ความคิดเห็นที่ 1 หากไปแล้วเห็นคนแก่ ๆ เดินลงสวนลงมา แล้วจะรู้ว่ามานอยู่ที่จายยยยย เดินไหวก็เดินไป เหนื่อยนักก็พักก่อน มีที่พักระหว่างซำ ตั้งมากมาย ไปเถอะครับ หารองเท้าที่คุ้นเคยกันหน่อยใส่แล้วกัน มันจะได้ไม่กัด แค่นั้นก็พอ จากคุณ : ptykj - [ 10 มี.ค. 47 06:55:18 A:203.113.41.135 X: ]

ความคิดเห็นที่ 2 ช่วงนี้ก็ซ้อมเดินให้ร่ายกายชินก่อนครับ ยังพอมีเวลา อาจจะเดินในสวนรถไฟหรือเดินขึ้นตึกที่ทำงานก็ได้ ทางขึ้นภูกระดึง ถ้าช่วงเทศกาล ไม่เหงาแน่ๆครับ ออกเดินตอนเช้า พกข้าวกลางวันไปด้วย มีเวลาตั้ง 1 วันที่จะเดินไปให้ถึงยอด เหนือยก็พัก หายเหนื่อยก็เดินต่อ หิวก็หยุดกิน อย่าเร่งตามคนที่แรงดีๆไปนะครับ ไปตามกำลังของเรา แต่ ................... ผมเคยขึ้นไปตอนช่วงเมษา เรื่องคนเยอะนี่พอรับได้ แต่อากาศกลางวันร้อน ทางเดินแห้งเป็นฝุ่น เดินไม่ค่อยจะสนุกเลยครับ ไปตอนช่วงหลังฝนหรือปีใหม่ อากาศและทางเดินดีกว่าเยอะ จากคุณ : Carbon - [ 10 มี.ค. 47 07:21:45 A:203.155.22.105 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 เราก็อายุ สามสิบ นิดๆเหมือนกัน เพิ่งเคยขึ้นเมื่อปีที่แล้วเอง ต้นเดือนเมษา อากาศก็ร้อน ไม่เท่าไหร่ค่ะ กลางคืนเย็นๆค่ะ ไปช่วงนี้ดีค่ะ คนไม่เยอะ จะถ่ายรูปกับผาหล่มสักได้เป็นร้อยรูปเลย 555 / ขนาดเราเป็นผู้หญิงยังขึ้นไหวเลย ไปเถอะแล้วคุณจะติดใจ จากคุณ : คนรุ่นเดียวกัน - [ 10 มี.ค. 47 07:55:02 A:203.144.252.236 X: ]

