ความคิดเห็นที่ 1 ตามน้องหนึ่งไปด้วยครับ^^ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 14:50:56

ความคิดเห็นที่ 2 เป้าหมายในการเยี่ยมเยือนคราวนี้ คือ อาสนวิหารแม่พระบังเกิด  ที่ตำบลบางนกแขวก อำเภอบางคนที   อาสนวิหารแม่พระบังเกิด แห่งนี้ เป็นโบสถ์คาทอลิก ศิลปะแนวโกธิค ซึ่งเป็นศิลปะฝรั่งเศส โบสถ์แห่งนี้ได้รับการออกแบบและควบคุมโดยสถาปนิก ชาวฝรั่งเศส นับเป็นโบสถ์คาทอลิกแบบโกธิคที่เก่าแก่มากที่สุดในเมืองไทย ปีนี้ ก็อายุได้ 115 ปีแล้วค่ะ เพราะสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2439   จากคุณ : hollaneung เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 14:51:17

ความคิดเห็นที่ 3 กรี๊ดดดดดดดดดดด ให้น้องไปด้วย ....   ^  ^ จากคุณ : P r i m t a a เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 14:54:21

ความคิดเห็นที่ 4 น้าม่วง ไวมากเลยค่ะ เห็นวันนี้เงียบๆ แล้วหนึ่งก็ว่างๆ เลยปล่อยของ แต่ก็หนีไม่พ้น ความไว ของน้าม่วง อิอิ ---------------------------------------------------------------------------- เรื่องราวที่หนึ่งจะเล่าสู่เพื่อนๆ ในวันนี้ ได้ความรู้หลายอย่างมาจากคุณลุงสุเทพ ผู้ดูแลที่นี่โดยบังเอิญ เพราะคุณลุงเห็นหนึ่งถอดรองเท้าเลยจะเดินมาบอกว่าให้ใส่รองเท้าเดินในโบสถ์ได้ จึงเป็นเรื่องราวได้นั่งคุยกันอย่างยาว เรียกว่าลูกทัวร์หลายกรุ๊ปผ่านมาแล้วก็ไป แต่สองคนต่างวัยก็ยังสนุกกับการเม้ากันอย่างเมามัน เหมือนเป็นการเปิดโลกกว้างของหนึ่งในอีกมุมนึง ที่บางครั้งเห็นหลายๆ คนเดินมาถ่ายรูปแล้วจากไป โดยไม่ได้ทราบเรื่องราวดีๆ ของวิหารสวยๆ แห่งนี้เลยค่ะ แค่มาถ่ายรูปกลับไปมันน่าเสียดาย...   เพราะฉะนั้นเรื่องดีๆ ที่คุยกับคุณลุงในวันนี้ หนึ่งอยากแบ่งปันกับเพื่อนๆ ค่ะ อย่าเพิ่งเบื่อกันก่อนนะค๊า ก็อยากเล่าอ่ะค่ะ งั้นเพื่อนๆ แวะมาอ่านกันนิดนึงเนอะๆ  หลายๆ เรื่องที่นี่ หลายคนคงยังไม่ทราบ บางเรื่องหนึ่งฟังไปก็ต้องร้อง โอ้โห...ตามคำบอกเล่าของคุณลุงสุเทพ ที่ดูมีความสุขมากๆ กับการถ่ายทอดหลายๆ เรื่องราวสู่หลานต่างวัยอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย เห็นอะไรเกี่ยวกับที่นี่คุณลุงก็ต้องเล่าเรื่องนั้น บอกเรื่องโน้นให้ฟังอยู่ตลอดเวลา นับว่าเป็นการเดินทางมาถ่ายรูปแบบได้ความรู้กลับไปเต็มๆ เลยค่ะ จากคุณ : hollaneung เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 14:54:32

ความคิดเห็นที่ 5 ตามน้าม่วง กับพริมตา... มาชมรีวิวคุณหนึ่ง... ปล.. ขอบคุณกิฟนั้นนะครับ คิคิ จากคุณ : ชานมชงเอง เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 14:56:31

