ความคิดเห็นที่ 1   ว่าแล้วเชียว....โดนจนได้ เฮ้อ...... จากคุณ : chartchy เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 09:42:51

ความคิดเห็นที่ 2   ดิฉันไม่เห็นว่า 7-11 จะทำให้ท้องถิ่นเสียหายอย่างไร เพราะเป็นธุรกิจคนไทยเหมือนกัน     คนตจว.ก็มีสิทธิได้รับความสะดวกสบาย ความเจริญเหมือนคนเมืองใหญ่ๆ   มันอยู่ที่ผู้คนที่มาท่องเที่ยวต่างหาก ชอบมาหาความสะดวกสบายจากท้องถิ่น   ในเมื่อมันมีดีมาน ย่อมต้องมีซัพพลายเป็นธรรมดาทุกๆเรื่อง   ..แค่คนเมืองใหญ่อย่าเอาวัฒนธรรมแปลกๆเข้ามาก็พอ จากคุณ : แม่เรือพ่วง เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 09:52:06

ความคิดเห็นที่ 3   รอดูก่อนครับมันอาจจะดีก็ได้ครับ แต่ก็ขอขอบคุณ จขกท.ที่นำข่าวมาบอกกันครับ จากคุณ : ชาวหลังสวน เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 09:54:28

ความคิดเห็นที่ 4   ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 10:08:10

ความคิดเห็นที่ 5   ในเรื่องนี้ คิดว่า...สิ่งที่ควรควบคุม ก็คือเรื่อง การออกแบบตกแต่งอาคารให้สอดคล้องกับพื้นที่ โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวนะ ส่วนเรื่องความสะดวก สบาย บางทีมันก็ต้องไปตามยุคสมัยหน่ะ โดยเฉพาะพื้นที่เปิด จากคุณ : RaTTeW เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 10:27:35

ความคิดเห็นที่ 6   ผมว่าไปว่าเจ้าของเขาไม่ได้นะครับ  เขาไม่เปิด  เดี๋ยวคนอื่นก็ต้องเปิดอยู่ดี  มีดีมานต์ก็ต้องมีซัพพลายครับ  รอดูไปก่อน  อาจจะดีก็ได้ครับ จากคุณ : LimitBreak เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 10:31:55

ความคิดเห็นที่ 7   น่าเสียดายจัง....คนเชียงคาน ทำกันเองเสียแล้ว...เห็นแก่เงินกันจริงๆ....ยอมแม้แต่ขายความเป็นอัตลักษณ์ ของเมือง นักท่องเที่ยว หลายคนพูดว่า "ชอบจังไม่มี เซเว่นอีเลเว่น........" ผมว่าคนพูดแบบนี้เห็นแก่ตัวนะ จริงอยู่ในความคิดผมเอง ผมก็ชอบอะไรที่มันเป็นธรรมชาติ คงเอกลักษณ์และวิถีของท้องถิ่น แต่ใครจะสามารถไปหยุดความเจริญหรือการเปลี่ยนแปลงต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงจากธรรมชาติ หรือจากฝีมือมนุษย์ วิถีของเชียงคานมันเปลี่ยนตั้งแต่มีคนทำเกสต์เฮ้าส์หรือรีสอร์ทแล้วครับ เมื่อมันเป็นแหล่งท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวเข้าไปตักตวงความงามจากมัน ก็มีนักธุรกิจเข้าไปตักตวงจากนักท่องเที่ยวที่เข้าไปหาความงามจากมันเหมือนกัน ถ้ารับไม่ได้ก็ต้องหยุดเที่ยว ถ้านักท่องเที่ยวหยุดเที่ยว 7-11 ไม่กล้าไปเปิดหรอกครับ หยุดเที่ยวเชียงคานกันนะครับเพื่อที่ 7-11 จะได้ไม่ไปเปิด(ผมประชดนะ) จากคุณ : loginlove เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 10:34:45

ความคิดเห็นที่ 8   7-11 ราคาก็ไม่ได้ถูกไปกว่าร้านทั้วไป เผลอๆๆ บางรายการแพงกว่าด้วยซ้ำเพียงแต่มันสะดวกตรงเปิด 24 ชั่วโมง ก็ดีออก แต่ถ้าเป็นห้างใหญ่สิครับ พวก โลตัส คาฟู บิกซี อันนี้ต่อกรกับร้านค้าทั้วไปโดยตรง จากคุณ : CDNew เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 10:51:42

ความคิดเห็นที่ 9   หุหุ เราเป็นคนติด 7-11 จังหวัดที่เราอยู่ ห้างหรูสุดคือ 7-11 บ่อยครั้งที่เราไปไหน เราต้องแวะ 7-11 ทุกครั้ง เคยโทรไปถาม ที่พักที่เราจะไปด้วยว่า แถวนั้นมี 7-11 มั๊ย เพราะบางทีเราจำเป็นต้องซื้อของ แต่ไม่อยากหิ้วไปไกล ๆ อยากหาซื้อที่แถวนั้น ถ้าหิวเวลาเดินทาง ทุกครั้งที่แวะ 7-11 อย่างน้อยไวไวต้มโคล้ง 1 กระป๋อง กดน้ำร้อนใส่ หรือซาลาเปา ข้าวกล่อง ไส้กรอก เราก็อิ่ม แต่เราเคยไปในท้องที่ที่ไม่มี 7-11 เราแวะซื้อไวไวกระป๋องจากร้านค้าโชว์ห่วยริมทาง เราไม่สามารถกินได้  เพราะแค่เปิดกระป๋องจะกดน้ำร้อนใส่ ก็เหม็นสาบมาก ๆ คิดว่าคงเก็บมานานเกินกว่า 2 ปี สำหรับเราคิดว่า  การที่จะมีร้านค้าสะดวกซื้อแบบทันสมัยขึ้นมาซักร้าน ก็เป็นตัวเลือกที่ดี สำหรับนักท่องเที่ยว และคนพื้นที่ อย่างน้อย ถ้านักท่องเที่ยวลืมกุงเกงใน เข้า 7-11 ก็ยังมีกุงเกงในกระดาษขาย แต่ร้านโชว์ห่วยของชาวบ้านไม่มีแน่นอน อิอิ อีกอย่าง  ก็เพิ่มอัตราการจ้างงานในพื้นที่นั้น ๆ ให้คนในพื้นที่มีงานทำ มุมดีดีก็มี เยอะแยะ...มองหลาย ๆ มุม เราคนนึงแหละ ซักวันนึงจะไปเชียงคาน ไม่ว่าจะมีอะไรต่อมิอะไรเพิ่มขึ้นมา... เราไม่เห็นว่ามี  7-11 แล้วจะทำให้ความเป็นอัตลักษณ์ของเชียงคานเปลี่ยนไปตรงไหน ปล1.ถ้าความคิดเห็นไม่ถูกใจใคร ก็ขออภัยด้วยเน้อ.... ปล2. แอบไม่ชอบ 7-11 ในปั๊มน้ำมัน เพราะไม่มีบาร์คาดี้ขาย .. แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 53 11:15:37 แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 53 11:00:21 จากคุณ : เต่าตัวลาย เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 10:58:00

ความคิดเห็นที่ 10   ก่อนอื่นเลย ต้องบอกว่า ทุกข้อความที่ผมพิมพ์ ผมก็อบมาแปะเลย จากเวปดังกล่าว ไม่ได้จะขัดแย้งกับใครทั้งสิ้น ... เอาข่าวมาแจ้งบอกให้ทราบกันครับ... จากคุณ : ตัวเรา เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 11:00:56

ความคิดเห็นที่ 11   เรื่องความเจริญ  ห้ามกันไม่ได้หรอกครับ มันขึ้นอยู่ที่ใจ  ผมว่าใจเราเป็นใหญ่ สำหรับผม พอเพียง ในใจเราก็พอแล้ว จากคุณ : ชายเอ ทุ่งรังสิต เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 11:30:52

ความคิดเห็นที่ 12   เรียบร้อยโรงเรียนซีพีสินะ จากคุณ : โอม บ้านดินไทย (omega_13) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 11:35:09

ความคิดเห็นที่ 13   เราไม่สามารถห้ามความเจริญเข้าสู่ท้องถิ่นได้ได้ ดังนั้นเราต้องช่วยกันทำให้ความเจริญผสมผสานอย่างลงตัวกับวิถีชีวิต และวัฒนธรรมท้องถิ่นให้ได้ครับ ข้างต้นเป็นนามธรรม แต่จะทำให้เป็นรูปธรรม ยังขบไม่แตกซักทีว่าจะทำกันอย่างไรดี จากคุณ : drinkmaster เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 11:39:10

ความคิดเห็นที่ 14   อย่างน้อยอยากให้ซีพีตกแต่งร้านด้านนอกให้เป็นรูปแบบที่กลมเกลืนกับภูมิทัศน์โดยรอบของเชียงคานครับ ให้เป็นเอกลักษณ์และเป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว แก้วิกฤติให้เป็นโอกาสครับ จากคุณ : โอม บ้านดินไทย (omega_13) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 11:47:35

ความคิดเห็นที่ 15   เห็นด้วยว่าการเปิดร้าน 7/11ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่อยู่ที่การออกแบบสถานที่ให้เข้ากับพื้นที่ต่างหาก ลองคิดดูถ้าเกิดว่าเราต้องอยู่ในเมืองที่บรรยากาศดี แต่ตื่นมาหาซื้อของไม่ค่อยได้ ลำบาก แต่มีคนมาบอกไม่ได้ นะ เรามีร้านสะดวกซื้อให้ไม่ได้ เพราะอยากให้คนมาเที่ยวบ้านคุณเยอะๆ ให้มันดูไม่ค่อยเจริญแบบนี้นั่นแหละ (คล้ายๆบางกรณี ของบางที่ ที่คนพื้นที่อยากได้ไฟฟ้าประปาแต่ไม่ได้ เพราะเหตุผลการท่องเที่ยว) ลองดูสถานที่ที่ต่างประเทศดูซิคะ ถึงมีร้าน 7/11 watson boot family mart หรืออะไรก็ตาม ในสถานที่สำคัญๆหรือโบราณ เขาก็จะปรับร้านให้เข้ากับสถานที่ ออกแบบทรงอาคารให้โบราณตาม หรือไม่ก็เปลี่ยนสีให้ไม่จัดนัก ไม่เอาของออกมาตั้งหน้าร้าน ของแบบนี้ไม่ได้อยู่ที่ตัว "ของ" แต่อยู่ที่ตัว "คน" มากกว่าคะ จากคุณ : CMV เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 11:50:52

ความคิดเห็นที่ 16   นักท่องเที่ยว...ไม่อยากให้มี ลองไปถามวัยรุ่นกับเด็กนักเรียนเชียงคานกันสิครับ คงรอคอยวันเปิดทำการกันอย่างใจจดใจจ่อ ผมว่าบางที สิ่งที่คนข้างนอกมอง กับสิ่งที่คนในพื้นที่มอง เรามองด้วยสายตาที่ต่างกัน คนเดินทาง นานวันจะผ่านไปสักที ก็อยากให้มีที่ดีๆไว้อิงแอบแนบใจในความสงบ แต่คนในท้องถิ่นนั้นล่ะครับ จะไม่ให้เขาได้ลืมตาอ้าปากเห็นความเป็นไปของบ้านเมืองเลยหรือไร ของแบบนี้ ทุกสิ่งอย่างมันอยู่ที่ว่าชาวบ้านก็ต้องรู้จักพัฒนาแบบยั่งยืน หวงแหนในวิถี ไม่ใช่มีไม่ได้ แต่มีขึ้นมาแล้วอย่าลืมวิถีดั้งเดิมของตนเอง ส่วนคนผ่านทางทั้งหลาย ก็ต้องมองอย่างเข้าใจในความเปลี่ยนแปลงที่มันเกิดขึ้น ไม่อยากประชดว่าหากนักท่องเที่ยวไม่ไปก็ไม่เกิด(ซึ่งมันก็มีส่วน) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คนเดินทาง หากเยื้องย่างไปในทางผ่าน ก็ควรจะไปอย่างเข้าใจในวิถี หาใช่การนำเอาความต้องการหลากหลายในเมืองใหญ่ไปเรียกร้องเอาจากเมืองเล็กๆเท่านั้น ...นั่นคงทำให้เชียงคานกลับกลายคล้ายเมืองปาย... โลกจะสวย อยู่ที่ใจมอง... หากใจหมอง...มองเท่าไหร่ก็ไม่สวย... จากคุณ : fat boy slim_golf เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 11:53:42

ความคิดเห็นที่ 17   ทำไม่ไม่คิดว่า..... " มีคนเชียงคาน(ไม่น้อย)  แล้วก็นักท่องเที่ยว(อีกจำนวนหนึ่ง) ต้องการร้านสะดวกซื้อด้วยเหมือนกัน ? " เพียงแต่การมาของร้านสะดวกซื้อนั้น ก็ควรจะดำเนินการแบบ " เข้าเมืองตาหลิ่ว  ก็หลิ่วตาตาม "   อย่างที่หลายๆ ท่าน ได้แสดงความเห็นไว้บ้างแล้ว ในข้างต้น จากคุณ : Draught Beer เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 12:00:03

ความคิดเห็นที่ 18   สวัสดีครับ ผมเห็นด้วยกับการมีร้านสะดวกซื้อครับ แต่ขอให้อาคารปรับเปลี่ยนให้เข้ากับวัฒนธรรมของเมืองนั้นๆ อย่าหวือหวา อย่าใช้ไฟฟ้าเยอะเกินควรครับ เพราะบางที่ไม่มีคู่แข่งมันก็เด่นพอดูแล้วครับ ตัวอย่าง แม็คโดนัลที่ราชดำเนิน ครับ จากคุณ : Gridsnuphon เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 12:00:49

ความคิดเห็นที่ 19   แต่ผมไม่ได้คิดว่า 7-11 จะปรับตัวมันเองให้เข้ากับเชียงคานนะครับ   สำหรับตัวผมเอง  7-11 เป็นตัววัดความเจริญ(ทางวัตถุ)อย่างหนึ่ง   แต่สำหรับมุมมองของนักท่องเที่ยวกับคนท้องถิ่นอยากเห็นความเจริญทางวัตถุจริงหรือเปล่า? ลองย้อนกลับไปดูที่ปายสักนิด   ปายตอนนี้คือสิ่งที่นักท่องเที่ยวอยากได้? ปายตอนนี้คือสิ่งที่คนท้องถิ่นอยากให้เป็น? ถ้าคำตอบคือใช่  เราต้องการเห็นปายเป็นเมืองท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบ  มีร้านสะดวกซื้อ  มีกาแฟที่คนเมืองอยากได้  มีรายการไม่ว่าเป็นคอนเสิร์ตต่าง ๆ เพื่อไปตักตวงสิ่งที่หาไม่ได้แล้วจากในเมือง  และคนท้องถิ่นก็ยินดีที่จะเห็นมันเป็นเช่นนั้น   มันก็คงถูกแล้วที่ปล่อยให้มันเป็นไปเช่นนั้น   หลาย ๆ ท่านก็พูดถูก  เมื่อมันมีอุปสงค์มันก็ต้องมีอุปทานไปรองรับ  แต่มันเป็นอุปสงค์ของใคร  ของนักท่องเที่ยวที่เข้าไปตักตวงความสุขเพียงไม่กี่ชั่วข้ามคืนหรือเปล่า?  แล้วมันใช่สิ่งที่คนท้องถิ่นต้องการจริง ๆ  หรือเป็นเพียงแค่ขนมหวานที่เราหยิบยื่นให้เด็ก ๆ โดยไม่คิดถึงสิ่งที่จะตามมา??? จากคุณ : The Petit garcon เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 12:23:03

ความคิดเห็นที่ 20   เคยรู้มั้ยว่า ..คนพื้นที่จริงๆ(มากกว่าครึ่ง) อยากให้บ้านของเขา เจริญเหมือนคนในเมือง.. จากคุณ : ดอกหญ้าบนเขา เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 12:23:55

ความคิดเห็นที่ 21   น่าเสียดายจัง....คนเชียงคาน ทำกันเองเสียแล้ว...เห็นแก่เงินกันจริงๆ....ยอมแม้แต่ขายความเป็นอัตลักษณ์ ของเมือง นักท่องเที่ยว หลายคนพูดว่า "ชอบจังไม่มี เซเว่นอีเลเว่น........" ^ ^ ^ ไม่ชอบคำพูดนี้เลยค่ะ 7-11 มันไม่ดีตรงไหนล่ะ ใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง  ทุกสิ่งมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาอยู่แล้วน่ะ(ยกเว้นรถไฟไทย) จากคุณ : นั่งอมยิ้มริมระเบียง เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 12:26:04

