ความคิดเห็นที่ 1 ชาวปารีสเซียงเป็นคนสุนทรีค่ะเราว่านะ  เข้าใจสรรหาอะไรมาบันเทิงชีวิต  ทั้งดนตรี ศิลปะ อาหาร การใช้ชีวิต  แล้วเค้าก็ปลูกฝังกันตั้งแต่เด็กๆ  ไปมิวเซี่ยมหรือสถานที่โบราณทั้งหลาย จะเจอกลุ่มเด็กๆมาทัศนศึกษาเสมอ   อันนี้ลงให้ดูขำๆว่าซื้อต้นไม้แล้วเค้าขนกันยังไง   จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 11:55:25

ความคิดเห็นที่ 2 ที่แรกคือโบสถ์ Saint Chapelle ที่ถ้าดูในแผนที่จะอยู่ค่อนไปทางซ้ายของเกาะซีเต้ค่ะ   จากตลาดดอกไม้และนกให้เดินย้อนเข้าไปในเกาะ  ไม่ใช่เดินหาแม่น้ำแซน  ก็จะเจอตัวโบสถ์ตั้งอยู่ในกระทรวงยุติธรรม  สังเกตจากยอดแหลมๆของตัวโบสถ์ที่โผล่มา หรือจากแถวยาวเหยียดของนักท่องเที่ยวที่กำลังรอคิวก็ได้ค่ะ ตอนแรกเราเห็นคิวยาวก็แอบเซ็งนิดหน่อยว่ารอนานแหง ดูขยับช้าด้วย  เผอิญมีเจ้าหน้าที่ใส่เสื้อแจ็คเก็ตว่า St.Chapelle เดินผ่าน เราเลยสอบถามว่าเรามีบัตร Paris Museum Pass  มีแถวแยกต่างหากมั้ยคะ  เค้าก็ยิ้มแย้มแจ่มใสดีมากๆ  บอกให้เราเดินตามมา  ระหว่างเดินก็ชักชวนนักท่องเที่ยวคนอื่นที่ถือบัตรนี้ในมือให้ออกมาด้วยกัน  แล้วเค้าก็พาเข้าด้านใน  ให้ไปต่อแถวด้านในเลยค่ะ สำหรับคนมีบัตรแล้ว   ถึงบอกว่าถ้าใครแพลนว่าจะเที่ยวแวะชมสถานที่สำคัญต่างๆภายในหลายที่และหลายวัน บัตรนี้คุ้มแสนคุ้มค่ะ โดยเฉพาะจะช่วยคุณประหยัดเวลา  ^^ จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 11:55:47

ความคิดเห็นที่ 3 โบสถ์ Saint Chapelle ถือว่าเป็นหนึ่งในโบสถ์ที่มีหน้าต่างสีหรือ Stained glass window ที่ยอดเยี่ยมที่สุดเลยค่ะ  เราขึ้นไปชั้นสองนี่ถึงกับอุทานออกมา   และนักท่องเที่ยวคนอื่นๆก็เหมือนกัน ชาวตะวันตกด้วยกันนี่แหละ   โบสถ์ Saint Chapelle เป็นหนึ่งในโบสถ์ยุคกลางหรือ Middle Ages   สร้างขึ้นโดยพระเจ้า Louis IX หรือ Louis the Blessed เพื่อเก็บรักษามงกุฏหนามที่พระเจ้าหลุยส์ไปซื้อมาจากเวนิส อิตาลีที่ว่ากันว่าซื้อมาจากกรุง Constantinople อีกที   ถ้าอ่านประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส  บรรดากษัตริย์ทั้งหลายมักจะมีฉายาหลังชื่อ  มีตั้งแต่ฉายาดีๆอย่างเช่น Philip IV the Fair ไปจนถึงติดตลกอย่าง Louis V the Lazy (ซึ่งก็คงไม่ใช่เพราะขี้เกียจซะทีเดียว แต่เพราะช่วงครองราชย์สั้นมากๆจนไม่มีผลงานอะไรให้พูดถึงเลย)  อีกทีเราว่าเพราะชื่อซ้ำๆกันด้วยล่ะ  การมีฉายาก็ทำให้แยกแยะกับจดจำเรื่องราวแต่ละพระองค์ได้ง่ายขึ้น จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 11:56:12

ความคิดเห็นที่ 4 ตอนต่อคิวเข้าไปข้างในโบสถ์  เห็นป้ายนี้เข้า  นี่ถ้าอยู่ยาวๆคงหาโอกาสไปฟังแน่เลยค่ะ  เวลาไปเที่ยวยุโรป มักจะเห็นคอนเสิร์ตออเครสตร้าบ้าง โอเปร่าหรือบัลเล่ย์บ้างจัดแสดงเป็นเรื่องปกติ  น่าอิจฉาชาวยุโรปจริงๆ  มีศิลปะให้สุนทรีอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ของไทยจริงๆก็มีนะคะ  นอกจากวง BSO ที่จัดคอนเสิร์ตเป็นระยะ ก็ยังมีการแสดงศิลปะและดนตรีนานาชาติประจำปีที่สปอนเซอร์โดยสถานฑูตต่างๆ  ส่งการแสดงมาร่วมงานค่ะ  งานจะจัดช่วงปลายปี กันยายนเป็นต้นไปที่ศูนย์วัฒนธรรมฯ  สมัยก่อนเราก็ดูเรื่อยๆมาตั้งแต่ครั้งที่ 2 แล้วก็เลิกดูไปเพราะรายการมันเริ่มซ้ำละ จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 11:56:30