ความคิดเห็นที่ 6 ไปด้วยๆๆๆ แจ้งทางหน้า FB ค่อยดีหน่อย จะได้ปาดซ้าย ปาดขวาได้ทัน อิอิ ปกติไม่ค่อยได้เข้า BP ช่วงบ่ายๆอะครับ แบบว่าต้องแอบเจ้านายเล่น แต่ FB เค้าเล่นกันทั้งออฟฟิซ ไม่ต้องแอบ งั้นแอบอ่านรีวิวคุณหนึ่งไปเรื่อยๆนะค้าบ ถ้าจังหวะดีๆจะปาดแซวอีก จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 14:56:35

ความคิดเห็นที่ 7 หนูบิ๋ม ไวพอๆ กับน้าม่วงเลย ว่าแต่ กรี๊ด ที่พี่พาเข้าโบสถ์ใช่ป่ะ --------------------------------------------------------------------------- คุณลุงเล่าให้ฟังว่าเมื่อร้อยกว่าปีที่แล้วที่นี่ไม่ใช่โบสถ์แรกชาวคาทอลิกในละแวกนี้  แต่เนื่องชาวคาทอลิกเพิ่มมากขึ้น จากหลักสิบครอบครัวเป็นหลักร้อย ดังนั้น คุณพ่อเปาโล ซันมอน จึงตัดสินใจสร้างอาสนวิหารแม่พระบังเกิด เพื่อรองรับประชากรที่เพิ่มขึ้น และโบสถ์แห่งนี้ ก็เป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในแถบภาคกลางตอนล่างไปจนชายแดนใต้สุดนับเป็นโบสถ์สไตล์โกธิคที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย... การออกแบบทำโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศสและควบคุมการก่อสร้างโดยวิศวกรชาวฝรั่งเศส ส่วนคนที่ช่วยกันสร้างโบสถ์คือชาวบ้านในละแวกนี้ ช่วยกันสร้างหลังจากเสร็จจากงานประจำแล้ว ทำเรื่อยๆ กว่าจะแล้วเสร็จก็ใช้เวลาถึง 6 ปีทีเดียว จากคุณ : hollaneung เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 14:57:08

ความคิดเห็นที่ 8 คุณชานม แหมๆ นึกว่าวันนี้จะเงียบ มีพรายกระซิบแน่เลย สำหรับกิฟ นั้นไปขอบคุณน้องพรายดีกว่าค่ะ อิอิ คุณกาแฟ ตามบายเลยค่ะ แต่ว่าเวลาเล่น ระวังเจ้านายเหล่น๊า ส่วนของหนึ่งสบาย เจ้านายไม่อยู่ อิอิ ------------------------------------------------------------------------------ ยิ่งไปกว่านั้นคุณลุงยังเล่าว่า ที่นี่ไม่มีการใช้เสาเข็มในการสร้างเพราะเหตุผลว่าอาจจะไม่ทนทานถึงหลายร้อยปี ดังนั้นฐานด้านล่างจึงใช้การขุดบ่อ แล้วนำซุงท่อนใหญ่ๆ มาวางเรียงซ้อนกัน สลับไปมาจนเรียบเสมอกัน หลังจากนั้นก็เทปูทับ ส่วนของเสาก็ใช้ไม้วางสลับไปมาและก่อคานด้วยปูน ไปจนบรรจบกับซุงท่อนใหญ่ที่มาวางเรียงแทนคาน ดังนั้นความแข็งแรงของโบสถ์แห่งนี้ จึงได้มาจากซุงต้นใหญ่ๆ นั่นเองค่ะ....   เจ๋งมากอ่ะ ฝีมือคนไทยสร้าง จากคุณ : hollaneung เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 15:00:33

ความคิดเห็นที่ 9 ของตกแต่งส่วนใหญ่ก็นำเข้ามาจากฝรั่งเศสทั้งรูปปั้นพระแม่มารี รูปปั้นพระเยซูสวยมากค่ะ จากคุณ : hollaneung เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 15:02:09

ความคิดเห็นที่ 10 นอกเหนือไปจากนั้นภายในโบสถ์ก็มีตกแต่งโดยใช้กระจกสี ตามแบบศิลปะแนวโกธิคที่ได้รับอิทธิพลมาจากฝรั่งเศส นอกจากนี้ยังมีภาพปูนปั้นที่ เล่าเรื่องราวองพระเยซูในวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ 14 ภาพ ภาพกระจกสีกลมๆ ในโบสถ์เป็นเรื่องราวพระแม่มารีทรงบังเกิด เหนือหน้าต่างมีภาพนักบุญต่างๆ แล้วแต่ว่าทางโบสถ์แต่ละแห่งจะเลือกนักบุญท่านไหนมาก็ได้ ในการเลือกภาพนักบุญค่ะ... จากคุณ : hollaneung เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 15:03:03

