ความคิดเห็นที่ 1 ขอไปด้วยอีกหนึ่งคนค่า จากคุณ : เขียนบน iPhone (บุษบารำไพ) เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 20:14:04

ความคิดเห็นที่ 2 หลังจากที่จองตั๋วเสร็จก็รีบทำแผนทันที โดยได้ดูรีวิวจากทั้งใน Pantip , Trekkingthai และ japanguide จึงสรุปได้ว่าจะไปตาม route ตามนี้ Day 1 บินไปถึง New Chitose aipport, Sapporo บ่ายๆ เข้าที่พัก ใช้ JR วันแรกไปเดินเล่นโอตารุตอนกลางคืน ก่อนกลับมานอน Sapporo Day 2 day pack ไป Kushiro ตามหานกกระเรียนญี่ปุ่น แล้วไปนอนที่ Abashiri Day 3 ขึ้นเรือตัดน้ำแข็งชม drift ice เที่ยว mesuem, prison ก่อนกลับมานอน Sapporo Day 4 เที่ยว snow festival , Sapporo Day 5 เดินทางไปเที่ยว Hakodate แล้วมานอนที่ Aomori Day 6 ไป Yamagata เพื่อดู snow monster แล้วกลับมานอนโตเกียว Day 7 เที่ยวโตเกียว นอนโตเกียว Day 8 เที่ยวโตเกียวอีกเล็กน้อย ก่อนกลับบ้านจากนาริตะ โดยในตอนแรกวันที่ 2 วางแผนจะไป Asahikawa แต่ตอนหลังเปลี่ยนใจไป kushiroแทน จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 20:16:09

ความคิดเห็นที่ 3 ตัดมาถึงวันเดินทางก็ออกจากบ้านไปถึงสนามบินเวลา 22.00 น. และเครื่องออกราวๆ 1.30 น. โดยต้องแวะ transit ที่ Beijing 1 ตุ๊บ ซึ่งที่ Beijing airport นี่มีเรื่องตื่นเต้นเล็กน้อย จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 20:29:28

ความคิดเห็นที่ 4 รอชมด้วยคน ญี่ปุ่น ครั้งเดียวไม่เคยพอ ^^ จากคุณ : therapy เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 20:32:36

ความคิดเห็นที่ 5 พอถึงที่ Beijing Airport นี่ เราก็มีเวลา transit อยู่แค่ราวๆ 1 ช.ม. เมื่อลงจากเครื่องเราก็เดินมาเพื่อที่จะหา International transfer point   ซึ่งเมื่อเดินมาถึงก็มาเจอพนักงานหน้าตาไม่ค่อยเป็นมิตร 2 คน ซึ่งตรวจหนังสือเดินทางช้ามาก และคนที่มา transit ก็ค่อนข้างเยอะ ทำให้ตอนนั้นก็เริ่มร้อนรนแล้ว กลัวตกเครื่อง  ซึ่งตอนนั้นผมตรวจหนังสือเดินทางเป็นคนสุดท้าย มีแม่, น้องสาว และแฟน  ตรวจผ่านไปก่อนแล้ว  ซึ่งเมื่อตรวจเสร็จก็จะลงบันไดเลื่อนไป ก็พบว่าต้องทำการ scan พวก กระเป๋า,เป้ อีกรอบหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ก็งงๆ ว่าทำไมต้องทำอะไรซ้ำซ้อนด้วย เนื่องจากตอนที่สุวรรณภูมิก็ตรวจไปแล้ว จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 20:40:48

ความคิดเห็นที่ 6 แวะมาปาด อิอิ รอดูด้วยคนครับ จากคุณ : ท่องเว็บ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 20:50:03

ความคิดเห็นที่ 7 มาขอไปเที่ยวด้วยคนค่ะ ^^ จากคุณ : One Night in Bangkok เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 20:52:35

