ความคิดเห็นที่ 1   เชียงใหม่ มกราคม 52 จริงๆปีใหม่ที่แล้วกะจะอยู่บ้านสบายๆ แต่สุดท้ายคนที่มีหัวใจรักการเดินทางอย่างพวกเราก็ทนไม่ไหวต้องหาที่เที่ยวกันจนได้ จุดหมายปลายทางครั้งนี้ก็คือเมืองแห่งความหลังของพวกเรา “เชียงใหม่” ที่แรกที่ไปเที่ยวด้วยกัน ที่ๆไปด้วยกันบ่อยที่สุด ครั้งนี้ผมและเธอออกเดินทางคืนวันที่ 31 ธ.ค. 51 ด้วยรถไฟรวมถึงเป็นครั้งแรกที่ได้นั่งรถไฟชั้น 1 กัน สภาพภายในสะอาด กว้างขวาง แอร์เย็นฉ่ำ ประทับใจมากครับ จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:20:42

ความคิดเห็นที่ 2   ข้อดีที่สุดของการเดินทางโดยรถไฟก็คือความสบาย เราสามารถเปลี่ยนอิริยาบถได้ตามสะดวก เดินไปดูวิวก็ได้ เบื่อๆก็เดินไปหาของกินที่ตู้เสบียง จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:21:19

ความคิดเห็นที่ 3   มีข้อดีก็ต้องมีข้อเสีย ความตรงต่อเวลาคือข้อเสียที่สำคัญที่สุดของการเดินทางวิธีนี้ ครั้งนี้ก็เช่นกันรถไฟที่พวกเรานั่งมาต้องหยุดที่สถานีแม่ตานน้อยเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง ได้ความจากพนักงานประจำตู้เสียงว่าหัวรถจักรของขบวนก่อนหน้าเรากำลังไม่พอที่จะลากขบวนรถขึ้นเขาได้จึงขอยืมหัวรถจักรของขบวนเราลากข้ามไปก่อน เดี๋ยวค่อยเอามาคืน (อย่างนี้ก็มีด้วยแฮะ) เอ้า ไม่เป็นไร เราไม่รีบร้อนอยู่แล้ว ใช้เวลาว่างช่วงนั้นลงไปเดินเล่นถ่ายรูปบริเวณสถานีซะเลย รวมทั้งทานอาหารเช้าที่ตู้เสบียงด้วย จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:22:56

ความคิดเห็นที่ 4   เมื่อหัวรถจักรกลับมาก็พาเราแล่นผ่านสถานีขุนตาน มีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของมากมาย ทีแรกทริปนี้กะจะมานอนเต้นท์กันที่ขุนตานนี่แหละครับ แต่ด้วยเหตุขัดข้องบางประการทำให้ต้องเปลี่ยนโปรแกรมไปเชียงใหม่แทน จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:23:48

ความคิดเห็นที่ 5   มาถึงสถานีเชียงใหม่เกือบๆเที่ยง เรา Walk in เข้าพักกันที่โรงแรมเชียงใหม่ภูคำเพราะไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้า ซึ่งก็ยังมีห้องพักเหลืออย่างที่คาดไว้ เก็บข้าวของเสร็จก็ออกไปเดินเที่ยวรอบๆตัวเมืองเหมือนเคย เราลองเข้าไปเยี่ยมชมวัดหลายๆแห่งที่ไม่เคยเข้าไปดูบ้าง เช่น วัดโลกโมฬีในภาพด้านล่าง รอบๆอุโบสถมีเครื่องปั้นดินเผาเป็นรูป 12 นักษัตรเรียงรายอยู่ เดินชมไปเรื่อยๆทำให้เรายิ่งมั่นใจว่าแม้จะมาเชียงใหม่ซักกี่ครั้งก็มีอะไรให้ดูได้ไม่มีหมดจริงๆ จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:25:07

ความคิดเห็นที่ 6   นั่งรถไฟตามไปด้วยครับ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:25:51