ความคิดเห็นที่ 5 เห็นอันนี้แล้วอึ้ง  เป็นท่อระบายน้ำรูปคนกำลังแหกปากตัวเองเป็นช่องน้ำไหล   ก็ช่างคิดได้เนอะ  ^^’’ จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 11:56:53

ความคิดเห็นที่ 6 The Virgin and the Child ตรงประตูทางเข้า จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 11:57:55

ความคิดเห็นที่ 7 เข้าไปจะพบกับชั้นล่างก่อน  เป็นศิลปะแบบยุคกลางแท้ๆคือ Gothic ค่ะ   มีจุดสังเกตที่ flying buttress ซึ่งจะเป็นเหมือนเสาโค้งยื่นออกมาจากอาคารหลัก  มีหน้าที่ช่วยพยุงน้ำหนักตัวอาคาร  เห็นได้จากด้านหลังของโบสถ์ Notre Dame แล้วก็ pointed arch  คือเส้นโค้งตามโครงสร้างที่ไปบรรจบกัน  อันนี้เป็นจุดสังเกตโครงสร้างภายใน  อย่างในรูปนี่ใช่เลย ศิลปะแบบโกธิคพบเห็นได้ทั่วไปในยุโรปตะวันตกเลยค่ะ  ยกเว้นก็แต่อิตาลี   มาหลังศิลปะแบบ Romanesque (ให้คิดถึงปราสาทยุคเก่าที่กำแพงหนาๆ  หน้าต่างเล็กกระจิด นั่นอ่ะค่ะโรมาเนส)  มาก่อนศิลปะแบบ Renaissance (ตัวอย่างชัดๆก็มิวเซี่ยมลูฟร์ และสถานที่สำคัญทางราชการอื่นๆในกรุงปารีสค่ะ)   ถ้าพูดถึงเมืองที่มีความเป็นยุคกลางมากๆ เราว่าคือกรุง Prague ใน Czech Republic นะคะ  ไปเยือนแล้วเหมือนหลุดไปอยู่ยุคกลางเลย  เป็นอีกเมืองที่โรแมนติคดีด้วย    (ไว้มีโอกาสจะลงรูปไฮไลท์จากทริปยุโรปตะวันตกสมัยสองสามปีก่อนนะคะ   สมัยนั้นเรายังไม่เล่นกล้อง dslr เลย) จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:00:27

ความคิดเห็นที่ 8 ชั้นล่างนี่เป็นชั้นที่สร้างไว้สำหรับประชาชนสามัญค่ะ   ไม่อลังการณ์เท่าชั้นบน  แต่เราว่าก็อลังการณ์แล้วค่ะ  ^^’’  ถ้าสังเกตบนเพดาน  จะเป็นลาย fleur de lis หรือดอกลิลลี่แบบฝรั่งเศส  ใช้เป็นสัญลักษณ์แทนกษัตริย์ฝรั่งเศสหรือประเทศฝรั่งเศสค่ะ  ในภาพวาด  หรือemblemต่างๆ มักจะมีลายนี้ปรากฏอยู่ จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:01:56

ความคิดเห็นที่ 9 สมัยก่อน ประชาชนทั่วไปอ่านหนังสือไม่ออก  ทางโบสถ์ก็เลยใช้หน้าต่างสีเหล่านี้ถ่ายทอดเรื่องราวในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล   เค้าเรียกกันว่า Poor Man’s Bibles ค่ะ  แต่ละรูปก็จะแทนแต่ละบทแต่ละเรื่องราวจากพระคัมภีร์ จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:02:13

ความคิดเห็นที่ 10 น่าจะเป็นพระเจ้า Louis IX ที่เป็นคนสร้างโบสถ์แห่งนี้นะคะ  สังเกตชุดที่ใส่ก็มีลาย fleur de lis จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:02:27

ความคิดเห็นที่ 11 ... แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 54 12:04:56 แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 54 12:04:13 จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:03:49

ความคิดเห็นที่ 12 เวลาเราชมงานศิลปะหรือสถานปัตยกรรมเก่าๆ เราจะเอาเรื่องเวลามาคิดด้วย  เพราะพอนึกถึงว่าเจ็ดแปดร้อยปีก่อนเค้าทำได้ขนาดนี้ มันก็เพิ่มความชื่นชมขึ้นไปอีกค่ะ สมัยนั้นวิวัฒนาการต่างๆก็ยังไม่ค่อยมี  เราว่าโลกเราเจริญเร็วปริ๊ดก็เมื่อร้อยปีหลังนี่เองนะคะหลังจากมีไฟฟ้า จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:05:13