ความคิดเห็นที่ 8 พอมาถึงที่ scan ก็เจอน้องสาวกำลังจะถึงคิวตรวจ ซึ่งมีเด็กหนุ่มชาวจีน ท่าทางกวนๆ เป็นพนักงานตรวจ โดยเด็กหนุ่มนั่นก็รับหนังสือเดินทางของน้องสาวผมไปตรวจอย่างละเอียด แล้วเค้าก็เรียกน้องสาวผมไปบอกว่าที่ Boarding Pass ทำไมไม่มีรอยประทับ ซึ่งน้องสาวผมก็บอกเค้าไปว่าไม่รู้เหมือนกัน เพราะว่าตอนอยู่ข้างบน immigration ก็ประทับอะไรไม่รู้ตั้งหลายรอย  แต่เด็กหนุ่มนั่นก็ย้ำว่าต้องขึ้นไปประทับตราข้างบนใหม่ น้องสาวผมก็เลยชวนผมไปเป็นเพื่อน  ซึ่งผมก็บอกให้แฟนพาแม่เดินไปที่ Gate ก่อน เพราะตอนนั้นก็ใกล้ที่จะ final callแล้ว เมื่อขึ้นมาที่ข้างบนก็แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าต้องมาประทับตราที่ boarding pass ใหม่ เจ้าหน้าที่ก็ทำหน้าตางงๆ ต้องอธิบายหลายรอบ เฮียแกถึงจะยอมประทับตราให้ พอลงมาข้างล่างก็รีบถอดรองเท้า เสื้อนอก เข้าเครื่องแสกนเสร็จแล้ว ก็บอกให้น้องรีบใส่เท้าสุนัขโกยกันเลย เพราะตอนนั้นที่ board ขึ้น final call แล้ว จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 20:53:54

ความคิดเห็นที่ 9 ไปด้วยๆ จากคุณ : Title_boy เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 21:15:08

ความคิดเห็นที่ 10 พอวิ่งกระหืดกระหอบกันมาถึงที่ Gate แล้วก็พบว่าไม่มีใครนั่งรออยู่ แล้วก็เจอพนักงานบอกให้รีบเข้าไปในเครื่อง เพราะกำลังจะ take off แล้ว แต่น้องผมก็ถามขึ้นมาว่า ทำไมแฟนผมแล้วก็แม่ไม่รออยู่ข้างนอก ผมก็บอกน้องไปว่าคงโดนพนักงาน force ให้ขึ้นเครื่องไปแล้ว    ซึ่งเมื่อมาถึงที่นั่งแล้วก็พบว่าที่นั่งว่างเปล่า คราวนี้แหละเริ่มรนรานกันสุดๆ ผมก็รีบวิ่งออกไปทันที พบว่าประตู gateกำลังจะปิด ผมก็รีบบอกพนักงานว่า แม่กับแฟนยังไม่เข้ามาในเครื่องเลย พนักงานเค้าก็เปิดหน้าจอคอมให้ผมดูว่าแม่กับแฟนคือคนที่ตรวจ passport ก่อนหน้าผมใช่ไหม ผมบอกว่าใช่ เขาก็บอกให้ผมโทรติดต่อ ซึ่งด้วยความสะเพร่าของผมไม่ได้ทำการเปิด roaming ไว้ ทำให้ไม่สามารถติดต่อได้  พนักงานก็ทำหน้าหัวเสียแล้วก็ไปเดินตามหา  แต่ก็ห้ามไม่ให้ผมเดินออกมานอก gate เพราะว่าเครื่องจะออกแล้ว  ซึ่งเมื่อเค้าเดินตามหาจนทั่วแล้วก็ยังไม่พบ ก็มาถามผมว่าจะเอายังไง ผมก็บอกกับน้องว่า cancel ไปแหละกัน แล้วค่อยหา flight ถัดไป  แต่พนักงานบอกว่าไม่สามารถที่จะ cancel ได้เพราะกระเป๋าเราได้ check through ไปแล้ว ผมก็เลยโวยกลับไปว่ายังไงผมก็ต้องรอแม่กับแฟนก่อน    ในช่วงนั้นเองเหมือนพระมาโปรดแม่กับแฟนผมก็ค่อยๆ เดินอย่าง slow motion เข้ามา   พวกเราก็เลยรีบเดินขึ้นเครื่องไป โดยตอนขึ้นเครื่องนั้น   ทุกสายตาก็มองที่เราเป็นจุดเดียว  โดยมีฝรั่งบางคนก็พูดออกมาเลยว่า This is the reason ซึ่งถ้ามีคนที่ได้เดินทางไปกับ air china ในวันนั้นผมก็กราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับที่ทำให้เครื่อง delay _/|\_ จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 21:17:08