ความคิดเห็นที่ 22   คห.18 สมัยเราเรียน ตรงนั้นเป็นบาร์อเล็กซานดร้าจ้ะ ไม่มีแมคให้นั่งเล่นรอพ่อแม่เลย จากคุณ : บัวนลิน เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 12:31:27

ความคิดเห็นที่ 23   นักลงทุนที่คิดว่าตัวเองฮิปๆชิคๆ กับ นักท่องเที่ยวห่วยๆ น่ากลัวกว่าเซเว่นเยอะครับ :D จากคุณ : supererky เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 12:41:13

ความคิดเห็นที่ 24   เราต้องสตาฟเชียงคานให้มันล้าหลัง อย่าให้มีความสะดวกใดๆเกิดขึ้น เพราะเราจะได้แวะไปชื่นชมมัน ปีละ 3 วัน 5 วัน แต่คนที่อยู่ที่นั่น 365 วันละ ต้องเผชิญกับความห้ามมีความสะดวก ห้ามเจริญ ห้ามพัฒนาอะไรไปกว่านี้ เพราะเผื่อไว้สำหรับ 3 วันจากคนแดนไกล จากคุณ : Fly boy เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 12:45:55 A:112.142.50.101 X: TicketID:149505

ความคิดเห็นที่ 25   ก็ให้เปิดไป แต่ตกแต่งเป็น สไตล์เชียงคาน ให้เข้ากับท้องถิ่น ถ้าเปลี่ยนเป็นเลขไทย ได้ล่ะก็  สุดยอด เลย จากคุณ : ติ๋ม Angkor (ติ๋ม angkor) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 12:57:32

ความคิดเห็นที่ 26   ความเจริญมันหยุดไม่ได้จริงเหรอ ?? คิดว่าจริงเหมือนกันแต่... มันก็เกิดคำว่าแต่ขึ้นมาทุกที ผมเอง เคยตั้งกระทู้เกี่ยวกับ การเปลี่ยนแปลงที่ปายไว้ แล้วก็บอกว่า เรา ไม่เคยเรียนรู้ บทเรียนเดิมๆ ที่เปลี่ยนแค่สถานที่และเวลาเท่านั้นเอง ปายก็เป็นอีกตัวอย่าง แล้วต่อไปก็จะเป็นเชียงคาน เป็น น่าน เป็น .... ไปเรื่อยๆ ไม่รู้จับ หากเราไม่รู้จักเรียนรู้ประวัติศาสตร์สักที อย่าง 7-11 ก็เป็นจุดเริ่มต้นอีกอย่าง (สำหรับผม 7-11 เป็นตัววัดความเจริญได้ดีระดับหนึ่งเลย เพราะอำเภอที่ผมเคยอยู่ยังไม่มี 7-11 จนป่านนี้ หรืออีกอย่างก็แยกไฟแดง อำเภอผมก็ไม่มี !!! ^^) หลายความเห็นบอกว่า คนในพื้นที่ วัยรุ่น หรือเด็กๆ ต่างรอคอยและอยากให้มีกันทั้งนั้น จะไปห้ามไม่ให้เขาเจริญเลยหรือไง หากใครเคยไปเชียงคาน ลองคิดดูดีๆ ว่า ใครจะออกมาซื้อของกันดึกๆ เพราะเชียงคานเป็นเมืองเล็กๆ เงียบ ตกตอนเย็นกินข้าวเย็นเสร็จ ก็ไม่มีที่จะไปแล้ว เข้านอน ดูทีวีในบ้าน จะออกมาซื้ออะไรที่ 7-11 เหรอ ? ถ้าไปถามคนในพื้นที่ ก็อยากให้มีอยู่แล้ว ตอนผมอยู่ต่างจังหวัด ก็อยากให้บ้านตัวเองมีอะไรหรู ดูดีเป็นธรรมดา ถ้ามองในมุมนักท่องเที่ยว มีของให้กินตอนดึกๆ ไปต่างพื้นที่ คิดอะไรไม่ออกเดินเข้า 7-11 ก็ง่ายดี เหมือนจะเป็นสถานการณ์ win win แต่ไม่ได้หมายความว่านี่เป็นสิ่งที่ดี สิ่งที่ถูกต้อง ไม่ใช่ว่าคนในพื้นที่ต้องการ แล้วเป็นสิ่งที่ถูกต้องควรมี ตรรกะมันไม่ใช่อย่างนั้น ผมไม่รู้ว่า อะไรที่ทำให้เกิด 7-11 แต่อยากให้ช่วยกันคิดมากกว่าจริงๆ แล้ว เชียงคานต้องการอะไร ?? ต้องการร้านสะดวกซื้อตอนกลางคืนจริงๆ เพราะมีคนมากมายมีปัญหา หาของกินลำบากตอนกลางคืน ถ้าอย่างนั้น ทำไมไม่ทำ brand ท้องถิ่งเลยล่ะ ร้านสะดวกซื้อที่เปิด 24 ชม. โดยมีคนในชุมชนช่วยกัน ไม่จำเป็นต้องเป็น 7-11 ในขณะเดียวกัน เรื่องนี้ก็อยากให้เป็นประเด็นช่วยสอน นักท่องเที่ยว กันหน่อย อย่างเช่น ที่คุณเต่าตัวลายบอกว่า "หุหุ เราเป็นคนติด 7-11 จังหวัดที่เราอยู่ ห้างหรูสุดคือ 7-11 บ่อยครั้งที่เราไปไหน เราต้องแวะ 7-11 ทุกครั้ง เคยโทรไปถาม ที่พักที่เราจะไปด้วยว่า แถวนั้นมี 7-11 มั๊ย เพราะบางทีเราจำเป็นต้องซื้อของ แต่ไม่อยากหิ้วไปไกล ๆ อยากหาซื้อที่แถวนั้น ถ้าหิวเวลาเดินทาง ทุกครั้งที่แวะ 7-11 อย่างน้อยไวไวต้มโคล้ง 1 กระป๋อง กดน้ำร้อนใส่ หรือซาลาเปา ข้าวกล่อง ไส้กรอก เราก็อิ่ม แต่เราเคยไปในท้องที่ที่ไม่มี 7-11 เราแวะซื้อไวไวกระป๋องจากร้านค้าโชว์ห่วยริมทาง เราไม่สามารถกินได้  เพราะแค่เปิดกระป๋องจะกดน้ำร้อนใส่ ก็เหม็นสาบมาก ๆ คิดว่าคงเก็บมานานเกินกว่า 2 ปี" ผมคิดอย่างนี้นะครับ "นักท่องเที่ยว" ควรเรียนรู้ที่จะเจอประสบการณ์ใหม่ๆ และเรียนรู้ที่จะเดินทาง ด้วย การที่คุณบอกว่า ไปพักที่ไหนก็จะโทรถามว่า มี 7-11 หรือเปล่า ? ถ้าไม่มีล่ะ ? คุณจะทำไง ? คุณก็ต้องเตรียตัวเพิ่มอีกนิดนึง จัดของให้พร้อม ถ้าคิดว่าเป็นคนชอบหิวตอนกลางคืน ก็เตรียมสเบียงไปให้พร้อม ไม่ต้องไปรอ 7-11 ข้างหน้า หรือขับรถไปต่างจังหวัด แวะกินอาหารท้องถิ่น ร้านข้างทางหน่อยเป็นไง ข้าวราดแกงแต่ละที่ รสชาติไม่เหมือนกันนะ ไปเจออาหารแปลกๆ ที่ไม่เคยเห็น ก็เลือกร้านที่ดูสะอาดหน่อย มีลูกค้าให้เห็นพออุ่นใจ ผมว่ามันน่าสนุก กว่าการแวะเข้า 7-11 แล้วกินอาหารที่คุ้นเคยนะ แม้แต่น้ำเปล่าในร้านอาหารริมทาง บางร้านต้มใบเตยไปด้วย ก็ห้อมหอม ติดจมูก ติดใจได้เหมือนกันนะครับ ส่วนที่ยกตัวอย่างเรื่อง ลืมกางเกงใน มันก็จริงอย่างคุณว่า แต่ผมว่า รออีกนิด รอให้เช้าแล้วหาซื้อร้านทั่วไป ก็ไม่น่าจะเสียหายอะไรนะครับ ซ้ำยังจะเป็นการสอนเราให้รู้จักการเตรียมตัวให้พร้อม สอนให้รู้จักการ "รอ" ไม่ใช่เอะอะอะไรก็จะเอาเดี๋ยวนั้นตอนนั้นนะครับ ------------------------------------------------------------------- จากคุณ : pigletdora เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 12:58:19

ความคิดเห็นที่ 27   ถ้ามันห้ามไม่้หยุดฉุดไม่อยู่ ขออย่างได้ปะ ช่วยตบแต่้งร้านให้เป็นเชียงคาน ให้กลมกลืนกับเชียงคาน คือว่าให้เป็น 7-11 แบบเชียงคาน แล้วคนที่ต่อต้าน อย่าลืมละกัน ไปเที่ยวเชียงคาน จะซื้อขนมนมเนย น้ำแข็ง เครื่องดื่ม ของกินต่างๆ ก็อย่าเข้าผิดร้านนะ อย่าตามใจลูกหลานที่พาไปด้วยเพราะเด็กๆอาจจะยังไม่เขาใจ เราต้องใจแข็งไว้นะ ไปร้านนู้นนะลูก ไปช่วยซื้อที่ร้านคุณยายคนนั้นเถอะลูก    อย่าลืมกันนะจะ คนที่อยากเห็นเชียงคาน เป็น เชียงคาน จากคุณ : ชักธง1 เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 12:58:39

ความคิดเห็นที่ 28   มุมมองของคนแต่ละคนครับ แต่ทั้งหมดมันสามารถที่จะเติบโตไปด้วยกันได้ ธุรกิจก็ควรจะปรับปรุงรูปแบบให้เหมาะสมกับสถานที่ นักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ ก็ช่วยกันรักษา ไม่ใช่มาเยี่ยมเยือน 4-5 วัน แล้วทิ้งเศษซากอารยะธรรมเอาไว้ ให้กับคนท้องถิ่น บ้านเขาเมืองเขา เขาน่าจะตัดสินใจได้ และเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชุมชนเขาแหละครับ พวกเรานาน ๆ ไป ที ก็ได้แต่เฝ้าดูแหละครับ จากคุณ : นายภูเขา (Mr.banphot) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 13:01:43

ความคิดเห็นที่ 29   ขอยืนยันอีกครั้งว่าข้อความที่ผมเอามาโพสต์ ผมเอามาจากเวปเชียงคานครับ จากคุณ : ตัวเรา เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 13:10:26

ความคิดเห็นที่ 30   แน่นอนว่า ใครๆก็อยากให้มีความเจริญเข้ามา แต่ความเจริญ กับ การอนุรักษ์ มักจะสวนทางกันเสมอ ก็ขึ้นอยู่กับชุมชนแล้วหละ ว่าจะสามารถ กำหนดเส้นแบ่งกลางที่พอดี ระหว่างความเจริญ กับการอนุรักษ์ได้ดีหรือไม่ นักท่องเที่ยว คงไปช่วยกำหนดอะไรให้ไม่ได้ เขาต้องกำหนด ชะตากรรมของชุมชนเขาเอง แต่อย่าลืมว่า สิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยว ไปเที่ยวเชียงคาน เพราะอะไร? ถ้าความเจริญเข้ามามากมาย จนทำให้เสน่ห์จางหายไป เชียงคาน จะเหลือเสน่ห์อะไร? เชียงคาน จะต่างจากที่อื่นอย่างไร? ทำไม นักท่องเที่ยวถึงต้องเดินทางไกลๆไปถึงเชียงคาน ในเมื่อมันมีความเจริญ (และเสื่อมโทรม) ไม่ได้ต่างไปจาก ชานเมืองใหญ่ๆเท่าไหร่ ทุกอย่างมันมีสองด้าน ได้อย่างหนึ่ง ก็ต้องเสียไปอย่างหนึ่งเสมอ อยู่ที่คนเชียงคานแล้วหละ ว่า จะกำหนดอนาคตของเมืองที่ตนอยู่อย่างไร อยากได้อะไร และยอมเสียอะไร --==NICK==-- จากคุณ : NICK (||ic|<) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 13:16:00

ความคิดเห็นที่ 31   ไม่มีใครมาเปลี่ยนอะไรกันได้ตามอำเภอใจหรอกค่ะ นอกจากเจ้าตัวจะยินยอมพร้อมใจเอง ทุกๆ อย่างมันมีทั้งข้อดีข้อเสียกันอยู่แล้ว จะมี 7-11 หรือไม่ เราว่ามันเป็นปัจจัยที่เล็กมาก จากคุณ : Amecchi เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 13:29:37

ความคิดเห็นที่ 32   ...รักเชียงคาน...สามารถแสดงออกเพื่อเชียงคานได้หลายอย่างค่ะ... ...7 - 11  คงไม่ใช่ตัวแปรสำคัญที่จะทำให้เชียงคานเปลี่ยนไป...แต่...คน...ความคิด...และเงิน...ต่างหากที่สามารถเปลี่ยนเชียงคานได้... ...อีกทั้ง...ต้องขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของคนในหมู่บ้านและภาครัฐด้วย...ว่าเราจะรักษาเชียงคานให้คงมีวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบเดิมได้มากแค่ไหน... ...ปล. เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้... แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 53 13:47:01 จากคุณ : กานพลู...คนชอบเที่ยว เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 13:46:27

ความคิดเห็นที่ 33   จะไปในทิศทางไหน ทุกสิ่งทุกอย่าง มันขึ้นอยู่ที่ตัวของ เชียงคาน และ คนเชียงคานครับ.... จากคุณ : TonTon1977 เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 13:51:25

ความคิดเห็นที่ 34   คห 26 อ่านแล้วก็อยากจะบอกว่า คุณคิดแทนคนอื่น หรืออยากให้คนอื่นคิดเหมือนคุณทุกเรื่องไม่ได้หรอกครับ ตรรกะของคุณ ก็ใช้ได้กับคุณคนเดียว อย่าไปยึดมั่นถือมั่นว่าความคิดตัวเองถูกเลยครับ มีพี่คนหนึ่งบอกผมไว้ คุณเปลี่ยนคนไม่ได้ แต่คุณเลือกสังคมที่จะอยู่ได้ อย่าลืมว่าเชียงคานไม่ใช่ที่ของเรา แต่เป็นที่ของคนในพื้นที่ ที่เค้าอาศัยอยู่มาเป็นร้อยๆปี เค้าอยู่ ทุกวัน ทุกปี ส่วนพวกเรา ปีหนึ่งไปได้ถึงเดือนรึปล่าว เพราะฉะนั้นอย่าไปคิดแทนเค้า อย่าไปบอกว่าคนเชียงคานต้องการอะไร ห่วงได้ (ตักเตือน ชี้แนะ) แต่อย่าหวง(ห้าม) ถ้าเชียงคานไม่ใช่ที่ๆคุณพึงใจ ก็ไปที่อื่นซะ แค่นี้ก็จบ จากคุณ : supererky เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 14:22:21

ความคิดเห็นที่ 35   ถูกใจให้ไป สามกีบแก่คุณ pigletdora จากคุณ : The Petit garcon เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 14:24:32

ความคิดเห็นที่ 36   ส่วนอะไรที่ทำให้เกิด 7-11 คห ส่วนตัวนะ มันก็มาจากนักลงทุนห่วยๆที่พยายามทำให้เชียงคานเป็นเมืองเก๋ๆ กับนักท่องเที่ยวบางประเภทนี่แหละ ผมมอง 7-11 ไม่ต่างอะไรกับพวกร้านกิฟชอปเด๋อๆ ที่พักฮิปๆ หรอก เผลอๆ 7-11 มีประโยชน์กับคนในพื้นที่มากกว่าด้วยซ้ำ :D จากคุณ : supererky เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 14:26:08