ความคิดเห็นที่ 11 โดยปกติทางโบสถ์จะไม่เปิดหน้าต่างเวลาทำกิจกรรมหรือมีคนมาเยี่ยมชม เพราะจะทำให้เราเห็นกระจกสีไม่สวยและสีสดใสเท่าไหร่ กระจกสีเหล่านี้จะมีตัวเชื่อมเหมือนจิ๊กซอร์มีอายุราวๆ ร้อยปี หลังจากนั้นต้องทำการซ่อมแซมตัวยึดกระจกสี ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้กระจกร่วงหล่นมาได้ ดังนั้นช่วงที่หนึ่งไป ก็มีการซ่อมแซมไปบางส่วนแต่ยังไม่หมดค่ะ ทะยอยทำไปเรื่อยๆ  คุณลุงบอกว่า ถ้าได้มาในวันที่เขาติดกระจกใหม่ จะอนุญาตให้หนึ่งขึ้นนั่งบนนั่งร้านแล้วขึ้นไปถ่ายรูปซะเลย อิอิ แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 54 15:06:50 จากคุณ : hollaneung เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 15:04:08

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าเพื่อนๆ สังเกตดีๆ จะเห็นว่าโบสถ์ส่วนใหญ่จะวางตำแหน่งธรรมมาสถ์สำหรับเทศน์ไว้ต่างตำแหน่งกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าตำแหน่งไหนพระท่านขึ้นไปเทศน์แล้วผู้ฟังจะได้ยินชัดเจนที่สุดในโบสถ์ แล้วโบสถ์สมัยใหม่ส่วนใหญ่ก็จะไม่มีธรรมมาสถ์เหมือนที่นี่ เพราะได้สร้างหลังจากที่มีไมโครโฟนใช้แล้ว    สำหรับที่นี่ก็เป็นเพียงการตั้งโชว์ไว้ให้เห็นความสวยงามค่ะ ส่วนใหญ่ พระท่านก็ใช้ไมโครโฟน หมดแล้ว... จากคุณ : hollaneung เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 15:09:05

ความคิดเห็นที่ 13 ส่วนในวันที่ประกอบพิธีแต่งงานหรืองานศพถ้าเราอยากมาชมพิธีกรรมทางโบสถ์ก็อนุญาตให้มาดูได้ค่ะ เพราะถือว่าเป็นความสวยงามของพิธีการที่ชาวพุทธอย่างเรา ไม่ค่อยคุ้นเคยกัน หนึ่งอยากไปชมมากเลย โดยเฉพาะถ้ามีพิธีแต่งงาน อิอิ จากคุณ : hollaneung เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 15:10:11

ความคิดเห็นที่ 14 นอกจากนี้ ยังได้รู้เกี่ยวกับเรื่องของนักบวชในศาสนาคริสต์นิการโรมันคาทอลิก ว่าเปรียบเหมือนพระสงฆ์ไทยค่ะ เพราะไม่สามารถมีครอบครัวได้ ต้องบวชตลอดชีวิตห้ามสึก ที่สำคัญจำนวนนักบวชก็มีไม่มากเพราะฉะนั้นในวันบวชพระจะมีคนมาร่วมพิธีเยอะมากทีเดียว ด้วยเหตุผลว่าก่อนการบวช ผู้ที่อยากบวชจะต้องเรียนเพื่อเตรียมตัวก่อนบวชประมาณ 1 ปี หลังจากนั้นก็ให้ตัดสินใจว่าจะบวชหรือไม่ ส่วนน้อยที่ตัดสินใจบวชส่วนมากก็ยัง ตัดทางโลกไม่ได้ ก็เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมนักบวชมีจำนวนไม่มาก โบสถ์หนี่งๆ มีนักบวชเพียงหนึ่งหรือสองคนเท่านั้น จากคุณ : hollaneung เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 15:12:17