ความคิดเห็นที่ 7   วันรุ่งขึ้น เราสองคนทำกิจกรรมประจำทริปทุกครั้งที่มาเชียงใหม่ นั่นก็คือไปสักการะพระธาตุประจำปีเกิดของเราทั้งคู่ พระพุทธสิหิงค์และพระธาตุดอยสุเทพ ถึงแม้องค์พระธาตุดอยสุเทพกำลังได้รับการบูรณะอยู่แต่พุทธศาสนิกชนก็ยังไปสักการะกันอย่างเนืองแน่น จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:25:59

ความคิดเห็นที่ 8   ยินดีครับ คุณม่วงมหากาฬ ฟิออฯ อิอิ จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:26:57

ความคิดเห็นที่ 9   วันต่อมาพวกเราตื่นแต่เช้าไปขึ้นรถเชียงใหม่ – ฮอด หน้าประตูช้างเผือก เพื่อไปเหมารถสองแถวที่จอมทองขึ้นดอยอินทนนท์ ลุงคนขับพาเราเที่ยวด้วยโปรแกรมมาตรฐาน น้ำตกวชิรธาร น้ำตกแม่กลาง ตลาดชาวเขา ก่อนพาเราไปส่งที่จุดกางเต้นท์ของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ในภาพคือบรรยากาศที่น้ำตกวชิรธารครับ จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:27:34

ความคิดเห็นที่ 10   จากบริเวณเต้นท์ของเรามองเห็นน้ำตกสิริภูมิและต้นนางพญาเสือโคร่งออกดอกอยู่ไกลๆ แต่คราวนี้เราคงไม่มีเวลาไปเดินรำลึกความหลังเมื่อ 7 ปีก่อน เพราะกว่าจะกางเต้นท์เสร็จก็เย็นมากแล้ว อากาศคืนนั้นหนาวใช้ได้เลยทีเดียว เรารีบเข้านอนเพราะนัดลุงคนขับให้มารับแต่เช้ามืดเพื่อจะขึ้นไปชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น จุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นของดอยหลวงอยู่ก่อนถึงยอดดอยเล็กน้อย มีร้านค้าขายเครื่องดื่มและอาหารร้อนๆพร้อมทั้งก่อไฟไว้ให้นักท่องเที่ยวได้คลายหนาว จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:28:32

ความคิดเห็นที่ 11   จนถึงเวลา 6 โมงกว่าๆแสงอาทิตย์ก็ส่องผ่านกลุ่มเมฆออกมาให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมกัน โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าทิวทัศน์บริเวณจุดชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นของดอยอินทนนท์ค่อนข้างธรรมดาเมื่อเทียบกับที่อื่น แต่มาแล้วยังไงผมกับแฟนก็ย่อมไม่พลาดที่จะมารอชม จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:29:05

ความคิดเห็นที่ 12   นักท่องเที่ยวต้องยืนเรียงรายกันตามแนวรั้วกั้นแบบนี้ พอสว่างรถก็เริ่มแน่น วุ่นวายพอสมควร ที่แย่ก็คือบางคันยังอุตส่าห์โชว์พลังเครื่องเสียง(ที่ไม่ได้เรื่อง เสียงแตกพร่า อู้อี้)ทำลายบรรยากาศในการชมธรรมชาติเป็นอย่างยิ่ง จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:29:57

ความคิดเห็นที่ 13   จากนั้นก็ขึ้นไปบนยอดดอย เพื่อชมทิวทัศน์รอบๆ โดยเฉพาะบริเวณเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติอ่างกาหลวงซึ่งเป็นป่าดิบเขา มีมุมให้ถ่าย Portrait เยอะมาก อากาศก็เย็นสบาย จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:30:39

ความคิดเห็นที่ 14   เสร็จแล้วเราก็ลงไปสักการะพระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:31:15

ความคิดเห็นที่ 15   เราสามารถมองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างได้จากเส้นทางเดินรอบๆองค์พระธาตุ หลายๆคนมาที่นี่แล้วคงเข้าใจคำเปรียบเปรยของคนโบราณว่า “สูงเทียมเมฆ” มันเป็นยังไง จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:31:50