ความคิดเห็นที่ 11 ตัดกลับมาอีกทีเครื่องก็กำลังจะ landing ลงที่ Chitose Airpot โดยก่อนจะลงก็ต้องวิ่งทะลุก้อนเมฆให้ได้เสียวกันนิดหน่อย จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 21:21:00

ความคิดเห็นที่ 12 พอเครื่องลง รับกระเป๋าอะไรเสร็จเรียบร้อยก็ลงมาแลก JR Pass 7 days ที่ชั้น 1F  โดยคราวนี้เราได้ print โปรแกรมที่เราจะไปทั้งทริปมาด้วย ก็ยื่นให้พนักงานเค้าทำการจองให้ทั้งหมด จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 21:28:47

ความคิดเห็นที่ 13 ที่ Chitose Airport ก็มีของขายเยอะเหมือนกันนะครับ จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 21:33:45

ความคิดเห็นที่ 14 ไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยค่า  ขอเก็บข้อมูลก่อน  แล้วจะตามไปนะคะ ขอบคุณมากๆๆๆ ค่า จากคุณ : RATANAPORN@chon เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 21:33:54

ความคิดเห็นที่ 15 ตามมารอดูหิมะด้วยครับ จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 21:34:19

ความคิดเห็นที่ 16 JR Information ชั้น 1F จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 21:36:22

ความคิดเห็นที่ 17 มาหนาวด้วยคนค่า จากคุณ : ดอยสูง เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 21:50:47

ความคิดเห็นที่ 18 โดนในคืนแรกเราจะพักกันที่ Toyoko Inn Susukino Minami โดยดูจากแผนที่ใน website บอกว่าเดินจาก สถานี susukino แค่ 7 นาที ชิวๆ ซึ่งเราก็วางแผนกันว่าพอ check in ที่โรงแรมเสร็จก็จะเดินทางไป Otaru เลย เพื่อไปชมงานตอนกลางคืน จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 21:54:15

ความคิดเห็นที่ 19 ปรากฎว่าพอออกจาก สถานี susukino เท่านั้นแหละ เจอลมหนาวระลอกพัดมาก็รู้แล้วว่างานนี้ไม่หมูแล้ว เพราะกระเหรี่ยงไทยแลนด์แต่ละคนยังไม่ได้แต่งตัว full option จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 21:59:05

ความคิดเห็นที่ 20 โดยในสถานีเราก็ได้ซื้อ donichi card ราคา 500 yen ซึ่งเป็นบัตรที่สามารถนั่งรถไฟใต้ดินได้ไม่จำกัดเที่ยว โดยบัตรนี้ใช้ได้เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการญี่ปุ่นเท่านั้นนะครับ do(土曜日) = เสาร์ , nichi (日曜日) = วันอาทิตย์ แก้ไขเมื่อ 23 ก.พ. 55 22:08:40 จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 22:07:56

ความคิดเห็นที่ 21 ดูจากแผนที่ๆ print มาก็เริ่มงงว่าต้องเดินไปทางไหน เลยใช้ปากให้เป็นประโยชน์โดยถามทางกับลุงคนญี่ปุ่นที่ยืนอยู่หน้า macdonald ซึ่งลุงแกรับแผนที่ไปดูแล้วก็งงๆ แต่พอดีตอนนั้นแฟนไปเจอกับพี่คนไทยที่อาศัยอยู่ที่นั่น เค้าก็เลยโทรไปถามทางที่โรงแรมให้แล้วก็ให้เดินไปจนถึง chome6 แล้วเลี้ยวขวา จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 22:13:02

