ความคิดเห็นที่ 1 รอติดขอบจอเลยค่ะ จากคุณ : Pinky Blood เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 21:40:08

ความคิดเห็นที่ 2 มีคนเค้าบอกให้ทำรูปมาลงซักที หยุด 3 วันเลยต้องมานั่งปิ้งย่างรูปจนได้กระทู้นี้หล่ะครับ ตอนนี้จะเป็นตอนที่หลังจากนอนค้างที่ Everest Base Camp ได้เห็นยอดเขาที่สูงที่สุดในโลกอย่างเต็มตา 1 คืนเต็มๆ จากนั้นก็ต้องเดินทางกลับ แต่เรากลับคนละทางกับขามาครับเลยได้แวะวัดที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของธิเบตด้วย คอนเซปท์ของตอนนี้จะเป็นชื่อที่ว่า "ใต้แสงตะวันเดียวกัน" ครับ ในความเห็นของผม . . . ถ้าพูดถึง "พระอาทิตย์" ในทางวิทยาศาสตร์ คือ พระอาทิตย์แหล่งพลังงานที่ยิ่งใหญ่ที่ให้ทั้งความร้อน แสงสว่าง ฯลฯ ต่างๆ นานา แต่ส่วนตัวผมเชื่อว่า พระอาทิตย์ให้ชีวิต ให้พลังงาน ทำลายความเหน็บหนาว สร้างความอบอุ่น สร้างอาชีพ ทำให้เราพัฒนาตัวเอง อารยธรรมและสิ่งต่างๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพของคนเรา และที่สำคัญ แสงของมันทำให้เราได้เห็นรอยยิ้มของคน และเห็นโลกที่สวยงามนะครับ ว่ามั้ยครับ ?? แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 54 21:50:11 จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 21:46:58

ความคิดเห็นที่ 3 _________________________________________________________________ ลายแทงทริปนี้ครับ ... 1. TG flight  3 ชม. -------> กรุงเทพฯ – เฉินตู 2. Air China 2 ชม. -------> เฉินตู – ลาซา ธิเบต 3. Tibet Train 1 วัน-------> ลาซา ธิเบต – ซินหนิง 4. Tibet Train 1 วัน -------> ซินหนิง – เฉินตู 5. TG flight 3 ชม.  -------> ฉินตู - กรุงเทพฯ ระยะทางโดยประมาณ: 6990 กม. _________________________________________________________________ " ยิ่งฉันเดินทางไกลห่างจากบ้านเท่าไหร่ เหมือนฉันยิ่งได้เดินเข้าไปใกล้ในใจตัวเองทุกที " จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 21:51:45

ความคิดเห็นที่ 4 ย้อนหลังความเก่ากันได้ที่กระทู้เหล่านี้ครับ . . . ตอนที่ 1 Crying out HURT in the center of the world ++ Day 0 http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2009/12/E8625397/E8625397.html ตอนที่ 2 Crying out HURT in the center of the world ++ Day 1 - 4 http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2009/12/E8633812/E8633812.html ตอนที่ 3 Crying out HURT in the center of the world ++ Day 5 - 7 http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2010/11/E9967625/E9967625.html ตอนที่ 4 Crying out HURT in the center of the world ++ Day 5 - 7 part 2 http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2010/12/E9991831/E9991831.html ตอนที่ 5 Crying out HURT in the center of the world ++ Day 8 - 10 http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2011/02/E10280723/E10280723.html จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 21:56:46

ความคิดเห็นที่ 5 หลังจากเมื่อวานที่เรามา เจอทั้งหมอกหนา ละอองน้ำในบรรยากาศ อากาศหนาวจัด . ..  แต่วันนี้ร้อนมากครับ . ..  แสงแดด สาดลงมาที่หัวเราเลยครับ รู้สึกว่าเข้าใกล้พระอาทิตย์ที่สุดในชีวิตก็ครั้งนี้  ... ก็ยังไม่พลาดครับที่จะลืมนำครีมกันแดด SPF หนาๆ สาดมันเข้าไป ออกเดินทางด้วยรถคันเดิมครับ . .. อึดและถึกมากเมื่อนึกถึงสภาพถนนที่ลุยกันมาเมื่อวาน จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 22:00:44

ความคิดเห็นที่ 6 ธงมนตรา ครับ . ..  ทุกครั้งที่ลมพัดผ่านหนึ่งครั้งก็เท่ากับการสวดมนต์ขอพรหนึ่งครั้ง คนที่นับถือ(รวมทั้งผม) มักจะนำริ้วธงไปผูกต่อๆ กันไว้ตามสถานที่ที่นับถือต่างๆ เท่าที่ผ่านตาก็จะมีตามวัด สถูปเจดีย์ ทางผ่านรถต่างๆ แม่้ำน้ำและภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวท้องถิ่นนับถือครับ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 22:03:46

