ความคิดเห็นที่ 1 Day 4(11 April 2011)  9.53 น. ขึ้นรถเมล์สาย 204 จากสถานี Daitokuji ประมาณครึ่งชั่วโมงก็มาถึงสถานี Ginkakuji-michi หลังจากลงรถเมล์แล้ว ก็เดินย้อนหลังไปที่สี่แยกไฟแดงที่ผ่านมาสักครู่ ระหว่างทางมีร้านขายหนังสือ และร้านขนม Kungtalay แวะซื้อขนมมา 1 ชิ้น (160 yen) จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 21:51:22

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วชวนเพื่อนๆซื้อเจ้าลูกกลมๆสีขาว แต่ไม่มีใครสนใจ จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 21:52:21

ความคิดเห็นที่ 3 จากนั้นเดินตรงไป แล้วข้ามถนนไปยังฝั่งที่มีต้นซากุระ  จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 21:52:49

ความคิดเห็นที่ 4 จะเห็นป้ายบอกทางไป วัด Ginkakuji  (Silver Pavilion หรือ วัดเงิน) และ Tetsugaku no michi (Path of Philosophy หรือ เส้นทางสายนักปราชญ์ ) จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 21:53:21

ความคิดเห็นที่ 5 วันนี้ ซากุระกำลังบานเต็มที่ จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 21:53:53

ความคิดเห็นที่ 6 มองไปทางไหนก็สวยไปหมด จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 21:54:51

ความคิดเห็นที่ 7 11.00 น. ภายใต้อุโมงค์ซากุระ พวกเราไม่รู้สึกร้อนเลย จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 21:55:42

ความคิดเห็นที่ 8 ตอนนี้เดินมาถึงทางแยกแล้วค่ะ  ทางซ้ายไปวัด Ginkakuji ทางขวาไป Path of Philosophy ขอบคุณข้อมูลดีๆจากพี่ฟ้า (skybox) จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 21:56:28

ความคิดเห็นที่ 9 บนถนนสองฝั่งระหว่างทางเดินไปวัด Ginkakuji มีร้านค้า ตั้งอยู่ แต่ไม่เยอะเท่าวัดน้ำใส จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 21:57:16

ความคิดเห็นที่ 10 เคยอ่านเจอ ว่าชูครีมร้านนี้อร่อย จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 21:57:54

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าทานในร้าน เค้ามีน้ำชาให้ดื่มฟรีด้วย จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 21:58:29

ความคิดเห็นที่ 12 นอกจากชูครีมแล้วยังมีขนมอย่างอื่นอีกด้วยนะ จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 21:59:11

ความคิดเห็นที่ 13 จากร้านชูครีม มองตรงมาก็เห็นประตูทางเข้าวัด Ginkakuji  แล้วหละ วัดนี้เสียค่าเข้าชม 500 yen แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันจันทร์ แต่นักท่องเที่ยวก็ยังเยอะอยู่ และที่ขาดไม่ได้ คือ เด็กนักเรียน ที่มาเรียนรู้นอกห้องเรียน จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:00:25

ความคิดเห็นที่ 14 จากประตูทางเข้าใหญ่ไปสู่ประตูด้านใน ทางเดินจะถูกขนาบไปด้วยหิน ต้นไผ่ และ camellias เป็นระยะทาง 50 เมตร เรียกว่า ginkaku-ji gaki หรือรั้วของวัด ginkaku-ji ทางเข้าแคบ ๆ สายนี้เปรียบเสมือนเวทีที่เปิดไปสู่สวนด้านใน แม้ว่าจุดประสงค์เดิมจะสร้างไว้เพื่อกันวัดจากโลกภายนอก กล่าวคือเป็นที่ที่ช่วยให้เราตัดขาดจากการยึดติดกับโลก ทางที่ว่านี้จะทำให้พวกเราที่ยังอยู่ในโลกสมัยใหม่อันวุ่นวาย ได้ก้าวไปสู่เส้นทางแห่งดินแดนแห่งธรรมอันบริสุทธิ์ที่อยู่ภายใน จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:01:41

