Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
Luang Prabang, I Love You .... ยินดีที่ไม่รู้จัก vote ติดต่อทีมงาน

กระทู้นี้ คือบันทึกการเดินทางของผม คงไม่มีรูปสวยๆให้ได้ดูกัน มีแต่เพียงข้อความจากความทรงจำที่อยากแบ่งปันให้เพื่อนนักเดินทางท่านอื่นๆได้ร่วมรู้สึกดีๆไปด้วยกัน ... อาจมีเรื่องราวที่ไม่เหมาะสมบ้างโปรดใช้วิจารณญาณนะครับ...

สวัสดีครับ...

เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวผมมันก็ผ่านมาได้ 1 เดือนแล้ว...แต่ความรู้สึกในใจของผมยังคงเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน...

ผมเป็นคนหนึ่งที่นั่งดูหนังเรื่อง "กวนมึนโฮ" แล้วก็ได้เพียงขำกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเรื่อง และชื่นชมคนเขียนบทว่าช่างเขียนบทได้สนุกเหนือจริงเสียนี่กระไร เพราะ ไม่เคยคาดคิดว่า คนไม่รู้จักสองคนจะมารู้จักและรักกันได้อย่างไรในเวลาสั้นๆ...

จนกระทั่งมาประสบพบเจอกับประสบการณ์ด้วยตัวเอง...

เรื่องราวการเดินทางครั้งนี้ของผมเกิดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมาครับ ในช่วงที่อากาศกำลังเย็นสบาย ผมก็เลยตัดสินใจลางาน แบกเป้ออกเดินทางเพียงคนเดียว จุดมุ่งหมายของผม คือ เมืองหลวงพระบาง ประเทศ สปป.ลาว

การเดินทางคนเดียวทำให้เราพบเรื่องราวต่างๆมากมาย ได้พบได้เจอเพื่อนใหม่ๆ ได้พบประสบการณ์ดีๆ...น่าจดจำ

คืนวันของผมในเมืองมรดกโลกอย่างหลวงพระบาง ผมหมดไปกับการเดินเข้าร้านกาแฟร้านนั้นออกมานั่งร้านอาหารร้านนี้ แวะไปดูหอคำ ขึ้นไปดูพระธาตุภูศรี หรือจะเป็นชมวัดเชียงทองอันงดงาม...

แต่ความประทับใจในทริปนี้ของผมเริ่มต้นจริงเมื่อเวลาล่วงเลยไปจนถึงวันที่ 4 ของทริป

ซึ่งแพลนของผมในวันนั้น คือตั้งใจว่าจะแวะไปยังสถานที่ต่างๆที่เคยแวะไปแล้วในวันแรกๆ อีกครั้ง เพื่อซึมซับบรรยากาศที่แสนประทับใจ ก่อนที่จะลาจากเมืองหลวงพระบางไปในเช้าวันรุ่งขึ้น

....

เช้าตรู่ของวันที 4 ของทริป อากาศรอบตัวผมหนาวเย็น แจ๊คเก็ทผ้าฟลีทที่ใส่อยู่คงจะทานทนไม่ไหว ผมเลยหยิบผ้ามาพันคอเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายอีกนิด... แสงไฟฉายในมือผม พาผมลัดเลาะไปตามขั้นบันไดเล็กๆ ไม่ชันมากนัก จุดมุ่งหมายของผม คือการได้เห็นวิวพระอาทิตย์ขึ้น มองลงมาจากภูศรี...

ผมมองหามุมที่ดีที่สุดในการรอคอยพระอาทิตย์ขึ้นในครั้งนี้ และผมก็เหลือบไปเห็นช่างภาพมืออาชีพคนนึง กำลังจัดแจงเซ็ทอัพขาตั้งกล้องอย่างขมักขะเม้น สัญชาติของผม บอกผมว่า จุดนั้นแหละ คือจุดที่ดีที่สุดในการเฝ้าคอยพระอาทิตย์ขึ้น...ผมก็เลยเดินเลียบๆเคียงๆไปยังจุดนั้น...

