ความคิดเห็นที่ 1 การเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ตั้งเด่นอยู่ริมถนนสุขุมวิท ที่วิ่งสู่ปากน้ำ หากมารถยนต์ส่วนตัว : ใช้เส้นทางด่วน ปลายทางที่บางนา – สมุทรปราการ ลงเส้นสุขุมวิท ตรงไปทางสำโรง พอผ่านบิกซีปู่เจ้า (คาร์ฟูร์เดิม) แล้วให้ชิดซ้าย ขับมาสักพักแล้วเลี้ยวซ้าย ไปกลับรถใต้สะพานเพื่อเข้าสู่ที่จอดรถพิพิธภัณฑ์ หรือถ้ามาจากทางสะพานวงแหวนอุตสาหกรรมจากพระราม 2 หรือสุขสวัสดิ์ ขับรถผ่านช่วงสะพาน ขับเรื่อยๆ จนเห็นป้ายทางลงสำโรงชิดซ้ายแล้วขับลงตามทาง  ขับตรงไปแล้วกลับรถหน้าบิกซีปู่เจ้า ชิดซ้ายแล้วเลี้ยวซ้ายกลับรถเข้าพิพิธภัณฑ์ รถโดยสารสาธารณะ : รถเมล์สาย 25, 142, 365 รถปรับอากาศสาย ปอ.102, ปอ 507, ปอ. 508 ปอ.511, ปอ. 536 สามารถเข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:28:39

ความคิดเห็นที่ 2 ด้านหน้าบริเวณขายบัตรเข้าชมคนไทย 150 บาท เด็กไม่เกิน 15 ปี 75 บาท ส่วนผมใช้สิทธิ์คนปากน้ำในราคา 75 บาท (รวมธูปเทียน ดอกไม้ลอยน้ำแล้วนะครับ) นานๆ ได้ใช้บัตร ปชช. รับสิทธิพิเศษที 555 จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:29:27

ความคิดเห็นที่ 3 บรรยากาศหลังฝนตกอากาศชื้นๆ มีน้ำขังตามรายทางพอได้บรรยากาศ ถึงเป็นวันอาทิตย์แต่คงเพราะเช้าอยู่ คนยังไม่หนาตา ยังไม่มีทัวร์มาลง บรรยากาศในการเดินชมจึงเป็นไปอย่างสบายๆ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:30:18

ความคิดเห็นที่ 4 แถมเจ้าหน้าที่มีเยอะ เลยได้รับบริการเป็นอย่างดี ทั้งไกด์พาชมสถานที่ แต่ผมอยากใช้เวลาแต่ละจุดนานหน่อย เลยขอเดินชมเองดีกว่า แต่ท่านที่ยังไม่เคยมาผมแนะนำให้ไกด์พาชมดีกว่านะครับ จะได้ฟังประวัติ และรายละเอียดของสถานที่ด้วย จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:31:08

ความคิดเห็นที่ 5 ตอนเข้าไปถึงรู้สึกมีการจัดรำแก้บนถวายด้วย จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:32:05

ความคิดเห็นที่ 6 พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ถือได้วาเป็น งานประติมากรรมลอยตัวช้างทองแดงที่ใช้เทคนิคการเคาะขึ้นรูปด้วยมือ ที่มีความสูงใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่ง  จากหัวช้างลงมาสู่ฐาน วัดได้ 43.6 เมตร หรือประมาณความสูงของตึก 14 ชั้น พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณสร้างขึ้นจากความคิดและจินตนาการของคุณเล็ก วิริยะพันธุ์  ต้องการจะรักษาของโบราณที่ท่านสะสม รวมถึงรูปเคารพศักดิ์สิทธิ์ไว้ให้เป็นมรดกของแผ่นดินไทย จึงได้สร้างตัวอาคารพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่จัดเก็บโบราณวัตถุที่มีค่าเหล่านี้ไว้เพื่อความปลอดภัยและเพื่อความเหมาะสม ความสูงเฉพาะตัวช้าง 29 เมตร ความสูงของช้างรวมอาคาร 43.6 เมตร ความกว้างของช้าง 12 เมตร ความยาวของตัวช้าง 39 เมตร น้ำหนักของลำตัวช้าง 150 ตัน น้ำหนักของเศียรช้าง 100 ตัน จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:35:46

ความคิดเห็นที่ 7 มีของจัดไว้สำหรับผู้ต้องการซื้อถวายด้วยครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:36:44