ความคิดเห็นที่ 15 วัด Ginkakuji เป็นวัดย่อยของ Shokoku-ji มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า Jishoji เป็นหนึ่งในสิบเจ็ดอนุสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์ของเกียวโตที่ได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลก จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:02:56

ความคิดเห็นที่ 16 โอ้โห ซากุระจะสวยไปไหนเนี่ยะ งามมากๆเลยครับ ผมไปวัด Nanzenji+Keage Incline มาด้วย แต่หา Philosophy Path ไม่เจอ แถมช่วงที่ไปก็ไม่ใช่เป็นหน้าซากุระ คนน้อยจนไม่รู้จะถามใคร จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:03:14

ความคิดเห็นที่ 17 ระหว่างเดิน เห็นพระพุทธรูปปางประสูติ ไม่รอช้าแวะสรงน้ำพระหน่อยค่ะ ^_^ จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:03:40

ความคิดเห็นที่ 18  สวัสดีค่ะ คุณ Coffee Blended ^_^ ...... มาชมซากุระช่วงที่บานเต็มที่ก็สวยอย่างนี้ค่ะ ...  จาก Nanzenji เดินไป Philosophy Path ไม่ยากเลยค่ะ เดี๋ยวดูแผนที่ของ Kung ดีกว่าเนอะ แล้วไปแก้ตัวใหม่ตอนซากุระบาน รับรองคนเยอะ จนไม่รู้จะถามทางกับใครดี   .................................................................................................................................. ภายในวัดมีมีสวนลานหินสีขาวขนาดใหญ่ตั้งอยู่ เรียกว่า “ท้องทะเลแห่งทรายสีเงิน” (ginshadan) อยู่ถัดจากหินรูปโคนเรียกว่า “ลานชมจันทร์”  ตามตำนานกล่าวว่า “ท้องทะเลแห่งทรายสีเงิน” หมายถึง แสงสะท้อนจากพระจันทร์ และ ลานชมจันทร์คือการนั่งชมจันทร์ที่ขึ้นจากเทือกเขา higashiyama จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:10:44

ความคิดเห็นที่ 19 วัด Ginkakuji สร้างขึ้นสร้างโดยโชกุนโยชิมาสะ อาชิคางะ โดยตั้งใจใช้แผ่นเงินแท้ปิดหุ้มผนังนอกอาคาร(โลหะ) เงิน (Ginkaku)  เพื่อให้คู่กับวัด Kinkakuji ที่สร้างโดยโชกุน โยชิมิทสึ อาชิคางะ ผู้เป็นปู่ แต่ระหว่างนั้นได้เกิดสงครามโอนินขึ้น การก่อสร้างจึงหยุดชะงักลงโดยไม่มีการปิดหุ้มแผ่นเงิน Ginkaku แปลว่า อาคาร (โลหะ) เงิน (Silver Pavilion) จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:12:38

ความคิดเห็นที่ 20 ภายในวัดร่มรื่น มีต้นไม้เยอะ การเดินผ่านเข้ามาในวัดเหมือนได้ฟอกปอดให้สะอาด พร้อมกับชื่นชมวิวเมืองเกียวโต ณ จุดชมวิว จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:13:37

ความคิดเห็นที่ 21 12.15 เดินออกจากวัด Ginkakuji จนถึงทางแยก (ตามความเห็น 8) แล้วเลือกเดินไปทางขวามือ (ของภาพ) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ Path of Philosophy จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:15:14

ความคิดเห็นที่ 22 ตลอดเส้นทางความยาว 2 กิโลเมตร ของ Path of Philosophy มีซากุระให้ชื่นชมถึง 500 ต้น จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:17:18

ความคิดเห็นที่ 23 เดินชมซากุระไปเรื่อย ๆ เวลาตอนนี้เดินช้า เดินตั้งนานยังไม่ถึงครึ่งทางสักที จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:18:18

ความคิดเห็นที่ 24 เพื่อน และรุ่นพี่ ขอแวะร้านนี้ ก็ ตึกสีเขียวมันช่างดึงดูดใจ จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:18:51

