Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ปีใหม่ 2555 หลงป่าสี่วันสามคืน บนภูหลวง จ.เลย(วันที่สอง 6 ม.ค.55) vote ติดต่อทีมงาน

เรียน  ทุกท่าน ครับ

ชีวิต   ไม่ใช่  นว นิยาย

นว  แปลว่า  แปด  นิยาย  คือเรื่องที่แต่งขึ้น

ผมเดินทาง  โดยไม่ได้ตั้งใจที่จะเดินผ่าน ผืนป่าภูสูง 500,000 ไร่
ไม่มีเครื่องกันหนาว  ไม่มีมือถือ  ไม่มีเสบียง
มีเพียงเสื้อยืด กับเสื้อเชิ๊ตแขนสั้น  กับหมวก รองเท้ายาง
และกล้องถ่ายรูป  เท่านั้น   เพราะคิดจะเดินเพียง 1 ชั่วโมง
   แต่กลับต้องเดินทางฝ่า  ป่า  ที่เราไม่เคยมา  ไม่เคยเห็น เป็นระยะทาง
เกือบ  100  กม.  จาก  โคกนกกระบา  ไปลง
ทางอีกฝั่ง เรียกว่า
เลยวังไสย์   ต้นแม่น้ำเลย  ทาง หล่มเก่ม-ด่านซ้าย

ติดตามอ่านวันแรกที่หลงทางได้
กระทู้ที่  E 11622812  ลงวันที่  26  มกราคม 2555

วันนี้เป็นวันที่  สองของเหตุการณ์ครับ

                            เช้าวันที่ 6 มกราคม 2555 (วันที่สอง)
 
 

