Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
One Day Trip เอาราวัณ ลั้นลา vote ติดต่อทีมงาน

One Day Trip .... เอราวัณ ลั้นลา

" ไหลคืนรัง วังมัจฉา ผาน้ำตก อกผีเสื้อ เบื่อไม่ลง ดงพฤกษา ภูผาเอราวัณ "



วันก่อนค้น Storage มานั่งดูภาพเก่าๆ ที่เคยไปถ่ายภาพมา เจอไฟล์เซ็ทหนึ่งชื่อว่า "Erawan" เปิดดูปรากฏเป็นภาพน้ำตกเอราวัณที่ตัวผมเองไปถ่ายมาเมื่อหลายปีก่อน ที่นี่เป็นที่แรกๆที่ไปหัดถ่ายภาพน้ำตก แต่ภาพที่มีอยู่เหลือแต่ภาพไซด์โพสไม่เกิน 200k หาไฟล์ใหญ่ไม่เจอสงสัยจะลบทิ้งไปแล้ว ตอนที่ย้ายเครื่องคอมพิวเตอร์ ผมเลยถือโอกาสกลับไปที่นี่อีกครั้ง

ผมออกเดินทางจากบ้านตอนตีห้า ตั้งใจจะไปให้ถึง 8 โมงเช้าพอดี ไปคราวนี้ไม่ต้องพึ่ง GPS คู่ใจเพราะเดินทางมาที่นี่หลายรอบแล้ว ชิวๆมากสำหรับเส้นทาง ไปครั้งนี้ตั้งใจจะอยู่บนน้ำตกทั้งวัน และตั้งใจจะไปเล่นน้ำด้วย จึงแวะ McDonalds นครปฐม ซื้อเสบียงตุนเก็บไว้ เป็นแฮมเบอร์เกอร์สองอัน แต่ก็ต้องแอบเอาเข้าไปเพราะทางอุทยานฯไม่อนุญาตให้นำอาหารและเครื่องดื่มเข้าเกินน้ำตกชั้นที่ 2 ผมจึงเอาไปซ่อนไว้ในกระเป๋าแบบเนียนๆ เอาเลนส์ทับไว้ให้เรียบร้อย ผมขับรถต่อไป อ.บ้านโป่งแวะทานอาหารเช้าที่นี่ เพราะดูจากเวลาแล้วเพิ่งจะหกโมงเช้าเท่านั้นเอง ร้านที่ผมแวะชื่อร้านข้าวแกงธงฟ้า เห็นป้ายร้านน่าสนใจ ออกรายการทีวีด้วย เลยขอเข้าไปชิม รสชาติพอใช้ได้ แต่ค่อนข้างน้อยไปหน่อย ไม่เป็นไรพอให้อภัยได้เพราะเจ้าของร้านอัธยาศัยดี ของอร่อยของที่นี่ก็คือ ปลาร้าสับไฮโซ พูดถึงแล้วเปรี้ยวปาก ตอนแรกว่าจะซื้อกลับบ้าน แต่เจ้าของร้านบอกว่าเดี๋ยวเสียให้มาซื้อตอนขากลับก็ได้ ถ้าปิดร้านแล้วก็ให้โทรเข้ามา เดี๋ยวจะเปิดประตูขายให้ ผมเลยรับปากเป็นที่เรียบร้อย อิอิ แต่ขากลับ ผมดันลืม ขับรถเลยไปตั้งไกล จึงต้องกลับรถมาซื้ออีกรอบ เพราะกลัวเขาจะรอ ร้านหาไม่ยากข้ามสะพานที่จะเลี้ยวซ้ายไปบ้านโป่งก่อนถึงแยกบ้านโป่ง-กาญจนบุรี นิดเดียว

