ความคิดเห็นที่ 1 อ้อ ลืมรูปครับ แหะๆ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 14:27:20

ความคิดเห็นที่ 2 นี่ไม่ใช่การเดินทางยาวนานแรมเดือนครั้งแรกในชีวิตผมครับ เพราะผมเคยเดินทางนานนับเดือนแบบนี้มาแล้วเมื่อสามปีก่อนตอนปี 52 ขณะนั้นผมยังเป็นเพียงแค่นักศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีที่สาม ณ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ไม่เคยมีประสบการณ์การสะพายเป้แบบยาวนานเกินอาทิตย์มาก่อนเลย และที่บ้านเองก็เป็นห่วงมากพอรู้ว่าผมทำแบบนี้ ตอนนั้นผมเดินทางคนเดียวเป็นเวลา 35 วันบนเส้นทางรถไฟสาย Trans-Siberia ข้ามประเทศรัสเซียตั้งแต่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก จนถึงนครวลาดิวอสต็อก จากฝั่งทะเลบอลติกในทวีปยุโรป มายังชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกในทวีปเอเชีย การเดินทางครั้งนั้นของผมได้พบเจอกับประสบการณ์หลากหลายรสชาติ ทั้งสุข สนุกสนาน หรือทั้งเศร้าและทรมานทั้งกายและใจจากความเหงาที่ผมไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นประสบการณ์ชีวิตที่ผมจะไม่มีวันลืมเลือนเลย และทริปรัสเซียครั้งนั้นเป็นอะไรที่ผมประทับใจมากๆ และผมเริ่มหลงเสน่ห์การเดินทางสะพายเป้แบบลุยเดี่ยวก็นับตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมานั่นแหละครับ สามปีให้หลัง ผมเพิ่งศึกษาจบในระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา และเพราะโอกาสนี้เองทำให้ผมตัดสินใจที่จะให้รางวัลกับชีวิตของผมอีกสักครั้ง ไม่ใช่การซื้อของขวัญชิ้นใหญ่ๆ อย่างคอมแอปเปิ้ล ไอแพด หรือรถยนต์เหมือนที่คนอื่นเขาทำกัน แต่ผมเลือกที่จะเที่ยวแรมเดือนอีกสักครั้ง อีกทั้งหากนับจากครั้งก่อนมันก็ผ่านมานานพอสมควรแล้ว ถ้าจะเที่ยวอีกสักหนก็นับว่าได้เวลาพอดี ก็เลยไม่รอช้า วางแผนการเที่ยวทันทีตั้งแต่ก่อนผมจะจบจริงๆ เสียด้วยซ้ำไปครับ และนี่คือที่มาของการเดินทางในครั้งนี้ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 14:32:11