ความคิดเห็นที่ 13 ขึ้นบันไดวนเล็กๆขึ้นไปที่ชั้น 2   เห็นแล้วอุทานเลยค่ะ  สวยมากกกกก เพราะทั้งห้องประดับไปด้วยกระจกสี   แถมเวลาแสงแดดลอดเข้ามา มันสร้างความรู้สึกว่าที่นี่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์   โบสถ์สมัยก่อนหลายที่มักจะสร้างภายในสวยมาก  สาเหตุนึงก็เพื่อจะดึงดูดใจประชาชนทั่วไปให้เข้าหาโบสถ์ เข้าหาคริสตศาสนาค่ะ  ไปๆมาๆมันก็อาจจะเยอะไปเริ่มฟุ่มเฟือยฟุ้งเฟ้อ ประกอบกับการขายใบไถ่บาป  ก็เลยเป็นสาเหตุหลักให้เกิดกลุ่มต่อต้านและแตกตัวไปเป็นนิกาย Protestant (และมีกลุ่มอื่นๆอีก) จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:06:40

ความคิดเห็นที่ 14 หน้าต่างกุหลาบ  Rose window  ถือเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างของศิลปะยุคกลางเลยค่ะ  มักจะประดับอยู่ทางทิศตะวันตกของโบสถ์และจารึกเรื่องราวของวันสิ้นโลก จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:06:55

ความคิดเห็นที่ 15 ชั้น 2 นี้สำหรับกษัตริย์และราชนิกูลเท่านั้น  ชั้นล่างว่าอลังแล้ว ชั้นบนยิ่งกว่า  ที่นี่ไม่ดังเท่า Notre Dame ที่ใครๆก็รู้จัก (ซึ่งดังก็เพราะนิยายของ Victor Hugo นี่ล่ะ) แต่เป็นโบสถ์ที่เราอยากจะแนะนำมากๆสำหรับคนที่ชื่นชอบหรืออยากชมศิลปะแบบโกธิคแบบจัดเต็ม  แม้ว่าที่นี่จะเล็กกว่าโบสถ์ Notre Dame แต่ก็มีรายละเอียดของงานที่มากกว่า อลังการณ์กว่าค่ะ   โบสถ์อีกที่ๆเราว่าน่าจะสวยมาก  แต่ไม่ได้ไปคือโบสถ์ Saint Denis Basilica  ที่เป็นที่เก็บรักษาพระศพของอดีตกษัตริย์และราชินีฝรั่งเศสทั้งหลาย  มีทั้งรูปสลักเหนือโลงศพ และรูปสลักจำลองของกษัตริย์และราชินีหลายพระองค์   แต่โบสถ์นี้จะอยู่รอบนอกกรุงปารีสนะคะ   สมัยที่เกิดการปฏิวัติเมื่อ 1789-1799 แล้วก็ยังมีปฏิวัติซ้ำซ้อนภายหลัง  ชาวปารีสเซียงที่โกรธแค้นสถาบันกษัตริย์ได้ทำลายรูปปั้น งานศิลปะ สถานที่สำคัญหลายแห่งลง   ไม่รู้ว่าชาวฝรั่งเศสตอนนี้จะคิดเสียดายบ้างมั้ยเนอะ   ว่าไปชาวฝรั่งเศสตามประวัติศาสตร์ก็เป็นชนชาติเลือดร้อนชนชาตินึงเลยค่ะ  แต่ไปเที่ยวคราวนี้ก็ไม่รู้สึกว่าอย่างนั้นนะคะ  รู้สึกว่าชาวฝรั่งเศสน่ารัก เป็นมิตรไม่เหมือนที่ได้ยินมาต่างหาก ^^ แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 54 12:39:28 จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:07:51

ความคิดเห็นที่ 16 ตรงประตูชั้น 2 สลักเรื่องราวจากพระคัมภีร์  หนึ่งในเรื่องยอดฮิตสุดๆก็คงเป็นจุดเริ่มต้นของความทุกข์ยากของมนุษย์  คือเมื่ออดัมกับอีฟกินแอปเปิ้ล  แล้วจากนั้นมนุษย์ก็ถูกขับออกจาก paradise จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:08:40

ความคิดเห็นที่ 17 อีกซักรูปก่อนไปชมที่อื่นต่อค่ะ จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:09:23

ความคิดเห็นที่ 18 เดินออกจาก Saint Chapelle นิดเดียว  ก็จะเจอทางเข้า Conciergerie  ทางเข้าอาจจะไม่โดดเด่นนะคะ เราก็เดินเลย แต่อยู่ติดกันเลย อยู่อีกด้านของกระทรวงยุติธรรม   แต่ถ้ามองจากฝั่งแผ่นดิน(mainland Paris)จะโดดเด่นข้างแม่น้ำเซนเลยค่ะโดยเฉพาะตอนกลางคืน เรานี่ตั้งใจว่าจะมาถ่ายรูปที่นี่ตอนกลางคืน  แต่เสียดายช่วงนี้เค้าซ่อมแซมส่วนด้านนอกติดแม่น้ำค่ะ  เก๋ตรงที่ว่าเวลาซ่อมแซมสถานที่สำคัญก็จะใช้ฉากกั้นที่มีรูปจำลอง  ดูแล้วไม่ถึงกับผิดหวังซะทีเดียวสำหรับคนที่ตั้งใจมาดู  55+  หลายที่ก็ทำแบบนี้นะคะ เป็นไอเดียดีๆที่อยากให้กรุงเทพทำบ้างจัง  (เห็นใครบอกว่าสนามหลวงตอนนี้ก็มี?) จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:09:46