ผมไปถึงที่อุทยานฯก่อนแปดโมง ยังพอมีเวลาเตรียมกล้อง เสื้อผ้า รวมทั้งเสบียง เกือบสิบห้านาที แผนการถ่ายภาพครั้งนี้ก็คือตั้งใจจะหามุมภาพที่ยังไม่ได้ถ่าย เลยคิดว่าต้องลุยน้ำเข้าไปมามุม ผมจึงเตรียมกระเป๋ากันน้ำ รวมทั้งเสื้อผ้าไปเปลี่ยนเรียบร้อย และจะถ่ายตั้งแต่ชั้นที่ 1 จนถึงชั้นที่ 7 แล้วจะค่อยไล่เก็บภาพลงมาเรื่อยๆ ชั้นที่ 1 "ไหลคืนรัง" ชั้นนี้เป็นชั้นแรก ตอนที่ผมไปยังไม่มีคนมา จึงรีบเดินเข้าไปถ่ายภาพได้อย่างสบายๆ ชั้นที่ 2 "วังมัจฉา" ชั้นนี้เป็นชั้นยอดนิยม คนส่วนใหญ่จะมาเล่นน้ำที่ชั้นนี้ ทุกครั้งที่ผมมาคนจะเยอะถ่ายภาพค่อนข้างลำบาก แต่ครั้งนี้มีผมอยู่แค่คนเดียวเท่านั้น ผมใช้เวลาอยู่ชั้นนี้นานพอสมควร จนเมื่อเริ่มมีคนเข้ามา ผมจึงไปต่อที่ชั้น 3 "ผาน้ำตก" ไปถึงมีคนเล่นน้ำอยู่ 2-3 คน จึงต้องรอเวลาและกะจังหวะดีๆ ผมเดินหามุมเพลินไปหน่อย จึงลื่นตกที่ชั้นนี้ แต่โชคดีที่กระเป๋ากล้องผมวางไว้ด้านบน ส่วนตัวผมหงายหลังล้มไปครึ่งตัว แต่มือซ้ายที่ถือกล้องพร้อมขาตั้งกลับชูขึ้นฟ้าพ้นเหนือน้ำอย่างปลอดภัย แขนขวายันพื้นเอาไว้เลยได้แผลติดตัวกลับบ้านจนได้ ชั้นนี้ผมได้มุมที่ถูกใจหลายมุม ไปต่อกันชั้นที่ 4 "อกผีเสื้อ" ปกติชั้นนี้ผมจะยืนถ่ายอยู่ด้านบน แต่มาครั้งนี้ผมลุยน้ำลงไปถ่ายด้านล่างจึงได้มุมใหม่ๆที่ผมยังไม่ได้ถ่าย ชั้นนี้ที่ชื่อว่า อกผีเสื้อ เพราะจะมีก้อนหินใหญ่ อยู่ 2ก้อน คล้ายหน้าอก แต่ผีเสื้อนี่ไม่แน่ใจว่ามาได้ยังไง เท่าที่ผมนึกคงจะเป็นอกผีเสื้อสมุทรแน่ๆ ไปต่อกันชั้นที่ 5 "เบื่อไม่ลง" ชั้นมีมีนักท่องเที่ยวค่อนข้างมากส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติเล่นน้ำกันอยู่ ผมเลยนั่งรอจังหวะอยู่พักใหญ่ๆ รอแล้วรออีก คนนี้ไป คนนั้นก็เข้ามาใหม่ ไม่หมดซักที ผมเลยเก็บกล้อง โดดลงน้ำบ้างดีกว่า ยิ่งเล่นยิ่งสนุก ถึงจะเล่นอยู่คนเดียวก็ตาม ทำให้นึกถึงตอนเด็กๆ ที่ไม่ต้องมาถ่ายภาพ มีหน้าที่แค่กระโดดน้ำอย่างเดียว ผมนอนแช่น้ำอยู่พักใหญ่คนเริ่มบางตา เพราะตอนนี้เกือบเที่ยงแล้ว ฝรั่งที่มาเล่นน้ำคงได้เวลากลับ เพราะผมแอบได้ได้ยินไกด์ที่พามานัดกันตอนเที่ยง จังหวะนี้เป็นจังหวะที่ดีคนน้อย ผมเลยเก็บภาพได้พอสมควรก่อนที่จะมีฝรั่งชุดใหม่มา ผมจึงย้ายตัวเองไปชั้นที่ 6 "ดงพฤกษา" ทางเดินช่วงนี้ค่อนข้างไกลและเดินลำบาก ต้องใช้ความระมัดระวังพอสมควร ไปถึงมีคนเล่นน้ำอยู่ 4-5 คน ผมจึงเก็บกล้องมาเล่นน้ำต่อที่ชั้นนี้ ชั้นนี้มีปลาตัวเล็กๆค่อนข้างมากผมเลยเอาขาจุ่มน้ำไปให้ปลาดตอด หรือที่คนเมืองหลวงเขาเรียกกันว่า "สปาปลา" ฝรั่งเห็นผมทำ จึงหยุดว่ายน้ำหันมานั่งที่ขอบๆให้ปลาตอดเล่นๆแบบผม ฝรั่งหัวเราะชอบใจกันใหญ่ ตอนนี้ไม่มีคนเล่นน้ำแล้ว ผมจึงหยิบกล้องมาถ่ายภาพ เสร็จแล้วก็มานั่งสปาปลาต่อ นั่งแช่อยู่ที่นี่นานมาก ท้องเริ่มร้องเลยแอบควักเสบียงมาทาน ดูเวลาตอนนี้เกือบบ่ายสองโมงแล้ว เวลาผ่านไปเร็วมาก ผมจึงรีบเก็บของไปต่อที่ชั้น 7 "ภูผาเอราวัณ" ไปถึงมีชาวต่างชาติมาเล่นน้ำที่ชั้นนี่เยอะมาก ใส่บีกินี่ ว่ายน้ำกันไปมา มุมหายากมาก เลยถ่ายฝรั่งควบน้ำตกซะเลย แต่ยังโชคดีที่ได้มาอยู่สองสามภาพ ที่ถ่ายไม่ติดคน เป็นมุมที่เคยถ่ายมาแล้วครั้งก่อน และไม่ลืมที่จะถ่ายภาพคู่กับป้าย "คุณคือผู้พิชิต" อีกครั้ง ขากลับผมรีบลงเพราะเวลาที่วางแผนไว้ใกล้จะหมดแล้ว ยังต้องไปเก็บแสงเย็นต่อ แต่ก็อดใจไม่ไหวที่จะแวะ ชั้นที่ 3 ชั้นที่ผมลื่นตกน้ำตัวเปียก ยังไงก็ขอกระโดดน้ำล้างแค้นที่ชั้นนี้อีกที