ความคิดเห็นที่ 16   ระหว่างทางกลับผ่านดงนางพญาเสือโคร่ง ซึ่งวันนี้แดดสวยฟ้าใสขับให้ดอกมีสีชมพูเข้มขึ้นสวยงามกว่าเมื่อวาน ซึ่งมีแต่เมฆเต็มท้องฟ้า จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:32:41

ความคิดเห็นที่ 17   แน่นอนครับเราก็ต้องถ่ายภาพคู่กับซากุระเมืองไทยไว้เป็นที่ระลึก ก่อนที่แฟนผมจะได้ไปชมซากุระของแท้เป็นเวลา 3 ปี แล้วจะตามไปดูด้วยกันนะ จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:35:40

ความคิดเห็นที่ 18   ดอกนางพญาเสือโคร่งจะคล้ายคลึงกับซากุระทางแถบ Okinawa มากกว่า ซึ่งกลีบดอกจะเล็กและมีสีออกชมพู ต่างจากพันธุ์ Somei Yoshino ที่เราเห็นกันในรีวิวท่องเที่ยวญี่ปุ่นบ่อยๆ เมื่อลงจากดอยอินทนนท์แล้วเราก็รีบไปซื้อของฝากที่กาดหลวงก่อนจะกลับบ้านด้วยสายการบินนกแอร์ ปิดทริปแรกของปีที่แล้วด้วยความประทับใจ จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:36:25

ความคิดเห็นที่ 19   เกาะช้าง เมษายน 2552 ช่วงสงกรานต์พวกเราได้หยุดงานทั้งหมด 9 วัน จึงตัดสินใจไปพักผ่อนสบายๆที่ทะเลใกล้ๆ โดยหารู้ไม่ว่ามันจะกลายเป็นการเดินทางที่หฤโหดที่สุดตั้งแต่เราไปเที่ยวกันมา เช้าวันที่ 17 เมษายน เรารีบไปที่สถานีขนส่งหมอชิต เพื่อหาซื้อตั๋วรถทัวร์ไปจังหวัดตราด ซึ่งเราก็ได้ตั๋วของบริษัท”ธนกวีขนส่ง”รอบ 6 โมงเช้ามา รถออกตามเวลาปกติแต่พอจ่ายเงินขึ้นทางด่วนหน้าหมอชิต คนขับก็จอดข้างทางแล้วลงไปดูอะไรบางอย่าง (ทำไมไม่สังหรณ์ใจตั้งแต่ตอนนั้นนะ) จากนั้นรถก็วิ่งไปแบบช้าๆเรื่อยๆ ผมนั่งหลับไปจนตื่นมาประมาณ 7 โมงกว่า รถกำลังวิ่งอยู่บนมอเตอร์เวย์ซึ่งจริงๆมันน่าจะไปได้ไกลกว่านั้นแล้ว แฟนบอกขำๆว่ามันจอดตั้งหลายทั้งรวมทั้งเข้าไปวนในสนามบินสุวรรณภูมิมาด้วย นึกว่าเดี๋ยวนี้มีวนไปรับฝรั่งถึงแอร์พอร์ต ชั่วโมงนึงผ่านไปทีนี้เราเริ่มไม่ขำกันแล้วครับรถวิ่งไปจอดไปทุก 10 นาที ทุกครั้งที่จอดเด็กรถและคนขับก็จะเอาน้ำลงไปราดเครื่องยนต์เพื่อระบายความร้อน 9:30 น.เราเพิ่งมาถึงแยกบ้านบึง คนขับตัดสินใจเลี้ยวเข้าจุดพักรถในปั๊มแล้วแจ้งผู้โดยสารว่ารถไปไม่ไหวแล้ว เดี๋ยวรอถ่ายขึ้นรถของ บขส. เที่ยวต่อไป ผู้โดยสารทุกคนต่างก็เดินเซ็งกันลงมาจากรถ ผมเข้าไปถามคนขับว่า “พี่ ทำไมพี่ไม่เรียกรถใหม่หรือเปลี่ยนรถตั้งแต่รู้ว่ามันมีปัญหาล่ะ” “อ๋อ บริษัทนี้เป็นยังงี้แหละ ชอบให้รถมันพังคาทีนกันไปเลย”พี่คนขับตอบ พลางนั่งโซ้ยข้าวอย่างสบายอารมณ์ “คราวที่แล้วก็เจอแบบนี้ พังทุกครั้งที่ขึ้นเลย” ผู้โดยสารอีกคนบอกข้อมูลเพิ่มเติมมา เราก็นั่งเซ็งกันไป จนรถของบขส.มา เราได้ขึ้นรถกันประมาณ 11:30 รถก็วิ่งไปเรื่อยๆ แต่ทำไมมันร้อนจังฟะ ร้อนเหมือนเตาอบ แฟนผมแทบจะเป็นลมอยู่แล้ว หันไปรอบๆฝรั่งก็นั่งเหงื่อแตกกันเป็นแถว ประมาณ 14:30 รถก็มาจอดสนิทที่ประมาณ 20 กิโลถึงตัวเมืองตราด “เกียร์พังครับ รอรถสองแถวมาถ่ายคน” เด็กรถขึ้นมาเดินบอก ผมกับแฟนมองหน้ากันแล้วนึกปลง อะไรมันจะซวยขนาดนั้นวะเนี่ย เราขึ้นรถสองแถวเพื่อไปท่าเรือเฟอร์รี่ (จ่ายตังค์ค่าสองแถวเพิ่มด้วยนะครับ) กว่าจะได้ขึ้นเรือก็ 4 โมงเย็นแล้ว จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:37:55