ความคิดเห็นที่ 7 ชีวิตของคนแต่ละเมืองเริ่มต้นแต่ละวันไม่เท่ากัน อย่างลาสเวกัส ชีวิตกว่าจะเริ่มต้นก็ 4 โมงเย็น แล้วไปจบที่รุ่งสาง อย่างกรุงเทพฯ เราก็อยู่กัน 24 ชัวโมง ขึ้นอยู่กับว่า ใครจะตอกบัตรเริ่มต้นวัฎจักรชีวิตในกะเช้า สาย บ่าย หรือเย็น ส่วนที่นี่ที่ธิเบต ด้วยความที่แสงไฟฟ้ามีจำกัด แสงอาทิตย์จึงเป็นตัวกำหนดวิถีชีวิตและการดำเนินชีวิตของคนที่นี่ . . . เค้าถึงว่ามนุษย์ชอบเอาชนะธรรมชาติด้วยการทำตัวให้ผิดแผกแตกต่างไปตามทางที่ควรจะเป็น นั่นเป็นเพราะเรารู้จักคิด สังเกต และทดลองหรือเปล่านะ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 22:09:11

ความคิดเห็นที่ 8 อาการเวิ่นเว้อเหวอเขิ่วเบิ้ว ความคิดต่างๆ ที่ตีกันในหัวก็ถูกยุติลงโดยที่ยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะถึงเมืองที่เราต้องแวะทานมื้อเที่ยงแล้วหล่ะครับ (เช้าไม่ได้ทานนะ อาหารที่นี่ก็ไม่ใคร่ถูกปาก จะให้กินพี่จามรีก็ไม่เอานะ เอาเป็นใช้แรงเยอะๆ ดีจะได้ผอมๆ ดีกว่านะ เย้ เย้ ) ในที่สุดผมก็กลับเข้าวัฏจักรชีวิต เมื่อเวลาเที่ยง บางทีเราก็เอาชนะธรรมชาติด้วยการลดความอ้วนไม่ได้นะ เพราะหิวเกิ๊นนนนน ครับ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 22:14:01

ความคิดเห็นที่ 9 ร้านที่เราเข้าไปทานครับ . . . ศิลปะธิเบตจริง แต่ถูกสร้างใหม่ หาใช่ ของเก่า ดั้งเดิม แต่อย่างใด ในร้านมีคนท้องถิ่นนั่งจับกลุ่มเมาท์มอย เหมือนที่ปะทะสังสรรค์ประจำเมืองเล็กๆ ที่พบเห็นได้ทั่วไปครับ จะมีแค่กลุ่มเราที่เป้นนักท่องเที่ยวกระเหรี่ยง ทั้งกระเหรี่ยงเยอรมัน กระเหรี่ยงยุโรป(ชาติอะไรไม่รู้ ฮา) แล้วก็กระเหรี่ยงไทยอย่างผมหล่ะครับ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 22:18:43

ความคิดเห็นที่ 10 คำบรรยาย . . . กินกันตาย ครับ ----- ฟิ้ววววววว . . . . ไม่มีนิยามครับว่ามันคืออะไร นาจะเป็นซุปอะไรซักอย่าง คล้ายๆ ไข่น้ำ ใส่ผักมั้ง แต่ก็โอเคอ่ะ ดีกว่าต้องทานเนื้อสัตว์อะไรที่ไม่คุ้นเคยนะ  ^^ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 22:21:26

ความคิดเห็นที่ 11 การเดินทางกลับกรุงลาซา เมืองหลวงของทิเบต จาก Everest Base Camp ต้องใช้เวลาเดินทาง 2 วันครับ . . . ตลอดวันเรานั่งซะจนเหน็บรับประทานบั้นท้าย สะโพกบวมเป็นเจนนิเฟอร์ โลเปซกันเลยทีเดียว ทางเต็มไปด้วยหินขรุขระ ก้นก็กระแทกกับเบาะ หัวเหม่งก็กระแทกกับเพดาน ถ้าช่วงนั่งหลับก็โขกกับกระจกรกครับ หัวบวมเลยยยย แง๊ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 22:26:51

