และสามารถชมได้อีกครั้งปลายปีนี้ค่ะ
จันทรุปราคาเต็มดวง 10 ธันวาคม 2554 อุปราคาครั้งสุดท้ายของปีเป็นจันทรุปราคาเต็มดวงที่เห็นได้ในประเทศไทยเป็นครั้งที่ 2 ของปี เกิดขึ้นในคืนวันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม 2554 ตรงกับวันระลึกการพระราชทานรัฐธรรมนูญ ดวงจันทร์เริ่มแหว่งเวลา 19:46 น. ขณะนั้นประเทศไทยจะเห็นดวงจันทร์อยู่บนท้องฟ้าทิศตะวันออกด้วยมุมเงยประมาณ 30° ดวงจันทร์เข้าไปในเงามืดทั้งดวงตั้งแต่เวลา 21:06 น. ถึง 21:57 น. จันทรุปราคาบางส่วนสิ้นสุดเวลา 23:18 น. พื้นที่บนโลกที่เห็นจันทรุปราคาครั้งนี้พร้อมประเทศไทย คือ ทางตะวันออกของทวีปแอฟริกา ยุโรป เอเชีย ฮาวาย มหาสมุทรแปซิฟิก และเกือบทั้งหมดของทวีปอเมริกาเหนือ
ขั้นตอนการเกิดจันทรุปราคา 10 ธันวาคม 2554
- ดวงจันทร์เริ่มเข้าสู่เงามัวของโลก 18:33:33 น.
- เริ่มเกิดจันทรุปราคาบางส่วน 19:45:42 น.
- เริ่มเกิดจันทรุปราคาเต็มดวง 21:06:16 น.
- กึ่งกลางของปรากฏการณ์ 21:31:49 น.
- สิ้นสุดจันทรุปราคาเต็มดวง 21:57:24 น.
- สิ้นสุดจันทรุปราคาบางส่วน 23:17:59 น.
- ดวงจันทร์พ้นจากเงามัวของโลก 00:30:00 น.
จันทรุปราคาครั้งนี้มีระยะเวลาเต็มดวงยาวนาน 51 นาทีเศษ ขณะบังเต็มที่เวลา 21:32 น. ศูนย์กลางเงาโลกอยู่ห่างไปทางทิศเหนือของดวงจันทร์ ทำให้คาดหมายได้ว่าขณะนั้นพื้นที่ด้านทิศใต้ของดวงจันทร์ซึ่งอยู่ทางขวามือเมื่อมองขึ้นไปบนฟ้าน่าจะสว่างกว่าส่วนอื่น
นับตั้งแต่ พ.ศ. 2475 เป็นต้นมา เคยเกิดจันทรุปราคาเห็นได้ในประเทศไทยที่ตรงกับวันระลึกการพระราชทานรัฐธรรมนูญมาแล้วครั้งหนึ่งในเช้ามืดวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2535 ปีนี้จะเป็นอีกครั้งหนึ่ง อยู่ในฤดูที่โดยมากไม่ค่อยมีเมฆเป็นอุปสรรค และประเทศไทยตรงกับช่วงเวลาที่มีผู้สนใจมากที่สุด (prime time) หลังจากปีนี้ จันทรุปราคาในวันรัฐธรรมนูญจะเกิดขึ้นอีกครั้งใน พ.ศ. 2619 (ไม่นับรวมจันทรุปราคาเงามัวใน พ.ศ. 2573 ซึ่งสังเกตได้ยาก)
จันทรุปราคาครั้งนี้เป็นจันทรุปราคาครั้งที่ 23 ใน 71 ครั้ง ของชุดซารอสที่ 135 ซึ่งดำเนินอยู่ระหว่าง ค.ศ. 1615 - 2877 ชุดซารอสนี้ประกอบด้วยจันทรุปราคาเงามัว 9 ครั้ง บางส่วน 10 ครั้ง เต็มดวง 23 ครั้ง บางส่วน 7 ครั้ง และเงามัว 22 ครั้ง ตามลำดับ จันทรุปราคาเต็มดวงครั้งที่นานที่สุดของชุดซารอสนี้จะเกิดขึ้นใน ค.ศ. 2264 นาน 1 ชั่วโมง 46.2 นาที
แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 54 09:22:15