ความคิดเห็นที่ 1   การเดินทางของผมในวันนี้เป็นวันที่เหนื่อยที่สุดในชีวิตตั้งแต่ท่องเเที่ยวญี่ปุ่นมา เป็นการแบกน้ำหนักตัวเองและกล้องอีกประมาณ 10 กิโลกรัมขึ้นหลังแล้วเดินทางขึ้นเขาตามบันไดลาดชันกว่า 1100 ขั้น การเดินทางขึ้นเขาผมได้หยุดเป็นระยะๆ ตามขั้นบันได เพราะความเหนื่อย ผมไม่ได้เตรียมตัวมาในการขึ้นเขาแบบนี้ ทำให้ผมได้หวนคิดถึงอะไรมากมาย ทุกครั้งที่ผมไม่สบาย หรือ เหนื่อยท้อแท้ แม่จะอยุ่เคียงข้างผมเสมอ ซึ่งกว่าจะผ่านอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ไปได้ก็คือ ใจของตนที่อยากจะลงเขาตั้งแต่ 100 ขั้นแรก  ..... และในที่สุดผมก็ผ่านมาได้พร้อมความเหน็ดเหนื่อยด้วยอาการปวดร้าวไปทั้งตัว .....และผมได้นั่งน้ำตาซึมตรงยอดเขานั่นเอง .... ผมคิดถึงแม่ที่จากไปแล้วครับ ดังนั้นการขึ้นเขาครั้งนี้นอกจากจะไปตามตารางที่ตัวเองตั้งใจไว้ ในใจก็คิดอธิษฐานขอให้บุญกุศลที่ได้มาไม่ว่าเท่าไหร่ก็ตามนั้นจงส่งต่อไปยังบุพการีและญาติผู้ใหญ่ของผมทุกท่านทั้งที่มีชีวิตอยู่และที่จากไปแล้ว แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 52 11:39:31 จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 11:38:43

ความคิดเห็นที่ 2   Yamagata เป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงในเรื่องของภูมิทัศน์ที่สวยงามในทุกฤดู ไม่ว่าจะเป็นทะเลสาบ Okama บนปล่องภูเขาไฟ ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ Dewa Sanzan และวัด Yamadera อีกทั้งสกีรีสอร์ทที่สวยงามที่เปิดบริการต้อนรับนักท่องเที่ยวในยามฤดูหนาว ลักษณะของจังหวัด  Yamagata มีลักษณะเป็นก้นกระทะ ดังนั้นคุณผู้อ่านที่เคยชมรายการ Wabi Sabi  ของคุณฮิโรซัง คงจำกันได้ว่าที่ร้านทำผมแห่งหนึ่งมีแชมพูแช่เย็นไว้สระผมให้ลูกค้า เนื่องจากลักษณะกระทะนั้นทำให้อุณหภูมิที่นี่ในฤดูหนาวก็หนาวจัด ส่วนในฤดูร้อนก็ร้อนจัด จนเคยทำสถิติร้อนที่สุดให้ประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว แต่ด้วยลักษณะภูมิอากาศเช่นนี้หรือเปล่าที่ทำให้ Yamagata กลายเป็นที่รู้จักในด้านแหล่งปลูกผลไม้จนได้สมญานามว่า “Orchard Kingdom.”  ที่นี่เป็นแหล่งเพาะปลูกเชอรี่และสาลี่ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น อีกทั้ง อาทิ องุ่น แอปเปิ้ล พีช แตง และแตงโม ดังนั้นเมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวที่นี่จึงเป็นแดนสวรรค์สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน Yamagata เพื่อชิมผลไม้สดๆ จากต้นเลยทีเดียว จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 11:40:52