ความคิดเห็นที่ 12 ถึงเมืองเดิม รร เดิมที่เราพักแล้วหล่ะครับ . . . เลยไม่มีอะไรมาก นอกจากเดินดูรอบๆ เมืองเล็กมากกกก ขนาดเค้าว่าใหญ่แล้วนะ ก็ยังรกร้างอยู่เลยแฮะ - - - - - - - - - - - - จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 22:28:54

ความคิดเห็นที่ 13 ... จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 22:34:06

ความคิดเห็นที่ 14 ลานจอดรถ รร ครับ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 22:34:56

ความคิดเห็นที่ 15 ศูนย์อาหาร ห้าง ร้านค้า ที่ดูร้างมากกกก หรือเค้าเริ่มทำมาหากินกันตอนกลางคืนกันแน่นะ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 22:37:43

ความคิดเห็นที่ 16 . แก้ไขครับ แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 54 22:39:52 จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 22:38:51

ความคิดเห็นที่ 17 ตึกนี้หรูหราที่สุดในเมืองแล้วครับ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 22:41:27

ความคิดเห็นที่ 18 จะสุกทั่วตัวแล้วครับ 1 ทุ่มพระอาทิย์ยังไม่มีทีท่าว่าจะตกดินเลย เอากับเค้าสิ่ 555 จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 22:43:19

ความคิดเห็นที่ 19 Shigatse เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่สองรองจากลาซา มีประชากรราวๆ 80,000 คน (ในความเห็นก็ถือว่าเล็กอยู่ดีเมื่อเทียบกับเมืองอื่นๆ ในทวีปเอเชีย) อาจจะเป็นเพราะภูมิประเทศที่ไม่เอื้อต่อการดำรงชีวิตด้วยมั้งครับ ฝุ่นเยอะ แห้งแล้ง สินค้าอุปโภค บริโภคต่างๆ นำเข้าจากจีน แต่อย่าไปคิดว่าลำบากนะครับ ตั้งแต่จีนเข้ามาก็มาสร้างซูเปอร์มาร์เกต ถนน สาธารณูปโภคให้ใหม่หมดเลย (ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดีเนอะ ไม่ขอวิจารณ์แล้วกันครับ 55 เดี๋ยวงานจะเข้านะ) จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 22:54:16

ความคิดเห็นที่ 20 ห่างหายไปนาน มาตามดูต่อครับ รูปสดใสสุดสวยจริงๆ จากคุณ : boy next door เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:05:57

ความคิดเห็นที่ 21 เมืองนี้สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 3,840 เมตร (ในขณะที่บางกอกของเราน่าจะสูงจากระดับน้ำทะเล ไม่น่าเกิน 2 เมตรครับ แบ่งให้กรุงเทพฯ บ้างซัก 10 เมตร ก็ดีนะ น้ำจะได้ไม่ท่วมง่าย อะไรง่าย ) เมือง Shigatse เดิมชื่ Samdruptse น่าจะมีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 19 แล้วนะครับ ในยุครุ่งเรืองของ Tashilhunpo Monastery ในดิกชันนารี Monastery แปลว่า วัด ครับ แต่จากที่ผมได้ชมด้วยตาตัวเองและสอบถามจากไกด์ พบว่า Monastery น่าจะต่างจากวัดทั่วไปตรงที่มีส่วนของอารามที่จะมีพระผู้ศึกษษธรรมมาอาศัยพักนอนภายในอาณาบริเวณวัดด้วยครับ คล้ายๆ เป็นโรงเรียนศาสนาไปในตัว คนธิเบตเค้าก็อยากให้ลูกหลานเป็นพระกันนะครับ ลูกเด็กเล็กแดงก็นำมาเรียนกันมากมายเลยครับ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:06:29

ความคิดเห็นที่ 22 boy next door จำลอกอินนี้ได้ครับ . .. 55  ทั้งๆ ที่ไม่รู้จักกัน แต่เหมือนแบบเออนะ จำได้ว่าเราเคยคุย ทักทายกันในกระทู้ ... ผมเพิ่งรีวิวไต้หวัน 4 ตอน ไปเดือนก่อน คงพอผ่านหูตาบ้างนะครับ ยังคง... สบายดีนะครับ คุณชายบ้านข้างๆ (แปลแบบนี้ป่าวหว่า เอิ๊กกกก) จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:10:46

ความคิดเห็นที่ 23 ย้อนกลับไปดูตอนที่ 1 Day 0 โพสต์เมื่อวันพ่อแห่งชาติ ปี 52 !! ชื่นชมในความทรงจำสี(ไม่)จาง ของ จขกท จริงๆ ค่ะ ^_^ จากคุณ : pam_ เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:11:42