ความคิดเห็นที่ 3 และทำไมผมถึงเลือกอเมริกาใต้ล่ะครับ สาเหตุก็ไม่ต่างอะไรกับหลายๆ ท่านที่มีโอกาสได้มาหรือใฝ่ฝันอยากจะมายังดินแดนแห่งนี้นี่แหละครับ อีกไม่กี่ปีผมก็ต้องกลับเมืองไทยแล้ว ในเวลานี้ตอนที่ผมยังหนุ่มยังแน่น ยังมีเรื่ยวมีแรง และยังคงอยู่ในสหรัฐอเมริกาอยู่ ผมควรจะใช้โอกาสทองนี้เที่ยวอเมริกาใต้ซะ เพราะว่าถ้าผมกลับไทยแล้วผมก็ต้องกินเงินเดือนแบบไทยๆ และการที่จะบินจากไทยไปยังอเมริกาใต้ก็ทั้งไกลแสนไกล (น่าจะเป็นที่ที่ไกลที่สุดที่บินไปจากไทยแล้วบนโลกใบนี้) และแพงแสนแพง ผมคงไม่มีมยุรา เอ้ย ปัญญาบินไปจากเมืองไทยหรอกครับ อีกทั้งหากผมอายุมากกว่านี้ เริ่มเข้าเลขสามหรือเลขสี่ สุขภาพกายของผม กระดูกกระเดี้ยวของผมมันอาจจะรับมือกับการเที่ยวแบบโหดๆ ไม่ไหวน่ะสิครับ เพราะการเดินทางในประเทศแถบอเมริกาใต้ไม่ได้สะดวกสบายอย่างประเทศแถบยุโรป ญี่ปุ่น หรืออเมริกาเหนือนั่นเอง จะให้ผมต้องหอบสังขารที่เริ่มจะร่วงโรย ณ เวลานั้นมาขึ้นรถบัสตะลอนๆ ทั่วอเมริกาใต้แบบนี้ก็คงจะแย่เหมือนกัน และแผนการที่ผมวางเอาไว้ก็เป็นอย่างในแผนที่นี่แหละครับ เรื่องของเรื่องมันก็มีอยู่ว่าผมน่ะอยากมาดู Machu Picchu มาก และ Machu Picchu ก็เป็นที่ที่อยู่ใน list ของผมอย่างแน่นอน แต่ว่าคิดไปคิดมา แค่ Machu Picchu เองเหรอ มันน้อยไปมั้งถ้าเราจะเที่ยวร่วมเดือนแบบนี้ และแล้วผมก็มองหาอีกสถานที่ที่คู่ควรกับทริปนี้ พลันนั้นผมก็นึกถึงโมอายแห่งเกาะอีสเตอร์ ซึ่งอยู่ในประเทศชิลี และผมก็ไม่รอช้าเพิ่มมันเข้าไปในแผนอีกที่นึง และหลังจากนั้นไม่นานผมก็เริ่มหาข้อมูลตามเว็บท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งไทยและเทศ และผมก็มาสะดุดตากับรีวิวของคุณ Princess Sadia ในเว็บ trekkingthai อะไรน่ะหรือครับที่สะดุดตาผม มันคือความขาวบริสุทธิ์ที่ดูแปลกตาราวกับอยู่คนละโลกของทะเลเกลือ Salar de Uyuni แห่งประเทศโบลิเวีย พอคิดไปคิดมาก็เลยสรุปว่าเราจะเริ่มจากชิลี ไปเกาะอีสเตอร์ แล้วค่อยๆ ขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ ผ่านโบลิเวีย จนกระทั่งถึงเปรูและ Machu Picchu ในที่สุด ก็เลยเกิดเส้นทางตามที่เห็นในแผนที่ข้างล่างนี่แหละครับ แผนของผมเริ่มต้นด้วยการออกเดินทางจากนคร Los Angeles ที่คนไทยรู้จักกันดีในชื่อเล่นว่า “จังหวัดที่ 78” โดยสายการบิน Air Canada ขึ้นเหนือไปยังนคร Toronto ของแคนาดา เพื่อเปลี่ยนเครื่องลงใต้ต่อมายังนคร Santiago ของชิลี เที่ยวเมืองนี้ก่อนเล็กน้อย หลังจากนั้นก็บินไปยังเกาะอีสเตอร์ด้วยสายการบิน LAN และกลับมายังแผ่นดินใหญ่อีกครั้งเพื่อเที่ยวเมือง Valparaiso และบินต่อไปยังเมือง Calama ทางตอนเหนือเพื่อไปต่อยังเมือง San Pedro de Atacama ของชิลี แล้วก็ซื้อทัวร์สามวันสองคืนสำหรับ Salar de Uyuni จบที่เมือง Uyuni ในโบลิเวีย แล้วก็นั่งรถบัสไปต่อยังเมือง Potosi เมืองแห่งเหมืองแร่และประวัติศาสตร์ แล้วก็ต่อไปยังเมือง Sucre เมืองหลวงที่แท้จริงของโบลิเวียโดยรถบัส หลังจากนั้นก็นั่งเครื่องบินไปยัง La Paz อยู่ที่นั่นซักสองสามวัน อาจแวะเที่ยวเมืองโบราณ Tiwanaku แล้วก็ต่อไปยังเมือง Copacabana ริมฝั่งทะเลสาบ Titicaca แล้วก็ข้ามไปยังเปรู เที่ยวเมือง Puno แล้วนั่งรถไปยัง Cuzco เที่ยวรอบๆ บริเวณ แล้วก็เดินป่า Salkantay Trek 5 วัน 4 คืนไปยัง Machu Picchu หลังจากนั้นก็บินต่อไป Lima พร้อมกับจบการเดินทางโดยการบินกลับมายัง Los Angeles ผ่าน Toronto โดยสายการบิน Air Canada เช่นเคย แต่ในความเป็นจริงแล้ว แผนข้างบนนี้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่หลายจุดเลยทีเดียวครับ ที่ว่าจะได้ไปเมือง Valparaiso แต่ที่จริงแล้วก็ไม่ได้ไป เพราะปัญหาบางอย่าง (อุบไว้ก่อนก็แล้วกันครับ ขืนบอกก่อนก็ไม่เซอร์ไพรส์กันพอดี) ส่วนเมือง Tiwanaku ผมก็ไม่ได้ไปครับ เพราะผมเปลี่ยนแผนกะทันหันไปซื้อทัวร์ปั่นจักรยานเสือภูเขาบนถนนที่อันตรายที่สุดในโลก (World’s Most Dangerous Road) ที่บริเวณใกล้ๆ กับกรุงลาปาซนี่เองครับ (เห็นมีสมาชิกท่านหนึ่งบอกให้ผมไปที่นั่นสิ ผมเองก็คิดว่าน่าสนใจเหมือนกัน แต่ตอนนั้นยังกล้าๆ กลัวๆ อยู่ ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรดลใจให้ผมทำทัวร์นี้) แต่นอกเหนือจากนี้ทุกอย่างก็เหมือนเดิมครับ บางคนอาจสงสัยเรื่องตั๋วเครื่องบิน ทริปนี้ของผมไม่มีการแลกไมล์ครับ ตั๋วทุกใบในการเดินทางครั้งนี้ซื้อเอาล้วนๆ ครับ ทั้งๆ ที่ไมล์ของผมกับเครือ Star Alliance ก็มีมากพอที่จะแลกตั๋วมายังอเมริกาใต้ได้สบายๆ แต่ว่าผมงกไมล์ครับ อยากจะเก็บไมล์ไว้บิน First Class กลับบ้านซักวันครับ (ก็เลยต้องมาน้ำตาตกกับการรูดปรึ๊ดๆ พร้อมกับกระเป๋าที่เบาลงทันตาเห็น T_T) และที่บิน Air Canada ก็เพราะมันเป็นสายการบินในเครือ Star Alliance เพียงเจ้าเดียวที่บินจากอเมริกามายังชิลีครบทุก leg ครับ (United บินถึงแค่ปานามา แล้วหลังจากนั้นเราต้องเปลี่ยนเป็นสายการบิน Copa ลูกหม้อเก่าของ Continental ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีความแน่นอนเลยว่าจะเข้าร่วมกลุ่ม Star Alliance เมื่อไหร่ และผมก็ไม่อยากจะเสียไมล์ตรงนี้ไปฟรีๆ) ส่วนราคาน่ะหรือครับ - 1600 ดอลลาร์สหรัฐครับ หรือเกือบห้าหมื่นบาท!! โอยยยยย ผมจะเป็นลม เจ้าอื่นถูกกว่านี้ตั้งหลายพันทำไมไม่เอ้าาาาาาา งกไมล์อยู่ได้! จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 14:34:30

