ความคิดเห็นที่ 1 หลวงพ่อทองคำ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 18:15:36

ความคิดเห็นที่ 2 สถานที่ตั้งของวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร   ๖๖๑ ถนนเจริญกรุง แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร ๑๐๑๐๐ โทร. ๐๒-๖๒๓-๓๓๒๙, ๐๒-๖๒๓-๑๒๒๗ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 18:17:21

ความคิดเห็นที่ 3 ประวัติของ"พระมหามณฑปเฉลิมพระเกียรติ" เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงครองสิริราช สมบัติครบ ๖๐ ปี ในปี พ.ศ. ๒๕๔๙ และทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษาในปี พ.ศ. ๒๕๕๐ ประชาคมนักธุรกิจเขตสัมพันธวงศ์ ชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีน ร่วมกับวัดไตรมิตรวิทยารามและพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย จึงได้จัดให้มี “โครงการจัดสร้างพระมหามณฑปประดิษฐานพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (หลวงพ่อทองคำ) วัดไตรมิตรวิทยาราม” ขึ้น ด้วยความมุ่งหวังว่าพระมหามณฑปหลังใหม่นี้ จะมีความวิจิตรงดงามควรค่าแก่องค์หลวงพ่อทองคำ อีกทั้งยังเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสอันเป็นมหามงคลนี้ด้วย จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 18:20:39

ความคิดเห็นที่ 4 ประวัติความเป็นมาขององค์พระพุทธมหาสุวรรณปฎิมากร หรือ"หลวงพ่อทองคำ แต่เดิมพระพุทธรูปองค์นี้ถูกพอกปิดด้วยปูนทั่วทั้งองค์ พุทธลักษณะภายนอกไม่งดงามหรือโดดเด่น จากหลักฐานที่ปรากฏพบว่า เคยประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดโชตินาราม หรือวัดพระยาไกร มาตั้งแต่แผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ต่อมาวัดพระยาไกรขาดคนบูรณปฏิสังขรณ์ จึงตกอยู่ในสภาพรกร้าง ราว พ.ศ. ๒๔๗๔ บริษัท อีสต์เอเซียติก จำกัด ซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับสัมปทานป่าไม้ ได้ขอเช่าที่จากรัฐบาล เข้าจัดสร้างโรงเลื่อยไม้ขนาดใหญ่ในบริเวณวัดร้างแห่งนี้ มีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ชำรุดทรุดโทรมของวัดพระยาไกรออกจนเหลือแต่พระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 18:23:22

ความคิดเห็นที่ 5 ในขณะนั้น “วัดสามจีน” ซึ่งภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็นวัดไตรมิตรวิทยาราม กำลังอยู่ในระหว่างการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ทั่วทั้งพระอาราม โดยสร้างวิหารสำหรับประดิษฐานพระพุทธรูปเพิ่มเติม สมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) เจ้าคณะแขวงล่าง เห็นว่า จะปล่อยองค์พระพุทธรูปปูนปั้นให้อยู่ที่เดิมต่อไปจะเป็นการไม่สมควร ประกอบกับวัดสามจีน มีสถานที่กว้างขวางเหมาะสมกับการประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ จึงมอบให้คณะกรรมการวัดสามจีน อันประกอบด้วย พระมหาเจียม กมโล, พระมหาไสว ฐิตวีโร (พระวิสุทธาธิบดี), น.อ. หลวงศุภชลาศัย (บุง ศุภชลาศัย), ร.น. หลวงบริบาลเวชกิจ (ยู้ ลวางกูล), นายสนิท เทวินทรภักดี ร่วมกันอัญเชิญพระพุทธรูปองค์นี้จากวัดพระยาไกรมาประดิษฐานยังวัดสามจีน พระพุทธรูปปูนปั้นจึงถูกอัญเชิญมาตั้งแต่นั้น โดยในขณะที่ยังบูรณปฏิสังขรณ์พระอารามไม่แล้วเสร็จ คณะกรรมการวัดได้ประดิษฐานองค์พระพุทธรูปไว้ข้างเจดีย์เป็นการชั่วคราว ในระหว่างนี้ มีผู้มาขออัญเชิญไปประดิษฐานยังวัดต่าง ๆ มากมาย แต่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายไปได้ การก่อสร้างพระอาราม พระวิหารต่าง ๆ ในวัดสามจีน ใช้เวลาเนิ่นนาน จนล่วงเลยไปถึง ๒๐ ปี ใน พุทธศักราช ๒๔๙๘ การบูรณะจึงเสร็จสิ้นเรียบร้อย จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 18:26:16

ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อทุกอย่างสมบูรณ์พร้อม ท่านเจ้าคุณพระวิสุทธาธิบดี (ไสว ฐิตวีรมหาเถระ ป.ธ.๗) เจ้าอาวาสซึ่งขณะนั้นมีสมณศักดิ์เป็นพระวีรธรรมมุนี ผู้ดำเนินการสร้างวิหารที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นจนแล้วเสร็จ ได้เป็นแม่กองเคลื่อนย้ายพระพุทธรูปปูนปั้นองค์นี้ เพื่อนำขึ้นประดิษฐานยังพระวิหารซึ่งตรงกับวันที่ ๒๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๘ การเคลื่อนย้ายเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากองค์พระมีขนาดใหญ่ และหนักมาก ต้องใช้ปั้นจั่นยกองค์พระพุทธรูป ในขณะทำการยกนั้น ปรากฏว่า ลวดสลิงที่ยึดองค์พระเกิดขาดเพราะทานน้ำหนักองค์พระไม่ไหว องค์พระพุทธรูปจึงตกลงกระแทกบนพื้นอย่างแรง พอดีกับเวลานั้น เป็นเวลาใกล้ค่ำ และฝนก็บังเอิญตกอย่างหนัก การอัญเชิญพระพุทธรูปในวันนั้น จึงเป็นอันต้องหยุดชะงักลง ในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น ท่านเจ้าอาวาส ได้มาตรวจดูองค์พระ เพื่อหาทางอัญเชิญขึ้นประดิษฐานใหม่ ก็ได้พบเห็นรอยแตกที่พระอุระ และเห็นรักที่ฉาบผิวองค์พระด้านใน เมื่อแกะรักออก ก็ได้พบเนื้อทองคำบริสุทธิ์งามจับตาอยู่ชั้นในสุด ท่านเจ้าอาวาส จึงสั่งการระดมผู้คนช่วยกันกะเทาะปูน และลอกรักออกหมดทั้งองค์ ความงดงามแห่งเนื้อทองบริสุทธิ์ขององค์พระปฏิมาจึงปรากฏให้เห็นพร้อมพุทธลักษณะที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง กลายเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สกุลช่างสุโขทัย ที่งดงามจับตาจับใจผู้พบเห็นยิ่งนัก จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 18:28:28