ความคิดเห็นที่ 15 อาจารย์เผ่าทอง ทองเจือก็ชอบแวะมาที่นี่ เพราะอาจารย์ชอบงานศิลปะสไตล์โกธิคเหมือนกัน หลายคำถามกับคำตอบที่ไม่เบื่อที่จะเล่าสู่กันฟัง เกือบๆ ชั่วโมงที่ได้นั่งคุยกับคุณลุง รวมระยะเวลาเดินถ่ายรูปอีกเป็นชั่วโมง เพลินมากค่ะ เหมือนกับได้ความรู้คู่ความสวยงามที่สำคัญได้เห็นความน่ารักของคนที่นี่ภายในเวลาสั้นๆ จากคุณ : hollaneung เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 15:15:09

ความคิดเห็นที่ 16 ประวัติคร่าวๆ ของอาสนวิหารแม่พระบังเกิด พ.ศ.2378 พระสังฆราชกูรเวอร์ซี ได้รับมอบหมายโดยพระสันตะปาปาจากกรุงโรมให้ทำหน้าที่เป็นพระสังฆราชแห่งสยาม โดยมีเขตปกครองคือ ประเทศไทย ลาว เขมร มาเลเซีย พม่า และสิงคโปร์ ท่านได้เชิญคุณพ่ออัลบรังค์ ทีมีความชำนาญด้านภาษาจีนจากสิงคโปร์ให้มาช่วยงานอภิบาลสัตบุรุษคนไทยเชื้อสายจีนที่วัดกาลหว่าร์ ตลาดน้อย กรุงเทพฯ ในระหว่างการเดินทางมาของคุณพ่ออัลบลังค์ ได้ผ่านแม่น้ำแม่กลองและได้พบกับครอบคราวคาทอลิกชาวจีน จำนวน 8 ครอบครัวที่ย้ายมาจากวัดกาลหว่าร์ มาตั้งถิ่นฐานอยู่ในคลองสี่หมื่น   เมื่อคุณพ่ออัลบรังค์ได้รับแต่งตั้งขึ้นเป็นพระสังฆราชแห่งประเทศจีน พระสังฆราชปัลเลอกัวซ์ จึงแต่งตั้งคุณพ่อดือปองค์ให้ดูแลกลุ่มคริสตชนแทน   จากคุณ : hollaneung เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 15:17:19

ความคิดเห็นที่ 17 ในปี พ.ศ. 2390 มีคริสนประมาณ 200 คน พวกเขาได้ช่วยกันสร้างวัดขึ้นในที่ดินของ ฟรังซิสโก ไง้ เป็นเรือนไม้ หลังคามุงจาก มีชื่อว่า วัดศาลาแดง หรือบางคนเรียกว่า วัดรางยาว ตามลักษณะของสีทาวัดและทำเลที่ตั้งอยู่ริมคลองที่ชาวจีนขุดต่อกับแม่น้ำเพื่อนนำน้ำมาทำสวนผัก มีรูปร่างเป็นเป็นรางส่งน้ำ(เนื่องจากจะไม่มีการขุดถมหรือดัดแปลงที่ดินแปลงเดิมดังนั้น โบสถ์ที่นี่ จึงยามตามคันสวน)     เพราะต้องการดูแลคริสตชนทุกคน คุณพ่อจึงได้จัดสรรแบ่งที่ดินให้คริสตชนได้มีที่ทำกินทุกครัวเรือน หรือถ้าไม่ได้ที่ดินเป็นของตัวเองก็จะให้เช่าในราคาถูกจากที่ดินที่ได้มาจากธรณีสงฆ์   ดังนั้นในสมัยก่อนชาวบ้านที่นับถือคริสต์กะจะมีที่ดินทำกินทุกครัวเรือน บางส่วนย้ายไปอยู่ที่จังหวัดอื่นบ้างตามที่คุณพ่อสามารถจัดหาที่ทำกินให้ได้ ปัจจุบันมีคริสตชนประมาณ 1% ของพลเมืองในจังหวัดสมุทรสงคราม... จากคุณ : hollaneung เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 15:18:54

ความคิดเห็นที่ 18 ในปี พ.ศ. 2393 เมื่อจำนวนสัตบุรษ เพิ่มมากขึ้น คุณพ่อมาแรง จึงทำการย้าย วัดมาอยู่ที่ปากคลองบางนกแขวก ที่ รัชกาลที่ 4 ทรงสั่งขุดเชื่อมระหว่างแม่น้ำแม่กลองกับแม่น้ำท่าจีน เป็นเส้นทางคมนาคมทางน้ำที่มุ่งไปสู่กรงเทพฯ และได้สร้างวัดหลังใหม่ที่นั่นโดยมีนามชื่อ แม่พระบังเกิด กล่าวง่ายๆ ที่นี่ก็เป็นภาพประวัติการเกิดของพระแม่มารีนั่นเองค่ะ จากคุณ : hollaneung เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 15:19:54

