ความคิดเห็นที่ 1   วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เราจะอยู่เที่ยวในลาวใต้กันแล้ว โปรแกรมวันนี้ก่อนกลับเมืองไทยเราจะแวะไปเที่ยวชม "ปราสาทหินวัดพู" กันครับ เรานัดรถมารับตอนแปดโมงเช้าเหมือนเดิม วันนี้เราแวะทานอาหารเช้ากันที่ร้านเฝอชื่อดังในเมืองปากเซ ชื่อ "ร้านเฝอลานคำ" อยู่ใต้โรงแรมลานคำ ฝั่งตรงข้ามถนนเยื้องกับโรงแรมแสงอรุณ ร้านนี้ขายแต่เฝอเนื้อเท่านั้นไม่มีเฝอหมู และยังมีอาหารเช้าอื่นๆ เช่นกาแฟ หรือข้าวจี่อีกด้วย เช้าๆ แบบนี้มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยจีนฝรั่ง จับจองที่นั่งทานอาหารกันแน่นเต็มร้าน เฝอร้านนี้รสชาติอร่อยสมกับที่ได้ยินมา เนื้อเปื่อยมีมันแทรกนุ่มกำลังดี แต่ราคาก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ชามใหญ่ 17,000 กีบ (68 บาท) ชามเล็ก 15,000 กีบ (60 บาท) ถ้าไม่หิวจัดเกินไปแนะนำชามเล็กก็พอ เพราะชามเล็กของที่นี่ก็ใหญ่มากพอๆ กับก๋วยเตี๋ยวชามพิเศษของบ้านเราแล้วล่ะครับ "แวะทานเฝอรสชาติดีที่ "ร้านเฝอลานคำ" กันก่อนครับ" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:03:45

ความคิดเห็นที่ 2   "ร้านเฝอลานคำอยู่ตรงข้ามกับโรงแรมแสงอรุณแห่งนี้ครับ" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:04:27

ความคิดเห็นที่ 3   "เฝอเนื้อขาลาย" หรือ "เฝอเนื้อเปื่อย"ชามใหญ่สะใจมากครับ" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:05:07

ความคิดเห็นที่ 4   ออกจากตัวเมืองปากเซ เราต้องเดินทางต่อไปยัง "เมืองจำปาสัก" ออกจากเมืองไปตามถนนหมายเลข 13 ไปทางทิศใต้ ถึงหลักกิโลเมตรที่ 30 เลี้ยวขวาประมาณ 3 กิโลเมตรเข้าไปบริเวณริมแม่น้ำโขงที่บ้านม่วง เพื่อข้ามฟากไปยังฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำโขงซึ่งเป็นเขตเมืองจำปาสักนั่นเอง เราสามารถนำรถข้ามฟากไปได้โดยใช้แพขนานยนต์ ลักษณะจะเป็นเรือเหล็กสามลำต่อกัน แล้วมีกระดานไม้เนื้อแข็งพาดอยู่ด้านบนของเรือ ทำเป็นพื้นสำหรับรองรับรถที่จะข้ามฝั่ง ลำหนึ่งก็รับรถได้ประมาณ 9 คันเป็นอย่างต่ำ แพจะออกเมื่อรถเต็มลำแล้ว โชคดีวันที่เราไปนั้นมีรถรอข้ามฟากตลอดเวลา ไปถึงรอคิวขึ้นแพซักพักก็ได้ไปแล้วครับ ที่จุดนี้จะมีร้านขายของพื้นเมืองวางขายอยู่เต็มไปหมด ระหว่างรถจอดรอข้ามฟากหากเบื่อๆ สามารถไปเดินเลือกซื้อของแก้เบื่อกันได้ เราใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก็ข้ามมาถึงเขต "เมืองจำปาสัก" ซึ่งอยู่อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำโขงแล้วครับ "รถจอดรอคิวขึ้นแพขนานยนต์ข้ามแม่น้ำโขง" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:06:16

ความคิดเห็นที่ 5   "ตำรวจลาวหนึ่งนาย คอยดูแลความเรียบร้อยที่ท่าแพข้ามฟากครับ" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:06:57

ความคิดเห็นที่ 6   "พ่อค้าตัวน้อย หาบข้าวเกรียบว่าวมาเร่ขายครับ" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:07:31

ความคิดเห็นที่ 7   "แม่ค้าขายข้าวปุ้น ติดตามขึ้นมาขายบนแพด้วยครับ" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:08:01

ความคิดเห็นที่ 8   "ใกล้ถึงอีกฝั่งแล้วครับ ใช้เวลาข้ามโขงประมาณ 20 นาที" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:08:34