ความคิดเห็นที่ 37   ผมคิดว่า ถ้าคนท้องถิ่นไม่ต้องการ 7-11+นักท่องเที่ยวไม่ต้องการ 7-11 จริงๆ เดี๋ยว 7-11 ก็ปิดกิจการไปเองหล่ะครับ เขาไม่ทู่ซี้ทนทำการค้า เปิดไฟ เปิดเครื่องปรับอากาศ เปิดตู้แช่ ตบยุงกินสายป่านตัวเองไปเรื่อยๆหรอกครับผม เหมือนแถวบ้านผม 7-11 พับเสื่อกลับไป 2 สาขาแล้วครับ จากเดิมที่แต่หัวยันท้ายถนนมี 7 แห่ง ตอนนี้เหลือ 5 แล้ว หุหุ จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 14:34:05

ความคิดเห็นที่ 38   ตอบคุณ supersky ครับที่อ่าน คห.ของผม ^^ เรื่องการคิดแทน ผมยอมรับว่าคิดแทน แต่ไม่ได้ตัดสินใจแทนครับ หากเราจะแสดงความเห็นในเรื่องใดๆ ก็ตาม ผมว่าเราก็จำเป็นที่จะต้องคิดแทนคนในเรื่องนั้นๆ นะครับ จึงจะสามารถออกความเห็นได้ ผมมองว่าเป็นการช่วยกันคิด ช่วยกันออกความเห็น ไม่ใช่จะบอกว่า "เป็นเรื่องคนในพื้นที่ เรามานั่งมองกันเถอะ" ผมเคยไปเชียงคานเมื่อประมาณ 5 ปีก่อน ไปเยี่ยมเพื่อนที่ทำงานที่นั่น ตอนเช้าชวนกันไปตักบาตร สมัยนั้นไม่มีการตักบาตรข้าวเหนียวแบบที่ผมเห็นจากรูปแถวๆ นี้นะครับ ก็ตักบาตรเหมือนที่อื่นๆ ตามปรกตินี่แหละ แต่วัดในเชียงคานมีเยอะมาก พระเดินไปตามถนนเป็นภาพที่สวยงามมาก หลังตักบาตรเสร็จ เพื่อนไปทำงาน ผมยืมจักรยานที่บ้านมันมาปั่น ก็เลยรู้ว่าปั่นแป๊ปเดียวทั่วอำเภอแล้ว เดินถนนเลียบแม่น้ำโขง เดินไปมีบางครอบครัว ลุงป้า ออกมานั่งโต๊ะหินอ่อน กินข้าวเช้า มีข้าวเหนียวน้ำพริก ตอนนั้นรู้สึกดีมากๆ นั่งกินข้าวไป มองแม่น้ำโขงไป โหย บรรยากาศดีสุดๆ ที่เล่ามาแค่อยากบอกว่า ผมรักเชียงคานครับ ผมจึงช่วยคิด เดี๋ยวขอปั่นกระทู้หน่อยล่ะกัน จากคุณ : pigletdora เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 15:07:24

ความคิดเห็นที่ 39   กรักๆๆๆ เข้ามาขำ คห 31 จากคุณ : MinnieMoChi เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 15:16:58

ความคิดเห็นที่ 40   ไม่มีคนซื้อก็ไม่มีคนขาย  แต่ผมว่าน่าจะขายดีนะ จากคุณ : toto02499 เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 15:17:15

ความคิดเห็นที่ 41   ต่อๆ ครับ ผมเป็นพวกขวางโลก แต่ก็ไม่สุดโต่งนะครับ ผมไม่ชอบคำพูดที่ว่า ความเจริญ มันหยุดไม่ได้ แล้วก็นั่งดูให้ความเจริญทำลาย ความดีงามไป แล้วเราจะแก่กันทำไมนะ ถ้าไม่รู้จะเอาประสบการณ์มาเป็นบทเรียน ความเจริญ ก็มีทั้งด้านดีและไม่ดี เราก็ควรจะเลือกด้านดีๆ ให้ได้สิ อย่าง 7-11 นี่ก็เป็นแค่ตัวอย่างเล็กๆ จริงๆ ผมอยากจะถามว่า ร้านสะดวกซื้อนั้นจำเป็นต้องมีในเชียงคานเหรอ? ร้านที่เปิด 24 ชม. มันจำเป็น มันดีจริงเหรอ ? เราก็รู้ (เพราะเราก็แก่พอควรแล้วใช่มั้ย) ว่าราคาของในร้านส่วนใหญ่จะแพง กว่าร้านค้าทั่วๆ ไปซะด้วยซ้ำ จริงๆ แล้ว เราต้องการ "อะไร" ที่ดูดี หรูหรา เก๋ ในเชียงคานหรือเปล่า ? (อันนี้ไม่รู้จะถามใครเหมือนกัน เด็กวัยรุ่น หรือ นักท่องเที่ยว) เพราะถ้าเราต้องการร้านสะดวกซื้อ เปิด 24 ชม. (โดยไม่ต้อแปะว่าเป็น 7-11) จริงๆ อย่างที่ผมเสนอไปใน reply แรกว่า คนในชุมชนก็ทำกันเองสิครับ มันท้าทายกว่าและน่าจะสนุกกว่ากันเยอะเลย แต่ที่แน่ๆ มันคงจะเหนื่อยกว่าในช่วงแรกๆ ไม่จำเป็นต้องเป็น 7-11 ก็ได้ แต่ย้อนไปคำถามเดิมอีกทีว่า จริงๆ จริ๊งๆ แล้ว เชียงคานต้องการจริงๆ เหรอ สมัยผมเด็กๆ นอนดึกยังไงในบ้านก็มีอะไรให้กิน (อันนี้หมายถึงที่ต่างจังหวัดนะครับ ในกทม หรือเมืองใหญ่ไม่รู้เป็นไง) กับข้าวตอนเย็นที่เหลือ มาม่าในตู้กับข้าว ปลากระป๋องก็มี ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องออกมา 7-11 ตอนดึกๆ เลย ในต่างจังหวัดยิ่งเป็นเชียงคาน ตะวันตกดิน 2 ทุ่ม ก็ไม่มีที่ให้ไปแล้ว จะต้องมีร้าน 24 ชม. ไว้ทำไมก็สุดที่จะคาดเดาได้ หรือไว้สำหรับ แก๊งค์ซิ่งมอเตอไซค์ (ไม่รู้เชียงคานมีหรือยัง) หรือไว้สำหรับคิดอะไรไม่ออกก็เข้า 7-11 รับรองมี อันนี้สำหรับคนในพื้นที่แล้ว คงไม่ใช่ จะไปซื้อถ่านไฟฉาย มันก็มีร้านที่ขายอยู่แล้ว จะไปซื้อหนังสือ ร้านหนังสือก็รู้กันอยู่มีไม่กี่ที่ จะซื้อบุหรี่ ร้านหัวมุมก็มีเป็นต้น มันจะเหมาะกับคนต่างถิ่นซะมากกว่า ผมก็บังอาจคิดแทนอย่างนี้แหละครับ จึงได้ลองเสนอความเห็นกันดู ผมไม่คิดว่า การคิดแทนของผมจะเป็นการทำร้ายทำลายใคร เพียงแต่ว่า ไม่อยากเป็นแค่คนนั่งอ่านแล้ว รำพึงรำพันว่า "เป็นเรื่องของเขา เราไม่เกี่ยว" ก็เท่านั้นเอง แม้รู้ว่าความคิดเล็กๆ ตรงนี้ คงไม่มีผลอะไรกับเชียงคาน แต่ก็ยังได้ทำ ได้เสียเวลานั่งคิดนั่งพิมพ์ตรงนี้ เพื่อให้ตัวเองรู้สึกว่า ได้ทำอะไรเพื่อที่ๆ ผมรักได้บ้าง จากคุณ : pigletdora เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 15:21:06

ความคิดเห็นที่ 42   สวัสดีคุณ pigletdora ครับ ยินดีมากที่ได้คุยกันครับ :D ส่วนตัวผมจะบอกว่ารักเชียงคานก็คงจะเวอร์เกินไป เพราะเพิ่งไปมาแค่สองครั้ง อาจจะเป็นเพียงแค่ หลงรักอยู่นิดๆครับ แต่ที่ผมหลงรัก ไม่ใช่บ้านเรือนครับ แต่เป็นผู้คนซะมากกว่า เพราะฉะนั้น ผมจะห่วงมากเวลาได้้เห็นรีวิวที่ไปถ่ายรูปคนเฒ่าคนแก่ในแบบที่ขาดความเกรงใจ จอดรถขวางหน้าบ้านคนอื่น ล่าสุดก็ เห็นรูปมอเตอร์ไซค์ราคาแพงเป็นฝูง ขับเข้าไปในเมือง จอดหน้าที่พักฮิปๆ โดยแทบไม่อยากจินตนาการว่า เสียงจะดังแค่ไหนตอนสตาร์ทรถพร้อมกัน คนแก่ๆ คงสะดุ้งเฮือกทีเดียว พิมพ์มากก็ชักจะกลายเป็นพร่ำเพ้อ ฮา ^^ ส่วนเรื่อง 7-11 ผมว่ามันก็แค่วัตถุ วิถีชาวบ้านจะเปลี่ยนไปมั๊ย ผมก็ไม่แน่ใจ...อาจจะต้องใช้เวลาพิสูจน์ ชาวบ้านจะได้ประโยชน์มั๊ย? ผมว่าอย่างน้อยที่สุดเด็กๆวัยรุ่นก็มีงานทำใกล้ๆบ้าน ชาวบ้านก็มีทางเลือก เผื่อต้องการสิ่งของเครื่องใช้ หรือ แม้กระทั่งยา ในยามดึก (อาจจะรวมจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ^^) ที่กระทบหนักๆคือนักท่องเที่ยวอย่างเรามากกว่า(ทางใจ) อาจจะเป็นเพราะไปคุยกับใครไม่ได้ว่า โอ้ เราได้มาใช้ชีวิตพอเพียงในเชียงคาน เมืองที่ไร้ซึ่งเซเว่นแล้วนะ (แต่ในมือกำลัง update FB ผ่าน BB 55+ แซวเล่นๆ) ยังยืนยันเหมือนเดิม ว่าเซเว่นเรื่องเล็ก นักลงทุน+นักท่องเที่ยวเรื่องใหญ่ครับ :D ปล. น่าอิจฉาคุณ pigletdora จังครับ ได้ไปเชียงคานตอน 5 ปีที่แล้ว ขนาดผมไปมาตอนต้นปี 52 ยังชอบในความสงบๆเลยครับ แต่ไปมาตอนปลายปีที่ผ่านมา แอบอึ้งนิดนึง :P จากคุณ : supererky เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 15:30:45

ความคิดเห็นที่ 43   ปล. แก๊งซิ่งก็พอเห็นบ้างแล้วนะครับ แต่วิ่งเส้นข้างนอก แต่ที่สำคัญ เชียงคานมีลานเบียร์และร้านเหล้าที่ปิดตีสามด้วยนะครับ น่ากลัวกว่า 7-11 เยอะ :D จากคุณ : supererky เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 15:33:21

ความคิดเห็นที่ 44   เข้ามาอ่านกระทู้ เห็น คคห.26 ผ่าน ๆ โตะใจหมดเลย ว่าเอ๊ะ ทำไมใครคิดแล้วพิมพ์เหมือนเรานะ อิอิ ที่แท้ คุณ คคห.26 ยกตัวอย่างของเรามานี่เอง.... ขอไม่ต่อยอดความคิดเห็นของคุณนะคะ เพราะในสังคมทุกที่...การคิดต่างเป็นเรื่องธรรมดาและถือปกติ แต่ขอพูดในมุมทั่ว ๆ ไป..ว่า ยังไงซะ ถ้าเราหยุดความเจริญไม่ได้ ก็ลองมองในมุมดีดี จะดีกว่า..จะได้สบายใจกันทุกฝ่ายเนอะ.. ปล. ร้อนจัง...อยากกินสเลอปี้...อิอิ *****เข้ามาแก้ไขข้อความ พิมพ์ตกหล่น***** แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 53 16:01:18 จากคุณ : เต่าตัวลาย เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 15:57:20

ความคิดเห็นที่ 45   ใจเราเองก็ไม่อยากให้มีนะ  เพราะกระทบกับร้านโชห่วยโดยตรงแน่ ๆ สิ่งที่หลายๆ  คนไปเชียงคาน ก็เพราะว่ายังเป็นตัวของตัวเอง ไม่เหมือนที่อื่น ไม่ใช่เหรอ ? จากคุณ : costarica เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 16:12:20

ความคิดเห็นที่ 46   จะกลายเป็นกระทู้ของผมกับ คุณ supererky ไปกันสองคนหรือเปล่าเนี่ย ^^ ไม่เป็นไรขอคุยต่ออีกดีกว่า ผมมองต่างนิดนึงตรงที่ว่า 7-11 เป็นเรื่องเล็ก ผมว่าจุดเล็กๆ นี่แหละที่จะเป็นจุดเริ่มต้นอะไรหลายๆ อย่าง หากว่ามันเริ่มต้นผิดๆ มันจะเป็นปัญหาที่ตามมาอีก (จริงๆ อาจจะมีอะไรที่ผิดก่อนหน้านี้ก็ได้อันนี้ไม่ทราบ) อาจจะกลับไปเริ่มที่ส่วนอื่นๆ ด้วย รีสอร์ท guest house จะจำกัดหรือควบคุมคุณภาพยังไง เพราะเพิ่งดูสารคดีเกี่ยวกับ เรื่องราวที่ปายมา นักธุรกิจนอกพื้นที่ไปสร้างรีสอร์ท คร่อมลำน้ำ ทำให้ชาวบ้านเกิดความเดือดร้อน หรือการที่มีร้านขายของเยอะขึ้นจนกลายเป็น ถนนข้าวสารบนดอย จะทำยังไงไม่ให้มันเกิดแบบนั้น นั่นเป็นปัญหาที่จะเกิดในอนาคต แต่อาจจะเริ่มจาก 7-11 ก่อน เราจะจัดการมันอย่างไร (พูดว่าเรา แต่ไม่รู้เราไหนนะเนี่ย ^^) จะทำไงจะไม่ให้กระทบกับร้านโชวห่วยของคนพื้นที่ จะจัดร้านแบบไหนไม่ให้มัน "โดด" จากสภาพแวดล้อม เรื่องร้านที่เราพูดถึง อย่างที่เสนอไว้ ทำแบบของคนพื้นที่ดีมั้ย ไม่ต้องมี 7 - 11 ก็ได้ เก๋ เท่ ดีออก และอีกอย่างผมมองว่าผลกระทบมันจะมีกับคนพื้นที่มากกว่านักท่องเที่ยวครับ นักท่องเที่ยวก็มีหลายแบบ บางคนก็อาจจะเป็นอย่างที่คุณ supererky ว่า ความผิวเผินแบบนั้น ก็คงไม่กระทบอะไรมาก แล้วนักท่องเที่ยวแบบนั้นก็ไปหาที่ใหม่ได้ (อำเภอที่ผมเคยอยู่ตอนทำงาน ก็ยังไม่มี 7-11 ครับ แถมอีกอย่างไม่มี 4 แยกไฟแดงซะด้วยซ้ำ) คนที่จะรับผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสุดท้าย ท้ายสุดก็คนในพื้นที่นั่นเองครับ จากคุณ : pigletdora เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 16:14:35

ความคิดเห็นที่ 47   ต่ออีกนิด (เป็นการเพิ่มยอดกระทู้ ^^) ที่ว่าเคยไปเมื่อ 5 ปีก่อนนั้น ทำให้เมื่อเร็วๆ นี้พอเห็นกระทู้รูปตักบาตรที่เชียงคาน ก็เลยตกใจว่าทำไมมันเปลี่ยนไปอย่างนั้น ยังไม่เคยได้กลับไปอีกนะครับ แต่ที่เห็นคือ มันเหมือนที่หลวงพระบางใช่มั้ยครับ (ใครช่วยเข้ามายืนยันที) ถ้าใช่จริงๆ ก็เกิดความรู้สึกทะ:-)ๆ ยังไงไม่รู้ ตอนนั้นที่ไปเยี่ยมเพื่อน ไอ้เพื่อนมันก็ไม่เคยออกมาตักบาตร แต่ผมเป็นคนชวนเอง ขับรถกันออกมา ก็จอดใกล้ๆ กับคุณป้า ที่ออกมาตักบาตรหน้าบ้าน ก็ตักบาตรกันธรรมดาๆ นี่แหละครับ ยืนใส่บาตรกันธรรมดาๆ ไม่ต้องนั่งคุกเข่าใส่บาตรแต่อย่างใด ก็ชวนให้สงสัยว่า ทำไมต้องทำตามเขา ? ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดี แตวัฒนธรรมเราไม่เหมือนเขา อย่างนี้ก็เหมือนลอกเลียนเขามา แต่ยังไงก็ตามหากผมเข้าใจอะไรผิด เช่นมันเป็นเรื่องที่ทำกันมานานแล้ว ก็ขอโทษไว้ก่อนนะครับ จากคุณ : pigletdora เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 16:22:12

