ความคิดเห็นที่ 1 รีแค็ปตอนที่แล้ว หลังจากชาวคณะวิ่งเล่นใน Denali National Park มาได้ 2 วันเต็มๆแล้ว เราก็มุ่งหน้าลงใต้ไปยังนอนค้างที่เมือง Talkeetna จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:48:28

ความคิดเห็นที่ 2 โดยคืนนั้นเราเช็คอินที่ Talkeetna Roadhouse ซึ่งออกแนว hostel มากกว่าโรงแรม แต่ที่นี่มีห้องพักสไตล์อพาร์ตเมนต์ แบบพักได้ 4 คนด้วย ถ้าใครอยากได้ห้องนี้ ให้รีเควส์ Museum Apartment กับทาง Talkeetna Roadhouse ได้ค่ะ Museum Apartment มาพร้อมห้องครัว ห้องนั่งเล่น ซึ่งมี 1 เตียงและอีก 1 โซฟาเบด จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:49:00

ความคิดเห็นที่ 3 มีห้องนอนตะหากให้อีก 1 ห้อง ส่วนห้องน้ำก็โอเคนะฮะ มืดไปหน่อย เก่าไปนิด แต่ขวดสบู่แชมพูนี่อย่างฮา เพราะพี่เล่นรีไซเคิลขวดน้ำผึ้งมาเห็นๆ อาบแล้วมดจะขึ้นไหมเนี่ย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:49:25

ความคิดเห็นที่ 4 สาเหตุที่เรามาค้างที่เมือง Talkeetna ก็เพราะวันรุ่งขึ้นเรากะนั่งเครื่องบินใบพัดวนยอดเขา Mt McKinley น่ะสิฮะ โดยเราจองทัวร์ไว้กับ Talkeetna Aero Services เพราะเจ้านี้เค้ามีโปรโมชั่นคูปอง Alaska Tour Saver ซื้อทัวร์ Mt McKinley Summit Flightseeing  Tour 1 คน อีก 1 คนไม่ต้องเสียตังค์ แต่ค่ะแต่ แต่ไม่ทราบเทพเจ้าแห่งการท่องเที่ยวกะให้พวกเราได้ประหยัดตังค์รึเปล่า วันรุ่งขึ้นเลยฝนตกหนัก ทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินไปโดยปริยาย ซึ่งอันนี้ชาวคณะรู้สึกเฉยๆ บินก็ได้ ไม่ได้บินก็ไม่เป็นอันหยัง เพราะวันก่อนที่ Denali National Park พวกเราเพิ่งได้เห็นยอด Mt McKinley แบบเต็มๆตากันไปแล้วน่ะสิ โฮะโฮะโฮะ (ภาพ : talkeetnaaero.com) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:51:01

ความคิดเห็นที่ 5 อดบินอดได้ แต่อดข้าวเช้าบ่ได้นะเธอว์ ว่าแล้วก็ไปหม่ำๆข้าวเช้ากันที่ Talkeetna Roadhouse ดีก่า ปล.ราคาห้องพักไม่รวมอาหารเช้านะขอรับ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:51:22

ความคิดเห็นที่ 6 เมนูก็เบสิคฮ่ะ แพนเค้ก ไส้กรอก Quiche ฯลฯ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:51:49

ความคิดเห็นที่ 7 เสียดาย ไม่มีเมนู Cinnamon Bun ยัดไส้กรอก/ชีสเยิ้มๆ แบบที่ Adam Richman ได้หม่ำเลยอ่ะ T^T Adam Richman เป็นพิธีกรรายการทีวี Man v Food ซึ่งเฮียตระเวนไปพิชิต Eating Challenge ทั่วเมกา แถมแต่ละอย่างที่พี่อดัมเขมือบเข้าไปเนี่ย แค่เห็นก็ผอืดผอมแทนแล้ว ทั้งเบอร์เกอร์เอย พิซซ่าเอย ไอติมเอย เลยไม่ค่อยแปลกใจว่าหลังจากทำรายการมาได้แค่ 3 ซีซั่น พี่อดัมก็ต้องประกาศแขวนพุง ไม่งั้นเฮียอาจเส้นเลือดอุดตันตายก่อนเวลาอันควรได้ -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:52:18

ความคิดเห็นที่ 8 เนื่องจากสภาพอากาศไม่อำนวย เราจึงต้องจบทัวร์ Talkeetna ไว้แต่เพียงเท่านี้ ส่งท้ายกันหน่อย ด้วยสติกเกอร์ท้ายรถสุดติสต์ของเมือง ปล. Climbing Problem ในที่นี่หมายถึง การที่บรรดานักไต่เขาที่ตั้งใจมาพิชิต Mt McKinley จะต้องมาขึ้นเครื่องบินที่เมือง Talkeetna เพื่อมุ่งหน้าต่อไปยัง Base Camp บนภูเขา Denali ซึ่ง Climbing Season จะเป็นช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. เพราะอากาศอุ่น และพระอาทิตย์ขึ้นแทบทั้งวันทั้งคืน ถ้าใครแวะไป Talkeetna ช่วงนั้น รับรองได้พบกับมหกรรมรวมพลคนแปลกแน่ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:55:22