ความคิดเห็นที่ 19 ปี พ.ศ.2433 คุณพ่อเปาโล ซัลมอน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า คุณพ่อเป่า ซึ่งมีรูปปั้นท่านอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านพักพระสงฆ์ ได้เริ่มลงมือสร้างวัดหลังนี้ให้เป็นรูปร่างขึ้นมา โดยได้รับทุนสนับสนุนจากญาติพี่น้องของท่านในฝรั่งเศส จากคณะมิชซังต่างประเทศ แห่งกรุงปารีส จากกรุงโรม และผู้ใจบุญ โดยสร้างไปหาทุนสนับสนุนไปจนแล้วเสร็จ จากคุณ : hollaneung เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 15:20:42

ความคิดเห็นที่ 20 ทำพิธีเสกและเปิดใช้อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2439 ส่วนวัสดุของวัดหลังเก่าได้ถูกนำไปสร้างไว้ทีคลองขวางล่าง โดยมีนามว่า วัดพระแม่องค์อุปถัมภ์ หรือ วัดใน ลักษณะเด่นของอาสนวิหารนี้ คือเป็นวัดที่สร้างนานว่าหนึ่งศตวรรษมาแล้ว เป็นศิลปะแบบโกธิคที่สร้างด้วยอิฐเผา ผนังฉาบด้วยปูนตำกับน้ำเชื่อมจากอ้อยสีดำ ประดับด้วยกระจกสีที่สวยงามจากประเทศฝรั่งเศสที่เป็นเรื่องเล่าของพระนางมารีย์พรหมจารีย์จากพระคัมภีร์ และภาพของบรรดานักบุญชายหญิง จากคุณ : hollaneung เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 15:21:38

ความคิดเห็นที่ 21 ตามคุณหนึ่งมาเที่ยวบางคนทีค่ะ จากคุณ : Memories pink เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 15:22:25

ความคิดเห็นที่ 22 นอกเหนือจากโบสถ์สวยๆ แล้ว ขับรถเลยโบสถ์ขึ้นสะพานข้ามคลองมาซัก 20 เมตร ก็เลี้ยวขวาเข้าไปก็จะเจอกับร้านอาหารอร่อยๆ ของตลาดน้ำบางนกแขวก โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยวปู ร้านนี้มีทั้งข้าวผัดปู ผัดกระเพราปู อร่อยและไม่แพงค่ะ ชามละ 20 บาท   ข้าวเกรียบปลาทู อันนี้ก็สุดยอด ขนมไข่สอดไส้หลากหลาย นุ๊มนุ่ม ทั้งอาหารและขนมอร่อยมากๆ แถมไม่แพงจริงๆค่ะ     ก๋วยจั๋บข้างทางที่แวะมาฝากท้องไว้ก่อนมาถึงโบสถ์ ไม่น่าเชื่อค่ะ อร่อยชะมัดชามละ 15 บาทเองอ่ะ ตอนแรกนึกว่าแม่ค้าทอนตังผิด   แม่ค้า พ่อค้าที่นี่พูดจาน่ารักมาก ใจดีประทับใจกับช่วงเวลาสั้นๆ แต่ได้ อิ่มท้อง อิ่มสมอง อิ่มตา อิ่มใจ มากๆ เลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 54 17:00:52 จากคุณ : hollaneung เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 15:24:31

ความคิดเห็นที่ 23 คุณแอน ขอบคุณมากเลยค่ะ แวะมาทักทายกันตลอด ช่วงนี้คุณแอนไม่ปล่อยรีวิวเลยน๊า รออยู่^^   ------------------------------------------------------------------------   โปรดติดตามต่อนต่อไป  ภาค Home Stay ที่บางคนที เร็วๆ นี้ค่ะ วันนี้ ส่งภาพกับกล่องความทรงจำดีๆ มาฝากเพื่อนๆ ก่อน กลัวลืมค่า   ใครอยากไปยกมือขึ้น เค้าคนแรกเลย อิอิ   ขอบคุณทุกเม้น ทุกกิฟ และทุกกำลังใจดีๆ จากเพื่อนๆ ในห้อง BP เสมอนะค๊ะ   เป็นการเม้าเล็กๆ น้อยๆ นะค๊ะ อย่าเพิ่งเบื่อหนึ่งเลยน๊า เค้าขอร้อง^^   อบอุ่นเสมอค่ะ เวลาแวะมาห้องนี้ แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 54 15:30:12 จากคุณ : hollaneung เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 15:26:54