ความคิดเห็นที่ 4 ก็อย่างที่ผมบอกนั่นแหละครับว่าผมเริ่มเตรียมการเดินทางตั้งแต่ผมยังไม่จบจริงจังเสียด้วยซ้ำ (ประมาณเดือนมีนาคม) พอจองตั๋วจองอะไรเรียบร้อยแล้วก็ตื่นเต้นน่ะสิครับ โอกาสแบบนี้นานๆ ทีมีหน ผมก็ไปซื้อไกด์บุ๊กของ Lonely Planet มาเก็บไว้ตั้งแต่ไก่โห่ มีช่วงนึงตื่นเต้นมาก อ่าน LP หนักยิ่งกว่าหนังสือเรียนและเปเปอร์เสียอีกครับ ฮ่าๆๆ (แต่สุดท้ายก็สำนึกผิด เพราะยังไงๆ สำหรับผมเรื่องเรียนต้องมาก่อน) เฝ้าแต่มองดูปฎิทินว่าเมื่อไหร่จะ 25 มิถุนาซะทีน้อ เขาว่าเวลาคนเราตื่นเต้น เวลาจะผ่านไปอย่างเชื่องช้า และในระหว่างรอวันนั้นมาถึงผมเองก็รู้สึกทรมานใจกับการรอคอยเสียเหลือเกิน แต่ในที่สุดแล้ว วันนั้นที่รอคอยก็มาถึงครับ! หนึ่งอาทิตย์ก่อนหน้าวันเดินทางผมอยู่บนปรัมพิธีในมหาวิทยาลัย เข้าร่วมการรับปริญญาโท นี่คือความสำเร็จขั้นหนึ่งของชีวิตผม แต่ในใจผมก็คิดว่า “และอีกหนึ่งอาทิตย์หลังจากวันนี้ผมจะได้ฉลองให้กับความสำเร็จนี้เสียที!!” บ่ายวันที่ 25 มิถุนายน ตามเวลาท้องถิ่นของมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ผมออกเดินทางไปยังนคร Los Angeles เพื่อนอนค้างกับเพื่อนของผมในเมืองนี้ครับ ก่อนไปก็รู้ตัวว่าคงไม่ได้กินอาหารไทยไปอีกนาน ก็เลยแวะโฉบไปยัง Thai Town เสียหน่อย และซื้อข้าวเหนียวไส้อั่วมาไว้ทานก่อนออกไปสนามบินพรุ่งนี้เช้า พอผมนอนหลับแล้วตื่นมาในเช้าวันรุ่งขึ้นเท่านั้นแหละครับ กลิ่นไส้อั่วที่ผมซื้อมามันยั่วยวนจนเพื่อนผมทนไม่ไหวลุกขึ้นมากินด้วยเสียเลย และในเวลาเจ็ดโมงเช้าของวันที่ 26 มิถุนายน ผมก็บอกลาเพื่อนของผม นั่งรถเมล์มายังสนามบิน Los Angeles พร้อมกับหัวใจที่เต้นแรง เลือดแดงทั้งใบหน้า และอีก 20 นาทีต่อมาผมก็มาถึงยังอาคาร 2 ที่เคาน์เตอร์เช็คอินของ Air Canada ครับ ในระหว่างที่ผมเช็คอินอยู่นั่นเอง เจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์เปิดพาสปอร์ตผมดูก็ชักจะสงสัย ผมไม่มีวีซ่าของทั้งแคนาดาและชิลีเลย! แล้วเขาก็ถามผมว่าคุณรู้ไหมว่า transit ที่แคนาดาต้องใช้วีซ่านะ ผมก็ตอบกลับไปว่าแต่ผมถือพาสปอร์ตไทย และผมมีวีซ่าอเมริกาที่ยังคงใช้ได้อยู่นะ ผมสามารถ transit ที่แคนาดาโดยไม่ต้องใช้วีซ่าได้ไม่ใช่เหรอ (ตามโปรแกรม Transit Without Visa Program ของรัฐบาลแคนาดา ผู้ถือหนังสือเดินทางไทยที่มีวีซ่าสหรัฐอเมริกาที่ยังไม่หมดอายุ สามารถที่จะ Transit ที่แคนาดาได้ในสองสนามบิน นั่นก็คือ Vancouver กับสายการบิน Air Canada หรือสายการบินเอเชียอื่นๆ ที่บินไปเอเชียและแวะผ่าน Vancouver และสนามบิน Toronto กับสายการบิน Air Canada) คุณเจ๊เช็คอินก็งงสิครับ ในใจคงคิดว่า “เกิดมาไม่เคยเจอลูกค้าประเภทนี้ ทำไงดีหว่า....” แล้วเขาก็หายไปพักใหญ่เพื่อไปปรึกษากับบอส แต่สุดท้ายผมก็เป็นฝ่ายถูกครับ เอ้า จะเดินทางทั้งทีเราก็ต้องศึกษาข้อมูลมาดีๆ ก่อนอยู่แล้วไม่ใช่หรือครับ ยิ่งเป็นเรื่องการเข้าออกประเทศแล้วด้วย ผมไม่ให้มีผิดพลาดหรอกน่า แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 55 14:37:09 จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 14:36:40

ความคิดเห็นที่ 5 พอเช็คอินเสร็จเรียบร้อยก็มาผ่านด่าน security มหาโหดของอเมริกาที่ต้องถอดแทบจะทุกชิ้นกันครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 14:38:19

ความคิดเห็นที่ 6 โถงผู้โดยสารขาออกครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 14:40:21

ความคิดเห็นที่ 7 แต่นั่นไม่ใช่ที่สำหรับผมครับ เพราะผมถือบัตร Star Alliance Gold อยู่ ก็ต้องใช้สิทธิ์ที่ผมมีสิครับ และนี่ก็คือ Maple Leaf Lounge ของสายการบิน Air Canada ครับ ผู้ถือบัตร Star Alliance Gold ของสายการบินใดก็ได้ในเครือสามารถพาผู้ติดตามเข้าด้วยได้ 1 คนครับ แต่ผมมาตัวคนเดียวน่ะสิ ไม่มีผู้ติดตามกะเขา... จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 14:41:57

ความคิดเห็นที่ 8 ภายในครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 14:42:59

ความคิดเห็นที่ 9 ปูเสื่อรอชมมหากาพย์ครับ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 14:43:00

ความคิดเห็นที่ 10 ไปเที่ยวด้วยครับ ^^ จากคุณ : yoboz เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 14:44:12

ความคิดเห็นที่ 11 เห็นมีรูปจากเกาะอีสเตอร์ด้วย อยากไปมากๆ ติดตามอย่างใจจดจ่อ จากคุณ : อาตี๋อินเทอร์เน็ต เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 14:44:24

ความคิดเห็นที่ 12 สวัสดีตอนบ่ายครับคุณอาตี๋อินเตอร์เน็ต ขอบคุณที่เข้ามาเจิมเป็นคนแรกครับ รู้สึกเป็นเกียรตินะครับเนี่ย มุมอาหารอันแสนจะน้อยนิด lounge ในอเมริกานี่สู้ทางเอเชียไม่ได้จริงๆ ยิ่งถ้ามาเทียบกับของการบินไทยบ้านเรานี่แพ้ขาดลอย จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 14:46:21