ความคิดเห็นที่ 9 ถึงไม่เจอกองทัพนักปีนเขา ลำพังแค่ชาวเมือง Talkeetna ก็บ้าฮารั่วได้ใจแล้ว ก็เมืองบร้าอะไร  มีน้องเหมียวหน้าแบ๊วเป็น Mayor เป็นประจำเมือง จ๊ากกกกก ไม่เชื่อให้ไปกูเกิ้ลได้เลยฮ่ะ ว่าคุณชายแมวเหมียวนามว่า Stubbs คน(ตัว)นี้ ได้รับเลือกตั้งจากชาวเมืองให้เป็นนายกเทศมนตรีถึง 15 สมัยติดจริงๆนะเมี๊ยววววววว (ภาพ :  cnn.com) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:56:09

ความคิดเห็นที่ 10 จาก Talkeetna ชาวคณะก็ขับรถลงใต้เพื่อไปยังเมือง Seward ที่อยู่บน Kenai Peninsula ซึ่งพอขับไปได้ซัก 3 ชั่วโมง เราก็จะผ่าน Anchorage เมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐอลาสก้าอีกครา จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:56:57

ความคิดเห็นที่ 11 อย่ากระนั้นเลย แวะไปหม่ำข้าวเที่ยงใน Anchorage ที่ร้านเกาหลีชื่อ  Tofu House ดีกว่า ประเดิมรายการ Appetizer ด้วยแพนเค้กเกาหลีเจ้าค่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:57:39

ความคิดเห็นที่ 12 ต่อด้วยซุปเต้าหู้เกาหลีร้อนๆ ถือเป็นการแก้เลี่ยนน้องแซลมอน น้อง Halibut ไปด้วยในตัว ฮี่ๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:58:13

ความคิดเห็นที่ 13 หม่ำมื้อกลางวันเสร็จ เราก็ขับรถลงใต้ต่อไปตาม Seward Highway ตลอดทางมีวิวภูเขาและทะลให้ชมกันเพลินๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:58:38

ความคิดเห็นที่ 14 สำหรับท่านที่ขี้เกียจขับรถ ก็สามารถนั่งรถไฟจาก Denali มายัง Seward ได้ด้วยนะเคอะ! ทางรถไฟเลียบชายฝั่งซะด้วย เผลอๆวิวจะแจ่มกว่านั่งรถอีกนะนั่น จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:59:19

ความคิดเห็นที่ 15 เนื่องจากกินมาทั้งวัน เราเลยลงไปยืดเส้นยืดสายที่ Alaska Wildlife Conservation Center ซึ่งตั้งอยู่ตรงหลักไมล์ 79 บน Seward Highway เสียหน่อย ค่าเข้า $10/คน หรือ $30/คันค่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 10:59:52

ความคิดเห็นที่ 16 เข้าไปถึงก็ได้จ๊ะเอ๋กับกวาง Elk ตัวเบ้อเฮ่อทันที จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:00:18

ความคิดเห็นที่ 17 แต่น้อง Elk ตัวเล็กไปถนัดเลยฮ่ะ เมื่อเทียบกับพี่ Bullmoose >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:00:54

ความคิดเห็นที่ 18 ใหญ่ไม่ใหญ่ ขนาด Bullmoose ยืน 4 ขา ยังตัวสูงกว่าพวกเราอีกอ่ะ! ถ้าโดนวิ่งชนทีนี่ ไม่ตายก็คงเลี้ยงไม่โตแน่ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:01:30

ความคิดเห็นที่ 19 แต่การที่ชาวคณะได้ไปส่องสัตว์ที่ Denali National Park ทำให้การมาเที่ยวสวนสัตว์กร่อยไปถนัดตา ก็บรรดาสัตว์ป่าที่นี่ ดูซึมๆ ขี้เกียจๆ ไม่เห็นวิ่งเล่นลั่ลล๊าไปมาเหมือนเพื่อนร่วมสปีชี่ที่ Denali เลย -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:02:21

ความคิดเห็นที่ 20 นอกจากบรรดาน้องกวางแล้ว ที่ Alaska Wildlife Conservation Center ยังมีหมี Grizzly ให้ดูกันขำๆ 3 หน่อ สารภาพว่าที่พวกเรามาที่นี่ ก็เพราะอยากเห็นหมี Grizzly หรือหมีสีน้ำตาลในระยะเผาขนนั่นเอง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:03:06

ความคิดเห็นที่ 21 "ถ้าหนูๆอยากล่ำดำถึกแบบพี่หมี ก็ต้องหม่ำโปรตีนเสริมกล้ามเนื้อเยอะๆนะจ๊ะ หง่ำๆๆๆ" จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:04:00