ความคิดเห็นที่ 20   ข้ามเรือมาขึ้นสองแถวไปที่พัก เราจองที่พักไว้ที่ Barali Beach Resort & Spa กว่าจะถึงที่พักก็เกือบๆ 6 โมงเย็น เป็นการเดินทางที่ทรหดอะไรอย่างนี้ 12 ชั่วโมงเต็มกับการเดินทาง กรุงเทพ - เกาะช้าง ยังดีที่เป็นช่วงกลางฤดูร้อนพระอาทิตย์ตกดินช้ากว่าช่วงอื่นๆทำให้วันนั้นเราสองคนยังมีโอกาสได้ออกมาเดินชมทะเลที่หาดคลองพร้าวบ้าง จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:38:56

ความคิดเห็นที่ 21   คืนนั้นพวกเราหลับกันเป็นตายเพราะความเหนื่อยอ่อนจากการเดินทาง ตื่นเช้ามารับประทานอาหารช้ากว่าปกติ จากนั้นก็ออกไปเดินเล่นริมทะเล ลมแรงทำให้ไม่รู้สึกร้อนมากนัก จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:39:21

ความคิดเห็นที่ 22   ช่วงที่เราไปเป็นช่วงปลายวันหยุด(สำหรับเรา)แล้ว แต่ปีที่แล้วมีเหตุการณ์ประท้วงของกลุ่มผู้ชุมนุมทำให้นักท่องเที่ยวช่วงสุดสัปดาห์นี้ค่อนข้างน้อย ยิ่งช่วงกลางวันร้อนอย่างนี้มองไปทางไหนก็ไม่มีคนเลย มีแต่ทะเลกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:40:13

ความคิดเห็นที่ 23   ยามเย็นอาทิตย์อัสดงคือเวลาที่เรอสองคนรอคอย เพราะนี่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพทิวทัศน์ ทริปนี้พิเศษยิ่งขึ้นไปอีกเพราะแฟนผมถอยกล้องตัวใหม่ออกมา ต่อไปนี้ไปเที่ยวไหนเราก็จะมีกล้อง 2 ตัว 30D ของผมและ 1000D ของเธอไม่ต้องแย่งกันถ่ายอีกแล้ว ภาพนี้จาก 1000D ฝีมือแฟนผมครับ จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:40:58

ความคิดเห็นที่ 24   ส่วนภาพนี้จาก 30D ของผม ไปๆมาๆก็นึกขึ้นมาได้ว่ามีขาตั้งอันเดียวนี่หว่าต้องแย่งกันใช้อยู่ดี อิอิ จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:41:46