ความคิดเห็นที่ 25 ระหว่างทางมีร้าน Yojiya ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ แต่สิ่งที่ดึงดูดใจกลับเป็นตุ๊กตาบนหลังคา http://www.yojiya.co.jp/english/index.html แก้ไขเมื่อ 08 พ.ค. 54 22:20:04 จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:19:44

ความคิดเห็นที่ 26 ทิวลิปสีแดงสดใส ริมคลอง ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายคนให้เดินเข้ามา รวมถึง Kungtalay ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะนี่บ่ายโมงครึ่งแล้ว หลายคนบ่นหิว จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:21:08

ความคิดเห็นที่ 27 ในเมนูมี Ramen ให้เลือกแต่เพียงอย่างเดียว จะแตกต่างกันก็ตรงที่มีไข่กับลูกชิ้นแผ่นบางๆ ถามว่าอร่อยมั้ย ? ทุกคนบอกว่า “ธรรมดา” จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:21:44

ความคิดเห็นที่ 28 ไม่ว่าจะเป็น Ramen หรือขนม ราคาไม่แตกต่างกัน จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:22:51

ความคิดเห็นที่ 29 จุดขาวๆที่เห็นในภาพ มิใช่ฝุ่นละออง แต่เป็นกลีบดอกซากุระที่กำลังล่วงหล่น บรรยากาศโรแมนติก จนเราสองคนทนไม่ไหวต้องเดินเกี่ยวก้อยกัน ไม่ต้องกด Shutter แต่ภาพนี้ประทับลงในใจ นึกทีไรสุขใจทุกที จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:24:07

ความคิดเห็นที่ 30 มิใช่มาเป็นคู่แล้วจะสุขใจ มาเดี่ยวก็สุขได้ ยืนยันได้ด้วยภาพ คุณลุงแสนสุข นอนบนเก้าอี้ไม้ใต้ต้นซากุระ จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:25:12

ความคิดเห็นที่ 31 1 กิโลแรกผ่านไป จากบ้านริมสองฝั่งคลอง คราวนี้เริ่มเห็นป่าเยอะมากขึ้น จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:25:52

ความคิดเห็นที่ 32 เห็นเจ้านี่แสดงว่าใกล้ถึงปลายทางของ Path of Philosophy แล้ว จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:26:26

ความคิดเห็นที่ 33 2 กิโลเมตร แต่พวกเราใช้เวลาเดิน 2 ชั่วโมงครึ่ง (รวมทานข้าวครึ่งชั่วโมง) จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:27:12

ความคิดเห็นที่ 34 จุดหมายต่อไป คือ วัด Nanzenji จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:28:07

ความคิดเห็นที่ 35 จากแผนที่ หมายเลข 1 คือ ปลายทางของ Path of Philosophy จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:28:46

ความคิดเห็นที่ 36 เมื่อเดินมาจนถึงปลายทางของ Path of Philosophy ให้เลี้ยวขวา จากนั้นเดินตรงมาขึ้นมา จนกระทั่งเจอทางแยกจากนั้นให้เลี้ยวซ้าย (หมายเลข 2 ตามความเห็น 35) ก่อนถึงทางแยกทางซ้ายมือมีร้านอาหาร แต่ตอนนี้ทุกคนอิ่มแล้วค่ะ จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:30:19

ความคิดเห็นที่ 37 ระหว่างทางผ่านวัด Eikando แต่ Kungtalay ขอผ่านค่ะ เก็บไว้มาดูตอนใบไม้เปลี่ยนสีดีกว่า จากนั้นเดินมาเรื่อยๆ ผ่านคูน้ำเล็กๆ (หมายเลข 3 ตามความเห็น 35) จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:31:22

ความคิดเห็นที่ 38 เห็นซากุระที่ล่วงแล้วเสียดาย เพื่อนสะกิดถาม “kung ซากุระพวกนี้ถ้าเอาไปทำขนม จะได้ขนมเยอะมั้ย “ จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:32:42