ความคิดเห็นที่ 22 นอกจากจะได้หม่ำแซลมอนซาชิมิเป็นอาหารหลักแล้ว น้องหมียังมีเบอร์รี่เป็นของหวานปิดท้ายอีกด้วยนา ดูสิ ขนาดน้องหมียังกินอาหารครบห้าหมู่เลยนะเอ้อ น้องหมีสาวน้อยตัวนี้ชื่อ Hugo ค่ะ ถ้าอ่านประวัติ มีชาวบ้านไปเจอน้อง Hugo สมัยยังเป็นลูกหมีตัวกะเปี๊ยก นอนพะงาบๆอยู่กลางหิมะ แถมมือก็ยังโดนขนเม่นตำเต็มไปหมด เค้าเลยพา Hugo ส่งมาที่ Conservation Center แต่ประวัติชีก็ยังไม่ดราม่าเท่าเพื่อนหมีอีก 2 หน่อที่เหลือ ที่แม่ของพวกมันโดนคนยิงตายค่ะ เพราะแม่หมีมาป้วนเปี้ยนอยู่หลังบ้านคน แล้วคนยิงก็ดันกลัวหมีจะมาทำร้ายหมาของตัวเอง เลยสอยแม่หมีเข้าให้ พอยิงหมีตายเสร็จ ถึงเพิ่งเห็นว่าบนต้นไม้มีลูกหมีนั่งแป้นแล้นอยู่อีก 2 ตัว -*- กรรม ทำไมก่อนยิงไม่รู้จักดูฟะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:05:11

ความคิดเห็นที่ 23 Conservation Center เลยกลายเป็นบ้านใหม่ของหมีน้อยทั้งสาม ท่าทางที่นี่จะขุนน้องหมีดีมาก จากลูกหมีตัวเล็กๆ กลายเป็นหมีตูด เอ้ย ตัวหย่ายๆกันไปถ้วนหน้า จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:05:37

ความคิดเห็นที่ 24 ไม่ใช่แค่ตูดหมีที่ใหญ่ ดูอุ้งตีนหมีซะก่อน โดนตะปบทีนี่หัวจะหลุดจากบ่ามั๊ยเหวย >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:06:04

ความคิดเห็นที่ 25 ส่งท้าย Alaska Wildlife Conservation Center ด้วยกองทัพ Bison (ที่เอาแต่นอน -_-) ละกันจ้า จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:06:45

ความคิดเห็นที่ 26 จากนั้นชาวคณะก็ขับรถต่อไปยังเมือง Seward แต่ก่อนเข้าที่พัก เราก็แวะหม่ำ (อีกแล้ว!) ที่ Resurrection Roadhouse ซึ่งเป็นโรงแรมหน้าตาดูเก๋ไก๋ไฮโซ บน Exit Glacier Rd จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:07:57

ความคิดเห็นที่ 27 เมนูร้านนี้น่าหม่ำมากมาย โอย เลือกไม่ถูกเลยว่าจะสั่งอะไร น้องปอประเดิมรายการด้วย Flatbread โบกด้วย Panchetta (เบคอนอิตาเลี่ยน) และไข่ เอร๊ยยย อาหย่อยไม่เบานะคะจานนี้ ขอบอกๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:09:04

ความคิดเห็นที่ 28 เนื่องจาก จขกท.ยังอิ่มๆอยู่ (แหงสิ -_-) เดี๊ยนเลยสั่ง Cioppino (ซีฟู้ดสตู) เจ้านี้อร่อยเลยค่ะ น้ำซุปมะเขือเทศรสชาติกลมกล่อม น้ำซุปไม่ข้นคลั่กจนเลี่ยนดี ซึฟู้ดก็ให้เยอะ ปูเป็นปู แฮ่ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:10:00

ความคิดเห็นที่ 29 เพื่อนตอสั่ง Halibut ทอดกรอบ ที่นอนแอ้งแม้งมาบน Polenta จานนี้เพื่อนตอยกนิ้วให้ ว่าอร่อยจริงอะไรจริง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:10:20

ความคิดเห็นที่ 30 อัดมื้อเย็นเข้าไปเรียบร้อยแล้ว เราก็ตรงดิ่งไปยัง Marathon Terrace Lodging ที่ซุกหัวนอนของเราในคืนนี้ ซึ่งเป็น B&B แต่ไม่มี Breakfast ให้ แป่ว -_- ที่เลือกที่นี่เพราะเค้ามีห้อง Suite ที่นอนได้หลายคนด้วย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:11:32

ความคิดเห็นที่ 31 เปิดประตูเข้าไป พระเจ้าช่วยกล้วยปิ้ง ห้องใหญ่โคดๆ กรี๊ดดดดดด ห้องนั่งเล่นกว้างขวาง เหมาะแก่การนอนกลิ้ง(หลังจากกินมาทั้งวัน -_-)ยิ่งนัก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:11:52

ความคิดเห็นที่ 32 ห้องน้ำก็สะอาดเอี่ยมอ่อง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:12:09

