ความคิดเห็นที่ 1 เป็นการลดมลภาวะทางเสียงเพื่อประโยชน์และบรรยากาศคนส่วนมากครับ มีคนใช้สนามบินวันละหลายแสนคนครับ จากคุณ : Dreadnought เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 20:59:22

ความคิดเห็นที่ 2 เห็นใจ จขกท แต่เห็นด้วยกับ คห1 จากคุณ : Dreammandy เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 21:10:49

ความคิดเห็นที่ 3 ผมเข้าใจเจ้าของกระทู้นะครับว่ารู้สึกอย่างไร แต่อย่างไรก็ตามเราในฐานะพลเมืองของรัฐ ก็ควรเสียสละประโยชน์ส่วนตน แก่ประโยชน์ส่วนรวม "แต่หากไม่มีมาตรการงี่เง่าอันนี้ของสนามบิน เรื่องอาจจบไปตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องแล้ว" ผมเห็นว่ามาตราการงี่เง่าที่เจ้าของกระทู้บอกเนี่ย คงเป็นเฉพาะชนกลุ่มน้อยของสังคมเท่านั้นที่คิดแบบนี้ จากคุณ : Microkosmos เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 21:17:53

ความคิดเห็นที่ 4 เห็นใจ จขกท และเข้าใจความรู้สึกเช่นกันครับ แต่ความรู้สึกส่วนตัว ผมอยากได้ Silence Airport นะครับ วัตถุประสงค์ของเครื่องเสียงที่ติดทั้งอาคารใหญ่แบบนี้ ควรใช้ประกาศเรื่องสำคัญๆ ในระดับคนหมู่มาก เช่น ประกาศฉุกเฉิน เป็นต้น ส่วนในเวลาปกตินั้นเปิดเพลงบรรเลงคลอๆ สร้างบรรยากาศ ซึ่งสนามบินชั้นดีทั่วโลกก็เป็นเช่นนี้ เพราะในสนามบินมีคนเป็นพันๆ คน ถ้าต้องถูกรบกวนอยู่บ่อยครั้ง มันเป็นสภาพแวดล้อมที่ไม่ดีเอาซะเลย ส่วนเรื่องระดับบุคคล เราใช้การโทรตามเป็นรายบุคคลน่าจะดีต่อคนหมู่มากกมากกว่า เพราะบางทีเรารู้สึกเดือดร้อนจังเลย แต่การแก้ปัญหาของเราอาจจะทำให้กระทบหรือรบกวนคนหมู่มากด้วยโดยไม่จำเป็น ซึ่งบางทีเราอาจจะลืมคิดในจุดนี้ไป โดยถ้ากลับมามองดูแล้วยังไงเสียคนหมู่มากก็ต้องให้ความสำคัญกว่าปัญหาในระดับบุคคลนะครับ หรือบางทีเราอาจจะชินกับรูปแบบเดิมๆ ที่เครื่องเสียงมันใช้ประกาศเรื่องระดับบุคคลได้ และเขาก็ยินดีช่วยในจุดนั้น แต่ต่อไปนี้เราคงเห็นการท่าพัฒนามาตรฐานสนามบินให้ดีขึ้น ซึ่ง Silence Airport ก็ถือเป็นหนึ่งมาตรการในนั้นที่จะช่วยยกระดับสนามบินให้ดีขึ้น ส่วนตัวก็ขอสนับสนุน และเข้าใจกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนะครับ แก้ไขเมื่อ 11 เม.ย. 54 21:42:21 จากคุณ : COLORS เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 21:36:09

ความคิดเห็นที่ 5 "เราในฐานะพลเมืองของรัฐ ก็ควรเสียสละประโยชน์ส่วนตน แก่ประโยชน์ส่วนรวม" ชอบบบบประโยคนี้ ปล. เราเป็นคุณ เราจะหงุดหงิดกับความซวยของตัวเอง มีฟาดงวงฟาดงารายทาง แบบปัญญาอ่อนบ้าง แต่จะไม่พาลไปว่าระบบที่ดีอยู่แล้ว เพราะเหตุนี้นะ จากคุณ : ริมยมนา เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 21:41:08