ความคิดเห็นที่ 19 ที่นี่แต่เดิมเลยเคยเป็นพระราชวังเก่าค่ะ  แล้วก็มาเปลี่ยนเป็นคุกสมัยปฏิวัติที่ว่า  มีเชื่อเสียงในทางเสียมากเพราะเป็นที่จองจำนักโทษทางการเมืองก่อนโดนประหารด้วยกิโยตินจำนวนมากมาย   ยุคไม่สงบสุขหลังปฏิวัติประหารพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ไปแล้วเรียกกันว่ายุค Reign of Terror เลยค่ะ  กิโยตินก็ถูกคิดค้นขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพให้ประหารคนจำนวนมาก   Robespierre ตัวตั้งตัวตีสุดท้ายก็ตายเพราะกิโยตินซะเอง  เป็นจุดจบของยุคสมัยน่ากลัวนี้เสียที จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:10:06

ความคิดเห็นที่ 20 ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ ^^ จากคุณ : Tikgazza เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:10:18

ความคิดเห็นที่ 21 หนึ่งในนักโทษที่ดังที่สุดของที่นี่คือพระนาง Marie Antoinette ค่ะ  ถูกจองจำที่นี่ร่วมเก้าสิบวันได้ก่อนจะถูกประหารโดยกิโยติน  ห้องที่พระนางเคยโดนจองจำอยู่ตอนนี้ได้แบ่งเป็นสองส่วน  ส่วนนึงเป็นโบสถ์เล็กๆเพื่อระลึกถึงพระนาง  อีกห้องเป็นห้องจำลองเหตุการณ์ในตอนนั้น  เป็นห้องเล็กๆมีทหารการ์ดเฝ้าอยู่ห้องส่วนนอก แล้วก็เตียงเก่าๆ โต๊ะเล็กๆ แล้วก็หุ่นพระนางนั่งอยู่ด้านใน  ดูแล้วชวนหดหู่ดีแท้  แอบคุยกับน้องว่าเกิดหุ่นหันมาทำไงอ่ะ - -‘  ตรงนี้ห้ามถ่ายภาพค่ะ ไม่มีรูปมาฝาก   ภายในก็จะมีห้องต่างๆจำลองเหตุการณ์สมัยนั้น  ห้องคุมขังนักโทษสามัญชน  ห้องคุมขังนักโทษที่มีเงินมียศขึ้นมาหน่อย จะมีโต๊ะเขียนหนังสือ มีเตียงให้  ห้องพัศดีอะไรพวกนี้ค่ะ   ด้านหลังจะมีลานระหว่างตึกสำหรับให้นักโทษหญิงออกมาเดินเล่นและซักผ้าได้ จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:10:29

ความคิดเห็นที่ 22 ที่นี่ก็เป็นงานโกธิคอีกเช่นกัน เรียบๆแต่เด่นที่ใส่ไฟให้กับเสาทุกต้น  ไหนๆถ้ามา Saint Chapelle แล้ว  อย่าลืมแวะที่นี่นะคะ จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:11:41

ความคิดเห็นที่ 23 เจอหมากรุกชุดนี้น่าซื้อจัง แต่ราคาแพงไปหน่อย ก็เลยไม่ได้คว้ามา  แอบเสียดายนะนี่ จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:11:54

ความคิดเห็นที่ 24 ยินดีเลยค่ะ คุณTikgazza ^^ _______________________________________________________ มุมนึงมีโบสถ์เล็กๆ  ตั้งขึ้นเพื่อระลึกถึงพระเจ้า Louis XVI และ Madame Elisabeth น้องสาวของพระองค์   สำหรับเราแล้วเราว่าพระเจ้าหลุยส์ไม่ได้เป็นกษัตริย์ที่แย่มากนะคะ  แต่ว่าเป็นคนอ่อนแอและโลเลไม่กล้าตัดสินใจ   ดันมาปกครองฝรั่งเศสในช่วงที่ปัญหาหมักหมมมาหลายยุคสมัย  เรียกว่าอยู่ผิดที่ผิดทาง   ส่วนมาดามอลิซาเบธตามที่รู้มาเป็นน้องสาวที่ภักดีกับพี่มาก เชื่อมั่นในศาสนาและราชวงศ์  เชื่อกันว่าเธอเป็นพวก royalist สุดตัวเหมือนกัน   เธออยู่ร่วมชะตากรรมกับพี่และครอบครัวจนวาระสุดท้ายเลยค่ะ  สุดท้ายก็โดนประหารเหมือนกัน จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:12:35

ความคิดเห็นที่ 25 เบรคด้วยมื้อกลางวันที่ร้านตรงข้าม Saint Chapelle เลยค่ะ   เห็นคนเยอะดีและหิวแล้ว  ก็เลยสั่งเซ็ตเมนู   Starter เป็นจานง่ายๆอย่างไข่มายองเนส  กับซุปหัวหอมแบบดั้งเดิม  ซุปรสชาติไม่ถูกปากค่ะ  หุหุ  ถือเป็นการลองของ Main dish เป็นไก่ย่างกับสเต็กเนื้อ  เราทานไก่ย่าง  อร่อยเชียว  ไม่ได้ลองหาไก่ย่างตามตลาดนัดกิน  อยากรู้ว่ารสชาติเหมือนกันหรือเปล่า Dessert เป็นไอศครีมกับพุดดิ้งชอคโกแลต   ใช้ได้เลย จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:12:59