ความคิดเห็นที่ 33 แต่ทีเด็ดของที่นี่คือห้องนอน 3 ห้อง 3 แบบเจ้าค่ะ เพื่อนๆร่วมคณะเห็นแล้วคง เย้ ตูไม่ต้องทนฟังเสียงกรนอีชออีกต่อไปแล้ว กร๊ากกก สำหรับเพื่อนๆที่สนใจพักที่นี่ จขกท.เพิ่งไปเช็คเว็บของ Marathon Terrace Lodging มา ปรากฎเขาเลิกกิจการไปแล้วค่ะ และเจ้าของบ้านก็กำลังประกาศขายบ้านอยู่ น่าเสียดายมากๆ เพราะห้องใหญ่กว้างขวาง แถมมีห้องนอนตั้ง 3 ห้อง เหมาะกับการยกพลพรรคไปถล่มมากๆ T^T จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:13:12

ความคิดเห็นที่ 34 คืนนั้นพวกเรานอนหลับอย่างต่อเนื่องและยาวนานสมชื่อ Marathon Terrace Lodging มั่กๆ นี่ถ้าเราไม่มีโปรแกรมล่องเรือที่ Kenai Fjord ชาวคณะคงได้นอนอุตุทั้งวันแหงม -_- อันนี้ก็เป็นบรรยากาศริมท่าเรือเมือง Seward ค่ะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:14:07

ความคิดเห็นที่ 35 เมืองนี้จะออกแนวคิขุกาโม่ ร้านของที่ระลึกเพียบ คงเพราะมี Cruise Ship ลำบะเอ้งมาเทียบฝั่งที่ Seward เมืองเลยคึกคักกว่า นักท่องเที่ยวเยอะกว่า Valdez ขานั้นเหมือนจะมีประชากรน้องต่ายมากกว่านักท่องเที่ยวซะอีก ฮา ถ้าใครจะล่องเรือ Day Cruise ไปชมธารน้ำแข็ง ก็มี 2 บริษัทให้เลือกใช้บริการฮ่ะ เจ้าแรกก็ Kenai Fjord Tours ซึ่งออฟฟิซยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างโคดๆ ไม่เหมือนออฟฟิซของบริษัท Major Marine Tours ที่เราเลือกใช้บริการ สาเหตุที่เราไปกับ Major Marine Tours ก็ไม่ใช่ไร ก็ Kenai Fjord Tours ไม่มีโปรโมชั่นซื้อ 1 แถม 1 กับ Alaska Toursaver นี่เคอะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:15:11

ความคิดเห็นที่ 36 ก่อนขึ้นเรือต้องขอถ่ายรูปกับนากทะเลกวักซักหน่อย เพื่อเป็นสิริมงคล จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:15:43

ความคิดเห็นที่ 37 พร้อมชมวิวงามๆของท่าเรือเมือง Seward ไปพลางๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:16:13

ความคิดเห็นที่ 38 ส่วนนี่ก็เรือที่จะพาพวกเราล่อง Kenai Fjord ในวันนี้ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:16:39

ความคิดเห็นที่ 39 บรรยากาศบนเรือค่ะท่านผู้ชม ปล.เรือเจ้านี้ อาหารกลางวันไม่ฟรีนะขอรับ แต่มีสเต็กกับแซลมอนบุฟเฟต์ขายในราคา $19 โชคดีที่พวกเราซื้อแซนวิชขึ้นไปกินเอง เพราะทั้งสเต็กทั้งแซลมอน หน้าตาดูไม่น่าหม่ำอย่างแรง -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:17:12

ความคิดเห็นที่ 40 แต่ Major Marine Tours นี่ดีอย่าง เพราะบนเรือมี Park Ranger มาคอยบรรยายให้ฟังกันตลอดทริปเลย ถ้าใครสงสัยว่าทำไมน้องแมวน้ำ น้องนากทะเลถึงเคยโดนมนุษย์ล่าจนแทบสูญพันธุ์ เชิญชั้นสองได้เลยค่ะ ลุง Park Ranger แกเตรียมขนนากทะเลมาให้ผู้โดยสารได้ลูบเล่นกันด้วยนะฮะ >___< แต่พอลูบแล้วก็ไม่แปลกใจเลยฮ่ะว่าทำไมนากทะเลถึงโดนล่า เพราะขนมันทั้งนุ่ม ทั้งแน่น ลูบแล้วเคลิ้มมากๆ T^T จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:18:11

ความคิดเห็นที่ 41 สาเหตุที่มี Park Ranger มาประจำการ ก็เพราะ Kenai Fjord เป็นอีกหนึ่ง National Park ของอลาสก้าน่ะเอง โดยมันถูกก่อตั้งมาเพื่ออนุรักษ์ Harding Icefield ทุ่งน้ำแข็งยุค Ice Age ขนาดมหึมาที่อยู่บนภูเขาใน Kenai Peninsula ใหญ่ไม่ใหญ่ เจ้า Harding Icefield นี่กินพื้นที่มากกว่าเกาะภูเก็ตทั้งเกาะอีกนะฮะพี่น้อง! >_< (ภาพ Harding Icefield : corbis.com) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:19:01