ความคิดเห็นที่ 48   ขอยกความเห็นของผมในกระทู้ก่อนมาละกันนะครับ ผมว่ามีได้นะครับ แต่ควรทำรูปแบบอาคารให้เข้ากับสภาพเมือง เหมือนที่ย่านกิออน ของเกียวโต เมื่อก่อนเคยมีการคัดค้านเรื่องการตั้งร้านแมคโดนัล แต่สุดท้ายก็ต้องยอม แต่มีข้อแม้ว่าต้องทำรูปแบบอาคารให้เข้ากับสภาพตึกแถวๆนั้น แมคโดนัลที่อยู่ตรงนั้นเลยต้องการเป็นสีน้ำตาลเพื่อให้เข้ากับอาคารไม้ที่มีอยู่แต่เดิม ... ต่อให้มีเซเว่นในเชียงคานสักกี่ที่ ตราบใดที่คนเชียงคานยังมีรอยยิ้มและมิตรภาพที่ดีเหมือนที่เป็นอยู่ เซเว่นคงไม่สามารถเข้าไปเปลี่ยนเสน่ห์เหล่านี้ของคนเชียงคานได้หรอกครับ ผมว่ายังไงเชียงคานก็ยังเป็นเชียงคานแบบเดิมแหละครับ ถ้าไปเชียงคานผมอยากให้ทุกคนไปเรียนรู้วิถีชีวิตของคนที่นั่นมากกว่า น่าจะดีกว่าการมุ่งไปถ่ายรูป เสพย์วัตถุ(บ้านเก่าๆ ตึกเก่าๆ) นะครับ จากคุณ : นายน้ำปลากับนางสาวไข่ต้ม เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 16:25:43

ความคิดเห็นที่ 49   สวัสดีครับคุณเต่าตัวลาย จริงๆ อยากให้ต่อยอดความคิดนะครับ ถือว่าเป็นการแชร์ความคิดเห็นกันครับ เพราะไม่มีใครจะมองได้อย่างรอบด้าน เขาถึงว่า "สองหัวดีกว่าหัวเดียว" ไงล่ะครับ ถ้าอย่างที่ผมเสนอล่ะครับ ถ้าต้องการมีร้าน 24 ชม. จริงๆ ก็ทำกันเอง เท่ เก๋ ไม่เหมือนใครดี คุณ เต่าตัวลาย เห็นด้วยไหม จากคุณ : pigletdora เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 16:28:18

ความคิดเห็นที่ 50   ตักบาตรข้าวเหนียวนั่งหรือยืนตามสะดวกครับ ส่วนใหญ่ที่นั่งกันก็เพราะมีพระหลายวัดครับ คนเฒ่าคนแก่จะให้ยืนตลอดคงปวดน่องกันแน่ๆ :D แล้วก็ดั้งเดิมแท้ๆจะใส่แต่ข้าวเหนียวครับ กับข้าวตามเอาไปถวายที่วัด เป็นกุศโลบายให้คนเข้าวัดกันมากๆน่ะครับ ส่วนที่เหมือนทางลาวคงเป็นเพราะประเพณีใกล้กันมากกว่าครับ พื้นฐานเมืองเชียงคานก็อพยพกันมาจากลาวด้วยครับ พูดเหมือนรู้ดี แต่จำเค้ามาอีกทีคร้าบบบบ จากคุณ : supererky เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 16:33:08

ความคิดเห็นที่ 51   เรื่องร้าน 24 ชม ของคนในพื้นที่ เป็นไปได้ยากเหมือนกันครับ เพราะโดยพื้นฐาน คนท้องถิ่นแท้ๆ เค้าปิดร้านปิดบ้านกันเร็วครับ แล้วก็ร้านที่ปิดดึกก็อยู่รอบนอกครับ มีแล้วนะครับ แต่ปิดกัน 4-5 ทุ่ม แล้วก็ข้อดีข้อเดียวของ 7-11 คือ เปิด 24 ชม. ทุกวัน ไม่ว่าจะขายได้หรือไม่ได้ ไม่ว่าจะเทศกาล ไฮซีซั่น หรือ โลซีซั่น จุดนี้คือจุดแข็งที่ร้านของชาวบ้านสู้ยากครับ ที่สำคัญ ทุนต้องหนาพอสมควร แต่ก็ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้นะครับ อาจจะสำเร็จก็ได้ แค่มีคนเริ่มครับ :D ปล. กระทู้นี้สนุกดีครับ ปกติไม่เคยตอบกระทู้ยาวๆ แต่เรื่องเชียงคานนี่อดไม่ได้จริงๆ (คล้ายๆจะไถ่โทษ) จากคุณ : supererky เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 16:40:06

ความคิดเห็นที่ 52   คิดมากไปรึป่าว หลายคนเลย แค่ 7-11 เนี่ยอะนะ และอีกอย่าง มีแล้วมันจะทำให้เชียงคาน มันเสียไปเลยรึ ก้อคงไม่ปะ จากคุณ : Laganus เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 16:54:14

ความคิดเห็นที่ 53   ขอบคุณครับ คุณ Supererky ครับสำหรับข้อมูล แต่ก่อนพระมีเยอะก็จริงนะครับ แต่ว่าเดินถนนคนละสายกันเพราะฉะนั้นถ้าอยู่จุดเดียว ไม่มีพระเดินผ่านเยอะแน่นอน เว้นเฉพาะจุดที่เป็น 4 แยก ไม่รู้ว่าตอนนี้มีจุดรวมกันตักบาตรหรือเปล่า ทำให้มีพระเดินมาเยอะเป็นจุดเดียว ส่วนเรื่องยืนนานผมว่าให้ผู้เฒ่าผู้แก่ นั่งเก้าอี้ หรือยืนจะดีกว่านั่งพับขานะครับ เพราะนั่งพับขาทำให้ปวดข้อปวดเข่าครับ ^^ จากคุณ : pigletdora เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 17:13:42

ความคิดเห็นที่ 54   อ้อ อีกเรื่อง ร้าน 24 hr ทีคุณยกเรื่องเปิดได้ตลอดไม่ว่าจะ low หรือ high season ผมกลับมองว่านี่แหละเป็นจุดได้เปรียบของคนในพื้นที่ ถ้าจัดร้านมาสักร้าน เปิด 24 hr เฉพาะช่วง เช่น เปิดเฉพาะ ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เปิดเฉพาะช่วงวันหยุดที่จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามา ส่วนช่วงธรรมดาก็ปิดเวลาปรกติ ซึ่งการทำแบบนี้ ร้านอย่าง 7-11 ทำไม่ได้ครับ รู้สึกว่ากระทู้นี้สนุกดีเหมือนกันครับ ถือว่ามีคนช่วยกันคิดครับ จากคุณ : pigletdora เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 17:19:07

ความคิดเห็นที่ 55   คุณ laganus ที่ว่าคิดมากไปหรือเปล่า ? อืม... ก็อาจจะใช่นะครับ เชื่อไหมครับว่า เวลาผ่านไปเชียงคานหรือที่อื่นๆ ก็เปลี่ยนไป แล้วก็จะไม่มีใครรู้หรอกว่า มันเปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนไหน ? เพราะฉะนั้นเวลาผ่านไปอีก 5 ปี เชียงคานต้องเปลี่ยนไปแน่ และรับรองว่าไม่มีใครคิด หรือ พิสูจน์ได้หรอกครับ ว่าเชียงคาน "เริ่ม" เปลี่ยนไปเพราะอะไร เพราะจุดไหน ยิ่งพูดยิ่งงง แล้วเราจะมาคิดมากกันทำไมจริงไหม ? ผมคิดอย่างนี้ครับ ไม่ว่าเชียงคานหรือคน หรือ อะไรก็ตามจะเปลี่ยนไป มันก็มีเหตุปัจจัยมากมายหลายอย่าง ทั้งปัจจัยใหญ่ๆ ปัจจัยเล็กๆ มากมาย เราไม่มีทางจะป้องกันหรือเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้ หรือแม้กระทั่งมองเห็นปัจจัยเหล่านั้นทุกอย่างได้ แต่เมื่อเราเห็นปัจจัยบางอย่างที่อาจจะเป็นปัญหา เมื่อเราเห็นแล้ว แม้มันจะเป็นเรื่องเล็กๆ เราก็ควรพยายาม "คิด" ให้เต็มที่ ทำให้เต็มที่ มากกว่าที่จะปล่อยมันผ่านไปเฉยๆ แล้วบอกตัวเองว่า "ไม่เป็นไรหรอก เรื่องแค่นี้" หรือบอกตัวเอง "คิดไปก็เท่านั้น" แค่เราคิด เราไม่ได้เสียอะไรครับ จะเสียก็เสียเวลาบ้างก็เท่านั้นเอง คิดแล้ว ได้พูดออกมาแล้ว แต่ก็อย่าไปเครียดกับมันเท่านั้นเองครับ จากคุณ : pigletdora เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 17:27:37

ความคิดเห็นที่ 56   ตาม ความเห็น 54 และความเห็นก่อนๆนะครับ ถ้าชาวบ้านจะรวมกันเป็นสหกรณ์หรืออะไรก็แล้วแต่ เพื่อจะเปิดมินิมาร์ท ก็ไม่เกี่ยวกับ 7-11 ครับ ว่าถ้าชาวบ้านเค้ารวมตัวแล้วทำเอง 7-11 ก็ห้ามเปิดนะ มันเป็นเรื่องของการค้าเสรีครับ แล้ว.... อันนี้สำคัญ.... ชาวบ้านไม่อยากให้มีจริงๆหรือนักท่องเที่ยวไม่อยากให้มีจริงๆ ก็อย่าไปซื้อครับ คราวนี้ก็จะได้รู้ว่าชาวบ้านเค้าอยากให้มีหรือไม่ให้มี ผมเชื่อว่า.... ร้านที่ขายของไม่ได้ เปิดไม่ได้นานหรอกครับ แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 53 17:42:02 จากคุณ : loginlove เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 17:39:51

ความคิดเห็นที่ 57   คิดถึงตอนลืมเอาแปรงสีฟันมาจากบ้าน แล้วไม่มีที่ให้ซื้อสิ คิดถึง 7-11 มาจับจิตละตอนนั้น จากคุณ : หมาขี้เหงา เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 19:23:19

ความคิดเห็นที่ 58   คุณ หมาขี้เหงา ครับ อย่างที่บอกครับ 7-11 คงมีประโยชน์กับนักท่องเที่ยวแบบนี้แหละ แต่ก็อีกนั่นแหละที่บอกไปแล้วในความคิดเห็นที่ 26 รอตอนเช้าๆ ไปซื้อที่ร้านขายของชำเล็กๆ ในอำเภอก็ได้ ไม่ได้แปรงฟันคืนเดียว คงไม่ถึงกับนอนไม่หลับมั้งครับ บางครั้งการไปเที่ยว ก็สอนเราให้รอบคอบขึ้น บางครั้งการไปเที่ยวก็จะสอนให้เรา รู้จัก "รอ" ครับ จากคุณ : pigletdora เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 19:42:42

ความคิดเห็นที่ 59   ไม่ว่าบ้านใด เมืองใด เมื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวเปิด ขอย้ำ แหล่งท่องเที่ยวเปิด ย่อมมีนักท่องเที่ยวเข้าไปเยือน และในกลุ่มนั้นแบ่งได้หลากหลายระดับ เทวดาก็มี ยาจก คุณหนู ขาลุย นักศึกษา คนเดินดินกินข้างแกง       บุคคลเหล่านี้ย่อมมีความจำเป็นด้านพื้นฐานเดียวกัน คือต้องกินต้องใช้  ถามว่าร้านโชวห่วยตอบสนองนักท่องเที่ยวได้ครบถ้วนมั้ย  แต่ 7-11 นั้นกว่าจะเกิดได้ ต้องผ่านกระบวนการทางความคิดที่หลากหลาย ง่ายๆก็งานวิจัย  มาก่อน  และก็มีความยืดหยุ่นสูงกับสถานที่ที่จะเปิด  จึงตอบสนองนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี นี้ไม่รวมถึงนักเรียนนักศึกษา ประชาชนในพื้นที่อีก ขอให้ผู้เสนอความคิดนี้คำนึงถึงด้วยเป็นสำคัญ อย่าหลงตามคำพูดของใครก็ไม่รุ้ที่มองแคบๆ         ความเจริญได้แทรกซึมเข้าสู่ชนบทมากมายแล้วครับ ผมคนนึงที่เห็นและมองดูอยู่ ยอมรับความจริง ยอมรับความเปลี่ยนแปลง แล้วหาแนวทางประสานความเจริญที่เข้ามาสู่เชียงคานให้เข้าอัตลักษณ์ที่ถูกต้อง  ของเชียงคาน มิใช่อัตลักษณ์ของคนคนเดียว แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 53 21:11:22 แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 53 21:09:30 จากคุณ : CHIBA เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 21:07:59

ความคิดเห็นที่ 60   อยากทราบว่าคนในท้องถิ่นมีการทำประชาพิจารณ์ในเรื่องนี้กันหรือเปล่า คนเชียงคานช่วยตอบทีครับ ถ้าเป็นความต้องการของคนท้องถิ่นก็คงไม่มีใครห้ามได้ แต่ถ้าทำเพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว ก็คงน่าเสียใจ 7-11 ไม่ได้เป็นตัววัดความเจริญ แต่เป็นหายนะของเศรษฐกิจชุมชน 7-11 เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นของอะไรๆ อีกหลายอย่างที่จะตามเข้าไปทำลายบรรยากาศ และวิถีชีวิตแบบเดิมๆ ของชาวบ้าน ถ้าวันนี้ยอมให้มี 7-11 ได้แล้ว วันข้างหน้าก็ไม่รู้ว่าเชียงคานจะกลายสภาพไปเหมือนกับปายหรือเปล่า เงินก้อนโตๆ ใครล่ะจะไม่อยากได้ ฝากไว้แค่นี้ก่อนครับ จากคุณ : cwutc เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 21:20:58