ความคิดเห็นที่ 13 สวัสดีคุณ yoboz ด้วยคนครับ ด้านหนังที่เห็นปั้นจั่นอยู่นั่นคือส่วนต่อขยายของอาหารระหว่างประเทศ Tom Bradley International Terminal นั่นเองครับ หากใครเคยบินมาที่นี่คงทราบกันดีว่าอาคารระหว่างประเทศของ LAX นั้นห่วยแตกขนาดไหน หวังว่าพอสร้างใหม่แล้วคงไฉไลขึ้นกว่าเดิมไม่มากก็น้อยเด้อ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 14:47:23

ความคิดเห็นที่ 14 เครื่องบิน Airbus 320 ของสายการบิน Air Canada (เลขทะเบียน C-FDSN) เพิ่งจะมาถึงจาก Vancouver ครับ เตรียมมารับผมไปยัง Toronto ต่อ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 14:48:54

ความคิดเห็นที่ 15 Boarding Pass รุ่นบางเฉียบ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 14:50:32

ความคิดเห็นที่ 16 ตามไปเที่ยวอเมริกาใต้ด้วยคนครับ จากคุณ : พิ้งค์โลลี่ป้อบ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 14:51:02

ความคิดเห็นที่ 17 ดูเวลาตอนนี้สิบโมงครึ่งแล้ว เราออกไปกันดีกว่าครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 14:51:42

ความคิดเห็นที่ 18 สวัสดีครับคุณพิงค์โลลี่ป๊อบ ติดตามชมได้ตามอัธยาศัยครับ ยังมีอีกหลายตอนให้ติดตามกันจนตาแฉะแน่นอนครับถ้าผมไม่จมกองงานตายซะก่อน ไม่เสียเวลาก็ใช้ได้แล้ว วันนี้เราบินกับเที่ยวบินที่ AC 786 LAX-YYZ ครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 14:53:34

ความคิดเห็นที่ 19 ดิฉันขอแวะมาปาดกระทู้นะคะ ขอบคุณ Khun Wasut มากๆ ค่ะ คุณมาทำรีวิวได้ถูกเวลา และถูกใจดิฉันมากๆ เพราะดิฉันกำลังจะเริ่มทำการบ้านหาข้อมูลเพื่อแพลนทริปไปชิลีค่ะ และตอนนี้ยังคิดไม่ตกเลยค่ะ ว่าจะบินไปชิลีจากกรุงเทพฯ หรือจากสิงคโปร์ดี และไปแวะหล่นตุ้บทั้งขาไปและขากลับที่เมืองไหนในยุโรปดีค่ะ ลอนดอน ปารีส ซูริค แฟรงเฟิร์ท มาดริด หรือ บาร์เซโลน่าดี แวะยุโรปเพื่อไปกินโดยเฉพาะค่ะ จากคุณ : Been there, done that! เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 14:53:48 A:218.186.10.229 X: TicketID:357481

ความคิดเห็นที่ 20 บอกทีมผู้บริหารสนามบินอินชอนของเกาหลีหรือชางงีของสิงคโปร์มาสอนผู้บริหารสนามบินของอเมริกาได้ไหมครับเนี่ย! จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 14:54:08

ความคิดเห็นที่ 21 สวัสดีคุณ Been there, done that! ครับ ยินดีครับถ้ารีวิวของผมจะเป็นประโยชน์กับคุณ จากเมืองไทยผมว่าไปผ่านยุโรปน่าจะเสียเวลาน้อยสุดนะครับ ถ้ามาทางอเมริกานี่ผมว่าคงจะเหนื่อยแย่เลย ร้าน Duty Free มีอยู่กระจี๋งนึง เพราะอาคารนี้ไม่ใช่อาคารระหว่างประเทศหลักของสนามบินนี้ด้วยแหละครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 14:57:30

ความคิดเห็นที่ 22 คนเริ่มมาออกันหน้าเกทแล้วครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 14:57:59

ความคิดเห็นที่ 23 ท่าจะสนุก  ไปเที่ยวด้วยคนครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 14:58:50

ความคิดเห็นที่ 24 และด้วยเอกสิทธิ์ของบัตรเบ่ง ผมจึงได้ขึ้นเครื่องก่อนใคร เพราะผมถือว่า การได้ขึ้นเครื่องก่อนคนอื่นเป็นกำไรสำหรับคนรักเครื่องบินอย่างผมครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 14:59:11

ความคิดเห็นที่ 25 ตื่นเต้นๆ จากคุณ : KamPrii...Z เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 14:59:29

ความคิดเห็นที่ 26 สวัสดีครับคุณเล็กทาโร่ มาเกาะล้อเครื่องบินไปด้วยกันครับ “โปรดศึกษาคู่มือความปลอดภัยที่อยู่ด้านหน้าของที่นั่งของท่านด้วยค่ะ” (คุณแอร์พูด) จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:00:00

ความคิดเห็นที่ 27 งวงช้างถอยออกไปแล้ว หลังจากนี้คงถึงเวลาต้องจากลา บ๊ายบายอเมริกา อีกเดือนกว่าๆ เจอกันใหม่นะ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:03:04

ความคิดเห็นที่ 28 สวัสดีคุณ KamPrii...Z ครับ เหนือน่านฟ้าชานเมืองของนคร Los Angeles ครับ น่าจะอยู่แถวๆ Riverside จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:03:51

ความคิดเห็นที่ 29 ไฟลท์ที่บินระหว่างอเมริกาและแคนาดาก็ไม่ได้ต่างอะไรกับไฟลท์ในประเทศอเมริกาเลยครับ ถึงจะบินนานข้ามทวีปเป็นสี่ห้าชั่วโมง แต่ไม่มีการเสริฟอาหารใดๆ ทั้งสิ้นครับ ที่ผมได้ก็มีแค่น้ำเท่านั้น เฮ้ออออออออ นี่ผมเสียตังค์บินสายการบินปกติหรือโลว์คอสกันแน่เนี่ย จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:04:31

ความคิดเห็นที่ 30 ไปเที่ยวด้วยค่ะ จากคุณ : armearn เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:04:43

ความคิดเห็นที่ 31 เราบินผ่านส่วนปลายๆ ของ Grand Canyon ด้วยครับ นี่ขนาดปลายๆ ยังดูอลังการได้ขนาดนี้ ถ้าบินผ่านตรงกลางๆ นี่จะขนาดไหน! จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:05:27