ความคิดเห็นที่ 42 หลังจากพนักงานทำการสาธิตด้านความปลอดภัยแล้ว เรือของเราก็ได้ฤกษ์ออกแล่นไปตามชายฝั่ง Kenai Peninsula จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:19:37

ความคิดเห็นที่ 43 ธารน้ำแข็งเยอะแยะเต็มไปหมด จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:20:24

ความคิดเห็นที่ 44 นี่ก็ธารน้ำแข็ง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:20:46

ความคิดเห็นที่ 45 แต่ที่ผ่านมานี่เดะๆไปเลยฮ่ะ เมื่อมาเจอธารน้ำแข็งยักษ์อันนี้เข้าให้ >_< เห็นแล้วอยากเล่นสไลเดอร์บนธารน้ำแข็งขึ้นมาทันควัน จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:21:50

ความคิดเห็นที่ 46 ระหว่างทางผ่านน้องนากทะเลที่นอนลอยตุ๊บป่อง 2 ตัวด้วย แต่คงเพราะวันนี้ฟ้าขมุกขมัว เลยถ่ายรูปน้องนากทะเลได้ไม่ชัดเลย แง๊ แทนที่จะได้รูปนากทะเลน่ารักๆแบบที่ Valdez กลายเป็นภาพติดวิญญาณผี(นาก)ทะเลซะงั้น -*- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:23:07

ความคิดเห็นที่ 47 งั้นเอาภาพสวยๆฝีมือเพื่อนตอไปล้างตาแทนละกันนะฮะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:24:31

ความคิดเห็นที่ 48 งานนี้มีพี่ปลาวาฬก็มาแจมกับเขาด้วย ตัวนี้เป็นปลาวาฬ Humpback whale ตัวจริงเสียงจริง ไม่ใช่ปลาวาฬปลอมอย่าง Orca หรือ Killer Whale ที่จริงๆอยู่ในสปีชี่เดียวกับปลาโลมา แต่ชาวคณะก็ถ่ายรูปพี่ปลาวาฬสะบัดหางไม่ทันอีกแล้ว T^T ถ่ายได้แต่น้ำที่พุ่งฟู่ๆขึ้นมาเท่านั้นเอง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:25:39

ความคิดเห็นที่ 49 นั่งๆเรือไป ฝนก็เริ่มตกหนักขึ้นเรื่อยๆ ขนาดกัปตันยังบอกเลยว่า ไม่ทราบจะได้จอดดูธารน้ำแข็งนานแค่ไหนนะครับ เพราะพยากรณ์อากาศว่าฝนจะตกหนักตลอดบ่ายเลยวันนี้ ไม่จริ๊งงงงงง "พี่ชอไม่ต้องกลัว" น้องปอปลอบ "ให้มันรู้ซะมั่งว่าทัวร์นี้มากับไผ!" ที่น้องปอพูดงั้น เพราะทริปนี้ชาวคณะแจ็คพ็อตแตกหลายรอบมาก ประเภทเช้าฝนตกหนัก บ่ายแดดออก หรือที่ Denali เช้าเมฆมาก ขนาดฐาน Mt McKinley ยังมองแทบไม่เห็น พอคล้อยบ่าย เมฆหายหมด เห็นยอดเขาหน้าตาเฉย! จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:26:26

ความคิดเห็นที่ 50 โอว์ งานนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ค่ะพี่น้อง เพราะพอเรือของเราแล่นเข้าช่องแคบที่จะไปทางธารน้ำแข็งปุ๊บ ฟ้าก็เปิด แดดออกจ้าขึ้นมาดื้อๆซะงั้น! แบบนี้ไม่เรียกมากับดวงทัวร์ ก็ไม่รู้จะว่าไรแล้วเนี่ย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:27:44

ความคิดเห็นที่ 51 มีน้ำตกน้อยๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:28:58

ความคิดเห็นที่ 52 แต่น้องน้ำตกหลบไปก่อน เพราะพระเอกของงาน Holgate Glacier อยู่นี่จ้าาาาา จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:29:59

ความคิดเห็นที่ 53 Holgate Glacier นี่ก็ใหญ่พอสมควร เทียบขนาดธารน้ำแข็งกับเรือได้ แต่ถ้าเทียบกับ Meares Glacier แถวๆ Valdez ที่เราไปเยือนมาตอนต้นทริป เดี๊ยนว่าน้อง Holgate แพ้พี่ Meares หลุดลุ่ยเลย -_- จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:30:27

ความคิดเห็นที่ 54 แต่เอาฮ่ะ ไหนๆมาแล้วก็ต้องนั่งดูสีสันสดใสของธารน้ำแข็งกันไปตามสูตร จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:30:44

ความคิดเห็นที่ 55 พวกเราพยายามถ่ายภาพ Glacier Calving ช็อตน้ำแข็งกำลังร่วงลงน้ำ แต่เช่นเคยฮ่ะ ถ่ายไม่เคยทันอีกแล้ว จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:31:21