ความคิดเห็นที่ 6 ผมเห็นด้วยกับนโยโบาย Silence Airport นะครับสำหรับส่วนรวม แต่ก็เห็นใจเจ้าของกระทู้เหมือนกัน ประการแรก คงไม่มีใครอยากหยิบกระเป๋าผิดกันหรอกนะครับ เพราะเราไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่ในกระเป๋าใบนั้นบ้าง ผมเดาว่า กระเป๋าคงเป็นล้อลากสีดำ ซึ่งหลายคนชอบซื้อแบบนี้ แต่ทางที่ดี ครั้งหน้า จขกท ควรทำกระเป๋าตนเองให้แตกต่างโดยหาสายรัดสีสด หรือ ติดสติ๊กเกอร์ เพื่อกันคนอื่นหยิบผิดด้วยนะครับ จากคุณ : เ ม ฆ ค รึ่ ง ฟ้ า เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 22:08:10

ความคิดเห็นที่ 7 น่าเห็นใจนะคะ   ทางสายการบินน่าจะมีนโยบายอะไรสักอย่างที่เอื้อประโยชน์ให้กับทุกฝ่าย   เช่น ให้ผู้โดยสารทุกท่านแจ้งเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองไว้  และเบอร์ของผู้ที่ใกล้ชิดของผู้โดยสารที่จะติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน จากคุณ : ป้าฟู เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 22:12:25

ความคิดเห็นที่ 8 เเต่มันก็น่ามีนโยบายอะไรมาช่วยกรณีนี้บ้างสิ เช่นป้าย ตัววิ่งตัวโตๆ ตามที่ต่างๆ  ประมาณ  amber alert นี้เเค่ของหายถ้าเด็กพลัดหลงพ่อเเม่เด็กคงบ้าไปเลย  ถ้าได้ยินคำตอบนี้ จากคุณ : remy&chanel เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 22:25:59

ความคิดเห็นที่ 9 ผมเฉยๆ กับเรื่อง silence airport นะ เพราะผมเป็นพวกหูตึง สนามบินจะเอะอะผมก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร แต่ถ้าคนหมู่มากว่าไงก็ว่าตามกัน จากคุณ : David_kop เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 22:35:35

ความคิดเห็นที่ 10 R.I.P จากคุณ : อยากโตไวไว เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 22:36:38

ความคิดเห็นที่ 11 ผมเคยได้ยินเค้าประกาศตามหาเจ้าของ passport ทีลืมไว้นะ เป็นของตางชาติปีทีแล้วเองแบบนี้ประกาศได้เหรอ จากคุณ : XXXXXX เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 22:55:50 A:202.28.180.202 X: TicketID:305647

ความคิดเห็นที่ 12 เกรงว่าจะกลายเป็นตลาดติดแอร์ มีเสียงติ๊งหน่องติ๊งหน่องตลอดเวลา บวกกับเสียงบีบๆดัดๆของพนักงาน ผมอยากได้แบบสงบๆมากกว่าครับ ทุกครั้งที่โหลดกระเป๋า ผมจะหาอะไรมาผูกไม่ก็สติกเกอร์ใหญ่ๆมาติด ไม่ก็กระเป๋าที่ไม่เหมือนชาวบ้าน ไม่งั้นก็จ้องตั้งแต่มันเด้งออกมา ป้องกันไว้ก่อนครับ จากคุณ : boy next door เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 54 23:29:07

ความคิดเห็นที่ 13 เค้าเรียกว่าความ "ซวย" มาเยือนครับ แต่ผมว่าเรื่องแบบนี้ไม่เกิดขึ้นกันบ่อยๆหรอกครับ ที่จริงแล้วคนที่หยิบไปผิดน่ะควรรับผิดชอบเรื่องแบบนี้มากที่สุด มีอย่างที่ไหน หยิบกระเป๋าแล้วไม่ตรวจให้แน่ชัดซะก่อนว่าใช่ของตัวเองรึเปล่า จากคุณ : ลิ้ม (rimu) เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 54 00:05:03