ความคิดเห็นที่ 7 ความยากลำบากในการเคลื่อนย้ายหมดสิ้นลงเมื่อมีการคุ้ยดินใต้ฐานทับเกษตรออก และพบกุญแจกลสำหรับถอดองค์พระออกเป็นส่วน ๆ ได้ ๙ ส่วน เพื่อสะดวกต่อการอัญเชิญขึ้นประดิษฐานยังพระวิหาร จึงดำเนินการถอดองค์พระออกแต่เพียง ๔ ส่วน คือ ส่วนพระศอ ส่วนพระหัตถ์ทั้ง ๒ ข้าง และส่วนพระนาภี ทำให้สามารถอัญเชิญพระพุทธรูปทองคำองค์นี้ ขึ้นประดิษฐานยังพระวิหาร ซึ่งเป็นสถานที่ที่ได้จัดเตรียมไว้โดยราบรื่น การค้นพบพระพุทธรูปทองคำปางมารวิชัยของวัดไตรมิตรวิทยารามในครั้งกระนั้น ได้เป็นข่าวสำคัญอย่างอึกกะทึกครึกโครมไปทั่วทั้งประเทศ หนังสือพิมพ์ฉบับต่าง ๆ หลายฉบับ ต่างก็พากันประโคมข่าวกันอย่างกว้างขวาง ท่ามกลางความปลื้มปีติยินดีของพุทธศาสนิกชนทั่วหน้า มีการตรวจสอบ และประเมินเนื้อทองขององค์พระพุทธรูปซึ่งเป็นทองคำบริสุทธิ์ เรียกว่า ทองเนื้อเจ็ด น้ำสองขา (มาตราทองคำของไทยโบราณตั้งไว้ตั้งแต่ทองเนื้อสี่ คือทองหนัก ๑ บาท จะมีค่า ๔ บาท ทองเนื้อเจ็ด คือทองหนัก ๑ บาท จะมีค่า ๗ บาท ซึ่งเป็นทองที่มีค่าของเนื้อทองรองจากทองนพคุณหรือทองเนื้อเก้า ซึ่งทองเนื้อเก้าจะเริ่มพบที่บางตะพานในแผ่นดินพระเจ้าบรมโกศ เรียกกันว่าทองคำบางตะพาน ส่วนคำว่าสองขาหมายถึง ๒ สลึง) มีน้ำหนักกว่า ๕ ตัน คิดเป็นน้ำหนักทองคำ ๒๕,๐๐๐ ปอนด์ หรือคิดเป็นมูลค่าเฉพาะเนื้อทองคำในขณะนั้น (พ.ศ. ๒๔๙๘ ) ๑๔ ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ ๒๙๔,๐๐๐,๐๐๐ บาท (สองร้อยเก้าสิบสี่ล้านบาท) อันเป็นราคาทองคำที่ถูกประเมินในครั้งแรก จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 18:30:17

ความคิดเห็นที่ 8 พระพุทธรูปทองคำสุโขทัยไตรมิตร หรือ พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร นับเป็น “พระพุทธรูปทองคำบริสุทธิ์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก” หนังสือกินเนสบุ๊ค ฉบับปี ค.ศ. ๑๙๙๑ (พ.ศ. ๒๕๓๔) ได้ทำการประเมินค่าอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายน ค.ศ. ๑๙๙๐ (พ.ศ. ๒๕๓๓) และบันทึกไว้ว่า เป็นพระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีมูลค่าเฉพาะเนื้อทองคำสูงถึง ๒๑.๑ ล้านปอนด์ แล้วบันทึกลงเป็นข้อความว่า Highest intrinsic value is the 15th-century gold Buddah in Wat Trimitr Temple in Bangkok, Thailand. It is 3-04 m 10 ft tall and weighs an estimated 51/2 tonnes. At the April 1990 price of $ 227 per fine ounce, its intrinsic worth was $ 21.1 million. The gold under the plaster exterior was found only in 1954. ข้อมูลทั้งหมดจากเว็บไซต์  http://www.wattraimitr-withayaram.com จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 18:32:16

ความคิดเห็นที่ 9 หลังจากที่ชื่นชมกับบารมีและความงามขององค์หลวงพ่อทองคำ ซึ่งประดิษฐานอยู่บนชั้นที่ 4 ของพระมหามณฑปจนเป็นที่พอใจแล้ว  ก็ลงไปเยี่ยมชมชั้นต่างๆ ของพระมหามณฑปกัน เริ่มจากชั้นที่ 3 ซึ่งเป็น ห้องนิทรรศการพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 18:39:02

ความคิดเห็นที่ 10 เป็นห้องจัดนิทรรศการที่นำเสนอข้อสันนิษฐานเรื่องแหล่งที่สร้างและอายุสมัยของพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร รวมถึงวิธีการสร้างโดยมีโมเดลและสื่อผสมแสดงขั้นตอนการทำแม่พิมพ์ การหล่อองค์พระ ตามวิธีการของช่างไทยโบราณ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 18:41:15

