 |
ความคิดเห็นที่ 35 |
|
ดิฉันโดนแอบอ้างว่าเป็นหนี้บัตรเครดิต ธนาคารกสิกรไทย 30000 กว่าบาท จากโทรศัพท์ระบบอัตโนมัติ "ไม่มีเบอร์" เขามาเวลาประมาณ 13.00 น. ของวันเสาร์ที่ 6 มีนาคม 2553 แล้วให้กดเลข 9 อารามโมโห เพราะในชีวิตไม่เคยทำบัตรเครดิต เลยกดโทรไปต่อว่าเขา (ขาดสติไปหน่อย) คิดว่าเป็นสายมาจากธนาคารจริงๆ เขาถามว่าชื่ออะไร เลขบัตรประชาชนอะไร เลยขาดความยั้งคิดบอกเขาไป เขาบอกว่าจะไปครีย์ข้อมูลดู เขาทำทีกดครีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ (ได้ยินเสียง) แล้วบอกว่าดิฉันได้ทำบัตรเครดิตวันที่... (จำไม่ได้) ไปรูดบัตรที่ห้างเซนทรัล บางนา (ยังไม่เคยไปเลย) เป็นเงิน 10,000 กว่าบาท และที่แฟชั่นไอส์แลนด วันที่ 17 ก.พ. เป็นเงิน 20,000 กว่าบาท รวมเป็น 30,000 กว่าบาท (ตรงนี้สิน่าคิด...เพราะดิฉันพานักเรียนไปแข่งโครงงานที่ห้างแฟชั่นไอส์แลนด ในวันที่ 11-13 ก.พ. ที่ผ่านมา ในการแข่งขันมีการทำเอกสารใบสำคัญรับเงิน ที่ใช้เอกสารส่วนตัวของครูและของเด็ก ในการเข้าออกงานก็ต้องผ่านโดยระบบคอมพิวเตอร์...ข้อมูลต่างๆ ออกมาจากแหล่งนั้นหรือไม่....เพราะเป็นงานแข่งขันระบบ IT) เล่าถึงไอ้วายร้ายต่อ.... จากนั้นเขาก็บอกว่าทางคุณก็เสียหาย ทางธนาคารก็เสียหาย เราจะส่งเรื่องคุณไปที่เจ้าหน้าที่จากกองบังคับคดี และสืบสวนเศรษฐกิจพิเศษ อยู่สาธรเหนือ เขตบางรัก กรุงเทพ (ดิฉันถามที่อยู่ไว้) ...แล้ว..มัน(ขออนุญาตเปลี่ยนสรรพนามเรียก) ก็ทำเป็นโทรไม่ได้ยิน...คลื่นไม่ชัด พอดิฉันปิดเครื่อง สักครูไม่ถึง 1 นาที ก็มีบุคคลที่ 2 โทรเข้ามา เวลา 13.21 ขึ้นหมายเลข 022371199 โทรคุยกับดิฉันบอกว่าเป็นเจ้าหน้าในกองบังคับคดี คุยเรื่องเดิมสารพัด แล้วถามยอดเงินในบัญชี กับบัญชีอยู่ในธนาคารไหนบ้าง อารามโกรธ.แล้วขาดสติ ก็บอกไปว่ามีที่.... (มาคิดอีกทีตัวเราแย่ที่สุด โมโหจนขาดสติ..แต่ก็ไม่ถึงกับบอกเลขที่บัญชี ถ้ามันถามดิฉันไม่บอกแน่ๆ )...ดิฉันบอกจะแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาท มันสายที่ 2 เลยพยายามบอกให้ดิฉันต้องไปเปลี่ยนรหัส ด้านหลัง ATM เพราะตอนนี้ มีคนแอบอ้างกำลังนำข้อมูลของคุณไปทำธุรกรรมทางการเงิน ดิฉันบอกว่าจะต้องทำอย่างไร มันบอกว่าไปที่ตู้ ATM ไม่ต้องวางสายมือถือ(ทำเป็นใจดี) แล้วใส่บัตรเข้าไปในตู้ แล้วผมจะโอนสายให้กับเจ้าหน้าที่อีกคนให้บอกขั้นตอนกับคุณ...