ความคิดเห็นที่ 39 ผ่านไป 20 นาที พวกเราก็เดินมาถึงวัด Nanzenji หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า Zuiryusan Nanzen-ji ถือว่าเป็นวัดเซนที่สำคัญและมีชื่อเสียงของโลก เป็นวัดกำเนิดของพุทธศาสนานิกายเซนสาย rinzai ประกอบด้วยวัดย่อย ๆ 12 แห่ง ซึ่งมีน้อยแห่งที่จะเปิดให้ประชาชนเข้าชม ภายในวัดมีสวนมากมาย  ที่มีเพียง 3 แห่งเท่านั้นที่เปิดให้ชม  และมีวัดย่อยสองแห่งที่มีบริการอาหารกลางวันเป็นมังสวิรัติ จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:36:58

ความคิดเห็นที่ 40 จุดแรกที่พวกเราแวะชม คือ Sanmon (Main Gate) ประตูที่มีความสูง 22 เมตร เป็นหนึ่งในประตูสำคัญ 3 แห่งของเกียวโต (อีกสองประตูคือ sanmon gate ที่วัด chi-on-in และประตู goedo-mon ที่วัด higashi hongan-ji) สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานถึงผู้เสียชีวิตในสงครามปราสาทโอซาก้า จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:38:26

ความคิดเห็นที่ 41 ขณะไปเที่ยว Kungtalay ได้แต่ยืนถ่ายรูปที่ชั้นล่าง โดยไม่ได้ขึ้นไปที่ชั้นบน แต่ถ้าใครต้องการขึ้นไปข้างบนเพื่อชมวิวเมืองเกียวโต จะต้องเสียค่าเข้าชม 500 yen (เปิด 9.00-17.00 น.) โดยในชั้นบนนี้ยังมีพระพุทธรูป  Ieyasu, Todo Takatora ,พระสาวก 16 พระองค์ และพระโพธิสัตว์ 2 พระองค์ และถ้ามองขึ้นไปเหนือศีรษะ จะเห็นภาพวาดผู้หญิงสาวและนกวายุภักษ์ หลังจากกลับจากญี่ปุ่นมาอ่านข้อมูลวัด Nanzenji พบว่า ในชั้นล่างนี้ เมื่อเราเดินผ่านประตู จะสังเกตเห็นสติ๊กเกอร์บนผนัง ที่บรรดาผู้มากราบไหว้ปิดคำอธิษฐานไว้ให้เทพได้เห็น เชื่อกันว่ายิ่งติดสติ๊กเกอร์สูงเท่าไหร่ เทพเจ้าก็จะเห็นได้ชัดเจนขึ้น เพื่อช่วยให้คนสามารถติดสติ๊กเกอร์ได้สูง ๆ ก็จะมีไม้ยาว ๆ ไว้ช่วยติด ใครไปทีหลังช่วยฝากดูหน่อยน๊า จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:40:27

ความคิดเห็นที่ 42 บ่ายสามครึ่ง ขณะที่สอบถามข้อมูลก่อนเข้าชม Hojo (ค่าเข้าชม 500 yen) “ รุ่นพี่บอก ไม่ต้องหรอก Kung วันนี้เราไปดูสวนมาแล้ว พี่ว่าสวนคงไม่ได้แตกต่างกันหรอก เราเข้าไปดูก็คงเหมือนๆกัน”  ได้ยินดังนั้น พวกเราเลยตัดสินใจไม่เข้าชม Hojo ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องสวนหินรูปเสือและลูกเสือข้ามน้ำ และภาพวาดบนบานประตูเลื่อน (fusuma) รูปเหมือนจริงของเสือบนใบไม้ทองคำ จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:42:10

ความคิดเห็นที่ 43 Hojo เป็นกุฏิเจ้าอาวาสในสมัยก่อนและเป็นศาลาหลักของวัด ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติ ภายในประกอบด้วยห้องโถงใหญ่ (อาคารที่ได้รับบริจาคจากพระราชวังเกียวโตในสมัยศตวรรษที่สิบหก) และห้องโถงเล็ก (สร้างขึ้นในราวทศวรรษ 1630)  รอบ ๆ hojo มีสวนญี่ปุ่นที่ต่างกันสามชนิด จากภาพ คือ บริเวณรอบๆ Hojo จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:43:26