ความคิดเห็นที่ 24 คลาสสิคดี ครับ จากคุณ : คนมีแฟนขับ (chun_cx) เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 15:49:14

ความคิดเห็นที่ 25 ตามมาเที่ยวชมโบสถ์ด้วยคน เพิ่งรุ้เหมือนกันว่ามีโบสถ์คริสต์แถวนั้นด้วย จากคุณ : ตระเวนเที่ยว เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 15:53:37

ความคิดเห็นที่ 26 สถานที่สวยงามแถม คลาสลิกดีนะ  ชอบๆๆ หนีไปเที่ยวอีกแล้ว  ไม่ชวนเลย จากคุณ : ชายเอ ทุ่งรังสิต เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 15:57:22

ความคิดเห็นที่ 27 แวะมาชมครับ ช่วงปลายปีที่แล้วไปเที่ยวตลาดน้ำแถวนั้นบ่อยมากครับ เห็นแล้วก็อยากจจะกลับไปขุดรูปมารีวิวเหมือนนะเนีย จากคุณ : the Sixth Floor เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 15:58:31

ความคิดเห็นที่ 28 ไปเที่ยวตลาดน้ำบ่อยๆ สงสัยว่าทำไม อำเภอนี้ ถึงได้ชื่อนี้ ทำไมมาบอก "บางคนที" คิดแบบขำๆ  แล้วอีกบางคนละ (เป็นอย่างไร)         ขออภัย..แซวเล่น เผ่นไปก่อนละครับ แหะๆ จากคุณ : นายเก่าคนก่อน เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 16:04:39

ความคิดเห็นที่ 29 ติดกิ๊ฟไว้กอนนะ หมด เกลี้ยงเลย สวยงามมากเลยค่ะ ตามไปบางคนที ด้วยจ๊ะ ขอบคุณชอบจริงจังเลย ตลาดน้ำมีแต่ของ แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 54 16:11:25 จากคุณ : แม่จีน-ไท (GT2007) เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 16:06:40

ความคิดเห็นที่ 30 โบสถ์สวยมากเลยครับน้องหนึ่ง ข้อมูลละเอียดแน่น ได้ความรู้มากมาย ขอบคุณที่พาเที่ยวครับ รอชมตอนต่อไปครับ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 16:13:42

ความคิดเห็นที่ 31 สวยมากเลยค่ะ ไว้ว่างๆจะหาโอกาสไปมั่ง รอรีวิวต่อไปนะคะ ^ ^ จากคุณ : Littleเจ๊ เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 16:15:19

ความคิดเห็นที่ 32 คุณคนมีแฟนขับ (chun_cx)  ขอบคุณค่ะที่แวะมาเที่ยวด้วยกัน คุณตระเวนเที่ยว สวยไหมค๊ะ แต่ของจริงแจ่มกว่านี้อีก ฝีมือยังไม่ถึง อิอิ คุณชายเอ ได้ๆ คราวหน้าจะเรียกไป แต่ถ้าพาไปมอไซค์ ไม่ไปน๊า กลัวทำเค้าหล่น อิอิ คุณบอย ไปขุดมารีวิวเลย จะได้แอบขโมยมุมบ้าง ฝีมือเค้าจะได้พัฒนาตามเพ่ไง ^0^ คุณนายเก่าคนก่อน มีคำตอบมาให้แต่จะแวะมาอ่านไหมเนี่ย อิอิ เดิมเป็นหมู่บ้านที่ขึ้นกับอำเภอแพงพวย  เมืองราชบุรี ทางการได้แบ่งอำเภอแพงพวยเป็น 2 อำเภอ คืออำเภอสี่หมื่นและอำเภอดำเนินสะดวก และบ้านบางคนที อยู่ในเขตปกครองของอำเภอสี่หมื่น บ้านบางคนที สมัยนั้นเรียกว่า “บางกุลฑี”  แปลว่า หม้อน้ำมีหูที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยน้ำ เรียกมาช้านานจนเพี้ยนเป็น “บางกับที”  ในหมู่บ้านมีวัดเก่าแก่สองวัด คือวัดบางคณฑีใน และวัดบางคณฑีนอก ชาวบ้านจึงเรียกชื่อหมู่บ้านเป็น “บางคนที” และใช้เป็นภาษาราชการจนมาถึงปัจจุบัน แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 54 16:19:59 จากคุณ : hollaneung เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 16:18:38