ความคิดเห็นที่ 61   สวัสดีค่ะ คุณพิกเลต (ขอเรียกพิกเลตนะ น่ารักดี หมูสีชมพู อิอิ) ไหน ๆ ก็ชวนให้ต่อยอดความคิด ก็ขอซะหน่อย เอาเท่าที่นึกได้ในตอนนี้แล้วกัน.... อย่างที่บอกไปใน คคห.9 และคุณตอบ ใน คคห.26 โดยยกตัวอย่าง ข้อความของเรามานั้น สำหรับเรา...มองได้หลายมุม และหลายประเด็น ในการที่จะให้ชุมชนหันมาเปิดร้านสะดวกซื้อ 24 ชม เพื่อตอบสนองนักท่องเทียวให้ได้เต็มที่นั้นคงยาก บางอย่างสามารถพูดได้ง่าย ๆ แต่พอจะทำจริง ๆ ทำได้ยากมาก ยกตัวอย่างง่าย ๆ ของสด หรือของที่มีวันหมดอายุ ขนมปังต่าง ๆ ร้านค้าชาวบ้านคงทำได้ยาก ไหนจะค่าไฟตู้แช่ ซึ่งแพงมาก ๆ และปัจจัยอื่น ๆ อีกหลาย ๆ อย่าง ที่จะตามมา... เพราะร้านสะดวกซื้อใช่ว่าจะมีแต่กระดาษทิชชู หรือของแห้งที่เก็บได้นาน แต่ต้องมีของกิน ตู้แช่แข็งเพื่อเก็บของเหล่านั้น ซึ่งร้าน 7-11 เค้ามีระบบจัดการตรงนี้ ถ้าของไหนที่หมดอายุ หรือนาน ก็จะเปลี่ยนสินค้าออกไป และนั่นย่อมเป็นผลดีกับผู้บริโภคอย่างแน่นอน... กรณีที่เราไปที่ไหนแล้วโทรถามว่ามี 7-11 มั๊ย นั่นเพราะว่าบางครั้งเราไม่ได้นำรถไปเอง ก็จะโทรถาม เพราะสะดวกในการซื้อของตรงนั้นไม่ต้องหอบหิ้วไป เช่นกรณีที่เราไปเที่ยว มก.สิมิลัน ก่อนลงเรือเราก็โทรไปถามทาง และสภาพแวดล้อมแถวนั้น ว่ามีร้านค้าหรืออะไรมั๊ย เค้าก็บอกว่า มี 7-11 เราก็จะได้รู้ว่า ไม่ต้องหอบหิ้วของไปให้หนัก เพราะจะต้องนั่งเครื่องแล้วนั่งรถไปอีกไกล ซึ่งกรณีนี้ ถ้าตรงนั้นไม่มี 7-11 หรือร้านค้า เราก็จะได้เตรียมของไปให้ถูก ตรงนี้คือการเตรียมความพร้อมในการเดินทางของเรา เรื่องอาหารการกิน ร้านข้างทางในแต่ละท้องที่ นี่แหละของโปรดของเราเลยแหละ ไปเหนือ เจอลาบเมืองอร่อย ๆ เราก็แวะกินได้ รำแต้แต้ ไปทางใต้ เจอข้าวแกงใต้ริมทาง กระโจนใส่ในทันที น้ำดื่มเราก็กินข้างทางได้.... แต่บางครั้งทุกเส้นทาง ก็ไม่มีร้านท้องถิ่นให้เรากิน ยกตัวอย่าง ไปปัว จังหวัดน่าน สองข้างทาง มีแต่ลาบเนื้อ เราไม่กินเนื้อ ก็ได้อาศัยข้าวกล่องอีซี่โกลด์ จาก 7-11 ในปั๊ม ปตท ริมทาง วันนั้นเราเห็นน้อง ๆ แก๊งค์มอเตอร์ไซด์ ที่ขับรถเที่ยว นั่งกินม่าม่า ข้าวกลอ่ง ซาลาเปา กันอย่างเอร็ดอร่อย... บางครั้งวัฒนธรรมเก่า ๆ ก็อยู่ร่วมกันได้อย่างดีกับสิ่งใหม่ ๆ 7-11 ไม่ใช่ Hard rock cafe หรือว่า root66 นะ ที่จะทำให้วัฒนธรรมในท้องถิ่นเปลี่ยนไป ว่าแต่เอ่ยถึงผับสองแห่งอันนี้ เชยไปป่าวอ่ะ ปล1. พิมพ์ยาวมาก เอาเท่าที่นึกได้ตอนนี้นะ ถ้านึกได้อีกจะมาต่อยอดใหม่ ปล2.เค้าไม่มีเอี่ยวกับ ซีพี เน้อ ...อิอิ แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 53 21:49:41 จากคุณ : เต่าตัวลาย เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 21:32:36

ความคิดเห็นที่ 62   ผ่านมาอ่านครับ ไม่เคยไป แต่หากเกิดขึ้นจริงที่นี่คงเสียเสน่ห์ไปไม่น้อย จากคุณ : inint&anant เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 22:01:38

ความคิดเห็นที่ 63   คุณเต่าตัวลายตอบโดนใจ (คห 61) ผมชอบที่บอกว่า แต่ละคนก็มีการเตรียมพร้อมไม่เหมือนกัน อ่านแล้วเห็นภาพดีครับ ปล. Hardrock กับ Root66 คืออะไรหรอครับ ผมรู้จักแต่ Funky Villa ฮาๆๆๆๆ (แซวเล่นนะคร้าบ) จากคุณ : supererky เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 22:12:42

ความคิดเห็นที่ 64   ยินดีครับที่ คุณเต่าตัวลาย กลับมาช่วยกันคิดต่อ ^^ เพิ่มเติมนิดหน่อยครับ เรื่องการเตรียมตัวก่อนการเดินทาง ที่คุณเต่าตัวลายเล่ามา ผมเห็นด้วยครับ ในความเห็นก่อนผมเองเพียงแต่ถามกลับว่า ถ้าเรารู้ว่า เชียงคานไม่มี 7-11 จะทำไง ก็หมายถึงว่า เราก็ต้องเตรียมตัวมากขึ้น หรือเตรียมตัวอีกแบบเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นการจะมี 7-11 หรือไม่มี ไม่ควรเป็นปัจจัย สำหรับการเลือกที่จะไปเที่ยวของนักท่องเที่ยว เห็นด้วยไหมครับ ^^ ส่วนในเรื่องของอาหารการกิน ดีใจครับที่คุณเต่าตัวลาย เป็นนักกินเหมือนกัน ^^ แต่ก็ไม่ได้คิดถึงประเด็นที่คุณยกตัวอย่างมาเหมือนกัน (เรื่องคนไม่กินเนื้อ) นี่ไงครับ ผมถึงว่า ของอย่างนี้ต้องช่วยกันคิด คิดต่างแล้วพูดคุยกันมันถึงจะดี จริงไหมครับ แต่เรื่องของนักบิดมอเตอไซค์ ผมกลับมองว่า เพราะว่าปัจจุบันเรา "คิดไปล่วงหน้า" แล้วว่าร้าน 7-11 มันหาไม่ยาก ไปหากินเอาที่ไหนก็ได้มากกว่า พูดไปแล้วนึกถึง คุณลุง 500 ในคนค้นคน ที่แกดูจะเป็นนักเที่ยวที่เตรียมตัวอีกแบบนึงเลย ^^ เรื่องสุดท้ายเรื่องของร้านค้า ผมมองอย่างนี้ครับ เรื่องการจัดการอย่างที่คุณเต่าตัวลายบอกมา ไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ๆ แต่ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้ เรื่องอาหารสด ขนาดแม่ค้าในตลาดสดชาวบ้าน ก็ยังมีวิธีจัดการได้ ทำไมจะมาช่วยกันคิดช่วยกันทำ ในรูปแบบของร้านสะดวกซื้อไม่ได้ล่ะครับ เรื่องที่จะทำร้านแบบนี้ในชุมชนกันเอง ผมว่ามันท้าทายดีกว่า การไปทำสาขา 7-11 เยอะเลยนะครับผมว่า (เอ หรือว่าผมโรคจิตไปคนเดียว) จากคุณ : pigletdora เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 22:46:28

ความคิดเห็นที่ 65   กลับขึ้นไปอ่านมี ความเห็นอื่นๆ ที่อยากจะแชร์ด้วย คุณ CHIBA จริงๆ แล้ว อ่านข้อความของคุณทั้งหมดแล้วยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่า เห็นด้วยให้มี 7-11 หรือไม่เห็นด้วย (สงสัยผมคงเริ่มง่วงแล้ว) เอาแค่ประโยคนี้ก่อนก็แล้วกัน "ร้านค้าโชวห่วยตอบสนองนักท่องเที่ยวได้ครบถ้วนมั้ย" อันนี้คงตอบได้ง่ายๆ ว่าไม่มีทางครบถ้วนแน่นอน ก็อย่างที่คุณว่า คนที่ไปเที่ยวนั้นย่อมมีหลากหลาย คำถามที่สำคัญกว่า คือ จำเป็นไหมที่สถานที่ท่องเที่ยวต้องตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวทุกอย่าง ซึ่งถ้าถามอย่างนี้ ใครๆ ก็คงตอบได้ก็คือ ไม่จำเป็น แต่ที่ยากกว่านั้นก็คือ แล้วจุดพอดีมันอยู่ตรงไหน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ เมื่อเก็บกระเป๋าไปเที่ยวที่ไหนสักที่ คงต้องมีภาพวาดอยู่ในใจบางส่วนว่า ที่แห่งนั้นเป็นยังไง จะพบ จะเจอกับอะไรบ้าง ผมคิด (คิดเอาเองอีกแล้ว) ว่า "ส่วนใหญ่" ไม่ได้คาดหวัง ความสะดวก 24 ชม. จากเชียงคานครับ เพราะฉะนั้นในใจลึกๆ แล้วผมคิดว่า จะมีหรือไม่มี 7-11 ไม่ได้เปลี่ยนความคาดหวังของนักท่องเที่ยว "ส่วนใหญ่" แต่เชื่อไหมครับว่าถ้ามี 7-11 ขึ้นมาจริงๆ คนที่ไปเที่ยวส่วนนึงก็ต้องเข้าไป ด้วยความคุ้นเคย แต่ต้องแยกประเด็นว่า ไม่ได้หมายความว่าอยากให้มีนะครับ คือพอมีแล้ว มันก็เข้าเท่านั้นเอง ส่วนคนในพื้นที่นั้นต้องการหรือเปล่า ก็อย่างที่ตอบไปในหลายความเห็นแล้วว่า "คิดไม่ออก" ว่าความสะดวก 24 ชม. จะจำเป็นกับคนเชียงคานยังไง อำเภอเล็กๆ แหล่งเที่ยวกลางคืนไม่มี สองทุ่มสามทุ่มดูละครหลังข่าวจบก็นอนกันหมดแล้ว หรือเด็กๆ อ่านหนังสือสอบ ก็หาของกินในบ้านก็มีทั้งนั้น ตอนกลางวันจะซื้ออะไรก็มีร้านที่รู้จักอยู่แล้ว เพราะอย่างที่รู้กันว่า ของใน 7-11 ใช่ว่าจะถูกกว่าร้านทั่วไป จากคุณ : pigletdora เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 23:04:36

ความคิดเห็นที่ 66   หลายๆ ความคิดเห็น แลกเปลี่ยนกันอย่างสร้างสรรค์ดีมากครับ น่าให้กิ๊ฟมากมายครับ ผมถูกใจความคิดเห็นที่ 42 ของคุณ  supererky ครับ ตอบด้วยความกลางๆ ที่พยายามเข้าใจทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบัน ถึงไม่มีเซเว่น ถนนริมชายโขงก็เปลี่ยนไปมากมายครับ ที่หลัก ๆ และกระทบต่อคนท้องถิ่นละแวกนั้น ก็คือ - มีร้านค้าขายปิดดึกมากขึ้น และคนมาเที่ยวก็นอนดึกมาก จะเห็นว่า 4-5 ทุ่มยังเดินกันขวักไขว่ คุยเสียงดัง (ทั้งนักท่องเที่ยวและนักลงทุน-ไม่อยากเรียกเลยว่าเป็นต่างถิ่นที่รวมตัวแล้วทำตัวเป็นขาใหญ่กว่าชาวบ้าน) ซึ่งโดยปกติ คนท้องถิ่นปิดบ้านนอนตั้งแต่ 2 ทุ่มแล้วครับ แล้วตื่นแต่เช้าไปทำงาน ถ้าใครคิดจะไปนอนสงบๆ ตั้งแต่หัวค่ำเพื่อพักผ่อน ในช่วงปัจจุบันนะครับ ยากมาก เพราะเจอคนคุยกันเสียงดัง ดึกๆ ดื่นๆ หน้าบ้านคนอื่น ซ้ำร้ายบางทีหมาในบ้านก็เห่าอีก แถมด้วยเสียงมอเตอร์ไซด์ และอื่นๆ สารพัดครับ ไม่ต้องรอเซเว่น วิถีชีวิตชาวบ้านก็เดือดร้อนแล้วครับ มีแต่ร้านกิ๊ปเก๋ที่เปิดขายดึกๆ ดีใจได้ประโยชน์ ชาวบ้านมีแต่อดนอนครับ ตรงนี้ต่างหากที่ควรมารณรงค์และขอความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์มากกว่า เป็นอันดับแรกเลยครับ - เรื่องถังขยะที่ไม่พอกับจำนวนขยะ ทำให้ขยะเกลื่อนกลาด นี่ก็ต้องมาคุยกันมากขึ้นว่าจะทำอย่างไรครับ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งแรกๆ ที่น่าจะร่วมมือกัน ส่วนคนต่างถิ่น ท้องถิ่น นักท่องเที่ยว คนต่างชาติ ก็คนด้วยกัน อย่าแบ่งฝักแบ่งฝ่ายเลยครับ มองในสิ่งดี พูดกันดีๆ เถิดครับ เราอยู่กันไม่นานก็ล้มหายตายจากกันไปแล้ว สังคมพุทธน่าจะคุยกันดีๆ ครับ สังคมเราแตกแยกมาพอแล้วครับ คนที่เราไม่รู้จักไม่ใช่คนแปลกหน้าหรอกครับ แต่เขาเหล่านั้นเป็นเพื่อนที่ยังไม่ได้ทำความรู้จักกันต่างหากครับ ส่วนที่ส่งผลดีก็มีอยู่ครับ เพราะเป็นธรรดาที่เหรียญต้องมีสองด้าน เช่น คนค้าขายมีรายได้มากขึ้น เป็นต้น แต่ผมก็ขอวิงวอนนักท่องเที่ยวและผู้ทำธุรกิจนะครับว่ากลางวันนี่เชิญส่งเสียงกัน หรือทำกิจกรรมกันเต็มที่เลยครับ แต่สองสามทุ่มขึ้นไปผมขอความกรุณาลดความดังของเสียงและกิจกรรมดึกๆ ลงให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้นะครับ แล้วคุณจะประทับใจในเชียงคานครับ เรื่องความเจริญนี่ใครๆ ก็คงอยากเจริญ ขอเพียงแต่เรียนรู้แล้วปรับตัวให้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขดีกว่าครับ สิ่งสำคัญมากๆ ที่ทำให้เชียงคานน่าเที่ยว คงไม่ใช่วัตถุหรอกครับ แต่เป็นเพราะมิตรจิตมิตรใจของชาวบ้านที่เชียงคานต่างหากครับ ชาวบ้านที่อยู่นั้นล้วนเป็นญาติๆ กันทั้งสิ้น พ่อแม่ลูกหลานรู้จักกันหมดว่าใครเป็นใคร เป็นลูกใครหลานใคร นี่ต่างหากครับที่หาได้ยากในเมืองใหญ่ที่เป็นสังคมเดี่ยวมากขึ้นครับ จากคุณ : รู้หน้าไม่รู้ใจ เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 23:06:23

ความคิดเห็นที่ 67   วกมาอีกนิด ที่คุณเต่าตัวลาย พอดีว่าผมเป็นพวกเด็กอนามัยครับ ปกติแล้ว สามทุ่มก็เข้านอนแล้วครับ (อย่างวันนี้ถือเป็นกรณีพิเศษ เพราะกระทู้นี้แท้ๆ เลย) เลยไม่ค่อยรู้จักผับที่คุณว่าเลยครับ ^^ จากคุณ : pigletdora เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 23:16:11

ความคิดเห็นที่ 68   ว่าจะนอนแล้วแต่มี คุณ รู้หน้าไม่รู้ใจ มาร่วมคุยอีกคน ขอคุยก่อนล่ะกัน เพราะพรุ่งนี้คงไม่ได้มาปั่นกระทู้แล้ว ปัญหาเรื่องเสียงดัง ใช่เลยครับ เพราะผมเองไม่ไปกลับไปเชียงคานนานมากแล้ว จึงไม่รู้ว่ามีปัญหานี้แล้ว เพราะอาทิตย์ก่อน มีรายการไปสัมภาษณ์ ชาวบ้านที่ปาย มีคนนึงออกมาบอกว่า นักท่องเที่ยวพอดึกๆ ก็ส่งเสียงดัง ที่น่าเศร้าก็คือเขาบอกว่า "ไม่มีใครกล้าต่อว่า เพราะเกี่ยวกับรายได้ เกี่ยวกับการท่องเที่ยว" "อย่างน้อยมาบ้านคนอื่น ก็ควรให้เกียรติคนในพื้นที่ เกรงใจกันบ้าง" วันนั้นผมก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะแก้ปัญหาแบบนี้ยังไง ลองเสนอไว้ตรงนี้ เผื่อ คุณรู้หน้าไม่รู้ใจจะเอาไปบอกต่อได้ ผมว่าคงต้องมีการชี้แจง กับนักท่องเที่ยว เพื่อขอความร่วมมือ โดยเริ่มจากโรงแรม,ห้องพัก,บ้านพักในเชียงคาน มาคุยกันให้เป็นเรื่องเป็นราว กำหนดเป็น ข้อควรปฏิบัติสำหรับนักท่องเที่ยวเลย แจกให้ทุกคนที่เข้าพัก เลยตั้งแต่เช็คอิน ไปตักบาตรควรแต่งตัวยังไง รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวที่แนะนำ วิธีการเดินทาง ไม่ควรส่งเสียงดังตั้งแต่กี่โมงก็บอกไปเลย ซึ่งคงเป็นบริเวณที่พักที่อยู่ในเขตชุมชน บอกเหตุผลไว้ด้วย ผมเชื่อว่าคน"ส่วนใหญ่" เข้าใจได้ แต่จะมีคนแย้งแน่นอนว่า จะทำให้นักท่องเที่ยวไม่พอใจ ไม่สะดวกสบายสุดท้ายจะกระทบต่อการท่องเที่ยว รายได้ของที่พักจะลดลง ร้านค้าจะขายได้น้อยลง เรื่องนี้ผมเองก็คงไม่กล้าเถียงมันคงเป็นเช่นนั้นจริงๆ แต่คงต้องขอให้มองถึง ความเป็นชุมชน ความเป็นครอบครัวให้มากมาก เราจะเอาเงิน เอาตังค์ โดยต้องทำให้คุณตา คุณยายเราเดือดร้อน ลูกเราหลานเรา ต้องอดหลบอดนอนกันเลยหรือไง ถึงจะทำให้เชียงคานโตขึ้นช้าลง แต่รับรองว่ายังไง เชียงคานก็จะโตขึ้นเรื่อยๆ อยู่ดีไม่ต้องกลัวครับ โตและคนในบ้านเรายังยิ้มได้น่าจะดีกว่ากันเยอะเลยนะผมว่า จากคุณ : pigletdora เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 53 23:39:24