ความคิดเห็นที่ 3   หลังจากกลับมาจาก Yamagata แล้ว ทำให้ผมต้องค้นคว้าบทความเกี่ยวกับการเดินเท้าขึ้นเขาหรือบันได เนื่องจากสถานที่ที่ผมจะพาคุณผู้อ่านไปเที่ยวนั้นต้องใช้พละกำลังใจการเดินทางเลยทีเดียว เกิดคุณผู้อ่านต้องการไปเที่ยวที่นี่นอกจากจะได้บุญแล้วยังได้ออกกำลังกายไปในตัวด้วยครับ   จากบทความของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)  ได้อธิบายถึงการออกกำลังกายโดยขึ้นบันไดเป็นการออกกำลังกายที่สามารถทำได้ง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน โดยการขึ้นบันไดประมาณ 15 นาที จะมีการเผาผลาญพลังงานประมาณ 150 แคลอรี่ต่อครั้ง ซึ่งคณะผู้เชี่ยวชาญได้เสนอแนะว่า การออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที ทุกวันหรืออย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ จะได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น คิดในเชิงของพลังงานจะมีการเผาผลาญพลังงานประมาณ 300 แคลอรี่ต่อวัน เป็นปริมาณของการออกกำลังกายที่เหมาะสม เป็นผลดีต่อสุขภาพอย่างมาก ข้อดีของการออกกำลังแบบขึ้น-ลงบันได -  เป็นการออกกำลังแบบ aerobic หัวใจจะแข็งแรง -  กล้ามเนื้อต้นขา น่องและก้นจะแข็งแรง -  สามารถออกกำลังกายในร่ม -  มีอาการปวดข้อน้อยกว่าการวิ่ง -  การขึ้นบันไดสำหรับหญิงวัยทอง ช่วยเสริมสร้างกระดูกได้ด้วย พูดถึงขั้นบันไดแล้ว คุณผู้อ่านคงทราบแล้วนะครับว่าผมจะพาไปไหน Yamedera นั่นเอง จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 11:43:50

ความคิดเห็นที่ 4   มีคำพูดกล่าวต่อๆ กันว่า ถ้าใครมาเยือนภูมิภาค Tohoku แล้วไม่มาที่ Yamedera แห่งนี้ก็คือว่ามาไม่ถึง ภูมิภาค Tohoku  เนื่องจากเป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว เรามารู้จัก Yamedera จากบางส่วนในบทความของคุณเพ็ญศิริ จันทร์ประทีปฉาย จากเวปไซด์ http://www.sarakadee.com/ กันครับ ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าภูเขาสูงคือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันเปรียบได้กับพรมแดนระหว่างดินแดนของมนุษย์กับพระเจ้า ยามาเดระ (Yamadera) ที่แปลว่า วัดบนภูเขา ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในภูมิภาคโทโฮขุ มีชื่อจริงว่า วัดริชชะคุจิ (Risshakuji) ตั้งอยู่บนภูเขาโฮจุ-ซัง ริชชะคุจิ (Hoju-san Risshakuji) ในเมืองยามางาตะ จังหวัดยามางาตะ แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 52 11:45:45 จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 11:45:19

ความคิดเห็นที่ 5   จิคาขุ ดาอิชิ เอ็นนิน เป็นพระสงฆ์ที่ก่อตั้งวัดสำคัญ ๆ หลายวัดในโทโฮกุ รวมถึงยามาเดระแห่งนี้ที่ท่านสร้างขึ้นในปี 860 เพื่อเป็นสาขาของวัดเอ็นเรียะคุจิ (Enryakuji) วัดต้นกำเนิดของศาสนาพุทธนิกายเทนได ซึ่งอยู่บนภูเขาฮิเอ (Hiei) ในเมืองเกียวโต วิหารคอนปอน-ชูโดะ (Konpon-chudo) ที่ด้านล่างสุดของยามาเดระ คือสิ่งก่อสร้างที่พระเอ็นนินสร้างขึ้นเป็นหลังแรก วิหารนี้ได้รับการบูรณะอีกครั้งในปี 1356 เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่อายุ 800 ปี และ “เปลวไฟศักดิ์สิทธิ์” จากวัดเอ็นเรียะคุจิ ซึ่งไม่เคยดับลงเลยตลอดเวลากว่า 1,100 ปีที่ผ่านมา จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 11:47:01

ความคิดเห็นที่ 6   ปาด...แหมชอบเพลงนี้จังค่ะ คงได้บรรยากา๋ศมากๆ ถ้าฟังในที่สวยๆ แบบนี้ จากคุณ : Soul Monogatari * เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 11:47:06