ความคิดเห็นที่ 8 โดยรูปแบบสถาปัตยกรรมต่างๆ และการตกแต่ง สร้างแบบอย่างในสถาปัตยกรรมไทยแต่โบราณยึดถือคติ  “เขาพระสุเมรุ” เป็นหลักในการสร้างสถาปัตยกรรมขนาดใหญ่กลางเมือง โดยถือว่าสถาปัตยกรรมนั้นเป็นเขาพระสุเมรุ เป็นหลักของโลกและจักรวาล แต่ส่วนใหญ่มักเป็นพระธาติหรือเจดีย์ แต่ที่นี่ใช้รูปช้างเอราวัณขนาดใหญ่แทนเขาพระสุเมรุ ซึ่งแตกต่างจากที่เราคุ้นเคย  จากการยึดถือคติดังกล่าวและแบ่งพื้นที่การจัดแสดงตามคติความเชื่อเรื่องไตรภูมิของคนไทย คือบาดาล โลกมนุษย์ และสวรรค์ดาวดึงส์ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:37:28

ความคิดเห็นที่ 9 THE UNDERWORLD : บาดาล คือบริเวณชั้นล่างสุดของอาคาร ตามคติไตรภูมิ พื้นที่ใต้เขาพระสุเมรุ เป็นนาคพิภพ หรือที่อยู่ของเหล่าพญานาค ซึ่งมีหน้าที่เฝ้ารักษาสมบัติของแผ่นดิน ภายในจึงถูกออกแบบมาให้มีรูปปั้นมนุษย์นาคอยู่ในวิมานที่ประทับของพญานาคอยู่กลางห้องที่รายล้อมด้วยทรัพย์สมบัติโบราณต่างๆ เช่นเครื่องถ้วยเบญจรงค์ ถ้วยชามสังคโลก เครื่องถ้วยจีน เทวรูป เครื่องเรือนโบราณต่างๆ อีกมากมาย ยิ่งมาเดินในช่วงผู้คนบางตา เงียบๆ แอร์เย็นๆ เลยได้บรรยากาศขลังๆ กึ่งหลอนนิดๆ ดีนะครับ ศิลปะที่ท่านเจ้าของสะสมไว้ เยอะ สวย และมีคุณค่าน่าชมจริงๆ ถ้ามาที่นี่อย่าพลาดการเข้าชมนะครับ เสียดายที่บริเวณนี้ห้ามถ่ายภาพ เลยไม่มีบรรยากาศมาฝากกันนะครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:38:34

ความคิดเห็นที่ 10 THE EARTH : โลกมนุษย์ ขึ้นมาจากส่วนบาดาลมาเข้าสู่บริเวณอาคารที่รองรับช้างเอราวัณอยู่ ซึ่งเปรียบเสมือนโลกมนุษย์ หรืออีกนัยหนึ่งคือเขาพระสุเมรุตามคติไตรภูมินั่นเอง ก้าวแรกพบกับความยิ่งใหญ่ และงานศิลปะวิจิตรบรรจง โดยเฉพาะงานปูนปั้น และงานกระจกสีบนเพดานที่สวยเด่นสะดุดตาจริงๆ ซึ่งงานตกแต่งภายในอาคารนี้ถูกตกแต่งด้วยศิลปกรรมผสมผสานระหว่างไทยกับตะวันตกได้อย่างสวยงาม กระจกสี : เพดานของอาคารทรงโดมเป็นงานกระจกสีฝีมือศิลปินชาวเยอรมันชื่อว่า Jakob Schwarzkopf จริงๆแล้วงานกระจกสีเป็นงานศิลปะในวัฒนธรรมตะวันตก ซึ่งเคยฝากผลงานไว้ตามโบสถ์ วิหารและสถานที่สำคัญในประเทศแถบยุโรป อเมริกาและตะวันออกกลาง จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:39:24

ความคิดเห็นที่ 11 หลังจากการออกแบบลวดลายแล้วได้สั่งกระจกสีตามกรรมวิธีโบราณจากเยอรมนี คือการเป่าแก้ว แล้วรีดให้เรียบ แล้วจึงทำการวาดลวดลายที่ออกแบบไว้เพิ่มเข้าไป ส่วนการติดตั้งก็ต้องใช้วิธีการพิเศษโดยช่างจากประเทศเยอรมันกันทีเดียว งานกระจกสีชิ้นนี้เป็นงานศิลปะในแนวทางกึ่งนามธรรมแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับโลกมนุษย์ ประกอบด้วยทวีปทั้งห้าอยู่ตรงกลางมีดวงอาทิตย์ส่องแสงและให้พลังงานแก่สรรพชีวิต ทั้งหมดถูกล้อมรอบด้วยจักรราศี 12 ราศีและบริเวณขอบนอกสุดเป็นภาพมนุษย์ที่แสดงอากัปกิริยาต่างนานา ศิลปินใช้สีเป็นตัวแทนของธาตุทั้ง 4 ได้แก่ สีเหลืองคือดิน สีแดงคือไฟ สีขาวคือลมและสีฟ้าคือน้ำ เมื่อการติดตั้งเสร็จสมบูรณ์ทำให้ภายในอาคารทรงโดมหรือชั้นโลกมนุษย์มีแสงสว่างสอดส่องเข้ามาผ่านเพดานกระจกสีประดุจดั่งความดีงามที่ส่งมายังโลกมนุษย์ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:40:20