ความคิดเห็นที่ 22 พอเดินไปได้หน่อย หิมะก็เริ่มตกหนักเลยเรียกแท๊กซี่ให้แม่กับน้องสาวนั่งไปกันก่อน  ส่วนผมกับแฟนจะเดินตามไปเพราะคิดว่าคงไม่ไกลมาก ประกอบกับความขี้งกของผม จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 22:17:33

ความคิดเห็นที่ 23 พอเดินไปสักพักเริ่มคิดว่าทำไมไม่ถึงซักที  ปรากฎว่าสักพักพายุหิมะตกมาอย่างหนัก ให้นึกสภาพตอนฝนบ้านเราตกหนักๆ แล้วมองทางข้างหน้าไม่เห็นอ่ะครับ แต่นี่เปลี่ยนเป็นหิมะแทน ผมก็เลยให้แฟนยืนรออยู่หน้าร้านขายของแล้ว จะเดินย้อนกลับไปดูแทนว่ามันเลยที่พักมายัง จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 22:22:37

ความคิดเห็นที่ 24 ปรากฎว่าพอเดินย้อนกลับมาสักพัก จึงพบว่าเราเดินเลยกันไปค่อนข้างไกล เพราะโรงแรมมันต้องเลี้ยวเข้าถนนเล็กๆ มา พอเดินไปถึงโรงแรมก็พบว่าน้องสาวผมยืนรออยู่พอดี แล้วผมก็เดินไปรับแฟนมาที่โรงแรม โดยกว่าจะ check in ไรเสร็จก็ 5 โมงกว่าแล้ว วันนี้เราเลยไม่ได้ไป otaru กัน จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 22:26:08

ความคิดเห็นที่ 25 น่ารักจัง  จำได้ว่า คุณน้องสาวมารีวิว(ในประสบการณ์ของตัวเอง)  คุณพี่ชาย(ประสบการณ์ที่แตกต่าง) แต่ก็รีวิวได้น่าอ่านเป็นที่สุด จากคุณ : eejashik เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 22:28:36

ความคิดเห็นที่ 26 โดยตอน check in เราก็ได้สมัครเป็นสมาชิกด้วย เสียคนละ 1500 yen แต่จะได้ส่วนลด วันธรรมดา(จันทร์ - เสาร์)  5% วันหยุด(วันอาทิตย์,วันหยุดตามปฏิทิน) 20% แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 55 09:38:29 จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 22:29:16

ความคิดเห็นที่ 27 สภาพห้องพักของโรงแรม หน้าตาห้องพักในเครือ Toyoko Inn จะเหมือนๆ กันอ่ะครับ แต่ความกว้างจะต่างกัน จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 22:33:23

ความคิดเห็นที่ 28 ห้องน้ำอ่ะครับ พอดีถ่ายมาด้วย อิอิ จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 22:35:02

ความคิดเห็นที่ 29 คืนนั้นด้วยความขี้เกียจ ก็เลยกินมาม่าที่ติดมากันในห้อง แล้วก็ออกมาเดินเล่นแถวๆ clock tower นิดหน่อย เสร็จแล้วก็รีบกลับมาจัดของเพราะว่าจะเดินทางไป Kushiro กันตั้งแต่ตอนเช้าตรู่ โดยบอกให้ front ของโรงแรมเรียกแท๊กซี่มารับตอน 6.30 น. จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 22:42:43

ความคิดเห็นที่ 30 พอถึง 6 โมงก็มี morning call ปลุกให้ตื่นแล้วก็รีบแต่งตัวลงมา พบว่า taxi มารอแล้ว ก็ฝากกระเป๋าเดินทางไว้ที่โรงแรม เพราะอีก 2 วันจะกลับมาพัก มาถึงสถานี JR Sapporo ก็แวะซื้อของกินที่ร้านสะดวกซื้อไปกินบนรถไฟ จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 22:48:25