ความคิดเห็นที่ 4 สนุกแน่ ๆ ค่ะ ค่อย ๆ ไป แวะกินเฉาก๊วยระหว่างทางก็ดี หายเหนื่อยได้เหมือนกัน แต่อย่าพักนานระวังหลับนะคะ (เคยหลับมาแล้ว แวะกินข้าว แล้วนั่งพักนั่งไปนั่งมานอนหลับไปได้งัยไม่รู้) แล้วก็เห็นด้วยกะความเห็นตะกี้ว่าเมษาคนต้องเยอะมาก ๆ แล้วก็ร้อนมาก ๆ ด้วย แต่ยังงัยก็ขอให้สนุกนะคะ จากคุณ : ญ๋า - [ 10 มี.ค. 47 07:57:56 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ครั้งแรก ผมไปตอนเลข 2 ปลายๆ ครั้งหลังนี่ ผมไปตอนอายุเลข 4 กลางๆ ตอนนี้เลข 5 นำหน้าไปแล้วครับ ยังคิดว่า ถ้ายังไม่ถึงเลข 6 อยากจะปีนอีกสักครั้ง ก่อนที่กระเช้าจะสร้างเสร็จอ่ะครับ มันอยู่ที่ใจ อย่างที่ คคห. 1 ว่าไว้ และก็ต้องซักซ้อมร่างกายก่อนอย่างที่ คห.ที่ 2 บอกด้วยครับ ผมเองขนาดดำน้ำอยู่บ่อยๆ แต่เมื่อจะออกทะเลยาวๆ 6 - 7 วัน ดำน้ำ 20 - 30 ได๊ฟ ผมยังต้องซ้อมวิ่งสวนลุมล่วงหน้าเป็นเดือนเลยครับ ครั้งแรก ผมก็ไปช่วงเมษานี่แหละ กลางวันนี่ ทั้งแล้ง ทั้งร้อนเลย จากคุณ : AQUANAUTS - [ 10 มี.ค. 47 09:51:38 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอให้เที่ยวให้สนุกครับ จากคุณ : MlCHAEL (MlCHAEL) - [ 10 มี.ค. 47 10:13:37 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ไปตอนขึ้นภูกระดึง เลขสามนำหน้าเหมือนกันคะ ข้อแนะนำ 1. ควรพกยาคลายกล้ามเนื้อ ชนิดเม็ดไปด้วย ไปถามที่ร้านขายยานะคะ เพราะเมื่อเดินขึ้นไปขาจะตึงมาก ยาจะช่วยได้มากคะ 2. ควรพกลูกอมติดตัวไปด้วย อมเวลาเหนื่อยคะ 3. ค่อยๆ เดินคะ ซำแรกจะหนักหน่อย และเหนื่อยอีกครั้งคือก่อนขึ้นหลังแป แต่สนุกคุ้มแค่แน่นอน.... ขอให้เที่ยวให้สนุกนะคะ จากคุณ : เมื่อวันวาน - [ 10 มี.ค. 47 13:34:42 A:203.154.153.34 X: ]

ความคิดเห็นที่ 8 ..ภูกระดึงไปเมื่อไหร่ก็เหนื่อย แต่...ไปเมื่อไหร่ก็มีความสุข... เรื่องของหัวใจโดยแท้จริง จากคุณ : นันทิยา - [ 10 มี.ค. 47 18:53:17 A:203.151.39.46 X: ]