ความคิดเห็นที่ 56 แต่ก่อนกัปตันจะใส่เกียร์ถอยหลัง พาผู้โดยสารกลับไปยัง Seward ทางเรือก็ส่งน้องล่ำคนนี้ ให้เอาสวิงสอยก้อนน้ำแข็งที่ลอยตุ๊บป่องตามน้ำขึ้นมา เพื่อให้ผู้โดยสารได้สัมผัสน้ำแข็งจาก Glacier อย่างใกล้ชิด (ก่อนน้ำแข็งจะโดนแปรสภาพไปเป็นค็อกเทลขายผู้โดยสาร ) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:32:37

ความคิดเห็นที่ 57 อย่างที่บอกไปในทู้ก่อนๆฮ่ะว่า น้ำแข็งจากธารน้ำแข็งเกิดจากการกดทับถมกันของน้ำแข็งและหิมะ ทำให้น้ำแข็งมีความหนาแน่นสูงมาก แทบไม่มีฟองอากาศเลย แถมยังโคตรหนักได้อีก ตอนที่แฟนน้องปอ หลอกน้องปอให้มายกก้อนน้ำแข็งร่วมสาบาน นางเอกของเราถึงกับร้องเสียงหลงเลยเชียว ดีแค่ไหนแล้ว ที่คุณแฟนไม่โดนน้องปอทุ่มน้ำแข็งใส่ ไม่งั้นอาจได้ซีโครงหักกลางทะเล เสียโปรแกรมเที่ยวหมด ฮา จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:33:18

ความคิดเห็นที่ 58 ชมธารน้ำแข็งขำๆแล้ว เราก็ล่องเรือชมวิวสองข้างทางไปอย่างชิลๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:33:41

ความคิดเห็นที่ 59 โอว์ กองทัพนกเต็มโขดหินเรย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:34:04

ความคิดเห็นที่ 60 นอกจากนี้บนโขดหินยังมีนก Puffin (รูปบน) อีก เห็นหุ่นป้อมๆยังงี้ เวลาบิน มันบินเร็วมากนะฮะ โดยพวกมันจะบินเลียบผิวน้ำ แล้วค่อยมุดลงน้ำอย่างรวดเร็วเพื่อหาปลากิน ส่วนรูปล่างที่เหมือนเพนกวินแคระนั่นก็คือนก Common Murre ค่ะ เจ้านี่ดำน้ำหาปลาเก่งสุดๆ เห็นตัวเล็กๆ (ประมาณ 40 เซน) แบบนี้ พวกมันสามารถดำได้ลึกถึง 30-60 เมตรเลยเชียว O_o จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:34:39

ความคิดเห็นที่ 61 นอกจากจะมีสารพัดนกคอยยืนเฉิดฉายอยู่ตามโขดหินแล้ว ยังมีฝูงสิงโตทะเลที่ยึดเอาโขดหิน เป็นที่นอนตากแดดผึ่งพุงอีกตะหาก แหม่ เสียดายแถวนี้ไม่มีทุ่นลอย เลยอดเห็นดราม่าสิงโตทะเลตบตีแย่งทุ่นเลย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:35:13

ความคิดเห็นที่ 62 เพื่อนๆก็อย่ามัวแต่ส่องน้องนก พี่สิงโตทะเลซะเพลิน จนลืมน้องแมงกระพรุนที่ลอยคอไปมาอยู่ในน้ำซะล่ะ สีสันแปลกตามากมาย แมงกระพรุนแถวนี้ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:35:40

ความคิดเห็นที่ 63 แล้วถ้าเพื่อนๆไปอลาสก้าช่วงหน้าร้อน จะเห็นว่าน้ำทะเลที่โน่นสีเขียวปั๊ดสุดๆ อันนี้ลุง Park Ranger แกเฉลยฮ่ะ ว่าเพราะแกนโลกนั้นเอียงนิดๆ ทำให้หน้าร้อนอลาสก้าได้รับแสงแดดเต็มๆ จนบรรดาสาหร่ายใต้ทะเลเติบโต แพร่ขยาย กระจายพันธุ์ จนทำให้น้ำเป็นสีเขียวเช่นนี้แล เลยมีคนยกมือถามลุง Park Ranger แล้วหน้าหนาวล่ะฮะ น้ำทะเลอลาสก้าจะมีสีอะไร ลุงบอก หน้าหนาว ไม่มีสาหร่าย น้ำทะเลจะใสมากๆ ไม่เชื่อ ให้ลองมาดำน้ำที่อลาสก้าช่วงหน้าหนาวดูสิจ๊ะ กร๊ากกกก (ดำให้ปอดบวมตายเหรอลุง -_-) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:36:33

ความคิดเห็นที่ 64 จบแล้วค่า ทัวร์ Kenai Fjords แบบด่วนๆ โบกมือลากันด้วยภาพรุ้งกินน้ำนี่ละกันเน้อ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:37:32