ความคิดเห็นที่ 44 สำหรับคนที่ชอบเต้าหู้ ที่ Nanzenji มีชื่อเสียงในเรื่อง yudofu (อาหารจานร้อนที่มีเต้าหู้ต้มในน้ำซุป) กล่าวกันว่าภัตตาคารตามรายทางที่ไปสู่ nanzenji เป็นแหล่งกำเนิด yudofu   ข้อมูลเพิ่มเติมวัด Nanzenji : http://nanzen.com/english/ http://zen.rinnou.net/head_temples/03nanzen.html http://www.japan-guide.com/e/e3905.html http://www.wa-pedia.com/japan-guide/nanzenji_temple_kyoto.shtml http://kyoto.asanoxn.com/places/higashiyama_nth/nanzenji.htm http://www.sacred-destinations.com/japan/kyoto-nanzenji.htm http://www.yamasa.org/japan/english/destinations/kyoto/nanzenji.html   แก้ไขเมื่อ 08 พ.ค. 54 22:46:02 จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:45:19

ความคิดเห็นที่ 45 Kungtalay เคยอ่านเจอตามหนังสือว่า ถ้ามาวัดนี้ต้องมาดูท่อส่งน้ำทะเลสาบ Biwa (Lake Biwa aquaduct) จึงพยายามมองหาว่าอยู่ตรงไหน เดินๆอยู่พอได้ยินเสียงน้ำไหลก็เดินตามเสียงไปเลยค่ะ   ท่อส่งน้ำจากทะเลสาบ Biwa หรือ Suirokaku เป็นท่อส่งน้ำทำด้วยอิฐมีลักษณะเหมือนสมัยโรมัน ไหลผ่านพื้นล่างของวัด สร้างในสมัย meiji  ในขณะที่ทำการก่อสร้างได้มีทั้งการสนับสนุนและการต่อต้าน ...พื้นที่บริเวณใจกลางเมืองรอบ ๆ วัด nanzen-ji เป็นสถานที่ก่อสร้างโครงการวิศวกรรมโยธาขนาดใหญ่ คือการสร้าง Lake Biwa Canal เพื่อนำน้ำจากทะเลสาบ biwa ในจังหวัด otsu มาสู่เมืองเกียวโต  ในยุคนั้น การขุดอุโมงค์ลอดภูเขาเพื่อการสร้างคลองส่งน้ำเป็นงานที่ยากและท้าทายมาก แต่ประชาชนชาวเกียวโตต่างมุ่งมั่นที่จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจเมืองเกียวโต ในที่สุดคลองส่งน้ำก็เสร็จสิ้นและกลายเป็นโครงการทางวิศวกรรมโยธาสมัยใหม่แห่งแรกในญี่ปุ่น จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:56:29

ความคิดเห็นที่ 46 ระหว่างที่ยืนชมท่อส่งน้ำ ฝนก็ค่อยๆตกลงมา เซ็งเลย แต่ไม่เป็นไร ถือสะว่าได้มีโอกาสใช้ร่มที่พกติดตัวมา พวกเราไม่ย่อท้อค่ะ ถึงฝนจะตกอย่างไรเราก็จะไปชม Keage Incline หรือที่ใครๆมักจะเรียกกันว่าทางรถไฟสายเก่า โดยทางที่เราเลือกเดินไปนั้น ถ้าหันหลังให้วัด Nanzenji จะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ เพราะเส้นทางสายนี้ระหว่างทางจะผ่านวัด Konchi-in จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:59:31

ความคิดเห็นที่ 47 ระหว่างเดิน ฝนหยุดตกแล้ว ดีใจจัง จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:01:56

ความคิดเห็นที่ 48 อ้าว เจอรั้ว ต้นไม้อีกแล้ว ... จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:02:32