          เมื่อคืนที่ผ่านมาไม่ได้หลับเลย   เมื่อฟ้าเริ่มสว่างรูปถ่ายไว้ตอนเช้ามืด  “แปกดำ”    
    แล้วก็รอให้ฟ้าสว่างมากกว่านี้  แล้วคิดจะเริ่มเดินกลับที่ อช.  เมื่อแสงอาทิตย์ทอแสง  
    แผนงานที่จะเดินไปทางตะวันตก  แล้ววกขึ้นเหนือ  
 ก็ใช้ก้อนหินที่เมื่อคืนเก็บไว้  เขียนสัญญลักษณ์  เป็นลูกศรว่าไป
ตะวันตกวกขึ้นเหนือ  และเขียนเป็นตัวอักษรด้วยหินไว้ด้วย
    หินเมื่อขูดกันก็เป็นสีขาวเห็นได้ชัด    แล้วก็ใช้เศษกระดาษจากแบตเตอรี่ของกล้องที่มีสีแดง  เสียบไว้ที่กิ่งไม้  
   เพื่อให้ จนท. อช.ตามหาเราได้
พอสว่างมากขึ้นก็เริ่มเดินสู่ทางลาดทิศตะวันตก  ตามที่คิดไว้  เมื่อเดินผ่านช่องที่ช้างเดินเข้าไปในป่า   แต่พอเดินเข้าไปสัก 50 เมตรเกิดขนหัวลุกอย่างไรไม่รู้   เสียงนกป่าสนั่นหวั่นไหว  
  นึกถึงทางที่รถวิ่งจาก ภูเรือ ไปทาง ด่านซ้าย  จะมีป้ายบอกว่า บ.  “หนองเสือคราง”  มันเหมือนรู้สึกว่ามีอะไรอยู่ข้างหน้า  
   เกิดนึกกลัวเลยหันหลังกลับ  ไม่ไปแล้วทิศตะวันตก  ก็เดินออกทางเดิม  มาที่ลานหินที่เดิม       กวาดตามองภูมิประเทศรอบตัวอีกที   ตัดสินใจมุ่งเดินทางทิศตะวันออกแทน
( มารู้ทีหลังว่าทิศตะวันออกเป็นทางเดินหันหลังให้ อช.)  
ความกลัวที่มีกลับไม่มีเริ่มออกเดินตามทางเดินที่ช้างหากิน  ผ่านป่าไผ่ที่ไม่สูงมาก     มีทางเดินเป็นช่องแสดงถึงทางที่ช้างใช้เดิน มากมายเป็นร้อย ๆ สาย  
     ช้างเดินไปก็จะหักต้นไผ่เป็นระยะตลอด  การเดินนั้นใช้ดวงอาทิตย์เป็นหลัก  มุ่งตรงตามรอยช้าง     หากทางช้างเลี้ยวซ้าย  หรือเลี้ยวขวาก็ไม่ตาม
ใจนั่นแน่วแน่  ให้เดินเป็นเส้นตรง  ป่าที่ผ่านเริ่มทึบ และมืดสลัวบ้างเป็นบางช่วง   เมื่อเจอทางน้ำในลำธาร  ก็ลงไปกิน  
     การกินน้ำในลำธาร  ก็คิดว่าเราอยู่ในป่าก็ควรให้ความเคารพทุกสิ่งรอบตัวเรา       เวลากินก็กินแบบกวาง  คือใช้วิธีก้มลงดื่มในน้ำ  น้ำหากไม่เข้มมาก      
      หรือดูใสสอาดก็จะกินแล้วคำนวนให้ได้ประมาณ 1 ลิตร  กินเสร็จก็รีบเดินทางต่อ  ทีแหล่งน้ำ     มีรอยเท้าสัตว์กีบเยอะมาก  นึกถึงเสือ    อาจจะมาล่าเหยื่อที่เป็นสัตว์กินพืชตามกฎธรรมชาติ
เกือบทุกทางผ่านจะมีทางเดินของช้าง  มีขี้ช้างตลอดทาง ก็ยิ่งนับถือและขอบคุณเกือบตลอดเส้นทางต่อช้างเจ้าป่า  ที่เดินเป็นไว้ทำให้เดินไม่ยากนัก  
      เดินจนเกือบ ๆ เที่ยงผ่านป่าบางป่าเป็นทางเหมือนตัน  ก็ก้มดูทางข้างล่างดู  บางทีก็เป็นทางกวาง  ทางกวางจะไม่ใหญ่นัก  เดินเลาะเป็นทางลอดใต้พุ่มไม้  ไม้ไม่มีร่องรอยการหักโค่น   หากเป็นทางหมูป่าจะเดิน คดไปคดมา  มีร่องรอยการขุดดินหาของกินตลอดทางเดิน
พอเที่ยงกว่า ๆ  ก็เดินมาทางเดินที่ดูเหมือนกับทางเข้าเมื่อวานนี้  นึกดีใจที่รอดแล้ว  ตอนนี้น้ำกินครั้งสุดท้ายไปสักพัก  
     การหิวน้ำระหว่างเดินทรมานมากเหมือนในปากมีแต่ทราย
เสลดข้นจนเหนียวพอขากจะให้ออกมาบางทีก็ไม่มีมันเหนียวติดคอเลย  
     เดินไปประมาณ 2-3  ชั่ว  เห็นจะได้    ได้เจอเส้นทางเหมือนตอนเข้า  ลานสุริยันเลย    ทางเหมือนกัน   มีต้นไม้  หงิก ๆ งอ  มีไล่เค่นและกล้วยไม้ป่า  เกาะติดตามต้นไม้นั้น      
      ในใจนึกดีใจที่จะรอดแล้ว  
  เดินไปสักเกือบครึ่งชั่วโมง  สงสัยทางเดินทำไมมีแต่รอยเท้ากวางตลอด  ทางเดินก็ไม่ลึกเหมือน  ลานสุริยัน  ทางขวามือเป็นทางแยกเล็ก ๆ   เห็นก้นกวางวิ่งหายไป  ก็เดินไปทางค่อย ๆ แคบลง  แคบลง  สักพักทางข้างหน้าก็เปลี่ยนไปกลายเป็นป่าโปร่ง  อีก

 
ทางที่เดินผ่านมาตั้งแต่เช้า   เมื่อมาสุดทางกลับกลายเป็นแบบนี้  หิวน้ำก็หิว  จะทำไงดีที่ไม่เป็นตามที่คิดเลย  มองหาเสาทีวีก็มองไม่เห็นแล้ว  คิดตัดสินใจมองไปที่เทือกเขาที่สูงที่สุด  กวาดตามองหา อช. คงไม่เจอแล้ว
คิดจะเดินหาหมู่บ้านดีกว่า      พอมองก็เห็นเขาลูกหนึ่งอยู่เหมือนสูงที่สุด        
     มองเห็นที่ไกล ๆ เหมือนมีบังเกอร์ทหารตั้งอยู่  มีเสาธงด้วย  ก็เดินหาช่องที่โล่ง ๆ ใช้กล้องถ่ายไว้แล้วซูมเข้ามาดู  ใช่  ใช่ แน่ ๆ   ก็แหงนดูพระอาทิตย์ตอนนี้มุ่งเดินไปที่เขาสูงพระอาทิตย์  กำหนดให้อยู่ทางขวามือเป็นหลัก  เดินไปก็คอยมองพระอาทิตย์  ดูเงาตกของเราพยามรักษาแนวเดินตัดลัดเลาะเจอทางน้ำถ้าสะอาดแบบนี้ก็กิน  บ่ายโมงกว่า  รู้สึกป่าสวยมากต้นไม้ใหญ่สูงเสียดฟ้า  มากมาย
 