ความคิดเห็นที่ 11 มีการอธิบายลักษณะของพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัย หมวดใหญ่ที่ถือว่าเป็นพระพุทธรูปแบบที่งดงามที่สุดในศิลปะไทย. อีกทั้งยังมีการจำลองการพอกปูนทับ และลงรักปิดทอง เพื่อเป็นการนำเสนอข้อสันนิษฐานถึงสาเหตุที่มีการพอกปูนทับองค์พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร พร้อมจัดแสดงโมเดลอธิบายขั้นตอนการพอกปูนและลงรักปิดทองตามวิธีการของช่างศิลป์ไทย จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 18:43:51

ความคิดเห็นที่ 12 มีประวัติการอัญเชิญมาประดิษฐานที่วัดพระยาไกร นำเสนอข้อสันนิษฐานว่าเหตุใดพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากรซึ่งเป็นพระพุทธรูปสุโขทัย จึงมาปรากฎอยู่ที่วัดพระยาไกร ในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร โดยมี Diorama แสดงวิธีการเคลื่อนย้ายองค์พระในสมัยนั้น. แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 54 18:45:17 จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 18:44:45

ความคิดเห็นที่ 13 และมีการบอกเล่าเรื่องราวการอัญเชิญพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากรจากวัดพระยาไกรสู่วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยมี Diorama แสดงการอัญเชิญองค์พระมาบนรถบรรทุกตามถนนเจริญกรุงเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๘. จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 18:46:19

ความคิดเห็นที่ 14 จิตกรรมฝาผนังที่สวยงามท่ามกลางจอวีดิทัศน์บอกเล่าเรื่องราวของพระพุทธมหาสุวรรณปฎิมากร จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 18:49:05

ความคิดเห็นที่ 15 จากนั้นก็ลงไปยังชั้น 2 ซึ่งเป็น ห้องนิทรรศการ ศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 18:50:18

ความคิดเห็นที่ 16 แบ่งออกเป็นห้องๆ ซึ่งเป็นการเล่าเรื่องราวของชาวจีนในประเทศไทยตั้งแต่เข้ามาตั้งรกรากจนถึงปัจจุบัน จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 18:53:52

ความคิดเห็นที่ 17 บอกเล่าถึงจุดกำเนิดของชุมชนจีนที่สำเพ็ง และการเข้ามาของชาวจีนโพ้นทะเลในช่วงสมัยรัชกาลที่ 1-3 จนกระทั่งสำเพ็งกลายเป็นย่านการค้าที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ ในยุคนั้น สัมผัสประสบการณ์การเดินทางด้วยเรือสำเภาหัวแดงจากเมืองจีนสู่ผืนแผ่นดินไทย และเดินเข้าสู่ตลาดสำเพ็ง สมัยรัชกาลที่ 3 ที่จำลองขึ้นใหม่ในบรรยากาศเสมือนจริง. จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 18:54:50

ความคิดเห็นที่ 18 มีการจำลองภายในเรือสำเภาของชาวจีนที่นำสินค้าเข้ามาค้าขายในเมืองไทยในสมัยโบราณ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 18:57:24

ความคิดเห็นที่ 19 รวมทั้งศิลปะวัฒนธรรมของจีนที่เข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยด้วย จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 18:58:21

ความคิดเห็นที่ 20 รวมทั้งขนบธรรมเนียมประเพณีและการนับถือศาสนาต่างๆ ที่ชาวจีนนับถืออีกด้วย จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 18:59:25

ความคิดเห็นที่ 21 หุ่นจำลองชาวจีนในอาชีพต่างๆ ในสมัยโบราณ อาทิ การทำโคมไฟกระดาษ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 19:01:15