ความคิดเห็นที่ 9   หลังจากขึ้นฝั่งที่ "เมืองจำปาสัก" รถเราวิ่งผ่านตัวเมืองเก่าซึ่งยังมีตึกโบราณเก่าแก่เหลือให้เห็นอยู่ทั่วไป บางแห่งก็ถูกดัดแปลงเป็นเรือนพัก หลังที่สำคัญและน่าสนใจก็เห็นจะเป็นวังเก่าของเจ้าบุญอุ้ม เจ้าผู้ครองนครองค์สุดท้ายก่อนที่จะเกิดการปลดปล่อยหรือเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศเป็นระบอบสังคมนิยมในปี พ.ศ. 2518 รถวิ่งต่อไปตามถนนลาดยางขรุขระประมาณ 10 กิโลเมตร ก็มาถึงเขตมรดกโลก "ปราสาทหินวัดพู" กันแล้วครับ ที่นี่เราต้องเสียค่าเข้าชมในราคาสูงกว่าที่เที่ยวที่ผ่านๆ มา คือคนละ 30,000 กีบ (120 บาท) อาจเพราะว่าที่นี่เป็นมรดกโลกค่าตั๋วเลยแพงกว่าที่อื่น ก่อนไปชมองค์ปราสาท เราแวะเข้าชม "พิพิธภัณฑ์วัดพู" กันก่อน ภายในจัดเก็บโบราณวัตถุที่น่าสนใจมากมายเช่น ศิวลึงค์ฐานโยนีขนาดเล็กที่ส่วนหัวเป็นแก้ว และวัตถุโบราณที่ค้นพบในบริเวณวัดพู บริเวณจัดแสดงใช้ภาษาลาวและภาษาอังกฤษคู่กันเลือกอ่านได้ตามอัธยาศัย แต่น่าเสียดายที่ภายในพิพิธภัณฑ์ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปจึงไม่มีรูปมาฝากกันครับ ก่อนไปชมปราสาทก็แวะเข้าห้องน้ำกันเสียให้เรียบร้อยที่นี่เลยนะครับ เพราะตัวปราสาทอยู่อีกไกล เสียค่าห้องน้ำคนละ 5 บาท ที่ลาวนี่แทบจะไม่เจอห้องน้ำฟรีเลยครับ เรียกว่าเก็บค่าเข้าห้องน้ำทุกที่แม้แต่ในพิพิธภัณฑ์ "ด้านหน้าอาคารพิพิธภัณฑ์วัดพูครับ เสียดายภายในห้ามถ่ายรูป" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:10:01

ความคิดเห็นที่ 10   "ปราสาทหินวัดพู" เป็นสถาปัตยกรรมโบราณอันยิ่งใหญ่สมัยขอมโบราณอายุก่อนนครวัด เป็นศิลปะแบบบาปวน ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองจำปาสักมาทางทิศใต้ประมาณ 10 กิโลเมตร ปราสาทวัดพู หรือ วัดพู นครจำำปาสักได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2544 ในอดีตที่ตั้งของวัดพู เคยเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และแหล่งอารยธรรมโบราณถึง 3 สมัยด้วยกัน คือ อาณาจักรเจนละ, อาณาจักรขอมสมัยก่อนเมืองพระนคร ที่เลือกบริเวณนี้เป็นที่สร้างปราสาทหินในราวศตวรรษที่ 9 และสุดท้ายอาณาจักรล้านช้างได้เปลี่ยนเทวาลัยในศาสนาฮินดูให้เป็นวัดในพุทธศาสนา จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:11:24

ความคิดเห็นที่ 11   ออกจากพิพิธภัณฑ์ รถมาจอดส่งเราที่ลานจอดรถข้าง "บาราย" หรืออ่างเก็บน้ำใหญ่ ซึ่งในอดีตตามความเชื่อของศาสนาฮินดู หมายถึง มหาสมุทรที่ล้อมรอบโลก ปัจจุบันเป็นสถานที่พักเก็บน้ำเพื่อการชลประทาน ขอบสระก่อด้วยศิลาทราย กว้าง ๒๐๐ เมตร ยาว ๖๐๐ เมตร วางตัวในแนวยาว ตามทิศตะวันออก-ตะวันตก คะเนดูด้วยสายตาก็เห็นว่ากว้างใหญ่มากจริงๆ เลยล่ะครับ ""บาราย" หรืออ่างเก็บน้ำโบราณขนาดใหญ่ มีมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรขอมแล้วครับ" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:12:43

ความคิดเห็นที่ 12   "จากตรงนี้จะห้ามรถเข้า ต้องอาศัยสองเท้าของตัวเองแล้วล่ะครับ" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:13:25