เมื่อพระอาทิตย์กำลังคล้อยตัวขึ้นมา...จุดที่ผมยืนร่วมกับช่างภาพคนนั้น ก็มีหญิงสาวสองคนเดินเข้ามายืนใกล้ๆ... ตอนแรกผมก็ไม่ทันได้สังเกต เพราะมัวแต่กดชัตเตอร์เก็บรูป...จนกระทั่งได้ยินเสียงคุยสนุกสนานระหว่างช่างภาพคนนั้นกับหญิงสาวทั้งสองเป็นภาษาที่น่าจะเป็นภาษาญี่ปุ่น...แล้วอยู่ๆช่างภาพคนนั้น ก็หันมาทักผมที่ยืนงงๆเก้กังๆว่า "สวัสดีครับ" ผมหันกลับไปมองด้วยความแปลกใจ...แล้วก็มาถึงบางอ้อว่า ช่างภาพคนนี้เค้าเป็นคนมาเลเซียที่พูดได้หลายภาษารวมทั้งญี่ปุ่นและไทย...

ช่างภาพคนนี้ก็หันมาแนะนำให้หญิงสาวทั้งสองรู้ว่า ผมเป็นคนไทยนะ ทั้งสองคนก็แปลกใจทันทีเมื่อรู้ว่า ผมเป็นคนไทย และเดินทางมาเที่ยวที่นี่คนเดียว เราก็เริ่มทักทายคุยกัน ผมก็แนะนำชื่อผมไป ส่วนเธอทั้งสองก็แนะนำว่า เธอชื่อริโกะ และยูมิ มาเที่ยวทริปนี้กันสองคน และเธอทั้งคู่เป็นคนญี่ปุ่น

วันนี้เป็นเช้าแรกของเธอทั้งสองที่นี่ หลังจากเพิ่งบินมาถึงหลวงพระบางเมื่อวาน ผมและเธอทั้งสองก็พลัดกันถ่ายรูปกับวิวพระอาทิตย์ขึ้นกันให้กันอย่างสนุกสนาน

เราทั้งสามบอกลาช่างภาพชาวมาเลเซีย แล้วเริ่มเดินสำรวจภูศรีไปด้วยกัน ... แฮะๆ ผมก็รู้ตัวว่ามาคนเดียว ก็เลยเนียนเดินตามเธอทั้งสองไปด้วยกันเลย จะได้ช่วยถ่ายรูปด้วย...

ช่วงแรกๆผมจะคุยกับทางริโกะก่อน แต่เพราะภาษาอังกฤษเธอไม่ค่อยดีนัก ก็เลยต้องอาศัยยูมิมาคอยช่วยแปลบ่อยครั้ง...จนสุดท้ายกลายเป็นว่าผมกับยูมิ คุยกันมากขึ้น เพราะสื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษได้เข้าใจ จนผมแทบจะไม่ค่อยได้คุยกับริโกะอีกเลย เพราะยูมิจะเป็นตัวกลางแปลคำพูดของผมเป็นภาษาญี่ปุ่นให้ริโกะฟัง

เวลาล่วงเลยจนเราทั้งสามสำรวจรอบภูศรี เธอทั้งสองก็บอกกับผมว่า เธอทั้งสองกำลังจะเดินทางไปสถานท่องเที่ยวอื่นต่อ.. ผมก็เลยถามยูมิและริโกะว่า จะรังเกียจมั้ย ถ้าหากผมจะขอตามไปด้วย เพราะวันนี้โปรแกรมทั้งวันของผมก็คงเป็นการสำรวจหลวงพระบางอีกรอบ คงเป็นเส้นทางเดียวกัน เธอทั้งสองก็ยินดี

