองครับ ดังนั้นใครร่างกายไม่พร้อมนะครับ ผมแนะนำว่าไม้ควรขึ้นนะครับ ถ้าเป็นไปได้รองเท้า ควรเป็นผ้าใบหรือ เท้าเปล่า น่าจะดีกว่า ส่วนผมมีแต่แตะคู่ใจกับพื้นที่ขาดไปครึ่งนึงแล้ว แต่สู่ตาย หลังสะพายเป้กล้องหนักราว 5 กิโล... โอวมายก๊อด... ชั้นขึ้นไปถึงยอดได้งัยฟ่ะเนี่ย จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:54:41

ความคิดเห็นที่ 71   ว้า  เสียดายที่นู๋ไม่ได้ไปทริปนี้ด้วยกับพี่เอ๋อ้อย   ไม่งั้นน๊า  นู๋จะคอยสะกิด  พี่ๆๆ ถ่ายรูปดวงตะวันเร็วเร้วเร็ว ..   น้องขอโทษค่า   ปล.มะกี้คอมดับไปล่ะ  รอให้ผ่อนคลายเลย นู๋สต้าดเข้ามาอีกทีค่ะพี่เอ๋อ้อยขา   แต่ถ้าดับไปอีกไว้เจอกันพรุ่งนี้นะคะ   จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:55:12

ความคิดเห็นที่ 72   รุ่งอรุณ ที่เกาะสี่ หลังจากขึ้นไปถึงชั้นก็นั่งรอพระอาทิตย์ที่จะขึ้นมาอวดโฉม... ในใจก็คิดว่า ชั้นโชคร้ายอีกแล้วงั้นเหรอ... ทำไมทริปนี้ไม่มีดวงกับพระอาทิตย์เลย ทั้งขึ้นทั้งตก... แต่ถึงแม้... พระอาทิตย์จะไม่ยอมอวดโฉม... แต่สีของท้องฟ้าที่ธรรมชาติบรรจงทอขึ้นมา ฟ้าจากสีแสด... มีสีฟ้าประกายขึ้นมา ผสมกลายเป็นสีม่วงคราม... มันช่างสวยอะไรอย่างนี้ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:56:07

ความคิดเห็นที่ 73   หลังจากเกือบจะถอดใจ สุดท้ายแล้วชั้นยังมีโชคอยู่บ้าง ที่พระอาทิตย์จู่ๆก็ทะลเมฆ โผล่มาให้ยลโฉม... แน่นอนพระอาทิตย์ขึ้นที่นี่ คงเทียบไม่ได้กับ...ห้วยน้ำดัง คงเทียบไม่ได้กับ...ภูชี้ฟ้า หรือเทียบไม่ได้กับสถานที่ดังๆที่อื่น แต่ทุกครั้งที่ได้มานั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นมันก็เหมือนทุกครั้งที่ทำให้ชีวิตมีความสุขอย่างเหลือล้นจริงๆ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:57:27

ความคิดเห็นที่ 74   อ่านู๋ลี่ อดทนไว้ๆ พี่รีวิวเกือบจบแล้วจ้า... ----------------------------------------------------------------------------- หลังจากพระอาทิตย์ขึ้นไปซักพักก็เริ่มมีนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ตามขึ้นมาครับ แต่ล่ะคนหน้าอย่างเหนื่อยเลย ก็ไม่แปลกครับ อิอิ พอแสงเริ่มทอลงมา... ทะเลสิมิลันก็กลับมาสวย สดใสอีกครั้งนึง พร้อมกับเรือ Scuba บางลำที่เริ่มทยอยออกพานักดำน้ำไปดำน้ำต่อครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:58:39

ความคิดเห็นที่ 75   หลังจากนั้นผมก็ลงมาที่พักเพื่อเก็บของและรอเวลาที่จะกลับขึ้นฝั่งครับ... โดยระหว่างนั้นผมเลยขึ้นไปเดินเล่นที่ส่วนของบ้านพักของ อช.ครับ... โดยบ้านพักที่เป็นห้องแอร์ จะเรียงรายอยู่บนเขาครับ... มีอยู่หลายห้องเลย แต่ว่าน่าเสียดายที่ปัจจุบัน ต้นไม้ค่อนข้างโตขึ้นมา..ทำให้มาบังวิวจนเกือบหมดครับ เหลือไม่กี่ห้องที่ยังพอเห็นวิวแบบนี้อยู่ครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 02:59:11

ความคิดเห็นที่ 76   จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 03:00:33