ความคิดเห็นที่ 9 ผมขึ้นภูครั้งแรกและครั้งเดียวตอน 32 แต่ตอนนั้นฟิตพอควร แต่ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากมาย เพราะเพิ่งแต่งงาน และงานเยอะ แต่อาศัยว่าสมัยหนุ่มๆลุยป่ามาพอควร บุญเก่ายังพอมี เดินก็ไปตามกำลังเราครับ พักกินก๋วยเตี๋ยวยังไหว 555 เตรียมน้ำสักขวด จิบพอแก้กระหาย ให้ชุ่มเปียก ชุ่มคอ อย่าซัดโครมๆ สำคัญที่สุด คือ รองเท้าเอาคู่ที่ใส่สบายและแน่นหนาหน่อย คู่เก่าแก่ที่ใส่อยู่ยิ่งดี ขึ้นภูหน้าหนาวหรือเย็นน่าจะดีกว่า ขึ้นเขามือใหม่ เจออากาศร้อนเหมือนถูก 2 รุม 1 ครับ อาจไม่สนุก ก๊วนที่ไปด้วยก็สำคัญครับ ต้องช่วยกัน มีอารมณ์ขัน เดินมันส์ๆ ขึ้นได้ครับ สนุกดีครับ ครั้งหนึ่งกับภูกระดึง ไปตอนเริ่มจะแก่จะไม่ค่อยมั่นใจแบบนี่ละครับ กลับลงมาแล้ว คุยฟุ้งเลยเชียว จากคุณ : Double07 - [ 10 มี.ค. 47 22:55:35 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขึ้นภูเดือนเมษา คงเจอทางเดินแห้งเป็นฝุ่น เดินไม่ค่อยจะสนุกอย่างคุณ Carbon บอก สิ่งตอบแทนจาก แดดร้อนเปรี้ยงตอนเดินขึ้น และวันเดินเที่ยวหน้าผา คือ นอกจากยามค่ำคืน จะได้นอนดูดาวเต็มฟ้า เย็นสบาย (แค่16-17 องศา) ไม่ต้องกลัวหนาวเหน็บเข้ากระดูก แล้วช่วงนี้ยังเป็นฤดูบานของดอกไม้นานาชนิดทั่วท้องทุ่ง ขึ้นไปแค่หลังแปจะเจอกุหลาบแดงบานเต็มต้นริมหน้าผา ไปผาน้ำตก มองกล้วยไม้งาม พวก เอื้องคำปากไก่ (ส่วนชนิดอื่นๆเช่น เอื้องแซะภูกระดึง สามปอยชมพู คงยังแค่ดอกตูม) ในบางปีเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ จะเลือกพื้นที่จุดไฟเผาหญ้าแล้วก็ไถพลิกหน้าดิน เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ยลความงามของทุ่งกระเจียว ที่ไม่น่าพลาดคือขอเจ้าหน้าที่นำทางไปเดินป่าปิด ซึ่งจะเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวแค่เดือน เมษา พฤษภา เท่านั้น ถ้าพร้อมจะลุย กว่า 25 กิโลเมตร มีทั้งขึ้นเขาที่ชันมากและลงไปในหุบที่ลึก มีน้ำตกให้เล่น (มีทากเป็นร้อย) ควรรีบโทรฯไปจอง ที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูกระดึง 042-871333 หลังจากพิชิตภูกระดึงมาแล้ว วันแรก น่าจะหาโอกาสไปยืดเส้นยืดสายระยะใกล้ๆก่อน ออกไปทางลานพระพุทธเมตตา เดินชม ทุ่งหญ้า ป่าสน ไล่ Shade สีเหลือง-เขียวเข้ม สลับกันไปตามยอดเนินสูงๆต่ำๆ ไปสักกิโลกว่าๆ จะได้ลงเที่ยวน้ำตกเพ็ญพบ โผนพบ คงเกือบจะไม่มีน้ำ แต่ทัศนียภาพก้อนหินในลำธารระหว่างทางที่เดินลัดเลาะ ขึ้นๆลงๆไปตามทางแคบๆ ในป่าทึบ ชื้น ก็เพลินใจไม่เลว ตื่นเช้าๆหน่อยจะดี มีโอกาสเก็บภาพทุ่งหญ้าป่าสนในสายหมอก กลางวันแดดเปรี้ยงนักก็หาที่พักหลบนอนในป่าหรือที่ร่มๆ ใกล้ๆเต้นท์ ตกบ่าย แดดร่มลมตก ค่อยเดินไปดูอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก ระยะทางที่เดินในวันนี้รวมแล้วคงแค่ 8-9 กิโล วันที่สอง หรือหลังจากนั้น พักขาพอแล้ว คนแรงดี ใจสู้ วางแผนเดินไกลไปถ่ายรูปกับต้นสนยอดนิยม ที่ผาหล่มสัก ถ้าอยู่ดูแสงสุดท้ายของวัน ปกติขากลับจะมีเพื่อนร่วมทางไม่น้อย ที่จะช่วยกันสร้างบรรยากาศ ฝ่าความมืดมา ด้วยแสงแวววามจากเทียนไขในโคมขวดน้ำดื่ม ซึ่งเป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน มีขายตามหน้าผา แค่ 5 บาทเอง (ดีกว่าใช้ไฟฉาย เพราะเดิน 9 กิโล 3 - 4 ชั่วโมง ถ่านไฟฉายจะหมดเสียก่อน) ไม่ได้แนะนำให้เดินไปกลับ 4 กิโลเพื่อรับตะวันที่ผานกแอ่น (เราอาจจะเข้าใจความสามารถของเจ้าของกระทู้ผิดก็ได้นะ) คุณยังมีโอกาสใช้วันสุดท้าย ตื่นแต่มืดรีบออกจากที่พัก กะให้มาถึงหลังแปก่อนสว่าง รอดูแสงแรกของวันทาบบนผานกเค้า สว่างดีแล้ว ถ่ายรูปพอแล้ว ก็ลงจากภูได้เลย (วิธีนี้ต้องมีคนเสียสละอยู่ที่พักจนกว่าลูกหาบจะมารับสัมภาระไป) จากคุณ : อาจจะเจอกันบนภู - [ 11 มี.ค. 47 04:22:55 A:202.57.158.165 X: ]