ความคิดเห็นที่ 24 pam_ เหมือนโดนแซวยังไงไม่รู้นะ ก็แค่ข้ามปีนี่เอง 555 อาจจะข้ามเป็น 2 ปี เร็วๆ นี้ ห้าห้า เขิลลลลลล จังเลยครับ ขอบคุณนะครับที่แวะเข้ามาดู จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:25:58

ความคิดเห็นที่ 25 ประวัติของวัดครับ http:// en.wikipedia.org/wiki/Shigatse ลบช่องว่างตรง // กับ en นะครับ คร่าวๆ ว่าสร้างมาตั้งแต่ปี 1447 โดย Gendun Drup องค์ทะไลลามะ พระองค์แรกครับ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:34:05

ความคิดเห็นที่ 26 แอบมารีวิว ตอนที่เรารีวิว กะว่าจะมาป่วนไม่ทันอะสิ แวะมาปาดก่อน เดี๋ยวจะไปดูว่าตอนนี้น้องหมีออกโรงหรือป่าว จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:41:04

ความคิดเห็นที่ 27 ตามติดรอชมค่ะ จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:43:32

ความคิดเห็นที่ 28 น่าไปมากมายย จากคุณ : Title_boy เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:55:45

ความคิดเห็นที่ 29 Coffee Blended ใครจะกล้าคิดแบบนั้น ต้องเรียกว่ามาอาศัยอานิสงค์จากคนดังมากกว่านะ รีวิวใกล้ๆ เผื่อจะมีคนเข้ามาดูเยอะๆ ไง รีวิวทิเบตหายากในห้องบลูฯ น๊า อ่ะโธ่ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 00:02:39

ความคิดเห็นที่ 30 ป้าฟู Title_boy หวังว่าจะชอบรูปนะครับ ไม่น่าจะหาดูได้ง่าย ผมเองก็รู้สึกดีใจที่ได้ไป ครั้งหนึ่งเข้าใกล้ใจกลางพระพุทธศาสนาได้มากขนาดนี้ จะเห็นได้เลยว่าคนที่นั่น มีความเชื่อเป็นสิ่งชี้นำทางชีวิตเลยครับ น่าทึ่งมากๆ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 00:08:08

ความคิดเห็นที่ 31 เข้าไปชมภายในกันครับ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 00:13:18

ความคิดเห็นที่ 32 ส่วนมากอาคารทางศาสนาที่นี้ ที่เห็นชัดเจนมักสร้างแบ่งออกเป้นส่วนของ white tower กับ red tower โดยมีพระราชวังโปตะลา ในกรุงลาซาเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 00:15:41

ความคิดเห็นที่ 33 http://worldvisitguide.คอม/musee/M0254.html *แก้ไขตรงคำว่า คอม เป็นภาษาอังกฤษครับ เว็บนี้รายละเอียดเยอะเลยครับ เผื่อว่าอยากทราบข้อมูลแบบละเอียด จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 00:19:37

ความคิดเห็นที่ 34 วัดสวยอะ แต่อ่านเรื่องการเดินทางแล้ว นับถือเดียร์เหมือนกันนะเนี่ย สมบุกสมบันมาก ไม่เข้ากับหน้าตาเลย 555+ จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 00:21:43

ความคิดเห็นที่ 35 จุดเด่นแต่ละส่วนของอารามจะมีตั้งแต่ *หน้าประตูทางเข้า *The Maitreya Temple *The Panchen Lama's Palace *Chanting Hall *Ngang College ฯลฯ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 00:26:01

ความคิดเห็นที่ 36 Coffee Blended "วัดสวยอะ แต่อ่านเรื่องการเดินทางแล้ว นับถือเดียร์เหมือนกันนะเนี่ย สมบุกสมบันมาก ไม่เข้ากับหน้าตาเลย 555+" ไม่น่าเชื่ออออออ ... ชมเราได้ด้วย ทุกทีโดนตร่อดอ่ะ จุดนี้น้ำตาพรากมากมายย ขอเซฟเข้าคลังกระทู้ก่อนเลยนะ ปลาบปลื้มมม ว่าครั้งนึง คุณกาฯ ก็ชมเราด้วย ว่าแต่ ... ไหนว่าหนีไปนอนแล้วไง นี่แหน่ะๆ ทุบตัวตุ่นเล่น ห้าห้า จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 00:37:09