ความคิดเห็นที่ 26 ให้ดูว่าคาเฟ่ที่นี่ จัดเก้าอี้ให้หันหน้าออกหน้าร้านจริงๆ  เวลาคุยกันไม่ต้องมองหน้ากันค่ะ  ให้มองวิวมองชาวปารีสเซียงที่เดินขวักไขว่ไปพลาง คุยกันไปพลาง จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:13:13

ความคิดเห็นที่ 27 แล้วก็มาถึงโบสถ์ Notre Dame ที่เป็นเหมือน landmark อีกที่ของกรุงปารีส  อยู่บนเกาะซีเต้นี่ล่ะค่ะ เดินมาทางขวาของเกาะหน่อยก็เจอแล้ว   ในกรุงปารีสจะมีป้ายตามมุมถนนคอยชี้สถานที่สำคัญ  แต่ว่าไม่ทุกทีและบางทีก็งงๆ  แนะนำว่าให้ดูชื่อถนนประกอบกับแผนที่ก็จะหาสถานที่ต่างๆเจอไม่ยากค่ะ  ตามหัวถนนจะมีป้ายชื่อถนนบอกชัดเจนทุกที่เลย  (Rue de…. แปลว่าถนน.....) คนเยอะแยะมากมายค่ะ  โบสถ์ส่วนใหญ่(แต่ไม่ทั้งหมด)มักจะเข้าฟรีค่ะ   ที่นี่ก็เช่นกัน  จะเสียค่าเข้าชมก็ตรงที่ขึ้นไปชั้นบนเท่านั้น  แต่นั่นล่ะอาจจะเป็นสาเหตุให้คนเยอะมาก  แต่แถวก็ขยับเรื่อยๆนะคะ   เค้าปล่อยเข้าเป็นกลุ่มๆ  แถวยาววนไปอีกด้านของลานหน้าโบสถ์แต่เรารอซักสิบห้านาทีก็เข้าไปแล้ว จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:13:47

ความคิดเห็นที่ 28 ข้างๆมีรูปหล่อบรอนซ์เป็นรูปพระเจ้า Charlemagne อันใหญ่เด่นเป็นสง่า   ตรงนี้หลายๆคนใช้เป็นจุดนัดพบ  รวมถึงโครงการไกด์อาสาเที่ยวพรีแต่ดีอย่าง Discover Walk Paris ด้วย   วันที่เราไปถึงบ่ายสองโมงสามสิบห้านาที เราก็ไปชะเง้อๆดูเผื่อเจอคุณไกด์เสื้อกั๊กชมพู แต่ก็ไม่เจอ   วันหลังๆเห็นรูปจากใน FB Page เค้าก็ไปเที่ยวกันน้า  จริงๆวันนั้นตั้งใจว่าจะย่องไปดูเฉยๆ เที่ยวเองก่อนแล้วไปแจมกับเค้าวันหลัง  สุดท้ายก็เสียดายว่าไม่ได้ไป   ว่าไปก็อยากให้เมืองไทยมีแบบนี้บ้างนะคะ  ไกด์อาสาสมัครพาเที่ยวกรุงเทพโดยคนกรุงเทพ  แต่วันก่อนตั้งกระทู้เห็นว่าอาจจะมีปัญหาเรื่องของใบอนุญาตมัคคุเทศน์  ก็เข้าใจนะคะเพราะบ้านเราก็ขึ้นชื่อเรื่องหลอกลวงนักท่องเที่ยวเหมือนกัน  เหอๆ พระเจ้า Charlemagne นับเป็นหนึ่งในกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ไม่ใช่แค่ของฝรั่งเศสแต่ในประวัติศาสตร์โลกด้วย  เพราะถ้าพูดถึงกษัตริย์ชาตินักรบที่สามารถขยายประเทศจนกว้างใหญ่กินพื้นที่เกือบทั้งทวีปได้   ก็คงมีเจงกีสข่านของมองโกล  อเล็กซานเดอร์ของกรีก และก็ชาไลมานของฝรั่งเศสนี่ล่ะ จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:14:38