ความคิดเห็นที่ 12 ปูนปั้นประดับเบญจรงค์ :  เป็นอีกงานที่โดดเด่นของที่นี่ งานปูนปั้นอันวิจิตรบรรจงภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ เป็นฝีมือของอาจารย์สำรวย เอมโอษฐ์ ช่างเมืองเพชรบุรี ซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีในการสร้างสรรค์งานปูนปั้นแบบโบราณ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:41:07

ความคิดเห็นที่ 13 ขอเป็นคนแรกครับ อิอิ ไปด้วยนะครับ จากคุณ : One Light One Shadow เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:41:16

ความคิดเห็นที่ 14 โดยมีกรรมวิธีที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติเป็นหลัก เพราะปูนตำหรือปูนโบราณนั้นมีคุณสมบัติที่แห้งช้า จึงทำให้การตกแต่งลวดลายต่างๆ ได้ง่ายกว่าการใช้ปูนซีเมนต์ อีกทั้งประกอบกับความสวยงามวิจิตรบรรจงของเครื่องถ้วยเบญจรงค์ที่มีสีสันหลากหลาย ทำให้เกิดความสวยงามมากขึ้น จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:41:49

ความคิดเห็นที่ 15 One Light One Shadow ...ด้วยความยินดีครับ กำลังหงอยๆ ว่ารีวิวอยู่คนเดียวเลยคร้าบ ส่วนวิธีการทำคือนำหินฟลูออไรด์ ปูนขาว ปูนกินหมาก หินทรายแดง มาตำให้ละเอียด แล้วนำกระดาษฟางแช่น้ำให้เปื่อย มาตำผสมกับปูน นำกาวหนังควายเคี่ยวผสมกับน้ำตาลอ้อย ข้าวเหนียวต้มสุก ทรายละเอียด นำส่วนผสมทั้งหมดนี้มาตำรวมกัน โดยถ้าต้องการปูนตำเป็นสีชมพูก็จะต้องใส่หินทรายแดงและปูนกินหมากมากกว่าหินฟลูออไรด์ แต่ถ้าอยากให้ปูนตำเป็นสีขาว ก็จะใส่ปูนขาวและหินฟลูออไรด์มากกว่า ซึ่งหินฟลูออไรด์นั้นจะทำให้เกิดสีขาวนวลแตกต่างจากการใช้สีโดยทั่วๆ ไป หลังจากหมักปูนที่ผสมรวมกันจนได้ที่ประมาณสามคืน จึงนำปูนที่หมักได้มาปั้นลวดลาย แล้วใช้เครื่องถ้วยเบญจรงค์ประดับตกแต่ง จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:43:19

ความคิดเห็นที่ 16 ขั้นตอนการทำงานปูนปั้นประดับเบญจรงค์ เริ่มจากนำเหล็กและลวดมาดัดเพื่อขึ้นเป็นโครงรูปร่างต่างๆ แล้วนำลวดตะแกรงมาหุ้มทับ  แล้วจึงใช้ปูนซีเมนต์พอกหุ้มโครงลวดนั้นไว้ เมื่อปูนซีเมนต์แห้งจึงใช้ปูนตำที่หมักไว้นั้นมาปั้นลวดลายตามที่ต้องการแล้วจึงนำเครื่องถ้วยเบญจรงค์ประเภท ช้อน ฝาถ้วยชา ถ้วยชาจีนมาตัด ให้ได้กับขนาดที่ต้องการแล้วประดับลงไปทีละชิ้น  ซึ่งเครื่องถ้วยเบญจรงค์เป็นของที่สั่งทำใหม่ทั้งหมดส่วนใหญ่จะสั่งทำที่ประเทศไทย แต่บางส่วนก็มาจากประเทศจีน จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:44:02

ความคิดเห็นที่ 17 ปูนปั้นลวดลายไทยอ่อนช้อย แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 54 15:45:19 จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:45:07

ความคิดเห็นที่ 18 ภาพสวยจังเลยค่ะ ตามไปชมด้วยอีกคน  ^  ^ จากคุณ : P r i m t a a เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:46:03