ความคิดเห็นที่ 7   ในประวัติการสร้างยามาเดระ มีเรื่องน่ารัก ๆ ตอนหนึ่งเล่าไว้ว่า เมื่อพระเอ็นนินเดินทางมาพบภูเขาแห่งนี้ และเกิดความประทับใจในธรรมชาติอันเงียบสงบและงดงาม จึงได้บอกเจ้าเมืองว่าอยากจะสร้างวัดขึ้นที่นี่ พร้อมทั้งขอให้เจ้าเมืองออกกฎห้ามล่าสัตว์บนภูเขา แม้เจ้าเมืองเองจะชอบการล่าสัตว์ แต่เขาก็ทำตามคำขอของพระเอ็นนิน เหล่าสัตว์ป่าได้ยินดังนั้น จึงพากันร้องเพลงเต้นระบำเฉลิมฉลองให้แก่การตัดสินใจของเจ้าเมือง ตลอดทางเดินหนึ่งพันขั้นบันไดจากตีนเขาถึงยอดเขา มีสิ่งก่อสร้างกว่า 40 หลังอายุหลายร้อยถึงหลายพันปี ซึ่งเป็นมรดกล้ำค่าของประเทศ ทั้งวิหาร ศาลเจ้า หอระฆัง ซุ้มประตู อาราม หอไตร สุสานของพระเอ็นนิน ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นบุคคลสำคัญที่เคยมาเยือนยามาเดระ ซึ่งก็รวมถึง มะสึโอะ บาโช ที่ได้มาที่นี่เมื่อปี 1689 และได้พรรณนาถึงความงามและความเงียบสงบของสถานที่แห่งนี้ไว้ใน The Narrow Road to the Deep North อีกเช่นกัน จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 11:48:35

ความคิดเห็นที่ 8   คุณ Soul Monogatari * เราไปขึ้น Top Of The World ด้วยกันครับ ******************************** “ การเดินขึ้นภูเขาเป็นการปฏิบัติสมาธิภาวนาอย่างหนึ่ง ในสายการปฏิบัติที่เรียกว่า mountain buddhism การเดินคือหนทางแห่งการชำระล้างจิตใจให้สงบ สะอาด ก่อนจะไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ” จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 11:51:03

ความคิดเห็นที่ 9   เมื่อการเดินทางมาถึงจุดสูงสุด .... Top Of The World ความเหนื่อยล้า ..... ความเศร้า ได้บรรเทาเบาบางลง ..... แล้วมองลงไปยังเบื้องล่าง..... ช่างเป็นภาพที่สวยงามเหลือเกิน .... จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 12:00:08

ความคิดเห็นที่ 10   ที่นี่เป้นศาลาชมวิวนะครับ ... บางคนก็นอนแผ่หราเลย ...... ผมก็อยากแผ่หราด้วยคน จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 12:01:39

ความคิดเห็นที่ 11   เห็นครอบครัวน่ารักๆ แล้ว ..... คิดถึงเมืองไทยเหลือเกิน จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 12:03:03

ความคิดเห็นที่ 12   แงๆ..Soul เคยตามเค้าไปปีนเขาครั้งนึง เข็ดแล้วค่ะ เดินไปร้องไห้ไป _ _ ` เหนื่อยสุดๆ แต่พอถึงที่หมายแล้วร้องไห้ประทับใจซะงั้น!! วัดของญี่ปุ่นเนี่ยยิ่งอยู่ตามเขาตามป่ายิ่งดูขลัง สวยสงบนะคะ ถ้าโอกาสอำนวย ต้องจัดทริปบ้างแล้วเพราะชอบดูวัดมากๆ ขอบพระคุณค่ะ จากคุณ : Soul Monogatari * เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 12:12:47