ความคิดเห็นที่ 29 ด้านหน้า(facade)ของโบสถ์ประดับไปด้วยรูปสลักของกษัตริย์และเซนต์ทั้งหลายของฝรั่งเศส  แต่ถ้าพูดถึงองค์ที่ดังที่สุดก็น่าจะเป็น Saint Denis ที่กำลังถือหัวตัวเองอยู่นะคะ  องค์เดียวกับที่เป็นต้นกำเนิดโบสถ์ Basilica of Saint Denis ที่เป็นที่ฝังพระศพของอดีตกษัตริย์ราชินีทั้งหลายนั่นแหละค่ะ   เรื่องมีอยูว่าสมัยศตวรรษที่ 3  เซนต์เดนิสมาเผยแพร่คริสตศาสนาในฝรั่งเศสแล้วก็ถูกจักรวรรด์โรมันประหารด้วยการตัดคอ  (ในสมัยแรกจักรวรรดิโรมันพยายามกีดกันและกวาดล้างคริสตศาสนาอย่างเอาเป็นเอาตายเลยค่ะ  จนตอนหลังถึงได้รับคริสตศาสนามาเป็นศาสนาประจำอณาจักร)  หลังจากนั้นด้วยความอัศจรรย์เซนต์เดนิสก็เดินถือหัวตัวเองเดินไปอีกหกกิโล  แล้วก็ล้มลงตายจริงหลังจากมอบหัวตัวเองให้กับหญิงชาวคริสต์คนนึง  และจุดนั้นก็สร้างเป็นโบสถ์ Basilica of Saint Denis ต่อมา จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:15:03

ความคิดเห็นที่ 30 แล้วก็เข้าไปสู่ภายในมหาวิหารโบสถ์ Notre Dame  (ชื่อเต็มว่า Notre Dame de Paris ซึ่งแปลได้ว่า Our Lady of Paris)  ภายในก็เป็นโบสถ์สไตล์โกธิคค่ะ จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:15:23

ความคิดเห็นที่ 31 ยังคงใช้โคมชานเดอร์เลียแบบเก่าแต่เปลี่ยนเป็นหลอดไฟแทนเทียน จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:15:37

ความคิดเห็นที่ 32 หน้าต่างกุหลาบ Rose Window มีอยู่สองด้าน ขนาบบริเวณแท่นบูชา จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:15:51

ความคิดเห็นที่ 33 แต่ละช่องคือเรื่องราวจากพระคัมภีร์ จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:17:22

ความคิดเห็นที่ 34 ภายในมีรูปสลัก Saint Joan of Arc วีรสตรีฝรั่งเศสที่เชื่อว่าตัวเองได้ยินเสียงจากพระเจ้า เลยนำพากองทัพฝรั่งเศสรบกับอังกฤษเพื่อให้พระเจ้า Charles VII ได้ขึ้นครองราชย์ในที่สุด  หลังจากรบชนะมาหลายทีสุดท้ายก็ถูกฝั่งอังกฤษจับตัวและโดนเผาทั้งเป็น   ต่อมาก็ได้รับการสถาปนาเป็นเซนต์คุ้มครองประเทศฝรั่งเศสค่ะ   ถ้าพูดถึง icon สัญลักษณ์แทนความรักชาติของฝรั่งเศสแล้ว นอกจากกษัตริย์ Napoleon I ก็มีชานดาร์คนี่แหละค่ะ  ที่ชาวฝรั่งเศสมักจะหยิบยกขึ้นมาในงานโฆษณา บทประพันธ์ เป็นแหล่งบันดาลใจต่างๆ จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:17:46

ความคิดเห็นที่ 35 ภายในมีเทียนให้จุดและเป็นการบริจาคเงินให้โบสถ์ Ocean of Faith จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:18:11

ความคิดเห็นที่ 36 เนื่องจากตัวโบสถ์มีขนาดใหญ่  นอกจากโถงกลางที่เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว  ยังมีทางเดินอ้อมไปรอบๆด้วยค่ะ  รายล้อมไปด้วยหน้าต่างสี   ด้านหน้าของหน้าต่างสีมักจะมีรูปสลักของผู้ที่บริจาคเงินร่วมสร้างโบสถ์โดยมักจะอยู่ในกริยาที่กำลังคุกเข่าสวดอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้า  อันนี้เป็นธรรมเนียมที่ชอบทำกันในสมัยนั้นค่ะคือบริจาคเงินให้กับโบสถ์และมีรูปสลักตัวเองแสดงไว้  แม้แต่ในงานภาพเขียนก็มีลักษณะนี้อยู่ด้วย  ในกระทู้ลูฟร์เราไม่ได้หยิบมาพูดถึงแต่มีหลายภาพค่ะที่เป็นอย่างนั้น จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:18:34

ความคิดเห็นที่ 37 แล้วก็จะมีส่วนสวดภาวนาเล็กๆแทรกอยู่ตามระเบียง  ซึ่งที่เหล่านี้จะสงวนไว้สำหรับคนที่อยากมาสวดภาวนาจริงๆ นักท่องเที่ยวอย่างเราถ้าไม่ได้จะเข้าไปประกอบกิจทางศาสนาก็ถ่ายรูปจากภายนอกก็พอค่ะ จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:19:23

ความคิดเห็นที่ 38 บริเวณหน้าแท่นบูชา  เห็นแล้วอยากไปเห็นรูปสลัก The Ecstasy of Saint Teresa ในอิตาลีกับตาตัวเองจริงๆ จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:19:46

ความคิดเห็นที่ 39 แม้แต่ประตูยังสวย  ศิลปะยุคกลางถึงจะไม่ใช่เป็นสไตล์ที่เราชอบที่สุด แต่ก็ชื่นชมในคุณค่าของมันค่ะ จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:20:01