ความคิดเห็นที่ 32 ถึงแม้ผมจะไม่ต้องใช้วีซ่าในการ transit ที่แคนาดา แต่ผมก็ยังต้องกรอกเจ้านี่ครับ อ้อ ข้อดีของสายการบินนี้ก็คือมีทีวีส่วนตัวทุกที่นั่งครับ แถมเป็น On Demand ซะด้วย ใครใคร่ดูอะไรก็ดูได้ตามอัธยาศัยครับ แต่ผมไม่สนใจหรอก เพราะผมมีระบบความบันเทิงส่วนตัวครับ ใต้แบบฟอร์มเข้าเมืองแคนาดานั่นไง!! จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:06:25

ความคิดเห็นที่ 33 สวัสดีครับคุณ armearn มาเที่ยวด้วยกันครับ และหากว่าช่วงใดที่ผมรู้สึกเหงา เจ้านี่ก็เป็นเพื่อนร่วมทางที่แสนดีได้เช่นกันครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:08:17

ความคิดเห็นที่ 34 ใกล้จะถึงแคนาดาแล้วววววว จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:08:56

ความคิดเห็นที่ 35 ลงจอดที่ท่าอากาศยาน Toronto Pearson International Airport เสียทีครับ หางเมเปิลเต็มไปหมดเลย (ก็แหงละ เขาเจ้าถิ่นนี่หน่า) จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:10:14

ความคิดเห็นที่ 36 สนามบินที่แคนาดานี่เยี่ยมจริงๆ สนามบินในอเมริกาทั้งหลายชิดซ้ายไปได้เลย จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:10:44

ความคิดเห็นที่ 37 ขอไปพักผ่อนอาบน้ำทานข้าวที่ Maple Leaf Lounge ก่อนละกันนะครับ ด้วยเอกสิทธิ์ของผู้ถือบัตร Star Alliance Gold เช่นเคย จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:11:10

ความคิดเห็นที่ 38 บรรยากาศภายในครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:11:39

ความคิดเห็นที่ 39 ขอแอบเกาะล้อตามไปเที่ยวด้วยคนนะคะ จากคุณ : ลุ๊งลิ๊ง เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:12:08

ความคิดเห็นที่ 40 เด็กอายุต่ำกว่า 18 ผู้ปกครองควรพิจารณาครับ อ้อ ตอนผมจะเข้า lounge นี้ เจ้าหน้าที่ถามผมด้วยว่าคุณอายุเท่าไหร่ ผมก็ตอบไปว่า “ยี่สิบ...ปีครับ” เขาก็บอกว่าที่เขาต้องถามเพราะเขาเห็นว่าผมหน้าดูอ่อนนะ แปลกใจมากๆ นานๆ ทีจะมีคนมาทักว่าผมหน้าอ่อน นี่ลดอายุผมไปตั้งหลายปีนะเนี่ย และเขากลัวผมมาดื่มแอลกอฮอล์โดยผิดกฎหมาย (กฎหมายของแคนาดาห้ามผู้อายุต่ำกว่า 19 ปีดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์) จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:12:14

ความคิดเห็นที่ 41 มุมอาหารครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:13:02

ความคิดเห็นที่ 42 สวัสดีครับคุณลุ๊งลิ๊ง ที่ยังเหลือเพียบครับ ตามมาได้เลยครับ และมุมสลัดบาร์ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:14:59

ความคิดเห็นที่ 43 มารอชมค่ะ จากคุณ : สักวัน ความดีต้องปรากฏ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:15:27

ความคิดเห็นที่ 44 หลังจากอาบน้ำและนั่งเล่นนอนเล่นใร lounge จนหนำใจแล้วก็ถึงเวลาเตรียมขึ้นเครื่องเสียที จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:15:28

ความคิดเห็นที่ 45 สวัสดีครับคุณสักวัน ความดีต้องปรากฏ ไม่ผิดเกทแน่ๆ ครับ จอทีวีบอกอยู่โต้งๆ ขนาดนี้ ตื่นเต้นๆ อีกแค่อึดใจเดียวก็จะถึงอเมริกาใต้ในฝันแล้ว นี่ตาผมไม่ได้ฝาดไปใช่ไหม ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม ลองหยิกตัวเองก็รู้สึกเจ็บ ใกล้ความจริงแล้วครับ! จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:18:08

ความคิดเห็นที่ 46 ลืมรูปไปครับ ขออภัย จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:18:46

ความคิดเห็นที่ 47 ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มกว่าที่ Toronto แล้วครับ แต่ดูท้องฟ้าสิครับ ยังสว่างโร่อยู่เลย นี่แหละครับฤดูร้อนของซีกโลกเหนือบนจุดที่ละติจูดสูงๆ กลางวันยาวๆ กลางคืนสั้นๆ บางทีตีสี่กว่าๆ สว่างแล้วก็ยังมีเลยครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:19:27

ความคิดเห็นที่ 48 เจ้า Boeing 767-300ER เลขทะเบียน C-FOCA มาจอดเทียบงวงเรียบร้อย พร้อมรับผู้โดยสารเที่ยวบินที่ AC 92 เดินทางไปยังกรุง Santiago ของชิลี และต่อไปยังกรุง Buenos Aires ของอาร์เจนติน่าอีกด้วย จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:20:51

ความคิดเห็นที่ 49 นี่แหละครับระบบความบันเทิงแบบ Audio-Video On Demand ของสายการบินนี้ “EnRoute” จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:21:18

ความคิดเห็นที่ 50 นิตยสาร คู่มือความปลอดภัย และ ถุงอาเจียน จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:21:46

ความคิดเห็นที่ 51 เครื่องของเราทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าท่ามกลางความมืดมิดแห่งราตรี หลังจากที่เครื่องใต่ระดับได้ที่เหล่าพนักงานก็มาเซิ้งกระติ๊บ เอ้ย ให้บริการอาหารค่ำกันครับ (ไวน์แดงขวดนี้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ผู้ปกครองควรพิจารณานะครับ ) จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:22:15

ความคิดเห็นที่ 52 หน้าตาอาหารค่ำของผมครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:22:48

ความคิดเห็นที่ 53 นอนหลับไปพักใหญ่ๆ ตื่นมาก็พบว่าเครื่องของเรากำลังบินอยู่แถวๆ กรุง Lima ของเปรูครับ นี่คือครั้งแรกในชีวิตที่ผมข้ามเส้นศูนย์สูตรลงมายังซีกโลกใต้ครับ!! สุดยอดดดด!! จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:23:21