ความคิดเห็นที่ 65 หลังจากจบทัวร์ล่องเรือแล้ว ชาวคณะก็ชิ่งต่อไปยัง Exit Glacier ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Harding Icefield เช่นเคย พื้นที่สีขาวในรูปนี่ก็คือ Harding Icefield นั่นเอง จะเห็นได้ว่าทุ่งน้ำแข็งนี่ ใหญ่มหึมาจริงไม่ติงนังนะเคอะ เทียบขนาดแล้ว Exit Glacier เป็น outlet เล็กๆของ Harding Icefield เท่านั้นเอง จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:38:33

ความคิดเห็นที่ 66 Exit Glacier อยู่นอกเมือง Seward ไปประมาณ 10 นาทีได้ โดยมันอยู่บนถนนเส้นเดียวกับร้าน Resurrection Roadhouse ที่เราไปหม่ำเมื่อวานด้วยฮ่ะ แค่ลงจากรถ ก็เห็นธารน้ำแข็งแล้ว จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:39:00

ความคิดเห็นที่ 67 จาก Visitor Center ก็ต้องเดินเข้าป่าไปซักพักกว่าจะถึงธารน้ำแข็ง ตั้งแต่ถนนที่เข้าลานจอดรถ ยัน walking trail จะมีป้ายตัวเลขปักอยู่ตลอดทาง อันนี้ไม่ได้ใบ้หวยนะขอรับ แต่ป้ายเหล่านี้เป็นตัวบอกว่า แต่ก่อนธารน้ำแข็งมันกินพื้นที่มาถึงไหนตะหาก จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:40:04

ความคิดเห็นที่ 68 ด้วยปรากฎการณ์โลกร้อน ทำให้ธารน้ำแข็งมากมายในอลาสก้าค่อยๆละลายหายเข้าไปในภูเขา จากแต่ก่อน Exit Glacier งอกมาถึงลานจอดรถ ตอนนี้เหลือให้ดูแค่นี้เอง T^T จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:40:53

ความคิดเห็นที่ 69 มี Trail ให้เดินไปชม Exit Glacier อย่างใกล้ชิดด้วยค่ะ ใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาที จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:41:16

ความคิดเห็นที่ 70 ถ้าใครอึดหน่อย ก็สามารถเดินขึ้นเขาไปชมทุ่งน้ำแข็งสุดขอบฟ้า Harding Icefield ที่บนยอด Exit Glacier ได้ด้วยนะขอรับ แต่อันนั้นต้องใช้เวลาปีนนานหน่อยนะฮะ ไปกลับประมาณ 8 ชั่วโมง! >_< แน่นอนว่าสันหลังยาวทัวร์อย่างพวกเรา มาได้แค่นี้ก็ดีถมถืดแร๊ว เหอเหอ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:41:55

ความคิดเห็นที่ 71 เห็น Exit Glacier แล้ว จขกท.ก็เกิดอาการจิตตกเล็กน้อย น้ำแข็งละลายพรวดๆแบบนี้ จะเหลือให้ชนรุ่นหลังได้ดูอีกกี่นานหนอ T^T จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:42:47

ความคิดเห็นที่ 72 งั้นเปลี่ยนบรรยากาศมาชมภาพหวีตๆของน้องปอ & คุณแฟน แก้จิตตกแทนละกัน (ช่วยได้มาก ) จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:43:32

ความคิดเห็นที่ 73 เสร็จจากชะโงกทัวร์ Exit Glacier แล้ว เราก็แวะหม่ำข้าวเย็นที่ร้าน Exit Glacier Salmon Bake ซึ่งอยู่แถวๆ Resurrection Roadhouse เช่นกัน ร้านนี้ออกแนวบ้านๆหน่อย เมนูดูดีไม่เลว แต่ดันขายราคาพอๆกับ Resurrection Roadhouse เลยฟ่ะ งงเต็ก ว่าแล้วจขกท.เลยสั่ง crab cake มาหม่ำดับความเง็ง รสชาติใช้ได้ค่ะ crab cake ทอดมาได้กรอบนิดๆ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:45:40

ความคิดเห็นที่ 74 ส่วนแฟนน้องปอสั่งกุ้งยักษ์ทอด เป็นการปิดท้ายมื้อเย็นมื้อสุดท้ายในอลาสก้าของชาวคณะ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:46:24

ความคิดเห็นที่ 75 เพราะพรุ่งนี้เราต้องบินกลับไปทำงานใช้กรรมแล้วน่ะสิ ชาวคณะออกจากเมือง Seward แต่เช้า เพื่อมุ่งหน้ากลับไปทางเมือง Anchorage เนื่องจากไฟลต์ของพวกเราเครื่องออกตอน 6 โมงเย็น เราเลยพอมีเวลาเที่ยวเล่นในอลาสก้าต่ออีกหน่อย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:46:53

ความคิดเห็นที่ 76 นี่แหล่ะฮ่ะ เมือง Anchorage ก็เหมือนๆเมืองทั่วไปในเมกาชิมิ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:47:15