ความคิดเห็นที่ 13   ผมไปอ่านเจองานเขียนน่ารักๆ เกี่ยวกับการขึ้นบันไดมา เพื่อให้กำลังใจตัวเองถ้ามีโอกาสไปเยี่ยมที่นี่อีกครั้ง   เรื่อง : อยากขึ้นบันได.. ณ ..เวลานี้ .. ถ้ามีระหว่างลิฟท์ กับ บันได .....ให้ผมเลือกขึ้น ผมจะไม่ขึ้นลิฟท์ เพราะ ผมอยากขึ้นบันได มากกว่า.... เพราะ ..มันท้าทาย และวัดใจ ท้าความอดทน แถมได้ออกกำลังขา ไปด้วยในตัว เพราะ.. ผมไม่หวังให้มันถึง บันไดขั้นสุดท้าย ไวไว .. และ......ถึงแม้นว่า ....บันได ที่ผมขึ้น จะไม่มีขั้นสุดท้าย ก็ตาม ...ผมก็ไม่กลัว และไม่ท้อถอย ผมจะขอ... เดิน.. ต่อไป ..ขึ้นไป .. ต่อไป เดิน เดิน เดิน ก้มหน้าเดิน ต่อไป.... เดินไปด้วย หัวใจที่ยิ่งใหญ่ ....และเสียสละ ...... เดินไปพร้อมกับ รอยยิ้ม สายตาผม .....จะไม่แหงนคอ ..จะไม่มองขึ้นไป ... สมองผมจะไม่คิดว่า ...เมื่อไหร่ ผมจะได้หยุดเดิน ...เพราะถึงขั้นสุดท้าย ถึงผมจะเหนื่อย และท้อแท้ กับการขึ้นบันได อย่างไร.... ผมก็จะไม่พา ตัวเอง ออกไปนั่งข้างๆ ทาง..... แต่จะขอหยุดพัก ...เหนื่อย.... อยู่บนบันได เพราะผม สงสารบันได .... จะไม่ยอมให้ อยู่อย่างโดดเดี่ยว เป็นอันขาด ผมจะอยู่ เคียงข้าง บันได .... ของผม แม้นยามที่ผม.... อ่อนล้า...ก็ตาม และ ...ผมจะก้มหน้าเดิน ...ต่อไป ช้าบ้าง เร็วบ้าง หยุดบ้าง .... ตามแต่โอกาส และจะ ยิ้มให้ กับ บันได ทุกขั้น ที่ผม ...ก้าวผ่านขึ้นมาแล้ว อย่างบรรจง เพราะการขึ้นบันได ของผม .... ไม่ได้มีเป้าหมาย เพื่อให้ ได้ไปถึงสิ่งที่สูงกว่า ไม่ได้ต้องการไปให้ถึงขั้นสุดท้าย... เพราะไม่อยากหยุดเดิน .. แต่เป็น ..การทนุถนอม แต่ละย่างก้าวของ ผม... ให้มีค่าทางความรู้สึก ตลอดไป ขอบคุณบันได โดยคุณยอด – Rui  - http://pha.narak.com/topic.php?No=13883 จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 12:29:34

ความคิดเห็นที่ 14   ถึงวันนี้ผมได้สัมผัส Yamedera  เพียงไม่กี่ชั่วโมง แต่ Yamedera ก็สอนผมให้รู้ถึงคำว่า อุปสรรคมีไว้ให้วิ่งเข้าหา..... ไม่ได้มีไว้เป็นภาระต่อชีวิต ผมเงยดูแสงตะวันสุดท้ายก่อนที่จะลับไปจากฟ้าของ Yamedera ด้วยความเข้าใจในอีกหนึ่บทเรียนชีวิตที่เพิ่งได้รับมา ผมบอกกับตัวเองว่าวันใดที่ผมพร้อมทั้งกายและใจ ผมจะกลับไป Yamedera ..... เพื่อตั้งใจสร้างกุศลส่งให้แก่คนที่ผมรักอีกครั้ง   แล้วพบกันใหม่ครับ การเดินทาง : จากสถานี Yamedera  เดินไปถึงตีนเขาประมาณ 700 เมตร แล้วเดินขึ้นบันไดต่อไปอีก 1100 ขั้น แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 52 12:54:20 จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 12:36:14

ความคิดเห็นที่ 15   มาติดตามผลงานของคุณติวเตอร์ตู่ครับ จากคุณ : Civict2003 เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 12:36:19

ความคิดเห็นที่ 16   ตามมาด้วยคน ครับ อิอิ จากคุณ : นายฟ้าใส เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 12:45:22

ความคิดเห็นที่ 17   คุณ ติวเตอร์ตู่ จากคุณ : keep it up เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 13:19:44

ความคิดเห็นที่ 18   ดู wabisabi เหมือนกันค่ะ  แชมพูแช่เย็นนี่แช่กันดื้อๆเลย -"-   วันนี้ตามมาขึ้นบันไดแสวงบุญในกระทู้นี่ล่ะค่ะ ไม่เหนื่อยดี  หลังทริปนี้ ไปขึ้นบันไดกำแพงเมืองจีนแก้เมื่อยท่าจะดีนะคะ ^^;;; จากคุณ : ก่วยก๊วยตาลสด เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 13:25:00