ความคิดเห็นที่ 13   สิ่งที่โดดเด่นสะดุดตาแก่ผู้พบเห็นทันทีที่มาถึงเขตปราสาทวัดพู ก็คือภูเขาด้านหลังปราสาทที่ตั้งเด่นตระหง่านมองเห็นแต่ไกล รูปร่างคล้ายนมของผู้หญิงและคนเกล้ามวยผม ซึ่งเป็นที่มาของชื่อภูผาแห่งนี้ว่าเขานมสาว แต่ชาวบ้านนิยมเรียก "ภูเกล้า" มากกว่า แต่ในสมัยขอมโบราณจะเรียกว่า "ลึงคบรรพต" "จากจุดนี้มองเห็น "ภูเกล้า"หรือ "ลึงคบรรพต" อยู่ตรงหน้าครับ" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:14:30

ความคิดเห็นที่ 14   อาณาเขตของปราสาทวัดภู เริ่มต้นจากริมฝั่งสระน้ำ โดยมีบันไดทางขึ้นลดหลั่นกันขึ้นมา 3 ชั้น จนถึงองค์ประธานของปราสาทซึ่งอยู่ชั้นบนสุด จากลานจอดรถเราต้องเดินต่อไปไปตามชาลา(ทางเดินเท้า) ระยะทาง ๒๘๐ เมตร ปูพื้นด้วยศิลาทราย ขอบทางเดินตั้งเสานางเรียง ๒ ฟาก เป็นเสาหิน มีสระน้ำขนาดเล็กแทบไม่มีน้ำขังขนาบข้าง ทางเดินโบราณนี้ เชื่อกันว่าสร้างในคริสต์ศตวรรษที่ ๔ นับว่าเก่าแก่มากๆ เลยล่ะครับ "ทางเดินไปปราสาท มีเสานางเรียงขนาบอยู่สองข้างครับ" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:15:19

ความคิดเห็นที่ 15   "แวะพักระหว่างทางครับ" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:15:51

ความคิดเห็นที่ 16   ระหว่างทางขึ้นมีชั้นพักซึ่งมีบรรณาลัยสองแห่งตั้งอยู่คู่กันทางทิศเหนือและใต้ มีผังรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ก่อด้วยหินทราย มีการแกะสลักที่หน้าบัน และลวดลายตามเปลือกผิวหิน มีบริเวณว่างใช้สอยด้านใน ยังไม่ประจักษ์ว่า อาคารทั้งสองหลัง ใช้สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนา หรือเป็นที่พักของกษัตริย์หรือประชาชน แต่ชาวบ้านพากัน เรียกว่า "โรงท้าวกับโรงนาง" อันหมายความถึง ที่ประทับของพระอิศวรสำหรับโรงท้าว กับที่ประทับของมเหสีพระอิศวรสำหรับโรงนาง ปัจจุบันบรรณาลัยทั้งสองนี้มีสภาพทรุดโทรมอย่างมาก ทางราชการลาวและองค์การยูเนสโกกำลังบูรณะอยู่ทำให้ไม่สามารถเข้าชมภายในได้ ที่จุดนี้จะมีร่มเงาจากต้นตาลคู่ให้นั่งพักหลบร้อนกันก่อนจะต้องเดินต่อไปอีกไกลครับ "ปราสาทที่พบแรกสุดบริเวณที่พักชั้นหนึ่ง ชาวลาวเรียกว่า "โรงท้าวโรงนาง"" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:16:54

ความคิดเห็นที่ 17   "ไม่พลาดเก็บภาพเป็นหลักฐานว่ามาถึงวัดพูแล้วครับ" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:17:34

ความคิดเห็นที่ 18   "ดื้อเล็กรูปนี้ ถ่ายบริเวณด้านหลังปราสาทโรงท้าวโรงนางครับ" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:18:12

ความคิดเห็นที่ 19   "แวะพักหายเหนื่อยแล้วก็ไปต่อกันเลยครับ" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:18:50

ความคิดเห็นที่ 20   "ต้นจำปาลาว(ลีลาวดี) ดอกไม้ประจำชาติลาว มีปลูกเรียงรายอยู่ตลอดสองข้างทางเดินขึ้นปราสาทครับ" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:19:28

ความคิดเห็นที่ 21   "ทางเดินขึ้นปราสาท เป็นบันไดสูงชันอยู่เป็นช่วงๆ ครับ" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:20:00

ความคิดเห็นที่ 22   ทางเดินก่อนขึ้นไปถึง "ปราสาทองค์ประธาน" บางช่วงจะเป็นบันไดหินที่สูงชันและแคบมากครับ เรียกว่าต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมากเพราะถ้าพลัดตกลงมาก็อาจได้รับบาดเจ็บรุนแรงได้ เราต้องเดินขึ้นกันจนเหนื่อยเลยครับกว่าจะถึงด้านบนปราสาทองค์ประธาน แต่อย่าเผลอบ่นออกมาว่าเหนื่อยนะครับ เพราะชาวลาวเขามีความเชื่อกันว่า ถ้าบ่นแล้วจะไม่ได้บุญครับ "ทางเดินขึ้นบางช่วงเป็นแผ่นหินวางเรียงกันคล้ายเกล็ดพญานาคครับ" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:20:48