ความคิดเห็นที่ 77   จากนั้นผมก็ลงไปเดินเล่นริมโขดหินฝั่งบ้านพักที่หล่ะครับ... ฟ้าใสๆ น้ำสวยๆ เห็นแล้วต่อมความสุขมันพุ่งพล่านดีจริง อิอิ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 03:00:59

ความคิดเห็นที่ 78   วันนี้ผมมีเวลาเดินสำรวจเกาะถึงราวๆ บ่าย 3 โมงเลยครับกว่าที่ทางทัวร์จะเอาเรือ Speed Boat มารับพวกผม.. ช่วงบ่ายผมเลยเดินไปทางอีกด้านของหาด.. ซึ่งฝั่งนี้จะเป็นที่ประทับครับ..ซึ่งเค้าห้ามขึ้นไป แต่ขนาดไม่ขึ้นไป วิวที่เห็นจากด้านนี้ก็เรียกว่าสวยจับใจเลยครับ ยังคิดอยู่ว่าถ้าขึ้นไปได้จะเห็นวิวสวยขนาดไหนกัน จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 03:01:20

ความคิดเห็นที่ 79   นกชาปีไหน  สำหรับเกาะสี่มีมัสคอทอีกอย่างหนึ่งครับ คือเจ้านกชื่อแปลก นกชาปีไหนนั่นเองครับ ซึ่งปัจจุบันเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 เป็นนกในวงศ์เดียวกับนกพิราบ มีถิ่นกำเนิดมาจากชวาครับ... ถือเป็นนกที่หายากใกล้สูญพันธ์ แต่กลับพบเห็นได้ง่ายที่ มก.สิมิลัน โดยเฉพาะช่วงต้นฤดูการท่องเที่ยวอย่างนี้ครับ เข้าใจว่าช่วงคนมาเที่ยวเยอะๆมันคงบินไปเกาะอยู่ตามยอดไม่หน่ะครับ จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 03:01:51

ความคิดเห็นที่ 80   เมื่อเวลาใกล้เข้ามา ผมก็ยังสนุกสนานกับการเดินเล่นถ่ายรูปอยู่ริมหาด เลยถือโอกาสถ่ายรูป พาโนรามามาฝากทุกคนกันครับ.. จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 03:02:16

ความคิดเห็นที่ 81   และกิจกรรมสุดท้ายที่เราทำกับบนเกาะแห่งนี้ก่อนกลับครับ.. เป็รรีเควสของเพื่อนร่วมทริปสาวๆเลย ว่ามาทริปนี้เรายังไม่ถ่ายรูปกระโดดเลยครับ... เลยจัดไปอย่าได้เสีย... อิอิ และหลังจากการถ่ายรูปนี้ผมเริ่มรู้สึกว่า เลนส์ผมมีปัญหาคือ มันไม่โฟกัสครับ.. ซึ่งสุดท้ายส่งซ่อมไปเป็นที่เรียบร้อยล่ะครับ... จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 03:02:34

ความคิดเห็นที่ 82   สุดท้ายงานเลี้ยงย่อมมีเลิกราครับ... เรือ Speed Boat ของ Similan Pro Dive ก็มารับเราเพื่อที่จะกลับเข้าสู่ฝั่งกันครับ แม้ใจจะยังไม่อยากไป... แต่ทำอย่างไรได้ ทริปนี้ผมมีเวลาแต่เพียงเท่านี้จริงๆครับ สิมิลัน ที่ใครๆ บางคนอาจจะบ่นเรื่องการทำงานของ เจ้าหน้าที่อุทยาน สิมลัน ที่ใครๆ บางคนอาจะบ่นเรื่องอาหาร สิมิลัน ที่ใครๆ บางคนบ่นว่า ที่พักแพงจองยาก สิมิลัน ที่มครๆ บางคนอาจบอกว่าไม่มีอะไรเที่ยวแบบ One Day Trip ก็พอ แต่สิมิลันแห่งนี้ก็เป็นที่ยอมรับกับ ความสวย ความใส สีสัน ของทะเล ท้องฟ้า ที่ยากจะหาที่ใดมาทัดเทียม ไม่ว่าใครจะว่าดีว่าร้านอย่างไร สิมิลันได้เข้าไปอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวสุดโปรดของผมแล้วครับ และผมสัญญากับคตัวเองว่า ชั้นจะกลับมาเยือนที่แห่งนี้อีกแน่นอน จากคุณ : เอ๋อ้อย เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 03:02:54