 |
ญาติมาเยี่ยมจากปากีสถาน และมีเหตุให้ใช้รถของตัวเองไม่ได้ จึงต้องมานั่งหารถเช่า หาได้ที่ถูกใจทั้งรถ และ ราคา แต่ติดที่ว่า จขกท ไม่ได้ใช้บัตรเครดิต เลยต้องหันไปหาบริษัทเล็กๆที่เค้าให้เช่าแทน
ด้วยราคาเมื่อเปรียบเทียบกับสภาพรถแล้ว เรียกว่า โคตรแพงคงได้ รถแคมรี่ ปี 96 เช่าวันละ 1000 บาท มัดจำ 5000 บาท เช่า 7 วัน รวมแล้วจ่ายไป 12,000 บาท รอยเฉี่ยวชน รอบคันก็ขอให้ยืนยันกันตรงนั้นว่ารอยนี้เกิดขึ้นก่อนที่เราจะเช่านะ ก็โอเคกันไปอะไรไป
ภายในจับตรงไหนก็หลุด วิทยุรุ่นดึกดำบรรพ์ฟังซีดีไม่ได้ ภายในเปื่อยและเหม็นอับ เข็มที่บอกระดับน้ำมัน ก็เสีย(แถมผู้ให้เช่าก็ไม่ได้แจ้งให้ทราบมาก่อนเลย) จนรถสตาร์ทไม่ติดแล้วหาต้นเหตุไม่ได้
พอโทรถามผู้ให้เช่า ก็ได้คำตอบว่า น้ำมันน่าจะหมด จขกท ก็บอกว่าเข็มน้ำมันมันโชว์ว่ามีน้ำมันนะ ทางผู้ให้เช่าบอกว่า อ๋อ มันเสียน่ะครับ =_= คือ....แล้วคิดจะบอกกันเมื่อไหร่ กะจะให้ตรัสรู้เอาเองตอนที่รถไปหยุดอยู่กลางหุบเขาแล้วเราจะเอาปัญญาที่ไหนเข็นรถลงมา โชคดีที่มันมีปัญหาตอนเช็คเอ๊าท์จากโรงแรมพอดี ยังพอมีคนให้ความช่วยเหลือได้บ้าง
ตอนแรกที่ยอมรับชะตากรรมและจำใจต้องเช่า เพราะเราไม่เคยได้เห็นรถเลยมีแต่โทรคุยกัน ทางผู้ให้เช่าก็พูดจาดิบดีว่า รถรักษาอย่างดีไม่ได้ใช้งานหนัก ขอดูรูปก็ไม่ได้เห็น มาได้เห็นกับตาเอาวันที่จะเดินทางซึ่งหารถที่ไหนไม่ทันแล้ว
และด้วยความที่เราไม่มีประสบการณ์การเช่ารถมาก่อนเลย ทำให้ชะล่าใจอย่างไม่น่าให้อภัย เอารถมาใช้ได้วันเดียว ทนอาการต่างๆนาๆที่น่ากลัวของรถไม่ได้ ทั้งล้อเวลาวิ่งเหมือนกับว่าตัวยางทำให้มีเสียง เบรกก็มีเสียงเอี๊ยดอ๊าดตามประสารถปี 96 (เสียงที่ทำให้กลัวว่าลูกเล็กๆของเราจะเป็นอะไรไม๊เนี่ยถ้าไอ้รถคันนี้มันเกิดเบรกไม่อยู่ขึ้นมา) กระจกเลื่อนลงไม่ได้ กุญแจรถใช้ล็อครถไม่ได้ต้องล็อคด้วยมือทุกประตู พวงกุญแจก็ผุๆพังๆ วันดีคืนดีกุญแจก็หลุดออกมาเวลาจะใช้เปิดประตูรถบิดกันมือพัง ไม่มีไฟแสดงโชว์ว่ากำลังขับด้วยน้ำมันหรือแก๊ส
ไม่รู้ว่าคิดมากไปเอง หรือว่า รถมันห่วยจริงๆ แต่สุดท้ายขับไปได้วันเดียว ทนไม่ไหวต้องขอคืนรถ ทางผู้ให้เช่า ขอหักค่าธรรมเนียม เพราะดันเอารถห่วยๆ ผุๆ พังๆ มาคืนก่อนครบกำหนดสัญญา เป็นเงิน 2000 บาทและหักตามวันที่ใช้ไปอีก 1 + ครึ่งวัน (ซึ่งรวบคิดเป็น 2 วันอันนี้เป็นที่เข้าใจได้) รวมแล้วต้องจ่ายทั้งหมด 4000