ความคิดเห็นที่ 37 ส่วนตัวเราชอบไปเที่ยวแนวเนปาล ทิเบต แล้วก็พวกกลุ่มประเทศเอเชีย ชอบหมดเลยอ่ะ จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม ไทย ฯลฯ ชอบความเป็นเอเชีย ด้วยความเป็นกลุ่มนี้เลยดูแบบถึกๆ หน่อยมั้งอย่างเลี่ยงไม่ได้ ใจยังอยากไปอินเดีย ไปแคชเมียร์เลย แต่ยังไม่กล้าพอ อย่างเมกา เราไปก็ไม่ค่อยปลื้มแฮะ ฝรั่งเศส ก็ว่าสวยดีนะ แต่ไม่ถูกจริตส่วนตัวยังไงไม่รู้ ปล คิดอีกทีเหมือนโดนชมเชยว่า "ถึก+สมบุกสมบัน" นะ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 00:40:07

ความคิดเห็นที่ 38 เดินตามเข้ามาด้านในกันเลยครับ จะมีจตุรัสให้เหล่าพระได้สนทนาธรรมกัน เค้าใช้คำว่า debate ซึ่งออกรสออกชาติ ลีลาในการโต้ธรรมดุเดือดมากเลยครับ จริงๆ นะ ทำให้เป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวแม้ว่าเราจะฟังภาษาทิเบตไม่ออกเลยก็ตามนะ หลบร่มกันเร็วครับ SPF เริ่มหมดประสิทธิภาพแร้ววววคับบบ  อ๊าคคคคคคค  .... จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 00:44:17

ความคิดเห็นที่ 39 หลบแดด เติมกันแดดด่วนครับ ส่วนฝรั่งมังค่ามานชอบโดนแดดกันครับ ... เลยเดินไปแขวะมานเล็กน้อย ถามว่าปีๆ นึงบ้านยูมีแสงอาทิตย์ลงมาถึงเมืองประมาณกี่วันอ่ะ อิอิ บ้านไอนะ เกือบทู๊กวันนนนนนนนน . .. มัวแต่แต่งประโยคภาษาปะกิตไปแขวะเพื่อนร่วมทริป ลืมไปว่ายิ่งพูดมาก น้ำยิ่งระเหยออกจากร่างกาย จุดนี้พี่ไกด์ ผมขอน้ำด่วนนนนน คร๊าบบบบ เฮือกกกกกก ... จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 00:49:32

ความคิดเห็นที่ 40 เดินลัดเลาะตึกขาว ภายในถ่ายรูปมาให้เพื่อนๆ ดูไม่ได้นะครับ แต่โดยทั่วไปก็มีทั้งห้องเก็บพระคัมภีร์ ห้องศึกษาพระธรรม โรงทาน ห้องครัว ฯลฯ โดยมีตึกที่มีความสูง 3-4 ชั้นสีขาวมากมาย เหมือนเดินอยู่ในเขาวงกตขนาดย่ิอมๆ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 00:53:23

ความคิดเห็นที่ 41 ... จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 00:54:37

ความคิดเห็นที่ 42 เจดีย์ทิเบตสีขาว อีกจุดสำคัญของอารามครับ ประดับด้วยทอง และหินล้ำค่าต่างๆ ใช้เป็นที่บรรจุพระศพของทะไลลามะสาย Panchen (ซึ่งมีหลายพระองค์) อาจใช้คำอธิบายไม่ถูกต้อง อีกทั้งเป็นเนื้อเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ต้องขออภัยในความอ่อนด้อยทางข้อมูลของ จขกท ด้วยนะครับ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 01:05:16

ความคิดเห็นที่ 43 เปลี่ยนมาในส่วน Maitreya Hall  บ้างนะครับ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 01:06:49

ความคิดเห็นที่ 44 ... จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 01:08:13

ความคิดเห็นที่ 45 ระหว่างยืนรอต่อแถวเข้าไปภายในครับ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 01:09:09

ความคิดเห็นที่ 46 ภายในห้ามถ่ายรูป เลยไม่มีมาให้ชมกันนะครับ ยังไงเพื่อนๆ นักท่องเที่ยวช่วยกันปฏิบัติตามกฎระเบียบของแต่ละสถานที่ด้วยนะครับ ผมเห็นบางท่าน พูดตรงๆ ว่าป่วยครับ เค้าห้ามถ่าย ก็  tricky แอบถ่าย แบบทำไม่รู้เรื่อง พอกลับประเทศก็เอามาโพสอวดกันว่าเค้าห้ามถ่าย แต่ฉันถ่ายมาได้ อย่างนั้น อย่างนี้ ส่วนตัวผม ... รู้สึกไม่ดีเลยครับ ยังไงช่วยกันคนละไม้ละมือนะครับ เค้าจะได้ดุแลสถานที่นั้นๆ ให้คนอื่นๆ ได้แบ่งปันกันดูกันชมนะครับ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 01:14:56