ความคิดเห็นที่ 31 ใช้เวลาเดินทางราวๆ 4 ชั่วโมงก็มาถึง Kushiro จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 22:52:22

ความคิดเห็นที่ 32 ตารางเดินรถครับ เราต้องกลับมาขึ้นรถไฟที่จะไป Abashiri ตอน 17.18 น. จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 22:56:49

ความคิดเห็นที่ 33 บรรยากาศที่สถานี kushiro ครับ จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 22:59:19

ความคิดเห็นที่ 34 ที่ Kushiro นี้เราวางแผนที่จะไปดูนกกระเรียนกันที่ Tsurui Ito Tancho Sanctuary โดยผมได้ติดเช่ารถไว้จาก website Eurocar แล้ว ซึ่งเค้านัดรับรถที่ JR Kushiro Station แต่เดินดูรอบๆ สถานีแล้วก็ไม่เห็นมี Booth Mazda ตามที่เค้าบอกเลย จึงถามที่ Travel Information เค้าก็โทรไปถามให้ ได้ความว่าต้องไปรับรถที่ศูนย์ mazda ใกล้ๆ กับสถานี รูปด้านล่างคือด้านหน้าของสถานี Kushiro ครับ จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 23:05:52

ความคิดเห็นที่ 35 ศูนย์ Mazda อยู่ถัดจากสถานีตรงป้ายส้มๆ ด้านขวาอ่ะครับ จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 23:11:20

ความคิดเห็นที่ 36 พอไปถึงก็ติดต่อเจ้าหน้าที่ โชว์ใบขับขี่นานาชาติ แล้วก็เซ็นเอกสารนิดหน่อย เจ้าหน้าที่เค้าก็พาไปเช็ครถ โดยรถที่เช่าก็เป็น mazda2 คันนี้อ่ะครับ จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 23:15:04

ความคิดเห็นที่ 37 ... เหนื่อยแทนเลยค่ะ ^_^ จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 23:16:52

ความคิดเห็นที่ 38 เสร็จแล้วเค้าก็สอนวิธีตั้ง GPS แต่เป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมดนะครับ ถ้าต้องการภาษาอังกฤษก็ต้องแจ้งไปก่อนตั้งแต่ตอนจองบน website  โดยเราก็ทำการ set ที่แรกโดยไปเริ่มที่ Kushiro City Marsh Observatory จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 23:18:40

ความคิดเห็นที่ 39 โดยระหว่างทางก็จะมีป้ายบอกทางเป็นระยะๆ จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 23:22:09

ความคิดเห็นที่ 40 ในที่สุดก็เดินทางมาถึง Kushiro City Marsh Observatory จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 23:25:23

ความคิดเห็นที่ 41 พอมาถึงก็ขึ้นไปที่จุดชมวิวก่อนเลย วิวก็ประมาณนี้แหละครับ จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 23:29:21

ความคิดเห็นที่ 42 โดยชั้น 2 จะมีที่นั่งให้ชมวิวอย่างนี้อ่ะครับ จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 23:32:26

ความคิดเห็นที่ 43 พอชมวิวเสร็จก็เดินลงมาดูของที่ระลึกนิดหน่อย แล้วก็ถามเจ้าหน้าที่ว่าจะไปชมนกกระเรียนที่ไหนดี เค้าก็แนะนำมา 2 ที่ คือ Tsuruimidai แล้วก็ Tsurui Ito Tancho Sanctuary โดย Tsurumidai จะถึงก่อน  คณะเราจึงตัดสินใจไปดูทั้งสองที่ แต่ปรากฏว่าขับมาตามทางเจอป้าย Tsurumidai(鶴見台)บอกเลยไปอีก 1 kilo แต่พอไปถึงแล้วหาทางเข้าไม่เจอจึงขับเลยไป ปรากฏว่าขับไปถึง  Tsurui Ito Tancho Sanctuary ซะอย่างงั้น ก็เลยเปลี่ยนแผนมาดูที่นี่แทน จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 23:44:43