ความคิดเห็นที่ 23   "ปราสาทองค์ประธาน" จะหันหน้าไปทางทิศตะวันออกสู่แม่น้ำโขง สร้างด้วยหินทรายมีขนาดไม่ใหญ่นัก มีทางเข้าสามประตูด้านหน้า และอีกสองประตูด้านข้างซ้ายและขวา ตัวปราสาทสร้างขึ้นริมหน้าผาสูงชันของเขาเก่าใกล้กับแหล่งน้ำซับซึ่งมีน้ำไหลอยู่ตลอดปี เชื่อกันว่าน้ำซับนี้ไหลมาจากยอดซึ่งเป็นเสมือนศิวลึงค์อันศักดิ์สิทธิ์ พบร่องรอยของท่อโสมสูตรเพื่อชะลอน้ำศักดิ์สิทธิ์จากแหล่งน้ำซับนี้ไหลผ่านศิวลึงค์ซึ่งประดิษฐาน ณ ตัวปราสาทและปล่อยให้ไหลสู่บารายเบื้องล่างต่อไป "ถึงปราสาทองค์ประธานแล้วครับ" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:21:57

ความคิดเห็นที่ 24   "ทับหลังรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ อยู่ที่หน้าบันตรงกลางปราสาท" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:22:35

ความคิดเห็นที่ 25   "ทับหลังรูปพระวิษณุทรงครุฑอยู่ที่หน้าบันด้านขวามือ" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:23:06

ความคิดเห็นที่ 26   "รูปสลักนางอัปสร อยู่ข้างประตูด้านซ้ายมือ" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:23:43

ความคิดเห็นที่ 27   "รูปสลักทวารบารคอยอารักขาองค์ปราสาทครับ" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:24:20

ความคิดเห็นที่ 28   "สองเด็กดื้อมาถึงปราสาทวัดพูกันแล้วครับ" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:24:53

ความคิดเห็นที่ 29   "รูปสลักนางอัปสรอีกด้านหนึ่งของประตูกลางครับ" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:25:28

ความคิดเห็นที่ 30   ปราสาทหินวัดพูนี้ ต่อมาภายหลังที่อิทธิพลของขอมสิ้นสุดลงและพุทธศาสนาเข้ามามีอิทธิพล บริเวณนี้จึงกลายเป็นวัดทางพุทธศาสนา มีการชะลอพระพุทธรูปมาประดิษฐานแทนศิวลึงค์ในปราสาทประธาน ชาวบ้านนิยมนำดอกไม้ธูปเทียนมาบูชา และเรียกปราสาทองค์ประธานแห่งนี้ว่า "หอไหว้" และทุกปีในเดือนกุมภาพันธ์ ช่วงวันเพ็ญเดือนสามเป็นเวลารวม 3 วัน จะมีการจัดงานบุญประเพณีวัดพูอย่างยิ่งใหญ่ ชาวลาวนิยมนำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้บูชาตามจุดต่างๆ ภายในงานยังมีการออกร้านขายอาหาร การละเล่น และการแข่งขันอื่นๆ ตามความนิยมของชาวลาว จนถึงวันสุดท้ายของงานจะมีพระสงฆ์ออกมาบิณฑบาตรับข้าวปลาอาหาร และสิ่งของที่ชาวบ้านนำมาทำบุญ "พระพุทธรูปภายในปราสาทองค์ประธาน" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:26:22

ความคิดเห็นที่ 31   "ดอกไม้บายศรีที่ชาวบ้านนำมาบูชาพระ" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:26:53

ความคิดเห็นที่ 32   "องค์พระพุทธรูปอีกมุมหนึ่งครับ" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:27:24

ความคิดเห็นที่ 33   ส่วนทางด้านหลังซ้ายมือของปราสาทองค์ประธานมีแผ่นหินขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีภาพแกะสลักรูป "ตรีมูรติ" ขนาดเกือบเท่าคนจริง ซึ่งหมายถึงเทพเจ้าทั้ง 3 องค์ ผู้เป็นใหญ่ในศาสนาฮินดูได้แก่ พระอิศวร พระนารายณ์ และพระพรหม จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:28:03