   ตลอดทางฝ่าผืนป่าทึบนี้จะมีเมเปิ้ลแดงเป็นระยะ  
พอกินน้ำอิ่มก็รีบเดินต่อมุ่งยังเขาที่สูงที่สุดเพื่อมองหาบ้านคน  เป็นเรื่องที่แปลกมากวันนี้    ความกลัวที่เคยมี   กลับมีน้อย  เดินไปดูทาง ไป
   ประมาณบ่ายสามโมง ก็เดินมาถึงจุดหมายคือเขาที่สูงที่เล็งไว้  เป็นเขาที่ค่อนข้างชันเป็นรูปเหมือนขนมปังปอนด์  ยาว ๆ ตอนจะขึ้น
ขึ้นทางช้างขึ้น     โดยขึ้นทางตรงกลาง ของภู  บางส่วนจะลาด ๆ  มีต้นไผ่แผ่คลุมเป็นครึ่งวงกลมบ้าง     บางกอไผ่พันธ์นี้จะขึ้นอยู่บนเนินลาด ๆ เอียง     โค้งคลุมจนถึงดินบางทีแน่นมากมีช่องเตี้ยนิดเดียวต้องใช้เลื้อย ๆ ไปบ้างคลานศอกบ้าง       เป็นทางกวางทางเดินเป็นทางเรียบ  
ทางค่อย ๆชัน ขึ้น  ชันขึ้น  จนถึงเชิงเขาก็จึงเปลี่ยนเขาสูงเกือบร้อยเมตร   มองไม่เห็นยอด  
     แต่เห็นเหมือนเป็นนกอินทรีบินร่อนไปเกาะที่ต้นไม้สูง  
ก็เริ่มปีนเขาที่เป็นมุมเกือบจะเก้าสิบองศา    มีร่องรอยช้างเดินขึ้นไปค่อนข้างจะใหม่  มีรอยลื่น  นึกแปลกใจ และนับถือช้างมากเพราะทางเดินบางจุดมันไม่น่าจะปีนได้เลย  ที่เกาะไม่มี  ช้างจะปีนอย่างก้าวบางก้าวสูงขนาดหน้าอกเราต่อก้าว   ก็สังเกตุว่าหญ้าที่ติดบริเวณหน้าผาชันมีรอยม้วน   จึงลองดึงดูปรากฎว่าหญ้าต้นเล็ก ๆ แต่ถ้าจับให้เป็นกระจุกนั้นยึดแน่นลงในดินซึ่งบางส่วนเป็นซอกหิน     นั้นใช้ยึดมือจับได้  แล้วดึงตัวขึ้นเหมือนช้าง    ช้างจะขึ้น  สลับไปสลับมา      มีที่พักเป็นจุด  ๆ  
  เมื่อขึ้นได้ครึ่งทางได้นั้นความหิวน้ำงี้ทำให้คอเป็นผงเลย  
ขึ้นไปก็พักหายใจเป็นช่วง ๆ  ช่วงหนึ่งขณะกำลังดึงตัวขึ้นเกิดจะลื่นลงมา    มือซ้ายก็เลยคว้าต้นไม้ขนาดกว้างประมาณ 1 นิ้ว  คว้าแบบตะครุบมืออย่างเร็ว  แล้วก็ดึงตัวขึ้นมานั่งพักบนหิน    แล้วก็หันหน้าออกทางหน้าผาที่ขึ้นมา   นั่งหายใจหอบ   มันเหนื่อย  
รู้สึกทำไมมือซ้ายที่เกาะหินมันอุ่น ๆ       ก็เห็นนิ้วนางข้างซ้ายมีเลือดไหลตรงเส้นเลือดพอดี    เลือดไหลจนเปียกนองแดงเต็มก้อนหินที่เป็นเหมือนหินแผ่น   เป็นสีแดงไปหมด    มองมาที่มือเห็นเลือดผุดเหมือนตาน้ำไหลไม่หยุด  แต่ไม่รู้สึกเจ็บ   จึงเอามือขวากดไว้สักพัก  พอปล่อยมือเลือดก็ไหลไม่หยุดเหมือนน้ำพุเหมือนเดิม   ทำไงดี  ?    คิดแล้วก็มองหาใบไม้ที่มีลักษณะใบเหนียวเด็ดใบตรงยอด ๆ เพราะคงสะอาดกว่าใบแก่  มองมือขวาที่ไปกดแผลที่นิ้วนางข้างซ้าย     มือเปื้อนเลือดแดงทั้งสองมือ    