ความคิดเห็นที่ 54 แสงแรกแห่งอเมริกาใต้ค่อยๆ โผล่พ้นจากขอบฟ้าอันมืดมิด ส่องให้ท้องฟ้าสว่างสดใส ขอให้ทริปนี้ของผมปลอดโปร่งปลอดภัยเหมือนท้องฟ้าตอนนี้ด้วยเถิด!! จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:23:52

ความคิดเห็นที่ 55 ไปเมกาใต้ 30 กว่าวันเหมือน คุณ อาตี๋อินเตอร์เนท เลยนะครับ นึกว่าไปด้วยกัน จากคุณ : ตี๋โหด (บัตรผ่านด้อยสิทธิ์) เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:25:09

ความคิดเห็นที่ 56 เข้าแถวรอชม...ครับ จากคุณ : moccavipkream เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:25:41

ความคิดเห็นที่ 57 สวัสดีครับคุณตี๋โหด คนละทริปกันครับ คุณอาตี๋อินเตอร์เน็ตเขาไปตั้งแต่เมษาโน้นครับ แถมไปพาตาโกเนียด้วย ผมล่ะอิจฉาสุดๆ เลย ใกล้ถึงแล้วววววววว!!! จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:26:33

ความคิดเห็นที่ 58 สวัสดีครับคุณ moccavipkream โปรดอยู่ในแถว อย่าแตกแถวครับ มีของดีมาให้ชมกันต่อแน่นอน อาหารเช้าครับ มาตรฐานทั่วๆ ไป จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:28:01

ความคิดเห็นที่ 59 และพนักงานต้อนรับก็เริ่มแจกจ่ายเอกสารเข้าเมืองของชิลีครับ มีสองแผ่น แผ่นเล็กนี่สำคัญมากครับ หลังจากผ่าน ตม. แล้วให้เก็บรักษาไว้ยิ่งชีวิตเลยครับ ส่วนแผ่นใหญ่นั้นคือแบบฟอร์มศุลกากร ประเทศชิลีนี้ค่อนข้างเข้มงวดในการนำพวกผัก ผลไม้ หรือเนื้อสัตว์เข้าประเทศมากครับ เพราะฉะนั้นอย่าได้พยายามทำผิดกฎเลยจะดีกว่า จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:28:42

ความคิดเห็นที่ 60 และในระหว่างที่กัปตันเปิดสัญญาณรัดเข็มขัดพร้อมเตรียมนำเครื่องลงจอดแล้วนั่นเอง พอผมเปิดม่านหน้าต่างขึ้นผมก็ตื่นตะลึงกับภาพที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้า นั่นก็คือเทือกเขาแอนดีสอันสลับซับซ้อนโชว์ยอดขาวๆ หากเปรียบพื้นที่ตรงนี้เหมือนผ้าก็คงเหมือนผ้าที่ไม่ได้รีด ยับยู่ยี่แบบสุดๆ แต่ก็เป็นอะไรที่ตระการตาเหลือเกินครับ มันช่างเป็นการต้อนรับสู่ชิลีที่แสนจะยิ่งใหญ่จริงๆ ครับ! เป็นบุญตาเหลือเกินที่ได้มีโอกาสมาเห็นด้วยตาตัวเอง! จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:29:40

ความคิดเห็นที่ 61 ในที่สุดเครื่องก็ลงจอดยังท่าอากาศยาน Comodoro Arturo M. Benitez ของกรุง Santiago ประเทศชิลีโดยสวัสดิภาพ พร้อมกับอากาศอันขมุกขมัว นี่น่ะหรืออากาศแบบ Mediterranean! แคลิฟอร์เนียอากาศแบบเดียวกันยังดีกว่านี้ตั้งหลายเท่า จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:30:37

ความคิดเห็นที่ 62 เข้าไปจอดที่เกทของเราครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:31:13

ความคิดเห็นที่ 63 ก่อนออกจากเครื่องมาขอเบิ่งชั้นธุรกิจให้เป็นบุญตา (แต่ก็อยากนั่งให้เป็นบุญก้น) จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:31:46

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณนะที่พามาส่ง จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:32:13