ความคิดเห็นที่ 34   ส่วนที่ด้านข้างๆ ของปราสาทองค์ประธานก็มีพระพุทธรูปขนาดเท่าคนประดิษฐานไว้ให้สักการบูชาอีกหนึ่งจุด และสิ่งที่น่าสนใจอีกจุดหนึ่งซึ่งนักท่องเที่ยวหลายๆ คนมักจะมองข้ามไป ก็คือที่เชิงเขาด้านหลังทางฝั่งซ้ายของปราสาท จะมีซอกหินที่มีน้ำธรรมชาติหยดลงมาจากยอดภูเกล้า ชาวลาวเขาถือกันว่านี่คือน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่ใครได้ดื่มกินล้างหน้าล้างตา ก็จะเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต เราเห็นมีบางคนวักน้ำมาดื่ม บ้างก็ใส่ขวดกลับบ้านด้วย ส่วนฝั่งขวามือของปราสาท เดินต่อไปอีกนิดก็จะพบกับ "ภาพสลักหินรูปจระเข้" เป็นการสลักหินแบบร่องลึก ที่สามารถจับจระเข้ตัวจริง ไปอัดขังอยู่ในร่องรอยรูปนั้น และฆ่าเพื่อบวงสรวงพิธีกรรมได้ บางคนสันนิษฐานว่า ร่องลึกรูปจระเข้ยังสามารถบังคับคนเข้าไปอยู่ในร่องนั้น ก่อนจะถูกฆ่าสังเวยอะไรบางอย่าง นอกจากนั้นยังมีภาพสลักรูปหัวช้าง และรูปสลักบันไดนาคให้เดินชมกันอีกด้วย "ภาพสลักหินรูปจระเข้ เชื่อกันว่าในอดีตเคยใช้เป็นแท่นบูชายัญ" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:29:01

ความคิดเห็นที่ 35   "ภาพสลักบันไดนาค อยู่ตรงข้ามกับหินสลักรูปจระเข้" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:29:34

ความคิดเห็นที่ 36   นอกจากนี้ที่บนยอดเขาปราสาทองค์ประธานก็ถือเป็นจุดชมวิวชั้นดี คือเมื่อมองย้อนทางเดินขึ้นลงไปก็จะเห็นบารายขนาดใหญ่ เห็นท้องทุ่งกว้าง เห็นคนเดินขึ้นเขา เห็นต้นจำปาที่ขึ้นเป็นซุ้มสวยงาม รวมถึงเห็นทิวทัศน์ส่วนหนึ่งของแขวงจำปาสักด้วยครับ "วิวมุมสูงมองจากยอดเขาองค์ปราสาท" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:30:16

ความคิดเห็นที่ 37   "ดื้อใหญ่ขอผูกข้อมือสู่ขวัญจากแม่ใหญ่ชาวลาวครับ" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:30:54

ความคิดเห็นที่ 38   "ดื้อเล็กไม่ยอมน้อยหน้า ขอผูกข้อมือบ้างครับ" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:31:26

ความคิดเห็นที่ 39   เราใช้เวลาเที่ยวชม "ปราสาทหินวัดพู" กันเกือบสองชั่วโมง หลังจากนั้นจึงออกเดินทางมุ่งสู่ "ด่านชายแดนช่องเม็ก" เพื่อทำเรื่องผ่านแดนกลับสู่ประเทศไทยบ้านเรา ถึงด่านประมาณบ่ายสามโมง แวะช้อปปิ้งเลือกซื้อสินค้าที่ร้านค้าปลอดภาษีฝั่งลาวอยู่พักนึง หลังจากนั้นก็ต้องไปติดต่อทำเรื่องผ่านแดนที่ด่านฝั่งลาว ขาออกต้องเสียเงินอีกคนละ 50 บาท ส่วนด่านฝั่งไทยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ออกจากด่านก็เย็นมากแล้ว เราแวะพักในตัวเมืองอุบลราชธานีอีก 1 คืน และเดินทางกลับปราจีนบุรีในเช้าวันรุ่งขึ้น ขากลับรถบนท้องถนนหนาแน่นมากเพราะเป็นวันหยุดปีใหม่วันสุดท้าย ทุกคนก็เริ่มทยอยกันเดินทางกลับไปทำงานต่อ แต่ถึงกระนั้นรถก็ยังพอไหลไปได้เรื่อยๆ โชคดีที่เราออกเดินทางค่อนข้างเช้า เพราะหลังจากกลับมาถึงบ้านก็ได้ยินข่าวว่ามีอุบัติเหตุใหญ่บนเส้นทางที่เราใช้เดินทางกลับ จนทำให้การจราจรติดขัดนานกว่าสิบชั่วโมงเลยล่ะครับ "มาเที่ยวครั้งนี้ ดื้อใหญ่ได้ของฝากจากลาวกลับไปด้วยครับ" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:32:30

ความคิดเห็นที่ 40   "ลาก่อนประเทศลาว แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้า" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:33:01

ความคิดเห็นที่ 41   "กลับเมืองไทยกันเสียที ไม่มีแผ่นดินไหนน่าอยู่เท่าบ้านเราเองครับ" จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:33:34

ความคิดเห็นที่ 42   ทริปลาวใต้ของเราในครั้งนี้ นับเป็นการเดินทางที่น่าประทับใจอีกครั้งหนึ่ง ถือเป็นการเปิดประตูสู่โลกกว้างของเรา แม้จะเป็นแค่ประตูบานเล็กๆ แต่ก็ให้ประสบการณ์ใหม่ๆ มากมาย นับเป็นกำไรชีวิตที่ควรค่าแก่การเสาะแสวงหา และเราหวังไว้ว่าคงจะได้มีโอกาสกลับมาเยือนเมืองลาวอีกครั้ง ไม่วันใดก็วันหนึ่งข้างหน้า ลาก่อนจำปาสัก ลาก่อนประเทศลาว แล้วเราคงได้เจอกันอีก "สะบายดี" ครับ จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:34:14