ความคิดเห็นที่ 11 คำแนะนำในการขึ้นภูกระดึง คงคล้ายๆกับที่หลายท่านช่วยกันบอกมาแล้ว และขอเพิ่มเติม ดังนี้ 1. การเตรียมร่างกาย ถ้าเจ้าของกระทู้ไม่ได้ออกกำลังกายสม่ำเสมอมาก่อน ไม่คุ้นเคยทำงานหนัก แนะนำว่า - ก่อนอื่นควรไปพบแพทย์ ตรวจร่างกายให้สบายใจว่า ปลอดภัยต่อการออกกำลังกาย และ จะไม่ไปมีอาการโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง หรือโรคแรงๆอื่นๆ ที่ทำให้ต้องถูกหามลงจากภู - เริ่มโปรแกรมสร้างความคุ้นเคย กติกาง่ายๆ แค่เดินต่อเนื่องกันไม่หยุดพักวันละ 1-2 กิโล สัปดาห์ละ 2 - 3 วัน การเดินนี้จะดีมากถ้าคุณใส่รองเท้าคู่ที่จะใส่เวลาเดินขึ้นและเที่ยวบนภู จะได้ไม่เจอกับปัญหารองเท้ากัด เท้าบวม เท้าแตก ถ้าจะไปเดือน เมษา การฝึก และ เตรียมร่างกายนี้ ควรเริ่มได้แล้ว แถมด้วยการยืนและเดินให้มากที่สุด ในที่ทำงาน ที่บ้าน (ไม่ยอมนั่งๆนอนๆ) จะช่วยเสริมสร้างพละกำลังและความเข้มแข็งได้ดีขึ้น 2. พักผ่อนให้พอเพียงในระยะ 2 - 3 วันก่อนไปภู อย่าอดนอน คุณจะเพลีย หมดแรงง่ายกว่าปกติ ที่แย่คือขาก็จะเป็นตะคริวง่ายมาก 3. เข้าหน้าร้อนแล้ว อาหารบูดเสียง่าย ระวังเรื่องอาหารและเครื่องดื่ม ตั้งแต่ก่อนขึ้น ระหว่างขึ้นและเที่ยวบนภู 4. ยาคลายกล้ามเนื้อ ชนิดเม็ด ตามความคิดเห็นที่ 7 พิจารณาดีๆ อาจเสี่ยงต่ออาการเลือดออกในกระเพาะอาหาร ขอเสนอให้ใช้ยานวด ยาทา คลายกล้ามเนื้อดีกว่า ถ้าจะรับประทานยาแก้ปวด ก็น่าจะเป็นประเภท Paracetamol ค่อนข้างปลอดภัยกว่า 5. วันขึ้นภู ไปแต่เช้าสุดๆ เพื่อหลีกเลี่ยงแดดเปรี้ยง อากาศร้อน ช่วงเดิน 1-2 กิโลแรก ซึ่งค่อนข้างจะชันมากและไม่ค่อยมีร่มไม้ (2 - 3 กิโลหลังของทางขึ้น ค่อนข้างร่มรื่น และ คนส่วนใหญ่มักจะปรับตัวรับการออกกำลังกายได้แล้ว) จากคุณ : อาจจะเจอกันบนภู - [ 11 มี.ค. 47 04:29:03 A:202.57.158.165 X: ]