แล้วมันก็วางสาย...ดิฉันไปหาพี่บ้านข้างๆ บอกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วให้ช่วยหาเบอร์ธนาคารกสิกรไทย ที่เมืองโคราช ซึ่งเป็นเบอร์ของผู้จัดการธนาคาร แล้วได้คำตอบว่าหลอกลวงแน่นอน...แล้วไม่นาน สายที่ 3 เข้ามา (ขณะยังพูดกับผจก.ธนาคารยังไม่เสร็จเลย) ขึ้นโชว์เบอร์เดิม แล้วมีการบอกให้ดิฉันโทรไปถามบั๊ก 1133 ให้ถามเบอร์ที่โชว์อยู่ว่าเป็นของใคร..ดิฉันถามว่าโทรทำใม มันบอกว่าผมจะให้คุณยืนยันว่าผมไม่ใช่คนหลอกลวง...ดิฉันดูว่ามันจะเล่นไม้ไหน เลยโทรถาม 1133 ผลปรากฏว่า เบอร์ 022371199 เป็นของกองบังคับคดี และสืบสวนเศรษฐกิจพิเศษ อยู่สาธรเหนือ เขตบางรัก กรุงเทพ "จริง" (เอาล่ะสิ...จะขอบอกให้ว่า ...แก้งนี้มันเริ่มมาเหนือเมฆมากขึ้น) ดิฉันถามไปว่า แล้วคุณคือใคร มันบอกว่า เป็น พ.ต.ท.กิตติพงษ์ พันธ์ศรี หัวหน้างานกองบังคับคดี แล้วดิฉันถามว่า คนเมื่อกี้ที่โทรมาเป็นใคร มันบอกว่า...เป็นลูกน้องผม (ยศอะไรจำไม่ได้) ชื่อจักรกฤษ บัวรอด แล้วมันพยายามหว่านล้อมให้ดิฉันไปเปลี่ยนรหัสที่ตู้ ATM ให้ได้ ดิฉันบอกว่าตอนนี้ยังไม่ไป เพราะจะสอนหนังสือ (เสียเวลากับมัน เกือบ 20 นาที แย่มาก เด็กๆ รอติวก่อนสอบอยู่ที่ห้องเรียน) มันฟังแล้วโมโหมาก บอกว่าถ้าคุณไม่ไปเกิดอะไรขึ้นแล้วผมช่วยคุณไม่ได้น๊ะ(ว่าไปนั่น..) เพราะตอนนี้ชื่อคุณมีสมุดบัญชีอยู่ที่อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ (เคยไปแต่ อ.เมือง เชีงใหม่) และมีที่ อ....(จำไม่ได้) จ.ลำพูน คุณอาจโดนโยงใยไปยังคดีฟอกเงิน (ว่าไปอีก..แต่ฟังดูก็น่ากลัวเหมือนกัน..เป็นไปได้ไหม เพราะดันไปบอกชื่อ นามสกุล และเลขประจำตัวประชาชนกับมัน...โมโหจนขาดสติ) ดิฉันเลยปิดเครื่อง ปรึกษาผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย และโทรหาตำรวจ 191 ที่โคราช ทั้งสองคน บอกให้ดิฉันไปแจ้งความกับโรงพักในเขตพื้นที่ของอำเภอ พอไปแจ้งความตำรวจบอกว่ามากันหลายรายแล้วครับ ตำรวจรับแจ้ง บันทึกสิ่งต่างๆ ตามที่ดิฉันพิมพ์มานี่ล่ะค่ะ ก่อนไปแจ้งความดิฉัน search ชื่อของตำรวจทั้ง 2 คน