ต่อรองขอลดค่าธรรมเนียมที่คืนก่อนกำหนด เพราะว่า เราไม่ได้คืนด้วยเหตุผลอื่น แต่เป็นเพราะว่ารถด้อยคุณภาพและทนใช้ต่อไปไม่ได้จริงๆ เพราะถ้าเกิดขับๆไปแล้วรถเกิดพัง ความรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นก็ต้องตกกับเราผู้่เช่า ไหนจะความปลอดภัยของเด็กๆที่ไม่อยากเอาไปเสี่ยง คุยกันโช๊งเช๊งสรุปยอมลดให้เหลือ 3000 (เพราะเค้าก็คงรู้อยู่แก่ใจว่าเอารถอะไรมาให้เราเช่า)
พอนัดเจอกันวันคืนรถและคืนเงินมัดจำ ทำท่ายึกยักจะไม่จ่ายคืนค่ามัดจำให้เราอีก ตอนแรกคุยกันทาง จขกท ขอว่าจะคืนให้เช้าอีกวันตรงตามเวลาที่มาส่งรถวันแรกให้ครบสองวันพอดี (เพราะเดินทางไปต่างจังหวัดกว่าจะถึงกทม. น่าจะดึกแล้ว ทางผุ้ให้เช่าบอกว่าไม่มีคนมารับรถไม่สะดวก ต่างๆนาๆ เราก็โอเคคืนให้คืนนี้เลยก็ได้
เอกสารเช่ารถไม่ได้เอาติดตัวมาด้วยอีก(อันนี้ผิดเอง) ตอนโทรคุยกันทางผู้ให้เช่าบอกว่าไม่มีปัญหาอะไรไม่ต้องใช้เอกสารเช่าก็ได้ พอมาถึงเวลาที่จะคืนรถ ทางผู้ให้เช่าบอกว่าจะเอารถคืนไปก่อน แล้วพรุ่งนี้เช้าจะนัดเพื่อคืนเงินค่ามัดจำให้ โดยอ้างว่าเราไม่มีเอกสารเช่า ต้องนำเอามาคืนให้เค้าทำลาย
จน จขกท เริ่มอารมณ์เสียแล้วเลยบอกว่า ถ้าเกิดคุณพารถไป เอาเงินเราไปแล้วหายไปติดต่อคุณไม่ได้ขึ้นมาจะทำยังไง ยังไงก็ต้องคืนเงินมัดจำให้เราพร้อมกับตอนที่เราคืนรถ
เลยต้องส่งเมสเซนเจอร์ให้นำเอกสารเช่ารถมาให้ เพื่อที่จะได้เงินมัดจำคืน อารมณ์ตอนนั้นถ้าบีบคอคนตายแล้วไม่ติดคุก คงทำไปแล้ว... สรุปว่าพากันไปเที่ยว แต่เสียอารมณ์ตั้งแต่เห็นรถ ยันวันที่คืนรถเลย เสียความรู้สึกมาก คิดว่าชีวิตนี้คงไม่เช่ารถกับบริษัทเล็กๆอีกแล้ว
เพราะราคาก็ไม่ได้ถูกกว่าบริษัทใหญ่ๆ แถมมาตรฐานยังต่างกันลิบ(ศึกษาเอาจากห้องบลูฯ เจ้าใหญ่ๆนี่มีปัญหาน้อยมาก ) เข็ดเลยต่อไปถ้าไม่ได้ขับรถตัวเอง ก็จะนั่งรถทัวร์ไปสบายใจกว่าเยอะเลย
เป็นอุทาหรณ์สอนใจตัวเองอย่างเจ็บปวด เสียดายเงิน เสียความรู้สึก เสียอารมณ์ และ อารมณ์เสียมาก จะเช่ารถกันก็ดูให้ดีๆ อย่าทำผิดพลาดเหมือน จขกท เลย นี่เป็นแค่กลโกงเล็กๆน้อย ที่ทางผู้ให้เช่าใช้หากินกับลูกค้า ซึ่งแน่นอนว่าคุณจะไม่ได้ลูกค้ากลับมาอีกเลย
ผมเข้ามาอ่านไปด้วย ช่วย จขกท แบ่งวรรค ให้ด้วยครับ
แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 55 14:22:42
จากคุณ |
:
SC25_KU50
|
เขียนเมื่อ |
:
31 ก.ค. 55 14:21:03
|
|
|
|
 |