ผมก็เลยได้มีโอกาสเดินทางกับเธอทั้งสองไปยังหอคำ วัดเชียงทอง และที่อื่นๆ ซึ่งทุกๆที่ผมเคยไปมาหมดแล้วในวันแรกๆที่ผมมาถึงที่นี่ ผมก็เลยเป็นไกด์ให้เธอทั้งสองได้เลย จนยูมิยังแซวๆผมอยู่เลย ว่า ผมเป็น GPS ของเธอ

บรรยากาศที่แสนโรแมนติกของเมืองหลวงพระบาง ตลอดทั้งวันผมและยูมิ มีโอกาสคุยกันมากขึ้น แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องต่างๆกัน เธอก็สอนภาษาญี่ปุ่นง่ายๆให้ผม ผมก็สอนภาษาไทยง่ายๆให้กับเธอ

ในบางครั้งผมก็แอบมองเธอแล้วก็ยิ้ม พอเธอเห็นก็สงสัยและแอบเขิน บางครั้งเธอก็แอบมองผมเช่นเดียวกัน ผมรู้สึกเหมือนกับว่าเคมีของผมกับยูมิตรงกัน...

พอใกล้เวลาพระอาทิตย์ตกดิน ยูมิ ริโกะ และผมก็เลยลงความเห็นตรงกันว่าเราจะเดินกลับไปบนยอดภูศรีอีกครั้งเพื่อดูพระอาทิตย์ตกดินที่นั่นอีกครั้ง

ผมบอกกับยูมิว่า ทั้งชีวิตของผมคงมีคนเพียงไม่กี่คน ที่มีโอกาสได้อยู่ดูพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกพร้อมกันกับผมในหนึ่งวัน และยูมิก็จะอยู่ใน List แรกๆของผมอย่างแน่นอน...เธอก็เลยยิ้มอย่างงงๆแล้วหันกลับมาบอกว่าผมก็อยู่ใน List ของเธอเช่นเดียวกัน...

หลังจากที่พวกเราเดินลงมาจากภูศรีแล้ว ก่อนที่จะแยกจากกันและผมก็ถามยูมิ กับริโกะว่ามือค่ำวันนี้ จะรังเกียจมั้ย ถ้าเราจะนัดทานอาหารค่ำด้วยกันซักครั้ง ... เธอทั้งสองก็ยินดี แต่คงต้องขอตัวไปหาที่นวดตัวก่อน เพราะวันนี้เมื่อยมาทั้งวันแล้ว ... ผมก็เลยบอกเธอทั้งสองคนว่า งั้นเราเจอกันที่ร้านอาหารร้านที่ผมแวะไปทานบ่อยๆนะ ซักทุ่มนึง แต่ผมจำชื่อร้านไม่ได้ ได้แต่บอกเป็นแผนที่ไป... เธอทั้งสองก็โอเค..

ก่อนเวลานิดหน่อยผมก็ไปนั่งรอที่ร้านสั่งอาหารมานั่งทาน พร้อมกับเบียร์ลาว... รอแล้วรออีก จนเวลาผ่านไป 40 นาทีจากเวลานัด อาหารที่สั่งมาก็หมดไปพร้อมกับเบียร์ลาว... เวลานั้นผมก็ได้แต่คิดผิดหวังว่า ... ยูมิ กับริโกะคงไม่มาแล้วแน่ๆ ... ก็เลยหันไปบอกบริกร ให้เก็บเงินแล้วเดินจากร้านไปอย่างผิดหวัง...

ผมก็เลยเดินออกมาข้างนอกร้านอาหาร เดินเล่นๆเอื่อยๆ ดูบรรยากาศยามค่ำคืนของหลวงพระบาง ...

สายตาผมก็ มองเห็นสองสาวหน้าตาคุ้นตา กำลังเดินอยู่ฝั่งตรงข้าม ... ผมมองให้ชัดอีกครั้ง ... ใช่เลย ยูมิกับริโกะจริงๆด้วย ผมก็เลยเดินเข้าไปหาเธอทั้งคู่ ...