ความคิดเห็นที่ 43   ตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะ...เฝอเนื้อเปื่อยหน้าตาน่าทานจังค่ะ ^^ จากคุณ : Nordlys เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 02:45:43

ความคิดเห็นที่ 44   น่าสนใจมากค่ะ ชอบเที่ยวปราสาทหินเก่าๆแบบนี้ เดี๋ยวย้อนไปดูกระทู้ก่อนหน้านะคะ จากคุณ : ตรีนุช3903 เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 03:17:15

ความคิดเห็นที่ 45   ตามมาชมภาพสวยๆ เช่นเคยครับ สวยมากมาย เฝอน่าทานมากๆ เลยครับ น้ำลายหกเลย... จากคุณ : Chef Oliver เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 06:24:57

ความคิดเห็นที่ 46   สองดื้อไปถึงลาวแล้วเหรอเนี้ย ท่าทางจะสนุกกันเชียว ^^ จากคุณ : หนูกิต เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 07:32:27

ความคิดเห็นที่ 47   ลูกๆน่ารักมากเลยค่ะ เฝอร้านลานคำอร่อยจริงค่ะ หนับหนุน ๆๆ จากคุณ : Sugarbean เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 07:40:58

ความคิดเห็นที่ 48   รูปสวยมากๆครับ   ดื้อใหญ่ ดื้อเล็ก ยิ้มแป้นเชียว น่ารักจริงๆ ครับ จากคุณ : One Light One Shadow เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 07:41:50

ความคิดเห็นที่ 49   รูปสวยจังเลยค่ะ สองดื้อก็น่ารักตลอดทริปเลย   ขอบคุณสำหรับรีวิวเต็มอิ่มและสวยๆ ทุกตอนด้วยนะคะ @^_^@ จากคุณ : CX gal เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 08:28:58

ความคิดเห็นที่ 50   ตามอยู่คร้าบบบบบบ จากคุณ : ประธานชมรมคนมีแฟนน่ารัก เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 08:36:42

ความคิดเห็นที่ 51   ตามมาเที่ยวต่อค่ะ ^^ จากคุณ : ยูโด เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 08:47:41

ความคิดเห็นที่ 52   ถ่ายรูปสวย สุดๆเลยครับ..ข้อมูลปราสาท แน่นปึ้ก... ^___^ ยืนยัน นั่งยัน นอนยันอีกคนว่า เฝอเนื้อ ร้านลานคำ อร่อยมากครับ..กลิ่นน้ำซุป นี่หอมกระเจิง ได้กลิ่นก่อนที่จะเดินถึงร้านซะอีก ^O^.. ดื้อเล็ก ดื้อใหญ่น่ารักมากครับ... จากคุณ : TonTon1977 เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 09:15:06

ความคิดเห็นที่ 53   มาชมต่อแล้วครับ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 09:40:35

ความคิดเห็นที่ 54   สวยงามมาก ขอบใจหลาย ได้ชิมข้าวปุ้นบนแพข้าใฟกไหมครับ จากคุณ : moritoom เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 10:00:05

ความคิดเห็นที่ 55   ตามต่อครับ ยิ้มของเด็กๆช่างมีความสุขจังเลยครับ ขอบคุณนะครับสำหรับภาพสวยๆ จากคุณ : inint&anant เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 11:10:56

ความคิดเห็นที่ 56   เด็กดื้อ เก่งจัง เดินขึ้นปราสาทวัดพู แล้วหน้าตายังยิ้มแย้มแจ่มใส ตอนป้าไป หน้าซีดยังกะไก่ต้ม เหนื่อยลิ้นห้อย จากคุณ : MaysitO เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 12:15:52

ความคิดเห็นที่ 57   มาชมความสวยของเพื่อนบ้าน  กับความน่ารักของหลาน ๆ ครับ จากคุณ : bluebayou (tiger's nest) เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 12:28:49