ความคิดเห็นที่ 19 ตกแต่งลวดลายได้สวยงามแปลกตา จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:46:23

ความคิดเห็นที่ 20 P r i m t a a ...ได้เลยครับ แวะมาเที่ยวแถวนี้บ้าง สวยดีเหมือนกันนะครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:47:22

ความคิดเห็นที่ 21 บริเวณซุ้มหน้าบันไดทางขึ้นสู่ชั้นสองครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:48:19

ความคิดเห็นที่ 22 จะไปหลายทีละ ม่ะได้ไปซะที อยู่เซนทรัลใกล้ๆนี่เอง... จากคุณ : tuman47 เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:48:27

ความคิดเห็นที่ 23 เสาหุ้มดีบุก : เสาทั้งสี่ต้นภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณประดับด้วยดีบุกดุนลายจากฝีมือช่างชาวนครศรีธรรมราชและช่างเชียงใหม่ ซึ่งชำนาญการทำเครื่องถมและเครื่อง เงินอันเป็นงานดุนโลหะประเภทหนึ่ง จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:49:15

ความคิดเห็นที่ 24 tuman47 ...ผมยิ่งใกล้ นี่เพิ่งไปครั้งที่สองเอง วันหลังแวะมาชมนะครับ เรื่องราวศาสนาสำคัญของโลกประกอบด้วยศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์  ศาสนาฮินดู และศาสนาพุทธนิกายมหายาน(ประวัติเจ้าแม่กวนอิม) ซึ่งแต่ละต้นจะใช้ระยะเวลาในการทำงานประมาณสามปี เสาทั้งสี่จึงเป็นเสาแห่งความกตัญญูและเสาสี่ศาสนา ค้ำจุนโลก จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:50:24

ความคิดเห็นที่ 25 เพ่งดูดีๆ แต่ละเสาพูดถึงศาสนาต่างๆ หลายศาสนาเลยละครับ แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 54 15:51:33 จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:51:21

ความคิดเห็นที่ 26 น่าจะเป็นเจ้าแม่กวนอิมนะครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:52:11

ความคิดเห็นที่ 27 พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ อยู่ไม่ไกล แต่ไม่เคยไปเลยครับ จากคุณ : Koon Shy_Tour Dee เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:53:51

ความคิดเห็นที่ 28 ตามไปดูจะเบาได้ไง ช้างตั้ง 3 หัว ล้อเล่นนะ จากคุณ : แม่จีน-ไท (GT2007) เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:54:19

ความคิดเห็นที่ 29 Koon Shy_Tour Dee ...อยากให้ลองมาเที่ยวชมดู ไม่ผิดหวังแน่ๆ ครับ พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร เจ้าแม่กวนอิม พระโพธิสัตว์แห่งความเมตา ซึ่งถือว่าเป็นพระโพธิสัตว์แห่งความกรุณาที่ช่วยเหลือให้พ้นทุกข์ อันประกอบด้วยความรักที่ปราศจากเงื่อนไข มีให้กับทุกชีวิต ซึ่งความเมตากรุณาที่แท้จริงนั้นต้องขยายไปสู่ฝ่ายตรงข้ามหคือศัตูด้วย ด้วยเหหตุนี้ท่านจึงประดิษฐานเป็นประธานของโลกมนุษย์นี้ อยู่ในซุ้มหน้าบันไดทางขึ้นอาคารนั่นเองครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:55:40

ความคิดเห็นที่ 30 แม่จีน-ไท (GT2007) ...ช้างไม่เบา แต่คนพาชมตัวเบาคร้าบบ... บันไดเงิน-บันไดทอง  เป็นบันไดจากโลกมนุษย์ทอดไปสู่สวรรค์ถ้าตามความเชื่อเราต้องขึ้นทางบันไดเงิน (สีขาว) และลงทางบันไดทอง (สีชมพู) เพราะงั้นตลอดเวลาจะได้เจ้าหน้าที่บอกผู้คนที่เข้ามาขึ้นทางบันไดสีขาวนะค้า  ลงทางบันไดสีชมพูนะค้า (พึ่งนึกขึ้นได้เหมือนกันเคยมาคราวที่แล้ว ขึ้นลงสลับกันเป็นไรป่าวหว่า..) จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:56:45

ความคิดเห็นที่ 31 เริ่มมีนักท่องเที่ยวมาอยู่เป็นเพื่อนแล้ว จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:57:42

ความคิดเห็นที่ 32 ที่ยึดราวบันไดยังเป็นรูปช้างเลยละครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:58:27