ความคิดเห็นที่ 14 เห็นด้วยกับ จขกท. ครับ จะ silent อะไรกันนักหนา  ไม่ใช่รีสอร์ทส่วนตัวหรือโรงพยาบาลนะครับ  จะต้องงดใช้เสียงขนาดนั้น บาง คห. ก้อบอกว่าให้เสียสละเพื่อส่วนรวม  ส่วนรวมเค้าหนวกหู  ผมถามหน่อยเถอะ จะหนวกหูอะไรมากมายครับ หลายๆคนมีปัญหาส่วนตัว  มีเรื่องเร่งด่วนก็ต้องอาศัยการประกาศช่วยแก้ปัญหาให้  ไม่ใช่ได้รับคำตอบว่าประกาศไม่ได้เพราะมีลำโพงหลักๆแค่ชั้น 4 ไอ้ที่ลดการใช้เสียงลงก็ดีนะ  แต่ silent airport จำเป็นเหรอที่่จะจำกัดลำโพง  ผมว่าจำกัด " การประกาศ " น่าจะดีกว่า  อันไหนสำคัญก็ประกาศให้ อันไหนไม่จำเป็นก็งด น่าจะเอาเวลาไปคิดถึงปัญหาอื่นๆบ้าง เช่นแก๊งค์ลักขโมยของในกระเป๋า  ต.ม. คนเยอะในช่วงเวลาเร่งด่วน  ติดต่อประสานการกับการรถไฟ(ฟ้า)  เรื่องความสะดวกของผู้โดยสารที่จะมายังสนามบิน  อะไรพวกนี้มากกว่านะ นี่เป็นความเห็นส่วนตัวครับ  ถ้าทำให้เพื่อนๆบางคนไม่พอใจก็ขออภัยด้วยนะครับ แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 54 00:11:01 จากคุณ : ประกายแสงสีเหลืองแห่งแอนฟิลด์ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 54 00:08:24

ความคิดเห็นที่ 15 ส่วนตัวกลัวเกิกเหตุแบบนี้แหละ พักหลังเปลี่ยนกระเป๋าเดินทางยกชุด เป็น น้องลิง Kipling สีชมพู แป้ดดดดดด ทั้งเซ็ต เลย  คือทั้งไลน์กระเป๋าของเราแปลกอยู่คนเดียว คนอื่นจะออกสีดำๆๆ เทาๆๆ จากคุณ : ปารีส ฮิลตัน เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 54 00:25:02

ความคิดเห็นที่ 16 ผ่าน ตม แล้วมีเสียงนะครับ ได้ยินชัดเจนมากด้วย พวกประกาศขึ้นเครื่องทั้งหลาย ส่วนเรื่องหยิบกระเป๋าผิด อันนี้เอาจริงๆไม่มีใครอยากหยิบผิดหรอก แต่ถ้าเป็นไปได้้ และน่าจะทำทุกคน คือก่อนเอากระเป๋าออกไป ดู tag ที่ติดซะก่อน มันจะมีชื่อเราติดด้วยจะได้รู้ว่ากระเป๋าของเราจริงๆ จากคุณ : TheohM-39 เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 54 02:57:23

ความคิดเห็นที่ 17 เราว่าปัญหาเป็นที่การตรวจเช็คที่ไม่พอเพียงของเจ้าหน้าที่มากกว่า เราเดินทางหลายครั้งแต่มีแค่ครั้งเดียวที่มีเจ้าหน้าที่มาขอตรวจว่าบัตรโดยสารกับที่กระเป๋าเดินทางเป็นเลขเดียวกันหรือเปล่า จริงๆเราว่าน่าจะมีคนมากกว่านั้นและตรวจทุกคนไ่ม่ใช่แค่สุุ่มเอา เราว่าน่าจะเป็นแนวทางแก้ปัญหาที่ดีนะ แรกๆอาจจะทำให้หงุดหงิด แต่นานๆไปคนก็จะชิน ดีกว่าวันไหนซวยเกิดคนที่เอาไปไม่เอามาคืน แย่เลย   สายการบินควรจะทำอะไรเพิ่มมั่งกลับเป็นผู้ใช้บริการวิ่งหููตาตั้งมาเพื่อเอากระเป๋า จากคุณ : Stupid is as stupid does เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 54 03:00:47