ความคิดเห็นที่ 19   ผมรักเพลงนี้มาก รูปก็สวยน่าไปสุดๆครับ จากคุณ : PichPo เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 13:40:29 A:58.8.181.127 X: TicketID:246458

ความคิดเห็นที่ 20   ขอบคุณเพื่อนทุกท่าน ที่มาเยี่ยมเยียนกันอย่างสม่ำเสมอ ... ไดอารี่ยังไม่จบ พบกันใหม่ปีหน้า และที่คิวชู .... ยังบอกเดือนมะได้ .. สุขสันต์วันปีใหม่ 2553 ครับ .. เฮง เฮง เฮง ... เดินทางเข้ากทม. ก่อนนะครับ เจอกันหลังปีใหม่ จากคุณ : ติวเตอร์ตู่ (CEOTHAI42) เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 16:39:57

ความคิดเห็นที่ 21   สวัสดีปีใหม่ค่ะ มาชมรูปสวย ๆ ตามเคยค่ะ จากคุณ : Ganit เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 52 21:09:57

ความคิดเห็นที่ 22   อด จากคุณ : ว่านน้ำ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 00:46:20

ความคิดเห็นที่ 23   อืม....เดี๋ยวไปซ้อมขึ้นบันไดที่ภูเขาทองล่ะกัน...ใกล้ดี จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 03:56:50

ความคิดเห็นที่ 24   สวยงามทุกภาพเลยค่ะ  ญี่ปุ่นนี่สวยทุกที่เลย   ขอบคุณสำหรับภาพสวยๆและคำบรยายพร้อมความรู้นะคะ สวัสดีปีใหม่ 2553 ค่ะ จากคุณ : Red-Rose-14Feb เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 10:30:02

ความคิดเห็นที่ 25   งามมาก ๆ ค่ะ สวัสดีปีใหม่นะคะ จากคุณ : i_lllive เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 11:09:45

ความคิดเห็นที่ 26   ใครจะสนใจจะไปไปตามรอยทริป ติวเตอร์ตู่ แต่ว่าเป็นช่วงหน้าหนาวก็ตามนี้ครับ ขอเตือนว่าต้องใส่สโนว์แพดไปด้วย วันที่ไป ผมลืมไว้ในล็อกเกอร์ที่เซนได งานนี้เสี่ยงชีวิตแท้ๆ จากคุณ : MedicinePath เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 11:27:02

ความคิดเห็นที่ 27   แต่บอกได้เลยว่าคุ้มค่าครับ จากคุณ : MedicinePath เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 11:27:41

ความคิดเห็นที่ 28   รูปนี้วิวเดียวกับ คห. 9 จากคุณ : MedicinePath เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 11:28:34

ความคิดเห็นที่ 29   เดินตามรอยไปเหมือนกันค่ะ แต่กว่าจะขึ้นก็ 4 โมงเย็นแล้ว เดินไป แวะถ่ายรูปไป สรุป ไปไม่ถึงจุดชมวิว 555 เค้าปิดซะก่อน ดีว่าได้ขึ้นไปสักการะ... ขอพรอีกฝั่งหนึ่งอะคะ คือให้เลือกเอา ระหว่างทางไปชมวิว กะไปขอพระ เลยเลือกไปขอพร เพราะกำลังจะปิดทั้ง 2 ฝั่ง เฮ้อ จากคุณ : mysonny เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 11:52:52

ความคิดเห็นที่ 30   สวยจริงๆค่ะ แต่ 1100 ขั้นนี่ขอเฮือกดังๆเลย^^" ป.ล. ภูเขาทองคูณสามยังไม่เ่ท่าอันนี้เลยง่ะพี่เจ้าแก้วฯ จากคุณ : yuki_shimi เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 52 20:46:41

ความคิดเห็นที่ 31   คห.9 เห็นแล้วกรี๊ดเลย ทริปญี่ปุ่นคราวหน้า (ไม่รู้เมื่อไหร่) คงได้ตามรอยคุณติวเตอร์ตู่แน่ๆ ^^ จากคุณ : กาแฟขม เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 52 14:24:50