เจอชื่อและนามสกุล(กิตติพงษ์ พันธ์ศรี) ไปตรงกับ เด็กวัยรุ่นระดับอุดมศึกษาที่เล่น facebook ส่วน(จักรกฤษ บุญรอด) เป็นเด็กนักเรียนที่ จังหวัดอ่างทอง จึงprint ข้อมูลไปให้คุณตำรวจด้วย บังเอิญท่านรองผู้กำกับมีเพื่อนอยู่ในกองบังคับคดี และสืบสวนเศรษฐกิจพิเศษ พอดี เลยบอกว่าเดี๋ยวผมจะโทรถามให้ วันรุ่งขึ้น ...ท่านก็โทรมาหาดิฉันตั้งแต่ 07.58 น. บอกดิฉันว่า..อาจารย์เบอร์โทร 022371199 เป็นของจริงเขาใช้โทรภายในสำนักงาน และกิตติพงษ์ พันธ์ศรี และ จักรกฤษ บุญรอด มีตัวตนอยู่จริง อยู่ในกองบังคับคดี แต่ยศไม่ถึง พ.ต.ท. เป็นเพียงตำรวจ...อะไรนี่ล่ะดิฉันจำไม่ได้ (เอาล่ะสิ...แก้งนี้มาเหนือเมฆอีกหนึ่งขั้น) แล้วท่านรองผู้กำกับยังบอกให้ดิฉันระวังในเรื่องการบอกข้อมูล ชื่อ นามสกุล และเลขประจำตัวประชาชนกับมัน เพราะมันอาจไปทำอะไรก็ได้ เพราะดูแล้วมันเก่งขึ้นเยอะ และอาจจะมีหลายฝ่ายมาพัวพันกับเรื่องนี้ (ฟังท่านแล้วอยากจะเขกหัวตัวเอง ..เพราะความขึ้นโมโหของตัวเองแท้ๆ...ทำให้ขาดสติยั้งคิด)...ตกลงดิฉันก็ยังอยากทราบว่า...ให้ข้อมูลมันไปจะเป็นอะไรไหมนี่... มีข้อน่าสังเกตในเรื่องนี้ 1. เบอร์โทรศัพท์ ตรงกับของ 1133 ดังนั้นแนะนำให้ถามกับบั๊กไม่ได้แล้วถ้าเกิดกรณีอย่างนี้ ควรจะโทรถามธนาคารโดยตรงดีกว่า (อย่างว่าล่ะ...พอเจอกับตัวเอง...ยังไม่รู้จะไว้ใจใครอีก) 2. ชื่อตำรวจที่มันอ้างตรงกับชื่อตำรวจในกองบังคับคดีพอดี (ตำรวจทั้ง 2 ท่าน กำลังถูกแอบอ้างหรือไม่) 3. ธนาคารออมสิน ที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ และธนาคารกรุงไทย จังหวัดลำพูน ที่มันแอบอ้าง (เป็นจังหวัดทางภาคเหนือ ที่มีคดีการโอนเงินไปยังผู้รับปลายทาง ...ดิฉันดูข่าวทางโทรทัศน์) ..แล้วตกลงทั้งสองธนาคารมีชื่อดิฉันไปเปิดบัญชีจริงหรือ?... ฟังมันแล้วก็กลุ้มเหมือนกันน๊ะนี่ สรุปสุดท้าย ...ไอ้พวกแก้งนี้ทำให้ดิฉันเสียความรู้สึกมาก เสียเวลา และก็เสียรู้ไปตรงไปบอกชื่อ นามสกุล เลขประชาชนมันนี่ล่ะ น่าจะย้อนถามมันดีกว่า ว่ามัน ให้รายละเอียดเราได้หรือเปล่า ขอให้คุณตำรวจกำจัดมันให้หมดไปจากแผ่นดินไทย...พวกมันแย่ที่สุด
จากคุณ |
:
ครูบ้านนอก
|
เขียนเมื่อ |
:
7 มี.ค. 53 20:28:22
A:125.26.93.98 X: TicketID:256585
|
|
|
|
 |