ความคิดเห็นที่ 25   แฟนผมเป็นรักสุนัขมากๆ ไปที่ไหนถ้าเจอหมาต้องเข้าไปเล่นตลอด ตอนนี้มีกล้องแล้วพอเจอหมาก็ถ่ายหมา ถ่ายมากกว่าถ่ายผมอีก แหะๆ ส่วนภาพนี้ชื่อ”หมาเหงายามเช้าที่เกาะช้าง” เช้าวันรุ่งขึ้นคราวนี้เราไม่ตื่นสายอีกแล้วแต่ตื่นมารับอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าของเกาะใหญ่แห่งนี้บ้าง จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:42:59

ความคิดเห็นที่ 26   เราใช้เวลาทั้งวันพักผ่อน นั่งคุยกันบ้าง ถ่ายภาพภายในรีสอร์ตบ้าง รวมทั้งไปใช้สิทธินวดคอฟรี 15 นาทีที่ Spa ฤดูร้อนเป็นช่วงที่น้ำลงกลางวันทำให้เรามองเห็นชายหาดได้กว้างไกล ที่พักหลายๆแห่งทำชิงช้าไว้ให้แขกมานั่งเล่นรับลมชมวิว จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:43:52

ความคิดเห็นที่ 27   ตกเย็นก็ออกไปถ่ายภาพกันอีกครั้ง คราวนี้ขอแบบนุ่มๆบ้าง จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:44:47

ความคิดเห็นที่ 28   เช้าวันสุดท้ายเราออกไปเดินเล่นสั่งลาเกาะช้างกัน มุมนี้เล็งไว้ตั้งแต่วันแรกแล้วแต่มีฝรั่งนั่งจองตลอด เพิ่งจะมีว่างก่อนกลับนี่แหละ นั่งเล่นกันจนถึงเวลากลับ จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:46:04

ความคิดเห็นที่ 29   ข้ามไปได้ไงขอย้อนอดีตกลับไปคืนสุดท้ายก่อนนะครับ อาหารค่ำวันนั้นเรากินซีฟู้ดกันที่ร้านภายในที่พัก บรรยากาศดี รสชาติเยี่ยม ราคาไม่ถึงกับแพงมาก ที่สำคัญปูสดมากกกครับแฟนผมยังเพ้อถึงปูที่นั่นจนถึงทุกวันนี้ จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:48:10

ความคิดเห็นที่ 30   ลืมเล่าว่าพอมาถึงที่พักวันแรก ผมตัดสินใจโทรไปจองตั๋วเครื่องบินของ Bangkok Airways สำหรับขากลับทันทีไม่อยากให้แฟนเหนื่อยอีกแล้ว เห็นสภาพเธอนอนเป็นเนื้อแดดเดียวบนรถบขส.ที่แอร์เสียแล้วสงสารมากๆ ยังไงขากลับขอสบายๆหน่อยเสียตังค์เพิ่มก็ไม่เป็นไร รถตู้ของสนามบินตราดมารับเราที่รีสอร์ตก่อนจะพาเราไปขึ้นเครื่อง ATR-72 กลับบ้านอย่างปลอดภัย ปิดท้ายการพักผ่อนบนเกาะช้างอย่างสวยงาม(ไม่นับขามาอันแสนทรหดนะ) จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:49:01

ความคิดเห็นที่ 31   พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ – เมืองโบราณ – บางปู พฤษภาคม 2552 “อะไรนะ ไม่รู้จักเมืองโบราณเหรอ” ผมถามเธอด้วยความสงสัย เมื่อแฟนผมบอกว่าไม่รู้ว่ามีสถานที่นี้อยู่ “โอ๊ย เค้าเที่ยวกันมาเป็นสิบปีแล้ว เดี๋ยวพาไป” ผมบอกเธอ หลังจากได้แรงบันดาลใจจากหนังสือ”น่องโป่ง” เราสองคนจึงจัด 1 day trip นี้ขึ้นมา ถึงบอกว่าจะพาไปแต่จริงๆแล้วเธอขับ”คุณเขียว”รถคู่ใจมารับผมตั้งแต่เช้ามืดวันที่ 1 พฤษภาคม เราออกจากบ้านที่ปทุมธานีขึ้นทางด่วนไปจนถึงพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ เมื่อถึงเราก็เดินชมบริเวณโดยรอบ แค่ดูก็ทึ่งในความพยายามของคุณเล็ก วิริยะพันธ์ ผู้สร้าง ทีมงานสถาปนิกที่ออกแบบ รวมทั้งช่างท้องถิ่นจากหลายๆที่ที่ช่วยกันเนรมิตสิ่งก่อสร้างแบบไม่สมมาตรนี้ได้อย่างอัศจรรย์ จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:50:09