ความคิดเห็นที่ 58   มาขอบคุณทุกท่านที่แวะมาทักทายกันครับ เมื่อคืนแอบมา post รีวิวไว้กลางดึกช่วงคนเข้า web น้อยๆ เพราะกลัวกระทู้ด๋อยครับ ช่วงนี้โรคด๋อยกำลังฮิต ----------------------------------------------------------------------------- คุณ Nordlys ......... เฝอลานคำ นอกจากหน้าตาน่าทานแล้ว รสชาติยังดีจริงๆ ครับ คุณ ตรีนุช3903 ......... ถ้าชอบปราสาทหิน ก็น่าจะชอบวัดพูนะครับ เพราะมีอะไรให้ดูเยอะเลยครับ คุณ Chef Oliver ......... ขอบคุณที่แวะมาครับ พูดถึงเฝอร้านนี้ผมคิดแล้วยังอยากไปทานอีกเลยครับ คุณ หนูกิต ......... ครั้งนี้พาสองเด็กดื้อไปเปิดหูเปิดตาไกลหน่อยนะครับ เด็กๆ สนุกกันใหญ่เลยครับ คุณ Sugarbean ......... ขอบคุณครับ ก่อนไปคราวนี้ผมก็ดูข้อมูลจากกระทู้รีวิวลาวใต้ของคุณ Sugarbean ไปเหมือนกันครับ ได้ประโยชน์มากเลยครับ คุณ One Light One Shadow ......... ขอบคุณที่ติดตามชมรีวิวกันบ่อยๆ ครับ คุณ CX gal ......... เด็กสองคนนี่ บางทีก็ดื้อเอาไม่อยู่เหมือนกันครับ ไม่ได้ทำตัวเรียบร้อยน่ารักตลอดหรอกครับ คุณ ประธานชมรมคนมีแฟนน่ารัก .......... ขอบคุณที่ติดตามชมรีวิวครับ คุณ ยูโด .......... ขอบคุณที่ติดตามกันมาจนถึงตอนจบนะครับ คุณ TonTon1977 .......... ได้อ่านทริปลาวใต้ของคุณ TonTon1977 จากใน blog แล้วครับ ดูน่าสนุกเหมือนกัน ยกเว้นการเดินทางวันแรกที่มีอุปสรรคตลอดทาง คุณ ม่วงมหากาฬ .......... ตอนนี้ตอนสุดท้ายแล้ว ขอบคุณที่แวะมาชมนะครับ คุณ moritoom .......... บอกตามตรงว่าไม่กล้าทานข้าวปุ้นบนแพครับเพราะไม่แน่ใจเรื่องความสะอาด กลัวท้องเสียเดี๋ยวเที่ยวไม่สนุกครับ คุณ inint&anant ........... เด็กๆ สนุกกันมากกับทริปนี้ครับ เลยอารมณ์ดีแบบนี้ คุณ MaysitO ...........ดื้อเล็กนี่ต้องให้ผมอุ้มขึ้นไปครับ ส่วนดื้อใหญ่เดินเองแทบทั้งหมด เด็กๆ นี่บางทียังมีแรงฮึดมากกว่าผู้ใหญ่อบ่างเราๆ เลยนะครับ คุณ tiger's nest .......... ขอบคุณที่แวะมาเที่ยวไปกับสองเด็กดื้อครับ จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 13:01:53

ความคิดเห็นที่ 59   ตามเที่ยวต่อค่า ชอบรูป#39 ค่ะ อยากฟังเด็กดื้อ เป่าจริงๆเลย รีวิวได้ดึกมาเลยค่ะ ต้องแอบมาตามเอาตอนบ่าย ^^ จากคุณ : หนูกังหันลมกับน้องใบพัด เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 13:04:19

ความคิดเห็นที่ 60   แวะมาแอ่วลาวใต้ครับ เห็นภาพแล้ว ต้องหาโอกาสตามรอยบ้างซะแร้ว จากคุณ : 3KKK เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 14:10:00

ความคิดเห็นที่ 61   ตามเด็กดื้อผู้น่ารักทั้ง 2 มาเที่ยวและชมภาพสวยๆ ต่อครับผม อิอิ เห็นเด็กๆมีความสุข ผมก็มีความสุขไปด้วยครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆ นะครับ จากคุณ : P.S. i love you เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 14:45:31

ความคิดเห็นที่ 62   ขอบพระคุณมากๆครับผม จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 14:54:59

ความคิดเห็นที่ 63   ภพสวยเด็กๆน่ารักมากๆเลยครับ จากคุณ : ข้าวเสาไห้ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 16:01:11

ความคิดเห็นที่ 64   เป็นรีวิวที่น่ารักเหมือนเคยเลยครับ จากคุณ : นายโอเลี้ยง (ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง) เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 16:46:07

ความคิดเห็นที่ 65   แวะมาชมครับ ดื้อเล็กน่ารักมากกกกกกก ไว้เจอจะขอหยิกแก้มสักทีนะครับ จากคุณ : the Sixth Floor เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 19:35:37

ความคิดเห็นที่ 66   เฝอน่าทานจริงๆครับ ขอบคุณที่พาเที่ยวปราสาทหินวัดพูนะครับ จากคุณ : tataweb เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 22:54:59