ความคิดเห็นที่ 47 วันนี้แสงแดดเป็นใจให้ผมมากเลย พระอาทิตย์ท่านทำงานเต็มที่เลยครับ ผลที่ออกมาวันนี้คือ ทำให้ผมพอใจกับรูปที่ถ่ายมา ไม่ต้องเชครุปเลย ถ่ายๆ แล้วเดินชมอย่างเดียว ถ้าต้องเชครูปไปด้วยเกรงว่าจะหน้ามืด ลมจับ ห้าห้า ^^ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 01:18:43

ความคิดเห็นที่ 48 ไต่บันไดแบบง่ายๆ ขึ้นชั้นสอง ชอบสถาปัตยกรรมภายในที่นี่ครับ สีสันสดใสดี จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 01:20:17

ความคิดเห็นที่ 49 เลยได้มุมสวยๆ เพิ่มเติมครับ ได้หลบแดดด้วย ถ้ายังออกไปสังเคราะห์แสงต่อ เกรงว่าจะกลายเป็นกุ้งแห้งปิ้งเลยหล่ะนะ  >//< จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 01:22:29

ความคิดเห็นที่ 50 เริ่มยืนเป็นแกนกลางแล้วหมุนพุงไปรอบๆ ครับ ก็ยังทำตัวเป็นลูกอิ่ช่างถ่ายไปเรื่อยๆ อย่าได้แคร์ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 01:24:13

ความคิดเห็นที่ 51 เพื่อนฝรั่งในกรุี๊ปมันจิกครับว่า "ยูถ่ายรูปเยอะดีเนอะ ได้ชอตสวยๆ มากเลยสิ่ เอาไปลงเนชั่นแนลจีโอกราฟฟี่ได้เป็นปีๆ เลยนะ" . . . หนอยยย ดูมันพูดดดดดดด นี่ถ้าไม่ต้องทำตัวเป็นอูฐ หรือต้องเสียดายน้ำที่ต้องระเหยไปจากการที่ด่ามัน คงมีได้เอาคืนระ ไม่ให้เสียชื่อคนไทย กร๊ากกกกก นี่เห็นว่าน้ำมีค่ากว่าจิกมานนะเนี่ยยย มานพูดต่อว่า "งั้นยู ช่วยถ่ายรูปให้ไอหน่อยสิ่ นะ พลีสสสส" เลยต้องตอบพร้อมยิ้มแสยะ เอ้ยยย ยิ้มสยามไปว่า "ยัวร์ เวรกรรม เอ้ยยย เวลคั่มมม" ฝากไว้ก่อน อ้ายฝรั่งมังค่าตาน้ำข้าว ชิสสส์ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 54 01:31:49 จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 01:30:25

ความคิดเห็นที่ 52 เพราะนี่คือ !!! ที . .. . . วี  สามมมมมม ร้อยหกสิบองศา กร๊ากกกกกก จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 01:33:21

ความคิดเห็นที่ 53 จะว่าไป ทำไมข้าพเจ้าเหมือนผีบ้าเลย รีวิว หัวเราะ ขำ มันส์อยู่คนเดียว คุยอยู่คนเดียวในกระทู้ อ๊าคคคคคคคคค ม่ายยยยยย น๊า 5555 จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 01:34:59

ความคิดเห็นที่ 54 ไม่เป็นไร อย่าได้แคร์ มีแค่ไหนก็ดูแค่นั้นหล่ะ ดองสะจนเค็ม เน่้า บูดระ ห้าห้า จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 01:36:42

ความคิดเห็นที่ 55 เข้ามาในส่วนสุสานขององค์ทะไลลามะ Panchen ที่ 5 และ ที่ 9 ครับ รวมถึงบริเวณ จตุรัส Sermon (สังเกตว่าอาการผมจะสงบเสงี่ยมลงทันทีครับ คริคริ) จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 01:40:58

ความคิดเห็นที่ 56 ซุ้มประตูครับ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 01:42:23

ความคิดเห็นที่ 57 น่าจะเป็นส่วนที่สวยที่สุดในทั้งหมดแล้วครับ เพราะเนื้องานจะมีการตกแต่ง ทาสี ภาพวาดผนังเยอะกว่าที่อื่น รวมถึงมีพระทิเบตจีวรแดงเลือดหมูเยอะมากเลยครับ น่าจะเป็นไฮไลท์ที่สำคัญที่สุดของศาสนสถานที่แห่งนี้หล่ะครับ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 54 01:46:29 จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 01:44:19