ความคิดเห็นที่ 22 หุ่นจำลองร้านค้าของชาวจีนในสมัยโบราณ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 19:03:55

ความคิดเห็นที่ 23 อริยบทในการนั่งกินข้าวที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวจีนสมัยโบราณ "นั่งยองยอง" จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 19:05:31

ความคิดเห็นที่ 24 และการจำลองขนมทานเล่นของจีนที่สืบทอดมาจากแผ่นดินใหญ่ "จุ๋ยก๋วย" จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 19:06:45

ความคิดเห็นที่ 25 ไม่ได้ไปนานแล้ววัดไตรมิตร ตามคุณน้อยไปไหว้พระด้วยคนนะคะ จากคุณ : คนช่างฝัน สาวข้างบ้าน เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 19:07:43

ความคิดเห็นที่ 26 ถัดจากห้องหุ่นจำลอง ก็เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของคนจีนในรัชกาลต่างๆ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 19:08:53

ความคิดเห็นที่ 27 ยินดีต้อนรับครับคุณคนช่างฝัน สาวข้างบ้าน ................................................................................................. ห้องถัดไปเป็นห้องเส้นทางสู่ยุคทอง (พ.ศ. ๒๓๙๔ - ๒๕๐๐)  จัดแสดงพัฒนาการของชุมชนจีนจากตลาดสำเพ็งสู่ความเป็นย่านธุรกิจสมัยใหม่ที่ถนนเยาวราช สัมผัสบรรยากาศภายในสำนักงานบริษัทค้าข้าวที่ถนนทรงวาดสมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นความเจริญรุ่งเรืองของย่านการค้าเยาวราช แล้วชมโมเดลขนาดใหญ่ที่จำลองถนนเยาวราชในยุคเฟื่องฟูที่สุดช่วง พ.ศ. 2500 ซึ่งเยาวราชเป็นย่านธุรกิจและแหล่งบันเทิงที่ทันสมัยที่สุดของกรุงเทพฯ ทั้งยังเป็นที่ตั้งของตึกสูงที่สุดของประเทศถึง 3 ตึก โดยรอบโมเดลยังมี Diorama 11 ฉากที่แสดงเรื่องราววิถีชีวิตที่ช่วยให้เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อวิถีทางสังคมของชาวเยาวราชในยุคนั้น. จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 19:42:20

ความคิดเห็นที่ 28 มีหุ่นจำลองตัวเล็กๆ ที่แสดงกิจกรรมต่างๆ ในสมัยนั้น อาทิ พิธีการแต่งงานแบบจีน จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 19:43:50

ความคิดเห็นที่ 29 วิถีชีวิตและการค้าขายของคนจีน จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 19:44:52

ความคิดเห็นที่ 30 ธุรกิจร้านทองที่เจริญรุ่งเรืองในเยาวราช จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 19:45:51

ความคิดเห็นที่ 31 ร้านขายยาจีนแผนโบราณ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 19:46:42

ความคิดเห็นที่ 32 ประเพณีและการนับถือศาสนา จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 19:47:31

ความคิดเห็นที่ 33 การชมการแสดงอุปรากรจีนหรือ งิ้วจีน จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 19:49:39

ความคิดเห็นที่ 34 เคยไปนมัสการหลวงพ่อทองคำที่วัดไตรมิตรครั้งเดียวเองค่ะ แต่ยังไม่เคยได้มีโอกาสไปชมชั้นอื่นๆ  เลย ขอบคุณคุณ noi ที่พาชมนะคะ จากคุณ : Yai Klong_Tour Rai เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 19:50:50

ความคิดเห็นที่ 35 โถงกลางของห้องจัดมีจัดแสดงโมเดลจำลองอาคารบ้านเรือนในเยาวราชสมัยโบราณ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 19:50:56

ความคิดเห็นที่ 36 <ตามไปดูบางมุม ที่ไม่ได้ไป ... รูปสวยจังค่ะ แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 54 19:52:26 จากคุณ : kungtalay เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 19:52:06