ความคิดเห็นที่ 12 6. การจัดการเรื่องลูกหาบ ชั่งน้ำหนักสัมภาระ จะเริ่มได้ประมาณ 0730 แนะนำว่าถ้ามีรถ เอาไปเลยครับ แวะเที่ยวเพชรบูรณ์ ภูเรือ ก่อนก็ได้ แล้วหาที่พักนอนใกล้ๆ เช่น หล่มสัก หรือที่ อ.ภูกระดึง แล้วมาจอดที่ อช.ภูกระดึง มีเจ้าหน้าที่รับฝาก ที่จอดรถกว้างขวาง ปลอดภัย ฟรี คนเตรียมร่างกายพอสมควร และลงภูอย่างถูกวิธี รับรองว่าลงมาแล้วจะไม่ปวดเจ็บ สามารถขับรถกลับบ้านได้สบายๆ 7. ทำตัวให้เบาที่สุด ไม่แบก ไม่หอบให้รุงรัง บางคนเหนื่อยขึ้นมา แม้แต่กระติกน้ำก็หาว่าหนัก จะเหวี่ยงทิ้งให้ได้ ระหว่างทางคุณสามารถหยุดพักตามซำต่างๆ แวะดื่ม กิน ได้สบายๆ ในราคาที่ยุติธรรม และแวะเข้าห้องน้ำได้ที่ ซำกกโดน (ประมาณกลางทาง) 8. ตั้งใจว่า การเดินขึ้นภูเป็นความสุข เป็นโอกาสพิเศษสำหรับเราและเพื่อนร่วมทาง เดินตามสบาย ไม่ต้องเร่ง ไม่บีบบังคับตัวเอง ชมนก (ถ้าเห็น) ชมไม้ ชมธรรมชาติ ชมคนใกล้ตัว ให้กำลังใจเพื่อนร่วมทาง (ครั้งหนึ่ง เคยเห็นสาวเดินขึ้นภู เพลินโทรศัพท์คุยกับเพื่อน หรือ แฟน หรือ กิ๊ก ไปเกือบตลอดทาง) จะกิน จะนอน ก็ตามสบายครับ ถ้าคุณเริ่มเดินขึ้น 0800 มีเวลาอีก 8 ชั่วโมง สำหรับระยะทางเพียง 5.5 กม. ส่วนใหญ่ ลูกหาบ แบกน้ำหนักประมาณ 60-70 กิโล ใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง จากบ้านศรีฐานไปถึงหลังแป คุณควรจะถึงหลังแปไม่ช้ากว่า 1600 เพื่อให้มีเวลาอีก 2 ชั่วโมง เดินไปให้ถึงที่พักก่อนมืด (ทางราบ 3.5 กม.) 9. เดินขึ้นภูเขา ทำอย่างกะเหรี่ยง ก้มหัวและโน้มลำตัวไปข้างหน้า ไม้เท้าจากกิ่งไฝ่ จะช่วยการทรงตัวและรับน้ำหนักได้ดี 10. วันลงจากภู ค่อยๆ ลง อย่ากระแทก เพราะจะเจ็บหัวเข่า ก้าวสั้นๆ ถ้ามีราวจับราวให้มั่น อย่าวิ่งลง จะปวดนิ้วเท้ามาก เพราะนิ้วเท้ากระแทกกับหัวรองเท้าที่บีบรัดอยู่ บางคนลงมาแล้วเล็บเขียวห้อเลือดก็มี ถ้าเริ่มเจ็บเล็บเท้า แนะนำว่าลองเดินหันข้างลง น้ำหนักจะกดที่ข้างเท้า แทนที่จะกดบนเล็บเท้า ก็จะไม่เจ็บ แต่ต้องลงช้าๆนะ ระวังตีลังกา จากคุณ : อาจจะเจอกันบนภู - [ 11 มี.ค. 47 04:32:32 A:202.57.158.165 X: ]

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบพระคุณทุกท่านเป็นอย่างสูงงงงงงงงงงง เท่าภูกระดึง โดยเฉพาะคุณ"อาจจะเจอกันบนภู" เอ้า!ลุย!.....เฮฮฮฮฮฮฮฮฮ...................................................... จากคุณ : เจ้าของกระทู้ - [ 12 มี.ค. 47 01:03:41 A:210.86.221.154 X: ]