ความคิดเห็นที่ 58 โพสกระทู้ทิเบตทีไรใช้เวลานานมากกกกก ... ตั้งแต่ 3 ทุ่มครึ่งแล้วยังไม่เสร็จเลยครับ  T_T จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 01:47:53

ความคิดเห็นที่ 59 ชอบภาพวาดกำแพงนี้มากเลยครับ ทั้งลาย และสี เข้ากันกับสถาปัตยกรรมโครงสร้าง ตัวอาคารมากๆ เลย ดูกลมกลืนกันไปหมด มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นสวยงามจริงๆ ครับ ยิ่งเห็น นอกจากจะภูมิใจในความเป็นอารยธรรมของชาวบ้านแล้ว ก็อดภูมิใจในอารยธรรมชองชาติไทยเราเองไม่ได้ ที่โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใคร อยากให้รักษาสืบต่อไว้นานแสนนาน จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 01:53:12

ความคิดเห็นที่ 60 โดยเฉพาะในยุคที่ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในการสื่อสาร ซึ่งเปลี่ยนโฉมหน้าและมีผลต่อการดำเนินชีวิตของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แน่นอนว่า ความสะดวกสบาย การแบ่งปันข้อมูล และต้นทุนในการสื่อสารที่ต่ำลง จะเป็นประโยชน์หลักที่เราสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างชัดเจนก็ตาม จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 01:58:10

ความคิดเห็นที่ 61 แต่ในอีกทางหนึ่งความเจริญก้าวหน้าดังกล่าวก็ได้ส่งผลกระทบในส่วนที่เราอาจจะยังมองไม่เห็นอย่างชัดเจนใน 5-10 ปีนี้ นักคือเรื่องของความเป็นหนึ่งเดียวกันของสังคมโลก จะเกิดการหล่อหลอมทางพฤติกรรมของมนุษย์ โลกจะเล็กลง เหมือนจะดีใช่ไหมครับ แต่ส่วนตัวแล้วผมเกรงว่า บางภาษา บางวัฒนธรรมจะสูญหาย หรือถูกกลืนไป อย่างที่เราเรียกกันว่า "การครอบงำทางวัฒนธรรม" (culture domination) จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 02:02:30

ความคิดเห็นที่ 62 หลุดมาไกลถึงตรงนี้ กลายเป้นเรื่องเครียดไปได้ยังไงก็ไมรู้นะครับ 555 ที่ยกขึ้นมาพูดก็แค่อยากให้ทุกคนเคารพในวัฒนธรรมของคนอื่น ของชาติอื่น ให้เหมือนกับที่เรารักและหวงแหนในวัฒนธรรมกำพืดของเราเอง และในฐานะคนรุ่นใหม่ก็อยากให้ได้ใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดโดยที่ไม่ไปทำลายวิถีเดิมๆ ที่ดีของเราอยู่แล้ว ผมชอบให้โลกหมุนไปตามทางที่ควรจะเป็นนะ เพราะ ความแตกต่างมันทำให้โลกสวยงาม ไม่ใช่หรือครับ  ^^" แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 54 02:09:49 จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 02:07:12

ความคิดเห็นที่ 63 ออกแยงซีเกียง ไปลงตังเกี๊ยะ แล้วตรู !!!   ก่อนที่จะได้นอนตี 4  โพสกระทู้นี่มันงานยาก โรงงานนรกสำหรับผมจริงๆ  T_T จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 02:11:30

ความคิดเห็นที่ 64 โดนเรียกขึ้นรถแล้วหล่ะค๊าบบบบบ ... จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 02:12:26

ความคิดเห็นที่ 65 ส่งท้ายอารามที่สวยงามแห่งนี้ครับ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 02:13:53

ความคิดเห็นที่ 66 แล้วก็หนูน้อยทิเบตสุดหล่อครับ ^^ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 02:14:55

ความคิดเห็นที่ 67 oนั่งหัวเหม่งโขกกระจกรถกันต่อไป  -_-" จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 02:16:05

ความคิดเห็นที่ 68 รูปนี้ไม่แจ่มเท่าที่ควรนะครับ เพราะ 1. ถ่ายผ่านกระจก 2. รถวิ่งด้วยความเร็วสูง ซึ่งผมเองก็ไม่กล้าขอเปิดกระจกเล่นท่ายากเอาหัวชะโงกออกไปถ่าย เพราะเกรงใจเพื่อร่วมกลุ่ม อีกทั้งเป็นเป้าว่า อ่ายกระเหรี่ยงหัวดำผิวเหลืองคนนี้ มันลูกเจ้าของเนชั่นแนลจีโอกราฟฟี่ ถ่ายรูปตร่อดดดดด ห้าห้า เลยถ่ายเอาตามยถากรรมครับ  ^^" จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 02:20:09