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นใจครับ แต่ถ้าจะให้ประกาศแบบนั้น ผมว่าทั้งวันก็ประกาศกันไม่หยุดแน่ เพราะเรื่องเดือนร้อนของทุกคนเป็นเรื่องเร่งด่วนครับ คงไม่มีใครยอมหรอกถ้าประชาสัมพันธ์มาบอกว่าเรื่องของคุณไม่ด่วนคงประกาศให้ไม่ได้ จากคุณ : คน ไกลบ้าน เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 54 04:02:47

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นใจจขกท.ค่ะ แต่เราชอบ silent airport นะ แค่เดินทางปกติก็รู้สึกวุ่นวายพอแล้้ว ถ้าต้องเจอเสียงประกาศนู่นนี่เยอะแยะ คงรำคาญขึ้นไปอีก อยากได้ silent shopping mall บ้าง จากคุณ : Pat :o) เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 54 07:42:53

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าจะให้มีประกาศ สงสัยจะประกาศกันทุกนาทีเลยมั้ง บางอย่างมันดีอยู่แล้วต่อคนส่วนมาก ก็หัดยอมรับบ้าง ไม่ใช่เอะอะอะไรก็จะเห็นแต่เรื่องส่วนตัวมาก่อน จากคุณ : Two ways เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 54 08:42:11

ความคิดเห็นที่ 21 เห็นด้วยกับ 1 และ 4 จากคุณ : parad เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 54 08:54:38

ความคิดเห็นที่ 22 กระเป๋าเราเรามีสัญลักษณ์เราจำกระเป๋าเราเองได้ แต่คนอื่นอาจจะจำกระเป๋าตัวเองไม่ได้และไม่แม้แต่ดูแท็กติดกระเป๋า ตรวจสอบสายห้อยหรือสัญลักษณ์ใดๆ เราเคยเจอมาหนึ่งทีค่ะ โชคดีที่เราเดินดูรอบสายพานแล้วไปเจอกระเป๋าเราเข้า คนนั้นเค้ายังทำหน้าเบื่อหน่ายใส่เลยนะคะ ประมาณว่ามายุ่งอะไรกับฉัน ถ้าไม่โชว์สายห้อยชื่อเราให้เค้าดู เค้าคงไม่คืนกระเป๋าใบนั้นมาให้เราแน่ๆค่ะ ปล.ส่วนตัวนะคะ เข้าใจ จขกท. ค่ะ แต่ถึงแม้จะประกาศไปก็ใช่ว่าทุกคนจะสนใจฟังหรือตรวจสอบให้ คงต้องปล่อยไปตามกระบวนการให้รู้กันไปเลยว่าคนๆนั้นหยิบผิดไปจริงๆ หลักฐานยืนยันอะค่ะ จากคุณ : ^o^ (noonuija) เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 54 13:24:16

ความคิดเห็นที่ 23 ผมเห็นด้วยกับนโยบายของสนามบินนะครับ แต่การคิดจะเอานู่นนี่อย่างเดียวโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบ และไม่มีวิธีการแก้ไข หรือผลักภาระไปที่คนอื่น แบบนี้ถือว่าห่วยมากครับ ดังนั้นแล้วพวกเราทุกคนที่ตกเป็นเหยื่ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ควรจะหาอะไรมาทำเป็นเครื่องหมายให้เห็นชัดๆ ที่กระเป๋าของเราเพื่อป้องกันการหยิบผิดจะดีกว่านะครับ เพราะมันก็จะเป็นประโยชน์กับเราด้วยเมื่อเราเดินทางไปต่างถิ่น จะได้ลดความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการนี้ขึ้นครับ จากคุณ : shinigami เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 54 13:30:26