ความคิดเห็นที่ 32   ภายในแบ่งเป็น 3 ส่วน สววรค์, โลกมนุษย์ และนรก ส่วนที่พวกเราชอบที่สุดก็คือโลกมนุษย์ที่ประดับประดาด้วยกระจกสีสวยงาม ใครที่ไปลองถ่ายภาพ Portrait ข้างในดูนะครับ เหมือนถ่ายในโบสถ์ที่ยุโรปเลย จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:51:10

ความคิดเห็นที่ 33   บริเวณสวรรค์หรือภายในตัวช้างที่ต้องขึ้นบันไดตามขาช้างไป สวยงาม อลังการ แต่ของจริงจะมืดกว่านี้หน่อยนะครับ จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:52:13

ความคิดเห็นที่ 34   จากนั้นเราก็ตรงไปที่จุดหมายหลักสำหรับวันนี้ “เมืองโบราณ” จากความคิดและความรักในศิลปะของคุณเล็ก วิริยะพันธ์อีกเช่นกัน ครั้งสุดท้ายที่ผมมาเมืองโบราณก็นานมากแล้ว จำอะไรแทบไม่ได้ เราสองคนใช้บริการของรถบริการภายในเมืองโบราณ จริงๆแล้วตอนแรกกะจะขับรถเข้าไปชมแต่พอเจอราคาแล้วถึงกับถอยเป็นไม่เป็นกระบวน จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:52:57

ความคิดเห็นที่ 35   ไฮไลท์ของที่นี่ก็ต้องเป็น พระที่นั่งสรรเพชญปราสาท ที่จำลองพระที่นั่งหลักของพระนครศรีอยุธยาขึ้นมาจากซากปรักหักพังและหลักฐานในพงศาวดาร จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:53:37

ความคิดเห็นที่ 36   จากนั้นเราก็ได้ชมสถานที่จำลองต่างๆซึ่งมีทั้งขนาดเท่าจริงและย่อส่วน รวมทั้งโบราณสถานที่รื้อถอนมาจากสถานที่จริงจากทุกภาคของประเทศไทย จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:54:31

ความคิดเห็นที่ 37   นอกจากนี้ยังมีส่วนรังสรรค์ ซึ่งเป็นงานจากการสร้างสรรค์ของศิลปิน เช่น ศาลาอรหันต์ ในภาพ จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:55:14

ความคิดเห็นที่ 38   วันนั้นอากาศร้อนมากๆ เราต้องนั่งพักก่อนเดินขึ้นปราสาทเขาพระวิหารจำลอง อีกหนึ่ง the must ของเมืองโบราณ ยิ่งช่วงนั้นข่าวฮึ่มฮั่มกันของทหารไทยกับกัมพูชาที่บริเวณปราสาทเขาพระวิหารของจริงกำลังดังด้วยยิ่งต้องขึ้นไปดูให้ได้ เจ้าหน้าที่บอกว่าปราสาทจำลองนี้ย่อส่วนมา 1 ใน 10 ของปราสาทจริงรวมทั้งความสูงที่ต้องเดินขึ้นไปด้วย จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:55:52

ความคิดเห็นที่ 39   สุดท้ายเราเที่ยวชมจนครบรอบ ปิดท้ายด้วยพระบรมธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช ก่อนจะอำลาเมืองโบราณไปพร้อมกับความรู้อีกหลายๆอย่างที่เพิ่มเข้ามาในหัว จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:56:32