ความคิดเห็นที่ 69 อ่า . . . เข้าใกล้ระ ไม่น่าเชื่อว่าเราจะได้ข้ามสะพานนี้ อย่างกะภาพวาดเลยนะ ท้องฟ้าสีฟ้าสด มีภูเขาสีเทาน้ำตาลเป็นฉากหลัง เบื้องล่างเป็นแม่น้ำสีเขียวมรกต อลังการงานสร้างมากๆ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 02:23:24

ความคิดเห็นที่ 70 มีน้องแกะมารอให้เราเห่าต้อนเข้าคอกด้วย . . . โอ๊ะ เริ่ดดดดอ่า 55 จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 02:25:05

ความคิดเห็นที่ 71 ว่าแล้วก็ส่งพวกเด็กจอมโกหก ลงไปเลี้ยงแกะ เคลียร์ทาง ชอบแสงแดด อยากมีผิวสีแทนกันนักไม่ใช่เหรอ ลงไปสิ่ ชิ่วๆๆๆ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 02:27:03

ความคิดเห็นที่ 72 ไหนๆ ลงมาต้อนแกะกันระ แวะพักข้างทางแล้วกัน คนขับคงเมื่อยแล้วหล่ะนะ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 02:31:05

ความคิดเห็นที่ 73 อลังการมั้ยหล่ะ วิวเค้า แดดเปรี้ยงมากกก แต่มีภูเขาหิมะ มีชาติตระกูลสุดๆ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 02:37:20

ความคิดเห็นที่ 74 ร้านขายของโอทอปท้องถิ่นครับ มีพวกหิน ข้อมือหิน กงล้อภาวนา กระบอกใส่ธูปหอม ฯลฯ ขายครับ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 02:39:57

ความคิดเห็นที่ 75 หลังจาก ทรหด เป้ฯเวลา 4-5 วัน ในการเดินทางไปดุเทือกเขาเอฟเวอร์เรสแล้ว ก็ได้กลับเข้าลาซาสักที เย้ๆ  แต่พรุ่งนี้ก็จะต้องจากทิเบตแล้วเหมือนกันครับ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 02:44:21

ความคิดเห็นที่ 76 เดินชอปปิ้งแบบ last minute ครับ เพราะพรุ่งนี้ต้องออกเช้ามาก ตั้งแต่ 7 โมง เราจะกลับเฉินตูด้วย "รถไฟที่มีรางอยู่สูงสุดของโลกและเป็นรถไฟที่ในขบวนมีการปรับความกดอากาศในตัว" กันครับ เส้นทาง ลาซา - เฉินตู จัวหัวแรียกแขกไว้ก่อนนะครับ  ^^ จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 02:48:00

ความคิดเห็นที่ 77 .... จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 02:48:30

ความคิดเห็นที่ 78 .. จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 02:52:14

ความคิดเห็นที่ 79 .... จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 02:52:39

ความคิดเห็นที่ 80 แก้ไขครับ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 54 03:02:30 จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 02:57:19

ความคิดเห็นที่ 81 ตะวันลับฟ้า เมื่อตอนเย็นๆ . ..  มันเป็นเวลาที่ใจหาย จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 02:59:33

ความคิดเห็นที่ 82 ปลายท้องฟ้ากับแดดรำไร ฉันเหมือน… ใจจะขาด จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 03:00:21

ความคิดเห็นที่ 83 แก้ไข ... แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 54 03:02:59 จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 03:01:43

ความคิดเห็นที่ 84 ยังกังวล ว่าใครบางคน ที่ไม่อยากพบและเจอ คิดถึงเธอทุกที ที่อยู่คนเดียว ... จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 03:03:56

ความคิดเห็นที่ 85 ผมกับเพื่อนร่วมทริปแปลกหน้า 4 คนได้ทานมื้อเย็นมื้อสุดท้ายก่อนแยกย้ายกันไปตามทาง เห็นว่า 1 หนุ่มจะไปดูสุสานโบราณเมืองซีอาน อีกคนจะไปเส้าหลินเพื่อไปเรียนวิทยายุทธ (พูดจริงไม่ได้เล่นๆ นะเออ) ส่วนลุงชาวเยอรมันจะนั่งรถไฟไปชางไฮ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 54 03:08:32 จากคุณ : friday:fineday เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 03:06:17