ความคิดเห็นที่ 33 กินนร-กินนรี เป็นเหล่าอมนุษย์ในป่าหิมพานต์ บางคัมภีร์กล่าวว่าอยู่เชิงเขาไกรลาส เป็นบริวารของพระอิศวร จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:59:08

ความคิดเห็นที่ 34 นั่งเด่นอยู่ที่หัวบันได จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 15:59:46

ความคิดเห็นที่ 35 คนธรรพ์ กึ่งเทพกึ่งมนุษย์ มีหน้าที่ขับร้อง บรรเลงตนตรี บำเรอทวยเทพต่างๆ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:00:29

ความคิดเห็นที่ 36 อาศัยอยู่ที่ดินแดนระหว่างสวรรค์กับโลกมนุษย์ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:01:24

ความคิดเห็นที่ 37 ก่อนถึงชั้นบนสุดมีช่องกระจกให้เห็นวิวจากมุมสูงด้วย จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:02:08

ความคิดเห็นที่ 38 ตามไปเที่ยวด้วยคน จากคุณ : tonhok เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:02:24

ความคิดเห็นที่ 39 ระหว่างทางขึ้นมีให้เลือกระหว่าลิฟต์ กับบันไดวน ถ้าเลือกทางบรรไดก็เหนื่อยพอควรเลย แต่มีภาพเหล่านางฟ้าเป็นเพื่อนตลอดทาง จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:03:29

ความคิดเห็นที่ 40 tonhok... ได้เลยครับ เที่ยวด้วยกันหลายๆ คนไม่เหงาดีคร้าบ TAVATIMSA HAEVEN : สวรรค์ดาวดึงส์ ภายในท้องช้างถือเป็นสวรรค์ดาวดึงส์ เพราะเหมือนว่าเป็นยอดเขาพระสุเมรุ เป็นที่ประทับของพระอินทร์ผู้เป็นเทวดาของเหล่าเทวดา คอยพิทักษ์รักษาโลกและมนุษย์ผู้มีศิลธรรม  ภายในห้องนี้อยู่ในโทนสีฟ้าสวยงาม และบรรยากาศการจัดไฟสลัว ทำให้ดูเย็นและสงบมาก จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:04:44

ความคิดเห็นที่ 41 มีพระพุทธรูปปางลีลาเป็นประธาน ซึ่งแสดงเรื่องราวพุทธประวัติ “เสด็จจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์” เบื้อหลังพระประธานจึงมีบันไดสามแถว หมายถึงบันไดแก้ว บันไดเงิน และบันไดทอง ที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากสวรรค์ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:05:30

ความคิดเห็นที่ 42 บนเพดานห้องถูกตกแต่งด้วยจิตรกรรมสีฝุ่นรูปสุริยจักรวาล  จากช่างฝีมือชาวเยอรมัน คนเดียวกับที่สร้างผลงานกระจกสีที่เพดานอาคารทรงโดมพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ศิลปินผู้ออกแบบอาศัยความโค้งของท้องช้างโดยออกแบบภาพวาดเป็นรูปสุริยจักรวาลในลักษณะร่วมสมัย มีดวงดาวต่างๆในระบบสุริยจักรวาลเรียงรายอยู่ในท้องฟ้าจนสุดขอบจักรวาลภาพ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:06:21

ความคิดเห็นที่ 43 จิตรกรรมสีฝุ่นนี้เป็นการวาดภาพแบบโบราณของทางยุโรปเช่นเดียวกับการวาดภาพของไทย โดยเริ่มจากทำความสะอาดพื้นปูนที่จะวาดให้เรียบร้อย จากนั้นทาสีรองพื้นทิ้งไว้ให้แห้งก่อนทาทับทั้งหมดสามรอบ แล้วนำกระดาษไขมาปรุตามลายเส้นของภาพจิตรกรรม ใช้สีฝุ่นตบไปตามรอยปรุของกระดาษไข ซึ่งจะได้โครงร่างของภาพเขียนก่อนที่จะลงสี จากนั้นจึงค่อยลงสีตามที่ออกแบบไว้ ภาพจิตรกรรมสุริยจักรวาลเป็นภาพขอบฟ้าอันเวิ้งว้าง ประกอบด้วยดวงดาวต่างๆ ทางช้างเผือก กลุ่มอุกกาบาต ดาวหาง ซึ่งเป็นสรรพสิ่งที่อยู่ร่วมกันในจักรวาล และเราก็คือสิ่งมีชีวิตเล็กๆในจักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:07:06