ความคิดเห็นที่ 77 แต่ที่ไม่ค่อยเหมือนชาวบ้านคือ ทำไมร้านจีนหลายเจ้าที่พวกเราเล็งไว้ ถึงได้พร้อมใจปิดร้านตอนเที่ยงวันอาทิตย์หมดเลยง่า หรือจะจริงอย่างที่ไกด์บุคเราเขียนไว้ว่า ร้านอาหารจีนหลายๆร้านที่ Anchorage เจ้าของเป็นคนเกาหลี ไม่ใช่คนจีน! แล้วคนเกาหลีในเมกาส่วนมากจะนับถือคริสต์ค่ะ เลยอาจเป็นเหตุผลที่ร้านปิด เพราะเจ้าของร้านต้องไปโบสถ์ล่ะมั๊ง -_- เนื่องจากชาวคณะเลี่ยนซีฟู้ดจนได้ที่แล้ว พวกเราเลยไปตายเอาดาบหน้าที่ร้านอาหารฮาวาย Hula Hands ซึ่งอยู่ติดๆกับร้านเกาหลี Tofu House ที่เราแวะหม่ำข้าวเที่ยงวันก่อนโน้น จขกท.เปลี่ยนบรรยากาศสั่งบะหมี่น้ำ รสชาติเฉยๆ แต่ scallop ลูกใหญ่โคตรอ่ะ แต่ดาวเด่นของมื้อนี้ต้องยกให้พี่ไก่ย่างที่รสชาติกลมกลมจานบนละกัน แฮ่ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:48:29

ความคิดเห็นที่ 78 จากนั้นเราก็ขับรถกลับไปตรงแถวๆ Musk Ox Farm ที่รีวิวไปในทู้แรก เนื่องจากชาวคณะอยากไปเที่ยว Alaska State Fair ที่บังเอิญจัดตรงกับทริปอลาสก้าของเราพอดี ปกติ State Fair จะอารมณ์คล้ายๆงานวัดกึ่งเกษรแฟร์ เพราะจะมีพืชผักสวนครัว ม้าลาล่อมาให้ชมกัน แต่ที่อะเมซิ่งที่สุด ก็คืออาหารที่ขายตาม State Fair นั่นแหล่ะฮ่ะ จขกท.เคยเห็น Oreo ชุปแป้งทอดขายใน State Fair แถวบ้านด้วยนะเธอว์ >_< แต่ Alaska State Fair นี่ท่าจะไม่ธรรมดาจริง เพราะงานดูใหญ่โตมโหระทึกมาก รถอย่างเยอะเลย แล้วค่าเข้ายังไม่ฟรีอีก! ขนาดนั้นคิวซื้อตั๋วเข้าชมก็ยังยาวเหยียด ยกเว้นท่านจะซื้อตั๋วออนไลน์(!)มาก่อนแล้วถึงจะลัดคิวได้ จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:49:41

ความคิดเห็นที่ 79 ข้างในงานคนก็เยอะจริงๆ นี่ขนกันมาหมดทั้งอลาสก้าเลยป่าวเนี่ย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:50:10

ความคิดเห็นที่ 80 มีร้านรวงมาออกร้านเยอะแยะมากมาย ทั้งร้านขายของเก่า จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:50:55

ความคิดเห็นที่ 81 ส่วนร้านนี้ จขกท.ติดใจว่าไอ้ตัวป้าย Welcome / Go Away นี่ขายแยกป่ะ จะได้เหมามาทีเดียวพร้อมๆกัน จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:51:49

ความคิดเห็นที่ 82 เปลี่ยนเกียร์เล็กน้อยมาชมน้องหนูน่าหยิกนางนี้ ขนาดเล่นฮูล่าฮูป คุณน้องยังหน้าตาจริงจังขนาดนี้ ตอนสอบจะหน้านิ่วคิ้วขมวดขนาดไหนเนี่ย จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:52:48

ความคิดเห็นที่ 83 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ร้านรวงทั้งหลายหาใช่ไฮไลต์ของ Alaska State Fair ไม่ สาเหตุที่พวกเราฝ่าฝูงชนมาเที่ยว Alaska State Fair ก็เพื่อการนี้ตะหาก พระเจ้าช่วยกล้วยปิ้ง นั่นมันกะหล่ำปลี หรืออุกกาบาตคะเนี่ย >_< จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:54:47

ความคิดเห็นที่ 84 Alaska State Fair เค้ามีธรรมเนียม ประกวดกะหล่ำยักษ์ประจำปีฮ่ะ ไม่ทราบว่าเพราะดินแถวนี้ดี หรือเกษตรกรเก่ง หรือมี GMO มาช่วยขุน กะหล่ำปลีที่เข้าแข่งใน Alaska State Fair ถึงทุบสถิติโลกกันได้เนืองๆ อย่างผู้ชนะปีนี้ สร้างสถิติโลกใหม่ ด้วยการคลอดน้องกะหล่ำที่หนักตั้ง 62 โลแน่ะ! โหย ถ้าเอากะหล่ำลูกนี้ไปทำกิมจิ คงสามารถเลี้ยงชาวบ้านได้ทั้งตำบลเลยนะนั่น จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 55 11:55:45