ความคิดเห็นที่ 33 อยากตามไปเที่ยวด้วยคนจัง จัดเต็มทั้งภาพและข้อมูล ชอบ ๆ คะ จากคุณ : ทางข้างหน้า เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 16:22:31

ความคิดเห็นที่ 34    คุณแม่จีน-ไท ไม่ต้องกังวลค่ะ สนใจว่าแวะมาเยี่ยมกันมากกว่าค่ะ แต่ของที่นี่ถูกน๊า อร่อยมากๆ ฟันธง แต่หนึ่งไม่แน่ใจว่าตลาดน้ำอัมพวา ของถูกหรือเปล่าแต่ถ้าเป็นที่เล็กๆ คนน้อยๆ ที่หนึ่งไปอ่ะ ถูกอร่อยดี ประทับใจจริงๆ ค่ะ    น้าม่วง ช่ายค่ะ บางเรื่องไม่เคยรู้ก็ได้รู้จากคุณลุง หนึ่งชอบที่นี่มาก ไว้กลับมาจะมาเล่าวิถีชีวิตน่ารักๆ ของคนที่นีให้ฟังนะค๊ะ ขอบคุณมากค่ะที่ติดตามอ่านกัน เพราะมันยาวไปนิดนึง คริคริ   คุณ littleเจ๊ อิอิ ชื่อน่ารักเชียวค่ะ เชิญเที่ยวเลยค่ะ จังหวัดนี้ ชอบมาก มีเสน่ห์ที่ความเงียบและความจริงใจนี่แหละค่ะ^^ คุณทางข้างหน้า ไว้คราวหน้า ขออาสาเป็นไกด์ให้นะค๊ะ ขอบคุณค่ะที่แวะมาเม้าเป็นเพื่อนกัน   แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 54 16:27:28 จากคุณ : hollaneung เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 16:25:04

ความคิดเห็นที่ 35 อ่านจบรุ พี่หนึ่งเก่งจัง ไปเที่ยวแล้วยังได้คุยกับคนพื้นที่ จนได้เรื่องได้ราวนี้หนูว่าเจ๋งสุดๆๆน่ะ   มันมากกว่าภาพถ่ายนะ ตั้งร้อยกว่าปี อ่านแล้วอินเลย เวลาทำให้อะไรหลายๆอย่างมีคุณค่ามากขึ้นเนอะ ว่าไปหนูเคยไปเที่ยวโบสถ์อยู่ครั้งเดียว เที่ยวแบบดูๆๆ ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราว เพิ่งจะได้อะไรจากรีวิวพี่หนึ่งนี้แหละ .........กรี๊ดดดมาเลยไง 555+ ถ่ายรูปสวยอีกแล้ว รู้ป่ะ ดูแล้วคิดถึงที่นี้ อ่ะ http://www.erawan-museum.com/thai/main.html เคยดูแต่รูปภาพ ถ้าได้เรื่องจากพี่หนึ่งด้วยคงเจ๋งมากกก ว่างๆ พาไปเที่ยวน๊า รอตามไปเที่ยว  Home stay trip ด้วย และก็ ราชบุรี อีกนะ รอๆๆ   ^^ จากคุณ : P r i m t a a เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 17:54:17

ความคิดเห็นที่ 36 โบสถ์นี้สวยทั้งข้างนอกและข้างในเลยค่ะ    อย่างนี้หรือเปล่าที่เขาเรียกว่างามอย่างมีคุณค่า...  อิอิ จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 18:58:29

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณมากๆครับผม จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 19:56:13

ความคิดเห็นที่ 38 โบสถ์สวยจ้าาาา พร้อมบอกความเป็นมาให้ซะละเอียดเลยเชียว รอชม home stay คร้าบบบบ จากคุณ : Koon Shy_Tour Dee เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 20:33:38

