| ควรมี (381 คน) |
| ไม่ควรมี (1295 คน) |
| จำนวนผู้ร่วมโหวตทั้งหมด 1676 คน |
PANTIP POLL
ประจำวันที่ 9 - 13 มกราคม 2549 [กระทู้แรกแห่งปี 2549]
[ประเด็นกระทู้โหวต]
"ภูกระดึง" แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ซึ่งนักท่องเที่ยวทุกคนต้องเดินขึ้นเขาเพื่อไปชมทัศนียภาพอันงดงามบนยอดภู
จากความลำบากที่ทุกคนจำเป็นต้องเดินขึ้นเขานี้เอง กลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวในจังหวัดเลย จึงเสนอ "โครงการสร้างกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปยังภูกระดึง" เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวให้รัฐบาลพิจารณา ในการประชุม
เรื่องของการสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึงนี้ เป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมานานแล้ว ฝ่ายคัดค้านการสร้างให้เหตุผลในเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ และเรื่องนี้มีผลกระทบต่ออาชีพของลูกหาบบนภูกระดึงเป็นจำนวนมาก
ส่วนฝ่ายที่เห็นด้วย มองว่าการสร้างกระเช้าฯ ถ้าระมัดระวังเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อมดีๆ ก็ไม่น่าจะมีปัญหา และดึงดูดนักท่องเที่ยวขึ้นชมความงามบนยอดภูมากขึ้นด้วย เพราะเป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้สุขภาพไม่แข็งแรงและผู้สูงอายุขึ้นชมความสวยงามของภูกระดึงได้
ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 -10 มกราคม 2549 ในการประชุม ครม. สัญจรที่วิทยาลัยการอาชีพ อ.ด่านซ้าย จ.เลย และหลังการประชุมร่วมภาคเอกชนกลุ่ม 4 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน (จ.หนองคาย, หนองบัวลำภู, เลย, อุดรธานี) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับฟังภาคเอกชนที่เสนอเรื่องการพัฒนาท่องเที่ยว โดยเฉพาะการสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง และกล่าวว่า ให้มองภาพรวมทั้งหมด โดยควรเป็นการพัฒนา และอนุรักษ์ไปพร้อมๆ กัน คาดว่าประมาณ 3-4 เดือน คงได้ข้อสรุป
จากข้อมูลในเอกสารข้อเสนอทางเลือกในการตัดสินใจก่อสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง จัดทำโดย องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (อพท.) และคณะอนุกรรมาธิการการท่องเที่ยวสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเสนอต่อคณะรัฐมนตรีในการประชุมครั้งนี้
อพท.และคณะอนุกรรมาธิการ เสนอเส้นทางเริ่มต้นที่จุดใกล้เคียงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวศรีฐาน ไปสิ้นสุดที่หลังแป ระยะทางรวม 3.67 กิโลเมตร อยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำชั้น 1 เอ ใช้เสารองรับ 16 จุด สูญเสียพื้นที่ตัดต้นไม้ทั้งสิ้น 3.66 ไร่
เลือกใช้เส้นทางนี้ด้วยเหตุผล
1. มีระยะทางสั้นที่สุด
2. ใช้พื้นที่ป่าน้อยที่สุด
กระเช้าพาดผ่านพื้นที่ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง และป่าดิบเขา ไม่พบพันธุ์ไม้หายากหรือใกล้สูญพันธุ์ ขณะเดียวกัน ขนานเส้นทางเดินเท้าขึ้น-ลงเดิม สัตว์ป่าในบริเวณนี้สามารถปรับตัวต่อการรบกวนได้ดีอยู่แล้ว
ส่วนรูปแบบของกระเช้าเป็นแบบเก๋งควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ขนส่งผู้โดยสารได้ชั่วโมงละ 300-1,000 คน ใช้ความเร็วประมาณ 15-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราค่าโดยสารในระยะโครงการ 25 ปี แบ่งเป็น 5 ช่วงๆ ละ 5 ปี เริ่มต้นที่ 856, 452, 366, 333, 317 บาท ตามลำดับ โดยมีจุดคุ้มทุนที่ตั้งเป้านักท่องเที่ยวไว้ปีละ 2.5 แสนคน
การก่อสร้างจะใช้วิธีปักเสาทั้ง 16 จุดด้วยเฮลิคอปเตอร์ สูญเสียพื้นที่ป่า 3.66 ไร่ ค่าก่อสร้างประมาณ 445 ล้านบาท
มีการรับประกันว่าสิ่งแวดล้อมจะไม่ถูกทำลายด้วยเปลือกลูกอม ก้นบุหรี่ เพราะกระเช้าเป็นเก๋งติดกระจก
ทั้งนี้ เหตุผลสำคัญที่ใช้สนับสนุนโครงการดังกล่าว ได้แก่
1.เพื่อให้คนทุกเพศทุกวัยได้มีโอกาสขึ้นไปสัมผัสความงามบนภูกระดึง
2.ปัจจุบันนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นกลุ่มหนุ่มสาว มีรายได้ต่ำ
3.สิ่งแวดล้อมถูกทำลายจากนักท่องเที่ยวที่เดินขึ้น (ขึ้นกระเช้าแล้วทิ้งก้นบุหรี่หรือเปลือกลูกอมไม่ได้ เพราะติดกระจกเก๋งกระเช้า)
4.นักท่องเที่ยวกระจุกตัวในวันหยุด ทำให้สิ่งสาธารณูปโภคไม่เพียงพอ กระเช้าจะเป็นตัวระบายคนไม่ต้องพักค้างคืน ไปเช้า เย็นกลับได้)
คุณคิดว่า "ภูกระดึง" ควรมีกระเช้าลอยฟ้าหรือไม่?
ร่วมโหวตและอภิปราย ถึงความเหมาะสมในการสร้างกระเช้าลอยฟ้าบริการนักท่องเที่ยว บนภูกระดึง แหล่งดึงดูดผู้คน ด้วยความงดงามตามธรรมชาติ...
จากคุณ :
PANTIP CREW
- [
11 ม.ค. 49 15:02:15
]