ความคิดเห็นที่ 24 คงไม่มีใครอยากให้เกิด แต่แทนที่จะให้การท่าเปลี่ยนกฏให้ประกาศ ลองเปลี่ยนที่เราทำสัญลักษณ์ของกระเป๋า ให้มันแตกต่าง ให้มันเห็นชัดๆ อันนี้ก็น่าจะลดการหยิบผิดได้ จากคุณ : Dragon_L เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 54 13:35:31

ความคิดเห็นที่ 25 คือขอโทษนะครับ หลายความเห็นบอกว่าการประกาศกลับหยิบสลับเป็นการประกาศส่วนบุคคล แต่ว่าทุกวันนี้ถ้าท่านไปบ่อย ๆ ทำงานที่นั่น และท่านสนใจฟังสิ่งที่สนามบินประกาศ ซึ่งจะมีแต่บริเวณชั้น 4 ท่านจะพบว่าทุกวันนี้ที่สุวรรณภูมิก็ยังประกาศตามหาขี้หมูราขี้หมาแห้งอยู่เป็นประจำ ทั้งลืมร่มเอย ลืมกระเป๋าเอย ลืมไอ้นู่นไอ้นี่เอย ช่วย ๆ มารับไปหน่อย ซึ่งก็ส่วนตัวไม่ได้แพ้กันเลย เมื่อก่อนนี้เรื่องกระเป๋าหายน่ะประกาศเตือนให้ระวังกันก่อนที่สายพานรับกระเป๋าด้วยซ้ำ ปล.ยอมรับ กระเป๋ารูปร่างคล้าย ไม่ได้ทำสัญลักษณ์ชัดเจน แต่ยังไงก็แค่คล้ายครับ แต่รายละเอียดปลีกย่อยต่างกันเยอะทีเดียว โดยเฉพาะน้ำหนัก ต่างกันครึ่งต่อครึ่งทีเดียว ไม่ทราบเหมือนกันว่าเขาหยิบผิดได้ยังไง วันนั้นกระเป๋าหน้าตาเหมือนกันกว่านี้ก็มีตั้งเยอะไม่โดนสลับ ปล2.มีคนแนะนำเรื่องป้ายไฟเตือน เห็นด้วยอย่างมาก ถ้ากลัวดอกพิกุลจะร่วงมาก ๆ ยอมเสียสละพื้นที่แล้วเวลาโฆษณาบนจอภาพที่ติดบนสายพานขึ้นตัวแดงประกาศย้ำชัด ๆ อีกที นอกเหนือจากไอ้ป้ายเน่า ๆ ที่ติดเตือนไว้แล้วคนไม่ค่อยจะมอง หรือบางทีก็มองไม่เห็นกันด้วยก็จะดีขึ้นมาอีกนิดนึง รู้ว่าเรื่องกระเป๋าหยิบผิดเป็นความผิดของคนหยิบผิด แต่ยังสนามบินก็ควรจะมีส่วนร่วมหาทางแก้ไขด้วย การอำนวยความสะดวกด้วยการหาหนทางลดความผิดพลาดของผู้ใช้บริการก็เป็นส่วนนึงของงานบริการเช่นกัน จากคุณ : unknowมาแว้ววว เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 54 16:18:31

ความคิดเห็นที่ 26 เพราะเหตุนี้ Tag ติดกระเป๋า จึงมีความสำคัญยังไงครับ เพราะที่ Tag ควรอย่างยิ่งที่จะมี ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เจ้าของกระเป๋าติดอยู่ที่ Tag เพราะกรณีแบบนี้คนที่หยิบผิดไป จะได้ตามหาเจ้าของที่แท้จริงได้ เห็นใจเจ้าของกระทู้และเอาใจช่วยนะครับ (^^) จากคุณ : แมวหมีพัฒนา เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 54 16:51:13

ความคิดเห็นที่ 27 ^ ^ ^ ไม่ต้อง"ครับ" ก็ได้มั๊ง "คะ" ;D จากคุณ : อยากโตไวไว เขียนเมื่อ : วันเนา 54 22:28:23