ความคิดเห็นที่ 44 ตอนแรกที่วางแผนมาเที่ยวฮอกไกโดใหม่ๆ ก็คิดว่าจะไป Asahikawa ไปถ่ายนกเพนกวินเดินพาเหรด แต่พอหาข้อมูลไปๆ มาๆ เห็นรูปนกกระเรียนที่ Kushiro แล้วก็คิดในใจว่าต้องมาถ่ายให้ได้ โดยตอนเย็นจะไปที่ Otowabashi อีกที่ครับ จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 23:49:40

ความคิดเห็นที่ 45 โดย Tancho นี่ในช่วงกุมภาพันธ์นี่จะเป็นฤดูผสมพันธุ์ ซึ่งตัวผู้และตัวเมียจะมีการแสดงคล้ายๆ การเต้นรำเพื่อเกี้ยวพาราสีกัน ซึ่งจะมีช่างภาพชาวญี่ปุ่นมาคอยบันทึกภาพ ช๊อตเด็ดๆ กันมากมาย เลนส์เทพๆ เช่น 600 f4 ก็จะเห็นเป็นเรื่องธรรมดา จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 23:54:39

ความคิดเห็นที่ 46 นกกระเรียนพันธุ์นี้นี่ตอนแรกชาวญี่ปุ่นนึกว่าสูญพันธุ์ไปแล้วนะครับ แต่ก็มาพบว่ายังมีเหลืออยู่ที่ Kushiro นี้ ซึ่งเค้าไม่ได้เลี้ยงในกรงแต่อย่างไร เพียงแค่โปรยอาหารไว้เท่านั้น จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 23 ก.พ. 55 23:58:43

ความคิดเห็นที่ 47 ซึ่งพวกมันก็จะบินไปทั่วเมืองอย่างอิสระเสรี จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 00:01:26

ความคิดเห็นที่ 48 พวกเราก็ถ่ายนกไปเรื่อยๆ จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 00:05:25

ความคิดเห็นที่ 49 เปลี่ยนไปถ่ายวิวบ้าง จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 00:09:24

ความคิดเห็นที่ 50 ถ่ายคนบ้าง จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 00:11:32

ความคิดเห็นที่ 51 ถ่ายไปสักพัก เราก็อำลาที่นี่ จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 00:15:19

ความคิดเห็นที่ 52 แล้วก็ขับรถต่อไปยัง Otowa Bridge (音羽橋) จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 00:18:54

ความคิดเห็นที่ 53 โดยที่นี่จะเป้นที่ๆ นกกระเรียนมาพักผ่อนหย่อนใจในตอนเช้าและตอนเย็น ซึ่งก็จะมีตากล้องมาดักถ่ายกัน แต่ส่วนใหญ่เขาจะมากันตอนเช้าตรู่่อะครับ ซึ่งพวกเราไม่มีปัญญาก็เลยมาถ่ายแสงเย็นกันแทน จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 00:23:52

ความคิดเห็นที่ 54 วิวที่นี่สวยมากๆ จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 00:30:56

ความคิดเห็นที่ 55 ตอนที่เราไปถ่ายมีอาจารย์สอนถ่ายภาพ กะลังสอนลูกศิษย์อยู่ด้วย จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 00:32:59

ความคิดเห็นที่ 56 ถ่ายจนพระอาทิตย์ตก นกบินกลับรัง จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 00:40:51

ความคิดเห็นที่ 57 ถ่ายจนอาทิตย์ตกดินแล้วก็ได้เวลากลับไปคืนรถเช่า แล้วกลับสถานีต่อรถไฟไป Abashiri จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 00:45:35