ออกจากที่ อช.เอราวัณตอนบ่ายสามโมงครึ่ง จะไปเก็บแสงเย็นที่วัดถ้ำเสือ และ วัดถ้ำเขาน้อย อ.ท่าม่วง ระหว่างทางเริ่มจะง่วงหากาแฟทานดีกว่า ไปเจอร้านอยู่ร้านหนึ่งชื่อเอกเขนก ถ้ามาจากเอราวัณจะถึงก่อนแยกแก่งเสี้ยน ก่อนเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี บรรยากาศดีมาก มีฟาร์มแกะ คล้ายๆกับที่ Kho in love ที่เพชรบูรณ์เลย ต้องแวะครับที่นี่ recommend เลยสำหรับชอบชิวๆแบบผม นั่งแช่จิบกาแฟเดินถ่ายภาพเกือบชั่วโมง จนลืมโปรแกรมที่เหลือเลย ออกจากร้านกาแฟเกือบห้าโมง สวมวิญญาณนักแข่งตีนผีเหยียบมิดไมล์ไปถึงวัดถ้ำเสือตอนห้าโมงพอดี ร่างกายผมตอนนี้สดมาก แต่ต้องมาเข่าอ่อนเห็นบันไดขึ้นวัดมากถึง 159 ขั้นเลยทีเดีย ไปถึงเล่นเอาหอบเหมือนกัน จุดเด่นของที่นี่คือ พระพุทธรูปปางประทานพรที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรีจริง ๆ ตัวองค์พระสวยงามประดับด้วยโมเสคสีทองทั้งองค์ ผมใช้เวลาที่นี่ไม่มาก หามุมไม่ยากเพราะมีมุมบังคับไม่กี่มุม ถ่ายภาพเสร็จจึงไปต่อที่วัดถ้ำเขาน้อยที่อยู่ติดกัน แถมยังมีบันได้เยอะเหมือนกันอีก แต่ศิลปะของวัดต่างกันสิ้นเชิง วัดถ้ำเขาน้อยเป็นวัดจีน มีจุดเด่นคือ พระเจดีย์คีรีบรมธาตุ เป็นพระเจดีย์ทรงเก๋งจีน ภายในแบ่งเป็นหลายชั้น แต่ละชั้นจะมีพระพุทธรูปปางต่างๆ ประดิษฐานอยู่ทุกชั้น และมีพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานอยู่ที่ชั้นบนสุดของพระเจดีย์คีรีบรมธาตุ เก็บแสงเย็นเสร็จ รีบออกมาหาข้าวทาน เพราะตอนนี้หิวมากมายเหลือเกิน อดข้าวมาทั้งวัน แถมใช้พลังงานไปหลายกิโลแคล ที่นี่มีหลายร้านให้เลือก แต่สุดท้ายมาจบที่ MK บ้านโป่ง ขอนั่งตากแอร์ชิลๆดีกว่า

หมดไปอีกหนึ่งทริปการเดินทาง ไปคราวนี้พิเศษกว่าทุกครั้ง ไปคราวนี้ไม่ได้เอาเทคโนโลยีแปลกๆใหม่ๆ พกติดตัวไปด้วย อยากเข้าไปอยู่กับธรรมชาติจริงๆซักวัน เก็บ GPS ไว้ที่บ้าน ถ้าหลงก็ใช้ถามทางเอา เก็บ Tablet คว้าโทรศัทพ์รุ่นพระเจ้าเหามาใช้ จะได้ไม่ต้องเช็คอิน เข้าเฟคบุ๊ครายงานสดต่างๆ ไม่ต้องอัปรูป ไม่ต้องเช็คเมล์ ไม่ต้อง Social Network ต่างๆนาๆ แค่มีโทรศัพท์เอาไว้โทรเข้าโทรออกเท่านั้น รู้สึกว่าชีวิตมันง่ายขึ้น ได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองเต็มที่ ... วันนี้ผมได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ...

 
 

จากคุณ : ชัตเตอร์ โอลี่
เขียนเมื่อ : 24 มี.ค. 55 12:19:35




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com