ความคิดเห็นที่ 49 ทางเส้นนี้คนค่อนข้างน้อย แต่ก็ไม่เปลี่ยวจนน่ากลัว จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:03:10

ความคิดเห็นที่ 50 กำแพงบ้านหลังหนึ่ง จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:04:08

ความคิดเห็นที่ 51 ประมาณสิบกว่านาที ก็เดินมาถึง Keage Incline จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:04:58

ความคิดเห็นที่ 52 Keage Incline เป็นอีกจุดหนึ่งที่คนนิยมมาดูซากุระ การจะมาเที่ยวที่นี่วิธีที่ง่ายที่สุด คือ นั่ง Subway Tozai Line ลงที่สถานี Keage จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:05:42

ความคิดเห็นที่ 53 ในอดีตที่นี่เป็นทางรถไฟเพื่อเชื่อมแม่น้ำต่างระดับ เรียกว่า Canal Lift เพื่อนำน้ำจากทะเลสาบ Biwa มาสู่เมืองเกียวโต จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:06:29

ความคิดเห็นที่ 54 โรงไฟฟ้าพลังน้ำถูกสร้างขึ้นเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าให้กับทางรถไฟเชื่อมแม่น้ำนี้ด้วย และเป็นโรงไฟฟ้าชนิดนี้แห่งแรกในญี่ปุ่น ในยุคนั้น ... จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:07:16

ความคิดเห็นที่ 55 เมื่อคลองส่งน้ำเสร็จสิ้น มันสามารถนำน้ำมาสู่เมืองเกียวโตถึงวันละ 2 ล้านตัน  จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:07:51

ความคิดเห็นที่ 56 ตราบจนปี 2008 ทางน้ำไม่ได้ใช้เพื่อการสร้างกระแสไฟฟ้าอีก แต่ใช้เป็นน้ำประปา น้ำเพื่อการดับเพลิง และใช้เพื่อจุดประสงค์ในเรื่องการชลประทาน ...... จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:08:45

ความคิดเห็นที่ 57 หลังจากย้ายเมืองหลวงจากเกียวโต ไปโตเกียว ก็ทำให้เกิดการพัฒนาด้านต่างๆขึ้น ที่เห็นเด่นชัด คือ การสร้าง Lake Biwa Canal นี่เอง จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:10:22

ความคิดเห็นที่ 58 เดินชมซากุระมาจะเห็นว่าทางที่เดินนั้นค่อยๆต่ำลง เพราะช่วงแรกที่ทางจะสูงกว่าถนน แต่ยิ่งเดินใกล้คลองเท่าไหร่ทางก็จะค่อยต่ำลงจนท้ายสุดต่ำกว่าถนน  จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:12:23

ความคิดเห็นที่ 59 ตอนนี้พวกเราเดินมาใกล้ๆบริเวณ Lake Biwa Canal Museum of Kyoto แล้ว จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:13:14

ความคิดเห็นที่ 60 Lake Biwa Canal Museum of Kyoto เปิดให้เข้าชมครั้งแรกในปี 1989 เพื่อ เฉลิมฉลองครบรอบหนึ่งร้อยปีของการก่อสร้าง Lake Biwa Canal   พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดให้เข้าชมฟรี แต่วันนี้เป็นวันจันทร์พิพิธภัณฑ์ปิดค่ะ ....................................................................................................................... ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.pref.kyoto.jp/visitkyoto/en/theme/sites/traditional_buil/lake_biwa/ http://www.rohm.com/rohm-saijiki/nanzenji/11_recomend/recommend01.html http://www.japanvisitor.com/index.php?cID=359&pID=956 http://www.kyoto-u.ac.jp/en/profile/intro/photo/list/biwa.htm http://www.ndl.go.jp/scenery/kansai/e/column/kyoto_incline_and_lake_biwa_canal.html http://www.terra-et-aqua.com/dmdocuments/Terra-et-Aqua_nr84_01.pdf  http://en.wikipedia.org/wiki/Lake_Biwa_Canal แก้ไขเมื่อ 08 พ.ค. 54 23:16:51 จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:15:39