ความคิดเห็นที่ 40 พอออกไปภายนอกก็จะสังเกตว่ามี gargoyles มากมายรอบๆตัวโบสถ์  ซึ่งทำหน้าที่เป็นที่ระบายน้ำค่ะ  ยื่นยาวออกมาน้ำจะได้ไม่ไหลโดนตัวอาคาร   ของบางที่จะเป็นรูปคนบ้างอะไรบ้าง  ของที่โบสถ์นี้จะเป็นรูปสัตว์ประหลาดที่เค้าเชื่อกันว่าจะช่วยขับไล่สิ่งชั่วร้ายออกไป   มีเรื่องเล่ากันว่ามีนายช่างสองคนเกลียดกันอยู่   คนนึงเลยแอบสร้างทางระบายน้ำเป็นหน้าเจ้าคนที่เกลียดแล้วเอาผ้าคลุมไว้  กว่าอีกฝ่ายจะรู้ก็เป็นวันที่เปิดใช้โบสถ์แล้วจะแก้ก็ไม่ทัน   เราก็ลืมเดินวนดูนะคะว่าตกลงมันอยู่ตรงไหนของโบสถ์     คราวนี้ไม่ได้ขึ้นไปด้านบนค่ะ ด้วยเหตุว่าคิวยาวจริงและขยับช้า(แทบไม่ขยับเลยดีกว่าตลอดสิบนาทีที่เราลองยืนดู)  สุดท้ายเราก็เลยข้ามรายการนี้ไปเลยค่ะ เพราะเราขี้เกียจรอ + คิดว่าวิวปารีสจากที่สูงมีให้ชมอีกหลายที่ (ซึ่งจะมีในรีวิวต่อๆไปค่ะ  แบบสูงลิ่วยามกลางคืนจากตึก Tour Montparnasse หรือแบบสูงพอประมาณจากเนินหน้าโบสถ์ Sacre Couer)  ก็แอบเสียดายนิดหน่อยว่าเลยไม่มีรูปยอดฮิต  เป็นกากอยนั่งเท้าคางมองกรุงปารีสเลย  ฮ่าฮ่า จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:20:22

ความคิดเห็นที่ 41 ด้านหลังโบสถ์ Notre Dame เป็นสวนให้นั่งเล่นได้ค่ะ  วางแพลนแล้วมานั่งพักหรือซื้ออาหารมาทานง่ายๆตรงนี้ก็ได้นะคะ  แอบเห็นว่าเป็นจุด wifi ด้วย   ถ้าสังเกตก็จะเห็นว่าด้านหลังของโบสถ์ถูกพยุงด้วย flying buttress รอบๆค่ะ   (ส่วนที่เหมือนรูป L กลับหัวเอียงยื่นออกมา) จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:20:38

ความคิดเห็นที่ 42 แล้วก็วิวจากมุมไกลหน่อย   ถ้าล่องเรือแม่น้ำแซน  เค้าก็จะผ่านจุดนี้ด้วยค่ะ  ได้เห็นโบสถ์ Notre Dame ทั้งขาไปและกลับเลย จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:20:51

ความคิดเห็นที่ 43 ไปเที่ยวยุโรปทีไรมักจะพบเจ้าของพาน้องหมาไฮโซเดินเล่น  บางคนก็ใจดีให้เล่นด้วยหรือว่าจูงน้องหมาให้นิ่งๆเพื่อให้เราถ่ายรูป  (แต่อันนี้แอบถ่ายจากอีกฝั่งของถนนเอา  แหะๆ)   น้องหมาหน้าตาเหมือนตุ๊กตาอีกที่คือญี่ปุ่นค่ะ   เคยเจอแล้วแบบว่า โอ้ นี่หมาจริงหรือตุ๊กตา? จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:21:07

ความคิดเห็นที่ 44 ปิดท้ายด้วยรูปฮาๆ  ในเมื่อที่จอดหายาก ก็เลยต้องขับรถ Smart แล้วจอดแบบนี้  :P ชาวปารีสเซียงขึ้นชื่อว่าขับรถน่ากลัว  เราว่าก็โหดสมคำร่ำลือ  คือไม่ใช่ขับไม่ดีนะคะ  เค้าหยุดให้คนข้ามตามไฟแดงตลอด  บางทีไม่มีก็หยุดให้ และไม่บีบแตรพร่ำเพรื่อด้วย แต่.. เวลาเบรคจะเบรคแบบระยะถึงตัวมาก  แรกๆเราตกใจไปหลายทีนึกว่าเบรคไม่ทันจะมาชนเราแล้ว  - -‘   แล้วก็นิยมรถคันเล็กๆซะเยอะ  คล้ายๆญี่ปุ่นเลย(ดีนะยังไม่นิยมแต่สีขาว)  รถหรูหราก็มีเยอะเหมือนกันค่ะแล้วแต่ย่าน ถ้าย่านชองฯละมีเยอะเลย   แล้วก็ดูรถมักจะมีรอยขูดรอยชนซะเยอะ  ^^’’  ยังคุยกันว่าประกันรถที่นี่แพงมั้ยหว่า สงสัยจะซ่อมกันบาน(หรือไม่ซ่อมก็ไม่รู้เนอะ  เลยเหลือรอยให้เห็นเยอะ)   วันนี้ก็ขอจบรีวิวเท่านี้ก่อนนะคะ  เด๋วไว้หายขี้เกียจแล้วจะมารีวิวต่อนะคะ  ^^’’ รบกวนกดเก็บเข้าคลังกระทู้ให้ทีด้วยนะคะ  ขอบคุณค่ะ จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:22:17