ความคิดเห็นที่ 14 จะบอกว่าเคยไป วันที่ 1 เมษายน 2545 ซึ่งเป็นการขึ้นภูกระดึงครั้งที่ 3 ส่วนใหญ่จะไปหน้าหนาวเลยอยากไปตอนหน้าร้อนมาก เจอฝนตอนเดินขึ้นภูค่ะ เลยสบายหน่อยเพราะเย็นจนหนาว จะหยุดก็ไม่ได้ถ้าหยุดเดี๋ยวก้าวขาไม่ออกต้องเดินเร็วๆ ด้วยนะ ช่วงซำสุดท้ายที่ต้องปีนโขดหิน ขึ้นไป เหมือนเรากำลังปีนน้ำตกเลยล่ะ ชอบมาก มาก และประทับใจสุด สุด ขึ้นภูพร้อมคุณติ๊ก-เจษฏาพร เขาไปถ่ายทำโฆษณาให้ ททท. คุณติ๊กน่ารักเป็นกันเองมากเลย บรรยากาศโดยรวมเจอฝนตลอดเลย ก่อนฝนตกจะมีก้อนเมฆสีขาวผ่านตัวเราไปก่อนเหมือนหมอกเลย สุดจะบรรยาย ขอให้เจอบรรยากาศอย่างเรานะ จากคุณ : jeejee - [ 12 มี.ค. 47 13:46:03 A:203.155.22.105 X: ]

ความคิดเห็นที่ 15 ถือคติเหนื่อยก็พัก(กินทุกซัม) มีแรงก็เดินต่อ(ย่องเหมือนแมวเดิน) ตอนที่ผมไป เป็นที่ตอนจบใหม่ๆ เพื่อนๆ บอกว่าเดิน 5-6 ช.ม ก็ถึงสบาย เรามันประเภทรภไฟไทย คือถึงแน่แต่ไม่รู้ตอนไหนยึดคติ "รถไฟไทย ถึงก็ชั่ง ไม่ถึงก็ชั่ง" เดินตั้งแต่ 8.30 ถึงที่พักด้านบน 18.00 เกือบมืดกว่าจะกางเต๊นอีก ไปกัน 6 คน (3 หนุ่ม 3 สาว) ........... จนถึงตอนนี้ประมาณ 6-7 ปี ได้แล้ว 3 สาว ก็ยังเป็น 3 สาว เหมือนเดิมเมื่อกล่าวถึงทิปครั้งนั้น ทุกคนต่างบอกเป้นเสียงเดียวกัน.......ไม่ไปอีกแล้ว(จะหลอกไปเดินอีกซักครั้ง เจอกันแน่) อยากบอกคนที่ไม่เคยไปน่ะครับ....ซักครั้งหนึ่งถ้าได้ไปเดินขึ้นภู มันเป้นรสชาติหนึ่งที่ควรค่าแห่งการจดจำครับ...เดินทางให้สนุกน่ะครับ...... จากคุณ : สะตอคุง - [ 16 มี.ค. 47 09:32:25 ]

ความคิดเห็นที่ 16 แล้วเจอกันนะครับ จากคุณ : จะไปเหมือนกัน (ปะเลอะปะเต๋อ) - [ 3 เม.ย. 47 13:32:35 ]

ความคิดเห็นที่ 17 วิธีที่ได้ผลจริง ๆ สำหรับการฟิตร่างกายให้แข็งแรงก่อนไปภู คือ ฝึกเดินทุก ๆ วันให้ร่างกายได้คุ้นเคยกับการเดินมาก ๆ ระยะทางไกล ๆ เช่น เดินรอบสวนลุมฯ วันละ 3 รอบเป็นเวลาเดือนกว่า รับรองสบายมากอายุ 50 กว่ายังขึ้นมาแล้ว สบายมากค่ะ ไม่ต้องรีบค่อย ๆ เดิน ชมธรรมชาติไปเรื่อย ๆ จะเย็นสบายและได้ยินเสียงกิ่งไผ่กับนกร้องที่ไพเราะ จากคุณ : Loreal (Chappy&Jammy) - [ 3 มี.ค. 48 16:05:46 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ผมไปสงการน์ที่ผ่านมาอ่ะ เจอฝนตก ทาก แถมหนาวอีกต่างหาก แต่ไม่เท่าหน้าหนาวนะ จากคุณ : ลองไปดูจิ (lomkod) - [ 21 มี.ค. 49 13:27:19 ]