ความคิดเห็นที่ 61 Route of the Lake BIWA Canal in KEAGE จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:18:27

ความคิดเห็นที่ 62 แผนที่เส้นทางการเดินเท้าจาก Lake Biwa Museum of Kyoto ผ่าน Okazaki Canal ผ่านทางเข้า Heian Shrine สิ้นสุดที่ Shirakawa Canal จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:20:45

ความคิดเห็นที่ 63 พวกเราเดินจาก Lake Biwa Canal Museum of Kyoto ไปที่คลอง Okazaki (ดูความเห็น ที่ 62 เส้นประสีแดง จากเบอร์ 1 ถึงเบอร์ 2) จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:24:08

ความคิดเห็นที่ 64 คลอง Okazaki มีบริการทัวร์เรือ ค่าบริการรอบละ 1,000 yen (ไป-กลับ) หลายคนอยากนั่งเรือ แต่ต้องผิดหวัง เพราะเรือรอบสุดท้าย 16.30 น. กำลังวิ่งกลับมาที่ท่าเรือ ..........................................................................................................................    ข้อมูลเพิ่มเติม   http://ryokan-kyoto-review.com/?p=410   แก้ไขเมื่อ 08 พ.ค. 54 23:27:02 จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:25:46

ความคิดเห็นที่ 65 น้ำที่นี่ใสจริงๆ จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:26:42

ความคิดเห็นที่ 66 “สวยจัง” ทุกคนพูดเมื่อเห็นเจ้าโทริสีแดงของวัด Heian   แล้วความรู้สึกสดใสก็เกิดขึ้น  จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:27:57

ความคิดเห็นที่ 67 ตอนนี้อยากมีเก้าอี้เล็กๆ มานั่งบนริมสะพานมองภาพความงามของซากุระริมคลอง  Okazaki เสียจริง จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:28:43

ความคิดเห็นที่ 68 นี่เพิ่ง 17.19 น. เวลายังเหลือเยอะ เดินเล่นริมคลอง Shirakawa หน่อยดีกว่า ตอนนี้อากาศเริ่มเย็นแล้ว เพราะมีลมพัด   Route นี้ ขอบคุณ พี่ฟ้า (Skybox) อีกครั้ง  (เส้นทางเดิน จากตำแหน่งที่ 2 ถึง 3 จากความเห็น 62) จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:32:42

ความคิดเห็นที่ 69 ระหว่างเดินผ่านบ้านหลังหนึ่ง ทุกคนชอบใจบอกว่า สวยดี ... จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:33:20

ความคิดเห็นที่ 70 ช่วงแรกที่เดินนี้ใช้เวลาประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นทางเดินจะไม่ได้เลียบคลองแล้ว ระหว่างทางผ่านพิพิธภัณฑ์ ซึ่งถ้ามองผ่านๆจะไม่รู้เลย เพราะพิพิธภัณฑ์นี้เป็นบ้านไม้ค่ะ จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:34:06

ความคิดเห็นที่ 71 เอ...ไม่รู้เป็นอะไร แต่ตั้งอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:34:51

ความคิดเห็นที่ 72 ซากุระบานสะพรั่งเต็มไปหมด สวยมากๆค่ะ จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:35:09

ความคิดเห็นที่ 73 เมื่อเดินมาถึงถนนใหญ่  จากนั้นก็ข้ามถนนไปอีกฝั่งหนึ่งเพื่อที่จะเดินเล่นริมคลอง Shirakawa ต่อ ตอนนี้คุณสามีเริ่มบ่นแล้ว เพราะเธอมีอาการจาม หน้าตาซีด เพราะลมแรงนั่นเอง (เส้นทางเดิน จากตำแหน่งที่ 3 ถึง 4 จากความเห็น 62) จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:35:46

ความคิดเห็นที่ 74 สวัสดีตอนดึกค่ะ คุณสาวหน้าใส ^_^ จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:37:11