ความคิดเห็นที่ 37 ยินดีต้อนรับครับคุณบง Yai Klong_Tour Rai  ลองไปเดินชิลๆ อีกสักครั้งสิครับ น่าสนใจดี ................................................................................................. อีกหนึ่งมุม จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 19:52:44

ความคิดเห็นที่ 38 ยินดีต้อนรับครับคุณkungtalay ตามไปชมต่อนะครับ ................................................................................................. แม่กับลูก จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 19:54:35

ความคิดเห็นที่ 39 ขอไปไหว้หลวงพ่อทองคำด้วยคน จากคุณ : narasri เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 19:56:40

ความคิดเห็นที่ 40 ยังไม่เคยไปวัดไตรมิตรเลย ขอตามคุณน้อย ไปด้วยนะครับ จากคุณ : BANBONDOI เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 19:56:44

ความคิดเห็นที่ 41 ถัดไปก็คือ ห้องตำนานชีวิต Hall of Fame ประกอบวีดิทัศน์แสดงตำนานชีวิตของบุคคลชาวเยาวราชที่เป็นแบบอย่างและสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นหลัง ในการก่อร่างสร้างตัวจากมือเปล่าสู่ความเป็นเจ้าสัว และเผื่อแผ่ดอกผลจากความสำเร็จของตนกลับคืนสู่สังคม หลายคนได้สร้างคุณประโยชน์อันใหญ่หลวงตอบแทนให้กับประเทศไทย. (ห้องนี้ไม่ได้ถ่ายรูปมาเลย) ถัดจากห้องตำนานชีวิต ก็เป็นห้องพระบารมีปกเกล้า  แกลเลอรี่ภาพถ่ายและวีดิทัศน์จัดแสดงเรื่องพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ในรัชกาลปัจจุบันต่อชุมชนเยาวราช และพระราชกรณียกิจมากมายที่เชื่อมประสานสายสัมพันธ์สองแผ่นดินไทย - จีนให้แนบแน่น. จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 19:57:31

ความคิดเห็นที่ 42 และห้องสุดท้ายคือ ห้องเยาวราชวันนี้  นำเสนอภาพลักษณ์ที่โดดเด่น 4 แง่มุมของเยาวราชที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งได้รับการขนานนามว่า “ไชน่าทาวน์” ของกรุงเทพฯ ได้แก่ ถนนสายทองคำ ย่านตลาดใหญ่ที่สุดของประเทศ แหล่งวัฒนธรรมประเพณีจีน และแห่งรวมอาหารอร่อย นอกจากนี้ยังมีคอมพิวเตอร์ทัชสกรีนเพื่อสืบค้นข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในย่านเยาวราช. จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 19:59:24

ความคิดเห็นที่ 43 ยินดีต้อนรับครับคุณ narasri ยินดีต้อนรับครับคุณBANBONDOI  ลองไปดูสักครั้งสิครับ ................................................................................................. การแต่งหน้าที่สวยงามของอุปรากรจีนที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 20:01:18

ความคิดเห็นที่ 44 โคมไฟสีแดงมงคล จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 20:02:15

ความคิดเห็นที่ 45 ลงจากพระมหามณฑป วัดไตรมิตร ก็ข้ามกลับที่ ศาลเจ้าแม่กวมอิม ที่ มูลนิธิเทียนฟ้า เพราะจอดรถไว้ที่นี่ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 20:04:06

ความคิดเห็นที่ 46 รูปวาดเทพเจ้าที่เป็นที่เคารพสักการะของชาวจีนที่มูลนิธิเทียนฟ้า จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 20:05:22

ความคิดเห็นที่ 47 อีกภาพ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 20:05:40

ความคิดเห็นที่ 48 องค์พระสวยมากๆ เลยครับ ได้ดูแล้วรู้สึกดีจังเลย ^^ จากคุณ : นายโอเลี้ยง (ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง) เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 20:06:01