ความคิดเห็นที่ 44 พระพุทธสิหิงส์ เป็นองค์จำลองมาจากพิพธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พระพุทธรูปประดิษฐานในพระวิมาน หมายถึงพุทธประวัติตอน “โปรดพุทธมารดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์” เป็นเรื่องราวที่พระพุทธองค์เสด็จขึ้นไปจำพรรษาบนดาวดึงส์และเทศนาพุทธมารดา เป็นเวลา 3 เดือน เมื่อครบกำหนดพระพุทธองค์จึงเสด็จลงมายังโลกมนุษย์ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:07:52

ความคิดเห็นที่ 45 นั่งพักสงบๆ ให้หายเหนื่อยแล้ว ลงมาด้านล่าง ซึ่งชั้นล่างนี้เป็นที่จัดวางวัตถุโบราณที่น่าสนใจอีกหลายชิ้นเลย (แต่ห้ามถ่ายภาพที่วัตถุโบราณครับ) แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 54 16:09:41 จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:09:20

ความคิดเห็นที่ 46 ลวดลายเหนือซุ้มประตู จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:10:23

ความคิดเห็นที่ 47 บรรยากาศแนวสลัวๆ ได้บรรยากาศดี จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:11:11

ความคิดเห็นที่ 48 ข้างตอนตอนนี้แดดออก สลับฝนตกตลอดเวลา จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:12:02

ความคิดเห็นที่ 49 ออกมาชมข้างนอกบ้างครับ พระอินทร์ทรงประทับช้างเอราวัณตั้งที่ด้านหน้าทางเข้า จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:13:18

ความคิดเห็นที่ 50 สามารถนำบัตรไปรับดอกไม้ธูปเทียนสักการะได้ครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:14:20

ความคิดเห็นที่ 51 จากนั้นได้เวลานำดอกบัวไปลอยน้ำ ตามความเชื่อว่าจะได้ลอยสิ่งร้ายๆ ออกไปครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:15:20

ความคิดเห็นที่ 52 บรรยากาศผู้ตอนตอนนำดอกบัวมาลอยน้ำ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:15:59

ความคิดเห็นที่ 53 หลังจากนั้นตั้งใจเดินชมส่วนสุดท้าย คือสวนโดยรอยที่สมมุติให้เป็นป่าหิมพานต์ ฝนตกมาอีกแล้วครับ คราวนี้เม็ดใหญ่เลย เลยต้องเข้าไปหลบฝนดูลาดเลา ว่าจะเดินต่อ หรือจะต้องตัดใจกลับละครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:17:28

ความคิดเห็นที่ 54 ฝนตกร่วม 20 นาทีเลย แต่ระหว่างฝนซา มีสนุกอยู่ตัวเดียว เล่นน้ำฝน ส่งเสียงใดอย่างมีความสุข เลยแอบถ่ายรูปมาหน่อย จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:18:59

ความคิดเห็นที่ 55 ป่าหิมพานต์ บริเวณโดยรอบเป็นอุทยานพันธุ์ไม้ในวรรณคดี และมีประติมากรรมปูนปั้นรูปสัตว์หิมพานต์ เช่น กินนร กินนรี พญานาค คชสีห์ ราชสีห์ เป็นต้น ซึ่งิงมาจากคติไตรภูมิที่บริเวณโดยรอบเขาพระสุเมรุ จะเป็นป่าหิมพานต์ ซึ่งมีสิงสาราสัตว์ในจินตนาการต่างๆ มากมาย จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:19:49

ความคิดเห็นที่ 56 มีดอกไม้หลากหลายเลย โดยเฉพาะดอกบัว มีหลายสีสวยๆ ทั้งนั้นเลย จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:20:49

ความคิดเห็นที่ 57 ดอกบัวสีเหลืองสดใส จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:21:28

ความคิดเห็นที่ 58 มีสีม่วงแซมก็สวยไปอีกแบบ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:22:13

ความคิดเห็นที่ 59 เดินเล่นรอบๆ ป่าหิมพานต์กันนะครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:22:50

ความคิดเห็นที่ 60 ซุ่มอยู่ตรงพุ่มไม้ก็มี จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:23:33

ความคิดเห็นที่ 61 ที่นั่งพักระหว่างทาง นี่ถ้าฝนไม่ตก ใต้เงาไม้ครึ้มๆ อย่างงี้ นั่งพักผ่อนสบายเลย จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:24:35

ความคิดเห็นที่ 62 ดอกไม้สีสดๆ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:25:09

ความคิดเห็นที่ 63 หรือสีขาวเย็นตา ก็มีให้ชมตลอดเส้นทาง จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:25:52

ความคิดเห็นที่ 64 ดอกบัวอีกดอกที่สีสันประทับใจมาก จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:26:36