ความคิดเห็นที่ 75 เส้นทางเส้นนี้เมื่อเดินไปเรื่อยๆสามารถเดินไปที่วัด Chion-in ได้ จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:37:59

ความคิดเห็นที่ 76 แม้ว่าวันก่อนจะเคยมาเดินเล่นที่ถนนสายนี้ ก็ไม่ทำให้รู้สึกเบื่อ จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:38:46

ความคิดเห็นที่ 77 หลังจากเดินจนถึงป้ายรถเมล์แล้ว ทุกคนก็เข้าห้องน้ำที่ป้ายรถเมล์ ตอนแรกกะว่าจะเดินริมคลอง Shirakawa ไปจนถึง Gion แต่สามีบอกไม่ไหวแล้ว Kung จึงตัดสินใจนั่ง Taxi ไปที่ร้าน Ganko ที่เราได้จองโต๊ะไว้ เมื่อวาน จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:39:46

ความคิดเห็นที่ 78 Kungtalay มาร้าน Ganko Takasegawa Nijoen เพราะอ่านเจอว่าร้านนี้มีสวนสวย ถ้าใครไม่ได้ไปทานอาหารจะเข้าไปดูสวยเฉยๆ ก็ได้ ที่สำคัญฟรีค่ะ นอกจากนี้บางวันยังมีการแสดง Maiko Dance ให้ดูฟรีอีกด้วย ---------------------------------------------------------------------------------- ข้อมูลเพิ่มเติม : http://www.gankofood.co.jp/en/ http://kyotosweetgourmet.blogspot.com/2008/09/ganko-takasegawa-nijo-en.html http://www.kyotomaiko.com/event/ganko.html   http://www.blueapocalypse.com/2010/08/japan-16-kyoto.html แก้ไขเมื่อ 08 พ.ค. 54 23:43:04 จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:41:58

ความคิดเห็นที่ 79 การเดินทางมาร้าน Ganko : นั่ง Subway Tozai Line ลงที่สถานี Kyoto Shiyakusho-mae (T12) Exit B2 (ตำแหน่งร้าน Ganko คือ บริเวณสีม่วง ตามความเห็น 62) แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 54 12:06:44 จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:44:07

ความคิดเห็นที่ 80 Kungtalay เลือกมาสาขานี้ เพราะเห็นว่ามีสวนสวยๆให้ชมด้วย จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:44:47

ความคิดเห็นที่ 81 มาเก็บข้อมูลค่ะ ^^ อยากไปบ้างจัง ช่วงที่ซากุระบานสะพรั่งแบบนี้   ขอบคุณสำหรับกระทู้และภาพสวยๆนะคะ จากคุณ : #^_^# นู๋อายยย เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:47:21

ความคิดเห็นที่ 82 ร้านนี้มีลูกค้าเยอะ มาทีไรก็เห็นบัสคันใหญ่ๆมาจอดที่หน้าร้าน ... Kungtalay มาถึงร้านตอนหกโมงเย็น แต่เนื่องจากจองโต๊ะไว้ตอนหนึ่งทุ่ม จึงนั่งรออยู่แถวๆนั้น แต่ก็รอไม่นาน จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:47:32

ความคิดเห็นที่ 83  สวัสดีค่ะ คุณ นู๋อายยย ... จำได้ว่าเคยอ่านกระทู้คุณนู๋อายยย สอบถามข้อมูลไปญึ่ปุ่น ^_^ ตามสบายเลยนะคะ ... ขอบคุณที่แวะเข้ามาชมค่ะ ............................................................................................................................ ร้านนี้ราคาอาหารไม่แพง เพราะยังไม่รวมภาษี  และ service charge อีก10%  แต่ถ้ารวมแล้วก็ไม่ถูก ไม่เชื่อลองดีดเครื่องคิดเลขดู... แก้ไขเมื่อ 08 พ.ค. 54 23:52:10 จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:51:33

ความคิดเห็นที่ 84 แอบเห็นผักชุบแป้งทอดโต๊ะข้างๆ น่ากิน เลยสั่งมา 1 ชุด 714 yen (ยังไม่รวม Service ) จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 23:53:05