ความคิดเห็นที่ 45 สวยมากครับ  ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:26:38

ความคิดเห็นที่ 46 ตามมาเที่ยวด้วยคน สวยมากๆครับ จากคุณ : bank113 เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 12:33:29

ความคิดเห็นที่ 47 ขอบคุณมากค่ะ ได้เที่ยวที่สวยๆตามไปด้วย แถมได้เกร็ดความรู้ด้วย เดี๋ยวตามไปดูกระทู้เก่านะคะ จากคุณ : teddy bear in the box เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 13:21:49

ความคิดเห็นที่ 48 รูปสวย บรรยากาศดีจัง น่าไปบ้าง :) จากคุณ : สุดแสนเริงร่า เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 14:05:26

ความคิดเห็นที่ 49 ตามมาชมโบสถ์สวยๆ ด้วยค่ะ ช่วงนี้ไม่รู้เป็นไง ชอบศิลปะของโบสถ์คาทอลิกมาก ที่นี่ก็สวยมากๆ นะค๊ะ^^ จากคุณ : hollaneung เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 14:44:18

ความคิดเห็นที่ 50 สวย ๆ น่าสนใจทั้งนั้นเลยครับ จากคุณ : Civict2003 เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 14:56:55

ความคิดเห็นที่ 51 ตามมาชมของสวยๆ งามๆ ครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ จากคุณ : นาหม่อมLFC เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 16:02:46

ความคิดเห็นที่ 52 อากาศดีจังเลยนะครับ แบบนี้คงได้ถ่ายรูปสวยกลับมาแยะ จากคุณ : Biocalm เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 16:12:39

ความคิดเห็นที่ 53 ภาพสวยมากๆครับ ใช่เลนส์อะไรเหรอครับ ^^ จากคุณ : Naruto_kun เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 18:18:46

ความคิดเห็นที่ 54 ภาพสวยจังค่ะ จากคุณ : +G@To+ เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 19:36:45

ความคิดเห็นที่ 55 ข้อมูลละเอียดมากๆ ภาพก็สวยครับ ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : tataweb เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 20:36:27

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณที่พาเที่ยวปารีสนะครบ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 20:36:30

ความคิดเห็นที่ 57 ตามนู๋อายมาเที่ยวต่อค่ะ จากคุณ : Bpearl เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 21:02:38

ความคิดเห็นที่ 58 ขอบคุณสำหรีวิวและข้อมูลดี ๆ ครับ ^^ จากคุณ : Natchaphon เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 54 22:06:15

ความคิดเห็นที่ 59 ตามมาชมรีวิวสวยๆค่ะ   จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 01:27:53

ความคิดเห็นที่ 60 รีวิวของคุณนู๋อายทำให้การเที่ยวปารีสมีรสชาดและความหมายมากขึ้นค่ะ อย่าลืมตอนต่อไปนะคะ จากคุณ : สีดา เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 13:27:42 A:125.25.130.235 X: TicketID:221565

ความคิดเห็นที่ 61 ... ชอบจริงๆค่ะ นู๋อายยย โดยเฉพาะเรื่องราวที่เล่ามา กดเข้าคลังกระทู้ให้แล้วนะคะ ... จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 54 15:13:30

ความคิดเห็นที่ 62 โบสถ์สวยมาก Stainglass Windows ก็สวยสุดๆ ขอบคุณสำหรับรูปสวยๆกับข้อมูลดีๆค่า จากคุณ : ha-meow เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 01:16:44

ความคิดเห็นที่ 63 ขอบคุณทุกความเห็นมากๆนะค้า  ^^  มีแรงทำต่อเลย  อิอิ   เราชอบรีวิวแล้วก็ทิ้งกลางคันเพราะขี้เกียจค่ะ  แหะๆ ช่วงนี้เห็นเพื่อนที่อยู่ที่นั่นถ่ายรูปมา อากาศดีขึ้นอีกค่ะ ถ่ายรูปออกมาฟ้าสวยเลย เราใช้กล้อง Nikon D90 กับเลนส์คิท 18-105mm เดิมๆนะค้า   บางรูปถ้าใช้เลนส์ไวด์ถ่ายคงสวยกว่านี้อีก แต่เราขี้เกียจพก ขี้เกียจเปลี่ยนอ่ะ ^^'' ไว้จะมารีวิวต่อนะค้า  ครั้งหน้าคงเป็นโบสถ์ Sacre Couer กับ Opera Ganier จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 54 15:14:57

ความคิดเห็นที่ 64 รูปสวยมากครับขอบคุณนะครับสำหรับรีวิวดีๆ จากคุณ : ลุงแบกเป้ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 14:23:12

ความคิดเห็นที่ 65 ขอบคุณค่ะ คุณลุงแบกเป้ มาเที่ยวต่อกันที่กระทู้นี้นะคะ ^^ http://www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10572303/E10572303.html จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 54 13:40:17