   ก็เอาด้านใต้ใบอ่อนแล้วพับครึ่งตามแนวยาวให้เป็นสองชั้น   แล้วปิดที่รูแผล  เหมือนดามแผลใหญ่   แล้วใช้ใบเหมือนหญ้าคาแต่เหนียวมากพันจนแน่นให้เบียดกับนิ้วกลางกับนิ้วก้อย   เพื่อห้ามเลือดที่ออก     เพราะทางขึ้นยังสูงอยู่       ก็กัดฟันค่อย ๆ  ไต่ขึ้นอย่างช้า  ๆ    เพราะมือข้างซ้ายจับไม่ถนัดกลัวเลือดไหล    มือขวาก็ยังกำไม้ไผ่  ที่ติดตัวไว้    และคอยตรวจหญ้าที่พันนิ้วนางไว้   ต้องคอยดึงให้กระชับแน่น ๆ  ไว้   กันไม่ให้เลือดไหลออก  
แล้วก็ค่อย ๆ ปีนลัดเลาะตามรอยช้างเดิน  ช้างก็จะเดินไปทางขวา  เราก็เดินไปทางขวา  ไปทางไหนเราตามทางนั้น   ทางขึ้นโค้งเลาะไปนั่นคือเราต้องไต่หน้าผาเลาะตามทางช้างเวียนซ้ายไปทางท้ายเขาลูกนี้     แล้วจึงขึ้นสลับไปสลับมาไปทางท้ายเขา  
เกือบครึ่งชั่วโมงก็ถึงทางขึ้น     มีต้นไม้ขนาดกลาง บ้าง
สลับสูงบ้าง    เตี้ยบ้างทางขึ้นมีหนามเยอะมาก  แขนสองข้างมีแผลเกี่ยว
ประมาณสักสองสามร้อยจุด   แผลตามผิวหนังเลือดจะไหลแบบซิบ ๆ  
ความเหนื่อย  ความหิวน้ำ  ทำให้ไม่สนใจเรื่องหนามที่เกี่ยวพัน  หนามบางชนิด   ก็จะอยู่เรี่ย ระยะ   ข้อเท้าเรา  ดังนั้นแผลตามข้อเท้าก็จะเป็นรอยขีดเป็นทางยาว  ไขว้ไปมา  ไม่ค่อยสนใจ   เพราะความเจ็บมันทนได้    เถาวัลย์บางต้นเล็กนิดเดียวแต่เหนียวอย่างไม่น่าเชื่อดึงไม่ขาด   เถาหนามที่เป็นต้น  กึ่งไม้เลื้อย   จะอยู่สลับกับแบบที่เป็นต้น  แบบต้นสูง  ประมาณฟุตครึ่ง  จนถึงสองฟุตขึ้นตามซอกเขา กับทางเดิน  หนามแข็งมาก    เวลาเดินก็ใช้ไม้ไผ่ที่พกติดตัวอยู่นั้นแหวก  แล้วเดินหลีก   แต่แบบกึ่งเลื้อยนี่เองที่ทำแผลทางผิวหนังมากที่สุด  
    ขณะที่ไต่บ้างเลาะหน้าผาช่วงนี้    หนามมันพันจิกแขนติดจนเดินไม่ไปได้  พันจิกเสื้อ จิกติดกางเกงบ้าง    ห่างขึ้นข้างบนอีกประมาณสองเมตรครึ่งก็จะถึงข้างบน   ขณะมือขวาแกะหนามที่ติดเสื้ออยู่  ก็ได้ยินเสียงช้างร้องอยู่บนหัวห่างขึ้นไประยะ สองเมตรขึ้น  เสียงร้องแปร๋น ๆ  เสียงดังมาก   เงยหน้าขึ้นมองขึ้นด้วยความตกใจมาก  ก็เห็นช้างพลายวิ่งไปวิ่งมา  หูทั้งสองข้างตีกับลำตัวดังพับ ๆ     ดวงตาที่มีขอบสีแดง  อมน้ำตาล  จ้องมาสบตากับเราชัดเจน  ช้างวิ่งไปมา  โยกหัวไป ๆ  มา  ทำท่าเหมือนจะลง

 
 

จากคุณ : นายโซ่
เขียนเมื่อ : 29 ม.ค. 55 05:07:12




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com