ยูมิอธิบายให้ผมฟังในทันทีเลยว่า เธอเดินหาร้านที่ผมว่าตั้งนาน หาไม่เจอ ชื่อร้านผมก็ไม่ได้บอก -_-" ผมก็เลยบอกกับเธอไปว่า ไม่เป็นไร งั้นเราไปหาร้านนั่งทานกันดีกว่า เพราะดูเธอทั้งสองน่าจะหิวกันแล้ว สุดท้ายก็กลับไปทานที่ร้านเดิม...

ผม ยูมิ และริโกะก็เลยทานมื้อค่ำด้วยกัน แล้วหลังจากอิ่มมื้อค่ำกันแล้ว เราก็เดินไปหาร้านนั่งคุยกันต่อ... พวกเราก็คุยกันอย่างถูกคอ สนุกสนานเหมือนเดิม และแน่นอนพวกเราดื่มเบียร์กันด้วย

เวลาล่วงเลยไปเกือบ 5 ทุ่ม ริโกะเค้าคงไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่แล้ว เพราะเห็นผมกับยูมิคุยกันมากกว่า เลยขอตัวจะกลับที่พักก่อนดีกว่า โดยหันไปบอกยูมิว่าให้อยู่ต่อกับผมก็ได้ เพราะยูมิดูท่าทางยังไม่อยากกลับ เธอกลับที่พักเองได้ ... ผมกับยูมิ เลยเดินไปหาตุ๊กตุ๊กเพื่อให้ไปส่งเธอกลับที่พัก แล้วยูมิก็ยื่นนามบัตรของที่พักให้กับคนขับรถตุ๊กตุ๊ก ผมก็ขอชื่อคนขับรถตุ๊กตุ๊กไว้ แล้วบอกคนขับว่า เดี๋ยวผมจะรอตรงนี้นะ เพื่อ Make Sure ว่าคุณไปส่งเพื่อนผมแล้วกลับมาที่นี่ คนขับก็ตกปากรับคำ เรารอตรงนั้นประมาณ 20 นาทีคนขับรถตุ๊กๆก็กลับมาที่เดิม

ผมกับยูมิก็เลยสบายใจกลับไปนั่งคุยกันต่อ แต่คราวนี้เปลี่ยนไปอีกร้านนึง.. เวลาล่วงเลยไป เบียร์ลาวที่สั่งมาก็หมดไปหลายกระป๋อง พอรู้ตัวอีกทียูมิก็มีอาการเมา ผมก็เลยถามเธอว่ากลับเถอะ เดี๋ยวผมไปส่ง แล้วหันไปขอนามบัตรที่พักเธอ จะได้บอกตุ๊กตุ๊กถูก ... ยูมิ...เธอหันมาบอกผมว่า ตอนนี้เธอหามันไม่เจอ เธออาจให้ริโกะไปแล้ว ... อาจเป็นเพราะว่ากรึ่มๆจากเบียร์บวกกับเมื่อคืนเธอเพิ่งมาพักคืนแรก ตอนนี้เธอจำไม่ได้แม้แต่ชื่อของที่พัก...ผมก็เลยจนปัญญาที่จะพาเธอส่งที่พักของเธอ

ตอนนั้นอากาศก็เย็น ผมเลยตัดสินใจว่าเธอคงต้องพาเธอกลับไปยังที่พักของผมที่อยู่ไม่ไกลน่าจะเป็นทางออกเดียวที่ผมคิดได้ตอนนั้น...

(มีต่อ)

จากคุณ : Jesse
เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 55 16:03:30 A:203.154.154.34 X: TicketID:007830




[ต้องการแตกประเด็นจากกระทู้เดิมคลิกที่นี่] [กติกามารยาท] [Help & FAQ] 
ความคิดเห็น :
  PANTIP Toys
จัดรูปแบบ :
ไฟล์ประกอบ :
  Help
ชื่อ :
 

ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com