ความคิดเห็นที่ 69   ที่ไหนมีนักท่องเที่ยว ที่นั่นก็ต้องมีความเปลี่ยนแปลงเป็นธรรมดา ยิ่งนักท่องเที่ยวมากเท่าไหร่ ความเปลี่ยนแปลงก็จะมากตามไปเท่านั้น สำคัญตรงที่ว่า จะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือแย่ลงเท่านั้นแหละ แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 53 06:47:03 จากคุณ : Nordlys เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 06:46:19

ความคิดเห็นที่ 70   ใครไม่เห็นด้วย สไตรค์ง่ายๆด้วยการ เมื่อไปเชียงคาน อย่าใช้บริการ 7-11 ทำได้ไม่ยาก ว่าแต่จะทำได้หรือเปล่าละ.... จากคุณ : Fly boy เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 10:36:49 A:117.47.250.233 X: TicketID:149505

ความคิดเห็นที่ 71   รับซาลาเปา ขนมจีบ เพิ่มมั้ยคะ/ครับ... ประโยคนี้เป็นที่ชินหูและติดปาก จนเป็นประโยคยอดนิยมที่นำมาพูดกันเล่นๆ มีใครในห้องนี้ไม่เคยได้ยินบ้างมั้ยเอ่ย ? จากคุณ : น้องขจร เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 12:01:56

ความคิดเห็นที่ 72   ผมไปภูเก็ต(ป่าตอง)ในช่วงปีใหม่ เจอน้ำเปล่าขวดธรรมดา 25 บาท เดินออกจากร้านแทบไม่ทัน พอดีเจอ 7-11 เข้าไปซื้อขวดละ 7 บาท ขอบคุณครับที่ไม่ว่าคุณจะไปอยู่ที่ไหนยังคงรักษาราคาสินค้าที่เป็นกลางเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นที่ภูเก็ต หรือที่เกาะล้าน  ผมว่าการที่ 7-11 ไปเปิดที่เชียงคานก็ดีครับ ผมไปร้านขายของจะปิดเร็วมากจนไม่รู้จะไปซื้อของที่ไหนตอนดึกๆ อย่าใจแคบคับลองนั้งคิดนานๆนะครับว่าเชียงคานนะเสื่อมเพราะอะไรกันแน่เสื่อมเพราะมี 7-11 หรือว่าเสื่อมเพราะมีเด็กๆหนุ่มสาววัยที่ไม่สมควรไปนั้งพลอดรักกันอยู่ริมฝั่งโขง ป.ล. ร้านค้าส่วนมากที่เชียงคานลองไปถามดูนะครับว่าเป็นคนที่นั้นกี่%ที่มาเปิดกิจการ ส่วนมากเจ้าของให้เช่าทั้งนั้นแหละครับ แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 53 14:46:37 จากคุณ : เด้าลมหลังเทา เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 14:42:36

ความคิดเห็นที่ 73   มันอาจจะไม่เลวร้ายขนาดน้านนนนนน จากคุณ : annclub เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 15:24:26

ความคิดเห็นที่ 74   คุณ เด้าลมหลังเทา ผมไม่คิดว่าเราจะสามารถโทษว่า ใคร หรือชี้หน้าได้หรอกครับว่า ใครทำให้ใครเสื่อม ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวที่ส่งเสียงดังจนคนในพื้นที่ไม่ได้หลับไม่ได้นอน หรือ นักท่องเที่ยวที่คิดแคบๆ เอาความสะดวกตัวเองเป็นที่ตั้ง หรือ หนุ่มสาวพรอดรักกันที่ริมโขง หรือเจ้าของบ้านที่ปล่อยให้คนต่างถิ่นมาทำมาหากิน ทุกคนต่างมีวิถี แนวคิดของตัวเองกันทั้งนั้น แต่ แต่ แต่ ถ้าเราคิดอย่างนั้นเหมือนกันหมด บ้านเมืองเราจะเป็นไงนะ ? ผมกลับมองว่าเราควรจะช่วยกันคิด ไม่ต้องไปชี้ว่าเป็นเพราะอันนั้นเป็นเพราะอันนี้ ตัวฉันไม่เกี่ยว ที่ทำอย่างนั้นมีเหตุผลอย่างงั้นอย่างนี้ ช่วยกันคิดดีกว่าว่าจะทำอย่างไรให้มันดีที่สุด คุณเองในฐานะนักท่องเที่ยว คิดไหมว่า ก็รู้อยู่แล้วว่า เมืองนี้เขาปิดร้านกันเร็ว ตัวคุณเองจะปรับตัวยังไง ลืมเอากางเกงในมา รอถึงพุร่งนี้เช้าได้หรือเปล่า จะได้เดินไปคุยกับคุณลุงร้านขายของชำดูหน่อยว่า ที่ร้านคุณลุงมีขายหรือเปล่า หรือมีอะไรอย่างอื่นขายบ้าง หรือลืมเอาแปรงสีฟันมา ไม่ได้แปรงฟันคืนเดียวคงไม่ถึงกับนอนไม่ได้ อย่างที่ยกตัวอย่างเรื่องราคาน้ำก็เป็นเรื่องที่ดีนะครับ อันนี้ชาวบ้าน ร้านค้าเองก็ต้องนั่งคิดว่าจะเอาเปรียบนักท่องเที่ยวทำไม? เพราะมันจะยิ่งเป็นการทำลายตัวเองซะมากกว่า เด็กวัยรุ่นก็ต้องว่าต้องสอนกันไป ใครๆ ก็รู้เด็กวัยรุ่นที่ไหนก็มีปัญหากันทั้งนั้น มันไม่ได้ทำให้ใครเสื่อมหรือไม่หรอกครับ จากคุณ : pigletdora เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 15:44:10

ความคิดเห็นที่ 75   ทำยังไงให้การถกกันเรื่องนี้ไม่สูญเปล่าดีครับ? :D จากคุณ : supererky เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 16:03:36

ความคิดเห็นที่ 76   อ่านมาตลอดเหมือนมีบางคนเอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางจักรวาล จากคุณ : loginlove เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 17:01:01

ความคิดเห็นที่ 77   จะมานั่งคิดแทนคนโน้นคนนี้ทำไมครับว่า ถ้า.... แล้วทำอย่างนี้ไม่ได้เหรอ ก็รู้แล้วว่าเป็นแบบนี้ งั้นก็ควรทำอย่างนี้สิ .......................... แต่ละคนมีวิถีชีวิตที่ต่างกันไป ครอบครัวเดียวกันไปเที่ยวที่เดียวกัน ยังมีความต้องการไม่เหมือนกันเลย อยากนอนพักผ่อน อยากออกไปตะลอนเก็บที่ท่องเที่ยว อยากเห็นตะวันขึ้น อยากนอนดูดาว อยากนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ อยากแดนซ์กระจาย อยากกินไอศครีมตอนอากาศเย็นๆ อยากกอดถ้วยมาม่าร้อนๆเพื่อจะได้อุ่น ใครจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ ผมจะเน้นที่'สิทธิและเสรีภาพ'เป็นพิเศษ ตราบใดที่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน อุดมคติมันเป็นสิ่งที่เราต้องการคนเดียว คิดคนเดียวได้ครับ แต่โลกความเป็นจริงมันเป็นโลกที่แต่ละคนจะต้องเอาความรู้สึกของผู้ที่แชร์สังคมกับเรา มาปรับเพื่อให้ได้จุดสมดุลย์ที่ทุกคนยอมรับได้และอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข ไม่ใช่มานั่งคิดแทนคนอื่นครับ จากคุณ : loginlove เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 17:19:14

ความคิดเห็นที่ 78   คุณ loginlove จริงๆ ข้างบนนั้นมีคนกล่าวแล้วว่า อย่ามานั่งคิดแทนคนอื่น แล้วผมก็ได้แสดงความเห็นไปแล้ว แต่ลองตอบอีกทีล่ะกันนะครับ ปกติแล้วเวลาที่เราจะแสดงความเห็นอะไร ในเรื่องอะไรก็ตาม เราจำเป็นต้อง "คิดแทนคนอื่น" ครับ ไม่งั้น เราจะเสนอความเห็นได้อย่างไร ?? เพียงแต่ว่า เราต้องพยายามมองให้รอบด้าน มากกว่ามองด้านเดียว แน่นอนคนๆ เดียวยากที่จะมองได้รอบด้าน ถ้าตามอ่านจากข้างบนมา จะเห็นว่าบางประเด็น ก็มีคนมาชี้ "มุม" อื่นๆ ให้ผมและคนอื่นๆ ในนี้ได้อ่านกัน และผมก็คิดว่าเป็นประโยชน์ ถ้าเราไม่ลองนั่ง "คิดแทน" นักท่องเที่ยว เราก็จะเสนอมุมมองของนักท่องเที่ยวไม่ได้ พอดีผมเองก็เป็นนักท่องเที่ยวอยู่บ้าง ก็เลยพอจะ "คิด" ได้บ้าง ว่า จริงๆ แล้วนักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งต้องการอะไร ได้ประโยชน์จากการมี 7-11 อย่างไร ก็มันสะดวก ในการซื้อหาของ ในฐานะที่เราเป็นแปลกถิ่นเข้าไป สะดวกเวลากลางคืน เกิดขาดของที่จำเป็น ก็ช่วยได้ ซึ่งพอ "คิดแทน" ได้อย่างนี้ ผมก็เลยเสนอว่า จริงๆ แล้ว เราที่เป็นนักท่องเที่ยวมาลอง "คิด" กันอีกมุมไหม เวลาเราไปเที่ยวที่ไหน อย่างแรกก็คงต้องรู้จักเตรียมตัวให้พร้อม เช่น เรารู้ว่าที่ๆ จะไปไม่มี 7-11 เราอาจจะต้องเตรียมสเบียงไว้กินยามหิวตอนดึกเพิ่มขึ้น หรือ อย่างกรณีที่เราลืมของบางอย่างจริงๆ เราลองมองอีกมุมว่า เป็นการสอนเราบางอย่างก็ได้ ให้รู้จัก รอ อย่างที่บอกไว้หลายๆ ความเห็นก่อน แต่ผมเองก็ "คิดแทน" คนอื่นไม่ได้หมด คุณเต่าตัวลาย ก็มาช่วย "คิด" ว่า บางทีมันก็จำเป็นเหมือนกัน อย่างที่ไปตจว. แล้วหาของกินไม่ได้ เพราะแถวนั้นมีแต่เมนูเนื้อ ซึ่งคุณเต่าตัวลายไม่กิน มันก็ช่วยได้ เอ้อ... ซึ่งผมก็ว่าจริง และ "คิดไม่ถึง" จริงๆ ผมก็ "คิดแทน" ต่อว่า เอ.. ถ้าคิดว่าไอ้ร้าน 24 ชม. มันจำเป็นจริงๆ เราก็ไม่จำเป็นต้องการ 7-11 นี่นา หากคนในชุมชนคิดว่า จำเป็น และได้ประโยชน์ ก็ทำกันเองในชุมชนดีไหม ? บริหารจัดการไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ แต่ว่ามันก็ท้าทายดี แถมคิดไปคิดมา ก็มี คน "ช่วยคิด" อีกว่า ร้าน 7-11 มันทำได้นะ เพราะสามารถเปิดได้ทุกวัน ทั้งๆ ที่ลูกค้าอาจจะไม่เยอะทุกวัน ผมก็เลย "คิดแทน" ต่อว่า เอ้อ ถ้างั้น เอาจุดนี้มาเป็นจุดแข็งก็ได้นี่ ร้านค้าท้องถิ่นที่ว่า ก้เปิด 24 ชม. เฉพาะวันศุกร์ เสาร์ วันหยุด วันธรรมดาก็เปิดธรรมดาไป ลดค่าใช้จ่ายได้ น่าจะกำไรดีกว่า ที่ผมบรรยายมาทั้งหมด ก็ล้วนแต่อยู่ในความเห็นข้างบนทั้งหมดแล้ว ผมยังเห็นว่า เราจำเป็นต้องคิดแทน หรือช่วยกันคิดนะครับ เพียงแต่ว่าสุดท้ายแล้วมันอาจจะเป็นแค่ความคิด ในบอร์ดนี้ ไม่ได้มีผลอะไร เพราะเราคิด แต่เราไม่สามารถ และ "ไม่ควร" ไป "ตัดสินใจ" แทนคนพื้นที่ต่างหากครับ เดี๋ยวไว้กลับมาคุยกันต่อนะครับ จากคุณ : pigletdora เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 17:40:03

ความคิดเห็นที่ 79   คุณ supererky ครับ ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงเหมือนกัน ไม่ให้เป็นความคิดที่จบแค่ ณ.ที่นี้ ผมแอบเข้าไปดู link ตั้งแต่ต้นกระทู้ เห็นว่ามีคนเอาข้อความในกระทู้นี้ไปโพสต์ไว้ในนั้นเหมือนกัน ก็อาจจะมีคนมาเห็นความคิดของหลายๆ คนในที่นี้ก็ได้นะครับ ใครคิดเห็นอย่างไร ก็ช่วยกันคิดครับ จากคุณ : pigletdora เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 18:24:10