ความคิดเห็นที่ 65 พอมาถึง Santiago แล้วผมก็รีบหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งขึ้นมา ซึ่งในกระดาษแผ่นนั้นมีข้อมูลเกี่ยวกับ host ของผมที่นี่ ครับ ผมไม่ได้อยู่ที่ hostel ที่นี่หรอกครับ แต่ผมติดต่อหา host ที่จะให้ห้องพักของผมผ่านเว็บไซต์ Couchsurfing.org สำหรับคนไทยเว็บไซต์นี้อาจไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเท่าไหร่นัก couchsurfing (หรือที่เรียกย่อๆ กันว่า CS) เป็นเว็บไซต์ Social Network อีกประเภทหนึ่งครับ แต่เน้นไปทางการเดินทาง ท่องเที่ยว พบปะพูดคุยกับผู้คนกันจริงๆ สมาชิก Couchsurfing สามารถส่งคำขอหาที่อยู่ในเมืองต่างๆ ทั่วโลกได้ หากมีสมาชิก CS ในเมืองนั้นที่ว่างและอยากจะให้เราอยู่บ้านด้วย เขาก็จะตอบรับเรากลับมาครับ ถามว่ามีความเสี่ยงไหม ก็มีครับ แต่ทางเว็บไซต์ก็มีวัฒนธรรมที่ดีอยู่อย่าง นั่นก็คือคนที่ไปอยู่บ้าน host หากกลับมาแล้วมักจะมาเขียน comment ให้ host เสมอ และ comment เหล่านี้นี่เองที่เป็นประโยชน์ต่อนักเดินทางคนอื่นๆ ในการตัดสินใจเลือก host ด้วย ในวันนี้ host ของผมชื่อคุณ Hector ครับ เขาอยู่อพาร์ตเมนท์ที่อยู่ห่างจาก Palacio de la Moneda ซึ่งเป็นทำเนียบประธานาธิบดีที่อยู่ใจกลางเมืองไปเพียง 4 บล็อกเท่านั้นครับ นับว่าทำเลดีทีเดียว เขาบอกให้ผมใช้บริการรถของ TransVIP ที่มีเคาน์เตอร์มารอรับหลังจากที่เราผ่าน ตม. และศุลกากรออกมาเลย ซึ่งบริการนี้เป็น shared taxi ก็คือจะรับผู้โดยสารจนเต็มคันรถ แล้วก็จะไปส่งผู้โดยสารตามจุดต่างๆ ที่ผู้โดยสารแต่ละคนต้องการ ราคาก็ 5500 เปโซชิลี (อยากรู้ว่ากี่บาทก็ให้เอา 15 - 16 หารโดยประมาณครับ ส่วนถ้าอยากรู้ราคาเป็นดอลลาร์ก็เอา 500 หาร ลองเอาหารแล้วก็ตกประมาณ 330 บาทครับ ไม่แพงมากนะผมว่า) ผมก็บอกที่อยู่เขาไป ปรากฎว่าเขาพาผมไปส่งผิดบล็อกนึงครับ ตอนลงตอนนั้นมองไปรอบๆ ก็ว่า เอ ทำไมมันมีแต่ตึกดูเก่าๆ ไม่น่าอยู่หนอ โดนหลอกหรือเปล่าเนี่ย ตอนนั้นก็เลยกัดฟันใช้โทรศัพท์ที่เปิด roaming มาจากอเมริกาโทรไปหาเขา ด้วยภาษาสเปนที่กระท่อนกระแท่นสุดๆ ของผม (และคุณ Hector ก็พูดอังกฤษไม่ได้เลย) คุยไปคุยมาถึงรู้ว่าเขาอยู่อีกบล็อกนึงนะ แล้วเขาก็เดินมารับผมเดินไปยังอีกบล็อกนึง เห็นตึกอพาร์ตเมนท์ที่ดูดีเลยทีเดียว ก็เลยมั่นใจว่าไม่ผิด ผมคุยกับเขาอยู่พักใหญ่ แนะนำตัว เล่าถึงเรื่องราวของพวกเรา แล้วผมก็ให้กล้วยตากเขาไปหนึ่งกล่องที่ผมซื้อมาจาก Thai Town ที่ Los Angeles เขาขอบคุณผมใหญ่เลย เรานั่งดื่มชาไปกันคนละแก้วแล้วจึงได้เวลาออกเดินทัวร์ครับ และคุณ Hector ก็เป็นไกด์จำเป็นให้ผม เขาบอกว่าเขาจะออกไปบ้านเพื่อน แต่ระหว่างทางพาเที่ยวได้ซักพักนึง จุดแรกที่เขาพาผมมาก็คือภูเขาเตี้ยๆ กลางเมืองลูกนี้ครับ Cerro (ภาษาสเปนแปลว่าภูเขา) Santa Lucia จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:33:04

ความคิดเห็นที่ 66 วิวเมืองก็เป็นแบบนี้แหละครับ ตึก ตึก แล้วก็ตึก อ้อ แต่ตึกที่สูงที่สุดในอเมริกาใต้อยู่ที่เมืองนี้นะครับ ชื่อ Torre Costanera ครับ สูง 300 เมตร เห็นอยู่ลิบๆ ในม่านหมอกในภาพนี้แหละครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:34:00

ความคิดเห็นที่ 67 ทำไมรูปไม่ขึ้นล่ะครับเนี่ย... จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:34:39

ความคิดเห็นที่ 68 อยู่ที่นั่นได้ซักพักก็ได้เวลาต้องลงแล้วครับ เพราะคุณ Hector ก็ต้องไปต่อบ้านเพื่อนเหมือนกัน ระหว่างทางเขาก็ติดต่อรถ TransVIP สำหรับวันรุ่งขึ้นตอนเช้าอีกด้วยเพื่อกลับไปยังสนามบินอีกครั้ง เพราะพรุ่งนี้ผมต้องขึ้นเครื่องไปเกาะอีสเตอร์นั่นเองครับ แล้วเขาก็บอกทางไปยังจุดหมายต่อไปของผมก็คือ Cerro San Cristobal ซึ่งเป็นอีกจุดชมวิวของเมืองนี้ก่อนที่เราจะแยกทางกันพร้อมกับนัดเจอกันที่บ้านตอนหนึ่งทุ่มครับ ระหว่างทางพบกับสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง และรูปปั้นนี่ครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:37:33

ความคิดเห็นที่ 69 ตามไปด้วยคนครับ รู้สึกว่าช่วงนี้ทริปอเมริกาใต้กำลังฮ็อตนะเนี่ย จากคุณ : Gelgoog เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:38:20

ความคิดเห็นที่ 70 แถวนั้นมีมหาวิทยาลัยนิติศาสตร์ของชิลี นักศึกษาเพิ่งจะเลิกเรียนกันพอดีครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:40:32

ความคิดเห็นที่ 71 หนังในโปสเตอร์นี้ชื่อภาษาอังกฤษสั้นๆ นิดเดียวเอง แต่ชื่อภาษาสเปนล่อซะยาวเชียว จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:42:25

ความคิดเห็นที่ 72 สวัสดีครับคุณ Gelgoog ใช่ครับ มีรีวิวออกมาเยอะเหลือเกิน แถมมีแต่อันเจ๋งๆ ทั้งนั้นด้วย ผมว่ายังไงก็ดูไม่เบื่อนะครับ เริ่มหิวแล้วครับ ซื้อฮอทดอกข้างทางทานซักหน่อยดีกว่า 850 เปโซครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:45:36

ความคิดเห็นที่ 73 บรรยากาศคล้ายๆ เมืองไทยนิดๆ แฮะ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:47:03

ความคิดเห็นที่ 74 ระหว่างทางก็ผ่านย่าน Bellas Artes ซึ่งมีอาคารเก๋ๆ ผับชิคๆ มากมายครับ แต่ตอนนี้ดูเงียบเหงาเหลือเกิน คิดว่าตอนกลางคืนคงคึกคักกว่านี้ครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:48:05

ความคิดเห็นที่ 75 น้องผู้หญิงคนตรงกลางนี่เขากำลังอ่านหนังสือหรือเขาอายกล้องผมกันแน่ครับเนี่ย จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:49:18

ความคิดเห็นที่ 76 ดูร่มรื่นดีครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:49:59