ความคิดเห็นที่ 49 ยังมีภาพวาดเจ้าแม่กวนอิมในปางต่างๆ ด้วย จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 20:06:34

ความคิดเห็นที่ 50 เข้ามากราบนมัสการพระพุทธรูปทองคำด้วยคนครับคุณน้อย ภาพงามมากๆ เลยครับ จากคุณ : จิ้งจอกหลงกรุง เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 20:07:20

ความคิดเห็นที่ 51 ยินดีต้อนรับครับคุณนายโอเลี้ยง (ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง) ใช่เลยครับงามมากมายเลยครับ ................................................................................................. อีกหนึ่งปาง จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 20:08:08

ความคิดเห็นที่ 52 ยินดีต้อนรับครับคุณจิ้งจอกหลงกรุง ขอบคุณครับ ................................................................................................. ลากันไปด้วยภาพอีกหนึ่งปางของเจ้าแม่กวนอิม  แล้วพบกันใหม่ในรีวิวต่อไปนะครับ สำหรับวันนี้โชคดีราตรีสวัสดิ์นะคร๊าบ จากคุณ : noiwanwannoi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 20:13:01

ความคิดเห็นที่ 53 โอ้โห...ภาพและบรรยากาศได้ความรู้สึกมากครับคุณ noi จากคุณ : Koon Shy_Tour Dee เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 21:11:39

ความคิดเห็นที่ 54 ตามไปไหว้พระด้วยคนครับ^^ จากคุณ : ม่วงมหากาฬ เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 21:40:49

ความคิดเห็นที่ 55 ตามมาไหว้พระด้วยครับ จากคุณ : tiger's nest เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 22:01:26

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ จากคุณ : inint&anant เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 22:03:16

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : tataweb เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 22:06:03

ความคิดเห็นที่ 58 ...ตามมาไหว้หลวงพ่อทองคำวัดไตรมิตรด้วยคนนะคะ   องค์พระสวยงามมากๆ เลยนะคะ เคยไปคนเยอะมากๆ เลยค่ะ ^-^ จากคุณ : จูลายกะปลายฟ้า^-^ (ปลายฟ้าที่ภูตะวัน) เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 22:57:59

ความคิดเห็นที่ 59 น่าไปมากๆค่ะ ขอบคุณนะคะที่เอามาแบ่งปัน จากคุณ : แผนลวงสำเร็จแล้ว เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 23:23:02

ความคิดเห็นที่ 60 ตามพี่น้อยมากราบพระด้วยครับ ดูรีวิวเข้าวัดแบบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย ไม่เหมือนกับของพี่เสือ 555+ จากคุณ : Coffee Blended เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 54 01:41:58

ความคิดเห็นที่ 61 เข้ามากราบนมัสการพระด้วยคนค่ะ พี่น้อย   จากคุณ : hollaneung เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 54 10:30:38

ความคิดเห็นที่ 62 แวะมาชมครับ ขอตามไปไหว้พระด้วยคน มาช้าไปนิด ยังทันไหมครับเนี้ย ขอบคุณสำหรับรีวิวนะครับ จากคุณ : กัปตันลูกชุบ เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 54 16:16:01

ความคิดเห็นที่ 63 สาธุ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 54 22:12:52

ความคิดเห็นที่ 64 ข้อความซ้ำขอโทษนะคะ   แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 54 22:17:04 จากคุณ : สาวหน้าใส เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 54 22:13:37

ความคิดเห็นที่ 65 ขอบคุณครับ จากคุณ : คนมีแฟนขับ (chun_cx) เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 54 16:23:41

ความคิดเห็นที่ 66 ตามไปไหว้พระด้วยคนนะครับ อยากไปจังสงสัยต้องหาเวลาไปนมัสการเองบ้างแล้วครับ จากคุณ : biGbOySalaDbAr เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 23:53:07