ความคิดเห็นที่ 80   คุณ pigletdora ครับ  คุณลองขับรถจากตัวเมืองเลยนะครับเส้นที่กำลังมุ่งสู่เชียงคานนะ คุณลองมองดูซิครับว่ามีความเจริญอะไรบางที่กำลังเข้าไปสู่เชียงคาน ผมว่ามันไม่ใช่แค่ 7-11 นะครับ ผมให้เวลาคุณมาตอบผมนะครับว่ามีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง มี 7-11 ซึ่งมันเป็นร้านสะดวกซื้อ ซึ่งทุกคนที่ไปที่เชียงคานเราจะไปบังคับเค้าไม่ได้ว่าสามทุ่มนะคุณต้องนอนนะ คุณต้องซื้อน้ำซื้อข้าวเก็บไว้ก่อนจะสามทุ่มนะเพราะเดียวร้านปิดหมด คนที่ไปเที่ยวคุณต้องเข้าใจว่าเค้าไปเพื่อการปลดปล่อย มันไม่ควรจะไปขีดเส้นให้นักท่องเที่ยวเดิน ผมบอกได้เลยเมืองไหนต้องขีดเส้นให้นักท่องเที่ยวเดินเมืองนั้นไม่มีใครเที่ยว อีกอย่างที่คุณคิดว่าชุมชนทำได้ ไม่จำเป็นต้อง 7-11 ชุมชนก็ทำกันได้ ผมให้เวลาชุมชนทำเลย ไม่เกิน 3 เดือนปิด ร้านท้องถิ่นเปิด 24 ชม. มันเป็นไปผมเคยคุยแล้วว่าทำไมไม่เปิด 24 ชม. เค้าบอกผมมาเลยมันไม่ได้ขายดีทุกอาทิตย์นะหลาน บางวอาทิตย์ก็ขายได้ บางอาทิตย์ก็ขายไม่ได้ ป้าก็ต้องจ้างลูกจ้างเพิ่ม เราก็ต้องอยู่กับมัน ไม่อยู่มันก็โกงเอาอีก จะซื้อเครื่องคิดเงินมาเครื่องบาร์โคทก็ลงทุนไม่ไหว เอาพอที่ป้าได้ก็พอแล้ว นี้คือคำตอบ หลังจากที่ผมหิวผมเดินไปหา มาม่าที่ร้านป้าแก ที่กำลังจะปิดลง ผมทนหิวข้าว ผมทนหิวน้ำไม่ได้ครับ แล้วคุณคิดว่าราคาสินค้าในช่วงกลางคืนของร้านชุมชนจะไปสูงขึ้น หรือครับ   ผมไม่อยากมาเถียงเพื่อว่าใครจะต้องชนะ แต่ผมก็แค่มาบอกว่าบางที่มันก็จำเป็นที่จะต้องมี ร้าน 7-11 มันก็แค่ร้านสะดวกซื้อเหมือนร้านขายของชำทั่วไปนั้นแหละครับ แถมร้าน 7-11 มันขายเหล้าต้องตามเวลาด้วยนะครับ มันไม่เหมือนร้านขายของชำทั่วไปนะครับ หรือคุณไปซื้อเหล้าที่ร้านขายของชำ แล้วมาซื้อน้ำแข็งที่ 7-11 ละครับ หรือ คุณ อยู่ซอย 1 คุณจะมาซื้อแปรงสีฟัน ที่ซอย 10 ละครับ ทุกอย่างมันต้องแข่งกันด้วยคุณภาพซิครับ อย่าลืมเค้ามาอยู่เค้าก็ต้องเสียให้ภาษีให้กับชุมชนนะครับโกงไม่ได้ด้วยเพราะเค้าคิดคำนวนจากเครื่องคิดเงินนะครับ คุณได้มีการจ้างงานอย่างน้อยคนในชุมชนก็ได้ทำงานอีก 4-5 ตำแหน่งนะครับ เจ้าของบ้านก็ได้ค่าเช่าครับ ส่วนมากทุกพื้นที่ที่ไปนะครับ คนที่ออกมาต่อต้าน 7-11  หรือร้านสะดวกซื้ออื่นๆคือคนที่เสียผลประโยชน์เป็นส่วนมาก ผมสนับสนุนให้เชียงคานมี 7-11 และผมก็สนับสนุนให้ชุมชนยกระดับขึ้นมาต่อสู้ด้วยครับ อย่าลืมนะครับไม่มีใครซื้อเค้าก็อยู่ไม่ได้ แต่ผมว่าคนส่วนมากจะเข้า 7-11 นะซิครับ เพราะอะไรไปดูตามร้านขายของชำทั่วไปดูซิครับ แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 53 18:39:57 แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 53 18:35:20 จากคุณ : โจนินจา เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 18:34:21

ความคิดเห็นที่ 81   มาคุยต่ออีกนิดนึง ที่คุณ loginlove พูดถึงว่าคนเรามีความต้องการไม่เหมือนกัน ก็อยากให้มองมุมกลับว่า แต่ละที่แต่ละแห่งก็ไม่จำเป็นต้องมีเหมือนกันเช่นกัน หากเราอยากแด๊นซ์กระจาย เชียงคานก็ไม่ใช่คำตอบ หากเราอยากเล่นกีตาร์ร้องรำทำเพลง เชียงคานก็ไม่ควรจะเป็นคำตอบ หากเราอยากได้ความสะดวกสบายเหมือนอยู่บ้าน นึกหิวขึ้นมาเมื่อไหร่เดินไปซื้อไส้กรอกที่ 7-11 เชียงคานก็ไม่น่าจะใช่ที่ๆ คุณต้องการ คุณก็ควรจะนอนอยู่บ้านดีกว่า ผมก็อยากให้ "เรา" มองอย่างนี้บ้าง เราก็มีความต้องการของเรา แต่ละสถานที่ก็มีความจำเพาะของมัน ใยเราต้องไปเปลี่ยนที่ๆ เรารักให้เป็นอย่างที่เราต้องการล่ะ เราควรจะเปลี่ยนตัวเราเข้ากับสิ่งที่เรารักมากกว่านะ เดี๋ยวจะว่าเรา เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางอีก เอาเป็นว่า แค่เสนอว่าลองคิดมุมนี้ดูบ้างก็แล้วกันครับ หวังว่าคงได้คุยกันอีกนะครับ จากคุณ : pigletdora เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 18:40:19

ความคิดเห็นที่ 82   เราหยุดความเจริญที่เชียงคานไม่ได้หรอกครับ แต่เราเป็นนักท่องเที่ยวเป็นแขกที่ดีของเชียงคานได้ครับ ไม่ว่าไปที่ไหนผมคิดแบบนี้ แค่นี้ผมก็เที่ยวได้สุขใจแล้ว จากคุณ : โจนินจา เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 18:53:14

ความคิดเห็นที่ 83   คุยกันต่อ คุณโจนินจา มาแบบดุเดือดเลยนะครับ ^^ ก่อนอื่นขอออกตัวไว้ก่อนว่า เห็นตรงกันว่านี่ไม่ใช่การถกเถียงกันเพื่อใครจะชนะครับ อย่างที่บอกไว้หลายๆ ความเห็นแล้วว่า ช่วยกันคิด ช่วยกันพูดแบบนี้ดีแล้วครับ เพราะไม่มีใครจะคิดได้คนเดียวรอบด้านหรอก มาที่คุณโจนินจาที่บอกว่า "มีความเจริญอะไรบางที่กำลังเข้าไปสู่เชียงคาน ผมว่ามันไม่ใช่แค่ 7-11 " อันนี้ผมเห็นด้วยเลยครับ ถึงแม้ในเวลาอันใกล้นี้ผมยังไม่มีโอกาสขับรถไปดูอย่างที่คุณบอก แต่ก็พอจะจินตนาการได้ (อายุของปูนนี้แล้ว ^^) แต่ผมคิดว่าการคิดแบบนี้ การใช้ตรรกะที่ว่า มีอันนั้นแล้วอันนี้ก็ต้องมีได้ หรือเราจะบอกว่ามีสิ่งที่ผิดพลาดเกิดไปแล้ว เราก็ทำผิดพลาดซ้ำกันได้ ไม่ต้องสนใจแล้ว เพราะมันก็ผิดเท่าๆ เดิมนั่นแหละ เช่น ไปเที่ยวเขาใหญ่ มีคนทิ้งขยะชิ้นเล็กๆ อยู่ 1 ชิ้น ไม่เห็นมีใครว่าอะไร เราก็ทิ้งได้สิ "ผมบอกได้เลยเมืองไหนต้องขีดเส้นให้นักท่องเที่ยวเดินเมืองนั้นไม่มีใครเที่ยว" อันนี้ผมไม่เห็นด้วย และไม่คิดว่า เจ้าของบ้านจะต้อง "ยอม" นักท่องเที่ยวไปซะทุกอย่าง อยากให้คุณเอาใจคุณไปใส่ใจคนในพื้นที่ด้วย ผมยังจำสีหน้าชาวบ้านที่ปายได้เลย ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า พอตกดึก นักทองเที่ยวก็ส่งเสียงดังกัน คนเฒ่าคนแก่แทบจะไม่ได้นอน "ไม่มีใครกล้าต่อว่าอะไร เพราะกลัวกระทบการท่องเที่ยว" ผมขอให้คุณ "คิดแทน" พวกเขาด้วยครับ ผมไม่เชื่อว่า ถ้าจะขอความร่วมมือให้นักท่องเที่ยวช่วยกันรักษาความสงบ เข้านอนกันเร็วนิดนึิง หรือพูดคุยกันดึกๆ ได้แต่ไม่ส่งเสียงรบกวนคนอื่น แล้วจะทำให้ไม่มีคนมาเที่ยว ภูฏานเป็นประเทศเล็กๆ ประเทศหนึ่ง ที่มีอยากไปเที่ยวมาก แต่ประเทศเขาจำกัดปริมาณนักท่องเที่ยว ไม่จำเป็นต้องง้อ ถ้าคิดว่ามันจะมีผลเสียกับบ้านเขาเมืองเขา ผมไม่เชื่อว่า เชียงคาน หรือที่ไหนๆ ก็ตาม จะต้อง "ยอม" นักท่องเที่ยวไม่เคยคิดอะไรนอกจากความสุขของตัวเองครับ จากคุณ : pigletdora เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 19:08:20

ความคิดเห็นที่ 84   ไปกินข้าวมาเดินผ่าน 7-11 ที่คุ้นเคย ผมไม่ได้เกลียด 7-11 ครับรับรองได้ ไม่ได้คิดจะหยุดความเจริญด้วย เพราะมันเป็นไม่ได้ แต่ที่มาหมกหมุ่นในกระทู้นี้ ด้วยเหตุผลเดียวคือ "อยากช่วยคิด อะไรให้กับเชียงคานบ้าง" ประเด็นเรื่องร้านสะดวกซื้อ มองไปมองมา ก็คงเห็นตรงกันว่า ประโยชน์ส่วนใหญ่คือมันสะดวก โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยว ถ้าอย่างนั้นถ้าคิดว่ามันจำเป็น ก็อย่างที่เสนอไปว่าลองทำเองดีไหม หลายคนในที่นี้ ก็บอกว่ามันยาก ระบบจัดการหลายๆ อย่างมันลำบาก อย่างที่คุณโจนินจา ยกตัวอย่างมันก็จริง งั้นเรามาช่วยคิดวิธีที่จะทำได้แบบ local made ดีไหมครับ ? โจทย์ก็คือว่า จะทำร้านค้า แบบ 24 ชม. ได้ยังไง โดยให้คนในชุมชนทำกันเอง แน่นอนเราก็จะได้งานเพิ่มมา 4-5 ตำแหน่งเหมือนกัน รายได้ก็เข้าท้องถิ่นเหมือนกัน  เจ้าของบ้าน/สถานที่ก็ได้ค่าเช่าเหมือนกัน แต่อย่างที่หลายคนบอกว่ามันยาก จริงๆ ผมก็ไม่รู้หรอกว่ามันยากแค่ไหน เพราะไม่เคยทำ แต่พวกเราในที่นี้ มาช่วยกันคิดดีไหมครับ ว่าจะทำกันยังไง ใครจะว่าเสียเวลา เพราะไม่รู้จะมีใครมาเห็นหรือเปล่า แต่ผมว่าลองดูก็ไม่เสียหลายนะครับ เริ่มจากอะไรดี location ก็ต้องเป็นบริเวณที่ใกล้ชุมชน โดยเฉพาะบริเวณที่พัก อันนี้ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตรงไหน ^^ ของที่จะขายในร้าน คงไม่จำเป็นจะต้องมีทุกๆ อย่างเหมือน 7-11 หากเราเน้นว่าเฉพาะของจำเป็น เราลองมานั่งนึกกันดีกว่า ว่าเวลาเราไปเที่ยว ดึกๆ เราจะซื้ออะไร? เอามาจากข้างบน ก็ของกินง่ายๆ ประเภทอาหารกล่อง, มาม่า, ปลากระป๋อง น้ำอัดลม เอาเฉพาะเป็นกระป๋อง เป็นขวดก็น่าจะพอ, ขนมปัง, แยม, นม ของใช้จำเป็นบางอย่างที่นักท่องเที่ยวอาจจะลืมเอามา หรือใช้ไปแล้วหมดไป เช่น ยาสระผม, ยาสีฟัน, สบู่ เครื่องดื่มมึนเมาอันนี้ก็คงไม่จำเป็น ก็น่าจะกำหนดได้ว่าไม่เอามาขาย บัตรเติมเงินก็จำเป็นนะ ผมก็คิดไม่ค่อยออกเหมือนกัน ถ้ายังงั้นก็ทำแบบสอบถามมาเลยก็ได้ แจกกับที่พักทุกที่ในเชียงคาน เวลามีแขกมาพัก ก็ช่วยกันสำรวจตลาดกันเลยว่า อยากให้มีอะไรในร้านของเรา คิดออกไอ้พวกที่ไม่ต้องเอามาขายก็เช่น พวกหนังสือไม่ต้องก็ได้ ไอติม ไม่ต้องก็ได้ แผ่นเพลง แผ่นหนังไม่ต้องก็ได้ ขนมขบเคี้ยว อืม... จริงๆ ไม่ต้องก็ได้นะ เวลาเปิดขายก็เอาเฉพาะวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามา รวมไปถึงช่วงวันหยุดยาว ช่วงวันธรรมดา ก็ย้ายของไปขายในร้านขายของชำเหมือนเดิม (อันนี้ไม่รู้ในทางปฏิบัติจะยากหรือเปล่า ขนของไปๆ มาๆ แต่มันก็ช่วยไม่ให้ของค้างสต๊อกนาน) ส่วนคนที่จะมาขายก็จ้างคนในชุมชน เด็กในชุมชน อาจจะเป็นนักเรียนก็ได้นะ เพื่อให้หัดทำงานรุ้จักมีความรับผิดชอบด้วย ไม่รุ้เพ้อเจ้อเกินไปหรือเปล่า ? จะมีใครมาเพ้อเจอกับผมมั้ยเนี่ย ^^ เอ้าครับ.. ยังพูดเหมือนเดิม ช่วยๆ กันคิดครับ จากคุณ : pigletdora เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 19:56:48

ความคิดเห็นที่ 85   พูดไม่ออกเลยผม เอาเป็นว่าในตำราพอทำได้ ในความเป็นจริงก็ทำได้ แต่ก็คงตามไม่ทัน 7-11 ครับเราก็ได้แต่มองความเป็นไปของเชียงคานแล้วกัน แต่ผมก็ยังรักเขียงคาน ผมไม่ได้รักที่มันจะมี 7-11 แต่ผมรักเพราะที่นี้มีอดีต สำหรับคนแก่เฒ่าที่มาเล่าอดีตให้ฟัง เท่านั้นเองละ แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 53 20:09:44 แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 53 20:02:19 แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 53 19:59:13 จากคุณ : โจนินจา เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 19:57:58

ความคิดเห็นที่ 86   คุณ โจนินจา อย่าเพิ่งถอดใจอย่างนั้นสิครับ ผมว่าเราจะเป็นมากกว่าแค่นักท่องเที่ยวที่ดีได้นะครับ เรา ณ. ที่นี่มีคนมากมายหลากหลายอาชีพ นักโฆษณา ออกมาช่วยคิดหน่อยว่า ถ้าจะทำร้านเชียงคานจริงๆ จะตั้งชื่อให้เก๋ๆ มีเอกลักษณ์ยังไงดี นักออกแบบ สถาปนิก ช่วยกันคิดหน่อยสิว่า จะออกแบบหน้าร้านยังไง ให้ "โดนๆ" แบบว่า เห็นแล้วนี่แหละเชียงคาน นักการตลาดมาช่วยผมคิดหน่อย ว่าจะขายอะไรดี จะจัดโปรโมชั่นแบบไหน มีคูปอง มีบัตรสมาชิกเลยดีมั้ย อย่าปล่อยให้ผม มวยวัดอยู่คนเดียว และอื่นๆ อีกมากมาย ผมว่าพวกเราช่วยกันได้นะครับ เฮ้อ รู้สึกจะเพ้อเจ้อเกินไปหรือเปล่าน้า ^^ จากคุณ : pigletdora เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 20:16:55

ความคิดเห็นที่ 87   ถึงกับพูดไม่ออกเลยเหรอครับ คุณโจนินจา ^^ ผมยังเพ้อเจ้อไม่จบเลยซะด้วยซ้ำ ไม่อยากให้คุณ โจนินจาพูดเหมือนถอดใจเลยครับ เราเป็นมากกว่านักท่องเที่ยวที่ดีได้นะครับ ผมว่าเราทำได้มากกว่า "นั่งมองความเป็นไป" นะครับ แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 53 20:42:30 จากคุณ : pigletdora เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 20:35:49

ความคิดเห็นที่ 88   คห.81 คุณมาบังคับผมให้ทำโน่นทำนี่อีกแล้ว มารู้ได้ไงว่าอันไหนเหมาะหรือไม่เหมาะกับผม^^ ผมบอกแล้วไงว่าผมเคารพสิทธิเสรีภาพของทุกคน ตามที่บอกไปใน คห.77 ใครจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ ผมจะเน้นที่'สิทธิและเสรีภาพ'เป็นพิเศษ ตราบใดที่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ส่วน คห.84  ผมขอตอบด้วย คห.56 เลยครับ ^^ จากคุณ : loginlove เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 22:08:19