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณสำหรับเรื่องเล่ามากๆครับ รู้จักโบสถ์นี้มากขึ้นเยอะเลยครับ จากคุณ : tataweb เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 21:05:15

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 23:05:58

ความคิดเห็นที่ 41 สวยงามมากค่ะ..คุณหนึ่ง ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ จากคุณ : ยิ้มไม่หุบ เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 23:34:16

ความคิดเห็นที่ 42 เมื่อตอนบ่าย เหมือนจะว่าง แต่ปรากฏงานเข้าซะงั้น มีประชุม 2 งานซ้อนเลย เลยต้องมาเก็บตกต่อตอนดึกๆ ภาพงามจริงๆนะคุณหนึ่ง ทั้งๆที่ใกล้ กทม แต่ผมยังไม่เคยไปเลยครับ ต้องหาโอกาสไปให้ได้เลย เพราะของกินแถวนั้นอร่อย ส่วนโบสถ์ถือเป็นของแถมละกัน จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 01:15:40

ความคิดเห็นที่ 43 เข้ามาชมเรื่องราวดีดีผ่านมุมมองคุณหนึ่งด้วยงับ ใกล้ๆ กทม นี่ก็มีที่ที่น่าสนใจเยอะเหมือนกันเนอะ จากคุณ : จูลายกะปลายฟ้า (July 15th) เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 01:54:21

ความคิดเห็นที่ 44 โบสถ์สวย ข้อมูลละเอียดมากจ้ะหนูหนึ่ง   จากคุณ : เตี้ยอ้วนชวนไถล เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 11:15:22

ความคิดเห็นที่ 45 เข้ามาดูว่าเคยเห็นที่ไหนน๊า..โบสถ์นี้ เพิ่งจะนึกออกว่า อ้อ เคยไปแรลลี่หาโบสถ์นี้นั่นเอง ...555  ข้างในงามจริง ๆ ค่ะ จากคุณ : คุณแม่ติดเน็ต เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 11:40:30

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ จากคุณ : - The hoBByist - เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 19:04:02

ความคิดเห็นที่ 47 สวย  ขอบคุณที่พาไปเที่ยวครับ จากคุณ : เล็กทาโร่ เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 19:34:44

ความคิดเห็นที่ 48 งามจริงเลยน้องหนึ่ง จากคุณ : Palm Jung Won เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 21:51:32

ความคิดเห็นที่ 49 ประทับใจวัดนี้เหมือนกันค่า จากคุณ : Bpearl เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 54 22:31:00

ความคิดเห็นที่ 50 เข้ามาอีกรอบจ๊ะ โบสถ์สวยงามมาก แถมยังได้ความรู้กลับไปอีก พี่ไม่มีรู้อะไีรต่ออะไรเยอะเลย ขอบใจหนึ่งสำหรับกระทู้พาเที่ยวโบสถ์บางนกแขวกที่สวยงาม น่าประทับใจแห่งนี้น่ะจ๊ะ จากคุณ : มาเรีย ณ ไกลบ้าน เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 03:09:17

ความคิดเห็นที่ 51 บางครั้งแค่เพียงเสี้ยวนาทีก็มีความสุขค่ะ จากคุณ : SOYU_K เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 11:52:53

ความคิดเห็นที่ 52 ตามคุณหนึ่งมาเก็บความทรงจำดีดี ณ บางคนที ด้วยคนนะคะ เคยผ่านและแวะเวียนไปจังหวัดนี้บ่อยครั้ง แต่ที่บางคนทียังไม่เคยไปเลยค่ะ ขอบคุณที่พาเที่ยวนะคะ จากคุณ : คนช่างฝัน สาวข้างบ้าน เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 18:58:05

ความคิดเห็นที่ 53 พลาดรีวิวน้องอึ่งได้ไงไม่รู้ เคยไปโบสถ์นี้เมื่อหลายสิบปีแล้ว  ชอบบรรยากาศรอบ ๆ โบสถ์มาก จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 23:13:58

ความคิดเห็นที่ 54 ขอบคุณภาพโบสถ์สวยๆ  ข้อมูลดีๆ ค่ะ ^^ จากคุณ : DOGHALL เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 01:03:33