ความคิดเห็นที่ 65 มีสัตว์ในวรรณคดีหลากหลายให้ได้ศึกษากัน จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:27:31

ความคิดเห็นที่ 66 อยู่ตรงนี้อีกคู่หนึ่งครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:28:16

ความคิดเห็นที่ 67 มีจุดให้อาหารปลา พร้อมชมปลาสีสันสวยงาม จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:29:02

ความคิดเห็นที่ 68 ติดตามชมด้วยคนครับ ในท้องช้าง สงบ นิ่ง เยือกเย็นจริงๆครับ หลายคนอาจคิดว่าค่าเข้าราคาสูง แต่ผมว่าคุ้มนะ จากคุณ : Mr.Cellophane เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:29:58

ความคิดเห็นที่ 69 ก่อนกลับแวะไปชมที่จุดชมวิว อยู่บริเวณด้านหลังของจุดรับดอกไม้ธูปเทียน จะได้เห็นช้างเอราวัณในมุมสูงหน่อย ส่วนในภาพคือบริเวณด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ ถ้าอยากมาไหว้เฉยๆ ก็สามารถมาไหว้ได้ตรงนี้ ต้องต้องเสียบัตรผ่านประตูครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:30:48

ความคิดเห็นที่ 70 Mr.Cellophane ...ผมว่าลายละเอียดเค้าดีครับ น่าสนับสนุนกับการสร้างศิลปะสวยๆ ให้ได้ชม ผมก็ถือว่าคุ้มมากครับ ของที่ระลึกจำหน่ายภายใน น่ารักดีนะครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:32:28

ความคิดเห็นที่ 71 นี่ก็น่าสนใจ แต่วันนั้นไม่ได้หยิบกลับบ้านสักอันเลยครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:33:25

ความคิดเห็นที่ 72 บริเวณทางออกแล้วครับ ระหว่างเดินกลับไปที่จอดรถ (จริงๆ เค้ามีรถรับส่ง) แต่อยากเล่นชมวิวเรื่อยๆ ระหว่างทาง จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:34:33

ความคิดเห็นที่ 73 สะพานสีสวยดีนะครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:35:06

ความคิดเห็นที่ 74 รายละเอียดของสะพาน มีสัตว์ในวรรณคดีประดับอยู่เยอะเลย จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:35:53

ความคิดเห็นที่ 75 ก่อนถึงรถ เจอดอกรักริมทาง จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:36:34

ความคิดเห็นที่ 76 สวยมากครับ  ตามไปเที่ยวด้วยคนครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:38:08

ความคิดเห็นที่ 77 ปิดท้ายด้วยดอกไม้สีสวย อยากแนะนำให้เพื่อนลองมาชมที่นี่ และหากมีเวลาทั้งวัน ก็มีที่ให้นั่งเล่นเย็นใจ หรือร้านอาหาร ร้านกาแฟให้นั่ง แต้ถ้าอยากไปเที่ยวต่อ เมืองโบราณ หรือบางปู ก็อยู่ไม่ไกลนัก สามารถเที่ยวต่อได้หลากหลายบรรยากาศดี จากการไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณครั้งนี้ ความรู้สึกต่างจากครั้งแรกที่มามาก เพราะครั้งนี้ มีเวล่อยู่นานกว่า จากการเดินหามุมถ่ายรูปกลายเป็นว่าเรามีเวลาชมศิลปะแต่ละชิ้นนานขึ้น ได้มองเห็นความสวยงามของศิลปะแต่ละชิ้น เป็นความสวยที่มากขึ้น เป็นความประทับใจ และอยากชวนเพื่อนๆ ลองหาเวลามาเที่ยวปากน้ำ ที่อยู่ใกล้แค่นี้เองครับ แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 54 17:00:12 จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:38:43

ความคิดเห็นที่ 78 เล็กทาโร่ ...ขอบคุณมากครับ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:39:21

ความคิดเห็นที่ 79 น่าเที่ยวดีครับ มีดอกไม้สวยๆเยอะเลย ไว้มีโอกาสจะลองไปดูนะครับ จากคุณ : Koon Shy_Tour Dee เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 16:43:59

ความคิดเห็นที่ 80 ต้องขอโทษคุณเดี่ยวด้วยนะคะ มาไม่มันถ่ายทอดสดเลย จบซะแล้ว เป็นพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจและสวยงามมาก ๆ เลยค่ะ คงต้องหาโอกาสลองไปเยี่ยมชมบ้าง จะได้เก็บภาพสวย ๆ แบบคุณเดี่ยวบ้าง ขอบคุณที่พาเที่ยวนะคะ จากคุณ : Yai Klong_Tour Rai เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 17:55:57