ความคิดเห็นที่ 89   จริงๆผมก็คิดว่าผมเป็นนักท่องเที่ยวที่ดีแล้วนะ แถมตลอดเวลา 20 ปีที่ผ่านมาก็ตะเวนเที่ยวในประเทศไทยทุกอาทิตย์ไม่เคยหยุดเลย ไปมาก็ทุกอำเภอแล้วมั้งในประเทศ หรือผมยังดีไม่พอหว่า แนวคิดนะใครๆก็ทำได้ แต่ในความเป็นจริงการรวบรวมชุนชนนะยากยิ่งนัก แรกๆก็ดีแหละ แต่เมื่อผลประโยชน์มันเข้าตาทุกอย่างมันก็เป็นไป คุณจะเก็บเชียงคานไว้ในฝันของคุณคนเดียวนะไม่ได้ เพราะคนในพื้นที่ยังต้องการความเจริญที่จะเข้าไปถึง ถนน4เลนที่กำลังเข้าเชียงคาน คุณหยุดเค้าได้ไหม หยุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้น บางครั้งเราอาจจะต้องปรับตัวเราเองบ้าง อย่าให้สภาพแวดล้อม ปรับตัวเข้าหาเราเสมอก็ไม่ถูก แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 53 23:21:37 จากคุณ : โจนินจา เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 23:08:14

ความคิดเห็นที่ 90   เอาอย่างนี้แล้วกัน คุณลองหาเวลาว่างๆไปรวบรวมชุนชนตามแนวคิคของคุณที่เชียงคาน เล่าถึงสิ่งที่คุณอยากจะทำ แลกกับการไม่เอา 7-11 ดูซิ ว่าคนที่นั้นเค้าจะบอกคุณว่าอะไร แล้วมาเล่าให้ผมฟังบ้างนะว่าชาวบ้านซักกี่คนที่ชอบในแนวทางของคุณ ผมเข้าใจว่าคุณพยายามต้องการเก็บเชียงคานในอดีตเอาไว้ แต่มันเป็นไปไม่ได้ คนที่นั้นเกินครึ่งที่ต้องการความเจริญเข้าไปสู่พื้นที่ของเขา เราเสียอีกเข้าไปแล้วให้อะไรกับเชียงคานบ้าง คุณเคยไปเดินเชียงคาน ผมอยากถามคุณเคยเก็บขยะซักชิ้นริมฝั่งโขงบ้างไหม หรือคุณแค่ไปนอนอ่านหนังสือเฉยๆ แล้วกลับมาบอกว่าเชียงคานต้องเป็นอย่างที่ผมต้องการให้เป็นนะครับ จากคุณ : โจนินจา เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 23:33:10

ความคิดเห็นที่ 91   กลับมาคุยกับ คุณโจนินจา กันต่อ อืม... ผมบอกไว้ตั้งแต่ความเห็นข้างบนแล้วครับว่า ผม ไม่ใช่สิ เราทุกคนแสดงความเห็นได้ แต่ต้องไม่ "ตัดสินใจ" แทนคนที่นั่น ผมจึงไม่ได้คาดหวังว่า คนในพื้นที่จะเห็นด้วยกับผมสักกี่คน หากมีคนเชียงคาน เข้ามาอ่านความเห็นผมแล้ว แต่ก็ไม่ได้คิดเหมือนผม ผมก็คงไม่ได้ว่าอะไร เพราะเจตนาตั้งแต่ต้น ผมก็บอกไว้แล้วว่า แค่ไม่อยากเป็นคนที่ผ่านมา แล้วเห็นบางอย่างที่ "อาจจะเป็นปัญหา" ก็อยากช่วยลองคิดดู เผื่อว่าจะช่วยเปิดความคิดบางมุมได้บ้าง ผมไม่ใช่พวกต่อต้านความเจริญนะครับ อยากให้เสียเวลาลองย้อนกลับไปอ่านความเห็นของผมหลายๆ อัน แต่ความเจริญมันก็มีทั้งที่ดีและไม่ดี เราเองก็รู้กันทุกคน อย่างถนน 4 เลน ผมก็สนับสนุนเต็มที่ เพราะมันทำให้คนเราเดินทางได้สะดวกขึ้น ขอแค่ทำกันให้ถูกต้อง เวนคืนกันให้ยุติธรรม เวลามีคนไข้ฉุกเฉิน 4 เลน คงทำให้รถพยาบาลเดินทางได้เร็วขึ้นเยอะ ------------------------------------------------------------------------ ส่วนเรื่องการเป็นนักท่องเที่ยวที่ดีนั้น ผมเชื่อว่าคุณเป็นนักท่องเที่ยวที่ดี ความจริงเป็นสิ่งที่เราต้องยอมรับ แต่ความฝันก็เป็นสิ่งที่เราไม่ควรจะทอดทิ้งนะครับ เราต้องฝันสิ่งที่ดี ชุมชนในฝัน ชุมชนที่คนทุกคน ร่วมกันเดินและโตไปด้วยกัน ชุมชนที่ผู้เฒ่าผู้แก่อยู่ได้อย่างสบายใจ ในขณะที่คนหนุ่มสาว ก็อยู่กันได้อย่างมีพลัง แต่ถ้ามันไม่เป็นอย่างที่เราฝัน เราก็ยอมรับมัน ไม่ต้องตีโพยตีพาย ว่าทำไมไม่เป็นอย่างที่เราคิด ผมเคยผ่านจุดแบบนั้นมาแล้ว แต่ผมยังไม่ไปถึงจุดที่ว่า ยังไม่ทันจะคิด ยังไม่ทันจะลอง ก็ยอมไปก่อนซะแล้ว ---------------------------------------------------------------- เรื่องที่ว่าจะให้เข้าไปที่เชียงคาน ก็อย่างที่บอกไปครับ ว่าคงจะอีกนานถึงจะมีโอกาส ถึงตอนนั้นอาจจะมี 7-11 ไปหลายสาขาแล้วก็ได้ ผมไม่ได้ต้องการเก็บเชียงคานในอดีตเอาไว้ พูดง่ายๆ สั้นคือ อยากให้เชียงคานพัฒนาไปเรื่อยๆ แต่อาจจะช้าหน่อย แต่ก็โตแบบเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร ไม่ต้องโตไปตามวัฎจักรเดิมๆ ที่เคยเห็นมาตามแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ คนเที่ยวเยอะขึ้น สิ่งอำนวยความสะดวกเยอะขึ้น ร้านค้าเยอะขึ้น ผับบาร์ตามมา ความวุ่นวายตามมา รถติดตามมา ขยะตามมา ผู้คนในชุมชนขัดแย้งกัน เสน่ห์ที่เคยมีเหลือไว้แต่คำบอกเล่า ที่เหมือนเป็นเพียงนิยายปรัมปรา ------------------------------------------------------------------- ที่คุณ โจนินจา ถามว่า ผมเคยเก็บขยะซักชิ้นริมฝั่งบ้างไหม ผมคิดว่าคงไม่ใช่ประเด็น ถึงผมจะเคยเก็บ ผมก็ไม่คิดว่า ผมทำอะไรเพื่อเชียงคาน เพราะมันควรเป็นเรื่องปกติที่ "คน" ควรจะทำอยู่แล้ว ถามคุณ โจนินจา กลับหน่อยว่า ที่คุณไปเที่ยวมาทั่ว คุณย่อมเคยเห็นที่ๆ เราเคยรักเปลี่ยนไป คุณไม่รู้สึกเสียดายบ้างเหรอครับ แล้วคุณเคยทำอะไรเพื่อปกป้องสิ่งเหล่านั้นบ้างหรือเปล่าครับ จากคุณ : pigletdora เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 53 01:52:28

ความคิดเห็นที่ 92   คุณ loginlove แหม ผมคงไม่สามารถไปบังคับใครให้ทำตามได้หรอกครับ อย่างที่บอกว่า มาแชร์ความคิดกันมากกว่า ก็สรุปว่าเรื่องที่เที่ยวกับความต้องการของคนเที่ยว คุณไม่ได้คิดแบบผม ก็เข้าใจครับ แล้วเรื่อง "คิดแทน" ล่ะครับ คุณเข้าใจผมหรือยัง จากคุณ : pigletdora เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 53 02:04:36

ความคิดเห็นที่ 93   ไม่เข้าใจครับ  เพราะ คห.ผมที่แสดงไปแต่ละความเห็นยังไม่ได้รับการเคลียร์เลย จาก คห.81 นะครับ หากเราอยากแด๊นซ์กระจาย เชียงคานก็ไม่ใช่คำตอบ หากเราอยากเล่นกีตาร์ร้องรำทำเพลง เชียงคานก็ไม่ควรจะเป็นคำตอบ หากเราอยากได้ความสะดวกสบายเหมือนอยู่บ้าน นึกหิวขึ้นมาเมื่อไหร่เดินไปซื้อไส้กรอกที่ 7-11 เชียงคานก็ไม่น่าจะใช่ที่ๆ คุณต้องการ คุณก็ควรจะนอนอยู่บ้านดีกว่า คุณจะรู้ได้ไงว่าอะไรเหมาะหรือไม่เหมาะกับผม แล้วรู้ได้ไงว่าเชียงคานไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการ แล้วคุณรู้ได้ไงว่าผมนอนอยู่บ้านจะดีกว่าไปเที่ยวเชียงคาน ผมว่าคุณไม่ยอมรับความจริง และความคิดเห็นของคนอื่นนะ จากการที่เห็นตอบโต้แทบทุกคห. ไม่ใช่เพียงรับฟังในมุมมองของคนอื่นที่ต่างกัน แต่คุณกำลังก้าวเข้าไปขีดเส้นให้แต่ละคน ^^ คนเราจะยืนอยู่ฝ่ายไหนก็ได้ แต่ต้องยอมรับความคิดและการตัดสินใจของคนอื่นครับ เอางี้คุณอยากทำอย่างโน้นอย่างนี้ อยากให้ชาวบ้านทำอย่างโน้นอย่างนี้ คุณเคลียร์ คห.56 ผมก่อนดีกว่า เหมือนคุณจะข้ามไป(สงสัยมันไม่น่าสนใจ เศร้า) ถ้าเคลียร์ คห.56 ได้ คห.ต่อๆมาของคุณจะไม่มี ถ้าอย่างนั้น เราเตรียมพร้อมอย่างโน้นอย่างนี้แน่ๆ จากคุณ : loginlove เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 53 11:15:19

ความคิดเห็นที่ 94   สวัสดีครับ คุณ loginlove คห. 56 ก็เป็นขอเสนอที่ดีครับ เป็นสหกรณ์ก็ดีนะครับ ผมถึงได้มานั่งคิดต่อไงว่าจะทำแบบไหนดี มีอะไรต้องเคลียร์ อันนี้ผมยังงงๆ ครับ ----------------------------------------------------- ส่วนที่ว่าผมว่า ออกมาตอบโต้ทุกคน ผมมองอย่างนี้นะครับ ผมออกมาเพื่อให้ช่วยกันคิดไงครับ อันไหนผมเห็นด้วย ผมก็เห็นด้วยนะครับ อย่างที่คุณ โจนินจา พูดถึงว่า เราหยุดความเจริญไม่ได้ จะมีถนน 4 เลน ผมก็เห็นด้วยว่าเราหยุดไม่ได้ และถนน 4 เลนมันก็มีประโยชน์ ผมว่าผมค่อนข้างแฟร์นะครับ คุณโจนินจา บอกว่า การเปิดร้าน 24 ชม. แบบ 7-11 มันทำได้ยาก ผมก็คิดว่ายาก แต่ผมไม่อยากหยุดแค่ว่า ยากแล้วก็พอเลิกคิด แต่ด้วยความด้อยปัญญาของผมเอง ก็เลยลองออกมาแสดงความคิด แบบมวยวัดว่า เรามาช่วยกันคิดดีไหมว่า จะทำกันแบบไหนดี จะขายอะไร ในฐานะที่เคยเที่ยวก็เลยลองนั่งคิดว่า เวลาเราไปเที่ยวเราอยากซื้ออะไร ข้อได้เปรียบของธุรกิจของชุมชนคือตรงไหน แต่ก็อย่างที่บอกแต่แรกนั่นแหละครับ ผมก็คิดได้แค่นี้ เรียกว่าลูกมั่วมากกว่า (อย่างที่คุณ โจนินจาบอกว่าตามตำก็น่าจะทำได้ แต่ของผมที่เสนอไปนี่แบบลูกทุ่งมากเลย อายเหมือนกัน ^^) ในความเห็น 56 ผมก็ขอโทษด้วยที่ไม่ได้มาตอบอะไร แต่ผมเห็นด้วยนะครับ รูปแบบสหกรณ์ก็เข้าท่าดีครับ --------------------------------------------------------------- ส่วนเรื่องที่อะไรเหมาะหรือไม่เหมาะกับคุณ ผมเพียงแต่ยกเอาที่คุณบอก เช่น "ถ้า" คุณชอบแดนซ์กระจาย เชียงคานมันก็ไม่เหมาะจริงๆ นะครับ อันนี้ก็ไม่รู้ว่าผมเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า หรือจะมีใคร เวลาจะชวนเพื่อนไปเที่ยวแล้วบอกว่า เฮ้ย พวกเราขาแดนซ์สุดสัปดาห์นี้ เราไปแดนซ์กันที่เชียงคานกันเถอะ ไม่น่าจะมีนะครับ ^^ -------------------------------------------------------------------- ผมดีใจนะครับที่ คุณ loginlove ยังกลับมาคุยกัน เอาเป็นว่า เรามาช่วยกันคิดต่อไหมครับ อย่างสหกรณ์ที่คุณว่า มันควรจะเป้นยังไงครับ เพราะบอกตรงๆ ความรู้พวกนี้ผมไม่มีเอาซะเลย ไม่รู้ว่าจะมีใครในเชียงคาน มาอ่านในนี้หรือเปล่า ไม่แน่อาจจะมีก็ได้นะครับ จากคุณ : pigletdora เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 53 13:54:30

ความคิดเห็นที่ 95   มีครับ คนเชียงคานครับ แล้วก็คนในแว็ปเชียงคานรออ่านอยุ่ครับ เป้นคำแนะนำที่ดีครับ จากคุณ : profrank เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 53 17:21:24

ความคิดเห็นที่ 96   ขอบคุณครับคุณ profrank คนเชียงคานที่แวะมาเปิดตัว แค่ที่บอกว่า เป็นคำแนะนำที่ดี ผมก็รู้สึกดีแล้ว ^^ (ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้เลยว่าที่บอกว่าดี ชมใคร 555 ) ถ้าจะให้ดีอยากให้คนพื้นที่เข้ามาแชร์ความคิดกันก็ดีนะครับ อย่างน้อยก็ช่วยลดข้อหา "คิดแทน" ไปได้บ้างครับ ^^ แก้ไขเมื่อ 22 ม.ค. 53 18:49:12 จากคุณ : pigletdora เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 53 18:47:24

ความคิดเห็นที่ 97   ขอรออ่านอย่างเดียวก่อนนะครับ งานยุ่งคร้าบ !  -*- จากคุณ : supererky เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 53 22:13:47

ความคิดเห็นที่ 1   7-11 กับเชียงคาน : ชวนกันมาคิดอีกสักกระทู้ ความคิดเห็นนี้ได้แตกไปยังกระทู้ E8798990 จากคุณ : pigletdora เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 53 13:55:16

ความคิดเห็นที่ 2   7-11 ในกรณีนี้ เป็นแค่ แพะรับบาป ของผู้ที่เสียผลประโยชน์ ถ้า คนในชุมชน เข้มแข็ง มีจิตสำนึกดี แค่ อารยะขัดขืน โดยไม่ใช่้บริการ 7-11 เท่านี้ 7-11 ก็อยู่ไม่ได้แล้วค่ะ จะไปว่า 7-11 (ทั้ง CP หรือ เจ้าของบ้านที่ให้เช่า) ก็ไม่ถูก ไม่พิจารณาตัวเองก่อน การเปลี่ยนแปลงต้องมีอยู่แล้ว แต่เราพร้อมจะรับการเปลี่ยนแปลงให้สอดคล้องกับเราหรือไม่ น่าจะคิดเรื่องนี้ มากกว่า จากคุณ : sutea2005 เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 53 12:16:42