ความคิดเห็นที่ 40   จุดหมายต่อไปของเราคือ”สถานตากอากาศบางปู” จริงๆแล้วอยากให้แฟนแต่งตัวแบบย้อนยุคหน่อย เวลาถ่ายภาพจะได้ดูคลาสสิคนิดๆแต่เธอไม่ยอม แหะๆ ที่เราดั้นด้นกันมาถึงที่นี่ก็เพราะอยากชมนกนางนวล ถึงแม้ว่าเวลาที่เหมาะสมในการดูนกนางนวลที่นี่จะเป็นฤดูหนาวเพราะนกจะหนีหนาวมาจากประเทศทางเหนือ แต่กลางหน้าร้อนอย่างนี้ก็ยังพอมีให้ชมครับ จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:57:02

ความคิดเห็นที่ 41   ชมนก ให้อาหารนกกันเต็มอิ่มแล้ว ก็ได้เวลาให้อาหารตัวเองบ้าง วันนี้เราไปกันที่ร้านระเบียงทะเล ซอยบางปู 72 ยามเย็นอย่างนี้นั่งทานอาหารริมทะเล รับลม ชมวิว พวกเรามีความสุขมากๆ ลูกค้าท่านอื่นๆต่างก็ลุกจากโต๊ะตัวเองมาถ่ายรูปทั้งทะเลและทั้งร้านอาหารไว้เป็นที่ระลึก เราสองคนก็เช่นกัน จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:57:57

ความคิดเห็นที่ 42   นอกจากอาหารปากรสชาติใช้ได้แล้วที่นี่ยังมีอาหารตาอย่างวิวพระอาทิตย์ตกดินให้ชมอีกด้วย ซึ่งผมก็ไม่พลาดอยู่แล้วที่เก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก เราสองคนทานอาหารจนอิ่มแล้วเดินทางกลับบ้าน วันนี้เป็นอีกวันที่ได้ทั้งความรู้และความสุขจริงๆ จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:58:40

ความคิดเห็นที่ 43   คงต้องขอจบภาคแรกไว้เท่านี้ก่อนเพราะภาพเยอะเดี๋ยวจะโหลดช้า จะพยายามมาต่อภาคถัดไปให้เร็วที่สุดนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชมครับ จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 18:59:20

ความคิดเห็นที่ 44   ขอบคุณมากครับ เข้ามาคิดถึงเกาะช้างซะหน่อย ไม่ได้ไปมาหลายปีแล้ว >__< จากคุณ : o_taro_cmu เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 20:06:48

ความคิดเห็นที่ 45   ไปเที่ยวมาเยอะเลยนะครับ ภาพสวยๆ หลายรูปเลยครับ จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 20:10:41

ความคิดเห็นที่ 46   ขอบคุณมากครับ รูปสวยๆทั้งนั้นเลย ถ้าไม่นับเชียงใหม่ ที่เหลือผมไม่เคยไปเลยอะครับ ^^'' จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 20:45:14

ความคิดเห็นที่ 47   เข้ามาเที่ยวด้วยครับ    ภาพก็สวย  คนก็สวย จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 53 20:49:42

ความคิดเห็นที่ 48   มีนางแบบด้วย ทำให้กระทู้สดชื่นเลยค่ะ จากคุณ : ยูโด เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 08:54:30

ความคิดเห็นที่ 49   ขอบคุณสำหรับรีวิวพาเที่ยวหลายๆที่เลยนะครับ จากคุณ : tataweb เขียนเมื่อ : 8 ก.พ. 53 22:32:07

ความคิดเห็นที่ 50   สวยมากครับ  ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 53 20:07:36

ความคิดเห็นที่ 52   ดูเพลินเหมือนตัวเองได้ไปเที่ยวด้วยเลยครับ จากคุณ : ขาวไม่จั๊วะ เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 13:18:52

ความคิดเห็นที่ 53   เพลินจัง  ชอบ ชอบ  ขอบคุณที่นำภาพสวย ๆ มาให้ชมนะคะ จากคุณ : PumPui (Pump-up) เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 53 12:40:49