ความคิดเห็นที่ 58 ตัดกลับมาที่สถานี คันนี้ล่ะครับที่เราจะนั่งไป Abashiri รถไฟขบวนธรรมดา นั่งกันก้นระบมกว่าจะถึงที่หมาย จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 00:50:11

ความคิดเห็นที่ 59 มื้อนี้ก็ต้องพึ่งข้าวกล่องตามเคย เพราะเวลาน้อย ไม่มีเวลาละเลียดกินข้าวเลยทริปนี้ จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 00:53:13

ความคิดเห็นที่ 60 ขอจบการ review ช่วงแรกแต่เพียงเท่านี้ครับ เพราะว่าง่วงแล้ว วันต่อไปจะเป็นการไปดู Drift Ice ที่ Abashiri ครับ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตาม จากคุณ : จักรพันธุ์ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 00:54:38

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณสำหรับรูปสวยๆแล้วก็วิวดีๆค่ะ ติดตามตอนต่อไป รอดูดริฟท์ไอซ์ค่ะ จากคุณ : น้ำตาลกะข้าวตัง เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 01:29:26

ความคิดเห็นที่ 62 รักฮอกไกโดที่สุดเลย!!!!!!! >< คิดถึงคุชิโระ !!!!! มาเม้นต์ก่อนแล้วย้อนไปอ่าน.....5555 จากคุณ : ซารุ (saruseiyuu) เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 02:13:22

ความคิดเห็นที่ 63 ว้าว....ถ่ายรูปสวย ตอนเปลี่ยนเครื่องลุ้นมากเลยค่ะ จากคุณ : เจ้าแก้วพิสดาร ณ เมืองปาย เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 04:37:47

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ หิมะเยอะดีจัง จากคุณ : armearn เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 08:09:08

ความคิดเห็นที่ 65 ขอบคุณสำหรับรีวิวสวยๆนะคะ ....จะรอชมต่อค่ะ จากคุณ : Sergeant Keroro เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 08:39:11

ความคิดเห็นที่ 66 ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ รอชมตอนต่อไปค่ะ^^ จากคุณ : สามแซ่ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 09:55:18

ความคิดเห็นที่ 67 เหนื่อยแทนเลยค่ะ รอดูรีวิวต่อนะคะ จากคุณ : aor-naja เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 10:24:59

ความคิดเห็นที่ 68 ไปด้วยคนครับ อยากไปเป็นที่สุด JP จากคุณ : komsith เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 10:43:16

ความคิดเห็นที่ 69 สวยมากจริงๆครับบ..................... จากคุณ : สายลมแห่งวิงค์ เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 11:35:07

ความคิดเห็นที่ 70 สวยงามค่ะ จากคุณ : sueko เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 12:11:14

ความคิดเห็นที่ 71 ชอบช่วงฤดูตอนหิมะลงนี่ละครับน่าไปเยือนมาก จากคุณ : Destiny-Boy เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 15:13:13

ความคิดเห็นที่ 72 ได้แต่คิดว่าอยากไป แต่ยังไม่มีโอกาสสักที จากคุณ : owema เขียนเมื่อ : 24 ก.พ. 55 21:02:41

ความคิดเห็นที่ 73 อยากไปๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : JayJorJae เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 55 23:12:57

ความคิดเห็นที่ 74 สวยมากๆ เลยค่ะ จากคุณ : yunjaelove เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 55 22:48:12

ความคิดเห็นที่ 75 ว้าววๆๆ ขอบคุณมากครับ กำลังจะไป Sapporo ปลาย พค เลยครับ เช็คอาทิตย์ก่อนหน้านี้ 18136 ยังไม่ได้จอง มาวันนี้ขึ้นไป 19555 ล่ะ -*- จากคุณ : JayMelb เขียนเมื่อ : 27 มี.ค. 55 10:36:19

ความคิดเห็นที่ 76 WoW !! อยากไปค่ะ ^^ จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 31 มี.ค. 55 14:24:45