ความคิดเห็นที่ 77 แล้วก็มาถึงตีนเขา San Cristobal แล้วครับ เขานี้จะสูงกว่า Santa Lucia ที่เราเพิ่งขึ้นมากันครับ แต่ว่าที่นี่มีรถรางขึ้นไป ราคาตั๋วไปกลับก็อยู่ที่ 1800 เปโซครับ หรือประมาณ 120 บาทเรานั่นเอง จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:51:16

ความคิดเห็นที่ 78 ชมวิวเมืองกันให้ตาแฉะไปข้างเลย ถ้าไม่มีหมอกน่าจะสวยกว่านี้ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:52:30

ความคิดเห็นที่ 79 เห็น Cerro Santa Lucia ทางซ้ายมือของภาพนี้ด้วยครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:53:08

ความคิดเห็นที่ 80 ข้างบนมีอนุสาวรีย์พระแม่มารีด้วยครับ รู้สึกว่าอเมริกาใต้นี่จะชอบสร้างอนุสาวรีย์ทางศาสนาไว้บนยอดเขา ไม่รู้ว่าไปลอก Rio de Janeiro มาหรือเปล่า (หรืออาจจะกลับกันก็ได้ อันนี้ผมก็ไม่อาจทราบได้ครับ) จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:53:59

ความคิดเห็นที่ 81 เอ้า น้ำท่วมตา (ตาแฉะ) กันจากวิวเมืองจากบนเขากันพอแล้ว ได้เวลาลงมาแล้วครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:55:47

ความคิดเห็นที่ 82 ชิลีเนี่ยเป็นประเทศที่คุณภาพชีวิตประชากรสูงที่สุดในอเมริกาใต้เลยทีเดียวครับ (วัดจากดัชนี HDI) แถมรายได้เฉลี่ยต่อหัวก็สูงสุดเช่นเดียวกัน อีกทั้งรัฐบาลและผู้นำของประเทศนี้ก็ซื่อสัตย์มาก ดังจะเห็นจากดัชนีการรับรู้การคอร์รัปชั่นที่สูงถึง 7 กว่าๆ (ค่าการรับรู้การคอร์รัปชั่นอยู่ระหว่าง 0 - 10 ยิ่งมากยิ่งคอร์รัปชั่นน้อย เทียบกับเพื่อนบ้านอย่างอาร์เจนตินาที่รายได้เฉลี่ยต่อหัวใกล้เคียงกันมาก แต่ดัชนีการรับรู้การคอร์รัปชั่นของอาร์เจนตินาต่ำเพียงแค่ 2 กว่าๆ ซึ่งแย่กว่าไทยเสียอีก) ซึ่งเทียบเท่ากับประเทศในยุโรปหลายๆ ประเทศ และนอกเหนือจากนี้ชิลียังเป็นเพียงประเทศเดียวในอเมริกาใต้ที่อยู่ในกลุ่ม OECD ซึ่งมีแต่ประเทศพัฒนาแล้วเท่านั้นที่จะเข้าร่วมกลุ่มได้ ชาวชิลีเองก็ภาคภูมิใจกับก้าวย่างของประเทศของพวกเขาที่มาได้ไกลและยิ่งใหญ่บนเวทีโลกได้ขนาดนี้ และพวกเขาก็มีความสุขมาก นักท่องเที่ยวอย่างผมเองก็รู้สึกได้เช่นกันว่าชาวชิลีเองก็อยากที่จะเผื่อแผ่ความสุขนี้ให้กับผู้มาเยือนอย่างผมเช่นกันครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:56:48

ความคิดเห็นที่ 83 เดินชมนกชมไม้ ไม่ใช่สิ ชมถนนชมรถกันต่อไปครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:58:11

ความคิดเห็นที่ 84 ตอนนี้ก็ปาเข้าไปห้าโมงเย็นแล้ว เราไปย่านใจกลางเมืองกันดีกว่าครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 15:59:11

ความคิดเห็นที่ 85 และเราเดินทางกันโดยรถไฟใต้ดินครับ ไปยังสถานี Universidad de Chile จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 16:00:00

ความคิดเห็นที่ 86 สภาพรถไฟก็ดีใช้ได้ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 16:00:37

ความคิดเห็นที่ 87 ระหว่างที่ผมหยิบเจ้า DSLR คู่ใจบรรจงจะเล็งอยู่นั้น ก็มีชาวชิลีบนรถไฟใต้ดินมาสะกิดผมข้างหลัง พร้อมกับเตือนผมเป็นภาษาอังกฤษว่า เฮ้ ยู เก็บกล้องของยูคืนเดี๋ยวนี้นะ ระวังมันจะหาย ตอนแรกผมก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะผมรู้สึกปลอดภัยดีตลอดเวลาที่ผมอยู่ที่นี่ แต่พอหลังจากนั้นอีกไม่กี่วินาที คนข้างๆ อีกคนก็เตือนผมเป็นภาษาอังกฤษแบบเดียวกัน และก็มีอีกคนหนึ่งเตือนผมในเวลาไล่เลี่ยกัน ผมเริ่มคิดแล้วว่า เอ สงสัยผมคงต้องเชื่อคนท้องถิ่นแฮะ (แม้ว่าสัญชาตญาณของผมที่รู้สึกปลอดภัยมากมันแทบจะไม่อยากเชื่อเลยก็ตาม) สุดยอดแห่งความซื่อสัตย์และมีน้ำใจเลยครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 16:01:40

ความคิดเห็นที่ 88 ถึงแล้วครับสถานี Universidad de Chile มีจิตรกรรมฝาผนังอยู่ด้วยครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 16:03:28

ความคิดเห็นที่ 89 ถนน Liber Bernado O’Higgins ถนนเส้นหลักที่ผ่ากลางเมืองครับ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 16:04:15

ความคิดเห็นที่ 90 รถราที่นี่ก็ไม่ได้ติดมากนะครับ ทั้งๆ ที่ผมว่าห้าโมงเย็นน่าจะเป็นช่วงชั่วโมงเร่งด่วนด้วยซ้ำ จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 16:05:27

ความคิดเห็นที่ 91 หลุดเข้ามาในถนนเส้นหนึ่ง เร่เข้ามาจ้าเร่เข้ามา! ผลไม้สดๆ ก็มีขายจ้า จากคุณ : KhunWasut เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 55 16:06:33