ความคิดเห็นที่ 67   เที่ยวลาวด้วยจ้า ดูท่าทางเจ้าสองคนจะยิ้มแย้มแจ่มใสเลยน๊าเวลาได้เที่ยวเนี่ย จากคุณ : จูลายกะปลายฟ้า (July 15th) เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 23:17:43

ความคิดเห็นที่ 68   ...ตามเด็กดื้อมาเที่ยวลาวต่อนะคะ อิอิ น่ารักจังเลยค่ะ เห็นแล้วอยากกอดสักทีอ่ะค่ะ ^-^ จากคุณ : จูลายกะปลายฟ้า^-^ (ปลายฟ้าที่ภูตะวัน) เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 23:17:51

ความคิดเห็นที่ 69   อิจฉาจังเลยค่ะ มีดื้อเล็ก ดื้อใหญ่ น่ารัก น่ากอดมากกกกก แต่ดื้อสาวเนี่ย สวยน่ารักเหมือนกัน นะคะ อิอิ ว่าแต่ดื้อใหญ่เป่าแคนเป็นเพลงอ่ะป่าวน๊า....อิอิอิ ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ จากคุณ : pao_nowara เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 53 23:27:03

ความคิดเห็นที่ 70   เฝอเนื้อขาลาย โอ้โห เฝอลาวเนื้อขาลายชามใหญ่ อลังการมาก มีเครื่องเคียงอีกเพียบ ถึงจะแพงก็ต้องทานเพราะหิวจัดแล้ว ชามเล็กก็ไม่อิ่ม จากคุณ : Innocent เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 00:32:38 A:173.73.104.176 X: TicketID:141679

ความคิดเห็นที่ 71   คุณ หนูกังหันลมกับน้องใบพัด .......... ตอนกลางวันคนเข้า pantip เยอะ กลัวกระทู้ด๋อย เลยต้องแอบมารีวิวดึกๆ ครับ คุณ 3KKK ........... ไว้ผมจะหาโอกาสไปตามรอยแถววังเวียงตามรีวิวคุณ 3KKK บ้างเหมือนกันครับ คุณ P.S. i love you .......... ขอบคุณมากครับที่แวะมาเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ คุณ digimontamer .......... ขอบคุณที่แวะมาทักทายกันครับ คุณ ข้าวเสาไห้ .......... ขอบคุณแทนสองเด็กดื้อด้วยครับ คุณ นายโอเลี้ยง (ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง) .......... ขอบคุณที่แวะมาชมรีวิวครับ คุณ the Sixth Floor ........... ขอบคุณแทนดื้อเล็กด้วยนะครับ คุณ tataweb ........... เฝอร้านนี้อร่อยมากครับ ขอบคุณที่แวะมานะครับ คุณ July 15th .......... สองดื้อเที่ยวกันจนติดแล้วครับ เดี๋ยวเสาร์นี้ก้ไปเที่ยวอีกแล้ว คุณ ปลายฟ้าที่ภูตะวัน .......... ถ้าฟลุ๊กเจอกันตามสถานที่ท่องเที่ยวก็แวะมากอดเด็กดื้อได้เลยครับ คุณ pao_nowara ......... ดื้อใหญ่ได้แค่เป่าครับ ไม่เป็นเพลงแน่ๆ ครับ คุณ Innocent ......... ผมก็ทานชามใหญ่เหมือนกันครับ อิ่มกำลังดีเลยล่ะครับ จากคุณ : NET-MANIA เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 13:07:52

ความคิดเห็นที่ 72   ตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ ตกรถมาช้าไปนิด อิอิ เฝอเนื้อลายน่าทานมาก เหมือนเตี๋ยวเนื้อบ้านเราเลย แต่เค้ามีเครื่องปรุงอะไรบ้างคะ จากคุณ : มาเรีย ณ ไกลบ้าน เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 15:32:04

ความคิดเห็นที่ 73   แวะมาตามไปด้วยคนนะครับ ภาพสวยมาก ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ จากคุณ : กัปตันลูกชุบ เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 53 23:14:08

ความคิดเห็นที่ 74   ตามเด็กๆ มาเที่ยวครับ ยังสนุกเหมือนเคย...   ขอบคุณที่มารีวิวให้ดูครับ  แล้วจะตามไปซักวัน จากคุณ : Tamakuji เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 10:49:57

ความคิดเห็นที่ 75   ตามมาชมต่อภาคจบ ขอบคุณครับ.... จากคุณ : ภูน้ำฟ้า เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 53 21:32:30

ความคิดเห็นที่ 76   ตามมาเที่ยวกับพี่ดื้อ ดีกว่า ... ดูเหมือนแดดจะแรงเหมือนกันนะครับ กลัวพี่ดื้อไม่ฉะบายจัง จากคุณ : arrthai เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 53 00:00:00

ความคิดเห็นที่ 77   ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ ละเอียดดีมากๆเลย เยี่ยมๆ จากคุณ : Galaxian Explosion !!! เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 53 01:24:49