ความคิดเห็นที่ 81 ผ่านบ่อย ๆ ไม่เคยแวะสักครั้ง สงสัยต้องไปบ้างแล้วล่ะเนี้ย จากคุณ : MrHeng & KooKKiK เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 18:22:10

ความคิดเห็นที่ 82 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : คุณชายชอบเที่ยว เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 18:44:05

ความคิดเห็นที่ 83 ภาพสวยมากเลยคะ หลังฝนตกแบบนี้บรรยากาศดีจังนะคะ เคยไปแต่ตอนแดดร้อนเปรี้ยงม่ายไหวเลยละ เอคนปากน้ำมีลดราคาด้วยเหรอคะ น่าอิจฉาจัง ทีหลังต้องขอผู้ว่ากทม ให้ลดราคาแหล่งท่องเที่ยวในกรุงเทพบ้างแล้วละคะ อยากใช้บัตรปชชบ้างเหมียนกัน จากคุณ : kamonda เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 18:55:01

ความคิดเห็นที่ 84 แอบมาเงียบๆีอีกแระ นึกอยู่ว่าจะเอามารีวิววันไหน อุอุ พลาดอีกแล้วเรา // จากคุณ : เก๊กฮวยเย็น เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 19:21:47

ความคิดเห็นที่ 85 แวะมาชมครับ ภาพสวยงามมากๆเลยครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : กัปตันลูกชุบ เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 19:27:26

ความคิดเห็นที่ 86 สวยมากครับ.. ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ จากคุณ : ลอยล่องคนเดียว เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 19:53:44

ความคิดเห็นที่ 87 ขอบคุณมากๆครับผม จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 19:58:50

ความคิดเห็นที่ 88 Koon Shy_Tour Dee ...ดอกไม้เยอะจริงๆ ครับ ยิ่งบรรยากาศหลังฝนสดชื่นมากเลยครับ Yai Klong_Tour Rai ...คุณบงคร้าบ.. เข้ามาให้กำลังใจก็ดีแล้วครับ วันหลังเปลี่ยนบรรยากาศเที่ยวแถวนี้ดูบ้างนะครับ มาพร้อม Khun Shy เลยครับ เดี๋ยวเป็นไกด์ให้เองเลยคร้าบบบ... MrHeng & KooKKiK ...ลองแวะดูนะครับ ไม่ผิดหวังแน่ๆ ผมรับรอง คุณชายชอบเที่ยว... ขอบคุณที่แวะมาเที่ยวด้วยกันเช่นกันนะครับ kamonda... บรรยากาศหลังฝนแลกมาด้วยการอดถ่ายรูปฟ้าสวยๆ ครับ แต่ก็ชุ่มๆ เย็นดีนะครับ เก๊กฮวยเย็น... ไม่ได้แบบ แต่ปุบปับก็นึกอยากรีวิวขึ้นมาอ่ะครับ เลยไม่ได้บอกล่วงหน้าคร้าบ 5555 กัปตันลูกชุบ / ลอยล่องคนเดียว ...ขอบคุณมากๆ เช่นกันนะครับ สำหรับกำลังใจ จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 20:07:32

ความคิดเห็นที่ 89 ขอบคุณมากๆครับ ภาพสวยมากๆครับ ตามเที่ยวด้วยคนนะครับ จากคุณ : paipaiphuart เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 20:29:34

ความคิดเห็นที่ 90  ถ่ายรูปสวยมากค่ะ  จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 5 ส.ค. 54 21:09:51

ความคิดเห็นที่ 91 มาเดินเที่ยวพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณด้วยคนนะครับ สารภาพว่าไม่ค่อยได้ไปแถวนั้นเท่าไหร่เลย แหะแหะ ปล รู้สึกคุณเดี่ยวจะชอบถ่ายดอกไม้นะ น่าจะกัดฟันซื้อ macro ไปเลย รับรองได้ภาพงามๆเพิ่มอีกตรึม จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 00:50:47

ความคิดเห็นที่ 92 paipaiphuart / สาวหน้าใส ...ขอบคุณมากๆ ครับ Coffee Blended ...สารภาพว่า เลนส์มาโครน่ะ ไปลูบๆ คลำๆ มาหลายรอบแล้ว แต่ยังตัดใจไม่ได้ซะที 555 จากคุณ : cold river เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 06:38:32

ความคิดเห็นที่ 93 ตามไปเที่ยวและสักการะสิ่งศํกดิ์สิทธิ์ด้วยคนครับ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 08:58:33